สองธุรกิจรถยนต์เช่าเหมือนกันกับการตัดค่าเสื่อมราคาที่แตกต่าง
- Muffin
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 874
- ผู้ติดตาม: 0
สองธุรกิจรถยนต์เช่าเหมือนกันกับการตัดค่าเสื่อมราคาที่แตกต่าง
โพสต์ที่ 1
PL
ค่าเสื่อมราคาบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน ซึ่งคำนวณโดยวิธีเส้นตรงตามอายุการใช้งานโดยประมาณของสินทรัพย์แต่ละรายการ ประมาณการอายุการใช้งานของสินทรัพย์แสดงได้ดังนี้
อาคารชุดสำนักงาน
7 และ 40 ปี
เครื่องตกแต่ง ติดตั้งและเครื่องใช้สำนักงาน
5 และ 10 ปี
ยานพาหนะ
5 ปี
KCAR
3.6 สินทรัพย์ที่มีไว้เพื่อให้เช่า
สินทรัพย์ที่มีไว้เพื่อให้เช่า (รถยนต์) แสดงในราคาทุนหลังหักค่าเสื่อมราคาสะสม บริษัทคิด ค่าเสื่อมราคาโดยวิธีเส้นตรงตามอายุการใช้งานเป็นเวลา 6.5 ปี
3.7 ค่าเสื่อมราคาและรายการตัดจ่าย
สิทธิการเช่าตัดจ่าย โดยวิธีเส้นตรงตามอายุสัญญาเช่าเป็นเวลา 22 ปี
อาคารคิดค่าเสื่อมราคา โดยวิธีเส้นตรงตามอายุสัญญาเช่าเป็นเวลา 11 ปี
อุปกรณ์คิดค่าเสื่อมราคาโดยวิธีเส้นตรงตามอายุการใช้งานเป็นเวลา 5 ปี
ค่าเสื่อมราคาบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน ซึ่งคำนวณโดยวิธีเส้นตรงตามอายุการใช้งานโดยประมาณของสินทรัพย์แต่ละรายการ ประมาณการอายุการใช้งานของสินทรัพย์แสดงได้ดังนี้
อาคารชุดสำนักงาน
7 และ 40 ปี
เครื่องตกแต่ง ติดตั้งและเครื่องใช้สำนักงาน
5 และ 10 ปี
ยานพาหนะ
5 ปี
KCAR
3.6 สินทรัพย์ที่มีไว้เพื่อให้เช่า
สินทรัพย์ที่มีไว้เพื่อให้เช่า (รถยนต์) แสดงในราคาทุนหลังหักค่าเสื่อมราคาสะสม บริษัทคิด ค่าเสื่อมราคาโดยวิธีเส้นตรงตามอายุการใช้งานเป็นเวลา 6.5 ปี
3.7 ค่าเสื่อมราคาและรายการตัดจ่าย
สิทธิการเช่าตัดจ่าย โดยวิธีเส้นตรงตามอายุสัญญาเช่าเป็นเวลา 22 ปี
อาคารคิดค่าเสื่อมราคา โดยวิธีเส้นตรงตามอายุสัญญาเช่าเป็นเวลา 11 ปี
อุปกรณ์คิดค่าเสื่อมราคาโดยวิธีเส้นตรงตามอายุการใช้งานเป็นเวลา 5 ปี
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
สองธุรกิจรถยนต์เช่าเหมือนกันกับการตัดค่าเสื่อมราคาที่แตกต่าง
โพสต์ที่ 4
ทำให้กำไรต่างกันหรือไม่ ต้องดูราคาซากด้วยครับ แต่ในงบจะไม่ได้บอกราคาซากไว้มั้งครับ(ถ้าจำไม่ผิด)
ราคาซากที่มากหรือน้อยมีผลทำให้กำไรจากการขายซากแตกต่างกันซึ่งส่งผลต่อกำไรรวม ถ้ากำหนดซากไว้เยอะกำไรตอนแรกก็จะมากตอนขายซากก็จะน้อย ถ้ากำหนดซากเท่ากันแต่ด้วยระยะเวลาค่าเสื่อมต่างกัน kcar ก็จะได้กำไรมากกว่า
