Bitcoin

การลงทุนอื่นๆนอกจากหุ้น วีไอ กองทุนรวมชนิดต่างๆ RMF LTFตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ อนุพันธ์ และเกษตรล่วงหน้า

โพสต์ โพสต์
sssjjjj
Verified User
โพสต์: 534
ผู้ติดตาม: 0

Bitcoin

โพสต์ที่ 1

โพสต์

อันนี้ไม่ใช่ การลงทุนนะครับ ผมอยากให้ มอง Bitcoin เป็น Virtual Currency ตัวใหม่มากกว่า
แต่ตอนนี้ เหมือนว่าคนส่วนใหญ่จะสนใจในเรื่องของการเก็งกำไรจากการที่ ราคา BTC/$US เพิ่มขึ้นมาเยอะ
ลองไปอ่าน ที่ Blog ผมได้ครับ
http://rsnstock.wordpress.com/2013/04/1 ... ง-bitcoin/
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2770
ผู้ติดตาม: 0

Re: Bitcoin

โพสต์ที่ 2

โพสต์

sssjjjj เขียน:อันนี้ไม่ใช่ การลงทุนนะครับ ผมอยากให้ มอง Bitcoin เป็น Virtual Currency ตัวใหม่มากกว่า
แต่ตอนนี้ เหมือนว่าคนส่วนใหญ่จะสนใจในเรื่องของการเก็งกำไรจากการที่ ราคา BTC/$US เพิ่มขึ้นมาเยอะ
ลองไปอ่าน ที่ Blog ผมได้ครับ
http://rsnstock.wordpress.com/2013/04/1 ... ง-bitcoin/
เห็น BusinessWeek ภาษาอังกฤษเล่มก่อนก็พูดถึงไว้เหมือนกัน โดยส่วนตัวผมมองว่าหากมันยังใช้ไม่ได้จริง มูลค่าของมันในเชิงธุรกิจก็ยังไม่มีครับ ราคาตลาดนั้นไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริงเลย อย่างที่ราคาผันผวนหนักในปีที่ผ่านมา
Vi IMrovised
sssjjjj
Verified User
โพสต์: 534
ผู้ติดตาม: 0

Re: Bitcoin

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ราคาวิ่งหวือหวา มากเลยครับ
หลังจากร่วงจากยอดที่ $150
ตอนนี้ 1 BTC = $150 แล้ว
sssjjjj
Verified User
โพสต์: 534
ผู้ติดตาม: 0

Re: Bitcoin

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ลืมลง link
http://bitcoinity.org/markets
Quattro
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 84
ผู้ติดตาม: 0

Re: Bitcoin

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เป็นไปได้มั้ยครับ ว่าวันนึง ธนาคารกลางทั่วโลกอาจทำอย่างธปท
https://www.meconomics.net/content/577
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4741
ผู้ติดตาม: 1

Re: Bitcoin

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เอเจนซีส์ - ในวันเสาร์ (28 มิ.ย.) ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย เจอร์รี บราวน์ (Jerry Brown) ลงนามในกฎหมายประจำรัฐอนุญาตให้ใช้สกุลเงินดิจิตอล “บิตคอยน์” (Bitcoin)สามารถใช้แทนเงินดอลลาร์ได้ถูกต้องตามกฎหมายในรัฐแคลิฟอร์เนีย และถือเป็นรัฐแรกที่ยอมรับเงินบิตคอยน์ในฐานะสกุลเงินเทียบเท่าสกุลเงินประเทศต่างๆ ที่มีธนาคารกลางของรัฐบาลประเทศนั้นประกันฐานะ

ทั้งนี้ กฎหมายบิตคอยน์ฉบับใหม่ได้ลบล้างกฎหมายฉบับก่อนหน้านี้ที่ประกาศห้ามไม่ให้ใช้สิ่งใดเป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนยกเว้นสกุลเงินสหรัฐฯ ทั้งนี้ สมาชิกสภารัฐแคลิฟอร์เนียที่ได้ยื่นกฎหมายบิตคอย์นได้ประณามกฎหมายฉบับเก่าว่า “หยุดนิ่ง ล้าสมัยมากจากตลาดระบบการชำระสินค้าและบริการของรัฐแคลิฟอร์เนียที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีความรุดหน้าด้านวิทยาการไปมากแล้ว

