"...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 31
ผมคิดว่า คนแต่ละคนเป็นปัจเจก มีความแตกต่าง จนไม่มีใครเป็นคนธรรมดา แต่ละคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
มีแต่คนที่มีประสบการณ์ กับคนที่ไม่มีประสบการณ์ และมีแต่คนที่พยายามที่จะพัฒนาตัวเอง กับคนที่ไม่พยายามที่จะพัฒนาตัวเอง
ผู้เชี่ยวชาญที่บทความนี้พูดถึงก็เป็นแค่คนที่ได้ผ่านกระบวนการศึกษา การพัฒนาตัวเองด้วยวิธีการแบบหนึ่ง ในขณะที่คนธรรมดาที่พูดถึงน่าจะหมายถึงคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ ซึ่งคนธรรมดาเหล่านี้ก็สามารถที่จะพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีความตั้งใจจริง และผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันในระดับรายละเอียดตามประสบการณ์ชีวิตแต่ละคนที่เคยเจอมาก จึงทำให้ผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนมีสไตล์ วิธีการ เส้นทาง และผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จที่แตกต่างกัน
ในจังหวะที่ผมไม่มีประสบการณ์ในการลงทุน ผมก็เลือกที่จะใช้กองทุนเหมือนกัน ลงทุนแต่กองทุนอย่างเดียว โดยไม่ได้ถือหุ้นสักตัว แล้วก็พยายามศึกษาการลงทุน พยายามทำความเข้าใจ แล้วก็ค่อยๆ ปรับเงินลงทุนจากกองทุนมาเป็นหุ้นทีละเล็กทีละน้อย พอรู้มากขึ้น ก็ลงทุนเองมากขึ้น กว่าจะลงทุนในหุ้นโดยไม่มีกองทุนอยู่ในสัดส่วนการลงทุนของพอร์ตต้องใช้เวลามากกว่า 3 ปี
ถึงทุกวันนี้ผมกลับต้องมาใช้กองทุนอีกครั้ง เมื่อจำเป็นต้องเริ่มไปลงทุนในต่างประเทศ ประเทศบางประเทศที่เราไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย ไม่กล้าที่จะเอาเงินทั้งหมดไปเสี่ยงเอง
ผมคิดว่าเครื่องมือต่างๆ มันมีเพื่อประโยชน์ของตัวเรา คุณจะใช้เบ็ด จะใช้แห่ จะใช้เรดาห์ จะใช้อะไร ผมว่าสุดท้ายมันอยู่ที่จริต อยู่ที่นิสัยของเรามากกว่า ว่าใช้อะไรแล้วถนัด แต่เมื่อเวลาผ่านไปถึงจุดหนึ่ง เราควรที่จะหยุดแล้วพิจารณาว่า ทางที่เราเดินผ่านมาเป็นทางที่ดี ที่เหมาะสมกับเราแล้วหรือเปล่า เป็นทางที่ทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น มีความสุขมากขึ้นหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ ก็ควรจะมานั่งวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นบ้าง ว่าต้องปรับแก้อะไรไหม? ถ้าดีแล้วก็ค่อยๆ เดิน ค่อยๆ ทำต่อไป
แน่นอนว่าคุณคนธรรมดา คุณคนที่ไม่มีประสบกาณณ์ทั้งหลาย คุณก็เป็นหนึ่งใน ผู้เชี่ยวชาญ เป็นกูรู เป็นเซียนหุ้นได้ครับ แต่คำถามคือว่า คุณได้ใส่ความพยายามลงไปมากน้อยแล้วขนาดไหน... ถ้าคุณไม่ได้ใส่ความพยายามลงไป และไม่มีแผนที่จะใส่ความพยายามเพิ่ม ผมว่าคุณใช้กองทุนก็ดีนะครับ เพราะ เท่าที่ผมได้ลองใช้มา ก็ work ระดับหนึ่ง ไม่ได้ขี้เหร่สักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับความพยายามที่เราใส่ลงไป
มีแต่คนที่มีประสบการณ์ กับคนที่ไม่มีประสบการณ์ และมีแต่คนที่พยายามที่จะพัฒนาตัวเอง กับคนที่ไม่พยายามที่จะพัฒนาตัวเอง
ผู้เชี่ยวชาญที่บทความนี้พูดถึงก็เป็นแค่คนที่ได้ผ่านกระบวนการศึกษา การพัฒนาตัวเองด้วยวิธีการแบบหนึ่ง ในขณะที่คนธรรมดาที่พูดถึงน่าจะหมายถึงคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ ซึ่งคนธรรมดาเหล่านี้ก็สามารถที่จะพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ หากมีความตั้งใจจริง และผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันในระดับรายละเอียดตามประสบการณ์ชีวิตแต่ละคนที่เคยเจอมาก จึงทำให้ผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนมีสไตล์ วิธีการ เส้นทาง และผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จที่แตกต่างกัน
ในจังหวะที่ผมไม่มีประสบการณ์ในการลงทุน ผมก็เลือกที่จะใช้กองทุนเหมือนกัน ลงทุนแต่กองทุนอย่างเดียว โดยไม่ได้ถือหุ้นสักตัว แล้วก็พยายามศึกษาการลงทุน พยายามทำความเข้าใจ แล้วก็ค่อยๆ ปรับเงินลงทุนจากกองทุนมาเป็นหุ้นทีละเล็กทีละน้อย พอรู้มากขึ้น ก็ลงทุนเองมากขึ้น กว่าจะลงทุนในหุ้นโดยไม่มีกองทุนอยู่ในสัดส่วนการลงทุนของพอร์ตต้องใช้เวลามากกว่า 3 ปี
ถึงทุกวันนี้ผมกลับต้องมาใช้กองทุนอีกครั้ง เมื่อจำเป็นต้องเริ่มไปลงทุนในต่างประเทศ ประเทศบางประเทศที่เราไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย ไม่กล้าที่จะเอาเงินทั้งหมดไปเสี่ยงเอง
ผมคิดว่าเครื่องมือต่างๆ มันมีเพื่อประโยชน์ของตัวเรา คุณจะใช้เบ็ด จะใช้แห่ จะใช้เรดาห์ จะใช้อะไร ผมว่าสุดท้ายมันอยู่ที่จริต อยู่ที่นิสัยของเรามากกว่า ว่าใช้อะไรแล้วถนัด แต่เมื่อเวลาผ่านไปถึงจุดหนึ่ง เราควรที่จะหยุดแล้วพิจารณาว่า ทางที่เราเดินผ่านมาเป็นทางที่ดี ที่เหมาะสมกับเราแล้วหรือเปล่า เป็นทางที่ทำให้ชีวิตของเราดีขึ้น มีความสุขมากขึ้นหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ ก็ควรจะมานั่งวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นบ้าง ว่าต้องปรับแก้อะไรไหม? ถ้าดีแล้วก็ค่อยๆ เดิน ค่อยๆ ทำต่อไป
