ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 1
คือในสภาวะที่ตลาดเป็นตลาดหมี ทุกท่านเตรียมการรับมือกับสภาพแบบนั้นไว้ยังไง แล้วมีกลยุทธสำหรับ VI อย่างไรบ้างกับช่วงที่ตลาดเป็นสภาพดังกล่าว ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณมาก ๆ ครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1223
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 2
ผมว่าพี่ๆวีไอเค้าคงให้ความสำคัญกับภาวะตลาดน้อยกว่าตัวกิจการที่เค้าลงทุนน๊ะครับ
ถ้าเค้ามีกิจการที่รายได้และกำไรเติบโตดีๆและราคาหุ้นยังไม่แพงเกินมูลค่าที่เค้าประเมินได้
ไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร พวกเค้าคงทำเหมือนเดิม คือลงทุนอยู่ในตลาดตลอดเวลา
ส่วนราคาหุ้นอาจนิ่งๆต่ำลงหรือไม่วิ่งเยอะๆเหมือนภาวะกระทิง
แต่ถ้าเรามุ่งที่ผลการดำเนินงานของกิจการที่ลงทุนเป็นหลัก เรื่องอื่นก็ไม่ค่อยกระทบเราแล้วครับ
ถ้าเค้ามีกิจการที่รายได้และกำไรเติบโตดีๆและราคาหุ้นยังไม่แพงเกินมูลค่าที่เค้าประเมินได้
ไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร พวกเค้าคงทำเหมือนเดิม คือลงทุนอยู่ในตลาดตลอดเวลา
ส่วนราคาหุ้นอาจนิ่งๆต่ำลงหรือไม่วิ่งเยอะๆเหมือนภาวะกระทิง
แต่ถ้าเรามุ่งที่ผลการดำเนินงานของกิจการที่ลงทุนเป็นหลัก เรื่องอื่นก็ไม่ค่อยกระทบเราแล้วครับ
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 3
เอ.. เห็นด้วยในส่วนนึง แต่ก็ไม่เชิงนะคับ โดยเฉพาะที่ว่าsaichon เขียน:ผมว่าพี่ๆวีไอเค้าคงให้ความสำคัญกับภาวะตลาดน้อยกว่าตัวกิจการที่เค้าลงทุนน๊ะครับ
ถ้าเค้ามีกิจการที่รายได้และกำไรเติบโตดีๆและราคาหุ้นยังไม่แพงเกินมูลค่าที่เค้าประเมินได้
ไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร พวกเค้าคงทำเหมือนเดิม คือลงทุนอยู่ในตลาดตลอดเวลา
ส่วนราคาหุ้นอาจนิ่งๆต่ำลงหรือไม่วิ่งเยอะๆเหมือนภาวะกระทิง
แต่ถ้าเรามุ่งที่ผลการดำเนินงานของกิจการที่ลงทุนเป็นหลัก เรื่องอื่นก็ไม่ค่อยกระทบเราแล้วครับ
" ไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร พวกเค้าคงทำเหมือนเดิม คือลงทุนอยู่ในตลาดตลอดเวลา "
จริงๆขึ้นกับหุ้นในพอร์ตเราว่าเป็นอย่างไร ถ้ามีหุ้นที่ถือมานานต้นทุนต่ำ และยังมีสตอรี่
ในการเติบโต มูลค่ายังไปได้อีก ก็จะถือไว้แม้ยามตลาดไม่ดี หุ้นดีจะดูแลตัวเองได้ (หุ้นดีก็ตกเหมือนกัน แต่ตกไม่มาก 55)
แต่ถ้าราคาลงจนน่าสนใจก็อาจจะซื้อเพิ่มอีกก็ได้ ถ้ามีสภาพคล่องเหลือ ถ้าไม่งั้น
ก็ต้องขายบางส่วนของหุ้นในพอร์ตมาซื้อ ซึ่งในตลาดขาลงก็ทำใจลำบากเหมือนกัน
