Walter Schloss (นักลงทุนเน้นคุณค่าระดับโลก)

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
kjarrung
Verified User
โพสต์: 263
ผู้ติดตาม: 0

Walter Schloss (นักลงทุนเน้นคุณค่าระดับโลก)

โพสต์ที่ 1

โพสต์

Walter Schloss บริหารกองทุนห้างหุ้นส่วน ตั้งแต่ ปี 1956 - 2002 ตลอด 47 ปี ทำผลตอบแทนทบต้นได้ 15.3% เหนือกว่าดัชนี S&P ที่ทำได้ประมาณ 11% การลงทุนตลอดระยะเวลายาวนานและได้ผลตอบแทนขนาดนั้น ไม่ใช้เรื่องง่ายครับ การลงทุนแนว VI ผมว่าต้องพิสูจน์กันระยะเวลายาวครับ

Walter Schloss....Walter Schloss is a role model for all aspiring value investors. He is the most influential investor to me personally based on his 5 decade long performance as well as his investing style. Schloss was a compounding machine that hit base hit after base hit. He was the Ted Williams of investing.

Read more of my thoughts on Walter Schloss here.

Below, you can also find my notes on his bio as well as many informative links to other articles that have been written on Schloss. He is likely my favorite investor to study and read about.

Bio Highlights:

•Returns of 20% per year for 47 years (15.3% net to his investors, double the 7% return of the S&P during that period).
•High school graduate without a college degree
•First got a job on Wall Street at age 18 in 1934 as a runner. Wanted to learn investing and got a piece of key advice from a mentor: “Read Graham and Dodd’s Security Analysis, and that’s all you’ll need to know”
•Later worked for Ben Graham at Graham-Newman, spending his time methodically looking for cheap stocks
•After Graham decided to retire and close his fund, Schloss started his partnership with 19 partners and $100,000 of capital in 1955
•Operated a solo-operation until his son Edwin later joined him. The two of them never had any other employees, despite managing 9 figures later in their career (in one of his later years, his firm made $19 million in profits against just $11,000 of expenses!)
•Famous for being frugal, simple. He worked out of the same small one room office for the entire duration of his career. Never owned a computer, never used the internet.
Schloss Investment Philosophy:

•Methodical, value based investor. Schloss and his son Edwin famously summed up their investment philosophy in one sentence: “We buy cheap stocks”
•Followed a Graham style value approach to investing throughout his entire career
•Schloss would use Value Line for info on companies, and would send for their annual reports to dig deeper
•Rarely talked to management, choosing to invest only on the numbers. Specifically, he liked to look at the assets (book value) more than the income statement.
•He liked to buy stocks at low price to book ratios, and when he did look at earnings, he liked low prices to normalized earnings
•He liked stocks with long (15-20 year) histories and track records. He would study how earnings and asset values fluctuated over various cycles. He liked using the balance sheet because “asset values fluctuate more slowly than earnings do”
•Diversified, cheap basket of stocks was his strategy for risk. He repeatedly said “I don’t like losing money”.
•Schloss often owned 60 stocks or more at a time, sometimes as many as 100. Schloss occasionally would concentrate up to 10% or more of his fund on a stock that he really liked. But he mainly liked to own a lot of stocks because he claimed not to be a good judge of business trends or management capability (as opposed to Warren Buffett). So he needed to take a diversified approach so he could “sleep well”.
•He owned his stocks for an average of 4 years
Schloss is one of my favorite investors of all time. I love his methodical, common sense approach to investing. He provides a road map for long term success. Buy value, diversify adequately (but not excessively), be patient. What I like most about Schloss is the way he ran his business. His typical office hours were 9am-4:30pm. He came in, looked through Value Line for cheap stocks and read annual reports. He has said that this passive style of investing has enabled him to live a low-stress life, and has allowed him to continue to invest as he got older. He said that while others had higher rates of returns at times, he was able to outlast them, and thus achieve a longer track record because his style of investing was enjoyable and easy to maintain. He contrasted his approach to that of Peter Lynch, who had to retire after 13 years of managing Magellan because he was spending so much time working and traveling, visiting companies, etc… Schloss’ style of investing could be replicated by most people, if they have the temperament and patience that Schloss had.

