คล้ายๆผมเลยแฮะ แต่ผมโชคดีที่หุ้นอีกตัวที่ชอบมากกว่าราคาหล่นจนมีupsideพอๆกันเลยได้โอกาสswitchทั้งที่จริงๆก็ชอบตัวที่ถืออยู่มากเหมือนกันHighway_Star เขียน:ปัญหาที่ผมเจอคือ ผมค่อนข้างมั่นใจในหุ้นที่ผมเลือก เพราะตอนซื้อนั้นหุ้นตัวดังกล่าวราคาต่ำกว่ามูลค่าและผมประเมินไว้ว่าอนาคตดี
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ผมก็เห็นหุ้นอีกตัวที่ดีมาก แต่ก็แพง เลยไม่ได้ซื้อ
ทีนี้พอตลาดร่วง หุ้นตัวที่ผมถือลงเยอะมาก ผมก็ยังมั่นใจอยู่ดีนั่นแหละ
แต่อีกตัวมันก็ลงเยอะเหมือนกัน และถ้าเทียบความมั่นคงของกิจการแล้วตัวที่ผมไม่ได้ถือน่าจะมั่นคงกว่าเยอะ
เพียงแต่ว่า upside มันก็ดูจะน้อยกว่า
เป็นแบบนี้ทำไงกันครับ
พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2236
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 31
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 845
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 32
ตอนนี้ผมใช้วิธีทำ score card ครับ เอา PE, Growth, สภาพธุรกิจ, การแข่งขัน, ความเสี่ยง ฯลฯ เท่าที่จะนึกออก แต่ละข้อเอามาให้คะแนน 1-5 แล้วมาคิดเป็นแต้มเฉลี่ย แล้วก็ดูอีกทีครับ ว่าควร weight ตัวไหนเยอะกว่าHighway_Star เขียน:ปัญหาที่ผมเจอคือ ผมค่อนข้างมั่นใจในหุ้นที่ผมเลือก เพราะตอนซื้อนั้นหุ้นตัวดังกล่าวราคาต่ำกว่ามูลค่าและผมประเมินไว้ว่าอนาคตดี
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ผมก็เห็นหุ้นอีกตัวที่ดีมาก แต่ก็แพง เลยไม่ได้ซื้อ
ทีนี้พอตลาดร่วง หุ้นตัวที่ผมถือลงเยอะมาก ผมก็ยังมั่นใจอยู่ดีนั่นแหละ
แต่อีกตัวมันก็ลงเยอะเหมือนกัน และถ้าเทียบความมั่นคงของกิจการแล้วตัวที่ผมไม่ได้ถือน่าจะมั่นคงกว่าเยอะ
เพียงแต่ว่า upside มันก็ดูจะน้อยกว่า
เป็นแบบนี้ทำไงกันครับ
all i need is Zero
- Highway_Star
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 452
- ผู้ติดตาม: 1
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 33
ขอบคุนพี่ๆ ทุกคนครับ
ตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรเพราะตัดสินใจไม่ถูก จะยอมตัดใจไปซื้อตัวมั่นคงกว่า ก็รู้สึกเหมือนว่าถือๆไปเหอะสุดท้าย port ตอนนี้น่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่า ... แต่ถ้าจะเอาให้รู้จิงๆ ก็ต้องทำอย่างที่พี่ picatos ว่า ซึ่งผมเห็นด้วยครับว่าเหนื่อยมากๆ (หรือผมขี้เกียจด้วยส่วนนึงก็ไม่รู้ แค่คิดก็ท้อแล้ว เหอๆ)
ปล.ผมจะกด+ นิ้วมันไปโดนปุ่ม- อีกแล้ว
ตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรเพราะตัดสินใจไม่ถูก จะยอมตัดใจไปซื้อตัวมั่นคงกว่า ก็รู้สึกเหมือนว่าถือๆไปเหอะสุดท้าย port ตอนนี้น่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่า ... แต่ถ้าจะเอาให้รู้จิงๆ ก็ต้องทำอย่างที่พี่ picatos ว่า ซึ่งผมเห็นด้วยครับว่าเหนื่อยมากๆ (หรือผมขี้เกียจด้วยส่วนนึงก็ไม่รู้ แค่คิดก็ท้อแล้ว เหอๆ)
ปล.ผมจะกด+ นิ้วมันไปโดนปุ่ม- อีกแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 4395
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 34
ถ้า พอร์ตของผมเปลี่ยนจากกำไรกลายเป็นขาดทุน
ผมต้องวิเคราะห์ว่าผมรีบซื้อตอนแพงหรือพื้นฐานเขาเปลี่ยนไป
ถ้าเป็นอย่างแรกก็ต้องยอมรับผลขาดทุนชั่วคราว
ถ้าเป็นอย่างหลังผมต้องคาดเดาว่าพฐที่เปลี่ยนไปเป็นแบบชั่วคราวหรือถาวร
ผมมักจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาเปลี่ยนไปชั่วคราว
แล้วหาเงินมาซื้อเพิ่มมากๆเพราะตลาดให้ราคาถูกเหลือเกิน
ผมอาจจะผิดก็ได้
ผมต้องวิเคราะห์ว่าผมรีบซื้อตอนแพงหรือพื้นฐานเขาเปลี่ยนไป
ถ้าเป็นอย่างแรกก็ต้องยอมรับผลขาดทุนชั่วคราว
ถ้าเป็นอย่างหลังผมต้องคาดเดาว่าพฐที่เปลี่ยนไปเป็นแบบชั่วคราวหรือถาวร
ผมมักจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาเปลี่ยนไปชั่วคราว
แล้วหาเงินมาซื้อเพิ่มมากๆเพราะตลาดให้ราคาถูกเหลือเกิน
ผมอาจจะผิดก็ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 156
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 35
ออกตัวก่อนครับ ผมเป็นนักลงทุนมือใหม่ ลงทุนได้มาเกือบ 2 ปี ช่วงแรกใหม่ๆลองผิดลองถูกประมาณ 3 เดือน ช่วงนั้นผันผวนอารมณ์กับราคาหุ้นมากครับ สรุปขาดทุนยับจนต้องออกมาตั้งสติซักพักว่าเราจะลงทุนน่ะไม่ใช่เก็งกำไร แล้วกับเข้าไปใหม่เลือกหุ้นแบบ VI ตอนนี้พอร์ตเขียวครับ เขียวแบบนั่งสบายใจจริงๆ คือแม้ตลาดหุ้นลงแต่พอร์ตแทบไม่รู้สึกอะไรจริงๆ (อาจเป็นเพราะมือใหม่เลยหาหุ้นตัวใหม่ลงไม่เจอ ตัวเก่าเลยไม่ได้ขาย) ส่วนตัวเก่าก็ถืออยู่ยังหาเหตุผลขายไม่ได้ครับ เลยไม่รู้จะขายทำไมถือกินปั่นผลดีกว่า ตอนนี้นั่งรอราคาดีๆสำหรับหุ้นบางตัว ถ้าลงถึงราคาที่ผมหมายปองแล้วค่อยว่ากันอีกทีครับ
จัดการความโลภกับความกลัวได้ มองตลาดหุ้นให้เป็นนายตลาด อะไรก็ดีขึ้นทันตาเห็นจริงๆครับ
จัดการความโลภกับความกลัวได้ มองตลาดหุ้นให้เป็นนายตลาด อะไรก็ดีขึ้นทันตาเห็นจริงๆครับ
สโลแกน ลงทุนอย่างมีความสุข
ลงทุนเหมือนร่วมทำธุรกิจกับเพื่อน แล้วคุณจะสนใจทั้งธุรกิจและผู้บริหาร
ฟัง Oppday ทาง Website http://www.dcs-digital.com/setweb/index.php
ลงทุนเหมือนร่วมทำธุรกิจกับเพื่อน แล้วคุณจะสนใจทั้งธุรกิจและผู้บริหาร
ฟัง Oppday ทาง Website http://www.dcs-digital.com/setweb/index.php
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3419
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 36
ผมว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่นักลงทุนส่วนใหญ่วิตกและกังวลอยู่(อาจจะมากกว่านี้ก็เป็นได้ถ้ายังลงไม่หยุด)
แน่นอนนักลงทุนแนวVI ก็อยู่ในข่ายนี้ไม่มากก็น้อย สิ่งที่เราควรตระหนักและวิเคราะห์ว่าข่าวร้ายต่างๆที่ประดังเข้ามามีผลอะไรกับตัวหุ้นที่เราถือหรือเปล่า? เช่น
1. ความกังวลเรื่อง Fed จะชะลอมาตรการ QE ในการประชุม 17-18 ก.ย.นี้
2. GDP ไทยใน 2Q2013 ของไทยออกมาน้อยกว่าคาด
3. นักลงทุนรอผลการประชุมสภาฯ เกี่ยวกับการพิจารณา พ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
4. ความไม่สงบทางการเมืองระหว่างซีเรีย และชาติพันธมิตรซึ่งนำโดยสหรัฐฯ
5. ตลาดหุ้นทั้งใน Emerging Market และ Developed Market ต่างปรับตัวลดลงค่าเงินในตลาดประเทศเกิดใหม่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สรอ. เนื่องจากเงินทุนไหลออก
ถ้าเราสามารถวิเคราะห์และสรุปผลกระทบต่างๆที่มีต่อตัวหุ้นที่เราลงทุนได้ ก็สามารถทำการตัดสินใจในแนวทางที่เป็นประโยชน์กับเราได้
ถามว่าชิวมั้ย ก็วิตกกังวลอยู่ แต่พอร์ทก็ยังแข็งแรงอยู่ ผมรอได้ ชีวิตมีอะไรอีกมากที่ทำให้เรามีความสุขได้ อย่าทำให้พอร์ตเงินลงทุนเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต ขอให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เติมเต็มทำให้ชีวิตสมบูรณ์และมีสีสันมากขึ้น
