Temasek
-
- Verified User
- โพสต์: 1724
- ผู้ติดตาม: 1
Temasek
โพสต์ที่ 1
ขออนุญาติแปะบทความเกี่ยวกับกองทุน Temasek ครับ จาก Facebook SinthornVista ครับ ขอบคุณเจ้าของบทความและขออนุญาตินำมาแปะครับ
SinthornVista
Fast Fact วันนี้ เจ้นำเสนอเรื่องเกี่ยวกับสิงคโปร์เหมือนเดิม แต่เจาะลึกเข้าไปถึง "Temasek" มากขึ้น เพราะเมื่อวานหลังจากโพสต์ของเราเกี่ยวกับสิงคโปร์ถูกปล่อยออกไป ก็มีสมาชิกจำนวนมากเข้ามา Discuss กันแบบเมามันส์ โดยเฉพาะเรื่องว่าหากเกิด Economic Crash หรือ Paper Money Worthless จะเป็นยังไง หลังจากเจ้ไปศึกษาโมเดลของ Temasek แล้วก็พร้อมจะตอบว่า ... ถึงมีวิกฤตอย่างว่าจริง ก็ลำบากเหมือนกันที่จะล้มสิงคโปร์...ให้ได้
บทความนี้ยาวอีกละ แต่เชื่อเถอะ เจ้ว่าหลังจากอ่านจบ คงต้องมีคนจำนวนไม่มากก็น้อยที่จะต้องได้แรงบันดาลใจทำพอร์ทลงทุนแบบ Temasek
ปัจจุบันปี 2013 Temasek มี สินทรัพย์รวมทั้งหมดกว่า 317,400 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 8 ล้านล้านบาท ในส่วนของสินทรัพย์รวมนี้ ถ้าคิดเฉพาะส่วนของ Portfolio ลงทุนของ Temasek จะมีมูลค่าอยู่ที่ 215,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 5.4 ล้านล้านบาท
ระดับเครดิตเรตติ้งของ Temasek Holding ได้รับการจัดอันดับโดย Standard & Poor's ได้ระดับสูงที่สุดคือ AAA ส่วนของ Moody's ก็อยู่ที่ระดับ Aaa ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเช่นกัน ...
ส่วนที่น่าสนใจคือปัจจุบันอัตราส่วนหนี้สิน ต่อเงินทุนอยู่ที่ 6.4% เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ Temasek จะได้ระดับเรตติ้งระดับ "เลิศเลอ" ได้เพราะพูดง่ายๆก็เหมือนว่า เธอมีเงินกองอยู่ตรงหน้า 100 บาท เธอมีหนี้แค่ 6 บาทเท่านั้น ทำไมเธอจะไม่มีปัญญาใช้หนี้หละ?
ที่น่าสนใจคือ ในช่วงระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา Temasek มีอัตราการเติบโตของการลงทุนรวมอยู่ที่ราว 13% ต่อปี (Compound) ซึ่งก็ถือว่าไม่เลวเลย เพราะในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เรามีวิกฤตเศรษฐกิจหนักอยู่ครั้งหนึ่งในช่วงปี 2008 และอีกรอบคือ EU Debt Panic 2011
แต่ถ้าเรามองลึกไปกว่านั้น ย้อนกลับไปตั้งแต่ตั้งกองทุน Temasek สามารถสร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ยได้มากถึง 18% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมาเท่านั้นเอง ถือว่าสูงมาก และสูงเป็นอันดับต้นๆของโลกเสียด้วย
Temasek คือ SWF ของสิงคโปร์ ที่เป็น SWF ชั้นนำของโลก มีการกระจาย Asset เพื่อป้องกันความเสี่ยงเป็นอย่างดี และทำให้การลงทุนมีความหลากหลาย แตกต่างจาก SWF ของประเทศอื่นๆ อย่างในโซนตะวันออกกลางที่โดยมากเป็นทรัพย์สินกลุ่มพลังงาน (น้ำมัน) ซึ่งสักวันก็คงหมดไป แต่ Temasek มีพอร์ทยังไงกันล่ะ?
