เมืองไทยมีอะไรเป็นอันดับหนึ่งของโลก บ้างครับ?
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
เมืองไทยมีอะไรเป็นอันดับหนึ่งของโลก บ้างครับ?
โพสต์ที่ 1
เท่าที่ผมเข้าใจ ผิด/ถูก ไม่รู้นะครับ
1. อาหาร
2. สปา
3. อันนี้ไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซนต์ -> Healthcare
4. อันนี้ก็ไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซนต์ -> ท่องเที่ยว
1. อาหาร
2. สปา
3. อันนี้ไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซนต์ -> Healthcare
4. อันนี้ก็ไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซนต์ -> ท่องเที่ยว
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 1217
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมืองไทยมีอะไรเป็นอันดับหนึ่งของโลก บ้างครับ?
โพสต์ที่ 3
แหล่องท่องเที่ยว
อุปนิสัยความโออ้อมอารี
การบริการ
ความอิสระในการท่องเที่ยวแบบไม่ค่อยมีกฎหมายควบคุมอะไรมากเหมือนต่างประเทศ
รถติดในเมืองหลวง
การไม่เหยียดเชื้อชาติ
ผลไม้
คุณภาพอาหารเทียบกับราคาและความหลากหลาย
อุปนิสัยความโออ้อมอารี
การบริการ
ความอิสระในการท่องเที่ยวแบบไม่ค่อยมีกฎหมายควบคุมอะไรมากเหมือนต่างประเทศ
รถติดในเมืองหลวง
การไม่เหยียดเชื้อชาติ
ผลไม้
คุณภาพอาหารเทียบกับราคาและความหลากหลาย
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมืองไทยมีอะไรเป็นอันดับหนึ่งของโลก บ้างครับ?
โพสต์ที่ 4
-
- Verified User
- โพสต์: 2636
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมืองไทยมีอะไรเป็นอันดับหนึ่งของโลก บ้างครับ?
โพสต์ที่ 5
อาหาร ครับ
โดยใช้ข้อมูลจากกระทู้ด้านล่าง
http://2g.pantip.com/cafe/klaibann/topi ... 24433.html
ผมอ่านสามวันไม่จบ (วันละ 4-5 ชั่วโมง)
โดยใช้ข้อมูลจากกระทู้ด้านล่าง
http://2g.pantip.com/cafe/klaibann/topi ... 24433.html
ผมอ่านสามวันไม่จบ (วันละ 4-5 ชั่วโมง)
" สพฺเพ ธมฺมา นาลํ อภินิเวสาย "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
" Whatever your mind can conceive and believe it can achieve "
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมืองไทยมีอะไรเป็นอันดับหนึ่งของโลก บ้างครับ?
โพสต์ที่ 8
ตรรกะที่ไม่ถูกต้อง ในการใช้เงินของประชาชน
ถ้าเริ่มจากคนมีอำนาจ ใช้เงินตามตรรกะที่ถูกต้อง อะไรควรสนับสนุน อะไรควรยับยั้ง
สิ่งที่น่าสนับสนุนก็จะเจริญก้าวหน้า สิ่งที่ควรจะยับยั้งก็จะลดลง
สิ่งดีๆที่ไทยจะทำได้เป็นที่หนึ่งคงเกิดขึ้นได้บ้าง
เพราะที่หนึ่งไม่ได้หวังจะเกิดได้เพราะอยู่ๆก็เกิดขึ้นเอง แต่มันจะเกิดก็เมื่อความพร้อมมากพอที่จะเป็นเช่นนั้น
ผมสงสัยเรื่องภาษีมรดก คือ 50 ล้านบาท นั้นมากเกินไปสำหรับ คน 1 คน ในสมัยนี้แล้วเหรอ ถึงต้องถูกบั่นทอนลง เพราะ ผมดูบ้านดีหน่อย ก็ เกือบ 10 ล้านบาทแล้ว รถยนต์ 2 ล้านบาท ถ้าจะซื้อบ้านให้ลูกหนึ่งคน 10 ล้านบาทถ้าซื้อเร็วก็ยังต้องอาจเป็นชื่อเราเอง
