How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
- Simply
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 32
ในหน้าเวปไซด์ของกองทุน เขียนหลักการลงทุนไว้น่าสนใจ
ผมแปลมาเล่นๆ สำนวนอาจดูแข็งๆขัดๆไปบ้าง
สถานะมุ่งเน้น...FOCUSED POSITIONS
ปรัชญา ในการจัดการของกองทุน ตั้งอยู่บนการจัดพอร์ตแบบมุ่งเน้น ซึ่งเราลงทุนในบริษัทเพียงสองสามบริษัท ร่วมกับการวิเคราะห์พื้นฐานแบบล่างขึ้นบน(Bottom-up,วิเคราะห์จากบริษัทแต่ ละตัวโดยไม่สนใจภาวะเศรษฐกิจและตลาด),และลงรายละเอียดในการวิเคราะห์ทาง สถิติสำหรับรูปแบบของประวัติการซื้อขายในหุ้นแต่ละตัว
โดย ทั่วไป เราลงทุนในหุ้น8 ถึง 14 ตัว.การจัดพอร์ตแบบมุ่งเน้นนั้นเปิดโอกาสให้เราได้ใช้เวลาที่สำคัญและ ทรัพยากรต่างๆในการทำงานร่วมกับทีมบริหารของบริษัทหุ้นในพอร์ต เพื่อช่วยทีมบริหารปรับปรุงทั้งกำไรและค่าPE.เรามักแนะนำบริษัทในพอร์ ตสำหรับโครงสร้างทางการเงินและเรื่องของกลยุทธ์ รวมทั้งวิธีในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพไปสู่กลุ่มนักลงทุนในเรื่องของ พื้นฐานทางธุรกิจและความคาดหวังในการเติบโต.นอกจากนี้เรายังมองหาการติดต่อ ทางธุรกิจจากภายในและภายนอกประเทศให้กับบริษัทหุ้นในพอร์ต เราพยายามอย่างหนักเพื่อเข้าใจบริษัทที่เราซื้อหุ้นและเข้าใจบรรดาผู้จัดการ บริษัทต่างๆให้ดีกว่าผู้จัดการกองทุนอื่นๆ
สำหรับ สิ่งที่ผ่านมา โอกาสทำกำไรที่ดีที่สุดสำหรับเรานั้นเป็นสถานการณ์ที่เราค้นพบบริษัทที่ กำลังไปได้ดี โดยที่กลุ่มการลงทุนต่างๆก็ต่างเข้าใจกันผิดไปจากความจริงและบริษัทนั้นมี ทีมบริหารที่ยินดีทำงานร่วมกับเรา เพื่อเพิ่มความเข้าใจของนักลงทุนต่อความแข็งแกร่งพื้นฐานของบริษัท
ผมแปลมาเล่นๆ สำนวนอาจดูแข็งๆขัดๆไปบ้าง
สถานะมุ่งเน้น...FOCUSED POSITIONS
ปรัชญา ในการจัดการของกองทุน ตั้งอยู่บนการจัดพอร์ตแบบมุ่งเน้น ซึ่งเราลงทุนในบริษัทเพียงสองสามบริษัท ร่วมกับการวิเคราะห์พื้นฐานแบบล่างขึ้นบน(Bottom-up,วิเคราะห์จากบริษัทแต่ ละตัวโดยไม่สนใจภาวะเศรษฐกิจและตลาด),และลงรายละเอียดในการวิเคราะห์ทาง สถิติสำหรับรูปแบบของประวัติการซื้อขายในหุ้นแต่ละตัว
โดย ทั่วไป เราลงทุนในหุ้น8 ถึง 14 ตัว.การจัดพอร์ตแบบมุ่งเน้นนั้นเปิดโอกาสให้เราได้ใช้เวลาที่สำคัญและ ทรัพยากรต่างๆในการทำงานร่วมกับทีมบริหารของบริษัทหุ้นในพอร์ต เพื่อช่วยทีมบริหารปรับปรุงทั้งกำไรและค่าPE.เรามักแนะนำบริษัทในพอร์ ตสำหรับโครงสร้างทางการเงินและเรื่องของกลยุทธ์ รวมทั้งวิธีในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพไปสู่กลุ่มนักลงทุนในเรื่องของ พื้นฐานทางธุรกิจและความคาดหวังในการเติบโต.นอกจากนี้เรายังมองหาการติดต่อ ทางธุรกิจจากภายในและภายนอกประเทศให้กับบริษัทหุ้นในพอร์ต เราพยายามอย่างหนักเพื่อเข้าใจบริษัทที่เราซื้อหุ้นและเข้าใจบรรดาผู้จัดการ บริษัทต่างๆให้ดีกว่าผู้จัดการกองทุนอื่นๆ
สำหรับ สิ่งที่ผ่านมา โอกาสทำกำไรที่ดีที่สุดสำหรับเรานั้นเป็นสถานการณ์ที่เราค้นพบบริษัทที่ กำลังไปได้ดี โดยที่กลุ่มการลงทุนต่างๆก็ต่างเข้าใจกันผิดไปจากความจริงและบริษัทนั้นมี ทีมบริหารที่ยินดีทำงานร่วมกับเรา เพื่อเพิ่มความเข้าใจของนักลงทุนต่อความแข็งแกร่งพื้นฐานของบริษัท
Margin Of Safety+Intrinsic Value+Mr.Market
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
- Simply
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 33
เกณฑ์ในการประเมินราคา(Valuation Criteria)
เรามองหาบริษัทที่มีการเติบโตของExpected EPS สูงภายใน2-3ปีข้างหน้า ร่วมกับการมีทีมบริหารที่แข็งแกร่งและบริษัทอยู่ในตลาดกลุ่มเฉพาะที่สามารถ ต่อต้านการรุกราน(Defensible Niche Market).เราซื้อหุ้นเมื่อมันมีราคาถูกเมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่นที่อยู่ใน ธุรกิจเดียวกัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อP/E ratio ที่ตั้งอยู่บนประมาณการในอนาคต (forward-looking P/E ratio)นั้นอยู่หนึ่งในสามของช่วงเพดานล่าง.เราจะลดความสนใจในหุ้นตัวนั้น เมื่อหุ้นตัวนั้นอยู่ใน10%ของช่วงขอบบนของค่าPEที่เคยมีการซื้อขายกัน.อย่าง ไรก็ตาม เราเชื่อในการปล่อยให้ผู้ชนะเป็นคนนำทาง เช่นเดียวกับ เรามีแนวโน้มที่คงสถานะของเราไปนานเท่าที่พื้นฐานของบริษัทยังเหมือนเดิมและ สถานการณ์ยังอยู่ในโมเมนตัมขาขึ้นอย่างแรง( strong upward momentum) และยังมีบทวิจัยใหม่ๆที่พูดถึงหุ้นตัวนี้จากนายหน้าค้าหุ้นมาเรื่อยๆ และยังมีนักลงทุนสถาบันจำนวนมากยังถือหุ้นตัวนี้อยู่
เพิ่มเติม...การหา Expected EPS หาจาก Expected Earningก่อนแล้ว หารด้วยจำนวนหุ้น
