หนังสือ"รู้เขา รู้เรา เล่นหุ้น100ครั้ง ชนะ70ครั้ง" /ดร.นิเวศ

[pakapong_u]

[pakapong_u]

รู้เขา รู้เรา เล่นหุ้น 100 ครั้ง ชนะ 70 ครั้ง
กลเม็ดการเล่น "หุ้น" ที่จะทำให้คุณเป็นผู้ "ชนะ" ตลาดได้เกือบ 100% จาก VI อันดับหนึ่งของเมืองไทย
ผู้เขียน ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
หนังสือ225.00 บาท

[pakapong_u]

[pakapong_u]

รายละเอียดหนังสือ
ISBN : 9786160820696 (ปกอ่อน) 304 หน้า
ขนาดรูปเล่ม : 145 x 209 x 15 มม.
น้ำหนัก : 400 กรัม
เนื้อในพิมพ์ : ขาวดำ
ชนิดกระดาษ : กระดาษปอนด์
สำนักพิมพ์ : ซีเอ็ดยูเคชั่น, บมจ.

[pakapong_u]

เนื้อหาโดยสังเขป
พบกับกลเม็ดการเล่น "หุ้น" ที่จะทำให้คุณเป็นผู้ "ชนะ" ตลาดได้เกือบ 100% จาก VI อันดับหนึ่งของเมืองไทย คำว่า "รู้เขา" ในเรื่องของหุ้นนั้น เขาคนแรก Mr.Market หรือ "นายตลาด" ตามคำพูดของ "เบน เกรแฮม" ซึ่งก็คือนักลงทุนโดยรวมในตลาดหุ้น หรือพูดง่ายๆ ก็คือ "ตลาดหุ้น" นั่นเอง เราจะต้องรู้ว่าตลาดหุ้นนั้นมี "พฤติกรรม" หรือ "กลยุทธ์ในการเล่นหุ้น" อย่างไร ถ้าเราเชื่อ เบน เกรแฮม ตลาดหุ้นนั้นมักจะ "คุ้มดี คุ้มร้าย" อยู่เรื่อยๆ เอาแน่อะไรไม่ได้ บางทีในช่วงที่ "อารมณ์ดี" เป็นพิเศษ พวกเขาก็แห่กันเข้ามาซื้อหุ้น ทำให้ราคาหุ้นสูงลิ่วเกินกว่าพื้นฐานไปมาก แต่ในบางช่วงที่เกิดอาการ "หดหู่" อย่างหนัก พวกเขาก็เทขายหุ้นจนราคาต่ำกว่าพื้นฐานไปมาก หน้าที่ของเราคือ เราต้องรู้และฉกฉวยประโยชน์จากพฤติกรรมของพวกเขา แทนที่จะดีใจ ตกใจ หรือทำตาม

"เขา" อีกคนหนึ่งที่ต้องรู้ก็คือ "บริษัทจดทะเบียน" นี่คือเขาที่เราจะต้องรู้ก่อนที่จะเข้าไปลงทุน สิ่งที่จะต้องรู้ก็คือ เขาหรือบริษัทเป็นอย่างไร ทางหนึ่งที่จะใช้ในการเรียนรู้เขาก็คือ การกำหนดหรือบอกให้ได้ว่า บริษัทอยู่ในหุ้นกลุ่มไหนใน 6 กลุ่มตามแนวทางของ "ปีเตอร์ ลินช์" นั่นคือบริษัทเป็นกิจการที่โตช้า โตเร็ว วัฏจักร แข็งแกร่ง ฟื้นตัว หรือมีทรัพย์สินมาก ถ้าเรารู้ การลงทุนซื้อและขายหุ้นตัวนั้นก้ทำได้ง่าย เพราะพวกเขาก็จะมีพฤติกรรมของราคาหรือการให้ผลตอบแทนที่พอจะตาดการณ์ได้ แต่การวิเคราะห์หุ้นแต่ละตัวควรจะเป็นกิจการประเภทไหนนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย บ่อยครั้งเราก็เข้าใจผิด เนื่องจากเรายังศึกษาไม่ลึกพอ เช่น เราดูข้อมูลที่เป็นตัวเลขในระยะเวลาสั้นอาจจะเพียงสองสามปี แล้วก็สรุปโดยไม่ได้ดูปัจจัยทางคุณภาพที่ต้องใช้เหตุผลทางธุรกิจ ซึ่งประกอบไปด้วย การตลาด การผลิต การเงิน การแข่งขัน และอื่นๆ อีกมาก

