ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 1
ปตท.ดันติดNGV ประกันซ่อมให้ฟรี เครื่องยนต์เจ๊ง
ปตท.เข้นติดตั้งก๊าซเอ็นจีให้ได้สิ้นปีนี้ 70,000 คัน จับมือกับทิพยประกันภัย คุ้มครองเครื่องยนต์เสียหายซ่อมให้ฟรี วงเงินไม่เกิน 60,000 บาทต่อคัน พร้อมเร่งขยายสถานีบริการ จูงใจให้ค่าการตลาดเพิ่มเป็น 1 บาท ปั๊มแอลพีจีตอบรับกว่า 20 แห่ง หันมาขายเอ็นจีวีแทน ส่วนการนำไปใช้กับรถไฟไม่คุ้มลงทุนสูงผลตอบแทนต่ำ
นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า เพื่อให้การดำเนินงานในการส่งเสริมการใช้ก๊าซเอ็นจีวีในรถยนต์เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้จำนวน 70,000 คันนั้นในวันที่ 20 เมษายนนี้ทางปตท.จะมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นกับบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด(มหาชน) ที่จะสร้างความมั่นใจให้กับเจ้ารถยนต์ในการติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซเอ็นจีวี โดยจะคุ้มครองความเสียหายของเครื่องยนต์ที่เกิดจากการติดตั้งอุปกรณ์ให้หรือซ่อมฟรีในวงเงินไม่เกิน 60,000 บาทต่อคัน
สำหรับโครงการนี้จะมุ่งเน้นประชาสัมพันธ์ให้รถยนต์ส่วนบุคคลที่อยู่บริเวณสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีในรัศมี 3-5 กิโลเมตร เห็นความสำคัญในการติดตั้งก๊าซเอ็นจีวีก่อน เพื่อไม่ให้มีปัญหาหรือความไม่สะดวกกับการหาสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวี ซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวน 60 แห่ง แต่หากผู้ที่อยู่ไกลรัศมีที่กำหนดและมีความสนใจที่จะติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซเอ็นจีวี ก็สามารถดำเนินการได้ แต่อาจจะไม่ได้รับความสะดวกในการหาสถานีบริการมากนัก ซึ่งหลังจากลงนามแล้วคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในเดือนพฤษภาคมนี้
นอกจากนี้เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว ทางปตท.อยู่ระหว่างการศึกษาที่จะผลักดันให้รถแท็กซี่จากที่ใช้ก๊าซแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิง ใเปลี่ยนมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีมากขึ้น โดยจะหาวิธีการสนับสนุนในการออกค่าใช้จ่ายให้เกือบทั้งหมดหรือติดตั้งให้ฟรี และมาเก็บค่าติดตั้งผ่านเนื้อก๊าซในราคาที่สูงขึ้นเมื่อมีการใช้บริการ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากแท็กซี่ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายที่จะปล่อยก๊าซแอลพีจีลอยตัวกลางปีนี้ และจะทำให้ก๊าซแอลพีจีมีราคาสูงขึ้น ในขณะที่ราคาก๊าซแอลพีจียังอยู่ในระดับต่ำอยู่ โดยโครงการนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ไม่เกินเดือนมิถุนายน 2549 นี้
นายจิตรพงษ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นในการส่งเสริมการติดตั้งกาซเอ็นจีวีนี้ เนื่องจากยังไม่มีสถานีบริการเอ็นจีวีที่ครอบคลุม ทำให้เกินความไม่สะดวกของผู้ใช้บริการ ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ทางปตท.อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้ค่าการตลาดกับสถานีบริการในอัตราส่วนที่สูงขึ้น จากปกติ 40-50 สตางค์ต่อกิโลกรัม เป็น 1 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้สถานีบริการก๊าซแอลพีจีเปลี่ยนมารจำหน่ายก๊าซเอ็นจีวีแทน ซึ่งจากการหารือกับบรรดาสถานีบริการเหล่านี้มีการตอบรับมาแล้วกว่า 20 รายว่ามีความสนใจจะมาจำหน่ายก๊าซเอ็นจีวีแทนแล้ว
ในขณะที่ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นๆ ที่มีความสนใจที่จะจำหน่ายก๊าซเอ็นจีวีในปั๊มน้ำมัน เวลานี้มีเพียงบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) เท่านั้นที่มีอยู่ประมาณ 3-4 แห่ง และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 10 แห่งในไม่ช้านี้ ส่วนรายใหม่ที่จะเข้ามาจำหน่ายอีก ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับทางบริษัทปิโตรนาส ที่มีความสนใจจะดำเนินการประมาณ 10 แห่ง
ส่วนทางบริษัทเชลล์ในประเทศไทยนั้น ขณะนี้ได้ชะลอการเข้าร่วมออกไปก่อน เนื่องจากผลตอบแทนที่ปตท.ให้นั้นยังไม่เอื้อต่อการลงทุน อีกทั้ง รอดูการพัฒนาของระบบก๊าซเอ็นจีวีก่อน เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วคาดว่าจะมีการไปหารือกันใหม่
ทั้งนี้ หากสามารถดำเนินการดังกล่าวได้ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นเป็น 160 แห่ง เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ได้
อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาการใช้ก๊าซเอ็นจีวีในรถไฟนั้น ผลสรุปออกมาแล้วว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากไม่เกิดความค้มทุนในการดำเนินงาน เพราะไม่สามารถนำก๊าซเอ็นจีวีเข้าไปทดแทนน้ำมันดีเซลในสัดส่วนที่สูงถึง 70-80 % ได้ เมื่อเทียบกับการลงทุนที่สูง และการเสียพื้นที่ในการวางถังก๊าซฯ หากนำมาใช้บรรทุกสินค้าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ทำให้การนำก๊าซเอ็นจีวีมาใช้กับรถไฟ จึงต้องชะลอออกไปก่อนจนกว่าจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีของระบบให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้
ปตท.เข้นติดตั้งก๊าซเอ็นจีให้ได้สิ้นปีนี้ 70,000 คัน จับมือกับทิพยประกันภัย คุ้มครองเครื่องยนต์เสียหายซ่อมให้ฟรี วงเงินไม่เกิน 60,000 บาทต่อคัน พร้อมเร่งขยายสถานีบริการ จูงใจให้ค่าการตลาดเพิ่มเป็น 1 บาท ปั๊มแอลพีจีตอบรับกว่า 20 แห่ง หันมาขายเอ็นจีวีแทน ส่วนการนำไปใช้กับรถไฟไม่คุ้มลงทุนสูงผลตอบแทนต่ำ
นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า เพื่อให้การดำเนินงานในการส่งเสริมการใช้ก๊าซเอ็นจีวีในรถยนต์เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้จำนวน 70,000 คันนั้นในวันที่ 20 เมษายนนี้ทางปตท.จะมีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงเบื้องต้นกับบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด(มหาชน) ที่จะสร้างความมั่นใจให้กับเจ้ารถยนต์ในการติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซเอ็นจีวี โดยจะคุ้มครองความเสียหายของเครื่องยนต์ที่เกิดจากการติดตั้งอุปกรณ์ให้หรือซ่อมฟรีในวงเงินไม่เกิน 60,000 บาทต่อคัน
สำหรับโครงการนี้จะมุ่งเน้นประชาสัมพันธ์ให้รถยนต์ส่วนบุคคลที่อยู่บริเวณสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีในรัศมี 3-5 กิโลเมตร เห็นความสำคัญในการติดตั้งก๊าซเอ็นจีวีก่อน เพื่อไม่ให้มีปัญหาหรือความไม่สะดวกกับการหาสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวี ซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวน 60 แห่ง แต่หากผู้ที่อยู่ไกลรัศมีที่กำหนดและมีความสนใจที่จะติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซเอ็นจีวี ก็สามารถดำเนินการได้ แต่อาจจะไม่ได้รับความสะดวกในการหาสถานีบริการมากนัก ซึ่งหลังจากลงนามแล้วคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในเดือนพฤษภาคมนี้
นอกจากนี้เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายดังกล่าว ทางปตท.อยู่ระหว่างการศึกษาที่จะผลักดันให้รถแท็กซี่จากที่ใช้ก๊าซแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิง ใเปลี่ยนมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีมากขึ้น โดยจะหาวิธีการสนับสนุนในการออกค่าใช้จ่ายให้เกือบทั้งหมดหรือติดตั้งให้ฟรี และมาเก็บค่าติดตั้งผ่านเนื้อก๊าซในราคาที่สูงขึ้นเมื่อมีการใช้บริการ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากแท็กซี่ เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายที่จะปล่อยก๊าซแอลพีจีลอยตัวกลางปีนี้ และจะทำให้ก๊าซแอลพีจีมีราคาสูงขึ้น ในขณะที่ราคาก๊าซแอลพีจียังอยู่ในระดับต่ำอยู่ โดยโครงการนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ไม่เกินเดือนมิถุนายน 2549 นี้
นายจิตรพงษ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นในการส่งเสริมการติดตั้งกาซเอ็นจีวีนี้ เนื่องจากยังไม่มีสถานีบริการเอ็นจีวีที่ครอบคลุม ทำให้เกินความไม่สะดวกของผู้ใช้บริการ ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ทางปตท.อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้ค่าการตลาดกับสถานีบริการในอัตราส่วนที่สูงขึ้น จากปกติ 40-50 สตางค์ต่อกิโลกรัม เป็น 1 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้สถานีบริการก๊าซแอลพีจีเปลี่ยนมารจำหน่ายก๊าซเอ็นจีวีแทน ซึ่งจากการหารือกับบรรดาสถานีบริการเหล่านี้มีการตอบรับมาแล้วกว่า 20 รายว่ามีความสนใจจะมาจำหน่ายก๊าซเอ็นจีวีแทนแล้ว
ในขณะที่ผู้ค้าน้ำมันรายอื่นๆ ที่มีความสนใจที่จะจำหน่ายก๊าซเอ็นจีวีในปั๊มน้ำมัน เวลานี้มีเพียงบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) เท่านั้นที่มีอยู่ประมาณ 3-4 แห่ง และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 10 แห่งในไม่ช้านี้ ส่วนรายใหม่ที่จะเข้ามาจำหน่ายอีก ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับทางบริษัทปิโตรนาส ที่มีความสนใจจะดำเนินการประมาณ 10 แห่ง
ส่วนทางบริษัทเชลล์ในประเทศไทยนั้น ขณะนี้ได้ชะลอการเข้าร่วมออกไปก่อน เนื่องจากผลตอบแทนที่ปตท.ให้นั้นยังไม่เอื้อต่อการลงทุน อีกทั้ง รอดูการพัฒนาของระบบก๊าซเอ็นจีวีก่อน เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วคาดว่าจะมีการไปหารือกันใหม่
ทั้งนี้ หากสามารถดำเนินการดังกล่าวได้ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีสถานีบริการก๊าซเอ็นจีวีเพิ่มขึ้นเป็น 160 แห่ง เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ได้
อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาการใช้ก๊าซเอ็นจีวีในรถไฟนั้น ผลสรุปออกมาแล้วว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากไม่เกิดความค้มทุนในการดำเนินงาน เพราะไม่สามารถนำก๊าซเอ็นจีวีเข้าไปทดแทนน้ำมันดีเซลในสัดส่วนที่สูงถึง 70-80 % ได้ เมื่อเทียบกับการลงทุนที่สูง และการเสียพื้นที่ในการวางถังก๊าซฯ หากนำมาใช้บรรทุกสินค้าจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ทำให้การนำก๊าซเอ็นจีวีมาใช้กับรถไฟ จึงต้องชะลอออกไปก่อนจนกว่าจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีของระบบให้มีประสิทธิภาพมากกว่านี้
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 7
รถหรูแห่ติดตั้งก๊าซ"เอ็นจีวี" ค่ายโตโยต้า-จีเอ็มโดดร่วม
น้ำมันแพงถล่มผู้ใช้รถกระตุ้นก๊าซเอ็นจีวีฟู่ฟ่า "โตโยต้า-จีเอ็ม" สบช่องช่วยเร่งเครื่องหนุนนโยบาย ปตท.เต็มพิกัด ชง "โคโรลล่า ลีโม" ติดเอ็นจีวีแทรกตลาด ตั้งเอกชนรับหน้าเสื่อติดตั้งพร้อมรับประกันมาตรฐานโดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ เชื่อราคารถจะถูกลงอีกหลังคลังปรับลดภาษีสรรพสามิตเหลือ 20% ล่อใจลูกค้า อู่ติดตั้งถังก๊าซเฮ ลูกค้าตรึม
ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนใกล้จะทะลุ 30 บาท/ลิตรแล้วนั้น ทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างตื่นตัวที่จะหันมาผลิตรถยนต์ที่สามารถติดตั้งก๊าซเอ็นจีวีซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่าน้ำมันมาก ขณะเดียวกันผู้ใช้รถยนต์ที่สู้กับราคาน้ำมันที่แพงลิ่วไม่ไหว ต่างหันมาติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์กันมากขึ้น ทำให้ร้านหรืออู่ที่รับติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์อู้ฟู่กันเป็นแถว
ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ในวันที่ 20 เมษายนนี้ กระทรวงการคลังจะหารือร่วมกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เพื่อขอความร่วมมือในการส่งเสริมให้มีการผลิตรถยนต์ที่สามารถใช้ก๊าซเอ็นจีอีเพิ่มขึ้น หลังจากกระทรวงคลังได้มีการปรับลดภาษีสรรพสามิตเหลือ 20% สำหรับรถยนต์ที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีได้จากเดิมเสียภาษี 30%
"โตโยต้า-จีเอ็ม" นำร่องติดตั้งระบบ
แหล่งข่าวฝ่ายบริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมให้ความร่วมมือ โดยล่าสุดได้เสนอรูปแบบรถยนต์รุ่นโคโรลล่า ลีโม ว่า น่าจะเป็นรุ่นที่สามารถดำเนินการติดตั้งได้ทันที โดยใช้ผู้ติดตั้งระบบและถังจากอู่นอก แต่การันตีจากโตโยต้า ซึ่งบริษัทจะเข้าไปให้ความรู้และแนวทางการติดตั้งอย่างถูกวิธี และยืนยันหากจะผลักดันให้คนหันมาใช้รถยนต์ก๊าซเอ็นจีวีจำเป็นจะต้องสร้างแรงจูงใจ โดยน่าจะมีการปรับลดภาษีสรรพสามิตรถเก๋งจากเดิมที่เก็บในอัตรา 35-40% ลงมาเหลือ 20% เพื่อให้ราคารถต่ำลง
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า เรื่องนี้อาจจะต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ เพราะต้องผ่านหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้กำหนดอัตราภาษีสรรพสามิต ซึ่งล่าสุดทราบว่ากระทรวงพลังงานได้เสนอเรื่องนี้ให้คลังไปแล้ว
สำหรับการช่วยสนับสนุนการใช้ก๊าซเอ็นจีวี ค่ายรถยนต์หลายค่ายมีโครงการสนับสนุนคล้ายกัน ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทเจนเนอรัลมอเตอร์ (จีเอ็ม) ก็ดำเนินการในลักษณะนี้เช่นกัน
นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่โตโยต้าจะทำรถเอ็นจีวีนั้นถือเป็นเรื่องดี เพราะอย่างน้อยช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถได้ทางหนึ่งเพราะโตโยต้าจะรับประกันในส่วนของเครื่องยนต์เอง แต่เราต้องการให้โตโยต้าดำเนินการในรูปแบบโออีเอ็ม มากกว่า โดยต้องมีการออกแบบรถให้สามารถซ่อนถังเองได้ เพื่อความสวยงามและมีพื้นที่สำหรับเก็บของด้วย
ปัจจุบันถังก๊าซที่นำมาติดตั้งจะมีขนาดใหญ่ และทำให้ผู้ติดตั้งต้องเสียพื้นที่ท้ายรถจึงไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควร
ส่วนความคืบหน้าที่บริษัทเดมเลอร์ไครสเลอร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้มอบรถยนต์เบนซ์ E 200 NGT ที่ส่งมอบให้กระทรวงพลังงานศึกษานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตัดสินใจของบริษัทผู้ผลิตเองจะนำรถรุ่นดังกล่าวออกมาจำหน่ายได้เมื่อใด
สำหรับแผนในการส่งเสริมการใช้เอ็นจีวีของ ปตท.นั้น ยังคงดำเนินการไปตามเป้าหมายเดิม คือ ภายในปีนี้จะมีการสร้างสถานบริการก๊าซเอ็นจีวีให้ได้ 160 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 58 แห่ง เพิ่มจำนวนรถที่ใช้เอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงให้ได้ 7-8 หมื่นคัน จาก 1 หมื่นคันในปัจจุบัน ทั้งนี้รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีทดแทนน้ำมันเบนซินและดีเซลให้ได้ถึง 10% หรือคิดเป็น 2,100 ล้านลิตรต่อปี ภายในปี พ.ศ.2551 นี้
ด้านนายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า การที่บริษัท โตโยต้าได้ขอรับนโยบายพลังงานทดแทนเอ็นจีวีนั้น ในส่วนของการขอสิทธิพิเศษเพื่อลดหย่อนภาษีสรรพสามิตให้เหลือ 20% นั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติแต่อย่างใด ปัจจุบันได้มีผู้นำรถยนต์ที่สามารถใช้ก๊าซเอ็นจีวีเข้ามายังประเทศไทยแล้ว และยังได้รับส่วนลดสำหรับภาษีสรรพสามิตที่ 20% อยู่แล้ว
ดังนั้นในกรณีของบริษัทโตโยต้าที่จะดำเนินการในรูปแบบ "เลทรอฟิต" (letrofit) ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยนำถังมาติดตั้งต่างหาก โดยไม่ใช่ดำเนินการในโรงงานประกอบรถยนต์ คือเป็นการดำเนินการติดตั้งถังก๊าซในลักษณะเหมือนกับการติดตั้งของรถแท็กซี่ในปัจจุบัน ซึ่งหากมองในเรื่องของการลดหย่อนภาษีสรรพสามิตแล้ว การดำเนินการในรูปแบบดังกล่าวจะไม่เข้าข่ายได้รับการลดหย่อนภาษีแต่อย่างใด
"การทำในรูปแบบของเลทรอฟิต (letrofit) นั้น จะมาขอลดย่อนภาษีอีกไม่ได้ จากกรณีดังกล่าว ตนคิดว่ายังไม่มีความชัดเจนใดๆ มากนัก เพราะยังมีความคลุมเครือ ซึ่งต้องรอดูท่าทีและความชัดเจนจากโตโยต้ากันอีกที"
ชี้ตลาดรถโดยสารคุ้มค่ากว่า
สำหรับแนวโน้มการใช้ก๊าซเอ็นจีวีของประเทศไทยนั้น ตนเชื่อว่ามีอนาคตและโอกาสในการเติบโตค่อนข้างสูง เนื่องจากมีบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง ปตท.ให้การรองรับ แต่สิ่งสำคัญสำหรับเอ็นจีวีน่าจะอยู่ที่ตลาดของรถโดยสาร และรถบัสขนาดใหญ่ เนื่องจากมีความคุ้มค่ามากกว่ารถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถยนต์ประเภทอื่นๆ เนื่องจากรถโดยสารหรือรถบัสมีขนาดของพื้นที่ที่กว้างและเพียงพอในการติดตั้งถังก๊าซ และสามารถบรรจุก๊าซได้เป็นจำนวนมาก ส่วนรถขนาดเล็กนั้นมีพื้นที่ในการติดตั้งถังบรรจุก๊าซน้อยเกินไปทำให้ต้องไปกินพื้นที่ในส่วนของกระโปรงหลัง และขนาดของถังที่ต้องมีขนาดเล็กส่งผลให้ต้องมีการเติมก๊าซบ่อยครั้ง ทำให้ใช้งานได้ในระยะทางสั้นๆ ดังนั้น การติดตั้งถังก๊าซเอ็นจีวีในรถโดยสารจะมีความคุ้มค่าสูงสุด
การติดตั้งถังก๊าซแบบ "เลทรอฟิต" (letrofit) ที่โตโยต้านำเสนอต่อรัฐบาลนั้น หากมีการดำเนินงานจริง ตนคิดว่าโตโยต้าควรที่จะดำเนินการติดตั้งภายในโรงงานประกอบรถยนต์ โดยมีการออกแบบตัวถัง ขนาดให้เหมาะสมกับรถยนต์รุ่นนั้นๆ
อู่ติดเอ็นจีวีล้นทะลัก
จากกระแสการผลักดันอย่างหนักหน่วงของทั้งผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น ปตท. รวมถึงการให้การสนับสนุนจากผู้ผลิตรถยนต์ ส่งผลให้อู่ที่ดำเนินการติดตั้งระบบก๊าซเอ็นจีวีดูคึกคักมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นายไชยเชษฐ์ สีวลีพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ส.ศิริแสง จำกัด ผู้ประกอบการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวีรายใหญ่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชาชนเริ่มมองเห็นความคุ้มค่าของการใช้ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีแทนน้ำมัน สั่งให้นำรถที่ใช้งานในกิจการทั่วไป รวมทั้งรถประจำตำแหน่งผู้บริหาร มาติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวี เสียค่าใช้จ่ายต่อคันตั้งแต่ 40,000 บาทไปจนถึง 80,000 บาทต่อคัน (คิดตามขนาดเครื่องยนต์และอุปกรณ์) แต่ผลที่ได้คุ้มค่ากว่ากันมาก
"ปีนี้เราตั้งเป้าไว้ที่ 4,000 คัน ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผนที่ ปตท.วางไว้ รวมถึงการติดตั้งในเครื่องยนต์ดีเซลด้วย สำหรับสถานการณ์ของการติดตั้งก๊าซเอ็นจีวีในปัจจุบันด้วย วันนี้ถือว่าตลาดยังไม่ดีเท่าที่ควร"
น้ำมันแพงถล่มผู้ใช้รถกระตุ้นก๊าซเอ็นจีวีฟู่ฟ่า "โตโยต้า-จีเอ็ม" สบช่องช่วยเร่งเครื่องหนุนนโยบาย ปตท.เต็มพิกัด ชง "โคโรลล่า ลีโม" ติดเอ็นจีวีแทรกตลาด ตั้งเอกชนรับหน้าเสื่อติดตั้งพร้อมรับประกันมาตรฐานโดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ เชื่อราคารถจะถูกลงอีกหลังคลังปรับลดภาษีสรรพสามิตเหลือ 20% ล่อใจลูกค้า อู่ติดตั้งถังก๊าซเฮ ลูกค้าตรึม
ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนใกล้จะทะลุ 30 บาท/ลิตรแล้วนั้น ทำให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างตื่นตัวที่จะหันมาผลิตรถยนต์ที่สามารถติดตั้งก๊าซเอ็นจีวีซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่าน้ำมันมาก ขณะเดียวกันผู้ใช้รถยนต์ที่สู้กับราคาน้ำมันที่แพงลิ่วไม่ไหว ต่างหันมาติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์กันมากขึ้น ทำให้ร้านหรืออู่ที่รับติดตั้งระบบก๊าซในรถยนต์อู้ฟู่กันเป็นแถว
ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ในวันที่ 20 เมษายนนี้ กระทรวงการคลังจะหารือร่วมกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เพื่อขอความร่วมมือในการส่งเสริมให้มีการผลิตรถยนต์ที่สามารถใช้ก๊าซเอ็นจีอีเพิ่มขึ้น หลังจากกระทรวงคลังได้มีการปรับลดภาษีสรรพสามิตเหลือ 20% สำหรับรถยนต์ที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวีได้จากเดิมเสียภาษี 30%
"โตโยต้า-จีเอ็ม" นำร่องติดตั้งระบบ
แหล่งข่าวฝ่ายบริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมให้ความร่วมมือ โดยล่าสุดได้เสนอรูปแบบรถยนต์รุ่นโคโรลล่า ลีโม ว่า น่าจะเป็นรุ่นที่สามารถดำเนินการติดตั้งได้ทันที โดยใช้ผู้ติดตั้งระบบและถังจากอู่นอก แต่การันตีจากโตโยต้า ซึ่งบริษัทจะเข้าไปให้ความรู้และแนวทางการติดตั้งอย่างถูกวิธี และยืนยันหากจะผลักดันให้คนหันมาใช้รถยนต์ก๊าซเอ็นจีวีจำเป็นจะต้องสร้างแรงจูงใจ โดยน่าจะมีการปรับลดภาษีสรรพสามิตรถเก๋งจากเดิมที่เก็บในอัตรา 35-40% ลงมาเหลือ 20% เพื่อให้ราคารถต่ำลง
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า เรื่องนี้อาจจะต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ เพราะต้องผ่านหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นผู้กำหนดอัตราภาษีสรรพสามิต ซึ่งล่าสุดทราบว่ากระทรวงพลังงานได้เสนอเรื่องนี้ให้คลังไปแล้ว
สำหรับการช่วยสนับสนุนการใช้ก๊าซเอ็นจีวี ค่ายรถยนต์หลายค่ายมีโครงการสนับสนุนคล้ายกัน ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทเจนเนอรัลมอเตอร์ (จีเอ็ม) ก็ดำเนินการในลักษณะนี้เช่นกัน
นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การที่โตโยต้าจะทำรถเอ็นจีวีนั้นถือเป็นเรื่องดี เพราะอย่างน้อยช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถได้ทางหนึ่งเพราะโตโยต้าจะรับประกันในส่วนของเครื่องยนต์เอง แต่เราต้องการให้โตโยต้าดำเนินการในรูปแบบโออีเอ็ม มากกว่า โดยต้องมีการออกแบบรถให้สามารถซ่อนถังเองได้ เพื่อความสวยงามและมีพื้นที่สำหรับเก็บของด้วย
ปัจจุบันถังก๊าซที่นำมาติดตั้งจะมีขนาดใหญ่ และทำให้ผู้ติดตั้งต้องเสียพื้นที่ท้ายรถจึงไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควร
ส่วนความคืบหน้าที่บริษัทเดมเลอร์ไครสเลอร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้มอบรถยนต์เบนซ์ E 200 NGT ที่ส่งมอบให้กระทรวงพลังงานศึกษานั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตัดสินใจของบริษัทผู้ผลิตเองจะนำรถรุ่นดังกล่าวออกมาจำหน่ายได้เมื่อใด
สำหรับแผนในการส่งเสริมการใช้เอ็นจีวีของ ปตท.นั้น ยังคงดำเนินการไปตามเป้าหมายเดิม คือ ภายในปีนี้จะมีการสร้างสถานบริการก๊าซเอ็นจีวีให้ได้ 160 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 58 แห่ง เพิ่มจำนวนรถที่ใช้เอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงให้ได้ 7-8 หมื่นคัน จาก 1 หมื่นคันในปัจจุบัน ทั้งนี้รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีทดแทนน้ำมันเบนซินและดีเซลให้ได้ถึง 10% หรือคิดเป็น 2,100 ล้านลิตรต่อปี ภายในปี พ.ศ.2551 นี้
ด้านนายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า การที่บริษัท โตโยต้าได้ขอรับนโยบายพลังงานทดแทนเอ็นจีวีนั้น ในส่วนของการขอสิทธิพิเศษเพื่อลดหย่อนภาษีสรรพสามิตให้เหลือ 20% นั้น ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติแต่อย่างใด ปัจจุบันได้มีผู้นำรถยนต์ที่สามารถใช้ก๊าซเอ็นจีวีเข้ามายังประเทศไทยแล้ว และยังได้รับส่วนลดสำหรับภาษีสรรพสามิตที่ 20% อยู่แล้ว
ดังนั้นในกรณีของบริษัทโตโยต้าที่จะดำเนินการในรูปแบบ "เลทรอฟิต" (letrofit) ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยนำถังมาติดตั้งต่างหาก โดยไม่ใช่ดำเนินการในโรงงานประกอบรถยนต์ คือเป็นการดำเนินการติดตั้งถังก๊าซในลักษณะเหมือนกับการติดตั้งของรถแท็กซี่ในปัจจุบัน ซึ่งหากมองในเรื่องของการลดหย่อนภาษีสรรพสามิตแล้ว การดำเนินการในรูปแบบดังกล่าวจะไม่เข้าข่ายได้รับการลดหย่อนภาษีแต่อย่างใด
"การทำในรูปแบบของเลทรอฟิต (letrofit) นั้น จะมาขอลดย่อนภาษีอีกไม่ได้ จากกรณีดังกล่าว ตนคิดว่ายังไม่มีความชัดเจนใดๆ มากนัก เพราะยังมีความคลุมเครือ ซึ่งต้องรอดูท่าทีและความชัดเจนจากโตโยต้ากันอีกที"
ชี้ตลาดรถโดยสารคุ้มค่ากว่า
สำหรับแนวโน้มการใช้ก๊าซเอ็นจีวีของประเทศไทยนั้น ตนเชื่อว่ามีอนาคตและโอกาสในการเติบโตค่อนข้างสูง เนื่องจากมีบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง ปตท.ให้การรองรับ แต่สิ่งสำคัญสำหรับเอ็นจีวีน่าจะอยู่ที่ตลาดของรถโดยสาร และรถบัสขนาดใหญ่ เนื่องจากมีความคุ้มค่ามากกว่ารถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถยนต์ประเภทอื่นๆ เนื่องจากรถโดยสารหรือรถบัสมีขนาดของพื้นที่ที่กว้างและเพียงพอในการติดตั้งถังก๊าซ และสามารถบรรจุก๊าซได้เป็นจำนวนมาก ส่วนรถขนาดเล็กนั้นมีพื้นที่ในการติดตั้งถังบรรจุก๊าซน้อยเกินไปทำให้ต้องไปกินพื้นที่ในส่วนของกระโปรงหลัง และขนาดของถังที่ต้องมีขนาดเล็กส่งผลให้ต้องมีการเติมก๊าซบ่อยครั้ง ทำให้ใช้งานได้ในระยะทางสั้นๆ ดังนั้น การติดตั้งถังก๊าซเอ็นจีวีในรถโดยสารจะมีความคุ้มค่าสูงสุด
การติดตั้งถังก๊าซแบบ "เลทรอฟิต" (letrofit) ที่โตโยต้านำเสนอต่อรัฐบาลนั้น หากมีการดำเนินงานจริง ตนคิดว่าโตโยต้าควรที่จะดำเนินการติดตั้งภายในโรงงานประกอบรถยนต์ โดยมีการออกแบบตัวถัง ขนาดให้เหมาะสมกับรถยนต์รุ่นนั้นๆ
อู่ติดเอ็นจีวีล้นทะลัก
จากกระแสการผลักดันอย่างหนักหน่วงของทั้งผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น ปตท. รวมถึงการให้การสนับสนุนจากผู้ผลิตรถยนต์ ส่งผลให้อู่ที่ดำเนินการติดตั้งระบบก๊าซเอ็นจีวีดูคึกคักมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นายไชยเชษฐ์ สีวลีพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ส.ศิริแสง จำกัด ผู้ประกอบการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวีรายใหญ่ เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชาชนเริ่มมองเห็นความคุ้มค่าของการใช้ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีแทนน้ำมัน สั่งให้นำรถที่ใช้งานในกิจการทั่วไป รวมทั้งรถประจำตำแหน่งผู้บริหาร มาติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวี เสียค่าใช้จ่ายต่อคันตั้งแต่ 40,000 บาทไปจนถึง 80,000 บาทต่อคัน (คิดตามขนาดเครื่องยนต์และอุปกรณ์) แต่ผลที่ได้คุ้มค่ากว่ากันมาก
"ปีนี้เราตั้งเป้าไว้ที่ 4,000 คัน ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผนที่ ปตท.วางไว้ รวมถึงการติดตั้งในเครื่องยนต์ดีเซลด้วย สำหรับสถานการณ์ของการติดตั้งก๊าซเอ็นจีวีในปัจจุบันด้วย วันนี้ถือว่าตลาดยังไม่ดีเท่าที่ควร"
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 9
ปี2549 160 แห่ง ..................
ปี 2553 750 แห่ง !!!!!
ปตท.จูงใจปรับมาร์จิ้น1บาท ลูกค้าก๊าซเอ็นจีวีเฮปั๊มแห่ผุด
รถใช้ก๊าซ "เอ็นจีวี" เฮ ปตท.เอาใจปรับมาร์จิ้นให้ปั๊มขยับพรวดกว่าเท่าตัว จากเดิมที่ 30-40 สตางค์ต่อกิโลกรัม ขึ้นเพิ่มเป็น 1 บาทต่อกิโลกรัม หวังสร้างแรงจูงใจ ยันไม่เกินปีนี้ขับรถไปเติมก๊าซเอ็นจีวีได้มากกว่า 160 แห่งทั่วประเทศ
นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน หรือดีลเลอร์ของบริษัท ปตท.ประสบภาวะขาดทุนจากการจำหน่ายน้ำมันเบนซินและดีเซลในช่วงที่ผ่านมานั้น ขณะนี้บางรายได้เริ่มกลับมาเปิดสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ NGV โดยเฉพาะมากขึ้น เนื่องจากได้กำไรจากค่าการตลาด ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลที่ขณะนี้ค่าการตลาดสูงกว่า แต่ก๊าซ NGV อยู่ที่ราว 30-40 สตางค์ต่อกิโลกรัมเท่านั้น โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเพิ่มขึ้นกว่า 20 สถานี บริการแล้ว และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น เนื่อง จากราคาก๊าซ NGV อยู่ที่เพียง 8.50 บาทต่อกิโล กรัมเท่านั้น ส่วนราคาน้ำมันอยู่ที่ราวเกือบ 29 บาทต่อลิตรแล้ว ประชาชนจะหันมาใช้ก๊าซ NGV มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการมาจำหน่ายก๊าซ NGV มากขึ้นนั้น บริษัท ปตท.เตรียมที่จะพิจารณาปรับค่าการตลาดให้จากเดิมที่ 30-40 สตางค์ต่อกิโลกรัม ขึ้นเพิ่มเป็น 1 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งตามแผนส่งเสริมการใช้ก๊าซ NGV ของ ปตท.นั้นจะเพิ่มปริมาณรถที่ใช้ก๊าซ NGV ให้ได้ 500,000 คัน ในปี 2553 และมีสถานีบริการเพิ่มขึ้นถึง 750 สถานี ทำให้ประเทศลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศได้ถึงร้อยละ 10 รวมถึงขณะนี้บริษัท ปตท.เตรียมขยายกรอบเวลาในการสนับ สนุนเงินในการติดตั้งถังก๊าซ NGV อยู่ที่ 10,000 บาทต่อคันออกไปอีก เพื่อรองรับความต้องการของผู้สนใจที่จะติดตั้งถังก๊าซ NGV ที่ยังมีอย่างต่อเนื่องด้วย
สำหรับแผนในการส่งเสริมการใช้เอ็นจีวีของ ปตท.นั้น ยังคงดำเนินการไปตามเป้าหมายเดิม คือ ภายในปีนี้จะมีการสร้างสถานบริการก๊าซเอ็นจีวีให้ได้ 160 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 58 แห่ง เพิ่มจำนวนรถที่ใช้เอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงให้ได้ 7-8 หมื่นคัน จาก 1 หมื่นคันในปัจจุบัน ทั้งนี้รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีทดแทนน้ำมันเบนซินและดีเซลให้ได้ถึง 10% หรือคิดเป็น 2,100 ล้านลิตรต่อปีภายในปี พ.ศ.2551 นี้
ปี 2553 750 แห่ง !!!!!