เรามองหาบริษัทที่มีการเติบโตของExpected EPS สูงภายใน2-3ปีข้างหน้า ร่วมกับการมีทีมบริหารที่แข็งแกร่งและบริษัทอยู่ในตลาดกลุ่มเฉพาะที่สามารถ ต่อต้านการรุกราน(Defensible Niche Market).เราซื้อหุ้นเมื่อมันมีราคาถูกเมื่อเทียบกับหุ้นตัวอื่นที่อยู่ใน ธุรกิจเดียวกัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อP/E ratio ที่ตั้งอยู่บนประมาณการในอนาคต (forward-looking P/E ratio)นั้นอยู่หนึ่งในสามของช่วงเพดานล่าง.เราจะลดความสนใจในหุ้นตัวนั้น เมื่อหุ้นตัวนั้นอยู่ใน10%ของช่วงขอบบนของค่าPEที่เคยมีการซื้อขายกัน.อย่าง ไรก็ตาม เราเชื่อในการปล่อยให้ผู้ชนะเป็นคนนำทาง เช่นเดียวกับ เรามีแนวโน้มที่คงสถานะของเราไปนานเท่าที่พื้นฐานของบริษัทยังเหมือนเดิมและ สถานการณ์ยังอยู่ในโมเมนตัมขาขึ้นอย่างแรง( strong upward momentum) และยังมีบทวิจัยใหม่ๆที่พูดถึงหุ้นตัวนี้จากนายหน้าค้าหุ้นมาเรื่อยๆ และยังมีนักลงทุนสถาบันจำนวนมากยังถือหุ้นตัวนี้อยู่
เพิ่มเติม...การหา Expected EPS หาจาก Expected Earningก่อนแล้ว หารด้วยจำนวนหุ้น
Margin Of Safety+Intrinsic Value+Mr.Market
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
- Simply
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 34
การจำกัดความเสี่ยง(Hedging)
ขึ้นอยู่กับมุมมองของเราต่อตลาดและต่ออารมณ์ของนักลงทุนทั้งหมด.เราจะจำกัดความเสี่ยงของสถานะระยะยาวในหุ้นต่างๆด้วยการรวบรวมเงินสดและขายฟิวเจอร์สSet 50 Index(Short SET50 Index Futures). ถ้าตลาดมีการวิ่งขึ้นแรงในช่วงสั้นๆ(Big short-term run-up)จากอารมณ์ตลาดที่ดีขึ้น เราจะขายออกเพื่อล็อคกำไร เพื่อรักษากำไรไว้
...ผมตีความว่า บริษัทไม่ได้ถือหุ้นอย่างเดียวยังถือฟิวเจอร์สด้วยเพื่อประกันความเสี่ยง. คำว่า"รวบรวมเงินสด(raising cash)" เป็นความหมายของการรักษาเงินต้นและกำไรไว้.การชอร์ตฟิวเจอร์สSET50 Indexนั้นเกิดขึ้นเมื่อคาดว่าตลาดหุ้นลง.
ถ้านักลงทุนคาดการณ์ว่าดัชนี SET50 จะปรับตัวลดลง >> ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ให้ราคาของ SET50 Index Futures ลดลงด้วย >> นักลงทุนควรใช้กลยุทธ์ขายก่อน แล้วค่อยซื้อคืน (Short SET50 Index Futures) นักลงทุนก็จะได้กำไรเช่นกัน
ขึ้นอยู่กับมุมมองของเราต่อตลาดและต่ออารมณ์ของนักลงทุนทั้งหมด.เราจะจำกัดความเสี่ยงของสถานะระยะยาวในหุ้นต่างๆด้วยการรวบรวมเงินสดและขายฟิวเจอร์สSet 50 Index(Short SET50 Index Futures). ถ้าตลาดมีการวิ่งขึ้นแรงในช่วงสั้นๆ(Big short-term run-up)จากอารมณ์ตลาดที่ดีขึ้น เราจะขายออกเพื่อล็อคกำไร เพื่อรักษากำไรไว้
...ผมตีความว่า บริษัทไม่ได้ถือหุ้นอย่างเดียวยังถือฟิวเจอร์สด้วยเพื่อประกันความเสี่ยง. คำว่า"รวบรวมเงินสด(raising cash)" เป็นความหมายของการรักษาเงินต้นและกำไรไว้.การชอร์ตฟิวเจอร์สSET50 Indexนั้นเกิดขึ้นเมื่อคาดว่าตลาดหุ้นลง.
ถ้านักลงทุนคาดการณ์ว่าดัชนี SET50 จะปรับตัวลดลง >> ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ให้ราคาของ SET50 Index Futures ลดลงด้วย >> นักลงทุนควรใช้กลยุทธ์ขายก่อน แล้วค่อยซื้อคืน (Short SET50 Index Futures) นักลงทุนก็จะได้กำไรเช่นกัน
Margin Of Safety+Intrinsic Value+Mr.Market
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
- Simply
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 35
การซื้อขายและสภาพคล่อง(TRADING & LIQUIDITY )...
เราเชื่อในการมุ่งเน้นต่อสิ่งที่มีค่าสูงสุดที่เราหาได้ในตลาด.โดยทั่วไปหุ้นที่มีมูลค่าสูงสุดสี่ห้าตัวนั้นคิดเป็น 50-70%ของพอร์ต.มีบางโอกาสเคยมีหุ้นบางตัวมีมูลค่าถึง 25%ของพอร์ต.เราไม่ยอมประนีประนอมกับหลักเกณฑ์ในการลงทุนของเรา(ความหมายคือ เรายึดมั่นในหลักการของเราแบบสุดๆ).ดังนั้นเราเตรียมจะถือเงินสดจำนวนมากถ้าพบว่าเราไม่เจอความคิดดีๆในการลงทุน ซึ่งบางทีสัดส่วนเงินสดเคยสูงถึง 50%ของพอร์ต
เราไม่ใช้การก่อหนี้ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนของพอร์ต,ในสถานะปกตินั้น เราถือหุ้นในระยะยาวและถือเงินสดในสัดส่วน 10-25%
เราเก็บบันทึกราคาซื้อขายสูงสุดสำหรับหุ้นแต่ละตัวนับตั้งแต่เราถือไว้.เมื่อราคาหุ้นตกลงมาเกินกว่า20%ของราคาสูงสุด เราจะกลับมาตรวจสอบสถานะใหม่อีกครั้ง.หลังจากทำการวิเคราะห์รายละเอียดและร่วมอภิปรายเรื่องการบริหารจัดการแล้วเราไม่พบเหตุผลทางพื้นฐานสำหรับราคาที่ตกลงมา เราจะซื้อหุ้นเพิ่มและเพิ่มความพยายามเป็นทวีคูณเพื่ออธิบายบทความวิจัยหุ้นตัวนี้(the investment thesis)อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น
การค้นหาคุณค่าซ่อนเร้น(Hidden value) มักนำเราไปลงทุนในบริษัทขนาดเล็กที่มีการวิเคราะห์อย่างจำกัดและเผชิญกับสภาพคล่องหุ้นที่แย่ โดยทั่วไปเราใช้เวลา3-6เดือนเพื่อซื้อหรือขาย เมื่อเราซื้อ เรามักอยู่ในฝั่งของbidและพยายามซื้อให้น้อยกว่าหนึ่งในสามของปริมาณการซื้อขายในแต่ละวัน ในทำนองเดียวกัน เมื่อเราจะขาย เรามักจะอยู่ในฝั่งของoffer และพยายามขายให้น้อยกว่าหนึ่งในสามของปริมาณการซื้อขายในแต่ละวัน
ระยะเวลาเฉลี่ยในการอยู่ในสถานะซื้อหรือขายนั้นราว 240 วันและเฉลี่ยแล้ว เรามีการเปลี่ยนสถานะเพียงปีละ 1 ครั้ง.ค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ยที่จ่ายให้โบรคเกอร์คือ 1%ต่อปี.เราเลือกรูปแบบของการจัดสรรหลักทรัพย์ในการลงทุน (Asset Allocation) ด้วยBloomberg-driven Excel spreadsheetและสร้างคำสั่งการซื้อและขายด้วยความแตกต่างกันของรูปแบบของการจัดสรรหลักทรัพย์ในการลงทุน