แน่นอนนักลงทุนแนวVI ก็อยู่ในข่ายนี้ไม่มากก็น้อย สิ่งที่เราควรตระหนักและวิเคราะห์ว่าข่าวร้ายต่างๆที่ประดังเข้ามามีผลอะไรกับตัวหุ้นที่เราถือหรือเปล่า? เช่น
1. ความกังวลเรื่อง Fed จะชะลอมาตรการ QE ในการประชุม 17-18 ก.ย.นี้
2. GDP ไทยใน 2Q2013 ของไทยออกมาน้อยกว่าคาด
3. นักลงทุนรอผลการประชุมสภาฯ เกี่ยวกับการพิจารณา พ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
4. ความไม่สงบทางการเมืองระหว่างซีเรีย และชาติพันธมิตรซึ่งนำโดยสหรัฐฯ
5. ตลาดหุ้นทั้งใน Emerging Market และ Developed Market ต่างปรับตัวลดลงค่าเงินในตลาดประเทศเกิดใหม่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สรอ. เนื่องจากเงินทุนไหลออก
ถ้าเราสามารถวิเคราะห์และสรุปผลกระทบต่างๆที่มีต่อตัวหุ้นที่เราลงทุนได้ ก็สามารถทำการตัดสินใจในแนวทางที่เป็นประโยชน์กับเราได้
ถามว่าชิวมั้ย ก็วิตกกังวลอยู่ แต่พอร์ทก็ยังแข็งแรงอยู่ ผมรอได้ ชีวิตมีอะไรอีกมากที่ทำให้เรามีความสุขได้ อย่าทำให้พอร์ตเงินลงทุนเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต ขอให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่เติมเต็มทำให้ชีวิตสมบูรณ์และมีสีสันมากขึ้น
ในเกมการเงิน อะไรที่ไม่รู้ คือ ความเสี่ยง
-
- Verified User
- โพสต์: 61
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 40
สำหรับผมเพิ่งเริ่มลงทุนได้ไม่นาน มาไม่ทัน subprime
เลยไม่รู้ว่าหนักๆ เป็นอย่างไร
จากช่วงต้นๆ ปี พอร์ตกำไรมากๆ จนปัจจุบัน กำไรเริ่มหาย (ยังไม่ขาดทุนนะครับ)
เพราะยังโชคดีครับ ที่ไปประมูลบ้านได้พอดี เลยจำเป็นต้องขายหุ้นบางส่วน
ตั้งแต่ต้นปี (ผมถือ 100% ครับ)
กำไรหายก็จริง แต่ผมกลับมองว่าเป็นโอกาสในการซื้อหุ้น หุ้นบางตัวลง
มาเยอะมาก และพื้นฐานกิจการเหมือนเดิม กำไรบางตัวดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ
สตอรี่ของหุ้นบางตัวก็ไม่เปลี่ยน ทุกอย่างเหมือนเดิม
เลยซื้อเพิ่ม ปรากฎ ยิ่งซื้อ ยิ่งลง อย่างกับซื้อของ lotus ครับ ถูกลงทุกวัน
ซื้อไปเรื่อยๆ จนหมดหน้าตัก ก็ยังลงต่อ ผมเลยว่าจะ switch โดยจะใช้วิธี
ดู upside เป็นหลัก แต่!! สุดท้ายก็ไม่ได้ทำครับ เพราะผมไม่รู้ว่าที่ผมประเมินมูลค่าไว้
จะแม่นยำขนาดไหน
ก่อนซื้อหุ้นผมจะให้ time frame ประมาณ 5 ปีครับ สบายๆ เหลืออีกตั้งหลายปี
"ดอยวันนี้ อาจเป็นตีนเขา ให้เขาปีนในวันหน้า"
สู้ๆ ครับ
เลยไม่รู้ว่าหนักๆ เป็นอย่างไร
จากช่วงต้นๆ ปี พอร์ตกำไรมากๆ จนปัจจุบัน กำไรเริ่มหาย (ยังไม่ขาดทุนนะครับ)
เพราะยังโชคดีครับ ที่ไปประมูลบ้านได้พอดี เลยจำเป็นต้องขายหุ้นบางส่วน
ตั้งแต่ต้นปี (ผมถือ 100% ครับ)
กำไรหายก็จริง แต่ผมกลับมองว่าเป็นโอกาสในการซื้อหุ้น หุ้นบางตัวลง
มาเยอะมาก และพื้นฐานกิจการเหมือนเดิม กำไรบางตัวดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ
สตอรี่ของหุ้นบางตัวก็ไม่เปลี่ยน ทุกอย่างเหมือนเดิม
เลยซื้อเพิ่ม ปรากฎ ยิ่งซื้อ ยิ่งลง อย่างกับซื้อของ lotus ครับ ถูกลงทุกวัน
ซื้อไปเรื่อยๆ จนหมดหน้าตัก ก็ยังลงต่อ ผมเลยว่าจะ switch โดยจะใช้วิธี
ดู upside เป็นหลัก แต่!! สุดท้ายก็ไม่ได้ทำครับ เพราะผมไม่รู้ว่าที่ผมประเมินมูลค่าไว้
จะแม่นยำขนาดไหน
ก่อนซื้อหุ้นผมจะให้ time frame ประมาณ 5 ปีครับ สบายๆ เหลืออีกตั้งหลายปี
"ดอยวันนี้ อาจเป็นตีนเขา ให้เขาปีนในวันหน้า"
สู้ๆ ครับ
Imagination is more important than knowledge... Albert Einstein!