ปตท.จูงใจปรับมาร์จิ้น1บาท ลูกค้าก๊าซเอ็นจีวีเฮปั๊มแห่ผุด
รถใช้ก๊าซ "เอ็นจีวี" เฮ ปตท.เอาใจปรับมาร์จิ้นให้ปั๊มขยับพรวดกว่าเท่าตัว จากเดิมที่ 30-40 สตางค์ต่อกิโลกรัม ขึ้นเพิ่มเป็น 1 บาทต่อกิโลกรัม หวังสร้างแรงจูงใจ ยันไม่เกินปีนี้ขับรถไปเติมก๊าซเอ็นจีวีได้มากกว่า 160 แห่งทั่วประเทศ
นายจิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน หรือดีลเลอร์ของบริษัท ปตท.ประสบภาวะขาดทุนจากการจำหน่ายน้ำมันเบนซินและดีเซลในช่วงที่ผ่านมานั้น ขณะนี้บางรายได้เริ่มกลับมาเปิดสถานีบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ หรือ NGV โดยเฉพาะมากขึ้น เนื่องจากได้กำไรจากค่าการตลาด ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันเบนซินและดีเซลที่ขณะนี้ค่าการตลาดสูงกว่า แต่ก๊าซ NGV อยู่ที่ราว 30-40 สตางค์ต่อกิโลกรัมเท่านั้น โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเพิ่มขึ้นกว่า 20 สถานี บริการแล้ว และคาดว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น เนื่อง จากราคาก๊าซ NGV อยู่ที่เพียง 8.50 บาทต่อกิโล กรัมเท่านั้น ส่วนราคาน้ำมันอยู่ที่ราวเกือบ 29 บาทต่อลิตรแล้ว ประชาชนจะหันมาใช้ก๊าซ NGV มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการมาจำหน่ายก๊าซ NGV มากขึ้นนั้น บริษัท ปตท.เตรียมที่จะพิจารณาปรับค่าการตลาดให้จากเดิมที่ 30-40 สตางค์ต่อกิโลกรัม ขึ้นเพิ่มเป็น 1 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งตามแผนส่งเสริมการใช้ก๊าซ NGV ของ ปตท.นั้นจะเพิ่มปริมาณรถที่ใช้ก๊าซ NGV ให้ได้ 500,000 คัน ในปี 2553 และมีสถานีบริการเพิ่มขึ้นถึง 750 สถานี ทำให้ประเทศลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศได้ถึงร้อยละ 10 รวมถึงขณะนี้บริษัท ปตท.เตรียมขยายกรอบเวลาในการสนับ สนุนเงินในการติดตั้งถังก๊าซ NGV อยู่ที่ 10,000 บาทต่อคันออกไปอีก เพื่อรองรับความต้องการของผู้สนใจที่จะติดตั้งถังก๊าซ NGV ที่ยังมีอย่างต่อเนื่องด้วย
สำหรับแผนในการส่งเสริมการใช้เอ็นจีวีของ ปตท.นั้น ยังคงดำเนินการไปตามเป้าหมายเดิม คือ ภายในปีนี้จะมีการสร้างสถานบริการก๊าซเอ็นจีวีให้ได้ 160 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีอยู่เพียง 58 แห่ง เพิ่มจำนวนรถที่ใช้เอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงให้ได้ 7-8 หมื่นคัน จาก 1 หมื่นคันในปัจจุบัน ทั้งนี้รัฐบาลตั้งเป้าว่าจะส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีทดแทนน้ำมันเบนซินและดีเซลให้ได้ถึง 10% หรือคิดเป็น 2,100 ล้านลิตรต่อปีภายในปี พ.ศ.2551 นี้
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 10
ความร่วมมือกับภาคการเงิน ........................
1.
ปตท. - แคปปิตอล โอเค เปิดตัวโครงการ "NGV เพื่อชาติ เพื่อคุณ เพื่อชีวิตที่โอเค"
--------------------------------------------------------------------------------
เปิดให้บริการสินเชื่อเงินผ่อนติดตั้งระบบก๊าซเอ็นจีวี ปตท. ในรถยนต์ ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ ดอก 0% 3 เดือน ผ่อนนานสูงสุด 36 เดือน
ปตท. ร่วมกับ แคปปิตอล โอเค หนุนโครงการใช้ก๊าซเอ็นจีวี-ปตท.ทดแทนน้ำมัน กู้วิกฤตพลังงาน ด้วยบริการสินเชื่อเงินผ่อนเพื่อติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวีในรถยนต์ ร่วมกับร้านค้าให้บริการรับติดตั้งกว่า 100 แห่ง เฟสแรกเปิดให้บริการกับรถตู้บริการสาธารณะ รถแท๊กซี่ และผู้ประกอบการขนส่ง ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ ดอกเบี้ย 0% 3 เดือน เอกสารน้อย อนุมัติง่าย นอกจากนั้น ปตท. ยังช่วยค่าติดตั้งอีกคันละ 10,000 บาท จากโครงการ NGV เพื่อประชาชน อีกด้วย
วันนี้ (6 มี.ค.49) ที่สถานีบริการ NGV ศรีเจริญภัณฑ์ ถนนวิภาวดีรังสิต ได้มีงานเปิดตัวโครงการ NGV เพื่อชาติ เพื่อคุณ เพื่อชีวิตที่โอเค เพื่อประกาศความร่วมมือระหว่าง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และ บริษัทแคปปิตอล โอเค จำกัด ในการสนับสนุนนโยบายของกระทรวงพลังงานที่ประกาศให้ปีนี้ เป็น ปีแห่งพลังงานทดแทน ที่มุ่งเน้นการแสวงหาพลังงานอื่นมาใช้แทนน้ำมัน อันเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาภาวะวิกฤตพลังงาน โดย นายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) และ คุณขวัญชัย โหมดประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านการตลาด บริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด ร่วมกันแถลงถึงรายละเอียดโครงการดังนี้
นายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ปตท. เปิดเผยว่า ความร่วมมือกันระหว่าง ปตท. และ บริษัทแคปปิตอล โอเค จำกัด ในครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือที่ดี ในการที่จะเปิดโอกาสให้แก่ผู้สนใจทั่วไปที่ไม่สามารถขอสินเชื่อตามปกติจากธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดในการหาหลักประกันการขอสินเชื่อเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ NGV ความร่วมมือนี้จะทำให้การขยายการใช้ก๊าซ NGV เข้าถึงประชาชนทุกทั่วกลุ่มมากยิ่งขึ้น สำหรับสถานีบริการก๊าซ NGV ซึ่งขณะนี้จะเปิดให้บริการครบ 65 สถานีในปลายเดือนมีนาคมนี้แล้ว นอกจากนี้ ปตท. ยังได้เร่งออกแบบและก่อสร้างสถานีบริการฯ ขนาดเล็ก โดยเบื้องต้นจะเริ่มก่อสร้างพร้อมกัน 12 สถานี ขณะนี้ได้จัดหาผู้รับจ้างเพื่อนำเข้าอุปกรณ์และทำการก่อสร้างสถานีฯ แล้ว ซึ่งจะสามารถอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเติมก๊าซ NGV ได้มากขึ้นด้วย
นายณัฐชาติ จารุจินดา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า โครงการปัจจุบันที่ยังดำเนินการต่อเนื่องคือ โครงการ NGV เพื่อประชาชน ที่ ปตท. ยังคงให้การสนับสนุนค่าอุปกรณ์และการติดตั้งฯ ในรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 5,000 คัน คันละ 10,000 บาท สำหรับรถตู้รับจ้าง ขณะนี้ ปตท. จัดโควต้าให้เหลือเพียง 1,000 คัน เท่านั้น ปตท. จึงใคร่ขอเชิญชวนผู้สนใจเร่งสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2549 นอกจากนี้เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระและเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีทดแทนการใช้น้ำมันตามนโยบายรัฐบาล ปตท. ยังคงตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวีไว้ที่กิโลกรัมละ 8.50 บาท ทุกสถานี แม้ราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดจะปรับตัวสูงขึ้น ผู้สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รับโทรศัพท์ ปตท. (Call Center) โทรศัพท์หมายเลข 0-2217-7799
ทางด้านบริษัทแคปปิตอล โอเค จำกัด คุณขวัญชัย โหมดประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านการตลาด ได้กล่าวถึงแคมเปญสินเชื่อ NGV ในครั้งนี้ ว่า เรายินดีที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนโครงการช่วยชาติประหยัดพลังงานของ ปตท. เพื่อชีวิตที่โอเคนี้ โดยการเปิดให้บริการสินเชื่อเงินผ่อนเพื่อติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวีในรถยนต์ โดยในเฟสแรก จะเปิดบริการกับผู้ประกอบการขนส่ง รถแท๊กซี่ และรถตู้โดยสารประจำทาง ที่มีอายุรถไม่เกิน 10 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน ผ่อนนานได้สูงสุดถึง 36 เดือน เอกสารน้อย อนุมัติง่าย โดยผู้สนใจสามารถสมัครใช้บริการได้ ที่ร้านค้ารับติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวี ที่มีสัญลักษณ์แคปปิตอลโอเค กว่า 100 แห่ง นอกจากนั้น เรายังมีโปรโมชั่นพิเศษ รับฟรี ดอกเบี้ย 0% 3 เดือน สำหรับผู้ที่เข้าโครงการ พลังงาน NGV เพื่อชาติ เพื่อคุณ เพื่อชีวิตที่โอเค เพียงร่วมติดสติกเกอร์รณรงค์ใช้ก๊าซ NGV กับเราเท่านั้น เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพียงแค่นี้ชีวิตก็จะโอเคขึ้นและยังได้ช่วยชาติประหยัดพลังงาน รวมทั้งช่วยลดมลพิษในอากาศได้อีกด้วย
2.