“กฎหมายฉบับใหม่นี้ได้ทำให้ความเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายปัจจุบันชัดเจนเพื่อทำให้มั่นใจว่าทางเลือกใหม่ของการใช้สิ่งแทนสกุลเงิน เช่น สกุลเงินดิจิตอล บิตคอยน์ แต้มสะสม คูปอง หรือสิ่งอื่นที่มีคุณค่าเทียบสกุลเงินดอลลาร์ของรัฐบาลกลางไม่ผิดกฎหมาย เมื่อต้องการใช้วิธีทางอื่นชำระค่าสินค้าหรือบริการ หรือโอนเงิน” ความเห็นจากผู้เสนอกฎหมาย

ในขณะที่การวิเคราะห์ถึงการแก้กฎหมายที่พุ่งเป้าไปที่บิตคอยน์ และพบว่ามีการเอ่ยถึงรูปแบบอื่นที่ใช้แทนกำารชำระด้วยดอลลาร์ เช่น การใช้แต้มสะสม ซึ่งที่ผ่านมาร้านค้าใช้แต้มสะสมเพื่อสมนาคุณลูกค้า “ในยุคสมัยของการวิวัฒนการด้านการชำระสินค้า/บริการ นับตั้งแต่เหรียญของแอมะซอนไปจนถึงดาวสะสมแต้มของสตาร์บัคส์ ที่หากมีการเพิกเฉยไม่ยอมรับการใช้ทางเลือกอื่นชำระแทนเงินสดที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถือว่าไม่เป็นส่งที่เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงในชีวิตประจำวัน” โรเจอร์ ดิกคินสัน (Roger Dickinson)สมาชิกสภารัฐแคลิฟอร์เนีย พรรคเดโมแครต ผู้ยื่นกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่สภากล่าวผ่านแถลงการณ์

ทางเลือกการชำระสินค้าแทนเงินสดนี้โดยรวมเรียกว่า “สกุลเงินท้องถิ่น” (Community Currencies) ที่ถูกสร้างจากคนในพื้นที่เพื่อโปรโมตธุรกิจขนาดย่อย และจากแถลงการณ์ของดิกคินสัน เป้าหมายอนุญาตการใช้สิ่งอื่นชำระแทนเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหนึ่งในรูปแบบการประท้วงทางการเมืองของบางพื้นที่ต่อนโยบายการเงินของรัฐบาลกลางสหรัฐฯภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา หรือสถาบันการเงินขนาดยักษ์

การคุ้มครองบิตคอยน์ในฐานะสกุลเงินถูกต้องตามกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียนั้นเกิดขึ้นในขณะที่บริษัทแลกเปลี่ยนเงินดิจิตอล “บิตคอยน์” Mt Gox Co. ที่มีฐานอยู่ในญี่ปุ่นเข้าสู่กระบวนการล้มละลายในศาลสหรัฐฯ และก่อนหน้านี้มีรายงานว่า มีคนไทยในญี่ปุ่นตกเป็นเหยื่อได้รับผลกระทบต่อการหยุดให้บริการของ Mt Gox Co.

พบว่าในต้นปีนี้ Mt Gox Co. ต้องเสียเงินดิจิตอลมูลค่า 850,000 บิตคอยน์ (500 ล้านดอลลาร์จากอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบัน) จากที่เว็บไซต์ของบริษัทถูกแฮกเกอร์โจมตี และภายหลังจากนั้นทางบริษัทสามารถตามกลับคืนมาได้ 200,000 บิตคอยน์

ในเดือนพฤษภาคมล่าสุด บริษัท ทิบานเน โฮลดิง (Tibanne Holding co.) ที่เป็นบริษัทแม่ในญี่ปุ่นเจ้าของ Mt Gox Co. ได้ประกาศขายเทรดมาร์กในญี่ปุ่น และสหภาพยุโรปหวังเพื่อที่จะรวบรวมเงินได้อย่างน้อย 1 ล้านดอลลาร์
http://www.manager.co.th/around/ViewNew ... 0000073367
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
ภาพประจำตัวสมาชิก
dome@perth
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4741
ผู้ติดตาม: 1

Re: Bitcoin

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เตือน Bitcoin เป็น "สินค้า" ยังไม่ใช่เงิน ซ้ำร้ายอาจ "ฟองสบู่" - See more at: http://www.forbesthailand.com/article_d ... xyBR6.dpuf