-
- Verified User
- โพสต์: 111
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 43
ผมค่อนข้างมือใหม่นะครับ เริ่มลงทุนปีที่แล้ว มีหุ้นตัวหนึ่งถือแล้วได้กำไรประมาน 30-40% แต่ตอนนี้กลายเป็นขาดทุนเกือบ 20% แต่ก็จะลองอดทนถือต่อไปถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ซื้อหุ้นในราคาที่ถูกมากๆก็ตาม เพราะไม่อยากเสียเงินต้น รับปันผลไปพลางๆก่อน ^^
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 45
ทำใจครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 343
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 47
ยังทำใจได้ ซับไพร์มลงไป๖๐-๗๐% ยังกลับมาได้
ผมว่าเป็นโอกาสดีที่หุ้นบางตัวที่เราหมายตาเอาไว้ลงมารับ
ที่เคยอิจฉา เซียน อ่าน ศึกษา คำนวณตามไอดอลมานาน ถ้ายังมีพื้นฐาน กำไรดีอยู่
เราก็มีโอกาสกระโดดเกาะขาท่านไปด้วย แต่ต้องขอเงินภรรยาให้ได้ก่อน
ผมว่าเป็นโอกาสดีที่หุ้นบางตัวที่เราหมายตาเอาไว้ลงมารับ
ที่เคยอิจฉา เซียน อ่าน ศึกษา คำนวณตามไอดอลมานาน ถ้ายังมีพื้นฐาน กำไรดีอยู่
เราก็มีโอกาสกระโดดเกาะขาท่านไปด้วย แต่ต้องขอเงินภรรยาให้ได้ก่อน
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4366
- ผู้ติดตาม: 1
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 48
ผมอยากบอกว่า พฤติกรรมตลาดหลัง Subprime ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี่แหละ จะเป็นกับดักสำคัญที่ทำให้หลายคนเจ็บตัวกับรอบนี้ddoo7 เขียน:ยังทำใจได้ ซับไพร์มลงไป๖๐-๗๐% ยังกลับมาได้
ผมว่าเป็นโอกาสดีที่หุ้นบางตัวที่เราหมายตาเอาไว้ลงมารับ
ที่เคยอิจฉา เซียน อ่าน ศึกษา คำนวณตามไอดอลมานาน ถ้ายังมีพื้นฐาน กำไรดีอยู่
เราก็มีโอกาสกระโดดเกาะขาท่านไปด้วย แต่ต้องขอเงินภรรยาให้ได้ก่อน
ตอน Subprime ตลาดบ้านเราจริงๆ มีธุรกิจที่กระทบไม่มาก หลายธุรกิจราคาลดลงเนื่องจากจิตวิทยาและสภาพคล่องเป็นหลัก พอหลัง Subprime หุ้นจำนวนมากจึงสามารถกลับขึ้นมาได้แรงและเร็ว จากสาเหตุที่
1. กำไรธุรกิจไม่ได้กระทบแต่แรก เวลาตลาดหาย Panic จึงกลับสู่ความเป็นจริงโดยพื้นฐาน
2. PE ที่ตลาดยอมจ่าย (ขึ้นกับสภาพคล่องและจิตวิทยา) จากตอน Subprime ที่ PE โดนกดลงไปต่ำเกินจริงมากๆ บางตัวเหลือแค่ 5-6 เท่า หุ้นจึงดีดกลับได้เร็วเมื่อตลาดกลับสู่ภาวะปกติ
3. การอัดฉีดสภาพคล่องอย่างมากมาย พร้อมกดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำเป็นประวัติการณ์ ทั้ง 2 ปัจจัยนี้เป็นเหตุให้ PE ที่ตลาดยอมจ่ายไม่เพียงแต่กลับสู่ภาวะปกติเท่าน้้น แต่ยังทำให้ตลาดยอมบวกราคาจนเกินปกติอีกด้วย
ถามว่าหลังการปรับฐานรอบนี้เสร็จสิ้น มีปัจจัยอะไรเหมือนตอน Subprime เหรอครับถึงคิดว่าราคาหุ้นจะกลับขึ้นไปได้ง่ายๆเช่นตอนนั้น
- koh
- Verified User
- โพสต์: 273
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 49
ระวังหน่อยนะครับ ถ้าเริ่ม time frame ในปีที่ พีค พอดีRATTAWIT เขียน: ก่อนซื้อหุ้นผมจะให้ time frame ประมาณ 5 ปีครับ สบายๆ เหลืออีกตั้งหลายปี
"ดอยวันนี้ อาจเป็นตีนเขา ให้เขาปีนในวันหน้า"
สู้ๆ ครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 343
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 50
ผมก็ไม่รู้หรอก ราคาหุ้นจะขึ้นไปเร็วหรือช้าดำ เขียน:ผมอยากบอกว่า พฤติกรรมตลาดหลัง Subprime ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี่แหละ จะเป็นกับดักสำคัญที่ทำให้หลายคนเจ็บตัวกับรอบนี้ddoo7 เขียน:ยังทำใจได้ ซับไพร์มลงไป๖๐-๗๐% ยังกลับมาได้
ผมว่าเป็นโอกาสดีที่หุ้นบางตัวที่เราหมายตาเอาไว้ลงมารับ
ที่เคยอิจฉา เซียน อ่าน ศึกษา คำนวณตามไอดอลมานาน ถ้ายังมีพื้นฐาน กำไรดีอยู่
