3 สตอรี่ แนวโน้ม หรือ แค่กระแส
-
- Verified User
- โพสต์: 1426
- ผู้ติดตาม: 0
3 สตอรี่ แนวโน้ม หรือ แค่กระแส
โพสต์ที่ 1
ขณะช่วงเวลานี้มี 3 สตอรี่เด่นที่บริษัท(ผู้บริหาร)ใช้เป็นประเด็นเพิ่มมูลค่าให้แก่กิจการ(หรือเพิ่มราคาหุ้นในตลาด)
คือ 1. การขยายธุรกิจหรือเปลี่ยนประเภทธุรกิจที่ทำอยู่เป็นโซล่าร์ฟาร์ม - ซึ่งน่าจะหมายรวมถึงพลังงานทางเลือกอื่นด้วย
2. การนำบริษัทลูก-ร่วมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(split) และ 3. การเทกโอเวอร์บริษัทอื่นหรือถูกบริษัทอื่นเทกโอเวอร์ เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจ
คำถามคือ ทั้งสามประเด็นเป็นแนวโน้มของการทำธุรกิจสมัยใหม่ที่อย่างไรเสียก็ต้องเกิดขึ้นในประเทศไทย หรือ ทั้งสามประเด็นเป็นเพียงเรื่องชั่วครั้งชั่วคราวเพื่อหวังสร้างราคาหากำไรใส่กระเป๋าคนบางกลุ่ม หมดกระแส(นักเล่นหุ้นเบื่อ)ก็จะเลิกกันไปเอง และที่สำคัญ ควรมีหลักการ - ใช้หลักการใดมาพิจารณาเพื่อให้รายย่อย(อย่างผม)ไม่เสียท่าหลงกลลวง -หากเป็นแค่กระแส หรือ ไม่ตกรถขบวนใหญ่ - หากเป็นแนวโน้มของธุรกิจ
คือ 1. การขยายธุรกิจหรือเปลี่ยนประเภทธุรกิจที่ทำอยู่เป็นโซล่าร์ฟาร์ม - ซึ่งน่าจะหมายรวมถึงพลังงานทางเลือกอื่นด้วย
2. การนำบริษัทลูก-ร่วมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(split) และ 3. การเทกโอเวอร์บริษัทอื่นหรือถูกบริษัทอื่นเทกโอเวอร์ เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจ
คำถามคือ ทั้งสามประเด็นเป็นแนวโน้มของการทำธุรกิจสมัยใหม่ที่อย่างไรเสียก็ต้องเกิดขึ้นในประเทศไทย หรือ ทั้งสามประเด็นเป็นเพียงเรื่องชั่วครั้งชั่วคราวเพื่อหวังสร้างราคาหากำไรใส่กระเป๋าคนบางกลุ่ม หมดกระแส(นักเล่นหุ้นเบื่อ)ก็จะเลิกกันไปเอง และที่สำคัญ ควรมีหลักการ - ใช้หลักการใดมาพิจารณาเพื่อให้รายย่อย(อย่างผม)ไม่เสียท่าหลงกลลวง -หากเป็นแค่กระแส หรือ ไม่ตกรถขบวนใหญ่ - หากเป็นแนวโน้มของธุรกิจ
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4366
- ผู้ติดตาม: 1
Re: 3 สตอรี่ แนวโน้ม หรือ แค่กระแส
โพสต์ที่ 3
ตามที่ผมเข้าใจคือว่า ใบอนุญาตสำหรับก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ (เฉพาะในประเทศไทย) ไม่ได้มีการออกใหม่มานานแล้ว (ของพลังงานทดแทนชนิดอื่นไม่แน่ใจครับ) ดังนั้นบริษัทที่เป็นข่าวว่าจะเปลี่ยนไปทำธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ก็คือ ต้องไปซื้อใบอนุญาตต่อจากคนที่ถือสิทธิ์อยู่ก่อนมาใช่หรือไม่? ผมมีคำถามอยากให้เพื่อนที่รู้ข้อเท็จจริงช่วยตอบคือ