ไม่อยากขายถูกเกินไป
หรือถ้าช่วงกระทิง ก็จะไม่พยามซื้อหุ้นในภาวะแบบนี้ เพราะราคาหุ้นจะมี MoS น้อยมาก หรือแทบไม่มี
เรียกว่าหุ้นมันเต็มมูลค่า ถึงแม้จะมีการเติบโตรออยู่ข้างหน้า ก็จะระมัดระวังไว้ก่อน แต่ถ้าอยากได้ก็ซื้อไว้ส่วนนึงก่อน
ซึ่งถ้าเราลงทุนในภาวะกระทิงแบบนี้ หุ้นในพอร์ตเราจะมี MoS น้อย ทำให้ถ้าเกิดตลาดเปลี่ยนเทรนเป็นขาลง
เราจะเจ็บตัว เจ็บใจจี๊ดๆ คือเห็นพอร์ตเราเป็นสีแดง มากบ้างน้อยบ้าง ซึ่งนักลงทุนที่เข้าตลาดมาช่วงนี้
จะทำใจลำบาก ซึ่งมีจำนวนเยอะเสียด้วยซิ ที่เข้ามาในช่วงตลาดกระทิงกัน
ทางที่ดีเราควรสร้างพอร์ตที่รองรับสภาวะตลาดไว้ด้วย เช่น มีหุ้นประเภทที่ว่า
แม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ดีก็ยังทำมาหากินได้ เช่น น้ำ ไฟฟ้า สิ่งจำเป็นที่ต้องกินต้องใช้ หรืออาจจะเป็น
พวกกองทุนอสังหาที่ให้ปันผลดีไม่ลด และราคาก็ต้องเหมาะสมด้วยคือมี MoS
และก็ไม่ใช่เราไม่สนใจตลาดเลย แต่เราสนใจช่วงที่ตลาดผิดปกติต่างหาก
ซึ่งสำคัญมาก เพราะเวลาเช่นนี้มักจะเป็นโอกาสให้เราซื้อหุ้นได้ MoS มากขึ้น
และปลอดภัยขึ้นในการถือหุ้นระยะยาว เพราะฉะนั้นการถือหุ้นระยะยาวต้องมีหุ้นหลายตัวประกอบกันเป็น
พอร์ตฟอลิโอ โดยเฉพาะ VI ที่ลงทุนเป็นอาชีพ (แต่ก็ยกเว้นเฉพาะบางท่านที่ถือหุ้นน้อยตัวมาก)
ดูพอร์ตของ ดร. ท่านก็มีแต่หุ้นที่เป็นสุดยอด แล้วก็มีต้นทุนที่ต่ำ เรียกว่ามี MoS มากเลย
ถึงแม้ตลาดจะตกมาเยอะ หรือเป็นช่วงตลาดหมีก็ไม่ค่อยกระทบมากนัก
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ส่วนที่ว่า
" ไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร พวกเค้าคงทำเหมือนเดิม คือลงทุนอยู่ในตลาดตลอดเวลา "
ก็ไม่ใช่เสมอไปนะคับ อย่างช่วงที่ตลาดกระทิงแรงๆ ช่วงที่บัฟเฟตต์ลงทุนในนามห้างหุ้นส่วน
ก็ยังขายหมด และออกจากตลาดไป หรือแม้แต่ถ้าหุ้นหมดสตอรี่แล้ว หรือเกินมูลค่ามากๆ
(จากสมมุติฐานของเค้า) พี่ๆเค้าก็ขายนะคับ
เราเองต้องคอยตรวจสอบมูลค่าของพอร์ต และความเสี่ยงของพอร์ต พร้อมกับมองสถานการณ์ไปข้างหน้าด้วยเสมอ
เพื่อเตรียมพร้อมปรับเปลี่ยนแก้ไข หรือก็คือ เราต้องมี Exit Strategy ของเราไว้ด้วย
สิ่งที่จะปกป้องเราจากสภาวะต่างๆได้ สำหรับนักลงทุน VI คือต้องประเมินมูลค่าหุ้นให้ได้ และซื้อหุ้นเมื่อมี MoS เสมอ
-
- Verified User
- โพสต์: 1070
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 4
วีไอ มีหลายกลุ่ม มากครับ...
บางที ก้อเป็น VI ปลอม....
ดังนั้น คนที่เรียกตัวเองว่า VI อาจจะคิด ตัดสินใจไม่เหมือนกันก้อได้ครับ..