ในเชิงสถิติแล้ว เราพยายามประมาณค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของการลงทุนในหุ้นแบบนักลงทุนประเภทมุ่งหวังผล (Active Investor)โดยมองปริมาณการซื้อขายในแต่ละระดับราคาเทียบกับปริมาณหุ้นทั้งหมดที่สามารถซื้อขายได้ในตลาด(Total free float).เรายังทำการวิเคราะห์ทางสถิติเกี่ยวปริมาณการซื้อขายในแต่ละระดับของค่าPE เช่นเดียวกับการทำBack testสำหรับหลักเกณฑ์ของการหยุดขาดทุน( Stop loss)และรูปแบบของการจำกัดความเสี่ยง(Hedging models).เรายังติดตามดูว่าใครเป็นขาใหญ่ที่ถือหุ้น และตามดูว่าเมื่อไหร่ขาใหญ่มองหาการซื้อเพิ่มหรือขายออกเพิ่ม.เราถือเงินสดเป็นเงินดอลล์
ฺ(Back test ที่ผมหาอ่านเจอ มักจะเจอในเวปของกลุ่มเทรดหุ้น ที่ใช้ข้อมูลในอดีตที่มีอยู่นั้นมาทดสอบระบบการเทรดแบบต่างๆแล้ววัดผลออกมา เช่นเดียวกับstop lossก็เจอในเวปของการเทรด)
เราเชื่อในการมุ่งเน้นต่อสิ่งที่มีค่าสูงสุดที่เราหาได้ในตลาด.โดยทั่วไปหุ้นที่มีมูลค่าสูงสุดสี่ห้าตัวนั้นคิดเป็น 50-70%ของพอร์ต.มีบางโอกาสเคยมีหุ้นบางตัวมีมูลค่าถึง 25%ของพอร์ต.เราไม่ยอมประนีประนอมกับหลักเกณฑ์ในการลงทุนของเรา(ความหมายคือ เรายึดมั่นในหลักการของเราแบบสุดๆ).ดังนั้นเราเตรียมจะถือเงินสดจำนวนมากถ้าพบว่าเราไม่เจอความคิดดีๆในการลงทุน ซึ่งบางทีสัดส่วนเงินสดเคยสูงถึง 50%ของพอร์ต
เราไม่ใช้การก่อหนี้ เพื่อเพิ่มผลตอบแทนของพอร์ต,ในสถานะปกตินั้น เราถือหุ้นในระยะยาวและถือเงินสดในสัดส่วน 10-25%
เราเก็บบันทึกราคาซื้อขายสูงสุดสำหรับหุ้นแต่ละตัวนับตั้งแต่เราถือไว้.เมื่อราคาหุ้นตกลงมาเกินกว่า20%ของราคาสูงสุด เราจะกลับมาตรวจสอบสถานะใหม่อีกครั้ง.หลังจากทำการวิเคราะห์รายละเอียดและร่วมอภิปรายเรื่องการบริหารจัดการแล้วเราไม่พบเหตุผลทางพื้นฐานสำหรับราคาที่ตกลงมา เราจะซื้อหุ้นเพิ่มและเพิ่มความพยายามเป็นทวีคูณเพื่ออธิบายบทความวิจัยหุ้นตัวนี้(the investment thesis)อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น
การค้นหาคุณค่าซ่อนเร้น(Hidden value) มักนำเราไปลงทุนในบริษัทขนาดเล็กที่มีการวิเคราะห์อย่างจำกัดและเผชิญกับสภาพคล่องหุ้นที่แย่ โดยทั่วไปเราใช้เวลา3-6เดือนเพื่อซื้อหรือขาย เมื่อเราซื้อ เรามักอยู่ในฝั่งของbidและพยายามซื้อให้น้อยกว่าหนึ่งในสามของปริมาณการซื้อขายในแต่ละวัน ในทำนองเดียวกัน เมื่อเราจะขาย เรามักจะอยู่ในฝั่งของoffer และพยายามขายให้น้อยกว่าหนึ่งในสามของปริมาณการซื้อขายในแต่ละวัน
ระยะเวลาเฉลี่ยในการอยู่ในสถานะซื้อหรือขายนั้นราว 240 วันและเฉลี่ยแล้ว เรามีการเปลี่ยนสถานะเพียงปีละ 1 ครั้ง.ค่าคอมมิชชั่นเฉลี่ยที่จ่ายให้โบรคเกอร์คือ 1%ต่อปี.เราเลือกรูปแบบของการจัดสรรหลักทรัพย์ในการลงทุน (Asset Allocation) ด้วยBloomberg-driven Excel spreadsheetและสร้างคำสั่งการซื้อและขายด้วยความแตกต่างกันของรูปแบบของการจัดสรรหลักทรัพย์ในการลงทุน
ในเชิงสถิติแล้ว เราพยายามประมาณค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของการลงทุนในหุ้นแบบนักลงทุนประเภทมุ่งหวังผล (Active Investor)โดยมองปริมาณการซื้อขายในแต่ละระดับราคาเทียบกับปริมาณหุ้นทั้งหมดที่สามารถซื้อขายได้ในตลาด(Total free float).เรายังทำการวิเคราะห์ทางสถิติเกี่ยวปริมาณการซื้อขายในแต่ละระดับของค่าPE เช่นเดียวกับการทำBack testสำหรับหลักเกณฑ์ของการหยุดขาดทุน( Stop loss)และรูปแบบของการจำกัดความเสี่ยง(Hedging models).เรายังติดตามดูว่าใครเป็นขาใหญ่ที่ถือหุ้น และตามดูว่าเมื่อไหร่ขาใหญ่มองหาการซื้อเพิ่มหรือขายออกเพิ่ม.เราถือเงินสดเป็นเงินดอลล์
ฺ(Back test ที่ผมหาอ่านเจอ มักจะเจอในเวปของกลุ่มเทรดหุ้น ที่ใช้ข้อมูลในอดีตที่มีอยู่นั้นมาทดสอบระบบการเทรดแบบต่างๆแล้ววัดผลออกมา เช่นเดียวกับstop lossก็เจอในเวปของการเทรด)
Margin Of Safety+Intrinsic Value+Mr.Market
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
- Simply
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 36
the investment thesis....หาแล้วไม่มีภาษาไทยเทียบเคียง. เป็นการเขียนเพื่อตอบคำถามว่า มีเหตุผลอะไรถึงซื้อหุ้นในบริษัทนี้ และมีแผนการอะไรในการดูแลหุ้นตัวนี้(แผนการในการลงทุน) อย่างเช่นควรจะขายออกเมื่อราคาเท่าไหร่ ควรจะซื้อเพิ่มเมื่อไหร่ และเป้าหมายของการถือหุ้น ตัวนี้คืออะไร ส่วนใหญ่เป็นคำอธิบายที่เขียนโดยที่ปรึกษาการลงทุน ข้อดีคือเมื่อเขียนแล้ว เราใช้เป็นตัวทบทวนการตัดสินใจในแต่ละตอน
ตัวอย่างของ investment thesis
Example - Investing Thesis for XYZ Industries
May 31, 2007 - XYZ Industries is currently No.2 in market share in its core business of selling designer widgets. Market share is currently at 27%, and it has improved that from 23% a year ago. An industry trade group predicts that the total market for widgets will grow by 10% during 2007 and 2008.
