Moneytalk@SET14Sep14เจาะหุ้นใหม่&ตรวจสุขภาพการเงิน

[i-salmon]

Moneytalk@SET14Sep14

ช่วงที่ 0 กล่าวเปิดการสัมมนาตัวแทนจากตลาดหลักทรัพย์
คุณปวีณา
• SET เติบโต 20 กว่าเปอร์เซ็นต์จากต้นปี บ.จดทะเบียนยังมีกำไรเติบโตได้
• มี บ.จดทะเบียนเข้าใหม่ใน set 10 บริษัท, mai 10 บริษัท, reit 1 กอง
• ใน pipe line ยังจะมีออกมาอีกประมาณ 10 กว่าหลักทรัพย์
• ฝาก investor ว่า การลงทุนความเสี่ยง คอยติดตามข้อมูลจากบริษัทและตลท.

ช่วงที่ 1 หัวข้อ “เจาะลึกหุ้นเข้าใหม่”
1. คุณณัฏฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายชีวพลังงานและผลิตภัณฑ์
บมจ. เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น (KTIS)
2. คุณธิดา แก้วบุตตา
กรรมการ บมจ. ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (SAWAD)
3. คุณเกียรติกุล มนต์เสรีนุสรณ์
กรรมการผู้จัดการ บมจ. สุธากัญจน์ จำกัด (SUTHA)
4. คุณประเสริฐ ตรีวีรานุวัฒน์
กรรมการผู้จัดการ บมจ. ทาคูนิ กรุ๊ป (TAKUNI)
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ นพ.ศุภศักดิ์ หล่อธนวนิช ดำเนินรายการ

ธุรกิจที่บริษัทดำเนินการ
SAWAD
• บริษัทให้สินเชื่อโดยมีหลักประกัน เช่น รถยนต์มือสอง บ้าน ที่ดิน คอนโด ,มีให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล
• มีจำนวนสาขา 822 สาขา กระจายตามจังหวัดและอำเภอ ทั้งภาคใต้ ตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางตอนบน ถ้าในกรุงเทพจะเป็นรอบนอกเมือง
• มีพอร์ตลูกนี้อยู่ที่ 6.5 พันล้านบาท
• พอร์ตหลักคือสินเชื่อที่มีรถยนต์เป็นหลักประกัน มักจะเป็นรถกระบะ เอาทะเบียนรถมาไว้กับเรา มูลค่าเฉลี่ยต่อ ticket 1-2 แสนบาท มูลค่าหลักประกันให้ 30-70% ของราคาตลาด
• คิดอัตราดอกเบี้ยตามกฏหมายกำหนด 15% (effective rate ไม่เกิน 15%)
• บริษัทให้บริการแบบเพื่อนยืมเงินเพื่อน, ญาติยืมเงินญาติ
• การเจรจาจ่ายหนี้กับลูกค้าเรายืดหยุ่นได้ เรามองว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
• เปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด เราสู้ต้นทุนของบริษัทที่เป็นบริษัทลูกธนาคารไม่ได้ แต่เรามีความเร็ว ความสะดวก การบริการเข้าไปทดแทน ส่วนที่เป็นสินเชื่อนอกระบบ เราจะมีดอกเบี้ยเราจะถูกกว่า ค่าธรรมเนียมจะถูกกว่า ลูกค้าจะมั่นใจว่าบริษัทเราทำงานเป็นระบบ ปลอดภัย อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ในตลาด
• ตลาดของเราต่างกับอิออน เพราะเราเป็นสินเชื่อมีหลักประกัน ถ้าเทียบ market share ในกลุ่มนี้ เราน่าจะเป็นอันดับ 2 หรือ 3 โดยบริษัทที่เป็นอันดับ 1 เป็นบ.ที่แม่เป็นธนาคาร
• ธุรกิจเรามีกระจายหลายภูมิภาค และเป็นลูกค้ารายย่อย ทำให้กระจายความเสี่ยงได้ดี
• มี NPL 4% แต่ของเราจะต่างกับธนาคารลูกค้าเราที่มีปัญหาก็มีการคุยกันให้ชำระไม่เต็มงวดได้ แต่ตามหลักบัญชีถ้าเกิน 4 เดือน เราก็ต้องลงบันทึกเป็น NPL อยู่ดีแม้ว่าลูกค้าก็จะยังทยอยจ่ายหนี้อยู่
• สินเชื่อที่หลักประกัน มีความเสี่ยงต่ำกว่า ผลตอบแทนจะต่ำกว่าแบบที่ไม่มีหลักประกัน สิ่งที่เป็นหลักประกันได้ คือ ทรัพย์สินที่มีทะเบียน

