เสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 217
- ผู้ติดตาม: 0
เสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF
โพสต์ที่ 1
ผมว่าตลาดบ้านเราเสพติด LTF น่ะ
เห็นสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (สธท.) แถลงแผนการดำเนินงานปี 2556 มีนโยบายในการดำเนินงานเสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF ให้แก่ผู้ลงทุนผ่านกองทุนหุ้นระยะยาว (Long term Equity Fund : LTF) จากเดิมที่กำหนดให้สิทธิประโยชน์ถึง 2559 เท่านั้น
ไม่ทราบว่า สธท. กล่อม "กิตติรัตน์" ให้ของขวัญยอดหญ้าไปถึงไหนแล้ว
http://www.fetco.or.th/index.php/2012-0 ... arket.html
เห็นสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (สธท.) แถลงแผนการดำเนินงานปี 2556 มีนโยบายในการดำเนินงานเสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF ให้แก่ผู้ลงทุนผ่านกองทุนหุ้นระยะยาว (Long term Equity Fund : LTF) จากเดิมที่กำหนดให้สิทธิประโยชน์ถึง 2559 เท่านั้น
ไม่ทราบว่า สธท. กล่อม "กิตติรัตน์" ให้ของขวัญยอดหญ้าไปถึงไหนแล้ว
http://www.fetco.or.th/index.php/2012-0 ... arket.html
- vim
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2770
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF
โพสต์ที่ 3
จากเดิมเราต้องการสนับสนุนการพัฒนาของตลาดทุนไทยให้แข่งกับประเทศในระแวกบ้านได้ เลยมีการตั้ง LTF ขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการลงทุนระยะยาว ตราบใดที่เรายังมีหวังในการเป็นฐานการลงทุนใน CLMV ผมก็คิดว่าไม่น่ามีเหตุผลไหนให้มายกเลิก LTF นะครับ
ส่วน RMF นั้นถ้าดูจากแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุแล้ว ในอนาคตอันใกล้นี้สัดส่วนคนสูงอายุในไทยจะมากขึ้น เงินกองทุนสามารถเป็นหลักประกันในคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุได้ รัฐมีแต่ต้องสนับสนุนเพิ่มอีก
ถ้าจะมีการปรับ ผมอยากให้ปรับให้มีวิธีการนับปีของ LTF ให้เหมือน RMF มากกว่า เพราะรูปแบบปัจจุบันมันทำให้คนมักไปซื้อกองทุนกันมากๆตอนปลายปี แทนที่จะกระจายกันทั่วปีแบบการลงทุนปกติ
ส่วน RMF นั้นถ้าดูจากแนวโน้มสังคมผู้สูงอายุแล้ว ในอนาคตอันใกล้นี้สัดส่วนคนสูงอายุในไทยจะมากขึ้น เงินกองทุนสามารถเป็นหลักประกันในคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุได้ รัฐมีแต่ต้องสนับสนุนเพิ่มอีก
ถ้าจะมีการปรับ ผมอยากให้ปรับให้มีวิธีการนับปีของ LTF ให้เหมือน RMF มากกว่า เพราะรูปแบบปัจจุบันมันทำให้คนมักไปซื้อกองทุนกันมากๆตอนปลายปี แทนที่จะกระจายกันทั่วปีแบบการลงทุนปกติ
Vi IMrovised
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF
โพสต์ที่ 4
Retirement fund เป็นสิ่งที่สำคัญมากนะครับ
น้องหลายคนยังไม่แก่จะรู้สึกว่าเฮ้ยนานจัง
แต่สำหรับคนที่แก่ไปแล้วจะรู้สึกว่า
เฮ้ยแป๊ปเดียวเอง
น้องหลายคนยังไม่แก่จะรู้สึกว่าเฮ้ยนานจัง
แต่สำหรับคนที่แก่ไปแล้วจะรู้สึกว่า
เฮ้ยแป๊ปเดียวเอง
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- neuhiran
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 817
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF
โพสต์ที่ 5
Nevercry.boy เขียน:Retirement fund เป็นสิ่งที่สำคัญมากนะครับ
น้องหลายคนยังไม่แก่จะรู้สึกว่าเฮ้ยนานจัง
แต่สำหรับคนที่แก่ไปแล้วจะรู้สึกว่า
เฮ้ยแป๊ปเดียวเอง
ยืนยันด้วยคน น้องๆที่ยังหนุ่มยังสาว อย่าประมาทนะครับ มันมาเร็วมาก เมื่อมองย้อนไป จะพูดว่า "รู้งี้ รู้งี้ รู้งี้ รู้งี้ รู้งี้ "
- anubist
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1373
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF
โพสต์ที่ 7
หากLTFไม่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ทางเลือกไม่ได้มีแค่ไม่ซื้อนะครับ
เงินอาจโยกไปกองทุนรวมแบบทั่วไป
RMF เนื่องจากมนุษย์เงินเดือนทั่วไปไม่ได้มีรายได้สูง ไม่สามารถซื้อLTF RMFจนเต็มสิทธิ์ทั้งคู่