Goals:
1. 35% market share within two years
2. Total widget growth to remain at at least 8%
3. Maintain current P/E of 21 by growing earnings by at least 20% annually
4. Maintain or grow operating margins from the current 22% level
5. Keep a healthy balance sheet; keep debt/equity below 40%
Exit Strategy - Sell position if XYZ loses market share during a full 12-month period, or if industry growth turns negative for more than two quarters.
ตัวอย่างของ investment thesis
Example - Investing Thesis for XYZ Industries
May 31, 2007 - XYZ Industries is currently No.2 in market share in its core business of selling designer widgets. Market share is currently at 27%, and it has improved that from 23% a year ago. An industry trade group predicts that the total market for widgets will grow by 10% during 2007 and 2008.
Goals:
1. 35% market share within two years
2. Total widget growth to remain at at least 8%
3. Maintain current P/E of 21 by growing earnings by at least 20% annually
4. Maintain or grow operating margins from the current 22% level
5. Keep a healthy balance sheet; keep debt/equity below 40%
Exit Strategy - Sell position if XYZ loses market share during a full 12-month period, or if industry growth turns negative for more than two quarters.
Margin Of Safety+Intrinsic Value+Mr.Market
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
ขอบคุณอ.เกรแฮมที่ทำให้เกิด Value Investing
ขอบคุณบรรดาเหล่าVIทั้งหลายที่พิสูจน์คุณค่าที่แท้จริงของVI
ขอบคุณท่านดร.นิเวศน์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าVIใช้ได้กับบ้านเรา
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 38
2012 AUDITED FINANCIAL STATEMENT
http://www.questthai.com/2012TFEF.pdf
2012 AUDITED FINANCIAL STATEMENT FOR THAI FOCUSED EQUITY US FEEDER FUND
http://www.questthai.com/2012TFEFEEDER.pdf
http://www.questthai.com/2012TFEF.pdf
2012 AUDITED FINANCIAL STATEMENT FOR THAI FOCUSED EQUITY US FEEDER FUND
http://www.questthai.com/2012TFEFEEDER.pdf
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 39
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 40
ดูเป็นไอเดียก็พอไหวครับ
ได้รู้ว่าแรงซื้อ แรงขายหุ้นบางตัว เกิดจากใคร
สังเกตุว่ากองทุนนี้ค่อนข้าง focus ตามชื่อเลย
และค่อนข้างสวิชหุ้นบ่อย ดูจากพอร์ตปีที่แล้วเปรียบเทียบกัน
ได้รู้ว่าแรงซื้อ แรงขายหุ้นบางตัว เกิดจากใคร
สังเกตุว่ากองทุนนี้ค่อนข้าง focus ตามชื่อเลย
และค่อนข้างสวิชหุ้นบ่อย ดูจากพอร์ตปีที่แล้วเปรียบเทียบกัน
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 42
จัดให้แบบดูง่ายๆ ครับ
31Dec11 เทียบ 31Dec12 31Dec12
31Dec11 เทียบ 31Dec12 31Dec12
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 215
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 43
http://www.questthai.com/mgmtteam.html
ดูแนะนำทีม Management มีคนไทยร่วมทีมถึง 3 ท่านด้วย
EQUITY RESEARCH & TRADER
JUNIOR ANALYST
Accounting Manager
น่าชื่นชมครับ
ดูแนะนำทีม Management มีคนไทยร่วมทีมถึง 3 ท่านด้วย
EQUITY RESEARCH & TRADER
JUNIOR ANALYST
Accounting Manager
น่าชื่นชมครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 358
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 44
ผมชอบอ่าน Market Comment ของเขาครับ
http://www.questthai.com/market.html
Dear [[DEAR]],
Attached is the final March 2013 result for the Thai Focused Equity Fund (TFE). For the month, the Fund gained 12.1%, while the SET index increased 3.1% in US$ terms. For the year, the Fund increased 42.9 % versus a 17.2% gain for the SET.
Our fund generated the third month in a row of impressive returns in March and outperformed the SET index. All of our seven heavily weighted sectors performed positively, and the main contribution came from our communication, property, energy and Entertainment holdings in March.
Global equity markets had a mixed performance. US stock markets made the most gains on average, up 3.7%, supported by strong US economic data reports. European stock markets were down 1.7% on average, pressured by political uncertainty in Italy and a bailout program for Cyprus. While Asian stock markets were mixed, but ended slightly down 0.3% on average. China’s stock market significantly underperformed, down 6.5% in US dollar terms, due to disappointing economic data and measures to cool down the property sector. Meanwhile, Japan was up 4.0% in US$ term, supported by Yen weakness which benefits all export companies.
The Thai stock market gained 3.1% in US dollar terms, the 3rd best performer in Asian stock markets, following Japan (+4.0%) and Vietnam (+3.5%). During the month, the SET index moved in a wide range, made a new high at 1599.89 at mid-month, then fell 7.6% to 1478.97 within a week. Several negative rumors spread in the markets (capital controls, forced margin selling, and a potential change of prime minister), but were really just excuses for some healthy profit-taking. However, optimism about Thailand’s economic outlook and its potential as a regional economic center benefitting from the high GDP growth of Burma, Laos and Cambodia helped bolster positive sentiment in the Thai stock market.
On the political front, Prime Minister Yingluck Shinawatra was investigated by the National Anti-Corruption Commission (NACC) on her asset-liability submission, specifically her three loans to her husband’s company. The loans stated by Prime Mister Yingluck were consistent with her husband’s company financial documents, but the reported interest rate was not the same, with the Prime Minister reporting 1.00% while the company showed 2.50%-3.75%. This issue caused market concerned that the Prime Minister may have to resign from her position, but in the end, Yingluck was cleared of any wrong-doing.
Meanwhile, the government submitted its THB2.27 trillion infrastructure loan bill to the parliament for approval. After two long days of debate, the House of Representatives voted to approve the first reading of this bill with 284 votes in favor, 152 against, and 21 abstentions. The government intends to fast-track decree of this bill by submitting it for its second and third readings when parliament opens for a special session in late May to consider the 2014 Budget Bill. We hope to see the investment starting by 4Q13 or early next year.
This infrastructure project will create a big change in geopolitics and economies in this region, and Thailand will significantly benefit from its location, logistics and business-friendly, open policies. These projects will connect Southern China to Singapore, Myanmar to Vietnam and Thailand as a center. All combined, this regional population will total nearly 300 million people, most of which are the younger, working-age generation and big consumers. Currently, the border trade with our neighboring markets is estimated at THB1.2 trillion (Myanmar, Laos and Cambodia). With a good logistics and wider country coverage, this international trade value can grow significantly.