KTIS
• ประกอบธุรกิจ โรงน้ำตาล หีบอ้อย ผลพลอยได้ก็นำไปต่อยอด
o สินค้าเช่น น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลบริสุทธิ์ น้ำตาลทรายธรรมดา น้ำตาลทรายดิบ
o สิ่งหนึ่ง ที่เราให้ความสำคัญคือผลพลอยได้ ชานอ้อย โมลาส สตรีม จัดเป็นอีกสายธุรกิจด้านชีวพลังงาน
• ส่วนแบ่งรายได้
o น้ำตาล 76-77%
o สายชีวพลังงาน ปี 57 23-24% (เพิ่มขึ้นจากปี 56 ที่มีสัดส่วน 16-17%)
• อ้อยในไทยฤดูเก็บเกี่ยวปลายธ.ค.-เม.ย. เป็นช่วงสกัดน้ำอ้อยทำน้ำตาล โดยในช่วงแรกจะทำน้ำตาลมูลค่าต่ำหน่อย เช่น น้ำตาลทรายดิบ ในช่วงถัดมาจึงทำตัวที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่นน้ำตาลทรายบริสุทธิ์ และพวกผลพลอยได้จะเก็บใช้งานต่อได้ทั้งปี
•ประเทศไทย มีกฏหมาย พรบ.อ้อย น้ำตาลทราย 2527 มีทั้งจุดเด่นจุดด้อย
o จุดเด่น ทำให้เกิดความมั่นคงของราคาอ้อย รายได้ที่เกิดจากการขายทั้งประเทศแบ่งกัน 70:30 -> รายได้ทั้งหมดมาแบ่งกัน 70% ชาวไร่ได้ 30% โรงงานได้ ดังนั้นราคาตลาดโลกสูงขึ้นเราก็ได้กำไรเยอะขึ้น ถ้าราคาตลาดโลกลด แม้รายได้จะลด แต่เราก็ได้ต้นทุนลดลงด้วย
o มี paper บอกว่าอุตสาหกรรมน้ำตาลประเทศไทยมีศักยภาพสูงระดับโลก สูงกว่าบราซิล
o ประเทศไทยมี ปริมาณส่งออกเป็นเบอร์ 2 ของโลก (7-8 ล้านตัน) เบอร์ 1 บราซิล20 ล้านตัน แต่ในแง่ต้นทุนการผลิตของไทยต่ำกว่า
•บ.มี สัดส่วนส่งออก 10%
• การลงทุนโรงงานน้ำตาลใช้เงินทุนสูง หีบอ้อย 1 ตันลงทุน 3-4 แสนบาท อย่าโรงงานงเกษตรไทยฯขนาด 5.5 หมื่นตัน คิดเป็นมูลค่าราว 1.6 หมื่นล้านบาท

SUTHA
• ทำธุรกิจปูนขาว เป็นบริษัทกลุ่มเคมีภัณฑ์ ไม่ใช่วัสดุก่อสร้าง
• ปูนขาว คือ แคลเซียมออกไซด์ ทำปฏิกิริยากับน้ำ ได้เป็นแคลเซียมไฮดรอกไซด์
•ปูนขาวใช้ เป็นสารเคมีเริ่มต้นต่างๆในโลก โลกเราจะมีส่วนประกอบหลัก 2 อย่าง กรด กับ ด่าง
• กระบวนการใดที่มีกรด ต้องมีด่าง ปูนขาวคือ basic chemical ที่เป็นด่าง ในโลก move ไปทางกรดมากขึ้น จึงต้องหาด่างมาแก้
•ด่างที่เราขายราคาถูก แคลเซียมออกไซด์ ราคาหน้าโรงงาน kg ละ 3 บาท แต่ถ้าเป็น โซเดียมไฮดรอกไซด์ kg ละ 30-40 บาท
• บริษัทพัฒนาเผาด้วยความร้อน ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงทุกเตาจึงมีต้นทุนที่ต่ำ
• โรงงานอยู่สระบุรีและลพบุรี เราไม่ทำเหมืองหินปูนเอง เนื่องจากขั้นตอนจะยุ่งยากมากทางราชการ ตั้งผ่าน 5 กระทรวง แต่ให้การ สนับสนุนเหมืองหินปูน ทำสัญญาระยะยาว 4-5 ราย และส่งนักธรณีวิทยาของเราไปเหมืองคอยชี้แนว ในการแยกหินปูนที่เหมาะสม
• ลูกค้าของบริษัท ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น หล็ก อุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมน้ำตาล อุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ เป็นต้น หรือ อะไรที่ต้องการออกซิเจนเพิ่มอีกหนึ่งตัว เช่น เอาแร่เหล็กที่มีสนิมมาหลอมใหม่ เอาออกไซด์ออกให้เหลือ fe อย่างเดียว เป็นต้น
• เนื่องจากเป็นสารตั้งต้นที่มี Ca เป็นหลัก บ.จึงสามารถต่อยอดเป็นสินค้าอื่นได้ เช่น แคลเซียมซิเตรท แคลเซียม โปรปิโอเนตทำเป็นสารกันเชื้อยา รูปผงหรือน้ำก็ได้ ขายโรงงานอาหารสัตว์ ตอนนี้เมืองไทยยัง import 100%