ปตท. - อิออน ลงนามความร่วมมือสินเชื่อติดตั้งอุปกรณ์ NGV อนุมัติได้ภายใน 30 นาที
--------------------------------------------------------------------------------
วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2549) เวลา 11.00 น. ที่อาคาร บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ NGV ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดย นายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ กับ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด โดย นายมาซาโอะ มิซูโน กรรมการผู้จัดการ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชน และผู้ประกอบการในภาคการขนส่งติดตั้งอุปกรณ์ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงทดแทนการใช้น้ำมัน ในภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลก
สำหรับสาระสำคัญในบันทึกความร่วมมือ มีดังนี้ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด จะให้สินเชื่อแก่ผู้สนใจทั่วไปเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ NGV ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.16 ต่อเดือน (อัตราดอกเบี้ยคงที่) ระยะเวลาการผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 36 เดือน และจัดโปรโมชั่นพิเศษให้แก่ผู้ขอ สินเชื่อระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2549 จะได้รับสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยถูกเป็นพิเศษ คือ ร้อยละ 1 ต่อเดือน อนุมัติสินเชื่อได้ภายใน 30 นาที สนใจสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข 0-2665-0123
นายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ปตท. เปิดเผยว่า ความร่วมมือกันระหว่าง ปตท. และ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่จะอำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้สนใจทั่วไปในการขอรับสินเชื่อเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ NGV นอกเหนือ จากธนาคารออมสิน เอสเอ็มอีแบงก์ และ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งจะทำให้การให้บริการสินเชื่อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และ ผู้ประกอบการขนส่งที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ ปตท. จึงได้เร่งขยายสถานีบริการก๊าซ NGV จากปัจจุบันที่จะพร้อมให้บริการทั้งหมดในเดือนมีนาคมจำนวนทั้งสิ้น 65 สถานี เป็น 160 สถานี ภายในสิ้นปี 2549 และยังคง เป้าหมายเดิมที่จะขยายสถานีบริการ NGV เป็น 740 สถานี ในปี 2553
สำหรับความร่วมมือกับบริษัทน้ำมันในการขยายจำนวนสถานีบริการ NGV ให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นนั้น ขณะนี้ ปตท. และ บางจากฯ ในเบื้องต้นจะเริ่มที่ 3 สถานีก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันบางจากสาขากิ่งแก้ว สาขานวลจันทร์ และ สาขาราษฎร์บูรณะ คาดว่าจะเปิดให้บริการฯ ในเดือนเมษายน 2549 และจะเพิ่มเป็น 10 สถานีในปลายปีนี้ สำหรับความร่วมมือกับ ปิโตรนาส ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดความร่วมมือฯ ซึ่งคาดว่าจะสรุปผลได้ในเร็ว ๆ นี้
นายณัฐชาติ จารุจินดา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า โครงการปัจจุบันที่ยังดำเนินการต่อเนื่องคือ โครงการ NGV เพื่อประชาชน ที่ ปตท. ยังคงให้การสนับสนุนค่าอุปกรณ์และการติดตั้งฯ ในรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 5,000 คัน คันละ 10,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือสามารถขอรับสินเชื่อจากอิออนได้ และ โครงการนำร่องปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลเป็นเอ็นจีวี ที่กองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานสนับสนุนงบประมาณแก่ ปตท. เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่งต่าง ๆ บริษัทละ 1 คัน เป็นเงิน 70% ของค่าใช้จ่าย (แต่ไม่เกิน 400,000 บาท / คัน) วงเงินรวมทั้งโครงการ 40 ล้านบาท ในการปรับปรุงรถยนต์ดีเซลเดิมให้ใช้ก๊าซเอ็นจีวีทดแทน ทั้งการติดตั้งอุปกรณ์ NGV เพิ่มเติมในระบบเชื้อเพลิงร่วม การดัดแปลงเครื่องยนต์เดิมให้เป็นเครื่องยนต์เอ็นจีวี การเปลี่ยนเครื่องยนต์ ตลอดจนการซื้อรถ NGV ใหม่ด้วย ฯลฯ
ปตท. จึงใคร่ขอเชิญชวนประชาชน บริษัท และ ห้างหุ้นส่วน ต่าง ๆ รีบสมัครเข้าร่วม โครงการ NGV เพื่อประชาชน ซึ่งขณะนี้มียอดรับสมัครเหลืออีกจำนวนหนึ่ง สำหรับ โครงการนำร่องปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลเป็นเอ็นจีวี มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ครบจำนวนแล้ว และเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระและเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีทดแทนการใช้น้ำมัน ตามนโยบายรัฐบาล ปตท. ยังคงตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวีไว้ที่กิโลกรัมละ 8.50 บาท ทุกสถานี แม้ราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดจะปรับตัวสูงขึ้น ผู้สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รับโทรศัพท์ ปตท. (Call Center) โทรศัพท์หมายเลข 0-2217-7799
1.
ปตท. - แคปปิตอล โอเค เปิดตัวโครงการ "NGV เพื่อชาติ เพื่อคุณ เพื่อชีวิตที่โอเค"
--------------------------------------------------------------------------------
เปิดให้บริการสินเชื่อเงินผ่อนติดตั้งระบบก๊าซเอ็นจีวี ปตท. ในรถยนต์ ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ ดอก 0% 3 เดือน ผ่อนนานสูงสุด 36 เดือน
ปตท. ร่วมกับ แคปปิตอล โอเค หนุนโครงการใช้ก๊าซเอ็นจีวี-ปตท.ทดแทนน้ำมัน กู้วิกฤตพลังงาน ด้วยบริการสินเชื่อเงินผ่อนเพื่อติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวีในรถยนต์ ร่วมกับร้านค้าให้บริการรับติดตั้งกว่า 100 แห่ง เฟสแรกเปิดให้บริการกับรถตู้บริการสาธารณะ รถแท๊กซี่ และผู้ประกอบการขนส่ง ด้วยโปรโมชั่นพิเศษ ดอกเบี้ย 0% 3 เดือน เอกสารน้อย อนุมัติง่าย นอกจากนั้น ปตท. ยังช่วยค่าติดตั้งอีกคันละ 10,000 บาท จากโครงการ NGV เพื่อประชาชน อีกด้วย
วันนี้ (6 มี.ค.49) ที่สถานีบริการ NGV ศรีเจริญภัณฑ์ ถนนวิภาวดีรังสิต ได้มีงานเปิดตัวโครงการ NGV เพื่อชาติ เพื่อคุณ เพื่อชีวิตที่โอเค เพื่อประกาศความร่วมมือระหว่าง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และ บริษัทแคปปิตอล โอเค จำกัด ในการสนับสนุนนโยบายของกระทรวงพลังงานที่ประกาศให้ปีนี้ เป็น ปีแห่งพลังงานทดแทน ที่มุ่งเน้นการแสวงหาพลังงานอื่นมาใช้แทนน้ำมัน อันเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยแก้ปัญหาภาวะวิกฤตพลังงาน โดย นายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) และ คุณขวัญชัย โหมดประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านการตลาด บริษัท แคปปิตอล โอเค จำกัด ร่วมกันแถลงถึงรายละเอียดโครงการดังนี้
นายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ปตท. เปิดเผยว่า ความร่วมมือกันระหว่าง ปตท. และ บริษัทแคปปิตอล โอเค จำกัด ในครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือที่ดี ในการที่จะเปิดโอกาสให้แก่ผู้สนใจทั่วไปที่ไม่สามารถขอสินเชื่อตามปกติจากธนาคารหรือสถาบันการเงินอื่นได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดในการหาหลักประกันการขอสินเชื่อเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ NGV ความร่วมมือนี้จะทำให้การขยายการใช้ก๊าซ NGV เข้าถึงประชาชนทุกทั่วกลุ่มมากยิ่งขึ้น สำหรับสถานีบริการก๊าซ NGV ซึ่งขณะนี้จะเปิดให้บริการครบ 65 สถานีในปลายเดือนมีนาคมนี้แล้ว นอกจากนี้ ปตท. ยังได้เร่งออกแบบและก่อสร้างสถานีบริการฯ ขนาดเล็ก โดยเบื้องต้นจะเริ่มก่อสร้างพร้อมกัน 12 สถานี ขณะนี้ได้จัดหาผู้รับจ้างเพื่อนำเข้าอุปกรณ์และทำการก่อสร้างสถานีฯ แล้ว ซึ่งจะสามารถอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเติมก๊าซ NGV ได้มากขึ้นด้วย
นายณัฐชาติ จารุจินดา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า โครงการปัจจุบันที่ยังดำเนินการต่อเนื่องคือ โครงการ NGV เพื่อประชาชน ที่ ปตท. ยังคงให้การสนับสนุนค่าอุปกรณ์และการติดตั้งฯ ในรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 5,000 คัน คันละ 10,000 บาท สำหรับรถตู้รับจ้าง ขณะนี้ ปตท. จัดโควต้าให้เหลือเพียง 1,000 คัน เท่านั้น ปตท. จึงใคร่ขอเชิญชวนผู้สนใจเร่งสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2549 นอกจากนี้เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระและเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีทดแทนการใช้น้ำมันตามนโยบายรัฐบาล ปตท. ยังคงตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวีไว้ที่กิโลกรัมละ 8.50 บาท ทุกสถานี แม้ราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดจะปรับตัวสูงขึ้น ผู้สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รับโทรศัพท์ ปตท. (Call Center) โทรศัพท์หมายเลข 0-2217-7799
ทางด้านบริษัทแคปปิตอล โอเค จำกัด คุณขวัญชัย โหมดประดิษฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ ด้านการตลาด ได้กล่าวถึงแคมเปญสินเชื่อ NGV ในครั้งนี้ ว่า เรายินดีที่ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนโครงการช่วยชาติประหยัดพลังงานของ ปตท. เพื่อชีวิตที่โอเคนี้ โดยการเปิดให้บริการสินเชื่อเงินผ่อนเพื่อติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวีในรถยนต์ โดยในเฟสแรก จะเปิดบริการกับผู้ประกอบการขนส่ง รถแท๊กซี่ และรถตู้โดยสารประจำทาง ที่มีอายุรถไม่เกิน 10 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน ผ่อนนานได้สูงสุดถึง 36 เดือน เอกสารน้อย อนุมัติง่าย โดยผู้สนใจสามารถสมัครใช้บริการได้ ที่ร้านค้ารับติดตั้งอุปกรณ์เอ็นจีวี ที่มีสัญลักษณ์แคปปิตอลโอเค กว่า 100 แห่ง นอกจากนั้น เรายังมีโปรโมชั่นพิเศษ รับฟรี ดอกเบี้ย 0% 3 เดือน สำหรับผู้ที่เข้าโครงการ พลังงาน NGV เพื่อชาติ เพื่อคุณ เพื่อชีวิตที่โอเค เพียงร่วมติดสติกเกอร์รณรงค์ใช้ก๊าซ NGV กับเราเท่านั้น เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพียงแค่นี้ชีวิตก็จะโอเคขึ้นและยังได้ช่วยชาติประหยัดพลังงาน รวมทั้งช่วยลดมลพิษในอากาศได้อีกด้วย
2.