แน่นอนว่าคุณคนธรรมดา คุณคนที่ไม่มีประสบกาณณ์ทั้งหลาย คุณก็เป็นหนึ่งใน ผู้เชี่ยวชาญ เป็นกูรู เป็นเซียนหุ้นได้ครับ แต่คำถามคือว่า คุณได้ใส่ความพยายามลงไปมากน้อยแล้วขนาดไหน... ถ้าคุณไม่ได้ใส่ความพยายามลงไป และไม่มีแผนที่จะใส่ความพยายามเพิ่ม ผมว่าคุณใช้กองทุนก็ดีนะครับ เพราะ เท่าที่ผมได้ลองใช้มา ก็ work ระดับหนึ่ง ไม่ได้ขี้เหร่สักเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับความพยายามที่เราใส่ลงไป
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
-
- Verified User
- โพสต์: 469
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 32
จริงเหรอที่ ปู่บัฟ ต้องจ้างคน 500 คนมาช่วยวิเคราะห์
ใครรู้วานแถลงไขหน่อย เท่าที่เคยอ่าน เลาๆว่ามีพนักงาน 13 คนเองมั้ง
แถมทำงานสี่วันเองด้วย จ้างคนช่วยวิเคราะห์นี้ดูไม่น่าใช่ปู่เลยแฮะ
ใครรู้วานแถลงไขหน่อย เท่าที่เคยอ่าน เลาๆว่ามีพนักงาน 13 คนเองมั้ง
แถมทำงานสี่วันเองด้วย จ้างคนช่วยวิเคราะห์นี้ดูไม่น่าใช่ปู่เลยแฮะ
Sixth Sense Investor
- piezila
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 33
ผมเคยติดตามงานเขียนคุณบรรยงมา เคยอ่านเจอว่าเล่นหุ้นตั้งแต่จบใหม่ๆ แล้วเจ๊งหุ้นจนต้องทำงานใช้หนี้อีกหลายปี
เข้าใจว่าบทความนี้เป็นมุมมอง และประสพการ์ณส่วนตัว สำหรับผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ใหญ่ๆคงมองผู้ลงทุนรายย่อยจากอีกมุมหนึ่ง ว่าขาดความรู้ ขาดทรัพยากร ไม่สามารถสู้กองทุนใหญ่ๆที่ครบเครื่องได้
สำหรับผม เป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ ต้องแข่งขันกับรายย่อยอื่นๆ แข่งกับ ไทวัสดุ โฮมโปร โกลบอลเฮ้าส์ ถ้ามองจากผู้บริหารใหญ่ของกิจการเหล่านั้นกิจการเล็กๆย่อมไม่สามารถสู้ได้ แต่ผมมองว่าทุกตลาดจะมีช่องว่างให้เล่นเสมอ เพียงแต่เราต้องหาวิธีแข่งขันที่แตกต่าง ทำงานอย่างรอบคอบ หาความรู้อยู่เสมอ ไม่ต้องกำไรสุทธิเป็นพันล้าน แค่หลักล้านก็อยู่สบายๆ แล้ว
ถ้าจะแข่งขันต้องหาวิธีของตัวเอง ไม่พยายามเล่นในเกมส์คนอื่น
เข้าใจว่าบทความนี้เป็นมุมมอง และประสพการ์ณส่วนตัว สำหรับผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ใหญ่ๆคงมองผู้ลงทุนรายย่อยจากอีกมุมหนึ่ง ว่าขาดความรู้ ขาดทรัพยากร ไม่สามารถสู้กองทุนใหญ่ๆที่ครบเครื่องได้
สำหรับผม เป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ ต้องแข่งขันกับรายย่อยอื่นๆ แข่งกับ ไทวัสดุ โฮมโปร โกลบอลเฮ้าส์ ถ้ามองจากผู้บริหารใหญ่ของกิจการเหล่านั้นกิจการเล็กๆย่อมไม่สามารถสู้ได้ แต่ผมมองว่าทุกตลาดจะมีช่องว่างให้เล่นเสมอ เพียงแต่เราต้องหาวิธีแข่งขันที่แตกต่าง ทำงานอย่างรอบคอบ หาความรู้อยู่เสมอ ไม่ต้องกำไรสุทธิเป็นพันล้าน แค่หลักล้านก็อยู่สบายๆ แล้ว
ถ้าจะแข่งขันต้องหาวิธีของตัวเอง ไม่พยายามเล่นในเกมส์คนอื่น
-
- Verified User
- โพสต์: 297
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 34
คำแนะนำของ VI ยุคเก่าหลายๆ ท่านสอนผมว่า
โลภ เป็นหนทางสู่ความหายนะ
ลงทุนตามที่เราเข้าใจ ถ้ายังไม่มีความเข้าใจในเรื่องนั้น แสดงว่ายังไม่พร้อมที่จะลงทุน
โลภ เป็นหนทางสู่ความหายนะ
ลงทุนตามที่เราเข้าใจ ถ้ายังไม่มีความเข้าใจในเรื่องนั้น แสดงว่ายังไม่พร้อมที่จะลงทุน
- นายมานะ
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1167
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 37
ผมว่าประเด็นที่มองต่างมุมกันระหว่างคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับคุณบรรยงน่าจะเป็น "คนธรรมดาควรเล่นหุ้นหรือไม่" ส่วนนิยามคนธรรมดาของแต่ละแตกต่างกัน แต่ในเมื่อเรากำลังพูดถึงนิยามคนธรรมดาในแบบของคุณบรรยง เราก็ควรเริ่มจากคนธรรมดาในมุมของคุณบรรยงหมายถึงใคร
ผมไม่ได้เห็นต่างจากคุณบรรยงตรงที่ว่า การที่คน 1 คน จะสู้กับคนลักษณะที่ว่านั้นในเกมเดียวกันคงจะมีโอกาสแพ้สูงมาก แต่อย่าลืมว่าเกมการลงทุนนั้น แม้จะเป็นสนามเดียวกัน แต่เราเลือกที่จะเล่นเกมที่แตกต่างไปจากคนอื่นๆ ได้ อย่างที่คุณ Vim แนะนำให้อ่านหนังสือของ Lynch ที่ให้เหตุผลด้านข้อจำกัด และประเด็น conflict of interest ที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนตัวคนเดียวสามารถสร้างผลตอบแทนเอาชนะกองทุนได้ หรือเราอาจไม่จำเป็นต้องลงทุนให้ชนะกองทุนหรือคนเหล่านี้ แต่เลือกลงทุนในแบบของเราที่เราพอใจในผลตอบแทนและระดับความเสี่ยง ลงทุนแล้วกินอิ่ม นอนหลับ มีความสุข เพียงเท่านั้นก็น่าจะถือว่าเป็น "คนธรรมดา" ที่เล่นหุ้นประสบผลสำเร็จแล้วไม่ใช่หรือครับ