TAKUNI
• ชื่อบริษัทภรรยาเป็นคนตั้ง คือ ลูกชายชื่อฐากูล ลูกสาวชื่อนิตา
• กลุ่มบริษัท มี 4 บริษัท
1) takuni group ขาย LPG เหมือน SGP
o ซื้อ gas มาขายให้ปั๊มแก๊ส โรงบรรจุ อุตสาหกรรม ในประเทศ(ไม่มีต่างประเทศ)
o รับ gas มาจาก ปตท., esso, siam gas
o บริษัทมีถังเก็บ gas และรถขนส่ง gas แต่ไม่มีสถานีบริการ เป็นคนค้าส่งให้อย่างเดียว
2) G Gas logistic รถบรรทุกแก๊ส lpg 90% ขนส่งให้กับ TAKUNI 10% ที่เหลือขนให้มาตรา 7 รายอื่น (มาตรา 7 กฏหมายประกอบธุรกิจคู่ค้าก๊าซ ปตท. รายย่อย ปั๊มแก๊ส โรงบรรจุแก๊ส ) ธุรกิจคล้ายๆ KIAT
3) Takuni ประเทศไทย ปัจจุบันทำงานเกี่ยวกับติดตั้ง gas ในรถยนต์ ติดตั้งระบบท่อแก๊สในโรงงานอุตสาหกรรม ร้านอาหาร shop ต่างๆ รับเหมาก่อสร้างแก๊ส สร้างงานคลังแก๊ส มีอีกอาชีพคือให้เช่าตึก พื้นที่ 10,000 กว่าตรม.
4) ราชพฤกษ์วิศวกรรม ทำงานทดสอบโดยไม่ทำลาย ทดสอบถังแรงดัน ต่างๆ boiler คล้าย qlt, tndt
• คลังที่เปิดแล้ว พิจิตร คลังยังไม่เปิดปทุมธานี ไปเช่าคลัง sc group ที่บางประกง และคลังปตท.ที่ลาดหลุมโป๊ะ
• ยอดรวมขายแก๊ส 5-6 หมื่นตันต่อปี คิดเป็นสัดส่วนตลาด 1%
• คู่แข่งใหม่สามารถเข้ามาได้อยู่ที่ว่าเก่งแค่ไหน มีจุดแข็งอะไร
• การเติบโตของบริษัทคงไม่ใช่แค่ขาย gas มี 3 ตัวต้องโตไปด้วย
• ปัญหาการขาย gas คือตัดราคา แต่เรามีความพร้อมเรื่องรถกับคลัง ยังมีตัวไปสร้าง ไปซ่อม ไปทดสอบได้ ไม่เอาราคาไปสู้จนเสียเปรียบ
• กำลังเฝ้าดูคัดเลือกปั๊มอยู่ ค่าการตลาดของปั๊ม lpg มากกว่าน้ำมัน เพราะซื้อเป็น kg แล้วไปขายเป็นลิตร

การเข้าตลาดหลักทรัพย์และราคาปัจจุบัน
SAWAD
• เข้าตลาด 8 พ.ค. ออกหุ้น 250 ล้านหุ้น ขาย 6.9 บาท ตอนนี้ราคา 21 บาท
KTIS
• เข้าตลาด 28 เม.ย. ขายหุ้นไป 24% ราคา 10 บาท ตอนนี้ราคา 11.6 บาท
SUTHA
• เข้าตลาด 3 เม.ย. 75 ล้านหุ้น ขาย 3.7 ตอนนี้ 9.15 บาท
TAKUNI
• เข้าตลาด 19 ส.ค. 100 ล้านหุ้น ขาย 1.6 บาท ตอนนี้ 3 บาท

ผลประกอบการครึ่งปี57 และแนวโน้ม
SAWAD
• ครึ่งปี 57 รายได้ 363 ล้านบาท
• คาดปีนี้โต 25-30% ครึ่งปีหลังน่าจะเป็นไปตามคาด
• แนวโน้มปี 58 ตลาดรถมือสอง อาจมีฐานลูกค้ากว้างขึ้น เพราะ 2 ปีก่อนมีรถคันแรก ปกติคันหนึ่งจะผ่อนรถหมด 3-5 ปี ดังนั้น target customer ก็จะรวมรถคันแรกด้วย และขยายสาขามากขึ้น
• สิ้นปี 57 คาดมี 1,000 สาขา ปี 58 1,200 สาขา
• พอร์ตตอนนี้ 6.5 พันล้านบาท สิ้นปี58 โตอีก 25-28%
• การเติบโต focus ในธุรกิจหลัก จะใช้ประโยชน์จากสาขา network มีบริษัทรับจ้างติดตามหนี้ เป็น one stop service ติดตาม สืบทรัพย์ รับชำระ เรามีสาขาเจ้าหน้าที่ตามที่ต่างๆ ค่าใช้จ่ายจะไม่สูง สินค้าที่ดูว่าจะขายได้ เช่น ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันภัย
• เมื่อยึดรถไปแล้วจะขายต่อให้รายย่อย มีเต้นท์รถตามภูมิภาค เป็นแผนกหนึ่งในบริษัท
• แผนเกี่ยวกับต่างประเทศก็ศึกษาอยู่
• แผนระดมทุนออกหุ้นกู้ก็อยู่ใน pipeline
• เรื่องการควบรวมกิจการก็เป็นแนวทางที่เป็นไปได้ แต่จะเติบโตไปในแนวทางที่เกี่ยวข้องกับเรา จัดเก็บหนี้ outsource บริหารหนี้สินจากสถาบันการเงิน

