สรุปความรู้สัมมนา Money Talk at SET (21 Jul 13)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 348
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปความรู้สัมมนา Money Talk at SET (21 Jul 13)
โพสต์ที่ 1
เนื่องด้วยได้มีโอกาสไปร่วมสัมมนา Money Talk @ SET” เดือน ก.ค. 2556 ที่จัดขึ้นที่ตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา
จึงอยากจะสรุปความรู้ที่ได้จากงานครั้งนี้บางส่วน เผื่ออาจจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนนักลงทุนท่านอื่นบ้างครับ
(ผมขออนุญาตอธิบายตามความเข้าใจของผมครับ ถ้าผมเข้าใจในประเด็นที่วิทยากรสื่อสารคาดเคลื่อน หรือจดในส่วนเนื้อหาไม่ถูกต้อง
รบกวนพี่ๆเพื่อนๆท่านอื่นที่ไปร่วมงานในวันดังกล่าวช่วยแนะนำผมด้วยครับ)
13:00-14.45 น. "จุดสมดุลของหุ้น เงินทอง ธุรกิจ และชีวิต
ดนัย จันทร์เจ้าฉาย
วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ
ถาวร โชติชื่น
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
1.หลักข้อนึงของธรรมะ คือความสันโดษ จงพอใจในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่งที่ได้
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็จะทำให้มีความรู้สึกสุขอยู่ตลอด (รู้จักสุขในสิ่งที่มี หยุดทุกข์ในสิ่งที่ไม่มี)
2.การที่มีเงินหรือไม่มีเงินนั้น ไม่มีผลต่อจิตใจ ต่อให้เรามีเงินเป็น 100 ล้าน 1,000 ล้านแต่ถ้ายังกังวลกับเรื่องเงินอยู่
เช่นเพื่อนยืมเงินเราไปแล้วไม่คืน ชีวิตของเราก็จะไม่มีความสุข
3.โจทย์ที่สำคัญในชีวิตคือเราจะบริหารเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตให้มีความสุขได้อย่างไร
4.บางครั้งชีวิตก็ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 เสมอไป ถ้าการที่เป็นที่ 1 แล้วทำให้เราเกิดยึดติด ปลงไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่นต้องการรักษายอดขายเป็นอันดับ 1 แต่อาจจะทำให้ต้องขายแบบตัดราคาทำให้ไม่ได้กำไรเป็นต้น
5.ความว่างเปล่าคือสิ่งที่ดีที่สุด
6.ควรที่จะต้องระวังการใช้จ่ายที่เกินตัว รวมไปถึงการลงทุนโดยการใช้เงิน Margin
7.การที่เราประหยัด 1 บาท ดีกว่าการที่ไปหาเพิ่ม 1 บาท
8.สุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิต คนส่วนใหญ่จะเข้าใจความสำคัญในประเด็นนี้เมื่ออายุถึง 45 ปี
9.อย่าเอาจิตวิญญาณเราไปแขวนไว้ตลาดหุ้น (เอาจิตใจไปจดจ่อกับราคาหุ้นในกระดาน) เราควรจะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา
10.โลกอยู่กับสิ่งที่มี ธรรมอยู่กับสิ่งที่ไม่มี (กิเลสจะเจริญในที่ที่ฟุ้งเฟ้อ ธรรมะจะเจริญในที่ที่ขาดแคลน)
11.สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี
12.ตัวเราเองควรจะต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าคุ้มไหมกับการที่ตัวเราได้เกิดมา
ก่อนที่จะส่งคืนลมหายใจสุดท้ายของตัวเรา เราได้ทำอะไรที่คุ้มกับการเกิดมาหรือยัง
เราได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือยัง คนที่คิดและทำอะไรเพื่อสังคม คนๆนั้นมักจะได้สิ่งต่างๆที่ดีไหล