Meanwhile, the number of travelers has increased impressively during the first two months of this year, up 15.7%, reflecting an uptrend in demand growth due to general improvement in the economy and the tourism industry. In addition, Fitch upgraded Thailand’s sovereign rating from BBB to BBB+ with a stable outlook, due to a decline in political risk and low public debt. After this upgrade, the Fitch’s rating is in line with S&P and Moody’s.
On the economic front, the Ministry of Finance revised up its 2013 GDP growth forecast from 5.0% to 5.3%, based on an upward revision in consumption from 3.9% to 4.6% and downward revision in exports from 10.5% to 9.0%.
On the other hand, the Bank of Thailand (BOT) reported negative export growth (-4.6%) in February. The manufactured products showed no growth, due to weak global demand on electronics goods and low automobile exports as automakers gave priority to the Thai domestic market (to fulfill first-time car buyer program). Meanwhile, the current account was in surplus by US$1,568 million on strong growth in tourism with 2.3 million foreign tourist arrivals during this month (mainly from China, Malaysia and Russia), and a trade surplus.
The SET’s trading activity strongly increased, up 12.2% in March, from US$2,086 million to US$2,340 million of average daily volume. Foreigners were net buyers of US$248 million in March and are net buyers of US$168 million for the year. Retail investors turned more bullish this month, with participation at 66% from 53% on average in 2012. Foreigners and domestic mutual funds accounted for the remaining 18% and 16% of volume, respectively.
If you would like to discuss our performance and/or strategy, please give Katekao or me a call at 662-255-2040.
Best regards,
Doug
http://www.questthai.com/market.html
Dear [[DEAR]],
Attached is the final March 2013 result for the Thai Focused Equity Fund (TFE). For the month, the Fund gained 12.1%, while the SET index increased 3.1% in US$ terms. For the year, the Fund increased 42.9 % versus a 17.2% gain for the SET.
Our fund generated the third month in a row of impressive returns in March and outperformed the SET index. All of our seven heavily weighted sectors performed positively, and the main contribution came from our communication, property, energy and Entertainment holdings in March.
Global equity markets had a mixed performance. US stock markets made the most gains on average, up 3.7%, supported by strong US economic data reports. European stock markets were down 1.7% on average, pressured by political uncertainty in Italy and a bailout program for Cyprus. While Asian stock markets were mixed, but ended slightly down 0.3% on average. China’s stock market significantly underperformed, down 6.5% in US dollar terms, due to disappointing economic data and measures to cool down the property sector. Meanwhile, Japan was up 4.0% in US$ term, supported by Yen weakness which benefits all export companies.
The Thai stock market gained 3.1% in US dollar terms, the 3rd best performer in Asian stock markets, following Japan (+4.0%) and Vietnam (+3.5%). During the month, the SET index moved in a wide range, made a new high at 1599.89 at mid-month, then fell 7.6% to 1478.97 within a week. Several negative rumors spread in the markets (capital controls, forced margin selling, and a potential change of prime minister), but were really just excuses for some healthy profit-taking. However, optimism about Thailand’s economic outlook and its potential as a regional economic center benefitting from the high GDP growth of Burma, Laos and Cambodia helped bolster positive sentiment in the Thai stock market.
On the political front, Prime Minister Yingluck Shinawatra was investigated by the National Anti-Corruption Commission (NACC) on her asset-liability submission, specifically her three loans to her husband’s company. The loans stated by Prime Mister Yingluck were consistent with her husband’s company financial documents, but the reported interest rate was not the same, with the Prime Minister reporting 1.00% while the company showed 2.50%-3.75%. This issue caused market concerned that the Prime Minister may have to resign from her position, but in the end, Yingluck was cleared of any wrong-doing.
Meanwhile, the government submitted its THB2.27 trillion infrastructure loan bill to the parliament for approval. After two long days of debate, the House of Representatives voted to approve the first reading of this bill with 284 votes in favor, 152 against, and 21 abstentions. The government intends to fast-track decree of this bill by submitting it for its second and third readings when parliament opens for a special session in late May to consider the 2014 Budget Bill. We hope to see the investment starting by 4Q13 or early next year.
This infrastructure project will create a big change in geopolitics and economies in this region, and Thailand will significantly benefit from its location, logistics and business-friendly, open policies. These projects will connect Southern China to Singapore, Myanmar to Vietnam and Thailand as a center. All combined, this regional population will total nearly 300 million people, most of which are the younger, working-age generation and big consumers. Currently, the border trade with our neighboring markets is estimated at THB1.2 trillion (Myanmar, Laos and Cambodia). With a good logistics and wider country coverage, this international trade value can grow significantly.
Meanwhile, the number of travelers has increased impressively during the first two months of this year, up 15.7%, reflecting an uptrend in demand growth due to general improvement in the economy and the tourism industry. In addition, Fitch upgraded Thailand’s sovereign rating from BBB to BBB+ with a stable outlook, due to a decline in political risk and low public debt. After this upgrade, the Fitch’s rating is in line with S&P and Moody’s.
On the economic front, the Ministry of Finance revised up its 2013 GDP growth forecast from 5.0% to 5.3%, based on an upward revision in consumption from 3.9% to 4.6% and downward revision in exports from 10.5% to 9.0%.
On the other hand, the Bank of Thailand (BOT) reported negative export growth (-4.6%) in February. The manufactured products showed no growth, due to weak global demand on electronics goods and low automobile exports as automakers gave priority to the Thai domestic market (to fulfill first-time car buyer program). Meanwhile, the current account was in surplus by US$1,568 million on strong growth in tourism with 2.3 million foreign tourist arrivals during this month (mainly from China, Malaysia and Russia), and a trade surplus.
The SET’s trading activity strongly increased, up 12.2% in March, from US$2,086 million to US$2,340 million of average daily volume. Foreigners were net buyers of US$248 million in March and are net buyers of US$168 million for the year. Retail investors turned more bullish this month, with participation at 66% from 53% on average in 2012. Foreigners and domestic mutual funds accounted for the remaining 18% and 16% of volume, respectively.
If you would like to discuss our performance and/or strategy, please give Katekao or me a call at 662-255-2040.