จากไฮไลท์สีแดงนั้น นิยาม "คนไม่ธรรมดา" ของคุณบรรยง เป็นนิยามที่แตกต่างจาก "นักลงทุน Vi" หลายๆ ท่านที่ผมรู้จักมากทีเดียว นักลงทุน Vi ที่ประสบความสำเร็จรอบตัวผม ไม่ได้ใช้เวลาของตัวเอง 2,000 ชม.ต่อวันวิเคราะห์ตลาด ไม่ได้จบจากฮาวาร์ด แสตนฟอร์ต และวอเรนต์ บัฟเฟตต์ก่อนที่จะมาถึงวันนี้เองก็เคยลงทุนในแบบของ "คนธรรมดา" ตามนิยามของคุณบรรยงมาก่อนTibular เขียน:Q มีเหตุผลอะไรบ้างที่คนธรรมดาไม่ควรเข้าไปข้องเกี่ยวเรื่องหุ้น
เหตุผลแรก เราใช้คำว่า Economy of Scale คือ การที่จะวิเคราะห์ตลาดหุ้นได้อย่างลึกซึ้ง ต้องใช้เวลาประมาณ 2,000 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งคนธรรมดาไม่มีทางทำได้ เพราะมันต้องมีทีม มีการแบ่งหน้าที่ ฉะนั้นคนธรรมดามันไปไม่ถึงอยู่แล้ว เหมือนการที่คุณเป็นคนธรรมดาแล้วคุณบอกว่าจะสร้างโรงปูนซีเมนต์ ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้
สอง-สมมุติคุณมี 100 ล้านหุ้น ถ้าอยากจะมี 10,000 ล้านหุ้น ก็ต้องใช้คน 100 คน แล้วคุณต้องใช้เวลาวันละ 10 ชั่วโมง เพื่อที่จะติดตามหุ้น มันก็ปาเข้าไป 1,000 ชั่วโมงต่อวัน เพราะมันใหญ่มาก
สาม-เป็นเรื่องของ Expertise (ทักษะความชำนาญ) ซึ่งคนที่จะถูกใช้งาน มีทั้งจบมาจากฮาวาร์ด สแตนฟอร์ด ที่ล้วนผ่านกระบวนการทดสอบมาแล้วว่ามีความเก่ง ความเชี่ยวชาญ และไม่ใช่มีแค่ ความชำนาญด้านเดียว เพราะในทีมงานที่จะลงทุนก็ต้องมีทั้งทีมวิเคราะห์ ตัดสินใจ แยกแยะ มีทีมที่รู้จังหวะของตลาด ซึ่งคนคนเดียวไม่มีทางจะไปสู้ได้แน่นอน
สี่-เรื่องข้อมูลข่าวสาร นั่นก็ต่างกันราวฟ้ากับดิน ทุกตลาดจะบอกว่าทุกคนต้องเปิดเผยข้อมูลเท่าเทียมกัน แต่ว่าการรับข้อมูลมันไม่เท่าเทียมกัน ดูจากนักวิเคราะห์เป็นอับดับแรกเลย ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าคุณเป็นนักลงทุนสถาบันระดับแสนล้าน คุณสามารถที่จะโทรศัพท์มาที่บริษัทหลักทรัพย์เพื่อให้ช่วยวิเคราะห์หุ้นให้ ได้ทันที นักวิเคราะห์เขาก็ต้องโทรหาคุณทันที เพราะ Account เป็นแสนล้าน แล้วก็ต้องช่วยวิเคราะห์หรือตอบคำถามของคุณให้ได้ ต้องทำการบ้านส่งให้ได้ เราก็ต้องทำให้คุณเพราะคุณมีหุ้นอยู่ในมือเยอะมาก
ผมไม่ได้เห็นต่างจากคุณบรรยงตรงที่ว่า การที่คน 1 คน จะสู้กับคนลักษณะที่ว่านั้นในเกมเดียวกันคงจะมีโอกาสแพ้สูงมาก แต่อย่าลืมว่าเกมการลงทุนนั้น แม้จะเป็นสนามเดียวกัน แต่เราเลือกที่จะเล่นเกมที่แตกต่างไปจากคนอื่นๆ ได้ อย่างที่คุณ Vim แนะนำให้อ่านหนังสือของ Lynch ที่ให้เหตุผลด้านข้อจำกัด และประเด็น conflict of interest ที่ทำให้นักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนตัวคนเดียวสามารถสร้างผลตอบแทนเอาชนะกองทุนได้ หรือเราอาจไม่จำเป็นต้องลงทุนให้ชนะกองทุนหรือคนเหล่านี้ แต่เลือกลงทุนในแบบของเราที่เราพอใจในผลตอบแทนและระดับความเสี่ยง ลงทุนแล้วกินอิ่ม นอนหลับ มีความสุข เพียงเท่านั้นก็น่าจะถือว่าเป็น "คนธรรมดา" ที่เล่นหุ้นประสบผลสำเร็จแล้วไม่ใช่หรือครับ
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 39
เหะๆ ผมคงจะเน้นส่วนนี้ "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..." มากไปหน่อยนะครับทุกท่าน
ผมเองก็คิดว่ากลุ่มนักลงทุน VI ที่ประสบความสำเร็จก็มีจำนวนน้อยจริงๆ
ถ้าเทียบกับนักลงทุนส่วนบุคคลทั้งหมด ที่เป็นแบบนี้อาจจะด้วย ความขยันหมั่นเพียร
ความรู้ ความเข้าใจ ประสบการณ์ ทัศนคติ ความอดทนและการควบคุมอารมณ์ ที่ต่างกันก็เป็นได้
หรือแม้กระทั้งภาวะตลาดที่เป็นใจ หรือ การเลือกหุ้นได้ถูกต้อง หรือ อะไรก็ตามแต่...
ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่อาจจะเหมาะสมกับการลงทุนในกองทุนรวมมากกว่า...
แต่สุดท้ายเราก็ไม่ควรมั่นใจในตัวเองมากเกินไปอยู่ดี "...โลกไม่เที่ยง หุ้นก็ไม่เที่ยง..."
ส่วนบทความนี้ก็มีความน่าสนใจตั้งแต่ต้นอยู่ดีนะครับ เช่น เรื่องการวิวัฒนาการของระบบทุนนิยมในบ้านเรา
ซึ่งเรื่องนี้ก็สะท้อนแรงขับของผู้คนในโลกได้อย่างดี จากที่ มาร์กาเรต แธตเชอร์ พูดไว้ว่า
“When State Owns, Nobody Owns. When Nobody Owns, Nobody Cares.”
รวมถึงเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เพิ่มมากขึ้นๆ
ผมเองก็คิดว่ากลุ่มนักลงทุน VI ที่ประสบความสำเร็จก็มีจำนวนน้อยจริงๆ
ถ้าเทียบกับนักลงทุนส่วนบุคคลทั้งหมด ที่เป็นแบบนี้อาจจะด้วย ความขยันหมั่นเพียร
ความรู้ ความเข้าใจ ประสบการณ์ ทัศนคติ ความอดทนและการควบคุมอารมณ์ ที่ต่างกันก็เป็นได้
หรือแม้กระทั้งภาวะตลาดที่เป็นใจ หรือ การเลือกหุ้นได้ถูกต้อง หรือ อะไรก็ตามแต่...
ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่อาจจะเหมาะสมกับการลงทุนในกองทุนรวมมากกว่า...
แต่สุดท้ายเราก็ไม่ควรมั่นใจในตัวเองมากเกินไปอยู่ดี "...โลกไม่เที่ยง หุ้นก็ไม่เที่ยง..."
ส่วนบทความนี้ก็มีความน่าสนใจตั้งแต่ต้นอยู่ดีนะครับ เช่น เรื่องการวิวัฒนาการของระบบทุนนิยมในบ้านเรา
ซึ่งเรื่องนี้ก็สะท้อนแรงขับของผู้คนในโลกได้อย่างดี จากที่ มาร์กาเรต แธตเชอร์ พูดไว้ว่า
“When State Owns, Nobody Owns. When Nobody Owns, Nobody Cares.”