KTIS
• กำไรครึ่งปี 1165 ล้าน เพิ่ม 28% จากปีก่อน ปีนี้มีการเติบโตดีกว่าปีที่แล้วแน่นอน
• ปี 58 มีโครงการที่จะขยาย 3 โครงการ โรงไฟฟ้า 50 MW 2 โรง มูลค่าน้ำตาล super refine(ใช้กับพวกเคมีภัณฑ์ ยา เนสเล่ โคคาโคล่า ขนาดเกล็ด ความขาว สะอาด) กับ liquid sucrose ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม
• ผลประกอบการบริษัทขึ้นกับราคาน้ำตาลระดับหนึ่ง มองว่า แนวโน้มราคาน้ำตาล อยู่ในขาขึ้น ระยะสั้นเป็นขาลง เป็นการเปลี่ยนผ่านที่ผลผลิตทั่วโลก เปลี่ยนจาก surplus เป็น deposit ซึ่ง quarter นี้ก็น่าจะกำลังดีขึ้น ราคาเดือน 10 กับ เดือน 3 ปีหน้า ต่างกันเกือบ 60 กว่าเหรียญแล้ว คนเริ่มคาดว่าต้นปีหน้าสภาพ deposit จะเกิด ต่างกัน 88 เหรียญต่อตัน
•โรงงานน้ำตาล ตอนนี้มีแล้ว 1 โรงงาน 60 W โรงไฟฟ้า 2 โรง 50 MW Q1 58 กับ Q258 จะเริ่มมีรายได้ มี adder 30 สตางค์
• โรงไฟฟ้าของโรงน้ำตาลไม่ต้องการ adder มากอยู่แล้ว มีชานอ้อนที่ใช้อยู่แล้ว ด้วยระดับราคาที่การไฟฟ้ารับซื้อ 2 โรงนี้ก็ 200 กว่าล้านต่อปี
• โรงงาน 60 MW เพิ่มเริ่มผลิต พ.ย. 56 ตัวเลขครึ่งปี รายได้ 553 ล้านบาท ไฟฟ้าขายตลอดตัวเลขค่อนข้างนิ่ง ตัวเลขก็เซ็นสัญญาอยู่แล้ว
• ปกติจะหยุดเครื่อง หลังจากเดิน 7-8 เดือน ช่วงนอกเหนือจากหีบอ้อยก็มีเก็บชานอ้อนไว้ใช้เป็นวัตถุดิบได้
• ถ้าลดระยะเวลาหยุด 4 เดือน operate 8 เดือน แล้ว operate 10 เดือนก็จะได้ผลประกอบการดีขึ้น พวกใบอ้อย ต้นอ้อย จะได้รายได้เพิ่มขึ้นทั้งโรงงานและชาวไร่

SUTHA
• 6 เดือนแรก เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ สูงกว่าปีก่อน 23% คาดว่า 6 เดือนหลังก็น่าจะได้ตามเป้า น่าจะสูงกว่าปีก่อน 20-25%
•เติบโตไม่หวือหวา โตไปตามตัวเลขที่ควรเป็น 15-18% npm 15-20%
• โดยเฉพาะธุรกิจเคมี ควรโตต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆ เพราะความต้องการเพิ่มไปตามสัดส่วนประชากร และการเติบโตอุตสาหกรรมภายในและภายนอก
• เป็นธุรกิจที่ predictable จะได้ผลตอบแทนเท่าไร ปันผลเท่าไร
• เราวางแผนไม่หวือหวาจะโต 15% ต่อเนื่อง
• มีแผนเติบโต แต่ยังไม่ถึงเวลาประกาศ
• ธุรกิจเคมี อยู่บนพื้นฐาน knowledge base ต้องมี technical มีเงินไม่ได้หมายความว่าจะทำได้ ความรู้ในการเผาปูนขาวเป็นศิลปะ รวมดินน้ำลมไฟ ให้เป็นหนึ่งเดียว ที่ทำงานสมดุล ณ จุดอุณหภูมิเดียว
• การทำปูนขาวเหมือนหุงข้าว เตาเผาเหมือนหม้อหุงข้าว จะหุงข้าวให้อร่อยให้ดี ต้องคิดว่าจะทำอย่างไร จากที่อยู่กับมันมานาน ก็คิดว่าเราน่าจะขาย technology ขาย knowledge ได้ ขาย software ซึ่งมีเซ็นสัญญากับบ.ในอินโด technology ของเราเรียกว่า eod
• ส่วนแบ่งการตลาด ถ้าแบ่งตามกำลังการผลิตเบอร์ 2 แต่เราเป็นคนเก่าแก่ที่สุด อยู่กับ ผมอยู่กับธุรกิจนี้ตั้งแต่ 8 ขวบ ตอนนี้ 61 ปี ได้มีประสบการณ์ ได้เห็นเตาเยอะมากในโลกนี้
• ของยุโรปที่ขายเตาแบบไม่เคยพัฒนา อุณหภูมิที่ยุโรปกับอินโดนีเซีย ต่างกัน อุณหภูมิที่ดูดเข้าไป ความดันแต่ละที่ไม่เหมือนกัน เป็น positive pressure คนเอเชียกับคนยุโรปมีการทำงานต่างกัน คนเอเชีย ใช้สมองไม่ถึง 10% ใช้ที่เหลือกับสัญชาตญาณ ความเคยชิน แต่ eod จะใช้ software เป็นตัวกำหนด ตัดสินใจ
• ราคาปูนขาวไม่ได้ขึ้นกับราคาตลาดโลก ขึ้นกับ demand supply ในประเทศ
• มีส่งออกไปประเทศพื้นบ้านที่ถลุง metal ต่างๆ ต้องใช้กรด เมื่อมีกรดต้องมีด่าง