ปตท. - อิออน ลงนามความร่วมมือสินเชื่อติดตั้งอุปกรณ์ NGV อนุมัติได้ภายใน 30 นาที
--------------------------------------------------------------------------------
วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2549) เวลา 11.00 น. ที่อาคาร บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ NGV ระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดย นายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ กับ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด โดย นายมาซาโอะ มิซูโน กรรมการผู้จัดการ เพื่อสนับสนุนให้ประชาชน และผู้ประกอบการในภาคการขนส่งติดตั้งอุปกรณ์ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงทดแทนการใช้น้ำมัน ในภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นตามสถานการณ์น้ำมันตลาดโลก
สำหรับสาระสำคัญในบันทึกความร่วมมือ มีดังนี้ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด จะให้สินเชื่อแก่ผู้สนใจทั่วไปเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ NGV ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.16 ต่อเดือน (อัตราดอกเบี้ยคงที่) ระยะเวลาการผ่อนชำระได้สูงสุดถึง 36 เดือน และจัดโปรโมชั่นพิเศษให้แก่ผู้ขอ สินเชื่อระหว่างวันที่ 14 กุมภาพันธ์ - 30 เมษายน 2549 จะได้รับสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยถูกเป็นพิเศษ คือ ร้อยละ 1 ต่อเดือน อนุมัติสินเชื่อได้ภายใน 30 นาที สนใจสอบถาม รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์หมายเลข 0-2665-0123
นายณัฐชาติ จารุจินดา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ปตท. เปิดเผยว่า ความร่วมมือกันระหว่าง ปตท. และ บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่จะอำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้สนใจทั่วไปในการขอรับสินเชื่อเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ NGV นอกเหนือ จากธนาคารออมสิน เอสเอ็มอีแบงก์ และ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งจะทำให้การให้บริการสินเชื่อเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และ ผู้ประกอบการขนส่งที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ ปตท. จึงได้เร่งขยายสถานีบริการก๊าซ NGV จากปัจจุบันที่จะพร้อมให้บริการทั้งหมดในเดือนมีนาคมจำนวนทั้งสิ้น 65 สถานี เป็น 160 สถานี ภายในสิ้นปี 2549 และยังคง เป้าหมายเดิมที่จะขยายสถานีบริการ NGV เป็น 740 สถานี ในปี 2553
สำหรับความร่วมมือกับบริษัทน้ำมันในการขยายจำนวนสถานีบริการ NGV ให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นนั้น ขณะนี้ ปตท. และ บางจากฯ ในเบื้องต้นจะเริ่มที่ 3 สถานีก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันบางจากสาขากิ่งแก้ว สาขานวลจันทร์ และ สาขาราษฎร์บูรณะ คาดว่าจะเปิดให้บริการฯ ในเดือนเมษายน 2549 และจะเพิ่มเป็น 10 สถานีในปลายปีนี้ สำหรับความร่วมมือกับ ปิโตรนาส ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดความร่วมมือฯ ซึ่งคาดว่าจะสรุปผลได้ในเร็ว ๆ นี้
นายณัฐชาติ จารุจินดา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า โครงการปัจจุบันที่ยังดำเนินการต่อเนื่องคือ โครงการ NGV เพื่อประชาชน ที่ ปตท. ยังคงให้การสนับสนุนค่าอุปกรณ์และการติดตั้งฯ ในรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 5,000 คัน คันละ 10,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือสามารถขอรับสินเชื่อจากอิออนได้ และ โครงการนำร่องปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลเป็นเอ็นจีวี ที่กองทุนส่งเสริมเพื่อการอนุรักษ์พลังงานสนับสนุนงบประมาณแก่ ปตท. เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่งต่าง ๆ บริษัทละ 1 คัน เป็นเงิน 70% ของค่าใช้จ่าย (แต่ไม่เกิน 400,000 บาท / คัน) วงเงินรวมทั้งโครงการ 40 ล้านบาท ในการปรับปรุงรถยนต์ดีเซลเดิมให้ใช้ก๊าซเอ็นจีวีทดแทน ทั้งการติดตั้งอุปกรณ์ NGV เพิ่มเติมในระบบเชื้อเพลิงร่วม การดัดแปลงเครื่องยนต์เดิมให้เป็นเครื่องยนต์เอ็นจีวี การเปลี่ยนเครื่องยนต์ ตลอดจนการซื้อรถ NGV ใหม่ด้วย ฯลฯ
ปตท. จึงใคร่ขอเชิญชวนประชาชน บริษัท และ ห้างหุ้นส่วน ต่าง ๆ รีบสมัครเข้าร่วม โครงการ NGV เพื่อประชาชน ซึ่งขณะนี้มียอดรับสมัครเหลืออีกจำนวนหนึ่ง สำหรับ โครงการนำร่องปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ดีเซลเป็นเอ็นจีวี มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ครบจำนวนแล้ว และเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระและเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีทดแทนการใช้น้ำมัน ตามนโยบายรัฐบาล ปตท. ยังคงตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวีไว้ที่กิโลกรัมละ 8.50 บาท ทุกสถานี แม้ราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดจะปรับตัวสูงขึ้น ผู้สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รับโทรศัพท์ ปตท. (Call Center) โทรศัพท์หมายเลข 0-2217-7799
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 11
เนคเทค / สวทช. เข้ามาช่วยเรื่องเทคโนโลยี ..................
ปตท. จับมือ เนคเทค/สวทช. ส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) ทดแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในยานพาหนะเพื่อสนับสนุนการใช้อุปกรณ์ก๊าซธรรมชาติที่ผลิตโดยคนไทยในเชิงพาณิชย์
--------------------------------------------------------------------------------
27 มีนาคม 2549 : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค / สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการทดสอบผลงานวิจัยระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) กับรถยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ โดยมี ดร.ประวิช รัตนเพียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีฯ
ดร.ประวิช รัตนเพียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า จากการดำเนินนโยบายส่งเสริมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมอบหมายให้ สวทช. ร่วมมือกับหน่วยงานในภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในการสนับสนุน พัฒนาบุคลากร และเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องมาแล้วนั้น เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อต้นทุนของประเทศด้านพลังงานเพื่อการเดินทาง อุตสาหกรรม และการขนส่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาส และสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศไทย
ดังนั้น ปตท. และ เนคเทค จึงได้ตกลงร่วมมือกันดำเนินการโครงการทดสอบผลงานวิจัยระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) โดยมีทีมนักวิจัยจากฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ของเนคเทค ร่วมกับทีมงานจาก ปตท. ในการทดสอบระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ทั้งการใช้งานจริงบนถนน และการทดสอบในห้องทดลองที่สถาบันวิจัยและพัฒนาของ ปตท. ที่ อ. วังน้อย จ.อยุธยา โดยใช้ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) ซึ่งวิจัยและพัฒนาโดยทีมงานของเนคเทค เป็นเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว(Embedded System) เป็นหลักในการควบคุมการจ่ายก๊าซธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพ และรองรับการปรับแต่งให้สอดคล้องกับลักษณะของเครื่องยนต์ อันมีผลดีทั้งต่อการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติ และการ พัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ภายในประเทศต่อไปในอนาคต
โครงการทดสอบการใช้งานจริงบนถนน จะจัดเป็นโครงการพิเศษเปิดรับสมัครผู้สนใจทั่วไปทั้งประชาชนและแท็กซี่ รับจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน เท่านั้น โดยผู้สนใจต้องมีรถยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาดไม่เกิน 2000 ซีซี อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี และนำไปติดตั้งที่บริษัทที่ให้ความร่วมมือกับ ปตท. โดยที่บริษัทจะคิดค่าใช้จ่ายกับผู้สนใจในราคาพิเศษ จำนวน 5 บริษัท ดังนี้ บริษัท ก๊าซเทค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด บริษัท ส.ศิริแสง จำกัด บริษัท ซุปเปอร์เซ็นทรัลแก๊ส จำกัด บริษัท โพลีเทคโนโลยี จำกัด และ บริษัท เอ็นจิเนียริ่ง โพรดักส์ จำกัด
ทั้งนี้ผู้สนใจจะเสียค่าอุปกรณ์และการติดตั้งเพียงคันละ 35,000 บาท โดย ปตท. จะให้การสนับสนุนค่าถังบรรจุก๊าซฯ และ เนคเทค ให้การสนับสนุนค่าระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) ซึ่งอุปกรณ์ NGV ที่ติดตั้งทั้งหมดจะได้รับการประกัน (Warranty) ระยะเวลา 1 ปี ด้วย ทั้งนี้ผู้สนใจที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ ต้องให้ความร่วมมือในการจดบันทึกผลการใช้งานและนำรถไปตรวจสภาพเดือนละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 4 เดือน ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ปตท. (NGV Call Center) โทรศัพท์ 0 - 2217 - 7799 และ เนคเทค โทรศัพท์ 0 - 2564 - 6900 ต่อ 2341
ปตท. จับมือ เนคเทค/สวทช. ส่งเสริมให้มีการใช้ก๊าซธรรมชาติ (NGV) ทดแทนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในยานพาหนะเพื่อสนับสนุนการใช้อุปกรณ์ก๊าซธรรมชาติที่ผลิตโดยคนไทยในเชิงพาณิชย์
--------------------------------------------------------------------------------
27 มีนาคม 2549 : บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค / สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงนามบันทึกข้อตกลงโครงการทดสอบผลงานวิจัยระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) กับรถยนต์ใช้ก๊าซธรรมชาติ โดยมี ดร.ประวิช รัตนเพียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีฯ
ดร.ประวิช รัตนเพียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า จากการดำเนินนโยบายส่งเสริมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมอบหมายให้ สวทช. ร่วมมือกับหน่วยงานในภาครัฐและเอกชน รวมถึงสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในการสนับสนุน พัฒนาบุคลากร และเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องมาแล้วนั้น เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อต้นทุนของประเทศด้านพลังงานเพื่อการเดินทาง อุตสาหกรรม และการขนส่ง ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาส และสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศไทย
ดังนั้น ปตท. และ เนคเทค จึงได้ตกลงร่วมมือกันดำเนินการโครงการทดสอบผลงานวิจัยระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) โดยมีทีมนักวิจัยจากฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ของเนคเทค ร่วมกับทีมงานจาก ปตท. ในการทดสอบระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ทั้งการใช้งานจริงบนถนน และการทดสอบในห้องทดลองที่สถาบันวิจัยและพัฒนาของ ปตท. ที่ อ. วังน้อย จ.อยุธยา โดยใช้ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) ซึ่งวิจัยและพัฒนาโดยทีมงานของเนคเทค เป็นเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว(Embedded System) เป็นหลักในการควบคุมการจ่ายก๊าซธรรมชาติให้มีประสิทธิภาพ และรองรับการปรับแต่งให้สอดคล้องกับลักษณะของเครื่องยนต์ อันมีผลดีทั้งต่อการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติ และการ พัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ภายในประเทศต่อไปในอนาคต
โครงการทดสอบการใช้งานจริงบนถนน จะจัดเป็นโครงการพิเศษเปิดรับสมัครผู้สนใจทั่วไปทั้งประชาชนและแท็กซี่ รับจำนวนจำกัดเพียง 100 คัน เท่านั้น โดยผู้สนใจต้องมีรถยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาดไม่เกิน 2000 ซีซี อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี และนำไปติดตั้งที่บริษัทที่ให้ความร่วมมือกับ ปตท. โดยที่บริษัทจะคิดค่าใช้จ่ายกับผู้สนใจในราคาพิเศษ จำนวน 5 บริษัท ดังนี้ บริษัท ก๊าซเทค เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด บริษัท ส.ศิริแสง จำกัด บริษัท ซุปเปอร์เซ็นทรัลแก๊ส จำกัด บริษัท โพลีเทคโนโลยี จำกัด และ บริษัท เอ็นจิเนียริ่ง โพรดักส์ จำกัด
ทั้งนี้ผู้สนใจจะเสียค่าอุปกรณ์และการติดตั้งเพียงคันละ 35,000 บาท โดย ปตท. จะให้การสนับสนุนค่าถังบรรจุก๊าซฯ และ เนคเทค ให้การสนับสนุนค่าระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) ซึ่งอุปกรณ์ NGV ที่ติดตั้งทั้งหมดจะได้รับการประกัน (Warranty) ระยะเวลา 1 ปี ด้วย ทั้งนี้ผู้สนใจที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ ต้องให้ความร่วมมือในการจดบันทึกผลการใช้งานและนำรถไปตรวจสภาพเดือนละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 4 เดือน ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ปตท. (NGV Call Center) โทรศัพท์ 0 - 2217 - 7799 และ เนคเทค โทรศัพท์ 0 - 2564 - 6900 ต่อ 2341
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 12
บางจาก ร่วมด้วยช่วยกัน ..................