รวมถึงเรื่องความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่เพิ่มมากขึ้นๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 238
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 40
เห็นด้วยครับว่า "คนธรรมดา อย่ามาเล่นหุ้นเลย" แต่ VI ที่แท้จริง ไม่ใช่คนธรรมดา การพัฒนาให้เป็น VI นั้นยากเย็นมาก ต้องมีบุคคลิก ทัศนคติที่เหมาะสมจริงๆ
อย่าลืมข้อได้เปรียบของรายย่อยที่มีเหนือกองทุน ที่ปีเตอร์ ลินช์ บอกไว้นะครับ หมั่นอ่าน คิดและทบทวน
อย่าลืมข้อได้เปรียบของรายย่อยที่มีเหนือกองทุน ที่ปีเตอร์ ลินช์ บอกไว้นะครับ หมั่นอ่าน คิดและทบทวน
-
- Verified User
- โพสต์: 276
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 41
เคยได้อ่านบทความหนึง เคยกล่าวไว้ว่า ให้เด็กอนุบาลกลุ่มหนึงเลือกหุ้นออกมาลงทุน ปรากฎว่า ผลตอบแทนจากการที่เด็กๆเหล่านั้นเลือก ผลตอบแทนออกมาดีกว่าผลตอบแทนของผู้จัดการกองทุนเสียอีก!!! ( เข้าใจตรงกันน่ะ )
ปล่อยให้เงินทำงาน...$$$
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 42
อ่านแล้วก็ตะหงิดๆอยู่ 2 เรื่อง
1. หุ้นไทยถูกคุมด้วยต่างชาติ... คุณบรรยงบอกว่าต่างชาติถือหุ้นไทย 60% กว่า... ตรงนี้ผมว่าไม่น่าจะจริงครับ ผมว่าต่างชาติถือเต็มที่ก็ไม่น่าจะเกิน 40% .. ดีไม่ดีอาจจะต่ำกว่า 30% ด้วยซ้ำ
2. Buffett จ้างคนมาวิเคราะห์ 500 คน ตรงนี้ผมว่าผิดแน่ๆครับ
ผมว่าแนวที่คิดแกบอกว่าคนธรรมดาไม่ควรมาเล่นหุ้นเอง ผมก็เห็นด้วยในระดับหนึ่ง แต่เนื้อหาที่ใช้ในการอธิบายเหตุผลหลายๆจุด ผมว่ามันออกแนวแต่งเสริมเติมเองซะเยอะ
1. หุ้นไทยถูกคุมด้วยต่างชาติ... คุณบรรยงบอกว่าต่างชาติถือหุ้นไทย 60% กว่า... ตรงนี้ผมว่าไม่น่าจะจริงครับ ผมว่าต่างชาติถือเต็มที่ก็ไม่น่าจะเกิน 40% .. ดีไม่ดีอาจจะต่ำกว่า 30% ด้วยซ้ำ
2. Buffett จ้างคนมาวิเคราะห์ 500 คน ตรงนี้ผมว่าผิดแน่ๆครับ
ผมว่าแนวที่คิดแกบอกว่าคนธรรมดาไม่ควรมาเล่นหุ้นเอง ผมก็เห็นด้วยในระดับหนึ่ง แต่เนื้อหาที่ใช้ในการอธิบายเหตุผลหลายๆจุด ผมว่ามันออกแนวแต่งเสริมเติมเองซะเยอะ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- canuseeme
- Verified User
- โพสต์: 302
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 43
เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์มากเลยครับ
ทีแรกก็ไม่เห็นด้วยกับบทความแต่
พอไล่อ่านเหตุผลของทุกท่าน แล้ว มอง ย้อนไปสู่คนรู้จักที่ได้ลงทุน
ก็คิดว่า บทความนี้ จริง คนส่วนใหญ่ คงเป็นยังงั้น
ปัญหาเลยมาอยู่ตรงที่ว่า เราจะรู้ได้ยังงัยว่าเราอยู่เหนือค่าเฉลี่ย หริอไม่ใช่คนธรรมดา
เพราะคนส่วนใหญ่นั้นย่อมภูมิใจในตัวเองและคิดว่าตัวเองเก่ง
(ไม่งั้นคงเป็นโรคซึมเศร้า หรือไม่ก็ฆ่าตัวตายไปแล้ว)
เลยอาจจะทำให้ลงทุน ไม่เหมาะสมกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน
ทีแรกก็ไม่เห็นด้วยกับบทความแต่
พอไล่อ่านเหตุผลของทุกท่าน แล้ว มอง ย้อนไปสู่คนรู้จักที่ได้ลงทุน
ก็คิดว่า บทความนี้ จริง คนส่วนใหญ่ คงเป็นยังงั้น
ปัญหาเลยมาอยู่ตรงที่ว่า เราจะรู้ได้ยังงัยว่าเราอยู่เหนือค่าเฉลี่ย หริอไม่ใช่คนธรรมดา
เพราะคนส่วนใหญ่นั้นย่อมภูมิใจในตัวเองและคิดว่าตัวเองเก่ง
(ไม่งั้นคงเป็นโรคซึมเศร้า หรือไม่ก็ฆ่าตัวตายไปแล้ว)
เลยอาจจะทำให้ลงทุน ไม่เหมาะสมกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
-
- Verified User
- โพสต์: 428
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 44
เป็นคำแนะนำที่ผมฟัง และคิดตามในระดับเดียวกับ มาร์เกตติ้งสาวของผม
ทุกครั้ง ที่ผมฟังจบ ผมเห็นด้วยหมดเลย ไม่มีข้อโต้แย้ง
แต่พอถึงขั้น ตอนทำ ผมแทบจะไม่ทำตามเลย อย่างมาก 1-2 เรื่องใน 10 เรื่องเท่านั้นที่ทำ
แต่นี้แกแนะนำมาเรื่องเดียว แล้ว ผมจะทำตามได้อย่างไร
ทุกครั้ง ที่ผมฟังจบ ผมเห็นด้วยหมดเลย ไม่มีข้อโต้แย้ง
แต่พอถึงขั้น ตอนทำ ผมแทบจะไม่ทำตามเลย อย่างมาก 1-2 เรื่องใน 10 เรื่องเท่านั้นที่ทำ
แต่นี้แกแนะนำมาเรื่องเดียว แล้ว ผมจะทำตามได้อย่างไร
-
- Verified User
- โพสต์: 84
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 45
การลงทุนเปนการทำธุรกิจ ทำไมคนธรรมดาจะไม่สามารถทำธุรกิจได้
ธุรกิจโดยการถือหุ้น หรือ ลงมือทำเอง มันก้อคือ การทำธุรกิจ
หรือ ถ้าการลงทุนเปนการซื้อมาขายไปของหุ้น ความต้องการอยู่ที่ demand/supply
หุ้นดี demand ก้อดี แล้วทำไม คนธรรมดาจะทำไม่ได้ นอกจากแยกหุ้นดีไม่ออก
ธุรกิจโดยการถือหุ้น หรือ ลงมือทำเอง มันก้อคือ การทำธุรกิจ