และด้วยระเบียบขายคืนได้ใน5ปีปฏิทิน ทำให้สามารถขายคืนส่วนที่ครบกำหนด
มาวนซื้อใหม่เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อีกรอบ
บางครั้งหุ้นผันผวนก็เพราะมีการซื้อและขายคืนLTFนี่แหละครับ
ฉนั้นถ้าจะยกเลิกก็ได้ แต่ช่วยขยายRMFเป็น30%ของรายได้ด้วยได้มั้ย
เงินอาจโยกไปกองทุนรวมแบบทั่วไป
RMF เนื่องจากมนุษย์เงินเดือนทั่วไปไม่ได้มีรายได้สูง ไม่สามารถซื้อLTF RMFจนเต็มสิทธิ์ทั้งคู่
และด้วยระเบียบขายคืนได้ใน5ปีปฏิทิน ทำให้สามารถขายคืนส่วนที่ครบกำหนด
มาวนซื้อใหม่เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อีกรอบ
บางครั้งหุ้นผันผวนก็เพราะมีการซื้อและขายคืนLTFนี่แหละครับ
ฉนั้นถ้าจะยกเลิกก็ได้ แต่ช่วยขยายRMFเป็น30%ของรายได้ด้วยได้มั้ย
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF
โพสต์ที่ 8
ส่วนตัวนะครับ ถ้าคลังยกเลิกสิทธิทางภาษีของ LTF ผมก็ไม่ซื้อ LTF ครับ
แต่ยังลงทุนใน RMF อยู่
แต่ยังลงทุนใน RMF อยู่
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- leaderinshadow
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF
โพสต์ที่ 10
ถึงแม้ LTF จะขายคืนเมื่อครบ 5 ปี แล้วเอามาซื้อใหม่ได้
แต่โดยธรรมชาติ คนเรามักจะมีรายได้มากขึ้นนะครับ ก็ได้โควต้าซื้อ LTF มากขึ้นด้วย
สรุป คือ ต้องใส้เงินเพิ่มอยู่ดี เพราะช่วงแรกๆที่รายได้ยังน้อย ก็ได้สิทธิ์ซื้อ LTF น้อยด้วย
แต่บางคนก็ถือลืมก็มี เพราะขายไปก็ไม่รู้เอาไปทำอะไร ก็ถือต่อไป
พวกคนรายได้สูงๆ ผมเห็นหลายคนนะ ที่ถือลืมไปเลย
แต่โดยธรรมชาติ คนเรามักจะมีรายได้มากขึ้นนะครับ ก็ได้โควต้าซื้อ LTF มากขึ้นด้วย
สรุป คือ ต้องใส้เงินเพิ่มอยู่ดี เพราะช่วงแรกๆที่รายได้ยังน้อย ก็ได้สิทธิ์ซื้อ LTF น้อยด้วย
แต่บางคนก็ถือลืมก็มี เพราะขายไปก็ไม่รู้เอาไปทำอะไร ก็ถือต่อไป
พวกคนรายได้สูงๆ ผมเห็นหลายคนนะ ที่ถือลืมไปเลย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 217
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เสนอขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF
โพสต์ที่ 11
ผู้บริหารกองทุน ค้าน ยกเลิกภาษี LTF – RMFวันเผยแพร่ | |
ผู้บริหารธุรกิจกองทุน ไม่เห็นด้วย กับแนวคิดของกรมสรรพากร ในการยกเลิกภาษี LTF และ RMF
http://www.moneychannel.co.th/index.php ... 9-ab8.html
ระยะเวลากว่า 10 ปีที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือแอลทีเอฟ และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรืออาร์เอ็มเอฟ สามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน พร้อมทั้งสิทธิประโยชน์ในการนำจำนวนเงินที่ซื้อกองทุน มาคำนวนเพื่อหักลดหย่อยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามวัตถุประสงค์ของภาครัฐที่ต้องการจูงใจ ให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดทุนมากขึ้น
ซึ่งปัจจุบัน ทั้ง 2 กองทุน มีเงินลงทุนรวมกันทั้งสิ้น กว่า 3 แสน 4 หมื่นล้านบาท
แต่จากการเปิดเผยล่าสุดของ อธิบดีกรมสรรพากร นายสุทธิชัย สังขมณี ระบุว่า สิทธิลดหย่อนภาษีในกองทุน LTF และ RMF เป็นหนึ่งใน 20 รายการ ที่กรมสรรพากร จะหยิบขึ้นมาทบทวนว่าจะยกเลิกหรือไม่ เพื่อเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บภาษี
โดยในส่วนของกองทุนแอลทีเอฟนั้น ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีได้ ไปจนถึงปี 2559 ก่อนจะไปสิ้นสุดหลังจากนั้นอีก 5 ปี หรือในปี 2564 ตามเงื่อนไขที่ผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนเป็นระยะเวลา 5 ปีปฏิทิน ในขณะที่อาร์เอ็มเอฟ ไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการใช้สิทธิเอาไว้ แต่ผู้ถือหน่วยจะสามารถไถ่ถอนได้ ก็ต่อเมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
จากการสอบถามผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการยกเลิกการให้สิทธิลดหย่อนภาษี เนื่องจากที่ผ่านมานักลงทุนเริ่มรู้จักกองทุนประหยักภาษีมากขึ้น ประกอบกับเงินลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟเอง ถือเป็นแรงซื้อสำคัญในประเทศ ที่มีส่วนทำให้ตลาดไม่ผันผวนอีกด้วย
ผู้บริหารกองทุนยังบอกด้วยว่า ในขณะที่นักลงทุนเริ่มรู้จักมากขึ้น แต่ภาครัฐกลับจะมายกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่จูงใจนักลงทุน ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ซึ่งหากเทียบกับต่างประเทศ โดยเฉพาะในมาเลเซีย รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการออมระยะยาวเพื่อให้ประชาชนมีเงินใช้หลังเกษียณ โดยสามารถใช้สิทธิลดหย่อยภาษีจากการออมได้สูงสุดถึง 90% ซึ่งต่างกับประเทศไทย ที่สามารถลดหย่อนได้สูงสุดเพียง 30% เท่านั้น
หลังจากนี้ คงเป็นหน้าที่ของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน หรือสมาคมบลจ. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ต้องผลักดันให้ภาครัฐเห็นถึงข้อดีเหล่านี้ เพื่อเปิดโอกาศให้นักลงทุน มีช่องทางในการออมเงินนอกเหลือจากการฝากเงินเพียงอย่างเดียว
ผู้บริหารธุรกิจกองทุน ไม่เห็นด้วย กับแนวคิดของกรมสรรพากร ในการยกเลิกภาษี LTF และ RMF
http://www.moneychannel.co.th/index.php ... 9-ab8.html
ระยะเวลากว่า 10 ปีที่กองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือแอลทีเอฟ และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรืออาร์เอ็มเอฟ สามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน พร้อมทั้งสิทธิประโยชน์ในการนำจำนวนเงินที่ซื้อกองทุน มาคำนวนเพื่อหักลดหย่อยภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามวัตถุประสงค์ของภาครัฐที่ต้องการจูงใจ ให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดทุนมากขึ้น
ซึ่งปัจจุบัน ทั้ง 2 กองทุน มีเงินลงทุนรวมกันทั้งสิ้น กว่า 3 แสน 4 หมื่นล้านบาท
แต่จากการเปิดเผยล่าสุดของ อธิบดีกรมสรรพากร นายสุทธิชัย สังขมณี ระบุว่า สิทธิลดหย่อนภาษีในกองทุน LTF และ RMF เป็นหนึ่งใน 20 รายการ ที่กรมสรรพากร จะหยิบขึ้นมาทบทวนว่าจะยกเลิกหรือไม่ เพื่อเพิ่มรายได้จากการจัดเก็บภาษี
โดยในส่วนของกองทุนแอลทีเอฟนั้น ผู้ลงทุนสามารถใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีได้ ไปจนถึงปี 2559 ก่อนจะไปสิ้นสุดหลังจากนั้นอีก 5 ปี หรือในปี 2564 ตามเงื่อนไขที่ผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนเป็นระยะเวลา 5 ปีปฏิทิน ในขณะที่อาร์เอ็มเอฟ ไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการใช้สิทธิเอาไว้ แต่ผู้ถือหน่วยจะสามารถไถ่ถอนได้ ก็ต่อเมื่อมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
จากการสอบถามผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการยกเลิกการให้สิทธิลดหย่อนภาษี เนื่องจากที่ผ่านมานักลงทุนเริ่มรู้จักกองทุนประหยักภาษีมากขึ้น ประกอบกับเงินลงทุนในกองทุนแอลทีเอฟเอง ถือเป็นแรงซื้อสำคัญในประเทศ ที่มีส่วนทำให้ตลาดไม่ผันผวนอีกด้วย
ผู้บริหารกองทุนยังบอกด้วยว่า ในขณะที่นักลงทุนเริ่มรู้จักมากขึ้น แต่ภาครัฐกลับจะมายกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่จูงใจนักลงทุน ถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ซึ่งหากเทียบกับต่างประเทศ โดยเฉพาะในมาเลเซีย รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการออมระยะยาวเพื่อให้ประชาชนมีเงินใช้หลังเกษียณ โดยสามารถใช้สิทธิลดหย่อยภาษีจากการออมได้สูงสุดถึง 90% ซึ่งต่างกับประเทศไทย ที่สามารถลดหย่อนได้สูงสุดเพียง 30% เท่านั้น
หลังจากนี้ คงเป็นหน้าที่ของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน หรือสมาคมบลจ. และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ต้องผลักดันให้ภาครัฐเห็นถึงข้อดีเหล่านี้ เพื่อเปิดโอกาศให้นักลงทุน มีช่องทางในการออมเงินนอกเหลือจากการฝากเงินเพียงอย่างเดียว