Schloss is not as widely acclaimed as most investors are with similar track records, but Schloss made a point to stay out of the spotlight throughout his career. Because of this, there is not a lot of material to study on Schloss’ investment ideas. But below are some key articles that I could locate that reveal how good Schloss was. Some of them were written or transcribed from Schloss’ own public appearances. They portray Schloss as a simple man that sticks to his strategy regardless of the noise around him. I strongly recommend studying Walter Schloss in as much detail as possible. He is an example that investing success can be achieved through a methodical application of simple, replicable investing principles.
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

Re: Walter Schloss (นักลงทุนเน้นคุณค่าระดับโลก)

โพสต์ที่ 2

โพสต์

น่าสนใจครับ คุณ nevercry boy เคยให้นิยามว่าเป็นนักลงทุนสไตล์เต่า

ทำสิ่งที่ถูกต้อง ทำสม่ำเสมอ ทำนานๆ ผลลัพธ์จะบังเกิดเอง
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ii'8N
Verified User
โพสต์: 3682
ผู้ติดตาม: 0

Re: Walter Schloss (นักลงทุนเน้นคุณค่าระดับโลก)

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เห็นบอก ลงทุน 47 ปี เลยไปค้นดู เพิ่งจากไปต้นปีก่อนนี่เอง
http://en.wikipedia.org/wiki/Walter_Schloss


แต่ท่านนี้อายุยืนแฮะ 108 แล้ว
http://en.wikipedia.org/wiki/Irving_Kahn
kjarrung
Verified User
โพสต์: 263
ผู้ติดตาม: 0

Re: Walter Schloss (นักลงทุนเน้นคุณค่าระดับโลก)

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมชื่นชมในความเรียบง่ายของเขาครับ การลงทุนของเขายึดหลักแบบเน้นคุณค่ามานานต่อเนื่อง 47 ปี Schloss บริหารกองทุนด้วยตัวเขาเองในห้องเช่าเล็ก ๆ ในนิวยอร์ค โดยไม่มีเลขาหรือลูกจ้างเลย หุ้นที่ลงแต่ละตัวจะถือโดยเฉลี่ยประมาณ 4 ปี และงานของเขาก็คือการศึกษางบการเงินและรายงานประจำปีของหุ้นที่สนใจลงทุนครับ ผมดูผลตอบแทนตลอด 47 ปีที่เขาลงทุน ไม่มีปีไหนที่ได้เกิน 50% เลย โดยเฉลี่ยอยู่ในช่วง 20 -30% บางช่วงก็แพ้ตลาดและติดลบ 2-3 ปีติดต่อกันก็มี บางปีก็ 0% แต่เพราะการลงทุนที่ยาวนานและความอดทนในการรอคอย จึงทำให้ประสบความสำเร็จ ผมว่านักลงทุนนอกจากลงทุนเก่งแล้ว ควรต้องอายุยืนด้วยครับ
บุณยา
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 178
ผู้ติดตาม: 0

Re: Walter Schloss (นักลงทุนเน้นคุณค่าระดับโลก)

โพสต์ที่ 5

โพสต์

รูปภาพ

:bow:
ปล. S&P รวมเงินปันผล 1956-2000 ผลตอบแทบทบต้นประมาณ 11%
ปล2. ผลตอบแทน 20.09% 47ปี = 5,455 เท่า !!
kjarrung
Verified User
โพสต์: 263
ผู้ติดตาม: 0

Re: Walter Schloss (นักลงทุนเน้นคุณค่าระดับโลก)

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผลตอบแทนน่าประทับใจมากครับ ว่ากำลังจะโพสผลตอบแทนของ Walter Sthlos อยู่พอดี ขอบคุณมากครับ
harikung
Verified User
โพสต์: 2236
ผู้ติดตาม: 0

Re: Walter Schloss (นักลงทุนเน้นคุณค่าระดับโลก)