เราก็มีโอกาสกระโดดเกาะขาท่านไปด้วย แต่ต้องขอเงินภรรยาให้ได้ก่อน
ตอน Subprime ตลาดบ้านเราจริงๆ มีธุรกิจที่กระทบไม่มาก หลายธุรกิจราคาลดลงเนื่องจากจิตวิทยาและสภาพคล่องเป็นหลัก พอหลัง Subprime หุ้นจำนวนมากจึงสามารถกลับขึ้นมาได้แรงและเร็ว จากสาเหตุที่
1. กำไรธุรกิจไม่ได้กระทบแต่แรก เวลาตลาดหาย Panic จึงกลับสู่ความเป็นจริงโดยพื้นฐาน
2. PE ที่ตลาดยอมจ่าย (ขึ้นกับสภาพคล่องและจิตวิทยา) จากตอน Subprime ที่ PE โดนกดลงไปต่ำเกินจริงมากๆ บางตัวเหลือแค่ 5-6 เท่า หุ้นจึงดีดกลับได้เร็วเมื่อตลาดกลับสู่ภาวะปกติ
3. การอัดฉีดสภาพคล่องอย่างมากมาย พร้อมกดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำเป็นประวัติการณ์ ทั้ง 2 ปัจจัยนี้เป็นเหตุให้ PE ที่ตลาดยอมจ่ายไม่เพียงแต่กลับสู่ภาวะปกติเท่าน้้น แต่ยังทำให้ตลาดยอมบวกราคาจนเกินปกติอีกด้วย
ถามว่าหลังการปรับฐานรอบนี้เสร็จสิ้น มีปัจจัยอะไรเหมือนตอน Subprime เหรอครับถึงคิดว่าราคาหุ้นจะกลับขึ้นไปได้ง่ายๆเช่นตอนนั้น
ผมขอซื้อหุ้นดี ราคาถูกเท่านั้น
ผมว่าต้องมอง positive เพราะเราลงทุนหุ้น 100% อยู่แล้ว
เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นยิ่งเป็นโอกาสที่ดีเพราะเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นคนก็จับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
ถ้าเราพอมีเงิน เราก็ซื้อหุ้นเพิ่มเข้าไป ยิ่งถูกกว่าเดิม ยิ่งเป็นโอกาสของเรา ถ้าพื้นฐานยัง ไม่เปลี่ยน
-
- Verified User
- โพสต์: 143
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 51
ตอนนี้รู้สึกไม่ค่อย ชิวๆ แล้วครับ
เหมือนสิ่งนั้นได้ผ่านไปแล้ว (โอกาสหรือวิกฤต แล้วแต่คนจะมอง)
คงต้องรอ และเตรียมตัวให้ดีขึ้น เมื่อมันผ่านมาอีกครั้ง ในรอบหน้า
3-4 อาทิตย์ก่อน
วางซ้าย....ได้ของ
ตอนนี้
วางซ้าย....แต่ไม่ได้ของแล้วอ่ะ
ถึงได้ก็หรอมแหรมเหลือเกิน
พอร์ตกลับมาเขียวแล้วครับ แม้ยังไม่สดใสเหมือนเดิม
แต่ยังอยากได้ของที่ราคาตอนนั้นอีกง่ะ
เหมือนสิ่งนั้นได้ผ่านไปแล้ว (โอกาสหรือวิกฤต แล้วแต่คนจะมอง)
คงต้องรอ และเตรียมตัวให้ดีขึ้น เมื่อมันผ่านมาอีกครั้ง ในรอบหน้า
3-4 อาทิตย์ก่อน
วางซ้าย....ได้ของ
ตอนนี้
วางซ้าย....แต่ไม่ได้ของแล้วอ่ะ
ถึงได้ก็หรอมแหรมเหลือเกิน
พอร์ตกลับมาเขียวแล้วครับ แม้ยังไม่สดใสเหมือนเดิม
แต่ยังอยากได้ของที่ราคาตอนนั้นอีกง่ะ
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4366
- ผู้ติดตาม: 1
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 52
ไม่แน่นี่ครับ อีกสักพักอาจได้ถูกกว่านั้นอีกก็ได้ ใครจะรู้SomeThingCool เขียน:ตอนนี้รู้สึกไม่ค่อย ชิวๆ แล้วครับ
เหมือนสิ่งนั้นได้ผ่านไปแล้ว (โอกาสหรือวิกฤต แล้วแต่คนจะมอง)
คงต้องรอ และเตรียมตัวให้ดีขึ้น เมื่อมันผ่านมาอีกครั้ง ในรอบหน้า
3-4 อาทิตย์ก่อน
วางซ้าย....ได้ของ
ตอนนี้
วางซ้าย....แต่ไม่ได้ของแล้วอ่ะ
ถึงได้ก็หรอมแหรมเหลือเกิน
พอร์ตกลับมาเขียวแล้วครับ แม้ยังไม่สดใสเหมือนเดิม
แต่ยังอยากได้ของที่ราคาตอนนั้นอีกง่ะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 51
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 53
ช่วงนี้ผมเหนื่อยกับการต้องมาประเมินมูลค่ากิจการ ทำการวิเคราะห์ เปรียบเทียบ Risk/Reward ในพอร์ตพอสมควร เพราะ การ Switch หุ้นระหว่างตลาดผันผวนนี่ถือว่าเป็นศาสตร์ขั้นสูงในการลงทุน ระดับความยากนี่มากกว่า Stock Selection และ Portfolio Management ตอนที่ตลาด stable คนละเรื่องเลย