ปตท. บางจากฯ ลงนามความร่วมมือขยายสถานีบริการก๊าซ NGV อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ บรรเทาผลกระทบในภาวะวิกฤตราคาน้ำมัน
--------------------------------------------------------------------------------
วันนี้ (7 ธันวาคม 2548) เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัลพลาซ่า กรุงเทพฯ ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือสนับสนุนการขยายสถานีบริการก๊าซ NGVระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดย นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กับ บริษัท บางจากฯ จำกัด (มหาชน) โดย ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เพื่อร่วมมือกันขยายจำนวนสถานีบริการ NGV ให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งที่ใช้ก๊าซ NGV ในรถยนต์เป็นเชื้อเพลิง
สำหรับสาระสำคัญในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือสนับสนุนการขยายสถานีบริการ ก๊าซ NGV ดังกล่าว ปตท. จะเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างสถานีบริการ NGV ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก โดย บางจากฯ จะให้การสนับสนุนสถานที่ที่จะเป็นจุดบริการก๊าซ NGV และรับก๊าซ NGV จาก ปตท. เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า ความร่วมมือกันระหว่าง ปตท. กับ บางจากฯ ในครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมัน ได้รับความสะดวกในการเข้ารับบริการเติมก๊าซ NGV มากยิ่งขึ้น จากการที่ ปตท. และ บางจากฯ ร่วมมือกันขยายจำนวนสถานีบริการ NGV ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และในต่างจังหวัด ทั้งนี้ ปตท. มีแผนจะขยายสถานีบริการ NGV จำนวน 740 สถานี ภายในปี 2553 ครอบคลุมพื้นที่ในเขต กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และ ในต่างจังหวัด ซึ่งจะทำให้มีจำนวนสถานีบริการ NGV เพียงพอสำหรับการให้บริการยานยนต์ NGV ประมาณ 500,000 คัน โดยสามารถทดแทนการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศได้ 4,062 ล้านลิตร/ปี หรือคิดเป็นสัดส่วนทดแทนเชื้อเพลิงได้ประมาณ 20% ต่อปี ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ประเทศประหยัดเงินตราจากการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยบรรเทาผลกระทบของประชาชนในภาวะวิกฤตราคาน้ำมันที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตด้วย
ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากฯ (มหาชน) กล่าวว่า โครงการนี้เป็นประโยชน์โดยรวมต่อเศรษฐกิจของประเทศ บางจากฯ ในฐานะบริษัทน้ำมันไทย มีความยินดีที่จะร่วมมือในการส่งเสริมให้ประชาชนใช้พลังงานทดแทนที่ผลิตได้จากวัตถุดิบในประเทศตามนโยบายรัฐ และเป็นการช่วยเพิ่มความสะดวก ลดเวลาในการใช้บริการ โดยเฉพาะรถแท็กซี่ ซึ่งปัจจุบันเป็นลูกค้าหลักที่ใช้ก๊าซ NGV และจะมาเติมเป็นช่วงเวลา สำหรับแผนการขยายสถานีบริการก๊าซ NGV ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากในครั้งนี้ บริษัทฯ จะเปิดให้บริการนำร่องในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑลมากกว่า 10 แห่งในปี 2549 และเพื่อให้การขยายสถานีเป็นไปอย่างรวดเร็วตามที่กำหนดไว้ ขณะนี้ ปตท.และบางจากฯ จึงได้เริ่มการก่อสร้างสถานีบริการ ก๊าซ NGV ในสถานีบริการน้ำมันของบางจากฯ แล้ว 3 แห่ง ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันบางจากสาขากิ่งแก้ว สาขานวลจันทร์ และ สาขาราษฎร์บูรณะ โดยการก่อสร้างจะแล้วเสร็จและพร้อมให้บริการก๊าซ บางจาก NGV ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 นี้เป็นต้นไป สำหรับระบบการจำหน่ายจะเป็นระบบเดียวกับของ ปตท. ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ผู้ใช้รถสามารถใช้บริการได้ทันทีเมื่อเปิดให้บริการ
ปตท. บางจากฯ ลงนามความร่วมมือขยายสถานีบริการก๊าซ NGV อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์ บรรเทาผลกระทบในภาวะวิกฤตราคาน้ำมัน
--------------------------------------------------------------------------------
วันนี้ (7 ธันวาคม 2548) เวลา 09.30 น. ที่โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัลพลาซ่า กรุงเทพฯ ได้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือสนับสนุนการขยายสถานีบริการก๊าซ NGVระหว่าง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดย นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กับ บริษัท บางจากฯ จำกัด (มหาชน) โดย ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ เพื่อร่วมมือกันขยายจำนวนสถานีบริการ NGV ให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น ในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งที่ใช้ก๊าซ NGV ในรถยนต์เป็นเชื้อเพลิง
สำหรับสาระสำคัญในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือสนับสนุนการขยายสถานีบริการ ก๊าซ NGV ดังกล่าว ปตท. จะเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างสถานีบริการ NGV ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก โดย บางจากฯ จะให้การสนับสนุนสถานที่ที่จะเป็นจุดบริการก๊าซ NGV และรับก๊าซ NGV จาก ปตท. เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า ความร่วมมือกันระหว่าง ปตท. กับ บางจากฯ ในครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมัน ได้รับความสะดวกในการเข้ารับบริการเติมก๊าซ NGV มากยิ่งขึ้น จากการที่ ปตท. และ บางจากฯ ร่วมมือกันขยายจำนวนสถานีบริการ NGV ให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และในต่างจังหวัด ทั้งนี้ ปตท. มีแผนจะขยายสถานีบริการ NGV จำนวน 740 สถานี ภายในปี 2553 ครอบคลุมพื้นที่ในเขต กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และ ในต่างจังหวัด ซึ่งจะทำให้มีจำนวนสถานีบริการ NGV เพียงพอสำหรับการให้บริการยานยนต์ NGV ประมาณ 500,000 คัน โดยสามารถทดแทนการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศได้ 4,062 ล้านลิตร/ปี หรือคิดเป็นสัดส่วนทดแทนเชื้อเพลิงได้ประมาณ 20% ต่อปี ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ประเทศประหยัดเงินตราจากการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังช่วยบรรเทาผลกระทบของประชาชนในภาวะวิกฤตราคาน้ำมันที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคตด้วย
ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากฯ (มหาชน) กล่าวว่า โครงการนี้เป็นประโยชน์โดยรวมต่อเศรษฐกิจของประเทศ บางจากฯ ในฐานะบริษัทน้ำมันไทย มีความยินดีที่จะร่วมมือในการส่งเสริมให้ประชาชนใช้พลังงานทดแทนที่ผลิตได้จากวัตถุดิบในประเทศตามนโยบายรัฐ และเป็นการช่วยเพิ่มความสะดวก ลดเวลาในการใช้บริการ โดยเฉพาะรถแท็กซี่ ซึ่งปัจจุบันเป็นลูกค้าหลักที่ใช้ก๊าซ NGV และจะมาเติมเป็นช่วงเวลา สำหรับแผนการขยายสถานีบริการก๊าซ NGV ที่สถานีบริการน้ำมันบางจากในครั้งนี้ บริษัทฯ จะเปิดให้บริการนำร่องในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑลมากกว่า 10 แห่งในปี 2549 และเพื่อให้การขยายสถานีเป็นไปอย่างรวดเร็วตามที่กำหนดไว้ ขณะนี้ ปตท.และบางจากฯ จึงได้เริ่มการก่อสร้างสถานีบริการ ก๊าซ NGV ในสถานีบริการน้ำมันของบางจากฯ แล้ว 3 แห่ง ได้แก่ สถานีบริการน้ำมันบางจากสาขากิ่งแก้ว สาขานวลจันทร์ และ สาขาราษฎร์บูรณะ โดยการก่อสร้างจะแล้วเสร็จและพร้อมให้บริการก๊าซ บางจาก NGV ได้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2549 นี้เป็นต้นไป สำหรับระบบการจำหน่ายจะเป็นระบบเดียวกับของ ปตท. ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ผู้ใช้รถสามารถใช้บริการได้ทันทีเมื่อเปิดให้บริการ
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 13
Bank 8 แห่ง ร่วมด้วยครับ ................
"โครงการทุนหมุนเวียนสำหรับยานยนต์ NGV 7,000 ล้านบาท" : ร่วมกับธนาคารพาณิชย์ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ ธ.กรุงเทพ ,ธ.ไทยพาณิชย์ ,ธ.ไทยธนาคาร ,ธ.ทหารไทย ,ธ.ออมสิน ,ธ.กสิกรไทย ,ธ.กรุงศรีอยุธยา และ ธ.กรุงไทย โดยธนาคารทั้ง 8 แห่ง ร่วมกันให้สินเชื่อในการติดตั้ง NGV โดยคิดอัตราดอกเบี้ย ประเภทบุคคลธรรมดาไม่เกิน 5%ต่อปี และประเภทนิติบุคคล ไม่เกิน 4%ต่อปี
ระยะเวลาโครงการ: 5ปี
สนใจติดต่อ PTTNGV Call Center 02-217-7799
"โครงการทุนหมุนเวียนสำหรับยานยนต์ NGV 7,000 ล้านบาท" : ร่วมกับธนาคารพาณิชย์ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ ธ.กรุงเทพ ,ธ.ไทยพาณิชย์ ,ธ.ไทยธนาคาร ,ธ.ทหารไทย ,ธ.ออมสิน ,ธ.กสิกรไทย ,ธ.กรุงศรีอยุธยา และ ธ.กรุงไทย โดยธนาคารทั้ง 8 แห่ง ร่วมกันให้สินเชื่อในการติดตั้ง NGV โดยคิดอัตราดอกเบี้ย ประเภทบุคคลธรรมดาไม่เกิน 5%ต่อปี และประเภทนิติบุคคล ไม่เกิน 4%ต่อปี
ระยะเวลาโครงการ: 5ปี
สนใจติดต่อ PTTNGV Call Center 02-217-7799
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 15
ผมถามแท็กซี่ บอกว่า สู้ LPG ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 16
NGV มีปั้มน้อยครับ ถ้าวิ่งๆ ไปแล้วหมด หาเติมไม่ได้แย่เลย
อีกอย่าง NGV เป็นก๊าซ แต่ LPG เป็นของเหลว ดังนั้นถังขนาดเท่ากัน NGV จะจุได้น้อยกว่ามาก ทำให้เปลื้องที่ และหมดเร็ว
แต่ข้อดีของ NGV ก็คือ ประเทศไทยมี NGV อยู่อย่างมากมายมหาศาลครับ
อีกอย่าง NGV เป็นก๊าซ แต่ LPG เป็นของเหลว ดังนั้นถังขนาดเท่ากัน NGV จะจุได้น้อยกว่ามาก ทำให้เปลื้องที่ และหมดเร็ว
แต่ข้อดีของ NGV ก็คือ ประเทศไทยมี NGV อยู่อย่างมากมายมหาศาลครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 91
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 17
เรื่องนี้ ถ้าจะพูดกัน ดูท่าจะยาวครับ แต่มีประเด็นหนึ่ง ที่ผมอยากจะเสนอครับ ดูเหมือนว่าเราต้องนำเข้า NGV มาใช้ในประเทศนะครับ ส่วน LPG นั้น เรามีเหลือที่จะส่งขายให้กับต่างประเทศครับ
ข่อมูลจากคุณหมอท่านหนึ่ง ใน pantip.com ครับ แนะนำให้อ่านทั้ง 3 กระทู้นะครับ แล้วลองวิเคราะห์กันดูครับ
ปตท. หมกเม็ด - กรรมของคนใช้แกสธรรมชาติอัด
http://www.pantip.com/cafe/ratchada/top ... 83447.html
LPG vs NGV .. โกหกคำโตๆ
http://topicstock.pantip.com/ratchada/t ... 62283.html
ไอ้ฟัก, คำพิพากษา, แพะ, LPG
http://topicstock.pantip.com/ratchada/t ... 96210.html
ผมไม่ค่อยได้ศึกษาอย่างจริงจัง จึงไม่อยากพูดอะไรมากครับ กลัวจะผิดไปจากความเป็นจริง ยังไงก็ลองไปอ่านกันดู และศึกษาจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ประกอบดูด้วยนะครับ
ข่อมูลจากคุณหมอท่านหนึ่ง ใน pantip.com ครับ แนะนำให้อ่านทั้ง 3 กระทู้นะครับ แล้วลองวิเคราะห์กันดูครับ
ปตท. หมกเม็ด - กรรมของคนใช้แกสธรรมชาติอัด
http://www.pantip.com/cafe/ratchada/top ... 83447.html
LPG vs NGV .. โกหกคำโตๆ
http://topicstock.pantip.com/ratchada/t ... 62283.html
ไอ้ฟัก, คำพิพากษา, แพะ, LPG
http://topicstock.pantip.com/ratchada/t ... 96210.html
ผมไม่ค่อยได้ศึกษาอย่างจริงจัง จึงไม่อยากพูดอะไรมากครับ กลัวจะผิดไปจากความเป็นจริง ยังไงก็ลองไปอ่านกันดู และศึกษาจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ประกอบดูด้วยนะครับ
"ความเสี่ยงเกิดจากการไม่รู้ว่าคุณกำลังทำอะไร"
Warren Buffett
Warren Buffett
-
- Verified User
- โพสต์: 121
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 19
นั่นสิครับ ผมจำได้ว่า เรื่องของ Technical ผ่านแล้ว แค่รอเรื่องของ Commercial ..........................LOSO เขียน:ท่านไพบูลย์ เฉลิมทรัพยากร ครับ ......................