1. ทำไมผู้ที่ถือสิทธิ์อยู่ก่อน ซึ่งก็น่าจะเป็นผู้ที่มีความรู้ในธุรกิจพลังงานมากกว่าถึงไม่สร้างเองมาก่อนหน้านี้ ทำไมถึงถือใบอนุญาตอยู่เฉยๆ จนมีคนสนใจมาซื้อต่อ
2. ถ้ากระแสสนใจมากขนาดนี้ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ถือสิทธิ์ใบอนุญาตอยู่ก่อนย่อมทราบดี ก็น่าจะยอมขายต่อในราคาค่อนข้างสูงตามหลัก Demand-Supply ธรรมดา ดังนั้นคนที่มาซื้อใบอนุญาตไปสร้างโรงไฟฟ้าจะมีกำไรได้มากอย่างทีตลาดเก็งกำไรอยู่ในขณะนี้หรือ (ที่สังเกตอีกอย่าง แล้วทำไมบริษัทที่ทำอยู่เป็นเจ้าใหญ่เดิมอย่าง SPCG GUNKUL BCP ถึงไม่มีข่าวไปซื้อใบอนุญาตเพิ่มในช่วงหลังๆมานี้ มีแต่บริษัทหน้าใหม่ๆซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ออกมาเป็นข่าว)
สำหรับในระยะยาวถัดจากนี้ ต่อให้รัฐจะให้การสนับสนุนโรงไฟฟ้าทดแทนต่อไปอีกหรือมากขึ้นไปอีก ถามว่าจะเป็นไปได้หรือที่จะยังคงให้สิทธิประโยชน์มากมายเหมือนในเงื่อนไขใบอนุญาตเดิมๆ ในเมื่อสถานการณ์มันเปลี่ยนไปจากยุคที่ให้ใบอนุญาตในครั้งแรกๆไปอย่างมาก ทั้งเรืองความสนใจของนักธุรกิจ ทั้งเรื่องต้นทุนราคาก่อสร้าง
1. ทำไมผู้ที่ถือสิทธิ์อยู่ก่อน ซึ่งก็น่าจะเป็นผู้ที่มีความรู้ในธุรกิจพลังงานมากกว่าถึงไม่สร้างเองมาก่อนหน้านี้ ทำไมถึงถือใบอนุญาตอยู่เฉยๆ จนมีคนสนใจมาซื้อต่อ
2. ถ้ากระแสสนใจมากขนาดนี้ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ถือสิทธิ์ใบอนุญาตอยู่ก่อนย่อมทราบดี ก็น่าจะยอมขายต่อในราคาค่อนข้างสูงตามหลัก Demand-Supply ธรรมดา ดังนั้นคนที่มาซื้อใบอนุญาตไปสร้างโรงไฟฟ้าจะมีกำไรได้มากอย่างทีตลาดเก็งกำไรอยู่ในขณะนี้หรือ (ที่สังเกตอีกอย่าง แล้วทำไมบริษัทที่ทำอยู่เป็นเจ้าใหญ่เดิมอย่าง SPCG GUNKUL BCP ถึงไม่มีข่าวไปซื้อใบอนุญาตเพิ่มในช่วงหลังๆมานี้ มีแต่บริษัทหน้าใหม่ๆซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ออกมาเป็นข่าว)
สำหรับในระยะยาวถัดจากนี้ ต่อให้รัฐจะให้การสนับสนุนโรงไฟฟ้าทดแทนต่อไปอีกหรือมากขึ้นไปอีก ถามว่าจะเป็นไปได้หรือที่จะยังคงให้สิทธิประโยชน์มากมายเหมือนในเงื่อนไขใบอนุญาตเดิมๆ ในเมื่อสถานการณ์มันเปลี่ยนไปจากยุคที่ให้ใบอนุญาตในครั้งแรกๆไปอย่างมาก ทั้งเรืองความสนใจของนักธุรกิจ ทั้งเรื่องต้นทุนราคาก่อสร้าง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 154
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 3 สตอรี่ แนวโน้ม หรือ แค่กระแส
โพสต์ที่ 4
ผมมองว่าทั้งหมดมันเป็นผลพวงมาจากการค่อยๆยกระดับของประเทศไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้นะครับ
จากการที่เคยเป็นประเทศด้อยพัฒนายากจนมากตอนนี้ผู้คนมีความรู้มากขึ้นการศึกษาดีขึ้นมาก