TAKUNI
• ครึ่งปีรายได้ 577 ล้านบาท กำไร 14.6 ล้าน
• แนวโน้มขาย gas น่าจะโตไปตามปกติ
• ขึ้นราคา lpg น่าจะไม่ดีกับบริษัท 330 $ ต่อตัน ถ้าขึ้นเป็น 600 $ สมมติเคยขาย 20 บาท แต่ได้ขาย 21 บาท 1 บาทที่ขึ้นมาก็ต้องคืนรัฐ บ.ไม่ได้อะไร ถ้า lpg ราคาลดลงก็ส่งเงินกองทุนลดลง
• ยังไงราคา lpg ngv diesel ต้องขึ้น ถ้าขึ้นไป 600-700 $ ราคาอยู่ 30 กว่าบาท / kg หารเป็นลิตรไม่น่าเกิน 18-22 บาทต่อลิตร เพราะ เบนซินกับดีเซล น่าจะยังแพงกว่า จึงน่าจะยังอยู่ในความนิยม
• กำไรสุทธิ ของ takuni 1.4% g gas 12.4% takuni thai 0.7%(ไม่มีงานก่อสร้าง แต่ปีนี้น่าจะมี) ราชพฤกษ์ 17.2%
• ปีหน้า takuni thai น่าจะมีรายได้เพิ่ม 300-400% ราชพฤกษ์ น่าจะเพิ่ม 50% ปีหน้าจะเป็นพระเอก
• ราชพฤกษ์ น่าจะได้งาน sphere 2 งาน ทำทดสอบปั๊มน้ำมัน
• การปฏิรูปโครงสร้างพลังงาน ราคายังไงก็ต้องเป็นตามตลาดโลก รั้วบ้านที่ติดกั้นต้องราคาเท่ากัน พอเท่ากันเราก็มีโอกาสขายต่างแดนมากขึ้น

ทำไมหุ้นของบริษัทถึงจะน่าสนใจ
SAWAD
• Model บริษัทกระจายความเสี่ยงในด้าน ภูมิภาค และ ticket ต่อลูกค้า
• จะโตต่อไปแบบ conservative ดูหลักประกันให้พอเหมาะกับความเสี่ยง
• ใช้ประโยชน์จาก network เพิ่ม product เช่น ประกัน รับติดตามหนี้
• ตลาดที่บ.ทำอยู่กว้างมาก ขายเงิน เอาไปอยู่ในชุมชน ให้ซื้อง่ายขายคล่องเหมือน 7-11 เข้ามาแล้วเราจัดสรรให้ มี product ที่ดี การกระจายตัวที่ดี การแข่งขันในราคาน่าจะยังไม่เกิดขึ้นเร็วๆนี้

SUTHA
• ผมรู้จริงในสิ่งที่ผมทำ ถนัดจริง ผมอ่านคู่แข่งออกชัดเจนว่าใครทำอะไร จะทำได้แค่ไหน อยู่ได้แค่ไหน
• ธุรกิจนี้สร้างเตาขึ้นมาต้องอยู่ 10-30 ปีเป็นรุ่นต่อรุ่น เป็นเหตุให้เราทำ Engineering กำลังทำ knowhow call center ของเราเอง
• Mega project มีผลไหม? A. ถ้าใช้เหล็กเพิ่มก็ใช้ปูนขาวเพิ่ม

KTIS
• มีความมั่นคงและการเจริญเติบโต
• อุตสาหกรรมน้ำตาลไทย เด่น และเข้มแข็งระดับโลก
• นโยบาย โซนนิ่ง เปลี่ยนพื้นที่ปลูกพืชที่ไม่เหมาะสม เช่น ข้าว ไปปลูกอย่างอื่น ตัวที่รัฐให้ความสนใจคืออ้อย ตัวเลขปัจจุบันจาก 100 ล้านตัน จะเป็น 180-190 ล้านตัน จะทำให้อุตสาหกรรมน้ำตาลเป็น key ถัดไป
• จุดเด่นไทยคือแข่งกับระดับโลก แล้วต้นทุนต่ำกว่า
• สายชีวพลังงานน่าจะโตเร็วกว่า พวกพลังงาน, เอทานอล ก็จะเป็นตัวทำให้บริษัทก้าวกระโดดขึ้นมาได้
• พวก r/m biomass ที่เพิ่มขึ้น เราจะโตแบบ partnership ที่มี technology knowhow เข้ามา อย่าง sumitomo เข้ามาร่วมกับเรา มีทีม Nichin sugar เข้ามาร่วมทำ liquid sucrose ชานอ้อนถ้ามองต่อไปก็เป็นเคมิคอลก็ต่อยอดได้ Sumitomo มาซื้อหุ้นไปราคา 12 บาทกว่า