ถ้ายึดตามหลัก VI ก้อซื้อหุ้นบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม มีปฏิภาณ (MOS) อิอิ
ไม่ได้บอกว่า ตอนตลาดหมี หรือ กระทิง....
บางที ก้อเป็น VI ปลอม....
ดังนั้น คนที่เรียกตัวเองว่า VI อาจจะคิด ตัดสินใจไม่เหมือนกันก้อได้ครับ..
ถ้ายึดตามหลัก VI ก้อซื้อหุ้นบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม มีปฏิภาณ (MOS) อิอิ
ไม่ได้บอกว่า ตอนตลาดหมี หรือ กระทิง....
The One
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 6
ตลาดสำหรับผมมีแค่ 2 แบบ คือตลาดที่หุ้นที่ผมอยากได้ถูก กับตลาดที่หุ้นที่ผมอยากได้ไม่ถูกแล้ว
ไม่ว่าจะหมีหรือกระทิง ถ้าหุ้นที่ผมอยากได้ราคาถูกจนผมพอใจผมก็จะซื้อหมดนะครับ
ไม่ว่าจะหมีหรือกระทิง ถ้าหุ้นที่ผมอยากได้ราคาถูกจนผมพอใจผมก็จะซื้อหมดนะครับ
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 7
คำถามของ จขกท.
ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
คำตอบของผม
จงลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมี
ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
คำตอบของผม
จงลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมี
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- dino
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1286
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 8
สำหรับผม ไม่ว่าจะหมี จะกระทิง ทำเหมือนกันครับ อิอิ
1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
1 ซื้อหุ้นของกิจการที่ดี
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
2 มีกำไรต่อเนื่องไปในอนาคต
3 ซื้อในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
4 ผู้บริหารมีคุณธรรมและความสามารถ
5 และถือมันไว้ ตราบที่มันยังเป็นธุรกิจที่ดีอยู่
วอเรนซ์ บัฟเฟตต์
- BeSmile
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1178
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 9
ผมคิดว่าในช่วงตลาดหมี มีโอกาศ หาหุ้นที่มี ราคา ต่ำกว่า มูลค่า มาก มากกว่า ตลาดกระทิง
ประเด็นน่าจะอยู่ที่การหามูลค่าบริษัท มากกว่า สภาวะตลาด
และสภาพตลาดกระทิง ก็ทำให้เรามีโอกาศ ขายหุ้น ในราคา สูง กว่า มูลค่า มาก มากกว่า ตลาดหมี
ดังนั้น ในแต่ละสภาพตลาด ก็ทำให้มีโอกาศ ที่แตกต่าง กัน
ประเด็นน่าจะอยู่ที่การหามูลค่าบริษัท มากกว่า สภาวะตลาด
และสภาพตลาดกระทิง ก็ทำให้เรามีโอกาศ ขายหุ้น ในราคา สูง กว่า มูลค่า มาก มากกว่า ตลาดหมี
ดังนั้น ในแต่ละสภาพตลาด ก็ทำให้มีโอกาศ ที่แตกต่าง กัน
มีสติ - อย่าประมาทในการใช้ชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 314