Best regards,
Doug
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 490
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 46
ขอถามพี่ลูกอีสานหน่อยครับ ที่ว่า พร้อมบอกเหตุผลที่ซื้อ ซึ่งส่วนนี้ผมคิดว่ามีประโยชน์มาก
ดูได้จากตรงไหนครับ ไม่ทราบขอเป็นลิงส์ได้มั้ยครับ ขอบคุณครับ /\ /\ /\
ดูได้จากตรงไหนครับ ไม่ทราบขอเป็นลิงส์ได้มั้ยครับ ขอบคุณครับ /\ /\ /\
ลูกอิสาน เขียน:
สมัยนึงผมขลุกในเวปไซด์ของกองทุนที่ http://www.questthai.com เพื่อแอบดูหมายเหตุงบการเงินที่ประกาศปีละครั้ง ดูหุ้นแต่ละตัวที่กองทุนถือ สัดส่วนเท่าไหร่ ตัว rcl หุ้นตัวแรกที่ซื้อก็อ่านจากที่นี่ ใน presentation ข้างบน จะยกตัวอย่างหุ้นที่กองทุนกำไรมากๆ หลายร้อย พัน เปอร์เซนต์ จากการถือหลายปี หรือถือแค่ 2 วัน พร้อมบอกเหตุผลที่ซื้อ ซึ่งส่วนนี้ผมคิดว่ามีประโยชน์มาก
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 358
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 47
เหตุผลอยู่ใน presentation ที่พี่ลูกอีสานโพสครับ ลองดู คคห แรกเลยครับskyearth เขียน:ขอถามพี่ลูกอีสานหน่อยครับ ที่ว่า พร้อมบอกเหตุผลที่ซื้อ ซึ่งส่วนนี้ผมคิดว่ามีประโยชน์มาก
ดูได้จากตรงไหนครับ ไม่ทราบขอเป็นลิงส์ได้มั้ยครับ ขอบคุณครับ /\ /\ /\
ลูกอิสาน เขียน:
สมัยนึงผมขลุกในเวปไซด์ของกองทุนที่ http://www.questthai.com เพื่อแอบดูหมายเหตุงบการเงินที่ประกาศปีละครั้ง ดูหุ้นแต่ละตัวที่กองทุนถือ สัดส่วนเท่าไหร่ ตัว rcl หุ้นตัวแรกที่ซื้อก็อ่านจากที่นี่ ใน presentation ข้างบน จะยกตัวอย่างหุ้นที่กองทุนกำไรมากๆ หลายร้อย พัน เปอร์เซนต์ จากการถือหลายปี หรือถือแค่ 2 วัน พร้อมบอกเหตุผลที่ซื้อ ซึ่งส่วนนี้ผมคิดว่ามีประโยชน์มาก
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 48
Updated
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 49
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 50
ได้ความรู้ดีจัง ขอบคุณครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 51
ไม่แน่ใจว่าใช้ลิงค์นี้ไหมครับ ลองดูครับskyearth เขียน:ขอถามพี่ลูกอีสานหน่อยครับ ที่ว่า พร้อมบอกเหตุผลที่ซื้อ ซึ่งส่วนนี้ผมคิดว่ามีประโยชน์มาก
ดูได้จากตรงไหนครับ ไม่ทราบขอเป็นลิงส์ได้มั้ยครับ ขอบคุณครับ /\ /\ /\
ลูกอิสาน เขียน:
สมัยนึงผมขลุกในเวปไซด์ของกองทุนที่ http://www.questthai.com เพื่อแอบดูหมายเหตุงบการเงินที่ประกาศปีละครั้ง ดูหุ้นแต่ละตัวที่กองทุนถือ สัดส่วนเท่าไหร่ ตัว rcl หุ้นตัวแรกที่ซื้อก็อ่านจากที่นี่ ใน presentation ข้างบน จะยกตัวอย่างหุ้นที่กองทุนกำไรมากๆ หลายร้อย พัน เปอร์เซนต์ จากการถือหลายปี หรือถือแค่ 2 วัน พร้อมบอกเหตุผลที่ซื้อ ซึ่งส่วนนี้ผมคิดว่ามีประโยชน์มาก
http://www.questthai.com/hkpresent46_March2013.pdf
- KissmeBrow
- Verified User
- โพสต์: 30
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 52
ทึ้งกับผลงานกองทุนจริง ๆ ครับ..
ขอบคุณคุณโจและทุกท่านครับที่แชร์ จะนำไปปรับใช้ดูครับ
ขอบคุณคุณโจและทุกท่านครับที่แชร์ จะนำไปปรับใช้ดูครับ
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 53
http://www.questthai.com/market.html
โค้ด: เลือกทั้งหมด
Dear [[DEAR]],
.
.
.
Global equity markets fell toward the end of the month, pressured by concern over the Federal Reserve reducing its US$85 billion monthly bond purchases by 4Q13, and worries over China’s credit crunch and slow economic growth. US stock markets were the best performer, down only 1.4% on average, supported by improved economic data released including durable goods orders, consumer confidence, home prices and new home sales. European stock markets were down 5.8% on average, while Asian stock markets were down the most at 6.2% on average, led by China.
The Thai stock market lost 9.3% in US dollar terms, the third worst performer, following China (-15.6%) and Philippines (-9.6%). The SET index followed global market sentiment, with heavy selling pressure from foreign investors (US$1,790 million) and negative political news flow regarding Moody’s credit rating warning about the government’s losses from its rice-pledging scheme.
Our fund significantly underperformed the SET index in June. Only three of our seven heavily weighted sectors outperformed the industry indices. All of our holdings faced negative return this month. The largest losses came from our major holdings in property (-4.3%), communications (-4.3%) and energy (-3.7%) sectors, all of which we believe have strong fundamentals and truly impressive earnings growth over the next 12 months.
The property & contractor sector was down 20.0%, driven by concerns about an oversupply of condominiums; the Bank of Thailand noted that there was an oversupply only in certain areas.
Sansiri’s (SIRI) price was down 24.3% in US$ terms. Massive expansion of the mass transit network in the Bangkok Metropolitan Area and urbanization of upcountry markets are creating new communities and new demand around Thailand. SIRI’s management is capitalizing on these key structural changes as follows:
(1) SIRI is the largest selling property developer in Thailand, supporting its economies of scale and bargaining power.
(2) If we talked about diversification and coverage, SIRI is the only property developer that has capacity and ability to produce all vertical and horizontal products (single detached houses, townhouses, and condominiums for high-end, medium-end, and low-end consumers) with a good reputation for quality in all of its products.
(3) Meanwhile, SIRI has diversified its geographical locations toward the areas that have higher economic growth than the country’s GDP, such as Phuket and Pattaya (the biggest tourist attractions in Thailand), Rayong (the largest industrial economic zone for petrochemical and automobile related businesses), Chiangmai (the second largest city and the business center-hub in the north of Thailand with several universities, many foreign businessmen and a Japanese retirement community), and Udontani (the large city that benefits from Laos border trade).
(4) SIRI’s management is sharply focused on property development and targeting to improve its profit margins (we expect 1% net profit margins increase per year) from its economy of scales and bargaining power.
(5) After it’s recent fall (current price THB2.94), it is compellingly cheap at 8.4x PE 2013 and 6.4x PE 2014, with expected earnings growth 30% in each of the next two years. We have increased our allocation from 6.5% at the end of May to 12% currently, even as the price has been pummeled.
STPI’s price was down 20.3% in US$ term, based on the delay of the large flood control project (worth THB350 billion) which has nothing to do with STPI’s business. STPI is the largest independent steel fabricator in Thailand. It has a piping fabrication with capacity of 1,000,000 diameter-inches per annum and module assembly yards with capacity of 30,000 tons per annum.
(1) STPI has strong experience over 30 years in design, supply and fabrication of complicated steel structures & general steelwork which are used for Power & Process Plants, Refinery Plants, Commercial Buildings, Industrial Equipment, and Bridges.
(2) In 2010, STPI won an award from its largest customer, a subsidiary of Woodside Petroleum Ltd (Australia), for its excellent safety record in completing 262 modules with 49 million man-hours without a lost time incident while building the Pluto LNG Train 1 project.
(3) This recognition of quality and safety has allowed STPI to become a strongly competitive, world class operator with labor costs for their ASTM stamp certified welders of only $30 per day, vs more than $80 per hour for western operators.
(4) Due to fracking technology and large offshore finds of deep water gas, there are billions of dollars of LNG development projects around the world, providing a huge opportunity for STPI.
(5) Based on its module fabrication for Ichthys Onshore LNG Facilities worth US$740 million, STPI will generate earnings growth of 52% and 72% in 2013 and 2014, respectively. At the current price (THB65.25), it trades at 16.7x PE 2013 and 9.7x PE 2014.