TAKUNI
• ไม่ได้มีแค่ขาย Gas ทุกอย่างใน 4 บริษัทเรา ทำกำไรได้จริง

ช่วงที่ 2 หัวข้อ “ตรวจสุขภาพการเงินการลงทุน”
1. คุณวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ
ผู้เชี่ยวชาญวางแผนการเงิน
2. คุณชาย มโนภาส
อุปนายก สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
3. ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
ผู้เชี่ยวชาญการลงทุน
ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ

การตรวจสุขภาพทางการเงิน
อ.เสน่ห์
o เหมือนกับตรวจสุขภาพทางร่างกาย ถ้าไม่ดูแลมีปัญหาที่อวัยวะต่างๆได้
o มูลเหตุที่ทำให้สุขภาพการเงินไม่ดี หนี้สิน หนี้ฉับพลัน เช่น หนี้พนัน บัตรเครดิต

วางแผนการเงินต้องตรวจเป็นระยะไหม?
คุณวิวรรณ
• ต้องตรวจเป็นระยะ การวางแผนเป็น snap shot ตรวจดูว่ายังเหมาะสมหรือยัง ถ้าไม่ก็จะได้ปรับให้เหมาะสม
• ต้องดูเป้าหมายของเราคืออะไร
เป้าหมายแรกคือหลุดพ้นความยากจน
เป้าหมายที่สร้างคือสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต
เป้าหมายที่สามสร้างความมั่งคั่งเพื่อส่งต่อให้กับทายาท
• วิธีการบรรลุเป้าหมาย รู้หา รู้เก็บ รู้ใช้ รู้ขยายดอกผล
o ทำมาหากิน หารายได้ ลงทุน
o เก็บเพื่อความมั่นคงในอนาคต เกษียณอายุ
o ใช้เงินให้เป็น จะได้มีเก็บ
o เอาเงินไปลงทุน คอยตรวจเชค
• ตรวจอย่างน้อยปีละครั้ง แต่ส่วนตัว 6 เดือนครั้ง สุขภาพการลงทุนตรวจบ่อยกว่านั้น เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์
• สัดส่วนประเภทลงทุนของคุณก้อย หุ้นไทย 30% หุ้นนอก 10% ตราสารหนี้ 20% ตลาดเงิน+เงินฝากมีสภาพคล่อง 20% อสังหาฯ+กองทุนอสังหา 15% อื่นๆ 5% ไม่มีทอง
• จากเดิมมีหุ้นสัดส่วน 30% พอขึ้นเยอะก็โตขึ้นเป็น 40% เราก็ต้องปรับลดสัดส่วนบ้าง เป็นการตรวจสุขภาพและปรับแก้
• อย่างตอนหุ้นตกสัดส่วน 30% เหลือ 20% ก็ต้องทำใจ จะปรับซื้อเพิ่มก็แล้วแต่สถานการณ์
• เงินแต่ละก้อนก็ต้องจัดสรรให้เหมาะตามวัตถุประสงค์ คนไทยส่วนใหญ๋จะรวมเงินก้อนเดียวแล้ว conservative ควรต้องแบ่งไม่ว่าจะมีเงินมากเงินน้อย เงินที่ต้องลงทุนเพื่อการเกษียณก็ต้องมีสัดส่วนหุ้นมากหน่อย 30%

ดร.นิเวศน์
• ส่วนตัวจัดการเงินไม่มีแยก อยู่ในพอร์ตเดียวกัน
• คุณก้อยเสริม ถ้ารับความเสี่ยงได้สูง มีเงินมากก็ไม่ต้องจัดสรรได้

คุณชาย
• การตรวจสุขภาพการเงินสำคัญ สิ่งที่ต้องดู คือ
- เรากู้เงินมาเยอะไหม อ่านข่าวเจอว่ามีการกู้เงินจากยุโรปปี 56 เทียบ 57 กลุ่มที่ลงทุนในต่างประเทศ ultra high network(รายใหญ่) ใช้หนี้สินเพิ่ม 1 เท่าจากปีก่อน ถ้ากู้เงินเป็นยูโร ดอกเบี้ย 1-2% เอง ปันผลบางที 3-4% ปัญหาคือเหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรี ถ้าดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นก็ต้องรีบเอาเงินไปคืน
- ตรวจสภาพคล่อง ซื้อหุ้นตัวเล็กมาก ขาย 2-3 วันไม่ไหมด ตลาดหุ้น NYSE เมื่อ 100 ปีที่แล้ว ปิดทำการ 4 เดือนจากสงครามโลก หรืออย่างช่วง 911 ตลาดหุ้นก็ปิด 4 วันทำการ ก็อยากให้เผื่อสภาพคล่องไว้บ้าง
- การจะกระจายไปต่างประเทศก็ขึ้นกับความรู้เป็นหลัก ว่าเรามีความเข้าใจ สิ่งที่ต้องเจอคือลูกค้าหรือประชากรในประเทศนั้นก็ไม่เหมือนบ้านเรา การแข่งขันแต่ละประเทศก็ไม่เหมือนกัน เช่น ธุรกิจค้าปลีกที่จีน รายใหญ่สุด market share 14% รายรองลงมาก็ 10% กว่า จึงต้องแข่งขันราคากันมาก หรือกฏหมายบางอย่างก็ไม่เหมือนกัน สิทธิ์การถือครองที่ดิน การถือครองหุ้นการแทรกแซงจากรัฐบาล แต่โอกาสจะเติบโตเป็น 10-20 เท่าก็ยังมีแม้จะเป็นตลาด US ที่มีมานานแล้ว