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 11
ความคิดส่วนตัว .. ผมว่าตลาดไม่ได้มีผลมากกับพฤติกรรมการลงทุนครับ เราก็ยังวิเคราาะห์กิจการด้วยการวิเคราะห์งบการเงิน, ปัจจัยอุตฯ, ปัจจัยบริษัท, จุดอ่อน, จุดแข็ง, การตลาด, เดินไปชิมสินค้า ฯลฯ เหมือนเดิม .. เพียงแต่ในช่วงตลาดหมีมีโอกาสที่จะได้บริษัทที่ดีในราคาถูกมากกว่าตลาดกระทิงที่มีโอกาสจะได้บริษัทที่ดี (อาจเป็นบริษัทเดียวกัน) ในราคาแพงเท่านั้นเอง
อย่างเฟอร์บี้เมื่อต้นปีที่แล้ว มันก็เฟอร์บี้ตัวเดิมทำไมราคาสูงปรี๊ด (ตลาดกระทิง) แต่เฟอร์บี้ตอนนี้ มันก็เฟอร์บี้ตัวเดิม พูดได้เหมือนเดิม เต้นได้เหมือนเดิม แต่ราคาแทบลด แลก แจก แถม ยังแทบไม่มีคนซื้อ (ตลาดหมี) .. แต่สำหรับนัก "สะสม" เฟอร์บี้ตอนราคาแพงเขาก็คงซื้อ (แต่อาจจะน้อยหน่อยเพราะไม่มีตังค์) ส่วนตอนนี้คงไล่ซื้อเอาครบทั้ง collection เลยมั้ง
หมายเหตุ: เฟอร์บี้ข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างประกอบการอธิบาย แฟนๆเฟอร์บี้อย่าเพิ่งน้อยใจ .. รัก เฟอร์บี้นะ จุ๊บ จุ๊บ
อย่างเฟอร์บี้เมื่อต้นปีที่แล้ว มันก็เฟอร์บี้ตัวเดิมทำไมราคาสูงปรี๊ด (ตลาดกระทิง) แต่เฟอร์บี้ตอนนี้ มันก็เฟอร์บี้ตัวเดิม พูดได้เหมือนเดิม เต้นได้เหมือนเดิม แต่ราคาแทบลด แลก แจก แถม ยังแทบไม่มีคนซื้อ (ตลาดหมี) .. แต่สำหรับนัก "สะสม" เฟอร์บี้ตอนราคาแพงเขาก็คงซื้อ (แต่อาจจะน้อยหน่อยเพราะไม่มีตังค์) ส่วนตอนนี้คงไล่ซื้อเอาครบทั้ง collection เลยมั้ง
หมายเหตุ: เฟอร์บี้ข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างประกอบการอธิบาย แฟนๆเฟอร์บี้อย่าเพิ่งน้อยใจ .. รัก เฟอร์บี้นะ จุ๊บ จุ๊บ
Invincible MOS is knowing what you're doing
-
- Verified User
- โพสต์: 7
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 12
มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันนะครับ
ที่ว่าไม่สนใจภาวะตลาดก็มีคำตอบทั้งใช่และไม่ใช่ครับ คือ การทำนายตลาดในอนาคตมันเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากหลายคนจึงไม่สนใจภาวะตลาดว่าเป็นอย่างไร
แต่การที่เราดูภาวะตลาดโดยไม่ไปทำนายล่วงหน้าว่ามันจะดีหรือเลวก็สามารถปรับใช้ได้นะครับ
เช่น การที่เราดูตลาดว่า ณ ขณะนี้ คนยังกลัวกันอยู่หรือคนกำลังโลภ ก็สามารถมาประยุกต์ใช้ในการลงทุนได้ในบางส่วน เนื่องจากราคาหุ้นที่คนมองว่าถูกหรือแพงแปรเปลี่ยนไปตามอารมณ์สภาพตลาด ณ ขณะนั้น
ซึ่งในภาวะตลาดหมีหุ้นหลายตัวมี MOS เหลือมากกว่าตลาดในภาวะกระทิงครับ
เราจึงสามารถหาหุ้นที่ราคาผิดปรกติจากพื้นฐานที่ควรจะเป็นได้ง่ายกว่าตลาดช่วงกระทิง มันจึงเป็นสวรรค์ของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