ปริญญาโทเป็นเรื่องปกติไปแล้วเริ่มผ่านยุคการสร้างเนื้อสร้างตัวจากรุ่นปู่ย่า พ่อแม่ ประเทศยกระดับขึ้น
เริ่มมองตลาดกว้างขึ้นจากกระแสโลก กระแสเออีซี ประเทศเพื่อนบ้านยังด้อยพัฒนากว่าเรา เริ่มเปลี่ยน
บทบาทจากผู้รับเป็นผู้ให้ จากลูกจ้างเป็นนายทุน ถ้าใครเกาะกุมตลาดหุ้นตอนนี้ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ได้
จะยกระดับชีวิตตัวเองได้อย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว
แต่ผมไม่ได้หมายความว่าบริษัททุกบริษัทที่ทำอย่างที่จขกทเอ่ยถึงจะดีและน่าลงทุนไปหมดนะครับ
ขอบคุณครับ
จากการที่เคยเป็นประเทศด้อยพัฒนายากจนมากตอนนี้ผู้คนมีความรู้มากขึ้นการศึกษาดีขึ้นมาก
ปริญญาโทเป็นเรื่องปกติไปแล้วเริ่มผ่านยุคการสร้างเนื้อสร้างตัวจากรุ่นปู่ย่า พ่อแม่ ประเทศยกระดับขึ้น
เริ่มมองตลาดกว้างขึ้นจากกระแสโลก กระแสเออีซี ประเทศเพื่อนบ้านยังด้อยพัฒนากว่าเรา เริ่มเปลี่ยน
บทบาทจากผู้รับเป็นผู้ให้ จากลูกจ้างเป็นนายทุน ถ้าใครเกาะกุมตลาดหุ้นตอนนี้ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ได้
จะยกระดับชีวิตตัวเองได้อย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว
แต่ผมไม่ได้หมายความว่าบริษัททุกบริษัทที่ทำอย่างที่จขกทเอ่ยถึงจะดีและน่าลงทุนไปหมดนะครับ
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 37
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 3 สตอรี่ แนวโน้ม หรือ แค่กระแส
โพสต์ที่ 5
jantorsang เขียน:ผมมองว่าทั้งหมดมันเป็นผลพวงมาจากการค่อยๆยกระดับของประเทศไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้นะครับ
จากการที่เคยเป็นประเทศด้อยพัฒนายากจนมากตอนนี้ผู้คนมีความรู้มากขึ้นการศึกษาดีขึ้นมาก
ปริญญาโทเป็นเรื่องปกติไปแล้วเริ่มผ่านยุคการสร้างเนื้อสร้างตัวจากรุ่นปู่ย่า พ่อแม่ ประเทศยกระดับขึ้น
เริ่มมองตลาดกว้างขึ้นจากกระแสโลก กระแสเออีซี ประเทศเพื่อนบ้านยังด้อยพัฒนากว่าเรา เริ่มเปลี่ยน
บทบาทจากผู้รับเป็นผู้ให้ จากลูกจ้างเป็นนายทุน ถ้าใครเกาะกุมตลาดหุ้นตอนนี้ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ได้
จะยกระดับชีวิตตัวเองได้อย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว
แต่ผมไม่ได้หมายความว่าบริษัททุกบริษัทที่ทำอย่างที่จขกทเอ่ยถึงจะดีและน่าลงทุนไปหมดนะครับ
ขอบคุณครับ
อธิบายดีจังเลยครับ
AEC ใกล้จะเปิดแล้ว บริษัทไหนที่กะลังจะเปิดธุรกิจในต่างประเทศได้ เป็นผมก็สนใจนะครับ
- romee
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 1
Re: 3 สตอรี่ แนวโน้ม หรือ แค่กระแส