คุณก้อย
o เริ่มต้นลงทุนต่างประเทศผ่านก่อนรวมก่อน ดูประเทศนั้นดี sector ไหน เช่น ลง Nasdaq มองว่า technology ดี ต้องดูว่าภูมิภาคไหนจะให้ผลตอบแทนดี

ดร.นิเวศน์
o อยากพูดเรื่องตรวจชะตากรรม แต่ละคนมีดวงชะตาไม่เหมือนกัน คนบางคนเกิดมาก็ดวงสุกสว่าง คนเรามีแก้ว 3 ดวง ที่บอกอนาคตว่าจะสุขสว่างมืดมนรวยจน
- แก้ว ดวง 1 เม็ดเงินที่ไม่ได้จากการลงทุน พ่อแม่ให้มา มาจากมรดก ได้มากจากการทำงาน บางคนทำงานเก่ง มีเงินเหลือใช้เยอะ ใช้จ่ายน้อย-> ดูตัวเองก่อนว่ามีแบบบนี้ไหม และสามารถเพิ่มตรงนี้ด้วยทำงานเยอะๆ ใช้จ่ายน้อยๆ
- แก้วดวง 2 ความสามารถในการลงทุน ผลตอบแทนที่ทำได้ ลงทุนอะไรได้ผลตอบแทนสูง ต้องแสวงหา ถ้าคิดแต่ฝากเงิน แก้วดวงนี้เราทอดทิ้งมัน -> ต้องจัดเงินไปในที่ผลตอบแทนสูง การลงทุนในหุ้นก็เป็นวิธีหนึ่ง ปีหนึ่ง 10% ทุก 7 ปีจะมีเงินเพิ่มเท่าตัว ใน 20 ปีเงินจะขึ้นหนึ่งหลัก จาก 1 เป็น 10, จาก 10 เป็น 100 ที่พูดถึงเป็นการลงทุนในหุ้นแบบกองทุนรวม แม้หุ้นจะตกบ้างแต่ระยะยาวหุ้นก็ต้องขึ้นต่อ ถ้ามีหัวบางคนได้ปีละ 20% ทุก 3-4 ปีก็จะขึ้นเป็นเท่าตัว ก็จะเติบโตเร็วกว่านั้น ต้องประเมินตัวเองก่อนว่ามีความสามารถจัดการเองได้ไหม ไม่อย่างนั้นก็ให้ซื้อกองทุนรวม
- แก้วดวง 3 ระยะเวลาในการลงทุน ยิ่งยาวยิ่งสุขสว่างมาก ถ้าใครอายุน้อยก็มีความสุกสว่างอยู่แล้ว แต่ต้องลงทุนตลอดเวลา ถ้ามองช่วงไหนไม่ดี ไม่ลงทุนเวลาก็จะหาย
o ถ้าแก้วสว่างไสวทุกดวงก็จะรวยแน่นอน

ควรตรวจเองหรือให้คนอื่นดูให้?
คุณวิวรรณ
• ได้ทั้ง 2 อย่าง ให้คนอื่นช่วยตรวจก็มีที่ bank, broker
• อยากฝากเรื่องสภาพคล่องสำหรับฉุกเฉิน
1) สภาพคล่องสำหรับการลงทุน
• กรณีเกิดสถานการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ตกงาน อยากให้เลี้ยงดูตัวเองได้ 6 เดือน สามารถเอามาใช้ได้ไม่เกิน 1 week บางที่ก็บอกให้กันไว้ 1 ปี เช่น เงินฝากออมทรัพย์, ฝากประจำ, money market, ตั๋ว BE
2) สภาพคล่องในการใช้จ่ายประจำวัน
• ให้จัดไว้พอสำหรับการใช้ใหม่ เช่น ถ้าได้เงินเดือนก็ควรจะมีพอไว้ใช้สำหรับเงินงวดหน้าที่จะได้
• ต้องเก็บไว้ในที่ปลอดภัย