เข้ามาหาตัวเขาไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ ทรัพย์สมบัติ ซึ่งจะต่างจากบุคคลที่คิดทำอะไรเพื่อประโยชน์ของตัวเองเพียงอย่างเดียว
ถ้าเรามีโอกาสใกล้ตาย เราจะเห็นอะไรเยอะมาก เพราะฉะนั้นบางทีลองนึกว่าถ้าพรุ่งนี้เราต้องจากโลกนี้ไป
เรายังมีอะไรที่ต้องรีบทำบ้าง อะไรที่นึกขึ้นได้ในช่วงนั้นมักจะเป็นสิ่งที่ดี ส่งผลดีต่อคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นเราควรจะรีบทำสิ่งนั้นเมื่อเราตื่นขึ้นมา
15.15-17.15 น. “เรียนให้รวยอย่างมีคุณค่า
ดร.วิพุธ อ่องสกุล คณบดี NIDA BUSINEES SCHOOL
วรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง
วรวุฒิ อุ่นใจ กรรมการผู้จัดการ OFFICE MATE
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
1.สิ่งที่สำคัญเวลาเรียนคือพยายามคิดว่าเรียนแล้วจะเอาความรู้จากวิชานี้ไปใช้งานต่อได้อย่างไร
โดยที่สิ่งที่สำคัญกว่าความรู้คือความคิดซึ่งจะมาจากพื้นฐานความรู้ที่เรียน
2.คนเราเรียนแล้วควรจะต้องเอาความรู้ไปลงมือปฏิบัติด้วย
3.คนที่จะประสบความสำเร็จ คือคนที่ไม่หยุดยั้งที่จะเรียนรู้ เราอาจจะเรียนในมหาวิทยาลัย 4 ปี
แต่หลังจากจบมาแล้วเรายังมีเวลาอีก 30 ปึในการหาความรู้ให้กับตัวเรา เช่นความรู้ในด้านการลงทุนที่ถูกต้อง
ปัจจุบันการหาความรู้ไม่ใช่เฉพาะแค่ห้องเรียนเพียงอย่างเดียว เราสามารถหาความรู้จากสื่อต่างๆอาทิเช่นจาก Internet
4.วิชานึงที่สำคัญที่เราควรจะรู้คือวิชาภาษาอังกฤษ เพราะจะทำให้สามารถอ่านข่าวหรือข้อมูล
จากต่างประเทศเพื่อเข้าใจความเป็นไปของโลกนี้ได้ดียิ่งขึ้น
5.จริยธรรมเป็นสิ่งที่สำคัญ คนเราจะเก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเป็นคนดีด้วย
6.ถ้าเราไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการ เราอาจจะร่ำรวยได้ยาก เพราะฉะนั้นจึงควรที่จะต้องรู้จัก
การที่ใช้เงินเพื่อให้ทำงานให้เราด้วย สำหรับผู้ที่เป็นลูกจ้างนั้น เราควรที่จะทำงานไปก่อนเพื่อสะสมความรู้
และเงินลงทุนให้เพียงพอ จากนั้นก็นำเงินที่ได้จากการทำงานนั้นไปลงทุนในกิจการที่ดีๆ
ซึ่งถึงวันนึงเงินลงทุนนั้นจะส่งผลให้เงินปันผลที่ได้จะมากกว่าเงินซึ่งได้จากการทำงานของเรา
7.นักลงทุนนั้นเป็นนักเลือก ใช้ความสามารถในการเลือกเป็นหลัก
โดยที่เราเองนั้นอาจจะไม่ต้องฉลาดมาก แต่ต้องรู้จักเลือกให้เป็น
8.สมัยนี้โลกเจริญขึ้นมา เปิดโอกาสให้คนรู้จักคิดเป็นสามารถรวยได้ซึ่งต่างจากสมัยก่อน
รวมไปถึงโลกเดี๋ยวนี้เปลี่ยนเร็วมาก 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับ 100 ปีก่อนหน้านี้
โดยโลกธุรกิจการค้าปัจจุบันนั้นเชื่อมโยงไปทั่วโลก สินค้าหรือบริการที่ผลิตหรือมีในประเทศไทยนั้น
ประเทศอื่นๆก็ผลิตหรือมีเช่นกัน บางครั้งเราควรจะต้องเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆด้วย
9.คุณครูผู้สอนให้ลายแทงขุมทรัพย์เรา แต่ตัวเราต้องเดินทางไปเอง อาจจะต้องเจออุปสรรคระหว่างทาง
ซึ่งตัวเราต้องรู้จักพลิกแพลงประยุกต์ให้เป็น (เขียนตำราด้วยตัวคุณเอง) เข้าใจ Concept และแนวคิด
ซึ่งบางครั้งเราอาจจะต้องลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง
10.นักลงทุนควรที่จะมีนิสัยช่างสังเกต, อย่าไปเชื่ออะไร 100% โดยที่ไม่ได้คิดพิจารณาให้ดีเสียก่อน
เพราะบางครั้งอาจจะทำให้มี bias , พรแสวงสำคัญกว่าพรสวรรค์
11.อีกนึงสิ่งที่สำคัญของนักลงทุนคือการศึกษาประวัติศาสตร์ เพราะจะเป็นสิ่งที่สอนเราได้ดีที่สุด
ยกตัวอย่างเช่น case study ของบริษัท ENRON โดยหลังๆมานี้ท่านอาจารย์นิเวศน์หันมาอ่านประวัติศาสตร์บ่อยๆ
12.คนที่มีฐานะถึงระดับนึงแล้วควรที่จะตอบแทนคืนกลับสู่สังคมและต่อโลก มีความพอใจในสิ่งที่มี
จะได้ทำให้เรามีความสุข รวมไปถึงรู้จักสอนบุตรหลานและผู้อื่นให้รู้จักคุณค่าของเงินและคุณค่าของการแบ่งปัน
ขอขอบคุณรายการ Money Talk มากๆครับสำหรับความรู้ดีๆที่นำมาฝากเพื่อนๆนักลงทุนเสมอๆ
และขอขอบคุณ web thaivi ด้วยครับสำหรับคลังแห่งความรู้ในการลงทุนที่ช่วยทำให้เกิดนักลงทุนที่มีความรู้มากมาย
รวมไปถึงขอขอบคุณตลาดหลักทรัพย์ที่มีสัมมนาการลงทุนดีๆให้ได้ไปเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาครับ
สุดท้ายนี้ขออนุญาติสวัสดีพี่ๆเพื่อนๆนักลงทุนที่รู้จักทุกท่านอีกครั้งครับ
หลังจากที่ตั้งแต่ปีที่แล้วผมได้เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศมาประมาณปีนึงครับ
ขอให้พี่ๆเพื่อนๆนักลงทุนทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง,มีความสุขมากๆครับ
earthcu/21 Jul 2013
จึงอยากจะสรุปความรู้ที่ได้จากงานครั้งนี้บางส่วน เผื่ออาจจะมีประโยชน์ต่อเพื่อนนักลงทุนท่านอื่นบ้างครับ
(ผมขออนุญาตอธิบายตามความเข้าใจของผมครับ ถ้าผมเข้าใจในประเด็นที่วิทยากรสื่อสารคาดเคลื่อน หรือจดในส่วนเนื้อหาไม่ถูกต้อง
รบกวนพี่ๆเพื่อนๆท่านอื่นที่ไปร่วมงานในวันดังกล่าวช่วยแนะนำผมด้วยครับ)
13:00-14.45 น. "จุดสมดุลของหุ้น เงินทอง ธุรกิจ และชีวิต
ดนัย จันทร์เจ้าฉาย
วสันต์ เบนซ์ทองหล่อ
ถาวร โชติชื่น
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
1.หลักข้อนึงของธรรมะ คือความสันโดษ จงพอใจในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่งที่ได้
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็จะทำให้มีความรู้สึกสุขอยู่ตลอด (รู้จักสุขในสิ่งที่มี หยุดทุกข์ในสิ่งที่ไม่มี)
2.การที่มีเงินหรือไม่มีเงินนั้น ไม่มีผลต่อจิตใจ ต่อให้เรามีเงินเป็น 100 ล้าน 1,000 ล้านแต่ถ้ายังกังวลกับเรื่องเงินอยู่
เช่นเพื่อนยืมเงินเราไปแล้วไม่คืน ชีวิตของเราก็จะไม่มีความสุข
3.โจทย์ที่สำคัญในชีวิตคือเราจะบริหารเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตให้มีความสุขได้อย่างไร
4.บางครั้งชีวิตก็ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ 1 เสมอไป ถ้าการที่เป็นที่ 1 แล้วทำให้เราเกิดยึดติด ปลงไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่นต้องการรักษายอดขายเป็นอันดับ 1 แต่อาจจะทำให้ต้องขายแบบตัดราคาทำให้ไม่ได้กำไรเป็นต้น
5.ความว่างเปล่าคือสิ่งที่ดีที่สุด
6.ควรที่จะต้องระวังการใช้จ่ายที่เกินตัว รวมไปถึงการลงทุนโดยการใช้เงิน Margin
7.การที่เราประหยัด 1 บาท ดีกว่าการที่ไปหาเพิ่ม 1 บาท
8.สุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิต คนส่วนใหญ่จะเข้าใจความสำคัญในประเด็นนี้เมื่ออายุถึง 45 ปี