ผู้ถือหุ้นหลายท่าน รอลุ้นการตัดสินใจ ลงไม้ลงมือจากท่านอยู่นะครับ ............
แค่ตอนนี้คนรอบตัวผมก็เริ่มคุยถึงเรื่องมาใช้ gas แล้ว ......... ที่ระยองก็มี ปั๊ม gas ของ ปตท อยู่ 1 ปั้มเหมือนกัน.................................
ท่านไพบูลย์ พวกเรารออยู่ครับ..........................
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 20
เมื่อวานได้ฟัง พัฒนเดช พูดถึงเรื่องติดแก็สในรายการวิทยุ เลยขอสรุปมาให้ฟังดังนี้ครับ
ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง LPG, NGV เท่ากัน เพราะอุปกรณ์เหมือนกันทุกอย่าง
ค่าอุปกรณ์ NGV แพงกว่า เพราะอุปกรณ์ต้องทนแรงดันได้สูงกว่า โดยเฉพาะถังแก็สแพงกว่ามากๆ
ถ้าอู่ไหนบอกว่าติด LPG ไปก่อน วันหลังเปลี่ยนเป็น NGV แค่เอาถังแก็สเปลี่ยนใหม่ก็ใช้ได้เลย ห้ามเชื่อเด็ดขาด เป็นการโกหก
เครื่องเบนซินติดแก็สแล้ววิ่งนิ่งได้พอๆ กันใช้น้ำมัน แต่เครื่องดีเซลจะดีไม่เท่าเพราะดีเซลไม่มีหัวฉีดจึงต้องผสมแก็สเข้าไปในลูกสูบโดยตรงทำให้นิ่งได้ไม่เท่า
เครื่องเบนซินเหมาะติดแก็สที่สุด แต่ถ้าให้ดีควรเป็นรถที่ warranty หมดไปแล้วเพราะมิฉะนั้นบริษัทรถอาจถือโอกาสขอเลิก warranty ก่อนกำหนด
เครื่องดีเซลรุ่นเก่าจะติดแก็สได้ดีกว่ารุ่นใหม่ เครื่อง commonrail ยังไม่มีใครติดให้ได้
ถ้าใช้น้ำมันอยู่ 100 บาท ใช้ LPG จะเหลือ 60 ใช้ NGV จะเหลือ 40 จะคุ้มหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าวิ่งมากแค่ไหน คิด Payback Period กันเอาเองก็จะรู้ว่าตนเองควรติดหรือไม่
LPG อันตรายกว่าเพราะเป็นแก็สหนัก ไหลลงพื้นล่าง ถ้าโดนประกายไฟ จะระเบิดทันที แบบโศกนาฎกรรมที่ถนนเพชรบุรี เวลารั่วให้ใช้หนังสือหนาๆ ค่อยๆ พัดออกไป ห้ามเปิดพัดลมเด็ดขาด ระเบิดแน่
NGV ถังหนักและใหญ่กว่า ตอนนี้ปั้มยังน้อยอยู่ ควรติดเป็นแบบ hybrid ใช้นำมันได้ด้วย โดยควรเป็นแบบ on the fly ไม่ต้องดับเครื่องก่อน ข้อดีอีกอย่างของ NGV คือราคาน่าจะยังต่ำต่อไปอีกในระยะยาวอย่างน้อยก็อีก 3 ปี ส่วน LPG มีความเสี่ยงที่จะถูกลอยตัวเร็วๆ นี้
ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง LPG, NGV เท่ากัน เพราะอุปกรณ์เหมือนกันทุกอย่าง
ค่าอุปกรณ์ NGV แพงกว่า เพราะอุปกรณ์ต้องทนแรงดันได้สูงกว่า โดยเฉพาะถังแก็สแพงกว่ามากๆ
ถ้าอู่ไหนบอกว่าติด LPG ไปก่อน วันหลังเปลี่ยนเป็น NGV แค่เอาถังแก็สเปลี่ยนใหม่ก็ใช้ได้เลย ห้ามเชื่อเด็ดขาด เป็นการโกหก
เครื่องเบนซินติดแก็สแล้ววิ่งนิ่งได้พอๆ กันใช้น้ำมัน แต่เครื่องดีเซลจะดีไม่เท่าเพราะดีเซลไม่มีหัวฉีดจึงต้องผสมแก็สเข้าไปในลูกสูบโดยตรงทำให้นิ่งได้ไม่เท่า
เครื่องเบนซินเหมาะติดแก็สที่สุด แต่ถ้าให้ดีควรเป็นรถที่ warranty หมดไปแล้วเพราะมิฉะนั้นบริษัทรถอาจถือโอกาสขอเลิก warranty ก่อนกำหนด
เครื่องดีเซลรุ่นเก่าจะติดแก็สได้ดีกว่ารุ่นใหม่ เครื่อง commonrail ยังไม่มีใครติดให้ได้
ถ้าใช้น้ำมันอยู่ 100 บาท ใช้ LPG จะเหลือ 60 ใช้ NGV จะเหลือ 40 จะคุ้มหรือไม่ขึ้นอยู่กับว่าวิ่งมากแค่ไหน คิด Payback Period กันเอาเองก็จะรู้ว่าตนเองควรติดหรือไม่
LPG อันตรายกว่าเพราะเป็นแก็สหนัก ไหลลงพื้นล่าง ถ้าโดนประกายไฟ จะระเบิดทันที แบบโศกนาฎกรรมที่ถนนเพชรบุรี เวลารั่วให้ใช้หนังสือหนาๆ ค่อยๆ พัดออกไป ห้ามเปิดพัดลมเด็ดขาด ระเบิดแน่
NGV ถังหนักและใหญ่กว่า ตอนนี้ปั้มยังน้อยอยู่ ควรติดเป็นแบบ hybrid ใช้นำมันได้ด้วย โดยควรเป็นแบบ on the fly ไม่ต้องดับเครื่องก่อน ข้อดีอีกอย่างของ NGV คือราคาน่าจะยังต่ำต่อไปอีกในระยะยาวอย่างน้อยก็อีก 3 ปี ส่วน LPG มีความเสี่ยงที่จะถูกลอยตัวเร็วๆ นี้
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- nam
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1437
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 23
NGV=natural gas vehicle
ซึ่ง NGV จะเติม Natural gas
ไม่น่าจะใช่ natural gas for vehicle
Natural gas can either be stored onboard a vehicle as compressed natural gas (CNG) at 3,000 or 3,600 psi or as liquefied natural gas (LNG) at typically 20-150 psi. http://www.eere.energy.gov/afdc/altfuel ... l_gas.html
ตกลงเราจะเรียกขาน ngv แบบไทยๆ เช่นเดียวกันกับเราเคยซื้อ card phone มาพกในกระเป๋าสตางค์มาแล้วหรือ? หรือ พยายามหาซื้อน้ำมันเบนซินตามปั้มที่เมืองฝรั่งทั้งที่เขาขายแต่ gasoline ?
ซึ่ง NGV จะเติม Natural gas
ไม่น่าจะใช่ natural gas for vehicle
Natural gas can either be stored onboard a vehicle as compressed natural gas (CNG) at 3,000 or 3,600 psi or as liquefied natural gas (LNG) at typically 20-150 psi. http://www.eere.energy.gov/afdc/altfuel ... l_gas.html
ตกลงเราจะเรียกขาน ngv แบบไทยๆ เช่นเดียวกันกับเราเคยซื้อ card phone มาพกในกระเป๋าสตางค์มาแล้วหรือ? หรือ พยายามหาซื้อน้ำมันเบนซินตามปั้มที่เมืองฝรั่งทั้งที่เขาขายแต่ gasoline ?
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1067
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้า PTT ดัน NGV ติดตลาดได้ในระยะ 3-5 ปี !!!!
โพสต์ที่ 24
สัปดาห์ก่อนอ่านคอลัมน์ของคุณ ธเนศร์ ในมติชนสุดสัปดาห์
เห็นเขียนไว้ว่าจากการทดสอบวิ่งโดย CNG
พบว่าอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ระดับประมาณ 17 กิโลเมตรต่อ 1 กิโลกรัม
แล้วมีเสริมต่ออีกครับว่าปัจจุบันถังบรรจุ CNG ในรถ NGV นั้นมีปริมาตร
ความจุอยู่ที่ระดับ 14 กิโลกรัมเท่านั้น !!!!!!!
นั่นหมายความว่าการวิ่งด้วย CNG เพียงลำพัง 1 ถัง
จะวิ่งไปได้แค่ประมาณ 238 กิโลเมตรเท่านั้นครับ
แต่ตรงนี้ก็ยังมีนวัตกรรมที่รองรับอยู่ก็คือระบบที่ใช้น้ำมันร่วมกับก๊าซ
แต่ว่าในอนาคตนี่ผมไม่แน่ใจว่าจะมีนวัตกรรมที่ทำให้สามารถบรรจุ
CNG ได้มากขึ้นกว่านี้อีกหรือเปล่า นอกจากการขยายขนาดบรรจุของถัง
เนื่องจากอุปสรรคคือคุณสมบัติทางกายภาพของก๊าซเองครับ
อุปสรรคที่สองก็คือข้อมูลจากบทความในสัปดาห์นี้ครับ
คุณธเนศร์เขียนมา ผมสรุปเลยละกันนะครับว่า
การใช้ CNG ต้องมีการปรับตั้งการจ่ายก๊าซให้เหมาะสม
ไม่เช่นนั้นอาจจะเจอกับปัญหาของกำลังเครื่องยนต์ที่หล่นวูบ
ตรงนี้กลัวครับว่าจะกลายไปเป็น Bad Impression สำหรับผู้ใช้
ซึ่งตรงนี้คงต้องป้องกันโดยการปูพื้นความร้กันดี ๆ ครับ
ไม่เช่นนั้น Bad Impression จะกลายไปเป็น Believe ได้
เห็นเขียนไว้ว่าจากการทดสอบวิ่งโดย CNG
พบว่าอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ระดับประมาณ 17 กิโลเมตรต่อ 1 กิโลกรัม
แล้วมีเสริมต่ออีกครับว่าปัจจุบันถังบรรจุ CNG ในรถ NGV นั้นมีปริมาตร
ความจุอยู่ที่ระดับ 14 กิโลกรัมเท่านั้น !!!!!!!
นั่นหมายความว่าการวิ่งด้วย CNG เพียงลำพัง 1 ถัง
จะวิ่งไปได้แค่ประมาณ 238 กิโลเมตรเท่านั้นครับ
แต่ตรงนี้ก็ยังมีนวัตกรรมที่รองรับอยู่ก็คือระบบที่ใช้น้ำมันร่วมกับก๊าซ
แต่ว่าในอนาคตนี่ผมไม่แน่ใจว่าจะมีนวัตกรรมที่ทำให้สามารถบรรจุ
CNG ได้มากขึ้นกว่านี้อีกหรือเปล่า นอกจากการขยายขนาดบรรจุของถัง
เนื่องจากอุปสรรคคือคุณสมบัติทางกายภาพของก๊าซเองครับ
อุปสรรคที่สองก็คือข้อมูลจากบทความในสัปดาห์นี้ครับ
คุณธเนศร์เขียนมา ผมสรุปเลยละกันนะครับว่า
การใช้ CNG ต้องมีการปรับตั้งการจ่ายก๊าซให้เหมาะสม
ไม่เช่นนั้นอาจจะเจอกับปัญหาของกำลังเครื่องยนต์ที่หล่นวูบ
ตรงนี้กลัวครับว่าจะกลายไปเป็น Bad Impression สำหรับผู้ใช้
ซึ่งตรงนี้คงต้องป้องกันโดยการปูพื้นความร้กันดี ๆ ครับ
ไม่เช่นนั้น Bad Impression จะกลายไปเป็น Believe ได้