คุณชาย
• ถ้าคุยกับธนาคารก็จะแนะนำว่าถ้าได้รายได้ก็ให้แบ่งลงทุน แต่ไม่ค่อยพูดถึงเรื่องการใช้หนี้ อยากพูดเรื่องการใช้หนี้ มี 2 อย่าง
1) หนี้ภายในบ้าน จ่ายให้คนในบ้าน คุณพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย เมื่อมีรายได้เข้ามาเราควรใช้ดูแลท่าน ความสุขของคนในบ้าน ก็เป็นเรื่องจำเป็น เดินทางไกลก็ต้องกินข้าวบ้าง แต่ไม่กินจนท้องแตก
2) หนี้ภายนอก ขอยกตัวอย่างท่านอลงกต วัดบาทน้ำพุ ถ้าไม่มีคนดูแลคนเป็นเอดส์ จะเป็นปัญหาสังคม มีท่านช่วยโอบอุ้มให้ความรักดูแล เราอยุ่ได้เพราะเป้นหนี้คนที่เข้าไปโอบอุ้มสังคม อยากเสนอให้เราเจียดส่วนหนึ่งใช้หนี้ภายนอก ไม่ว่าคนใดศาสนาใดใช้หนี้สังคม
• อ.ไพบูลย์เสริม การอยู่แบบพร้อมจะตายเป็นการจัดสรรที่ดีสุด


ควรต้องมีการเปลี่ยนแผนไหม?
ดร.นิเวศน์
• เปลี่ยนได้ บางทีคนก็ไปเร่งเพิ่มตัวที่สอง ก็ไปลงทุนเต็มที่ และประสบความสำเร็จสูง ก็จะเป็นอิสรภาพทางการเงินแต่ในจุดนี้ ก็ต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะมีแก้วดวงที่ 1 สุขสว่างแล้ว ลูกที่ 3 ก็ยังสว่าง ถ้าไปเร่งทำแบบเดิม ก็ต้องระวัง ในที่สุดทุกอย่างก็ต้องกลับเข้าสู่สามัญ ก็ต้องเปลี่ยนกลยุทธ์
•ตัวอย่าง Jesse Livermore เป็นนักเก็งกำไรระดับโลกรวยและเจ๊งไป 3 รอบสุดท้ายก็ฆ่าตัวตาย

คุณวิวรรณ
• เป้าหมายแต่ละคนไม่เหมือนกัน วางแผนแล้วทำไป ตรวจเชคสุขภาพเป็นระยะ
ุตรวจทุก 6 เดือน ควรตรวจเชคการเงินให้เหมาะกับสถานการณ์การเงิน สถานการณเศรษฐกิจ ตนเอง
อายุมากขึ้นรับความเสี่ยงได้ลดลง หรือรวยขึ้นก็ไม่อยากเสี่ยงมาก
ถ้าหลักทรัพย์หรือตราสารที่มีเต็มมูลค่าก็ขาย ไม่ต้องรักหรือหวงหุ้น ไม่จำเป็นต้องมีหุ้นตลอด
เหตุการณ์รุนแรงของโลก สงคราม ภัยพิบัติ ต้องตรวจ
เหตุการณ์สำคัญของชีวิต เช่น ตกงาน หัวหน้าครอบครัวเสียชีวิต ต้องตรวจ
แล้วปรับแผนให้เหมาะกับสถานการณ์ ยึดหลักความพอเพียง
แต่ก็ต้องมีความสุขกับการหาเงิน ปกติจะให้รางวัลตัวเองตลอด

อ.เสน่ห์ เสริมว่าเห็นด้วยกับคุณชาย เรื่องหนี้ภายในภายนอก อยากให้พวกเราตรวจสุขภาพบุญกัน

Money talk@SET ครั้งต่อไป เสาร์ 11 ต.ค. เปิดจอง 4 ต.ค.
หัวข้อ 1 ลงทุนแบบสบายๆสุขกายสุขใจ
แขกรับเชิญ นพ.สมนึก ตปนียวรวงศ์ (หมอ jfk), คุณวีรณัฐ โรจนประภา (ใหม่บ้านอารีย์), คุณชาย มโนภาส
ผู้ดำเนินรายการ อ.ไพบูลย์, อ.ถาวร
หัวข้อ 2 บทเรียนหุ้นวอร์เรนบัฟเฟตต์
แขกรับเชิญ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร, คุณวิบูลย์ พึงประเสริฐ, คุณพรชัย รัตนนนทชัยสุข,ดร.กุศยา ลีฬหาวงศ์
ผู้ดำเนินรายการ อ.ไพบูลย์,อ.เสน่ห์

ขอบพระคุณอ.ไพบูลย์,พิธีกร,วิทยากร และทีมงาน money talk และผู้สนับสนุนทุกท่านที่จัดงานขึ้นครับ
หากมีความผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ

[GINTOKI]

ขอบคุณมากๆครับ

[amornkowa]

ขอบคุณครับ คุณisalmonไปงานviส่ยดำcharityหรือเปล่าครับ

[ลูกหิน]

ขอบคุณมากนะครับ

[i-salmon]

@amornkawa ไปครับ ไว้เจอกันทักทายได้ครับ

[ouiic]

ขอบคุณมากๆจ้า

[คืนนี้ดาวสวย]

ขอบคุณมากนะครับ คุณ i-salmon

[amornkowa]

@K.I-Salmon แล้วเจอกันครับ

[a_tar_7]

ขอบคุณมากครับ

[TLSS]

ขอบคุณมากๆ ครับ ^^

[Mr.Kcip]

ขอบคุณครับ

[baggio]

ขอบคุณมากครับ ^^

[theenuch]

ขอบคุณมากค่ะน้องบิ้๊ก ^__^

[RnD-VI]

ขอบคุณครับพี่