Temasek กระจายการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน กลุ่มธนาคารและประกัน ซึ่งเป็นสัดส่วน 31% ของพอร์ทลงทุนรวมของ Temasek ตามมาด้วยกลุ่มสื่อสาร โทรคมนาคมกว่า 24% และกลุ่มขนส่งอยู่ที่ 20% นอกนั้นก็เป็นกลุ่มอื่นๆ ... สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าพอร์ทลงทุนของ Temasek เน้นลงทุนในสิ่งที่คน "ต้องใช้" ในชีวิตประจำวัน และมีความหลากหลายในสิ่งที่เราต้องใช้ โดยไม่สามารถเกี่ยงงอนต่อราคาได้
ปัจจุบัน Temasek ก่อตั้งมาทั้งหมดสิริรวมอายุ 40 ปี หรือให้พูดให้เข้าใจง่ายอีกนัยหนึ่งคือ Temasek ถูกก่อตั้งขึ้นหลังจากที่แยกตัวออกมาจากมาเลเซียแค่ 8 ปีเท่านั้น เพราะปัจจุบันประเทศสิงคโปร์พึ่งจะครบรอบ 48 ปีนี่เอง
เงินก่อตั้งกองทุนเริ่มแรกเมื่อปี 1974 อยู่ที่ 354 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เท่านั้น จากเงิน 354 ล้านดอลลาร์ กลายเป็นสินทรัพย์กว่า "สามแสนล้าน" ดอลลาร์สิงคโปร์ มันก็พิสูจน์ให้เห็นได้แล้วว่านี่คือ "Success Model" ของจริง หรืออาจจะมากกว่านักลงทุนรายย่อยกูรูชื่อดังในเมืองไทยหลายคนทำได้ทบต้นต่อปีเสียอีก
หากเราแบ่งสัดส่วนการลงทุนเป็นรายพื้นที่แต่ละประเทศ จะพบว่ามีการแบ่งสัดส่วนกระจายความเสี่ยงเป็นอย่างดี ประกอบด้วยลงทุนในทวีปเอเชีย (ยกเว้นสิงคโปร์) 41%, ลงทุนในกิจการของสิงคโปร์เอง 30%, ออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์รวมกัน 13% ส่วนในอเมริกาเหนือและยุโรปมีแค่ 12% เท่านั้น ส่วนแอฟริกาและอเมริกาใต้ก็ที่เหลืออีกจ๊อยนึงนั่นแหละ
ส่วนที่หลายๆคนเขากลัวกันว่าระบบการเงินโดยเฉพาะประเทศผู้ขยันพิมพ์แบงค์มีปัญหาจะเป็นยังไง? คำตอบคือ หลักทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์มากกว่า 65%, ฮ่องกงดอลลาร์ 11% ส่วนสหรัฐที่กลัวๆกัน มีเพียงแค่ 6% ของพอร์ทรวมของ Temasek เท่านั้น , ปอนด์อังกฤษ 6% , ยูโรมีแค่ 2% ที่เหลือ 10% ก็เป็นสกุลอื่นๆ
ดังนั้นความกังวลเรื่องเงินทุนกระดาษเช็ดก้นของประเทศพิมพ์เงินปลอม จึงหมดไป เพราะคิดเป็นสัดส่วนแล้วก็น้อยเกินกว่าจะ Effective ทำให้กองทุนต้องเดือดร้อนง่อยแดกหรือเจ๊งกะบ๊งตายไปไหน
GDP สิงคโปร์ 2012 อยู่ที่ 344,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ส่วนสินทรัพย์รวมของ Temasek อยู่ที่ 317,400 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือคิดง่ายๆก็คือ Temasek มีไซส์ประมาณ 92% ของ GDP ... ซึ่งก็ถือว่าโคตรเยอะทีเดียว