โพสต์ที่ 7

โพสต์

สุดยอดครับ ลงทุน40กว่าปี มีขาดทุนแค่ 7 ปี! แถมปีที่ขาดทุนมากสุดแค่10%ต้นๆ
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
kjarrung
Verified User
โพสต์: 263
ผู้ติดตาม: 0

Re: Walter Schloss (นักลงทุนเน้นคุณค่าระดับโลก)

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ผลดำเนินงานการลงทุนของ Kjrrung ปี 2557
เปรียบเทียบกับผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์

พ.ศ ผลตอบแทนพอร์ท ผลตอบแทน SET ผลต่าง สะสมจากปี 2552
(ร้อยละ)
ปี 2552 67 63.3 3.7 167
ปี 2553 46.2 40.5 5.7 244.1
ปี 2554 22.1 -0.7 22.8 298.1
ปี 2555 22 35.8 -13.8 363.7
ปี 2556 0.9 -6.7 7.6 367
ปี 2557 8.8 15.5 -6.6 399.29
เฉลี่ย 27.8 24.5 3.3
เฉลี่ยทบต้น 24.7 21.2 3.5

ในปี 2557 พอร์ท ทำผลตอบแทนอยู่ในระดับที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับผลตอบแทนของตลาด (ถึงแม้จะไม่ได้ดีที่สุด) โดยสามารถทำผลตอบแทน ณ สิ้นปี 2557ได้ที่ร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2556 ซึ่งต่ำกว่าผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์ ที่ทำผลตอบแทนในปี 2557 ที่ร้อยละ 15.5 และเป็นอีกปีหนึ่งที่ทำผลตอบแทนเป็นบวกติดต่อกัน 6 ปี โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ย 5 ปี (2552-2556) ที่ร้อยละ 27.8 และอัตราผลตอบแทนทบต้นที่ร้อยละ 24.7 ขณะที่ผลตอบแทนตลาดเฉลี่ย 5 ปีทำได้ ร้อยละ 24.5 และอัตราผลตอบแทนทบต้นที่ร้อยละ 21.2 สามารถสร้างผลตอบแทนสะสมจากมกราคม 2552 จนถึง ณ สิ้นปี 2557 ที่ร้อยละ 399 หรือ 4 เท่า
ผลตอบแทนเป็นผลตอบแทนที่หักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หมดแล้ว เช่น ค่าบริหารพอร์ท ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่าง ๆ

ผมมาโพสในกระทู้ที่ผมตั้งเกี่ยวกับนักลงทุนเน้นคุณค่า Walter Schlos ซึ่งมีผลงานการบริหารพอร์ทตลอด 42 ปี ที่อัตราผลตอบแทนทบต้น ร้อยละ 16 จะพยายามตามรอยค่าเฉลี่ยของ Walter Schlos นักลงทุนแนว Graham ครับ แต่ไม่รู้ว่าจะบริหารได้ถึง 42 ปีหรือเปล่า ผมลงทุนตั้งแต่ปี 2546 แต่เริ่มมาเก็บสถิติการลงทุนตั้งแต่มกราคมปี 2552 จนถึงปัจจุบันครับ ปกติจะเก็บสถิติไว้เองแต่ปีนี้ลองโพสดูครับเพื่อเป็น record ด้วยครับ แต่จากนี้จะมาโพสในกระทู้นี้ทุกปี
ปีหน้าจะมาโพสในกระทู้นี้อีกครับ ถ้าเวป Thaivi ยังอยู่ให้โพสนะครับ
kjarrung
Verified User
โพสต์: 263
ผู้ติดตาม: 0

Re: Walter Schloss (นักลงทุนเน้นคุณค่าระดับโลก)

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผลดำเนินงานการลงทุนของ Kjrrung ปี 2558
เปรียบเทียบกับผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์