9.อย่าเอาจิตวิญญาณเราไปแขวนไว้ตลาดหุ้น (เอาจิตใจไปจดจ่อกับราคาหุ้นในกระดาน) เราควรจะต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา
10.โลกอยู่กับสิ่งที่มี ธรรมอยู่กับสิ่งที่ไม่มี (กิเลสจะเจริญในที่ที่ฟุ้งเฟ้อ ธรรมะจะเจริญในที่ที่ขาดแคลน)
11.สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบไม่มี
12.ตัวเราเองควรจะต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าคุ้มไหมกับการที่ตัวเราได้เกิดมา
ก่อนที่จะส่งคืนลมหายใจสุดท้ายของตัวเรา เราได้ทำอะไรที่คุ้มกับการเกิดมาหรือยัง
เราได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือยัง คนที่คิดและทำอะไรเพื่อสังคม คนๆนั้นมักจะได้สิ่งต่างๆที่ดีไหล
เข้ามาหาตัวเขาไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ ทรัพย์สมบัติ ซึ่งจะต่างจากบุคคลที่คิดทำอะไรเพื่อประโยชน์ของตัวเองเพียงอย่างเดียว
ถ้าเรามีโอกาสใกล้ตาย เราจะเห็นอะไรเยอะมาก เพราะฉะนั้นบางทีลองนึกว่าถ้าพรุ่งนี้เราต้องจากโลกนี้ไป
เรายังมีอะไรที่ต้องรีบทำบ้าง อะไรที่นึกขึ้นได้ในช่วงนั้นมักจะเป็นสิ่งที่ดี ส่งผลดีต่อคนอื่นๆ เพราะฉะนั้นเราควรจะรีบทำสิ่งนั้นเมื่อเราตื่นขึ้นมา
15.15-17.15 น. “เรียนให้รวยอย่างมีคุณค่า
ดร.วิพุธ อ่องสกุล คณบดี NIDA BUSINEES SCHOOL
วรวรรณ ธาราภูมิ กรรมการผู้จัดการ บลจ.บัวหลวง
วรวุฒิ อุ่นใจ กรรมการผู้จัดการ OFFICE MATE
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผู้เชี่ยวชาญหุ้น
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ดำเนินรายการ
1.สิ่งที่สำคัญเวลาเรียนคือพยายามคิดว่าเรียนแล้วจะเอาความรู้จากวิชานี้ไปใช้งานต่อได้อย่างไร
โดยที่สิ่งที่สำคัญกว่าความรู้คือความคิดซึ่งจะมาจากพื้นฐานความรู้ที่เรียน
2.คนเราเรียนแล้วควรจะต้องเอาความรู้ไปลงมือปฏิบัติด้วย
3.คนที่จะประสบความสำเร็จ คือคนที่ไม่หยุดยั้งที่จะเรียนรู้ เราอาจจะเรียนในมหาวิทยาลัย 4 ปี
แต่หลังจากจบมาแล้วเรายังมีเวลาอีก 30 ปึในการหาความรู้ให้กับตัวเรา เช่นความรู้ในด้านการลงทุนที่ถูกต้อง
ปัจจุบันการหาความรู้ไม่ใช่เฉพาะแค่ห้องเรียนเพียงอย่างเดียว เราสามารถหาความรู้จากสื่อต่างๆอาทิเช่นจาก Internet
4.วิชานึงที่สำคัญที่เราควรจะรู้คือวิชาภาษาอังกฤษ เพราะจะทำให้สามารถอ่านข่าวหรือข้อมูล
จากต่างประเทศเพื่อเข้าใจความเป็นไปของโลกนี้ได้ดียิ่งขึ้น
5.จริยธรรมเป็นสิ่งที่สำคัญ คนเราจะเก่งอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเป็นคนดีด้วย
6.ถ้าเราไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการ เราอาจจะร่ำรวยได้ยาก เพราะฉะนั้นจึงควรที่จะต้องรู้จัก
การที่ใช้เงินเพื่อให้ทำงานให้เราด้วย สำหรับผู้ที่เป็นลูกจ้างนั้น เราควรที่จะทำงานไปก่อนเพื่อสะสมความรู้
และเงินลงทุนให้เพียงพอ จากนั้นก็นำเงินที่ได้จากการทำงานนั้นไปลงทุนในกิจการที่ดีๆ
ซึ่งถึงวันนึงเงินลงทุนนั้นจะส่งผลให้เงินปันผลที่ได้จะมากกว่าเงินซึ่งได้จากการทำงานของเรา
7.นักลงทุนนั้นเป็นนักเลือก ใช้ความสามารถในการเลือกเป็นหลัก