ตามปกติเวลาเรา Valuation เราจะทำการประเมินมูลค่ากิจการในหลายๆ รูปแบบ มอง P/E บ้าง EV/EBITDA บ้าน มอง Yield บ้าง DCF บ้าง Owner Earnings บ้าง มองในมุมลงทุนระยะยาวบ้าง มองในมุมเก็งกำไรบ้าง ซึ่งแค่ทำตัวเดียวก็เหนื่อยแล้ว
ทีนี้พอเรามีหุ้นที่เราติดตามอยู่หลายๆ ตัว คุณภาพกิจการต่างกัน Valuation Model ต่างกัน เวลาจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง เราต้องทำการเปรียบเทียบหุ้นในพอร์ตของเรา โดยหุ้นตัวหนึ่งอาจจะมี Valuation Model ที่เราถนัดๆ สัก 3 Model แล้ว ก็เอาคุณภาพกิจการมา Weight เปรียบเทียบ Upside, Downside, Yield, ปันผล ความสบายใจ กำหนดออกมาว่าราคาไหนเราสนใจ อยากจะมี Position สักเท่าไหร่ ถ้าปรับพอร์ตเป็นแบบใหม่แล้ว Expected Yield หรือ Expected Upside เป็นอย่างไร... มันคือการมองกิจการหลายๆ กิจการพร้อมๆ กัน เทียบ Risk/Reward พร้อมๆ กัน โดยที่ราคายังไม่นิ่ง ในมุมมองหลายๆ มุม เลยทำให้ยากมาก
ผมว่า รอให้ตลาดนิ่งๆ สะเด็ดน้ำๆ มานั่งวิเคราะห์ เอาจังหวะที่เราเห็นชัดๆ เด็ดๆ แล้วค่อยปรับพอร์ตน่าจะง่ายกว่านะครับ เวลาตลาด Misprice หุ้นตัวหนึ่ง จะ Misprice อยู่นานระดับเป็นเดือนครับ ช่วงนี้รักษาใจตัวเองไม่ให้ซัดส่ายไปตามตลาดได้ก็เก่งแล้วครับ แต่ถ้าเล็งๆ อะไรไว้อยู่แล้ว เห็นอะไรที่ชัดเจนมาก จะหวดเลยก็ไม่ว่ากัน ฮาๆ[/quote]
เห็นด้วยกับคุณ picatos มากครับ
ผมก็ใช้วิธีเปรียบเทียบ Risk/Reward profile เหมือนกัน แต่มุมมองผมอาจจะแตกต่างจาก vi ส่วนใหญ่ คือ
1. ผมทำนายว่าดัชนีหุ้นจะลงต่อ อาจจะไป 1200 แต่ผมไม่ถือเงินสด เพราะดัชนีไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน (และผลประกอบการ) ของบริษัทที่ผมถืออยู่ ดัชนีจะมีผลกับเฉพาะโบรคเกอร์หุ้นเท่านั้นแหละ
2. ผมชอบ Portfolio theory มาก และเน้นการ diversify แต่พอประมาณ (5-10 หุ้น) ปีนี้ผมมีหุ้นถ่านหินที่ลงหนักกว่าตลาด แต่ผลจากการ Diversity ก็ยังช่วยให้ดีกว่าตลาดอยู่ดี
3. ผมปรับพอร์ทหลังประกาศงบ ทุก ๆ 3 เดือน หุ้นแต่ละตัวถือยาวไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 3 ปีขึ้นไป
4. ตลาดผันผวน เป็นช่วงที่คนฉลาดทำเงิน แต่อาจต้องทำการบ้านหนักเพิ่มขึ้นสักนิด ผมชอบแนวคิดของ Contrarian investor เช่น John Templeton และ David Dreman กล้ารับหุ้นที่ลงมากกว่าตลาดเยอะ ๆ แค่ต้องทำการบ้านหนักหน่อย เพราะหุ้นที่ลงแบบนี้ 9 ใน 10 พื้นฐานแย่จริง สมควรลงแล้ว แต่ต้องหา 1/10 ที่ลงแบบไม่มีเหตุผลให้เจอ เมื่อเจอแล้วก็กล้าซื้อก่อนใคร ติดดอยระยะสั้นแล้วผลตอบแทนเยอะและเร็ว [ไม่แนะนำคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ วิธีนี้ต้องระวังมาก ๆ ผมก็ผิดเป็น บางทีก็เจ็บ]
5. ถึงจะไม่ดูดัชนี แต่ผมดู Macroeconomics trend ตอนนี้นักลงทุนในประเทศส่วนมากยังไม่เข้าใจ ผมติดตาม Exchange rate, ราคา Commodity (เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกิจการ - ไม่ดูทองคำ), นโยบายการเงินการคลังของประเทศใหญ่ (QE อเมริกา ญี่ปุ่น, แนวโน้ม Carry trade ฯลฯ) และ business cycle ของแต่ละประเทศ
6. หากิจการที่ความความเสี่ยงน้อย (เปรียบเทียบจาก risk/reward profile) ถ้าคิดว่าเศรษฐกิจประเทศไทยมีความเสี่ยง ก็ซื้อบริษัทที่มีธุรกิจส่งออก หรือ commodity ที่อยู่ในวัฎจักรขาขึ้น ได้ประโยชจ์จากค่าเงินบาทอ่อน หรือ ธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ เท่านี้ก็ลดความเสี่ยงไปได้มากแล้วครับ
เวลาทำการบ้าน ผมไม่เปิด ticker นะครับ เวลาราคาหุ้นขึ้นลงระหว่างดูงบการเงินมันทำให้ปวดหัวพิลึก ผมดูราคาหุ้นเฉพาะหลังทำการบ้านเสร็จแล้วเท่านั้น
ตามปกติเวลาเรา Valuation เราจะทำการประเมินมูลค่ากิจการในหลายๆ รูปแบบ มอง P/E บ้าง EV/EBITDA บ้าน มอง Yield บ้าง DCF บ้าง Owner Earnings บ้าง มองในมุมลงทุนระยะยาวบ้าง มองในมุมเก็งกำไรบ้าง ซึ่งแค่ทำตัวเดียวก็เหนื่อยแล้ว