โพสต์ที่ 6
ตอบ จขกท. ครับดำ เขียน:1. ทำไมผู้ที่ถือสิทธิ์อยู่ก่อน ซึ่งก็น่าจะเป็นผู้ที่มีความรู้ในธุรกิจพลังงานมากกว่าถึงไม่สร้างเองมาก่อนหน้านี้ ทำไมถึงถือใบอนุญาตอยู่เฉยๆ จนมีคนสนใจมาซื้อต่อ
เพราะบ.ที่ซื้อไปตอนแรก ซื้อไปเก็งกำไรซะเยอะครับ จากใบPPA ใบละแสน เป็นใบละหลายล้าน
ส่วนเหตุผลที่มีบริษัทอื่นเข้ามาซื้อสิทธิ์ต่อ มีเยอะครับ ทั้งเอาเงินมาหมุนเปลี่ยนมือ, บ.เดิมไม่อยากรอแล้ว อยากได้เงินอนาคตมาเลย, ทั้งมาจากต่างชาติแล้วมีต้นทุนมาเองที่ถูกมาก, หรือธุรกิจเดิมโตไม่ได้แล้ว ก็เข้ามากู้เงิน แล้วล้วงกระเป๋านักลงทุนในตลาดนี้เอง, แต่ก็มีที่เอาจริง เอาจัง ก็มีครับ
2. ถ้ากระแสสนใจมากขนาดนี้ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ถือสิทธิ์ใบอนุญาตอยู่ก่อนย่อมทราบดี ก็น่าจะยอมขายต่อในราคาค่อนข้างสูงตามหลัก Demand-Supply ธรรมดา ดังนั้นคนที่มาซื้อใบอนุญาตไปสร้างโรงไฟฟ้าจะมีกำไรได้มากอย่างทีตลาดเก็งกำไรอยู่ในขณะนี้หรือ (ที่สังเกตอีกอย่าง แล้วทำไมบริษัทที่ทำอยู่เป็นเจ้าใหญ่เดิมอย่าง SPCG GUNKUL BCP ถึงไม่มีข่าวไปซื้อใบอนุญาตเพิ่มในช่วงหลังๆมานี้ มีแต่บริษัทหน้าใหม่ๆซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ออกมาเป็นข่าว)
บ.เจ้าใหญ่ๆที่กล่าวมานั้น เขาได้ใบอนุญาตมาน่าจะถูกกว่าตอนนี้แล้ว และถ้าไม่กู้เต็มวงเงิน กับทำของตัวเองจนเลยจุดคุ้มทุนไปแล้ว
ถ้าโปรเจคใหม่ไม่คุ้มจริงๆ เขาก็คงไม่ทำเพิ่มแน่ๆ
สำหรับในระยะยาวถัดจากนี้ ต่อให้รัฐจะให้การสนับสนุนโรงไฟฟ้าทดแทนต่อไปอีกหรือมากขึ้นไปอีก ถามว่าจะเป็นไปได้หรือที่จะยังคงให้สิทธิประโยชน์มากมายเหมือนในเงื่อนไขใบอนุญาตเดิมๆ ในเมื่อสถานการณ์มันเปลี่ยนไปจากยุคที่ให้ใบอนุญาตในครั้งแรกๆไปอย่างมาก ทั้งเรืองความสนใจของนักธุรกิจ ทั้งเรื่องต้นทุนราคาก่อสร้าง
ตอนนี้ค่า Adder ที่รัฐให้ ราคาไม่ดีเท่าเก่าแล้ว
ถ้าเลือกความเป็นไปได้ ผมสนใจแนวทางsplitบ.มากกว่า เพราะหลายบ.ที่แยกเข้ามา ดูดีกว่าบ.แม่มากๆ (อย่างน้อยก็ต้องมีปันผลคืนให้บ.แม่ได้+ช่วงจะsplit ราคาแม่ก็วิ่งระเบิดระเบ้อด้วย)
การลงทุนแนวvi ไม่ได้แปลว่า นักลงทุนคนนั้นดีกว่า หรือมีวรรณะสูงกว่าคนที่ลงทุนแนวอื่นๆหรอก
- todsapon
- Verified User
- โพสต์: 1137
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 3 สตอรี่ แนวโน้ม หรือ แค่กระแส
โพสต์ที่ 7