ผลตอบแทน Kjarrung (%) ผลตอบแทนของ SET Index (%) ผลต่างผลตอบแทน (%) ผลตอบแทนสะสมนับจากตั้งห้างหุ้นส่วน(%)
ปี 2552 67 63.3 3.7 167
ปี 2553 46.2 40.5 5.7 244
ปี 2554 22.1 -0.7 22.8 299
ปี 2555 22 35.8 -13.8 363
ปี 2556 0.9 -6.7 7.6 367
ปี 2557 8.8 15.5 -6.6 399
ปี 2558 17.2 -14 31.2 468
เฉลี่ย 7 ปี 26.3 19.1 7.2
เฉลี่ยทบต้น 7 ปี 24.6 16.2 8.37


ในปี 2558 พอร์ท ทำผลตอบแทนอยู่ในระดับที่ดีมาก เมื่อเทียบกับผลตอบแทนของตลาด โดยสามารถทำผลตอบแทน ณ สิ้นปี 2558ได้ที่ร้อยละ 17.2 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2557 ซึ่งดีกว่าผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์ ที่ทำผลตอบแทนในปี 2558 ติดลบร้อยละ 14 และเป็นอีกปีหนึ่งที่ทำผลตอบแทนเป็นบวกติดต่อกัน 7 ปี โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ย 7 ปี (2552-2558) ที่ร้อยละ 26.3 และอัตราผลตอบแทนทบต้นที่ร้อยละ 24.6 ขณะที่ผลตอบแทนตลาดเฉลี่ย 7 ปีทำได้ ร้อยละ 19.1 และอัตราผลตอบแทนทบต้นที่ร้อยละ 16.2 สามารถสร้างผลตอบแทนสะสมจากมกราคม 2552 จนถึง ณ สิ้นปี 2558 ที่ร้อยละ 468 หรือ 4.7 เท่า ผลตอบแทนเป็นผลตอบแทนที่หักค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หมดแล้ว เช่น ค่าบริหารพอร์ท ค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่าง ๆ
ผลตอนแทนที่ทำได้คิดจากราคาปิด ณ 30 ธันวาคม 2558 ซึ่งก็คือวันนี้ครับ
สาเหตุที่ทำผลตอบแทนได้ดีมากกว่าตลาด เนื่องจากปี 58 ได้ลงทุนหุ้นที่แตกต่างจากตลาด โดยได้นำเงินลงทุน ร้อยละ 80 ของพอร์ทไปซื้อหุ้นตัวหนึ่งในกลุ่มอาหาร ซึ่งไม่มีหนี้ เป็นหุ้นขนาดกลาง โดยเริ่มลงทุนตั้งแต่กลางปี 2557 และเกือบตลอดทั้งปี 2558 ต่อมาหุ้นตัวนี้ได้มีการควบรวม ทำให้บริษัทใหญ่ขึ้น มีสภาพคล่องมากขึ้น และมีมูลค่าส่งออกมากขึ้น จึงทำให้ราคาภายหลังควบรวมปรับสูงขึ้นประมาณร้อยละ 20 ในช่วงปลายปี จึงได้ขายทำกำไรไป ตอนนี้ถือหุ้นประมาณ 30% ที่เหลือถือเงินสด เพื่อรอโอกาสลงทุนในปี 2559 ในหุ้นกลุ่มอื่นอื่นที่ราคาลดลง เช่น กลุ่มธนาคาร น้ำมัน เป็นต้น

ึ7 ปีแห่งการลงทุน ทำผลตอบแทนทบต้นได้ร้อยละ 24.6 เทียบกับ Walter sthlos 42 ปี ทำผลตอบแทนทบต้นได้ร้อยละ 16 เป็นงานที่ยากมากครับสำหรับการคงอัตราผลตอบแทนสูงสูงในระยะเวลาที่ยาวนาน
ในปี 2559 ผมคาดหวังจะได้ผลตอบแทนที่ร้อยละ 15-20 ครับ แต่คงต้องทำการบ้านหาหุ้นคุณภาพที่ราคาเหมาะสมต่อไปครับ แล้วปีหน้า ผมจะมาโพสผลตอบแทนที่ได้อีกครับ
โพสต์โพสต์