ทีนี้พอเรามีหุ้นที่เราติดตามอยู่หลายๆ ตัว คุณภาพกิจการต่างกัน Valuation Model ต่างกัน เวลาจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง เราต้องทำการเปรียบเทียบหุ้นในพอร์ตของเรา โดยหุ้นตัวหนึ่งอาจจะมี Valuation Model ที่เราถนัดๆ สัก 3 Model แล้ว ก็เอาคุณภาพกิจการมา Weight เปรียบเทียบ Upside, Downside, Yield, ปันผล ความสบายใจ กำหนดออกมาว่าราคาไหนเราสนใจ อยากจะมี Position สักเท่าไหร่ ถ้าปรับพอร์ตเป็นแบบใหม่แล้ว Expected Yield หรือ Expected Upside เป็นอย่างไร... มันคือการมองกิจการหลายๆ กิจการพร้อมๆ กัน เทียบ Risk/Reward พร้อมๆ กัน โดยที่ราคายังไม่นิ่ง ในมุมมองหลายๆ มุม เลยทำให้ยากมาก
ผมว่า รอให้ตลาดนิ่งๆ สะเด็ดน้ำๆ มานั่งวิเคราะห์ เอาจังหวะที่เราเห็นชัดๆ เด็ดๆ แล้วค่อยปรับพอร์ตน่าจะง่ายกว่านะครับ เวลาตลาด Misprice หุ้นตัวหนึ่ง จะ Misprice อยู่นานระดับเป็นเดือนครับ ช่วงนี้รักษาใจตัวเองไม่ให้ซัดส่ายไปตามตลาดได้ก็เก่งแล้วครับ แต่ถ้าเล็งๆ อะไรไว้อยู่แล้ว เห็นอะไรที่ชัดเจนมาก จะหวดเลยก็ไม่ว่ากัน ฮาๆ[/quote]
เห็นด้วยกับคุณ picatos มากครับ
ผมก็ใช้วิธีเปรียบเทียบ Risk/Reward profile เหมือนกัน แต่มุมมองผมอาจจะแตกต่างจาก vi ส่วนใหญ่ คือ
1. ผมทำนายว่าดัชนีหุ้นจะลงต่อ อาจจะไป 1200 แต่ผมไม่ถือเงินสด เพราะดัชนีไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน (และผลประกอบการ) ของบริษัทที่ผมถืออยู่ ดัชนีจะมีผลกับเฉพาะโบรคเกอร์หุ้นเท่านั้นแหละ
2. ผมชอบ Portfolio theory มาก และเน้นการ diversify แต่พอประมาณ (5-10 หุ้น) ปีนี้ผมมีหุ้นถ่านหินที่ลงหนักกว่าตลาด แต่ผลจากการ Diversity ก็ยังช่วยให้ดีกว่าตลาดอยู่ดี
3. ผมปรับพอร์ทหลังประกาศงบ ทุก ๆ 3 เดือน หุ้นแต่ละตัวถือยาวไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 3 ปีขึ้นไป
4. ตลาดผันผวน เป็นช่วงที่คนฉลาดทำเงิน แต่อาจต้องทำการบ้านหนักเพิ่มขึ้นสักนิด ผมชอบแนวคิดของ Contrarian investor เช่น John Templeton และ David Dreman กล้ารับหุ้นที่ลงมากกว่าตลาดเยอะ ๆ แค่ต้องทำการบ้านหนักหน่อย เพราะหุ้นที่ลงแบบนี้ 9 ใน 10 พื้นฐานแย่จริง สมควรลงแล้ว แต่ต้องหา 1/10 ที่ลงแบบไม่มีเหตุผลให้เจอ เมื่อเจอแล้วก็กล้าซื้อก่อนใคร ติดดอยระยะสั้นแล้วผลตอบแทนเยอะและเร็ว [ไม่แนะนำคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ วิธีนี้ต้องระวังมาก ๆ ผมก็ผิดเป็น บางทีก็เจ็บ]
5. ถึงจะไม่ดูดัชนี แต่ผมดู Macroeconomics trend ตอนนี้นักลงทุนในประเทศส่วนมากยังไม่เข้าใจ ผมติดตาม Exchange rate, ราคา Commodity (เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกิจการ - ไม่ดูทองคำ), นโยบายการเงินการคลังของประเทศใหญ่ (QE อเมริกา ญี่ปุ่น, แนวโน้ม Carry trade ฯลฯ) และ business cycle ของแต่ละประเทศ
6. หากิจการที่ความความเสี่ยงน้อย (เปรียบเทียบจาก risk/reward profile) ถ้าคิดว่าเศรษฐกิจประเทศไทยมีความเสี่ยง ก็ซื้อบริษัทที่มีธุรกิจส่งออก หรือ commodity ที่อยู่ในวัฎจักรขาขึ้น ได้ประโยชจ์จากค่าเงินบาทอ่อน หรือ ธุรกิจส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ เท่านี้ก็ลดความเสี่ยงไปได้มากแล้วครับ
เวลาทำการบ้าน ผมไม่เปิด ticker นะครับ เวลาราคาหุ้นขึ้นลงระหว่างดูงบการเงินมันทำให้ปวดหัวพิลึก ผมดูราคาหุ้นเฉพาะหลังทำการบ้านเสร็จแล้วเท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 6
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 55
ขอบคุณ Mr Market เป็นอย่างสูง...