แต่เมื่อตลาดเป็นภาวะกระทิงการจะหาหุ้นราคาถูกเมื่อเทียบกับมูลค่าที่เราประเมินอาจหาได้ยากขึ้น มันจึงอาจไม่ใช่สวรรค์สำหรับการลงทุนวิธีนี้
แต่สมมติฐานของเราที่ว่าตลาดเป็นสิ่งที่คาดเดาอนาคตได้ยาก เราจึงถือหุ้นไปเรื่อยๆตราบเท่าที่พื้นฐานยังดีและอนาคตคาดหวังว่ายังดีต่อเนื่อง เนื่องจากเราไม่รู้ว่าแรงเก็งกำไรความโลภของคนจะสิ้นสุดเมื่อใด การยกระดับความคาดหวังของแต่ละอุตสาหกรรมตามความโลภของคนเราก็ไม่รู้ว่าจะสิ้่นสุดเมื่อใดเช่นกัน
สำหรับผม ถ้าตลาดเป็นภาวะหมี(กว่าจะรู้ก็คงสายไปแล้ว) ก็คงจะรีบขยันวิเคราะห์หุ้นเพิ่มในหลายๆอุตสาหกรรม เพื่อรองรับกับการที่จะมีหุ้นตัวใดราคาถูกลงมากๆแล้วเข้าไปเก็บครับ ซึ่งการเข้าไปเก็บเราก็คงไม่รู้ว่าความกลัวจะสิ้นสุดเมื่อใดกัน กลยุทธจึงเหมือนเดิมครับหุ้นถ้าถูกแล้วมีถูกกว่าเราก็คงต้องถือไปเรื่อยๆและเก็บเพิ่มไปเรื่อยๆตราบเท่าที่พื้นฐานกิจการยังดีต่อเนื่อง สำหรับกลยุทธของแต่ละบุคคลคงไม่มีใครผิดใครถูกครับ เพราะเงินจะเพิ่มจะลดมันมีปัจจัยหลายอย่าง มีทั้งที่เราควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ สุดท้ายสำคัญสุดคือควบคุมใจเราครับ
ปอลอ การใช้มาจิ้นในภาวะตลาดหมีก็เป้นสิ่งไม่สมควรนะครับ ลองไปหาอ่านได้จากคลังกระทู้คุณค่า ขอบคุณครับ
ที่ว่าไม่สนใจภาวะตลาดก็มีคำตอบทั้งใช่และไม่ใช่ครับ คือ การทำนายตลาดในอนาคตมันเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากหลายคนจึงไม่สนใจภาวะตลาดว่าเป็นอย่างไร
แต่การที่เราดูภาวะตลาดโดยไม่ไปทำนายล่วงหน้าว่ามันจะดีหรือเลวก็สามารถปรับใช้ได้นะครับ
เช่น การที่เราดูตลาดว่า ณ ขณะนี้ คนยังกลัวกันอยู่หรือคนกำลังโลภ ก็สามารถมาประยุกต์ใช้ในการลงทุนได้ในบางส่วน เนื่องจากราคาหุ้นที่คนมองว่าถูกหรือแพงแปรเปลี่ยนไปตามอารมณ์สภาพตลาด ณ ขณะนั้น
ซึ่งในภาวะตลาดหมีหุ้นหลายตัวมี MOS เหลือมากกว่าตลาดในภาวะกระทิงครับ
เราจึงสามารถหาหุ้นที่ราคาผิดปรกติจากพื้นฐานที่ควรจะเป็นได้ง่ายกว่าตลาดช่วงกระทิง มันจึงเป็นสวรรค์ของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
แต่เมื่อตลาดเป็นภาวะกระทิงการจะหาหุ้นราคาถูกเมื่อเทียบกับมูลค่าที่เราประเมินอาจหาได้ยากขึ้น มันจึงอาจไม่ใช่สวรรค์สำหรับการลงทุนวิธีนี้
แต่สมมติฐานของเราที่ว่าตลาดเป็นสิ่งที่คาดเดาอนาคตได้ยาก เราจึงถือหุ้นไปเรื่อยๆตราบเท่าที่พื้นฐานยังดีและอนาคตคาดหวังว่ายังดีต่อเนื่อง เนื่องจากเราไม่รู้ว่าแรงเก็งกำไรความโลภของคนจะสิ้นสุดเมื่อใด การยกระดับความคาดหวังของแต่ละอุตสาหกรรมตามความโลภของคนเราก็ไม่รู้ว่าจะสิ้่นสุดเมื่อใดเช่นกัน