ผมไม่แน่ใจว่าหลักเกณฑ์ทางบัญชีกำหนดแน่นอนตายตัวหรือไม่ว่าค่าเสื่อมรถยนต์จะต้องห้าปี เพราะโดยส่วนใหญ่ก็เห็นห้าปี เพิ่งเห็นkcar 6.5 ปี งงเหมือนกันครับ หรือว่า kcar ตั้งใจจะใช้รถให้ถึง 6.5 ปีแล้วค่อยขายซาก
ส่วนข้อดีก็เช่น ธุรกิจนี้น่าจะเป็นที่นิยมในอนาคต ลูกค้าน่าจะมากขึ้นเรื่อยๆ(แต่ก็เสียในเรื่องคู่แข่งที่ว่า) การประมาณการกำไรทำได้ง่ายเพราะมีสัญญาเช่าระยะยาวไม่ค่อยวูบวาบและค่อนข้างมั่นใจ
ราคาซากที่มากหรือน้อยมีผลทำให้กำไรจากการขายซากแตกต่างกันซึ่งส่งผลต่อกำไรรวม ถ้ากำหนดซากไว้เยอะกำไรตอนแรกก็จะมากตอนขายซากก็จะน้อย ถ้ากำหนดซากเท่ากันแต่ด้วยระยะเวลาค่าเสื่อมต่างกัน kcar ก็จะได้กำไรมากกว่า
ผมไม่แน่ใจว่าหลักเกณฑ์ทางบัญชีกำหนดแน่นอนตายตัวหรือไม่ว่าค่าเสื่อมรถยนต์จะต้องห้าปี เพราะโดยส่วนใหญ่ก็เห็นห้าปี เพิ่งเห็นkcar 6.5 ปี งงเหมือนกันครับ หรือว่า kcar ตั้งใจจะใช้รถให้ถึง 6.5 ปีแล้วค่อยขายซาก
สำหรับความเห็นผม ผมว่าตัวนี้ไม่ค่อยน่าสนใจแล้ว เพราะไม่มีกำแพงกั้นคู่แข่ง นโยบายลดภาษีรถยนต์ทำให้ขายซากได้ถูกลงมาก และก็ใช้เงินในการขยายกิจการสูงมากผมไปย้อนดูโพสต์เก่าๆเห็นพูดถึง PL กันเยอะ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ไม่มีใครพูดถึงกันเลยครับ หรือว่าตัวนี้ไม่น่าสนใจแล้ว
ส่วนข้อดีก็เช่น ธุรกิจนี้น่าจะเป็นที่นิยมในอนาคต ลูกค้าน่าจะมากขึ้นเรื่อยๆ(แต่ก็เสียในเรื่องคู่แข่งที่ว่า) การประมาณการกำไรทำได้ง่ายเพราะมีสัญญาเช่าระยะยาวไม่ค่อยวูบวาบและค่อนข้างมั่นใจ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- Muffin
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 874
- ผู้ติดตาม: 0
เย้ มีคนมาตอบแล้ว
โพสต์ที่ 5
โดยส่วนตัว
ผมมองว่าธุรกิจ leasing รถยนต์เนี่ยครับ
อายุการใช้งานจริงของ รถยนต์ไม่น่าจะถึง 6.5 ปี และไม่น่าจะถึง 5 ปีด้วยซ้ำ
และการเปลี่ยนมาตัดค่าเสื่อมแบบนี้ ทำให้ตัวเลขของ KCAR ก่อนเข้าตลาด ดูดีทีเดียว
(แต่ดูดีจากการเล่นกับตัวเลขแบบนี้ไม่ชอบเลย)
ผมมองว่าธุรกิจ leasing รถยนต์เนี่ยครับ
อายุการใช้งานจริงของ รถยนต์ไม่น่าจะถึง 6.5 ปี และไม่น่าจะถึง 5 ปีด้วยซ้ำ
และการเปลี่ยนมาตัดค่าเสื่อมแบบนี้ ทำให้ตัวเลขของ KCAR ก่อนเข้าตลาด ดูดีทีเดียว
(แต่ดูดีจากการเล่นกับตัวเลขแบบนี้ไม่ชอบเลย)