-
- Verified User
- โพสต์: 168
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 56
VI คนที่ ถือหุ้นยาวจริง พอร์ตไม่น่าจะขาดทุนนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 63
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 58
ผมขอขัดนิดส์นึงนะครับ ผมกลับมองว่าคำว่าpicatos เขียน: มีคนบอกว่า Cash is King แต่ผมคิดว่า ทัศนคติที่ถูก ต่างหาก คือ King ที่แท้จริง
"ทัศนคติที่ถูก" เป็นเพียงส่วนนึงในคำว่า "Cash" ในความหมายของ "Cash is King" ครับ
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 59
ขอบคุณครับwoovi เขียน:ผมขอขัดนิดส์นึงนะครับ ผมกลับมองว่าคำว่าpicatos เขียน: มีคนบอกว่า Cash is King แต่ผมคิดว่า ทัศนคติที่ถูก ต่างหาก คือ King ที่แท้จริง
"ทัศนคติที่ถูก" เป็นเพียงส่วนนึงในคำว่า "Cash" ในความหมายของ "Cash is King" ครับ
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 156
- ผู้ติดตาม: 0
Re: พอร์ตจากกำไรกลายเป็นขาดทุน vi ยังชิวๆกันรึเปล่าครับ
โพสต์ที่ 60
ผมได้วิธีบริหารพอร์ตจากคุณPicatos (ขอบคุณครับ) เมื่อกลางเดือนกันยายน
ผมได้รับการทะลายกำแพงVIจาการพูดคุยกะประธานคุณโจ ลูกอีสาน (ขอบคุณครับ) เมื่อปลายเดือนกันยายน
รุ่งขึ้นรีบมาดูธุรกิจเดิมที่ถือหุ้นอยู่ เปรียบเทียบกับธุรกิจใหม่ที่ขุดมาได้ ประเมินความเสี่ยง,ความสามารถทำกำไร,ผลตอบแทนจากกิจการ
ธุรกิจไหนคุ้มค่าการลงทุนกว่ากัน ก็ปรับ ขยับ สัดส่วนให้พร้อมสำหรับการฝ่าคลื่นลมมรสุมเศรษฐกิจระลอกใหม่
ผมได้รับการทะลายกำแพงVIจาการพูดคุยกะประธานคุณโจ ลูกอีสาน (ขอบคุณครับ) เมื่อปลายเดือนกันยายน
รุ่งขึ้นรีบมาดูธุรกิจเดิมที่ถือหุ้นอยู่ เปรียบเทียบกับธุรกิจใหม่ที่ขุดมาได้ ประเมินความเสี่ยง,ความสามารถทำกำไร,ผลตอบแทนจากกิจการ
ธุรกิจไหนคุ้มค่าการลงทุนกว่ากัน ก็ปรับ ขยับ สัดส่วนให้พร้อมสำหรับการฝ่าคลื่นลมมรสุมเศรษฐกิจระลอกใหม่
แรงผลักดันราคาหุ้น
1.โดยปัจจัยพื้นฐานความก้าวหน้าของกิจการ
2.จากปัจจัยทางด้านอารมณ์ของนักลงทุนในตลาด
การเข้าใจแรงผลักดันประเด็นแรก การลงทุนก็ประสบความสำเร็จ
แต่การเข้าใจทั้งสองประเด็น จะทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จยิ่งกว่า by โจลูกอีสาน
1.โดยปัจจัยพื้นฐานความก้าวหน้าของกิจการ
2.จากปัจจัยทางด้านอารมณ์ของนักลงทุนในตลาด
การเข้าใจแรงผลักดันประเด็นแรก การลงทุนก็ประสบความสำเร็จ
แต่การเข้าใจทั้งสองประเด็น จะทำให้การลงทุนประสบความสำเร็จยิ่งกว่า by โจลูกอีสาน