ส่วนหุ้นต่างๆที่ถือที่ถืออยู่ในพอร์ทลงทุนของ Temasek เอาเฉพาะตัวใหญ่ๆเลยนะ ก็จะมีธนาคารการก่อสร้างจีน (CCB) ถืออยู่ 7% ของสิทธิ์ออกเสียง, AIA (ฮ่องกง) 2%, DBS ธนาคารใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ 29%, Standard Chartered ของอังกฤษ ถืออยู่สัดส่วนสูงถึง 18%, นอกจากนี้ยังมีธนาคาร Danamon ของอินโดนีเซียอีกด้วย ด้วยสัดส่วนกว่า 67% ของสิทธิ์ออกเสียงทีเดียว
ส่วนกลุ่มสื่อสารก็จะมี Shin Corp ของเมืองไทย 42%, SingTel 52% และ Bharti Airtel 5% (สื่อสารใหญ่ที่สุดของอินเดีย)
ที่บอกไปนี่แค่คร่าวๆเท่านั้น เพราะพอร์ทจริงๆของเขายังมีอีกมากมายนับไม่ถ้วน และสัดส่วนก็ไม่ใช่น้อยๆ เรียกได้ว่าพริกขี้หนูเล็ก แต่สามารถควบคุม และเก็บกำไรมาได้จากทั่วโลกเลยทีเดียว
ที่สำคัญที่สุด Temasek รายงานว่าปัจจุบันมีพนักงานรวม 450 คน จาก 23 ประเทศ คิดเป็นคนสิงคโปร์ 63% นอกนั้นเป็นชาวต่างชาติ ... กองทุนระดับแสนล้านที่มีคนทำงานเพียงแค่ 450 คนเท่านั้นเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจากท่านประธานเช่นเคยค่ะSee More
SinthornVista
Fast Fact วันนี้ เจ้นำเสนอเรื่องเกี่ยวกับสิงคโปร์เหมือนเดิม แต่เจาะลึกเข้าไปถึง "Temasek" มากขึ้น เพราะเมื่อวานหลังจากโพสต์ของเราเกี่ยวกับสิงคโปร์ถูกปล่อยออกไป ก็มีสมาชิกจำนวนมากเข้ามา Discuss กันแบบเมามันส์ โดยเฉพาะเรื่องว่าหากเกิด Economic Crash หรือ Paper Money Worthless จะเป็นยังไง หลังจากเจ้ไปศึกษาโมเดลของ Temasek แล้วก็พร้อมจะตอบว่า ... ถึงมีวิกฤตอย่างว่าจริง ก็ลำบากเหมือนกันที่จะล้มสิงคโปร์...ให้ได้
บทความนี้ยาวอีกละ แต่เชื่อเถอะ เจ้ว่าหลังจากอ่านจบ คงต้องมีคนจำนวนไม่มากก็น้อยที่จะต้องได้แรงบันดาลใจทำพอร์ทลงทุนแบบ Temasek
ปัจจุบันปี 2013 Temasek มี สินทรัพย์รวมทั้งหมดกว่า 317,400 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 8 ล้านล้านบาท ในส่วนของสินทรัพย์รวมนี้ ถ้าคิดเฉพาะส่วนของ Portfolio ลงทุนของ Temasek จะมีมูลค่าอยู่ที่ 215,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 5.4 ล้านล้านบาท
ระดับเครดิตเรตติ้งของ Temasek Holding ได้รับการจัดอันดับโดย Standard & Poor's ได้ระดับสูงที่สุดคือ AAA ส่วนของ Moody's ก็อยู่ที่ระดับ Aaa ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเช่นกัน ...
ส่วนที่น่าสนใจคือปัจจุบันอัตราส่วนหนี้สิน ต่อเงินทุนอยู่ที่ 6.4% เท่านั้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ Temasek จะได้ระดับเรตติ้งระดับ "เลิศเลอ" ได้เพราะพูดง่ายๆก็เหมือนว่า เธอมีเงินกองอยู่ตรงหน้า 100 บาท เธอมีหนี้แค่ 6 บาทเท่านั้น ทำไมเธอจะไม่มีปัญญาใช้หนี้หละ?