โดยที่เราเองนั้นอาจจะไม่ต้องฉลาดมาก แต่ต้องรู้จักเลือกให้เป็น
8.สมัยนี้โลกเจริญขึ้นมา เปิดโอกาสให้คนรู้จักคิดเป็นสามารถรวยได้ซึ่งต่างจากสมัยก่อน
รวมไปถึงโลกเดี๋ยวนี้เปลี่ยนเร็วมาก 10 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับ 100 ปีก่อนหน้านี้
โดยโลกธุรกิจการค้าปัจจุบันนั้นเชื่อมโยงไปทั่วโลก สินค้าหรือบริการที่ผลิตหรือมีในประเทศไทยนั้น
ประเทศอื่นๆก็ผลิตหรือมีเช่นกัน บางครั้งเราควรจะต้องเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆด้วย
9.คุณครูผู้สอนให้ลายแทงขุมทรัพย์เรา แต่ตัวเราต้องเดินทางไปเอง อาจจะต้องเจออุปสรรคระหว่างทาง
ซึ่งตัวเราต้องรู้จักพลิกแพลงประยุกต์ให้เป็น (เขียนตำราด้วยตัวคุณเอง) เข้าใจ Concept และแนวคิด
ซึ่งบางครั้งเราอาจจะต้องลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง
10.นักลงทุนควรที่จะมีนิสัยช่างสังเกต, อย่าไปเชื่ออะไร 100% โดยที่ไม่ได้คิดพิจารณาให้ดีเสียก่อน
เพราะบางครั้งอาจจะทำให้มี bias , พรแสวงสำคัญกว่าพรสวรรค์
11.อีกนึงสิ่งที่สำคัญของนักลงทุนคือการศึกษาประวัติศาสตร์ เพราะจะเป็นสิ่งที่สอนเราได้ดีที่สุด
ยกตัวอย่างเช่น case study ของบริษัท ENRON โดยหลังๆมานี้ท่านอาจารย์นิเวศน์หันมาอ่านประวัติศาสตร์บ่อยๆ
12.คนที่มีฐานะถึงระดับนึงแล้วควรที่จะตอบแทนคืนกลับสู่สังคมและต่อโลก มีความพอใจในสิ่งที่มี
จะได้ทำให้เรามีความสุข รวมไปถึงรู้จักสอนบุตรหลานและผู้อื่นให้รู้จักคุณค่าของเงินและคุณค่าของการแบ่งปัน
ขอขอบคุณรายการ Money Talk มากๆครับสำหรับความรู้ดีๆที่นำมาฝากเพื่อนๆนักลงทุนเสมอๆ
และขอขอบคุณ web thaivi ด้วยครับสำหรับคลังแห่งความรู้ในการลงทุนที่ช่วยทำให้เกิดนักลงทุนที่มีความรู้มากมาย
รวมไปถึงขอขอบคุณตลาดหลักทรัพย์ที่มีสัมมนาการลงทุนดีๆให้ได้ไปเรียนรู้อยู่ตลอดเวลาครับ
สุดท้ายนี้ขออนุญาติสวัสดีพี่ๆเพื่อนๆนักลงทุนที่รู้จักทุกท่านอีกครั้งครับ
หลังจากที่ตั้งแต่ปีที่แล้วผมได้เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศมาประมาณปีนึงครับ
ขอให้พี่ๆเพื่อนๆนักลงทุนทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง,มีความสุขมากๆครับ
earthcu/21 Jul 2013
Life is beautiful + Financial freedom within 2015 by investment stock & real estate
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 43
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้สัมมนา Money Talk at SET (21 Jul 13)
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณมากครับ สำหรับการพยายามที่จะถ่ายทอดให้พวกเราได้ทราบครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 315
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุปความรู้สัมมนา Money Talk at SET (21 Jul 13)
โพสต์ที่ 7
ขอบคุณครับ
-----------------------------------------
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ
-
- Verified User
- โพสต์: 31
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปความรู้สัมมนา Money Talk at SET (21 Jul 13)
โพสต์ที่ 10
ขอบคุณครับ