(6) In addition, STPI is bidding two LNG projects in Russia and Mozambique worth approximately US$500 million each with a success ratio of 50%.
SPCG’s price was down 34.0% in US$ term, pressured by disappointment after the company announced a plan to change their warrant’s expiration date from March 2015 to 3Q2013, aiming to enlarge its equity base and reduce its debt gearing ratio. SPCG is an alternative energy company that is developing solar farms with a capacity of 250 megawatts (MW).
(1) SPCG won the first round of the Thai government’s THB8 per KwH subsidy for renewable energy projects for 10 years.
(2) 2012 and 2013 are the construction period, and all 250 MW facilities must be completed by 4Q13. 2014 will be the first year in which all solar farms will be running and selling electricity to the Provincial Electricity Authority (PEA).
(3) With its 250 MW of installed capacity, SPCG will generate approximately THB4.2 billion in revenue, THB3.4 billion in cash flow, THB2.0 billion in net profit, and THB2.3- 2.4 in EPS. At current price (THB23.3), it trades at 10x PE 2014. SPCG’s management plans to pay most of its earnings from the solar farms as dividends which will generate approximately 10% dividend yield, but with the counterparty risk of the Thai government.
(4) SPCG plans to issue a 10-year Infrastructure Fund (IFF) in 3Q13 for the value of THB5.5 billion by allocating seven of its solar farms’ 10-year cash flows into this IFF at a 7%-8% yield. The proceeds from this IFF will be used to pay back some of its 9% interest-rate bank loans. The IFF issue will have a positive impact on SPCG’s bottom line due to the significant reduction in its interest expense.
(5) SPCG has a strong partner, Kyocera Corporation (Japan), who has over US$3 billion net cash. Kyocera has selected SPCG as its sole world-wide partner to provide engineering and construction services to Kyocera customers setting up solar farms and solar rooftops. Recently, they have a contract to build solar farm in Saudi Arabia started with 75 MW. Saudi Arabia plans to have solar farm up to 10,000 MW in 2020. Besides, there are more potential in Japan and Indonesia.
(6) At the current price, SPCG will become a high dividend yield with an upside of high potential growth company. We are steadily adding more to our warrant position at today’s cheap prices.
On the political front, the government faced Moody’s warning on its losses from the rice buying scheme. Its recent losses and any future losses will increase the difficulty of reaching the government’s balanced budget by 2017 and will be credit-negative for the Thai sovereign. As a result, Prime Minister Yinluck Shinawatra assigned Minister Varathep Rattanakorn to collect all rice-buying related data in order to calculate the losses on this project. Mr. Varathep admitted that the loss from the previous two crops were approximately THB130 billion plus another THB80 billion on the coming third crop (total $7 billion on a $350 billion Thai economy). The government will continue its rice-pledging policy but may consider reducing its price guarantee from THB15,000 to THB12,000, which will dissatisfy the rice farmers.
Meanwhile, the flood control mega projects were put on hold until environmental impact assessments (EIAs) and health impact assessments (HIAs) are completed. The Central Administrative Court ordered the government to complete public hearings on the water mega projects (worth THB350 billion) before signing contracts with contractors who won bids of the projects. The water mega projects cover large forest areas and involve reclamation of residents’ land and land zoning changes. Under section 67 of the constitution, any project related to economic development, city planning or land reclamation must first undergo public hearings.
With the unmodified rice-buying scheme and the delay in the water mega projects, we expect to see a major reshuffle of the cabinet in the near future.
In positive news, the Board of Investment (BOI) reported that it received 919 project applications for tax exemption (+18% y-o-y) with a combined investment value of THB565 billion (+70% y-o-y) in the first five months of 2013. Applications for services and public utilities rose 224% to THB260 billion. They comprised of air-transport projects worth THB160 billion, natural-gas-fired electricity generating plants worth THB34 billion, a liquefied-natural-gas receiving terminal worth THB21 billion, industrial estates worth THB9.1 billion, merchandise/goods distribution centers worth THB6.5 billion and two hotels worth THB2.8 billion
In addition, Thailand’s tourist arrivals continue to post strong growth, up 19% y-o-y in January-April, driven by the growth of tourists from China, Russia and India. This year, the country targets to reach 25 million international tourists, up from 22 million in 2012.
The SET’s trading activity increased slightly, up 4.9% in June, from US$1,857 million to US$1,947 million of average daily volume. Foreigners were net sellers of US$1,790 million in June and were net sellers of US$2,469 million for the year. Retail investors remained less active this month, with participation at 50% from 56% on previous month. Foreigners and domestic mutual funds accounted for the remaining 24% and 26% of volume, respectively.
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 58
สงสัยคนเข้าเยอะ เวบล่มSaiko เขียน:เข้าไม่ได้แล้วครับ
ตอนนี้เข้าได้แล้วนะครับ
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 59
Dear [[DEAR]],
Attached is the flash July 2013 result for the Thai Focused Equity Fund (TFE). For the month, the Fund lost 6.2%, while the SET index decreased 2.8% in US$ terms. For the year, the Fund increased 8.7 % versus a 0.02% gains for the SET.
Global equity markets dropped initially and then gained toward the end of the month. European stock markets were the best performer, up 8.6% on average, supported by the ECB guidance that they will retain the policy rate at 0.5% or lower levels for an extended period of time. US stock markets were up 4.5% on average, boosted by upbeat economic reports, dovish comments from Ben Bernanke, better-than-expectation 2Q13 earnings announcements, and Moody’s outlook upgrade on the US credit rating. Asian stock markets were slightly up 0.2% on average, due to the concerns of China’s slowing economy.
The Thai stock market lost 2.7% in US dollar terms, the second worst performer, following Indonesia (-7.6%). The market sentiment was pressured by a slow-down in the economy, the increase in household debt (due to the government’s stimulus consumption program of the 1st car buyer’s incentive), the uncertainty regarding the THB2 trillion infrastructure projects, and rising political uncertainty.
Our fund significantly underperformed the SET index in June. Only two of our seven heavily weighted sectors outperformed the industry indices. Only one of our holdings contributed positive return in this month. The largest losses came from our major holdings in communications (-2.8%), and property (-1.8%) sectors, all of which we believe have strong fundamentals and truly impressive earnings growth over the next 12 months.
On the political front, the government decided to submit an amnesty law as the first priority when parliament opens on August 1, due to complaints from the red shirts that government paid more attention to pushing the THB2.2 trillion bill than pushing for amnesty and other related laws. The red shirts’ leader also warned that the government may loose the red shirts’ support if it does not keep its promise. On the other hand, many anti-government groups planned for street rallies ahead of an amnesty bill proposed by government. The protests will be scheduled on different days.
Meanwhile, the THB2.2 trillion infrastructure bill (under the concept of changing logistics transport from the road to the rail), was approved by the parliament in its first reading which enables the Finance Ministry to borrow THB2.2 trillion off-budget for spending on transport infrastructure projects. The bill was criticized by Mr.Kanit, the Head of The Law Reform Commission of Thailand (LRCT), saying that this THB2.2 trillion bill was likely to violate Article 169 of the Constitution. His concern is that this bill would deprive the legislative branch of power to check the spending of the executive branch for seven years and this borrowing would be legally binding on future governments and deprive them of their rights to reject projects or propose new ones.