ที่น่าสนใจคือ ในช่วงระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา Temasek มีอัตราการเติบโตของการลงทุนรวมอยู่ที่ราว 13% ต่อปี (Compound) ซึ่งก็ถือว่าไม่เลวเลย เพราะในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เรามีวิกฤตเศรษฐกิจหนักอยู่ครั้งหนึ่งในช่วงปี 2008 และอีกรอบคือ EU Debt Panic 2011
แต่ถ้าเรามองลึกไปกว่านั้น ย้อนกลับไปตั้งแต่ตั้งกองทุน Temasek สามารถสร้างผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ยได้มากถึง 18% ต่อปี ตลอดระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมาเท่านั้นเอง ถือว่าสูงมาก และสูงเป็นอันดับต้นๆของโลกเสียด้วย
Temasek คือ SWF ของสิงคโปร์ ที่เป็น SWF ชั้นนำของโลก มีการกระจาย Asset เพื่อป้องกันความเสี่ยงเป็นอย่างดี และทำให้การลงทุนมีความหลากหลาย แตกต่างจาก SWF ของประเทศอื่นๆ อย่างในโซนตะวันออกกลางที่โดยมากเป็นทรัพย์สินกลุ่มพลังงาน (น้ำมัน) ซึ่งสักวันก็คงหมดไป แต่ Temasek มีพอร์ทยังไงกันล่ะ?
Temasek กระจายการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมการเงิน กลุ่มธนาคารและประกัน ซึ่งเป็นสัดส่วน 31% ของพอร์ทลงทุนรวมของ Temasek ตามมาด้วยกลุ่มสื่อสาร โทรคมนาคมกว่า 24% และกลุ่มขนส่งอยู่ที่ 20% นอกนั้นก็เป็นกลุ่มอื่นๆ ... สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าพอร์ทลงทุนของ Temasek เน้นลงทุนในสิ่งที่คน "ต้องใช้" ในชีวิตประจำวัน และมีความหลากหลายในสิ่งที่เราต้องใช้ โดยไม่สามารถเกี่ยงงอนต่อราคาได้
ปัจจุบัน Temasek ก่อตั้งมาทั้งหมดสิริรวมอายุ 40 ปี หรือให้พูดให้เข้าใจง่ายอีกนัยหนึ่งคือ Temasek ถูกก่อตั้งขึ้นหลังจากที่แยกตัวออกมาจากมาเลเซียแค่ 8 ปีเท่านั้น เพราะปัจจุบันประเทศสิงคโปร์พึ่งจะครบรอบ 48 ปีนี่เอง
เงินก่อตั้งกองทุนเริ่มแรกเมื่อปี 1974 อยู่ที่ 354 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์เท่านั้น จากเงิน 354 ล้านดอลลาร์ กลายเป็นสินทรัพย์กว่า "สามแสนล้าน" ดอลลาร์สิงคโปร์ มันก็พิสูจน์ให้เห็นได้แล้วว่านี่คือ "Success Model" ของจริง หรืออาจจะมากกว่านักลงทุนรายย่อยกูรูชื่อดังในเมืองไทยหลายคนทำได้ทบต้นต่อปีเสียอีก
หากเราแบ่งสัดส่วนการลงทุนเป็นรายพื้นที่แต่ละประเทศ จะพบว่ามีการแบ่งสัดส่วนกระจายความเสี่ยงเป็นอย่างดี ประกอบด้วยลงทุนในทวีปเอเชีย (ยกเว้นสิงคโปร์) 41%, ลงทุนในกิจการของสิงคโปร์เอง 30%, ออสเตรเลียกับนิวซีแลนด์รวมกัน 13% ส่วนในอเมริกาเหนือและยุโรปมีแค่ 12% เท่านั้น ส่วนแอฟริกาและอเมริกาใต้ก็ที่เหลืออีกจ๊อยนึงนั่นแหละ
ส่วนที่หลายๆคนเขากลัวกันว่าระบบการเงินโดยเฉพาะประเทศผู้ขยันพิมพ์แบงค์มีปัญหาจะเป็นยังไง? คำตอบคือ หลักทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินดอลลาร์สิงคโปร์มากกว่า 65%, ฮ่องกงดอลลาร์ 11% ส่วนสหรัฐที่กลัวๆกัน มีเพียงแค่ 6% ของพอร์ทรวมของ Temasek เท่านั้น , ปอนด์อังกฤษ 6% , ยูโรมีแค่ 2% ที่เหลือ 10% ก็เป็นสกุลอื่นๆ