สำหรับผม ถ้าตลาดเป็นภาวะหมี(กว่าจะรู้ก็คงสายไปแล้ว) ก็คงจะรีบขยันวิเคราะห์หุ้นเพิ่มในหลายๆอุตสาหกรรม เพื่อรองรับกับการที่จะมีหุ้นตัวใดราคาถูกลงมากๆแล้วเข้าไปเก็บครับ ซึ่งการเข้าไปเก็บเราก็คงไม่รู้ว่าความกลัวจะสิ้นสุดเมื่อใดกัน กลยุทธจึงเหมือนเดิมครับหุ้นถ้าถูกแล้วมีถูกกว่าเราก็คงต้องถือไปเรื่อยๆและเก็บเพิ่มไปเรื่อยๆตราบเท่าที่พื้นฐานกิจการยังดีต่อเนื่อง สำหรับกลยุทธของแต่ละบุคคลคงไม่มีใครผิดใครถูกครับ เพราะเงินจะเพิ่มจะลดมันมีปัจจัยหลายอย่าง มีทั้งที่เราควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ สุดท้ายสำคัญสุดคือควบคุมใจเราครับ
ปอลอ การใช้มาจิ้นในภาวะตลาดหมีก็เป้นสิ่งไม่สมควรนะครับ ลองไปหาอ่านได้จากคลังกระทู้คุณค่า ขอบคุณครับ
ความอดทนเป็นสิ่งสำคัญ
-
- Verified User
- โพสต์: 332
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 13
ก่อนอื่นก็ต้อง ทำใจ ว่าเราไม่อาจจะรู้ว่าตลาดหมีมันจะมาตอนไหน จะรู้ตัวอีกทีก็คืออยู่ในตลาดหมีแล้ว
และควรทำใจว่าราคามันจะลดลงแต่มูลค่าบริษัทไม่ได้ลดตาม
ส่วนการที่จะซื้อหุ้นในช่วงตลาดหมีนั้นก็ขึ้นอยู่ว่าเรามีเงินเหลือขนาดไหน
หากไม่มีเงินสดเหลือการขายหุ้นในพอร์ตที่ลดลงน้อยสุด มาซื้อหุ้นที่มี upside มากกว่านั้นก็เป็นกลยุทธที่ทำได้
และควรทำใจว่าราคามันจะลดลงแต่มูลค่าบริษัทไม่ได้ลดตาม
ส่วนการที่จะซื้อหุ้นในช่วงตลาดหมีนั้นก็ขึ้นอยู่ว่าเรามีเงินเหลือขนาดไหน
หากไม่มีเงินสดเหลือการขายหุ้นในพอร์ตที่ลดลงน้อยสุด มาซื้อหุ้นที่มี upside มากกว่านั้นก็เป็นกลยุทธที่ทำได้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1523
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 15
เข้าใจธรรมชาติของหมี ครับ
หมีเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่ ดุร้าย และ สามารถใช้เล็บของมันกำจัดศัตรูข้างหน้า
ถ้าเจอหมี 3 วิธีที่ต้องทำ
1.อย่าสู้ซึ่งๆหน้ากับหมี เพราะ เป็นการโง่ ที่จะเอาไข่ไปกระแทกหิน
2.หยิบปืน sniper ขึ้นไปคอยดูจากภูเขา คอยดูว่าเมื่อไหร่หมดแรง ให้ยิง
3ต่อจากข้อ2 ถ้ายิงแล้วยังไม่ล้ม ให้มันค่อยๆเดินเลือดไหลอาบไปเรื่อยๆ
อย่าเพิ่งยิงซ้ำจนกว่ามันจะแน่นิ่งแล้ว ให้ซ้ำไป ให้หมดแม๊กส์
เพียงเท่านี้ เราก้สามารถได้อุ้งตีนหมี ของมีค่าได้ครับ
คนที่สู้กับหมี คือ คนกล้า แต่คนที่ล้มหมีได้ คือ คนฉลาด
และคนฉลาดจะเขียนประวัติศาสตร์ ส่วนคนกล้าก้ต้องเป็นซากศพให้กากิน
หมีเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่ ดุร้าย และ สามารถใช้เล็บของมันกำจัดศัตรูข้างหน้า
ถ้าเจอหมี 3 วิธีที่ต้องทำ
1.อย่าสู้ซึ่งๆหน้ากับหมี เพราะ เป็นการโง่ ที่จะเอาไข่ไปกระแทกหิน