1. บางคนมันซื้อใบอนุญาติไว้ขายต่อ เก็งกำไร มันทำไม่เป็นหรอกดำ เขียน:ตามที่ผมเข้าใจคือว่า ใบอนุญาตสำหรับก่อสร้างโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ (เฉพาะในประเทศไทย) ไม่ได้มีการออกใหม่มานานแล้ว (ของพลังงานทดแทนชนิดอื่นไม่แน่ใจครับ) ดังนั้นบริษัทที่เป็นข่าวว่าจะเปลี่ยนไปทำธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ก็คือ ต้องไปซื้อใบอนุญาตต่อจากคนที่ถือสิทธิ์อยู่ก่อนมาใช่หรือไม่? ผมมีคำถามอยากให้เพื่อนที่รู้ข้อเท็จจริงช่วยตอบคือ
1. ทำไมผู้ที่ถือสิทธิ์อยู่ก่อน ซึ่งก็น่าจะเป็นผู้ที่มีความรู้ในธุรกิจพลังงานมากกว่าถึงไม่สร้างเองมาก่อนหน้านี้ ทำไมถึงถือใบอนุญาตอยู่เฉยๆ จนมีคนสนใจมาซื้อต่อ
2. ถ้ากระแสสนใจมากขนาดนี้ ซึ่งแน่นอนว่าผู้ถือสิทธิ์ใบอนุญาตอยู่ก่อนย่อมทราบดี ก็น่าจะยอมขายต่อในราคาค่อนข้างสูงตามหลัก Demand-Supply ธรรมดา ดังนั้นคนที่มาซื้อใบอนุญาตไปสร้างโรงไฟฟ้าจะมีกำไรได้มากอย่างทีตลาดเก็งกำไรอยู่ในขณะนี้หรือ (ที่สังเกตอีกอย่าง แล้วทำไมบริษัทที่ทำอยู่เป็นเจ้าใหญ่เดิมอย่าง SPCG GUNKUL BCP ถึงไม่มีข่าวไปซื้อใบอนุญาตเพิ่มในช่วงหลังๆมานี้ มีแต่บริษัทหน้าใหม่ๆซึ่งไม่เคยมีประสบการณ์ออกมาเป็นข่าว)
สำหรับในระยะยาวถัดจากนี้ ต่อให้รัฐจะให้การสนับสนุนโรงไฟฟ้าทดแทนต่อไปอีกหรือมากขึ้นไปอีก ถามว่าจะเป็นไปได้หรือที่จะยังคงให้สิทธิประโยชน์มากมายเหมือนในเงื่อนไขใบอนุญาตเดิมๆ ในเมื่อสถานการณ์มันเปลี่ยนไปจากยุคที่ให้ใบอนุญาตในครั้งแรกๆไปอย่างมาก ทั้งเรืองความสนใจของนักธุรกิจ ทั้งเรื่องต้นทุนราคาก่อสร้าง
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1426
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 3 สตอรี่ แนวโน้ม หรือ แค่กระแส
โพสต์ที่ 8
ข้อสรุปของผมเอง ดังนี้prichar s. เขียน:ขณะช่วงเวลานี้มี 3 สตอรี่เด่นที่บริษัท(ผู้บริหาร)ใช้เป็นประเด็นเพิ่มมูลค่าให้แก่กิจการ(หรือเพิ่มราคาหุ้นในตลาด)
คือ 1. การขยายธุรกิจหรือเปลี่ยนประเภทธุรกิจที่ทำอยู่เป็นโซล่าร์ฟาร์ม - ซึ่งน่าจะหมายรวมถึงพลังงานทางเลือกอื่นด้วย
2. การนำบริษัทลูก-ร่วมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(split) และ 3. การเทกโอเวอร์บริษัทอื่นหรือถูกบริษัทอื่นเทกโอเวอร์ เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจ
คำถามคือ ทั้งสามประเด็นเป็นแนวโน้มของการทำธุรกิจสมัยใหม่ที่อย่างไรเสียก็ต้องเกิดขึ้นในประเทศไทย หรือ ทั้งสามประเด็นเป็นเพียงเรื่องชั่วครั้งชั่วคราวเพื่อหวังสร้างราคาหากำไรใส่กระเป๋าคนบางกลุ่ม หมดกระแส(นักเล่นหุ้นเบื่อ)ก็จะเลิกกันไปเอง และที่สำคัญ ควรมีหลักการ - ใช้หลักการใดมาพิจารณาเพื่อให้รายย่อย(อย่างผม)ไม่เสียท่าหลงกลลวง -หากเป็นแค่กระแส หรือ ไม่ตกรถขบวนใหญ่ - หากเป็นแนวโน้มของธุรกิจ
เห็นสภาพ-คน ในตลาดหุ้นแล้ว ก็นะ...