ดังนั้นความกังวลเรื่องเงินทุนกระดาษเช็ดก้นของประเทศพิมพ์เงินปลอม จึงหมดไป เพราะคิดเป็นสัดส่วนแล้วก็น้อยเกินกว่าจะ Effective ทำให้กองทุนต้องเดือดร้อนง่อยแดกหรือเจ๊งกะบ๊งตายไปไหน
GDP สิงคโปร์ 2012 อยู่ที่ 344,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ส่วนสินทรัพย์รวมของ Temasek อยู่ที่ 317,400 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือคิดง่ายๆก็คือ Temasek มีไซส์ประมาณ 92% ของ GDP ... ซึ่งก็ถือว่าโคตรเยอะทีเดียว
ส่วนหุ้นต่างๆที่ถือที่ถืออยู่ในพอร์ทลงทุนของ Temasek เอาเฉพาะตัวใหญ่ๆเลยนะ ก็จะมีธนาคารการก่อสร้างจีน (CCB) ถืออยู่ 7% ของสิทธิ์ออกเสียง, AIA (ฮ่องกง) 2%, DBS ธนาคารใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ 29%, Standard Chartered ของอังกฤษ ถืออยู่สัดส่วนสูงถึง 18%, นอกจากนี้ยังมีธนาคาร Danamon ของอินโดนีเซียอีกด้วย ด้วยสัดส่วนกว่า 67% ของสิทธิ์ออกเสียงทีเดียว
ส่วนกลุ่มสื่อสารก็จะมี Shin Corp ของเมืองไทย 42%, SingTel 52% และ Bharti Airtel 5% (สื่อสารใหญ่ที่สุดของอินเดีย)
ที่บอกไปนี่แค่คร่าวๆเท่านั้น เพราะพอร์ทจริงๆของเขายังมีอีกมากมายนับไม่ถ้วน และสัดส่วนก็ไม่ใช่น้อยๆ เรียกได้ว่าพริกขี้หนูเล็ก แต่สามารถควบคุม และเก็บกำไรมาได้จากทั่วโลกเลยทีเดียว
ที่สำคัญที่สุด Temasek รายงานว่าปัจจุบันมีพนักงานรวม 450 คน จาก 23 ประเทศ คิดเป็นคนสิงคโปร์ 63% นอกนั้นเป็นชาวต่างชาติ ... กองทุนระดับแสนล้านที่มีคนทำงานเพียงแค่ 450 คนเท่านั้นเอง
ขอขอบคุณข้อมูลจากท่านประธานเช่นเคยค่ะSee More
-
- Verified User
- โพสต์: 448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Temasek
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณสำหรับบทความนะครับ SWFคืออะไรเหรอครับ
ชอบศึกษาหุ้นเชิงวิชาการมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Temasek
โพสต์ที่ 4
ขอบคุณครับ ถ้าเป็นประเทศเราก็แบบ การทุนวายุภักนะเหรอครับ
ชอบศึกษาหุ้นเชิงวิชาการมาก
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: Temasek
โพสต์ที่ 5
ประเทศเรายังไม่มีครับcyber-shot เขียน:ขอบคุณครับ ถ้าเป็นประเทศเราก็แบบ การทุนวายุภักนะเหรอครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 390
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Temasek
โพสต์ที่ 6
ขอบคุณมาก ๆ ครับ
เอา Link บทความเกี่ยวกับ SWFs หรือมีผู้แปลว่า กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ มาฝากเพื่อเสริมความเข้าใจกับบทความของท่านเจ้าของกระทู้ครับ
http://www.bot.or.th/Thai/EconomicCondi ... FAQ_56.pdf
เอา Link บทความเกี่ยวกับ SWFs หรือมีผู้แปลว่า กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ มาฝากเพื่อเสริมความเข้าใจกับบทความของท่านเจ้าของกระทู้ครับ
http://www.bot.or.th/Thai/EconomicCondi ... FAQ_56.pdf
-
- Verified User
- โพสต์: 448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Temasek
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณมากครับ
ชอบศึกษาหุ้นเชิงวิชาการมาก