การ "รู้เรา" นั้นหมายความว่าต้องรู้ว่าเราเป็นคนที่มีแนวทางการลงทุนหรือเล่นหุ้นอย่างไร วิธีการนั้นเป็นแนวทางที่ถูกต้องในแง่ของทฤษฎีและประวัติศาสตร์หรือไม่ นอกจากนั้นในทุกครั้งที่ตัดสินใจซื้อขายหุ้น เรารู้หรือไม่ว่าเรากำลังทำอะไร หรือทำอย่างไรอยู่ บางคนอาจจะคิดว่าการ "รู้เรา" นั้นไม่เห็นจะยาก เราก็ต้องรู้อยู่แล้วว่าเราคิดหรือทำอะไรไม่ใช่หรือ...คำตอบคือ "ไม่ใช่" เพราะคนจำนวนมากรวมถึงคนที่เรียกตัวเองว่า VI คิดว่าเขาเป็น "นักลงทุน" ซึ่งเน้นลงทุนโดยอิงกับพื้นฐานหรือผลประกอบการระยะยาวของบริษัท แต่สิ่งที่เขาทำมาตลอดนั้นก็คือ การซื้อและขายหุ้นเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็วเป็นนิจสิน ในกรณีแบบนี้ เราก็ควรจะต้องรู้ตัวหรือ "รู้เรา" ว่าเราเป็น "นักเก็งกำไร" เพียงแต่เราอาศัยผลประกอบการที่อาจจะกำลังดีขึ้นมาเก็งกำไร

[pakapong_u]

สารบัญ
- ธรรมะกับการลงทุน
- 4 พลังการเมืองกับหุ้นไทย
- VI กับฟองสบู่
- VI กับชีวจิต
- คุณค่า (ทางจิตใจ) VS ราคา
- Econmomies of Scale
- Fund Flow
- PE3
- หุ้นถูก-หุ้นแพง
- หุ้นที่ (จะ) ใหญ่ที่สุดในอนาคต
ฯลฯ

[pakapong_u]

https://www.se-ed.com/product/รู้เขา-รู ... obile=true

[pakapong_u]

เดิม หนังสือเล่มนี้ชื่อ "ธรรมะกับการลงทุน"

เนื้อหาโดยสังเขป
หนังสือที่จะทำให้ผู้อ่านทราบว่า "ธรรมะ" กับการเล่น "หุ้น" ไปกันได้อย่างไร ถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรงของกูรูด้าน Value Investment อันดับหนึ่งของเมืองไทย "ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" โดยได้บอกไว้ในหนังสือเล่มนี้ว่าในเรื่องของการลงทุนหรือหุ้นนั้น ต้องศึกษา "ธรรมะ" หรือธรรมชาติของหุ้นให้รู้แจ้งเสียก่อนว่าอะไรทำให้หุ้นมีราคาหรือมูลค่าเพิ่มขึ้น อะไรทำให้บริษัทจ่ายปันผลเป็นเงินสดให้เรามากขึ้น ซึ่งจะทำให้ผลตอบแทนของเรามากขึ้น คำตอบก็คือ ในระยะยาวแล้วหุ้นจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นถ้าบริษัทมีผลประกอบการหรือกำไรเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็จะทำให้บริษัทสามารถจ่ายปันผลเพิ่มมากขึ้นตามกันไป ผลก็คือถ้าเราถือหุ้นหรือเป็นเจ้าของ เราก็จะได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ดังนั้นถ้าเราต้องการลงทุนและได้ผลตอบแทนที่ดีหรือเหมาะสม วิธีก็คือเราต้องซื้อหุ้นของบริษัทที่จะมีผลประกอบการดีขึ้นเรื่อยๆ ในระยะยาว แล้วเราก็ถือหุ้นตัวนั้นไว้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องสนใจเรื่องของดัชนีตลาดหรือราคาหุ้นในระยะสั้น และนี่ก็คือการ "ปฏิบัติธรรม" ในเรื่องของการลงทุนในหุ้น