หากราคาขึ้น
ไม่ว่าจะทำอะไร อย่างไร เมื่อไร ที่ไหน ก็ถูกต้องทุกอย่าง
ชื่นชมกันเข้าไป (เจ้าใจดี หุ้น XX GOODDDDDD)
หากราคาตก
ไม่ว่าจะทำอะไร อย่างไร เมื่อไร ที่ไหน ก็ผิดหมดทุกอย่าง
ก่นด่ากันไป (หุ้นเน่า เจ้าใจป๊อด)
ถูก-ผิดตัดสินที่ราคาขึ้นหรือลง!!
xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx
การที่โลกนี้วุ่นวาย มิใช่เหตุเพราะโลกขาดความยุติธรรม
แต่เป็นตัวมนุษย์ต่างหากที่พรากความยุติธรรมไปจากโลก
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: 3 สตอรี่ แนวโน้ม หรือ แค่กระแส
โพสต์ที่ 9
นักลงทุนที่ดีควรซื้อหุ้นในขอบข่ายความรู้ของเรา
ไม่เกินขอบข่ายความรู้ของเราที่มี ไม่ว่า มันดีแค่ไหนก็ตาม
ตัวอย่างชัดเจน ตอนสมัย Dot Com Boom คุณบัฟเฟตนั้นไม่ซื้อเพราะไม่เข้าใจ
ทำให้คุณบัฟเฟตไม่มีผลกระทบตอนที่ Dot Com แตกในปี 2000 นั้นเอง
ไม่เกินขอบข่ายความรู้ของเราที่มี ไม่ว่า มันดีแค่ไหนก็ตาม
ตัวอย่างชัดเจน ตอนสมัย Dot Com Boom คุณบัฟเฟตนั้นไม่ซื้อเพราะไม่เข้าใจ
ทำให้คุณบัฟเฟตไม่มีผลกระทบตอนที่ Dot Com แตกในปี 2000 นั้นเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 1837
- ผู้ติดตาม: 0
Re: 3 สตอรี่ แนวโน้ม หรือ แค่กระแส
โพสต์ที่ 10
เร็วๆนี้จะมีการประกาศนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนและรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทากเลือก ซึ่งน่าจะเป็นอะไรที่สมเหตุสมผลและเป็นประโยช์นต่อประเทศมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็จะหมายความว่าโอกาสในการฟันกำไรแบบแต่ก่อนของผู้ประกอบการและการหากินตักตวงผลประโยช์นในธุรกิจนี้โดยข้าราชการและนักการเมืองก็จะลดน้อยหรือหมดไปเช่นกัน สุดท้ายควรจะมีเพียงผู้ประกอบการมืออาชีพที่สุจริตเหลืออยู่เท่านั้นขณะช่วงเวลานี้มี 3 สตอรี่เด่นที่บริษัท(ผู้บริหาร)ใช้เป็นประเด็นเพิ่มมูลค่าให้แก่กิจการ(หรือเพิ่มราคาหุ้นในตลาด)
คือ 1. การขยายธุรกิจหรือเปลี่ยนประเภทธุรกิจที่ทำอยู่เป็นโซล่าร์ฟาร์ม - ซึ่งน่าจะหมายรวมถึงพลังงานทางเลือกอื่นด้วย
2. การนำบริษัทลูก-ร่วมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์(split) และ 3. การเทกโอเวอร์บริษัทอื่นหรือถูกบริษัทอื่นเทกโอเวอร์ เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจ
ส่วนตัวมองว่าความรุ่งโรจน์ของธุรกิจพลังงานทางเลือกโดยเฉพาะโซล่าฟาร์มและวินด์ฟาร์มกำลังจะหมดไป บนหลักการที่ว่าพลังงานยั่งยืนที่แท้จริง ต้องสามารถอยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาเงินสนับสนุนจากภาครัฐเพื่ออยู่รอด หรือได้ผลประโยช์นจากปัจจัยที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวโครงการเองเช่นการเพิ่มขึ้นของค่าเชื้อเพลิง