2.หยิบปืน sniper ขึ้นไปคอยดูจากภูเขา คอยดูว่าเมื่อไหร่หมดแรง ให้ยิง
3ต่อจากข้อ2 ถ้ายิงแล้วยังไม่ล้ม ให้มันค่อยๆเดินเลือดไหลอาบไปเรื่อยๆ
อย่าเพิ่งยิงซ้ำจนกว่ามันจะแน่นิ่งแล้ว ให้ซ้ำไป ให้หมดแม๊กส์
เพียงเท่านี้ เราก้สามารถได้อุ้งตีนหมี ของมีค่าได้ครับ
คนที่สู้กับหมี คือ คนกล้า แต่คนที่ล้มหมีได้ คือ คนฉลาด
และคนฉลาดจะเขียนประวัติศาสตร์ ส่วนคนกล้าก้ต้องเป็นซากศพให้กากิน
-
- Verified User
- โพสต์: 950
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 16
ภาวะตลาดตอนนี้ ยังลงมาไม่มาก ยังไม่น่าสนใจ
เอาไว้ลงแรง ๆ สัก 25% (400 จุด) ขึ้นไป จึงจะพิจารณาทยอยซื้อเพิ่ม ตอนนี้ก็ถือเงินสด 20%
ถ้าหุ้นคล้ายกัน 2 ตัว สมมุติ Fair Value เท่ากัน คือ 100 (Fair Value นะครับ ไม่ใช่ราคาที่เคยสูงสุด)
ตัวหนึ่งลง 5% อีกตัวหนึ่งลง 30% อาจพิจารณาแบ่งขายตัวลงน้อยไปซื้อตัวลงเยอะ
แต่ทั้งสองตัวต้องพื้นฐานดีใกล้เคียงกัน อยู่ในธุรกิจที่ดีพอกัน ผู้บริหารดีพอๆกัน มีอัตราการเติบโตพอๆ กัน
เอาไว้ลงแรง ๆ สัก 25% (400 จุด) ขึ้นไป จึงจะพิจารณาทยอยซื้อเพิ่ม ตอนนี้ก็ถือเงินสด 20%
ถ้าหุ้นคล้ายกัน 2 ตัว สมมุติ Fair Value เท่ากัน คือ 100 (Fair Value นะครับ ไม่ใช่ราคาที่เคยสูงสุด)
ตัวหนึ่งลง 5% อีกตัวหนึ่งลง 30% อาจพิจารณาแบ่งขายตัวลงน้อยไปซื้อตัวลงเยอะ
แต่ทั้งสองตัวต้องพื้นฐานดีใกล้เคียงกัน อยู่ในธุรกิจที่ดีพอกัน ผู้บริหารดีพอๆกัน มีอัตราการเติบโตพอๆ กัน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 845
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 17
ตลาดแบบไหนหลักการก็เหมือนเดิมครับ หาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าให้ได้ ตลาดหมีก็มีข้อดีคือทำให้เราหาหุ้นได้ง่ายขึ้น แต่เราต้องทำใจว่าโอกาสซื้อได้ตอน bottom มันน้อยมากๆ ถ้าซื้อจนเงินหมดแล้วลงต่อก็ต้องทำใจ แต่ถ้าเรามีมูลค่าพื้นฐานในใจแล้วเราก็จะไม่เครียด(มาก)ครับ การเงินหมดแล้วหุ้นลงต่อก็เรื่องหนึ่ง แต่ขายตอนวิกฤตแย่สุดครับ ขายไปก็ไม่ได้ราคา
all i need is Zero
- py106
- Verified User
- โพสต์: 296
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 18
ชอบการขมวดมากครับ... คมสุดๆ อิอิ...micky1115 เขียน:เข้าใจธรรมชาติของหมี ครับ
หมีเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่ ดุร้าย และ สามารถใช้เล็บของมันกำจัดศัตรูข้างหน้า
ถ้าเจอหมี 3 วิธีที่ต้องทำ
1.อย่าสู้ซึ่งๆหน้ากับหมี เพราะ เป็นการโง่ ที่จะเอาไข่ไปกระแทกหิน
2.หยิบปืน sniper ขึ้นไปคอยดูจากภูเขา คอยดูว่าเมื่อไหร่หมดแรง ให้ยิง