นอกจากนีั้ยังมีเรื่องของ "การเดินทางสายกลาง" คือ จะต้องออกแบบพอร์ตให้เหมาะสมในแง่ที่มันจะไม่เสี่ยงเกินไป ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่กลัวเกินไป จนทำให้ไม่กล้าลงทุนในหุ้นมากพอ ประเด็นสุดท้ายในเรื่องของธรรมะก็คือ "ตัวกู ของกู" หรือการยึดติดว่าเราเป็นเจ้าของสิ่งต่างๆ ที่เป็นวัตถุ ความมั่งคั่ง ชื่อเสียง เราจึงทำทุกอย่างที่จะได้มันมา เราเสียใจเมื่อต้องเสียมันไป จิตใจของเราหมกมุ่นอยู่กับมันมากเกินไป มันเกี่ยวข้องกับความโลภอยากได้ใคร่ดี จนสามารถที่จะทำสิ่งผิดครรลองครองธรรม ซึ่งในกรณีของการลงทุนก็อาจจะเกี่ยวกับการปั่นหุ้น การชี้นำให้คนอื่นมาซื้อหุ้นที่ตนเองลงทุน โดยหวังที่จะขายหุ้นที่ตนถืออยู่ในราคาที่สูง การปล่อยข่าวที่เป็นเท็จเกี่ยวกับหุ้น เพื่อที่จะสร้างราคาหุ้นให้ผิดไปจากความเป็นจริง กล่าวโดยรวมแล้ว "เรื่องของการที่ไม่มีธรรมะในการลงทุน ในที่สุดก็จะทำร้าย หรือทำลายตัวเอง"

สารบัญ
- ธรรมะกับการลงทุน
- 4 พลังการเมืองกับหุ้นไทย
- VI กับฟองสบู่
- VI กับชีวจิต
- คุณค่า (ทางจิตใจ) vs ราคา
- Econmomies of Scale
- Fund Flow
- PE3
- หุ้นถูก–หุ้นแพง
- หุ้นที่ (จะ) ใหญ่ที่สุดในตลาด
ฯลฯ

[marcus147]

อ้าว ทำไม ดร เปลี่ยนชื่อหนังสือซะละครับ

[lekkung]

เหมือนได้ยิน ดร. บอกมาว่า ชื่อเดิมขายไม่ค่อยดีครับ

[neong]

ความเห็นส่วนตัว ผมชอบชื่อเดิมมากกว่า ผมคิดว่า คำว่า การลงทุนฟังดูดีกว่าคำว่าเล่นหุ้นครับ

[luz666]

ผมชอบชื่อนี้ครับ ตรงที่เราไม่ต้องชนะทุกครั้งก็ได้ นักลงทุนดังๆก็ยืนยันเรื่องนี้หมด อย่าง Buffett บอกว่า “You only have to do a very few things right in your life so long as you don't do too many things wrong.” ส่วน Soros ก็บอกว่า "It's not whether you're right or wrong that's important, but how much money you make when you're right and how much you lose when you're wrong."

[dr1]

อาจารย์อุตส่าห์ใช้คำว่า"เล่น"แทน"ลงทุน"แล้ว
ถ้ายอดขายยังไม่ตามเป้าอีก
กระผมขออนุญาตกราบเรียนเสนอชื่อและรูปแบบปกอีกแบบนึงนะขอรับ
"นอนกระดิกตีนรวยหุ้นหมื่นล้าน!!!!"(ใส่อัศเจรีย์เยอะๆ)
แบบ"วีไอตัวพ่อของจริง"
ภาพประกอบอาจารย์นอนบนเก้าอี้ชายหาด กระดิกเท้า
มีสาวๆเอ๊ย ลูกศิษย์พับเพียบอยู่สองข้าง กำลังนวดขาให้(เพราะกระดิกจนเมื่อย)
แบคกราวน์เป็นซุปเปอร์คาร์จอดอยู่สักสองคัน ควายสักตัวนึง(ตัวที่อยู่หน้าปกเล่มลงทุนอย่างพอเพียงก็ได้)

เอาไว้ขยายฐานคนอ่านที่ยังไม่ได้มาเข้าลัทธิ
กะยั่วพวก"บัวเต่าถุย"(คำนี้ของอ.ชาย ณFPM)ที่ชอบแขวะวีไอเพราะอิจฉาน่ะขอรับ

[theerasak24]