ธนาคารไทยชี้ Bitcoin Exchange รายใหญ่ล้มละลาย เป็นสัญญาณเตือนภัยเงินตราเสมือน หลายประเทศยังไม่รับรองเป็นสกุลเงิน และอาจเรียกการเก็บภาษีเพื่อควบคุม หวั่นเกิดฟองสบู่ เนื่องจากไม่มีมูลค่าในตัวเอง


ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เผยแพร่บทวิเคราะห์สถานภาพของ Bitcoin ภายหลัง Mt.Gox หนึ่งใน Bitcoin Exchange รายใหญ่ที่สุดในโลก ยื่นความจำนงต่อศาลในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อขอล้มละลายและพิทักษ์ทรัพย์

เนื่องมาจากระบบซื้อขายออนไลน์ของ Mt. Gox ถูกแฮก ทำให้ Bitcoin ของลูกค้า Mt.Gox จำนวน 750,000 หน่วย และ Bitcoin ที่เป็นของ Mt.Gox เองจำนวน 100,000 หน่วยนั้นสูญหาย (ราคาซื้อขาย Bitcoin ในขณะนั้นอยู่ที่ 565 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหน่วย มูลค่ารวมของ Bitcoin ที่ถูกจารกรรมไปจึงเท่ากับ 480 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นประมาณ 7% ของมูลค่า Bitcoin ทั้งระบบทั่วโลก)

ทั้งนี้ รายงานข่าวระบุว่า Mt. Gox มีลูกค้าอยู่ราว 127,000 คน ในจำนวนนี้เป็นคนญี่ปุ่นประมาณ 1,000 คน และในขณะนั้น Mt.Gox มีทรัพย์สินเหลือในบัญชีธนาคารเพียง 32.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งไม่พอสำหรับหนี้ค้างจ่ายแก่ลูกค้าจำนวนมหาศาล

นอกจากการล้มละลายของ Mt.Gox แล้ว ผู้ประกอบธุรกิจ Bitcoin รายอื่นๆ ยังเกิดข่าวคราว ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ใช้บริการต่อเนื่อง เช่น Flexicoin เว็บให้บริการฝาก Bitcoin ต้องปิดตัวลง หลังพบว่า Bitcoin ของลูกค้าถูกจารกรรมไปทั้งหมด เป็นจำนวน 896 หน่วย รวมมูลค่าราว 600,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือเทคโนโลยีที่ปิดบังตัวตนผู้ใช้นั่นเอง ทำให้เกิดตลาดมืดซื้อขายสินค้าผิดกฎหมายออนไลน์ขนาดใหญ่ เช่น Silk Road ซึ่งเป็นแหล่งซื้อขายยาเสพติด และสินค้าผิดกฎหมายมูลค่านับร้อยล้านเหรียญสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม ผู้สนใจในธุรกิจและผู้ใช้งาน Bitcoin ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของ coindesk.com ในปี 2014 มี Venture capital สนใจเข้ามาร่วมลงทุนในบริษัทเกิดใหม่ (Start-up) ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Bitcoin ด้วยมูลค่ารวมกว่า 64 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อีกทั้งยังมีการติดตั้งเครื่อง ATM สำหรับ Bitcoin แล้วในหลายประเทศ และมีการจัดตั้งกองทุนที่ลงทุนใน Bitcoin เช่น Winklevoss Bitcoin ซึ่งกำลังจะจดทะเบียนเป็น ETF เข้าไปซื้อขายในตลาด NASDAQ เว็บไซต์หลายแห่งเช่น Overstock และ Zynga ยอมรับการชำระสินค้าเป็น Bitcoin นอกจากนี้ยังมีกิจการหลายแห่ง เช่น Ebay Expedia และ Dish Network ที่มีแผนที่จะยอมรับให้นำระบบเงินดิจิตอลมาใช้จ่ายชำระค่าสินค้าในอนาคต

ด้านจำนวนผู้ใช้ก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน จากข้อมูลของ blockchain.com มีผู้ลงทะเบียนเปิดบัญชีซื้อขาย Bitcoin ซึ่งเรียกว่า “Wallet” แล้วราว 1.8 ล้านบัญชี
- See more at: http://www.forbesthailand.com/article_d ... xyBR6.dpuf
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
"
โพสต์โพสต์