3ต่อจากข้อ2 ถ้ายิงแล้วยังไม่ล้ม ให้มันค่อยๆเดินเลือดไหลอาบไปเรื่อยๆ
อย่าเพิ่งยิงซ้ำจนกว่ามันจะแน่นิ่งแล้ว ให้ซ้ำไป ให้หมดแม๊กส์
เพียงเท่านี้ เราก้สามารถได้อุ้งตีนหมี ของมีค่าได้ครับ
คนที่สู้กับหมี คือ คนกล้า แต่คนที่ล้มหมีได้ คือ คนฉลาด
และคนฉลาดจะเขียนประวัติศาสตร์ ส่วนคนกล้าก้ต้องเป็นซากศพให้กากิน
ว่าแต่ Sniper ของท่านติดแม๊กซ์ด้วยเหรอครับ O..o โหดไปแล้ว
แวะไปเยี่ยมเยียนกันได้ครับ ^^
http://py106travel.blogspot.com
http://py106travel.blogspot.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1679
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 19
ชอบพี่ชูเกียตรหวะ 55555+ ตรงประเด็นmicky1115 เขียน:เข้าใจธรรมชาติของหมี ครับ
หมีเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่ ดุร้าย และ สามารถใช้เล็บของมันกำจัดศัตรูข้างหน้า
ถ้าเจอหมี 3 วิธีที่ต้องทำ
1.อย่าสู้ซึ่งๆหน้ากับหมี เพราะ เป็นการโง่ ที่จะเอาไข่ไปกระแทกหิน
2.หยิบปืน sniper ขึ้นไปคอยดูจากภูเขา คอยดูว่าเมื่อไหร่หมดแรง ให้ยิง
3ต่อจากข้อ2 ถ้ายิงแล้วยังไม่ล้ม ให้มันค่อยๆเดินเลือดไหลอาบไปเรื่อยๆ
อย่าเพิ่งยิงซ้ำจนกว่ามันจะแน่นิ่งแล้ว ให้ซ้ำไป ให้หมดแม๊กส์
เพียงเท่านี้ เราก้สามารถได้อุ้งตีนหมี ของมีค่าได้ครับ
คนที่สู้กับหมี คือ คนกล้า แต่คนที่ล้มหมีได้ คือ คนฉลาด
และคนฉลาดจะเขียนประวัติศาสตร์ ส่วนคนกล้าก้ต้องเป็นซากศพให้กากิน
value trap
- Loby
- Verified User
- โพสต์: 1648
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอคำแนะนำการลงทุนแบบ VI ในช่วงที่ตลาดเป็นตลาดหมีครับ
โพสต์ที่ 20
สงสัยมานานเพิ่งรู้ว่าเป็นพี่chukeat เปลี่ยนusernameใหม่ ถึงว่าสำนวนการเขียนคุ้นมากๆวรันศ์ บัฟเฟต เขียน:ชอบพี่ชูเกียตรหวะ 55555+ ตรงประเด็นmicky1115 เขียน:เข้าใจธรรมชาติของหมี ครับ
หมีเป็นสัตว์ที่ตัวใหญ่ ดุร้าย และ สามารถใช้เล็บของมันกำจัดศัตรูข้างหน้า
ถ้าเจอหมี 3 วิธีที่ต้องทำ
1.อย่าสู้ซึ่งๆหน้ากับหมี เพราะ เป็นการโง่ ที่จะเอาไข่ไปกระแทกหิน
2.หยิบปืน sniper ขึ้นไปคอยดูจากภูเขา คอยดูว่าเมื่อไหร่หมดแรง ให้ยิง
3ต่อจากข้อ2 ถ้ายิงแล้วยังไม่ล้ม ให้มันค่อยๆเดินเลือดไหลอาบไปเรื่อยๆ
อย่าเพิ่งยิงซ้ำจนกว่ามันจะแน่นิ่งแล้ว ให้ซ้ำไป ให้หมดแม๊กส์
เพียงเท่านี้ เราก้สามารถได้อุ้งตีนหมี ของมีค่าได้ครับ
คนที่สู้กับหมี คือ คนกล้า แต่คนที่ล้มหมีได้ คือ คนฉลาด
และคนฉลาดจะเขียนประวัติศาสตร์ ส่วนคนกล้าก้ต้องเป็นซากศพให้กากิน
อย่าปล่อยให้อารมณ์ชั่ววูบชี้นำการกระทำ
แต่ไม่ควรปล่อยโอกาสดีๆให้ผ่านไป เมื่อพิจารณาอย่างถ้วนถี่แล้ว
แต่ไม่ควรปล่อยโอกาสดีๆให้ผ่านไป เมื่อพิจารณาอย่างถ้วนถี่แล้ว