อาจารย์อุตส่าห์ใช้คำว่า"เล่น"แทน"ลงทุน"แล้ว
ถ้ายอดขายยังไม่ตามเป้าอีก
กระผมขออนุญาตกราบเรียนเสนอชื่อและรูปแบบปกอีกแบบนึงนะขอรับ
"นอนกระดิกตีนรวยหุ้นหมื่นล้าน!!!!"(ใส่อัศเจรีย์เยอะๆ)
แบบ"วีไอตัวพ่อของจริง"
ภาพประกอบอาจารย์นอนบนเก้าอี้ชายหาด กระดิกเท้า
มีสาวๆเอ๊ย ลูกศิษย์พับเพียบอยู่สองข้าง กำลังนวดขาให้(เพราะกระดิกจนเมื่อย)
แบคกราวน์เป็นซุปเปอร์คาร์จอดอยู่สักสองคัน ควายสักตัวนึง(ตัวที่อยู่หน้าปกเล่มลงทุนอย่างพอเพียงก็ได้)

เอาไว้ขยายฐานคนอ่านที่ยังไม่ได้มาเข้าลัทธิ
กะยั่วพวก"บัวเต่าถุย"(คำนี้ของอ.ชาย ณFPM)ที่ชอบแขวะวีไอเพราะอิจฉาน่ะขอรับ

แหมชื่อที่คุณหมอหนึ่งนำเสนอ พร้อมหน้าปกเนี่ยะ ผมเห็นภาพลอยมาชัดเจนเลย อย่างนี้น่าจะขายดีเทน้ำเทท่าเลยนะครับ อิอิ

[GG]

อาจารย์อุตส่าห์ใช้คำว่า"เล่น"แทน"ลงทุน"แล้ว
ถ้ายอดขายยังไม่ตามเป้าอีก
กระผมขออนุญาตกราบเรียนเสนอชื่อและรูปแบบปกอีกแบบนึงนะขอรับ
"นอนกระดิกตีนรวยหุ้นหมื่นล้าน!!!!"(ใส่อัศเจรีย์เยอะๆ)
แบบ"วีไอตัวพ่อของจริง"
ภาพประกอบอาจารย์นอนบนเก้าอี้ชายหาด กระดิกเท้า
มีสาวๆเอ๊ย ลูกศิษย์พับเพียบอยู่สองข้าง กำลังนวดขาให้(เพราะกระดิกจนเมื่อย)
แบคกราวน์เป็นซุปเปอร์คาร์จอดอยู่สักสองคัน ควายสักตัวนึง(ตัวที่อยู่หน้าปกเล่มลงทุนอย่างพอเพียงก็ได้)

เอาไว้ขยายฐานคนอ่านที่ยังไม่ได้มาเข้าลัทธิ
กะยั่วพวก"บัวเต่าถุย"(คำนี้ของอ.ชาย ณFPM)ที่ชอบแขวะวีไอเพราะอิจฉาน่ะขอรับ

สุดยอดไอเดียเลยครับพี่หมอหนึ่ง

[Samkok]

ขื่อหนังสือเยี่ยมเลยครับ

[schwartz_IR]

อาจารย์อุตส่าห์ใช้คำว่า"เล่น"แทน"ลงทุน"แล้ว
ถ้ายอดขายยังไม่ตามเป้าอีก
กระผมขออนุญาตกราบเรียนเสนอชื่อและรูปแบบปกอีกแบบนึงนะขอรับ
"นอนกระดิกตีนรวยหุ้นหมื่นล้าน!!!!"(ใส่อัศเจรีย์เยอะๆ)
แบบ"วีไอตัวพ่อของจริง"
ภาพประกอบอาจารย์นอนบนเก้าอี้ชายหาด กระดิกเท้า
มีสาวๆเอ๊ย ลูกศิษย์พับเพียบอยู่สองข้าง กำลังนวดขาให้(เพราะกระดิกจนเมื่อย)
แบคกราวน์เป็นซุปเปอร์คาร์จอดอยู่สักสองคัน ควายสักตัวนึง(ตัวที่อยู่หน้าปกเล่มลงทุนอย่างพอเพียงก็ได้)

เอาไว้ขยายฐานคนอ่านที่ยังไม่ได้มาเข้าลัทธิ
กะยั่วพวก"บัวเต่าถุย"(คำนี้ของอ.ชาย ณFPM)ที่ชอบแขวะวีไอเพราะอิจฉาน่ะขอรับ

บัวเต่าถุย ผมได้ยินครั้งแรกเมื่อกว่า 10 ปีก่อน ตอนอาจารย์หมอที่จุฬาท่านหนึ่ง "สั่งสอน"ตอนนั้น งงกับคำนี้ สักพักจึงเข้าใจ