หรือ ถ้าการลงทุนเปนการซื้อมาขายไปของหุ้น ความต้องการอยู่ที่ demand/supply
หุ้นดี demand ก้อดี แล้วทำไม คนธรรมดาจะทำไม่ได้ นอกจากแยกหุ้นดีไม่ออก
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 46
พอดีมีหนังสือที่ชื่อ "บรรยง พงษ์พานิช เขียน" เป็นของสำนักพิมพ์ Open world
ราคา 215 บาท พิมพ์เมื่อกุมภาพันธ์ 2557 ได้รวบรวมบทความของคุณบรรยงไว้ในช่วงปี 2556
ลองหาอ่านดูครับ นอกจากบทความนี้
มุมมองแต่ละมุมมองไม่ผิดหรอกครับ แต่เราเลือกรับรู้ด้านไหนเท่านั้นเอง
ทุกอย่างมนุษย์เป็นคนเขียนขึ้น เพื่อเป็นกฏเป็นระเบียบเป็นวิธีการปฏิบัติ และมนุษย์นี้เองก็เป็นคนที่ลบสิ่งที่ตัวเองได้เขียนขึ้นหรือแก้ไขสิ่งเหล่านั้นให้มันดีขึ้นหรือเลวลงแล้วแต่สถานการณ์
ราคา 215 บาท พิมพ์เมื่อกุมภาพันธ์ 2557 ได้รวบรวมบทความของคุณบรรยงไว้ในช่วงปี 2556
ลองหาอ่านดูครับ นอกจากบทความนี้
มุมมองแต่ละมุมมองไม่ผิดหรอกครับ แต่เราเลือกรับรู้ด้านไหนเท่านั้นเอง
ทุกอย่างมนุษย์เป็นคนเขียนขึ้น เพื่อเป็นกฏเป็นระเบียบเป็นวิธีการปฏิบัติ และมนุษย์นี้เองก็เป็นคนที่ลบสิ่งที่ตัวเองได้เขียนขึ้นหรือแก้ไขสิ่งเหล่านั้นให้มันดีขึ้นหรือเลวลงแล้วแต่สถานการณ์
-
- Verified User
- โพสต์: 874
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 47
เรื่องอ.บรรยง
ผมชอบข้อเขียนท่านมากครับ เป็นวิชาการตรงๆ ไม่เอาใจใคร
เรื่องทุนนิยม
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทุนนิยมอุดมคติจะมีใครหรือระบบไหน หรือประเทศไหน ที่จะเป็น"ตัวอย่าง"ให้"ทั้งโลก"ทำตามได้
(คืออาจเหมาะกับ20%อีก80%ไม่เหมาะ หรือไม่เอา)
Compassionate capitalism ของ Rich devos?(สาวกขายตรงคงรู้จักดี )
บ.เท่าทุนจำกัดของมหาจำลอง? GDHแบบภูฎาน?
คือดูคล้ายzero sum game ในยานเอาวกาศที่ชื่อว่าโลก
เรื่อง"คนธรรมดา"
ผมว่าถ้าบทความนี้โพสต์ในเวปอื่นก็ไม่แปลก
แต่ผมว่าคนไทยวีไอ"ไม่ธรรมดา"ครับ ราวๆยอดภูเขาน้ำแข็ง โผล่พ้นน้ำอยู่10%อยู่เหนือ90%ที่จมน้ำอยู่
เดาว่าบัญชีหุ้นทั้งประเทศ 80%ขาดทุน20%กำไร(ส่วนใหญ่คงเป็นวีไอกะเจ้ามือมั้งครับ)
เรื่องกองทุน"ธรรมดา"
นี่สิครับ น่าเบื่อมาก 80%แพ้ดัชนี
เมื่อไรจะมีกองทุนวีไอไม่ธรรมดาซะทีน้อ จะได้เกาะไปด้วย ไม่รู้ติดข้อกฎหมายหรืออะไร
ไทยวีไอไปตั้งกองทุนอุ้มบุญ รึเทคโอเวอร์บ.หลักทรัพย์เลยดีมั้ยครับพี่น้องงง..
ผมชอบข้อเขียนท่านมากครับ เป็นวิชาการตรงๆ ไม่เอาใจใคร
เรื่องทุนนิยม
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทุนนิยมอุดมคติจะมีใครหรือระบบไหน หรือประเทศไหน ที่จะเป็น"ตัวอย่าง"ให้"ทั้งโลก"ทำตามได้
(คืออาจเหมาะกับ20%อีก80%ไม่เหมาะ หรือไม่เอา)
Compassionate capitalism ของ Rich devos?(สาวกขายตรงคงรู้จักดี )
บ.เท่าทุนจำกัดของมหาจำลอง? GDHแบบภูฎาน?
คือดูคล้ายzero sum game ในยานเอาวกาศที่ชื่อว่าโลก
เรื่อง"คนธรรมดา"
ผมว่าถ้าบทความนี้โพสต์ในเวปอื่นก็ไม่แปลก
แต่ผมว่าคนไทยวีไอ"ไม่ธรรมดา"ครับ ราวๆยอดภูเขาน้ำแข็ง โผล่พ้นน้ำอยู่10%อยู่เหนือ90%ที่จมน้ำอยู่
เดาว่าบัญชีหุ้นทั้งประเทศ 80%ขาดทุน20%กำไร(ส่วนใหญ่คงเป็นวีไอกะเจ้ามือมั้งครับ)
เรื่องกองทุน"ธรรมดา"
นี่สิครับ น่าเบื่อมาก 80%แพ้ดัชนี
เมื่อไรจะมีกองทุนวีไอไม่ธรรมดาซะทีน้อ จะได้เกาะไปด้วย ไม่รู้ติดข้อกฎหมายหรืออะไร
ไทยวีไอไปตั้งกองทุนอุ้มบุญ รึเทคโอเวอร์บ.หลักทรัพย์เลยดีมั้ยครับพี่น้องงง..
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 48
อ.หนึ่งครับ ผมกลับไม่แปลกใจเท่าไหร่นะครับ เพราะกองทุนเค้าก็ไม่อยากเสี่ยงที่จะไปเน้นหุ้นเล็ก ๆ หรอกครับ ถ้าไปดูรายชื่อหุ้นที่ถืออยู่ส่วนใหญ่ก็จะซ้ำ ๆ กัน ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของหุ้นแต่ละตัวมากกว่า นั่นแปลว่าถ้าบริหารแล้วเป็นไปตามสภาวะของตลาด โดยเฉพาะเวลาหุ้นตก มันก็จะไม่โดนด่านั่นเอง เพราะหุ้นที่ซื้อมันก็เป็นบ.ใหญ่อยู่แล้ว SCC PTT SCB ฺฺBBL CPALL ถ้าตลาดตก ก็บอกว่าเป็นไปตามสถาวะตลาด จบเปล่าครับ ผู้ถือหน่วยยอมรับ แต่ถ้าไปซื้อหุ้นเล็ก ๆ ก ข ค ง ต่อให้ตกลงไปตามสภาวะตลาด ผมกลับเชื่อว่า ผู้ถือหน่วยอาจจะไม่มองแบบกรณีแรกน่ะครับ จริง ๆ กองทุนที่เน้นหุ้นแบบเฉพาะในเมืองไทยก็มีอยู่บ้างนะครับ แต่ไม่มากเท่าที่ควรน่ะครับdr1 เขียน: เรื่องกองทุน"ธรรมดา"
นี่สิครับ น่าเบื่อมาก 80%แพ้ดัชนี
เมื่อไรจะมีกองทุนวีไอไม่ธรรมดาซะทีน้อ จะได้เกาะไปด้วย ไม่รู้ติดข้อกฎหมายหรืออะไร
ไทยวีไอไปตั้งกองทุนอุ้มบุญ รึเทคโอเวอร์บ.หลักทรัพย์เลยดีมั้ยครับพี่น้องงง..