However, Deputy Prime Minister Pongthep claimed that the THB2.2 trillion bill does not violate the charter because the loans will not be state funds. The bill would empower the Finance Ministry to borrow THB2.2 trillion, which would be off the budget, to implement transport infrastructure projects. The parliament still can monitor the projects’ execution and the opposition can even hold a no-confidence debate against the government regarding the spending.
While domestic consumption declined due to the earlier 1st car buyer stimulus program, the THB2.2 trillion bill is becoming the next key driver for the Thailand economy. The government plans to spend THB203 million in 2013, THB150 billion in 2014, and raise to an annual THB300-470 billion level during 2015-2018. According to the government, the THB2.2 trillion bill can add an additional 1% to Thai GDP growth. In case the THB2.2 trillion bill cannot pass the approval from either parliament or Constitution court, all projects (excluding hi-speed train) can continue spending via government’s normal budgets. Only the hi-speed train project (THB700 billion) must start over with the feasibility study by the Nation Economic and Social Development Board (NESDB), then resubmit for cabinet and parliamentary approval, which will take a longer period of time.
In positive news, foreign investors continue to see attractive opportunities in investment in Thailand. Mitsubishi UFJ Financial Group (MUFJ) announced that it would buy a majority stake in Thailand’s fifth-largest bank, Bank of Ayudhya (BAY), in a deal valued of US$5.6 billion, the biggest acquisition by a Japanese financial institution in Southeast Asia. MUFG, Japan’s largest lender by assets, will set-up a tender offer for a stake of up to 75% in BAY at a price of THB39 per share. GE Capital International Holdings Corp has already agreed to sell its entire 25% in BAY.
In addition, we continue to see the investment inflow from both Japan and China, supported by the announcements of industrial estate developers to expand their industrial zones and factories for rents. Amata Corp, Thailand’s major developer and manager of factory estates, reported that it plans to expand its industrial zones in order to serve its Chinese investors, who are expected to set up 300-500 plants in its zones in the next five years.
The Board of Investment (BOI) reported that it received 1,055 project applications for tax exemption (+5.8% y-o-y) with a combined investment value of THB633 billion (+48% y-o-y) in the first six months of 2013. Foreign Direct Investment (FDI) accounted for 58.7% of total projects with 44% of total investment value. Japan is the largest foreign investment with THB184 billion investment year to date. Applications for services and public utilities rose 189% to THB302 billion. The second largest industry is metal processing, up 33% to THB148 billion.
The SET’s trading activity significantly decreased, down 27.0% in July, from US$1,947 million to US$1,422 million of average daily volume. Foreigners were slight net buyers of US$16 million in July but were net sellers of US$2,453 million for the year. Retail investors remained less active this month, with participation at 50% from 56% on previous month. Foreigners and domestic mutual funds accounted for the remaining 24% and 26% of volume, respectively.
If you would like to discuss our performance and/or strategy, please give Katekao or me a call at 662-255-2040.
Best regards,
Doug
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: How to Beat Warren Buffett?....Thai focused equity fund
โพสต์ที่ 60
Dear [[DEAR]],
Attached is the flash August 2013 result for the Thai Focused Equity Fund (TFE). For the month, the Fund lost 10.0%, while the SET index decreased 11.7% in US$ terms. For the year, the Fund decreased 2.1% versus a 11.6% loss for the SET. Global equity markets performed negatively toward the end of the month, pressured by the uncertainty about the US Federal Reserve’s QE tapering plan and the call from US Secretary of State John Kerry for accountability on the use of chemical weapons in Syria. European stock markets were down the least, -2.0% on average, supported by the 0.3% increase in Europe 2Q13 GDP over the 1Q13 ending the 6-quarter contraction. US and Asian stock markets were down 3.8% and 4.6% on average, respectively.
The Thai stock market lost 11.3% in US dollar terms, the third worst performer, following Indonesia(-17.3%), and India (-12.0%). All three markets were pressured by weakening currencies, declining GDP growth, and increasing current account deficits.
For July, Thailand recorded a current account deficit (US$709 million), due mainly to gold imports (US$1,409 million, up 95% y-o-y, as the gold price significant declined) and the repatriation by Japanese carmakers of profits and dividends (US$966 million) resulting from the recent Eco car promotion. Thailand’s current account would have recorded a surplus of US$255 million if these one-off events were stripped out.
Our fund made a significantly loss in June. None of our seven heavily weighted sectors contributed any gains, except for our short position. The largest losses came from our major holdings in property (-4.2%), and communications (-3.2%), all of which we believe have strong fundamentals and truly impressive earnings growth over the next 12 months.
On the political front, the government decided to submit an amnesty law as the first priority when parliament opened on August 1. This amnesty bill will benefit all protesters (including the 2006 coup), except the key leaders and those responsible for issuing orders that led to violence.
Meanwhile, the government invoked the Internal Security Act (ISA) in 3 Bangkok districts (covering the king’s palace, government offices, and parliament) to protect from a large rally formed by the anti-government groups and the Democrat party. However, the street rallies turned out to end quickly due to less-than-expected participants, only a couple thousand instead of ten thousands people attending.
According to the poll run by Suan Dusit University, a majority of the Thai people want to see political reform as the country’s development has been obstructed by the political divisiveness, corruption and abuse of power. On the other hand, the ruling Peua Thai party still retains its strong support, while the opposition party remains weak. If there were a snap election, the Peua Thai party would be voted back into power.
On the economic front, the National Economic and Social Development Board (NESDB) cut its GDP growth from 4.2%-5.2% to 3.8%-4.3% in 2013. NESDB expects GDP growth to improve in 2H13, supported by an improved global outlook and the implementation of government stimulus measures. This is in line with a Bank of Thailand report that foresees stronger 3Q13 GDP than 2Q13, supported by a gradual recovery in developed economies, particularly the US, which will cause Thai exports to grow.
For the first seven months of 2013, the Board of Investment (BOI) reported that it received 1,192 project applications for tax exemption (+.7% y-o-y) with a combined investment value of THB664 billion (+29% y-o-y). Foreign Direct Investment (FDI) accounted for 58.9% of total projects with 45% of total investment value. Japan is the largest foreign investor with THB191 billion of investment year-to-date, due to their desire to outsource more of their supply chain after the disastrous Fukushima earthquake and Japanese salary man’s love of assignments in Thailand.
Supporting the rise in foreign investment in Thailand, CB Richard Ellis reported that Bangkok recorded an eighth consecutive quarter of Grade A central business district (CBD) rent increases of 8.6% y-o-y to THB880 per square meter per month. Demand was firm and primarily came from international companies across a wide range of sectors. Meanwhile, the vacancy for Grade A CBD offices in Bangkok dropped to 11.8 per cent, the lowest level recorded since the second quarter of 2008. However, Bangkok remained the third-cheapest office location in Asia-Pacific, after Manila and Wellington.
The SET’s trading activity decreased significantly, down 14.3% in August, from US$1,422 million to US$1,219 million of average daily volume. Foreigners were net sellers of US$1,241 million in August and net sellers of US$3,694 million for the year. Retail investors remained less active this month, with participation at 47%, down from 50% on previous month. Foreigners and domestic mutual funds accounted for the remaining 27% and 26% of volume, respectively.
If you would like to discuss our performance and/or strategy, please give Katekao or me a call at 662-255-2040.
Best regards,
Doug
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530