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 71
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 49
ลองอ่านดูแล้วก็มีประโยชน์ดีครับ มีทั้งส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
การลงทุนส่วนตัวก็ทำตามทางสายกลาง คือ แบ่งพอร์ต ซื้อกองทุนทั้งในและต่างประเทศ แล้วก็ซื้อลงทุนหุ้นเองด้วย
ที่จริงการลงทุนในกองทุนที่มีหุ้นเป็นส่วนประกอบ ก็ต้องทำความเข้าใจตลาดหุ้นและหุ้นที่กองทุนเอาไปลงทุนด้วยครับ จะได้รู้ถึงสภาพความเสี่ยง ความผันผวนของหน่วยลงทุน และความเป็นไปได้ของผลตอบแทน โดยเฉพาะในระยะยาว จะให้แค่เอาเงินไปลงกับกองทุนแล้วจบ อาจไม่ง่ายขนาดนั้น แต่ถ้ามีความเชื่อมั่นชัดเจนว่าในระยะยาว 5-10 ปีขึ้นไป ตลาดหุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีพอสมควร แต่ไม่มีเวลาศึกษาการลงทุนในหุ้นได้มากพอ ก็สามารถลงทุนในกองทุนดัชนี เช่น TDEX ซึ่งมีค่าธรรมเนียมต่ำ โดยใช้วิธีเฉลี่ยซื้อไปเรื่อยๆ แบบ Dollar Cost Average ก็ได้ครับ น่าจะเหมาะดี
ส่วนการลงทุนในหุ้นด้วยตนเอง ควรมีเวลาทุ่มเทศึกษา เรียนรู้ หาข้อมูล วิเคราะห์หุ้น ที่มากพอ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยมีความเสี่ยงที่จะเสียหายต่ำ การรวยเร็ว รวยด่วน กำไรมากๆ ในระยะสั้นๆ เป็นความสามารถเฉพาะบุคคล และมีเรื่องโชคมาเกี่ยวข้องไม่น้อย โดยเฉพาะที่ได้มาโดยไม่ได้ทุ่มเทเวลาศึกษา เรียนรู้ มีน้อยมากๆ และไม่ยั่งยืน แถมมีโอกาสไปเร็วก่อนกำหนดด้วยครับ
อ. นิเวศน์ เองก็เคยบอกว่า หากสามารถลงทุนหุ้นได้ผลตอบแทนทบต้นทุกปี ปีละ 10% กว่าๆ ได้ในระยะยาวก็ถือว่าเก่งมากๆ แล้วครับ เพราะขนาดปรมาจารย์การลงทุนในหุ้นอย่างบัฟเฟ็ตต์ ในระยะยาวยังทำได้เฉลี่ย 20% กว่าๆ หรือผู้จัดการกองทุนที่เป็น VI ชั้นนำในต่างประเทศหลายคนก็ทำได้เฉลี่ยไม่ถึง 20% ครับ แต่แค่ผลตอบแทน 10% กว่าๆ นี้ ในระยะยาวสามารถทำให้เรามีอิสรภาพทางการเงิน หรือมีโอกาสร่ำรวยได้ในที่สุด โดยไม่ต้องเสี่ยงที่จะล้มหายไปก่อนจะถึงเวลานั้นครับ
การลงทุนส่วนตัวก็ทำตามทางสายกลาง คือ แบ่งพอร์ต ซื้อกองทุนทั้งในและต่างประเทศ แล้วก็ซื้อลงทุนหุ้นเองด้วย
ที่จริงการลงทุนในกองทุนที่มีหุ้นเป็นส่วนประกอบ ก็ต้องทำความเข้าใจตลาดหุ้นและหุ้นที่กองทุนเอาไปลงทุนด้วยครับ จะได้รู้ถึงสภาพความเสี่ยง ความผันผวนของหน่วยลงทุน และความเป็นไปได้ของผลตอบแทน โดยเฉพาะในระยะยาว จะให้แค่เอาเงินไปลงกับกองทุนแล้วจบ อาจไม่ง่ายขนาดนั้น แต่ถ้ามีความเชื่อมั่นชัดเจนว่าในระยะยาว 5-10 ปีขึ้นไป ตลาดหุ้นจะให้ผลตอบแทนที่ดีพอสมควร แต่ไม่มีเวลาศึกษาการลงทุนในหุ้นได้มากพอ ก็สามารถลงทุนในกองทุนดัชนี เช่น TDEX ซึ่งมีค่าธรรมเนียมต่ำ โดยใช้วิธีเฉลี่ยซื้อไปเรื่อยๆ แบบ Dollar Cost Average ก็ได้ครับ น่าจะเหมาะดี
ส่วนการลงทุนในหุ้นด้วยตนเอง ควรมีเวลาทุ่มเทศึกษา เรียนรู้ หาข้อมูล วิเคราะห์หุ้น ที่มากพอ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยมีความเสี่ยงที่จะเสียหายต่ำ การรวยเร็ว รวยด่วน กำไรมากๆ ในระยะสั้นๆ เป็นความสามารถเฉพาะบุคคล และมีเรื่องโชคมาเกี่ยวข้องไม่น้อย โดยเฉพาะที่ได้มาโดยไม่ได้ทุ่มเทเวลาศึกษา เรียนรู้ มีน้อยมากๆ และไม่ยั่งยืน แถมมีโอกาสไปเร็วก่อนกำหนดด้วยครับ
อ. นิเวศน์ เองก็เคยบอกว่า หากสามารถลงทุนหุ้นได้ผลตอบแทนทบต้นทุกปี ปีละ 10% กว่าๆ ได้ในระยะยาวก็ถือว่าเก่งมากๆ แล้วครับ เพราะขนาดปรมาจารย์การลงทุนในหุ้นอย่างบัฟเฟ็ตต์ ในระยะยาวยังทำได้เฉลี่ย 20% กว่าๆ หรือผู้จัดการกองทุนที่เป็น VI ชั้นนำในต่างประเทศหลายคนก็ทำได้เฉลี่ยไม่ถึง 20% ครับ แต่แค่ผลตอบแทน 10% กว่าๆ นี้ ในระยะยาวสามารถทำให้เรามีอิสรภาพทางการเงิน หรือมีโอกาสร่ำรวยได้ในที่สุด โดยไม่ต้องเสี่ยงที่จะล้มหายไปก่อนจะถึงเวลานั้นครับ
The Stock Investment With The Happiness & The Effectiveness
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 50
ผมอ่านแล้วรู้สึกยอมรับว่าคุณบรรยงมีความรู้กว้างมาก
แต่ผมไม่ค่อยแน่ใจว่ารู้ลึกแค่ไหน
ถ้าต้นทุนเงินกู้ถูกลง
แต่ธนาคารในประเทศทั้งหมดเป็นของต่างชาติ
ไม่มีธนาคารไทยสู้ได้เลย
แล้วมันดีกับประเทศไทยในระยะยาวจริงหรือ
เศรษฐีไทยถือครองที่ดินจํานวนมาก
ควรอนุญาตให้ต่างชาติซื้อที่ดินไทยได้
ถ้าที่ดินผืนงามที่สุดครึ่งประเทศเป็นของต่างชาติ
แล้วมันดีกับประเทศไทยจริงหรือ
เปิดเสรีให้ต่างชาติมาลงทุน
ในขณะที่ธุรกิจไทยยังไม่แข็งแรง
แล้วธุรกิจยักษ์ใหญ่ในประเทศเป็นของต่างชาติหมด
ไม่มีธุรกิจยักษ์ใหญ่ของคนไทยสู้ได้เลย
แล้วมันดีกับประเทศไทยจริงหรือ
คนเข้าตลาดหุ้นวันแรก
มีใครไม่ใช่คนธรรมดา
แล้วคนไม่ธรรมดาคนไหนที่ไม่ได้เริ่มจากคนธรรมดาบ้าง
จะไปห้านเขาได้หรือ
แล้วไม่สงสัยบ้างหรือว่า
แทบทุกประเทศในโลกรายย่อยแพ้สถาบันหมด
จนตลาดหุ้นโลกแทบไม่มีรายย่อยเลย
แต่ทําไมรายย่อยไทยไม่แพ้สถาบัน
ยังยืนหยัดอยู่ได้จนทุกวันนี้
10ปีก่อนพอร์ทวีไอทั้งหมดไม่น่าถึง1หมื่นล้าน
ทุกวันนี้ผมว่าน่าจะหลายหมื่นอาจถึงแสนล้าน
อีก20ปีผมก็ว่ารายย่อยไทยก็ไม่แพ้สถาบันอยู่ดี
แต่ผมไม่ค่อยแน่ใจว่ารู้ลึกแค่ไหน
ถ้าต้นทุนเงินกู้ถูกลง
แต่ธนาคารในประเทศทั้งหมดเป็นของต่างชาติ
ไม่มีธนาคารไทยสู้ได้เลย
แล้วมันดีกับประเทศไทยในระยะยาวจริงหรือ
เศรษฐีไทยถือครองที่ดินจํานวนมาก
ควรอนุญาตให้ต่างชาติซื้อที่ดินไทยได้
ถ้าที่ดินผืนงามที่สุดครึ่งประเทศเป็นของต่างชาติ
แล้วมันดีกับประเทศไทยจริงหรือ
เปิดเสรีให้ต่างชาติมาลงทุน
ในขณะที่ธุรกิจไทยยังไม่แข็งแรง
แล้วธุรกิจยักษ์ใหญ่ในประเทศเป็นของต่างชาติหมด
ไม่มีธุรกิจยักษ์ใหญ่ของคนไทยสู้ได้เลย
แล้วมันดีกับประเทศไทยจริงหรือ
คนเข้าตลาดหุ้นวันแรก
มีใครไม่ใช่คนธรรมดา
แล้วคนไม่ธรรมดาคนไหนที่ไม่ได้เริ่มจากคนธรรมดาบ้าง
จะไปห้านเขาได้หรือ
แล้วไม่สงสัยบ้างหรือว่า
แทบทุกประเทศในโลกรายย่อยแพ้สถาบันหมด
จนตลาดหุ้นโลกแทบไม่มีรายย่อยเลย
แต่ทําไมรายย่อยไทยไม่แพ้สถาบัน
ยังยืนหยัดอยู่ได้จนทุกวันนี้
10ปีก่อนพอร์ทวีไอทั้งหมดไม่น่าถึง1หมื่นล้าน
ทุกวันนี้ผมว่าน่าจะหลายหมื่นอาจถึงแสนล้าน
อีก20ปีผมก็ว่ารายย่อยไทยก็ไม่แพ้สถาบันอยู่ดี
-
- Verified User
- โพสต์: 71
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 51
ปล. เห็นด้วยกับประโยคนี้ครับ ...
"ผมอยากฝากว่า คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ โดยเฉพาะหุ้นที่หวือหวา หุ้นที่ซื้อตามๆ เขา"
ชาวหุ้นทั้งหลายควรจะหันมาใช้ประโยค ...
"คนธรรมดาให้ลงทุนหุ้นที่ดี ราคาเหมาะสม ถือครองไว้ให้นานเพียงพอ" แทน ก็จะทำผลงานได้ดีไม่แพ้ หรือดีกว่ากองทุนเสียอีกครับ ...
"ผมอยากฝากว่า คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ โดยเฉพาะหุ้นที่หวือหวา หุ้นที่ซื้อตามๆ เขา"
ชาวหุ้นทั้งหลายควรจะหันมาใช้ประโยค ...
"คนธรรมดาให้ลงทุนหุ้นที่ดี ราคาเหมาะสม ถือครองไว้ให้นานเพียงพอ" แทน ก็จะทำผลงานได้ดีไม่แพ้ หรือดีกว่ากองทุนเสียอีกครับ ...
The Stock Investment With The Happiness & The Effectiveness
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 52
ผมเข้ามาอ่านบทความนี้โดยที่ไม่รู้เลยว่าเป็นของพี่เตา จากที่ผมรู้จักคนๆนี้เป็นการส่วนตัว ผมอยากอธิบายความคิดของเขาที่ผมรู้ ที่ผมเห็นผ่านการพูดคุยโดยตรงให้พี่ๆฟังเหลือเกิน เฮ้อออออ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
-
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 53
ถ้าไม่รบกวนเกินไป อยากให้ลองแชร์ผ่านข้อความในนี้ดูครับchowbe76 เขียน:ผมเข้ามาอ่านบทความนี้โดยที่ไม่รู้เลยว่าเป็นของพี่เตา จากที่ผมรู้จักคนๆนี้เป็นการส่วนตัว ผมอยากอธิบายความคิดของเขาที่ผมรู้ ที่ผมเห็นผ่านการพูดคุยโดยตรงให้พี่ๆฟังเหลือเกิน เฮ้อออออ
จากประสบการณ์ของผม ถ้าความคิดคือ 100 การจะถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือออกมาได้ครบ 100 เป็นเรื่องยากและที่สำคัญ ง่ายต่อการตีความไปในทิศทางต่างๆ
อย่างไรก็ตาม กระทู้นี้เป็นกระทู้หนึ่งที่มีคุณภาพในเชิงของการตีความและมุมมองครับ ได้ประโยชน์มากจริงๆ
-----------------------
มีหลายสิ่งที่เรารู้ว่าเรารู้
มีหลายสิ่งที่เรารู้ว่าเราไม่รู้
และก็มีหลายสิ่งที่เราไม่รู้ว่าเราไม่รู้
สุดท้าย หลายสิ่งที่เรารู้ว่าเรารู้ เราอาจจะไม่รู้ก็ได้
มีหลายสิ่งที่เรารู้ว่าเรารู้
มีหลายสิ่งที่เรารู้ว่าเราไม่รู้
และก็มีหลายสิ่งที่เราไม่รู้ว่าเราไม่รู้
สุดท้าย หลายสิ่งที่เรารู้ว่าเรารู้ เราอาจจะไม่รู้ก็ได้
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 54
ถ้าจะบอกว่านักลงทุนแนว VI ในเวบนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ( ถึงแม้ผมจะคิดว่า ในบทความไม่คิดเช่นนั้นก็ตาม) หน้าที่ของสมาคมฯและเวบไซด์แห่งนี้ก็คือการแปลง "คนธรรมดา" ให้เป็น "คนไม่ธรรมดา"
สังคมแห่งนี้ เวบไซด์แห่งนี้ ในช่วง 10 ปีก่อนที่เริ่มก่อตั้ง ก็มีสมาชิกเพียงน้อยนิด นักลงทุนแนวเน้นคุณค่าก็มีเพียงหยิบมือเดียว แต่ปัจจุบันนี้ หลักการลงทุนเน้นคุณค่าได้ถูกเผยแพร่ออกในวงกว้างและเป็นที่ยอมรับอย่างมาก (จนใครๆก็มักจะอ้างตัวว่าเป็น VI)
สังคมแห่งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นคนมีน้ำใจ ลองคิดดูว่า ถ้าใครมีสูตรสร้างความร่ำรวยได้ จะยอมเผยแพร่สูตรนั้นให้คนอื่นรู้เพื่อมาแย่งความร่ำรวยไหม
ถ้าเราได้รับประโยชน์ ได้รับความรู้ จากสมาคม จาก THAIVI อย่าลืมแบ่งปันต่อให้ผู้อื่นด้วยนะครับ
สังคมแห่งนี้ เวบไซด์แห่งนี้ ในช่วง 10 ปีก่อนที่เริ่มก่อตั้ง ก็มีสมาชิกเพียงน้อยนิด นักลงทุนแนวเน้นคุณค่าก็มีเพียงหยิบมือเดียว แต่ปัจจุบันนี้ หลักการลงทุนเน้นคุณค่าได้ถูกเผยแพร่ออกในวงกว้างและเป็นที่ยอมรับอย่างมาก (จนใครๆก็มักจะอ้างตัวว่าเป็น VI)
สังคมแห่งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นคนมีน้ำใจ ลองคิดดูว่า ถ้าใครมีสูตรสร้างความร่ำรวยได้ จะยอมเผยแพร่สูตรนั้นให้คนอื่นรู้เพื่อมาแย่งความร่ำรวยไหม
ถ้าเราได้รับประโยชน์ ได้รับความรู้ จากสมาคม จาก THAIVI อย่าลืมแบ่งปันต่อให้ผู้อื่นด้วยนะครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1217
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 55
เห็นด้วยกับพี่ฉัตรชัยครับ ผมพยายามจะทำอยู่ครับ ผมเป็นคนเก็บตัวไม่ค่อยรู้จักใคร แต่ผมนับถือการลงทุนของพี่นะครับ เพราะพี่สามารถอดทนต่อสิ่งรอบข้างได้ดีมากๆครับ เพราะสามารถถือและไม่โลภได้ ทั้งที่มีโอกาสมากมายที่จะทำผลตอบแทนให้โดดเด่น แต่กลับนิ่งเฉยต่อสิ่งยั่วเย้ารอบข้างได้ เก่งมากๆเลยครับ สำหรับความมั่นคงในจิตใจ นับถือมากๆครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 56
ผมว่าผลตอบแทนที่ผมได้รับจนถึงปัจจุบันนี้ ได้มากเกินความคาดหวัง และเกินความสามารถที่ผมมีซะอีกลูกหิน เขียน:เห็นด้วยกับพี่ฉัตรชัยครับ ผมพยายามจะทำอยู่ครับ ผมเป็นคนเก็บตัวไม่ค่อยรู้จักใคร แต่ผมนับถือการลงทุนของพี่นะครับ เพราะพี่สามารถอดทนต่อสิ่งรอบข้างได้ดีมากๆครับ เพราะสามารถถือและไม่โลภได้ ทั้งที่มีโอกาสมากมายที่จะทำผลตอบแทนให้โดดเด่น แต่กลับนิ่งเฉยต่อสิ่งยั่วเย้ารอบข้างได้ เก่งมากๆเลยครับ สำหรับความมั่นคงในจิตใจ นับถือมากๆครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
- Luty97
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1552
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 58
ผมโหวตอีกหนึ่งเสียงว่า คนที่ลงทุนแนว vi คงใช้คำว่า "คนธรรมดา" ไม่ได้หรอกครับ
ผมว่าคุณบรรยงก็มีมุมมองที่น่าสนใจมากนะครับ แม้ว่ามันน่าจะไม่ถูกต้องในบางส่วน แต่รวมๆผมว่าได้ไอเดียดีครับ
ผมว่าคุณบรรยงก็มีมุมมองที่น่าสนใจมากนะครับ แม้ว่ามันน่าจะไม่ถูกต้องในบางส่วน แต่รวมๆผมว่าได้ไอเดียดีครับ
หลักของความสมดุล
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 59
พี่เตาเป็น "นักเศรษฐศาสตร์" ที่เก่งมากครับ
แต่ไม่ได้เป็น "นักลงทุน"
ดังนั้นตัวพี่เตาเองจะไม่เชื่อว่ารายย่อยสมารถทำกำไรได้ ตามหลัก Economy of scales
รายย่อยควรเร่งหาเงินด้วยความสามารถที่ตัวเองถนัดและให้ผู้มีอาชีพในด้านนี้ทำงานให้แทน ตราบใดที่ผลตอบแทนหลังหักค่าคอมฯแล้วยังมีมากกว่ารายย่อยทำได้
นี่คือแนวคิดของ "นักเศรษฐศาสตร์"ครับ
แต่ไม่ได้เป็น "นักลงทุน"
ดังนั้นตัวพี่เตาเองจะไม่เชื่อว่ารายย่อยสมารถทำกำไรได้ ตามหลัก Economy of scales
รายย่อยควรเร่งหาเงินด้วยความสามารถที่ตัวเองถนัดและให้ผู้มีอาชีพในด้านนี้ทำงานให้แทน ตราบใดที่ผลตอบแทนหลังหักค่าคอมฯแล้วยังมีมากกว่ารายย่อยทำได้
นี่คือแนวคิดของ "นักเศรษฐศาสตร์"ครับ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: "...คนธรรมดาให้เลิกเล่นหุ้นเถอะ..."
โพสต์ที่ 60
เอ่อ ทุกท่านครับ
ผมเห็นว่าบทความนี้น่าสนใจดี เลยนำมาให้ขบคิดกันเท่านั้น
แต่อย่าพาดพึงถึง ผู้เขียน ว่าเค้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะครับ
มันไม่ยุติธรรม ที่ไปวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเค้าไม่สามารถชี้แจงอะไรได้
ผมขอจบกระทู้นี้ไว้แต่เพียงเท่านี้นะครับ
ผมเห็นว่าบทความนี้น่าสนใจดี เลยนำมาให้ขบคิดกันเท่านั้น
แต่อย่าพาดพึงถึง ผู้เขียน ว่าเค้าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะครับ
มันไม่ยุติธรรม ที่ไปวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเค้าไม่สามารถชี้แจงอะไรได้
ผมขอจบกระทู้นี้ไว้แต่เพียงเท่านี้นะครับ