นี่ก็ 22 ล้านบาท รถยนต์คงต้องใช้มากกว่า 1 คัน แน่ในช่วงชีวิตที่ดี ซื้อรถให้ลูก อีก ค่าพยาบาลโรงพยาบาลดีๆ ค่าใช้จ่ายยามแก่เฒ่า ผมคิดถึงตัวเลขที่เรียกว่าใช้ชีวิตอย่างดี และ เพรียบพร้อม
และถ้าคนที่ได้รับมรดกเพียง 50 ล้านบาทเพราะมีคนบังเอิญคิดว่า 50 ล้านนั้นเพียงพอแล้ว แล้วคนที่ได้รับมรดก ก็ใช้ชีวิตอย่างดีประหนึ่งที่เคยถูกเลี้ยงดูมา แล้วบังเอิญไม่เก่งเรื่องการหาเงิน แล้วเงินค่อยๆลดจนหมดไปด้วยการใช้ชีวิตอย่างดีและเพรียบพร้อม พอเงินหมด
รายได้ทุกอย่าง ก็คือ มาจากการทำงาน เงินเดือนขั้นต่ำ 15000 บาท สวัสดิการทางสังคมต่างๆ ที่ยังคงไม่ทำให้ชีวิตรู้สึกดีพอหรือผมไม่ยอมพอดีเอง แล้วอะไรควรจะมากำหนดว่าตัวเลขที่เกิน 50 ล้านบาทต้องเสียภาษี แล้วถ้าผู้รับมรดกเงินหมด การเป็นคนจนลงจะมาใช้สิทธิ์ขอคืนภาษีมรดกที่ถูกบังคับจ่ายไปคืนมาช่วยชีวิตเขาที่เดือดร้อนอยู่ได้ไหม
แต่ถ้าประเทศไหน ที่มีเงินเดือนประชากรพอเหมาะ มากพอกับค่าครองชีพ มีระบบสวัสดิการที่เพียงพอ กับการมีชีวิตอย่างดี นั้นหมายถึงว่า ใครก็ตามที่เกิดมาในประเทศนั้น มีระบบสนับสนุนการดำรงชีวิตที่ดี มีโอกาสให้ค่าเฉลี่ยเท่าๆกัน อันนี้ย่อมเห็นความแตกต่าง
การที่จะแจกเงินกับคนที่มีรายได้น้อย อย่างน้อยผมก็คิดว่ามันก็คือคำว่าโอกาส สำหรับคนที่มีรายได้น้อยนะและถ้าเขาใช้ไปในทางที่เป็นประโยชน์ก็เป็นเรื่องดี แต่ตรรกะที่ดีคือยังไงกันแน่
ในเมื่อการแข่งขันบางอย่าง จากนับร้อยนับพัน คนที่ได้ที่ 1 มักได้รางวัลสูงสุด ที่2 และ ที่3 ได้ลดลงมา และเลยอันดับที่เท่าไหร่จะไม่ได้รางวัลอะไรเลย ดังนั้น ตรรกะก็แข่งกันพาไปพัฒนาความสามารถ
แต่ถ้าเราตั้งว่าคนรายได้น้อย จะได้รับเงินเท่านี้ คนที่หาเงินได้ถึงเป้าเท่านี้ต่อปีก็จะได้เงินสนับสนุนที่น่าจูงใจขึ้น และเป็นลำดับขั้นจนถึงค่าเฉลี่ยที่มีการวิจัยและวางแผนไว้ที่เป็นขั้นควรสนับสนุน ก็จะเป็นแรงจูงใจพัฒนาคนขึ้นไป
แต่ถ้าเป็นตรรกะ คนจน จะได้รับการแจกเงินเป็นรางวัล (แบบเล็กๆที่ทำให้หลงผิด)
แต่ ถ้าคุณขึ้นมาเป็นคนมีอันจะกินมีชีวิตที่เพรียบพร้อมดูแลตัวเองได้ คุณก็ดูแลตัวเองไป แล้วเราจะไปเอาเงินจากผู้รับเงินคุณ และถ้าบังเอิญ ผู้รับเงินจากคุณเงินหมด เราจะแจกเงินเป็นรางวัล (แบบเล็กๆที่ทำให้หลงผิด) และเราคนที่เอาเงินคุณไปก็ไม่สามารถดูแลผู้รับเงินจากคุณได้ดีเท่าคุณอยู่ดี เพราะเราผู้เอาเงินไปเอาเงินไปทำอะไรก็ไม่รู้โดยไม่มีตรรกะที่ดี แล้วลืมไปว่าเราเอาเงินจากใครมา
ขออภัยถ้าผมคิดขัดแย้งนะครับ
แค่ผมเป็นคนไม่ค่อยอยากขับรถ แล้วเคยไปขึ้นรถ bus หรือ รถเมล์ ของสิงคโปร์ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน แล้วผมรู้สึกดีกับรถเมล์ที่นั่น แต่ประเทศไทยจนถึงวันนี้ แค่คิดจะขึ้นรถเมล์ทุกครั้ง ต้องสงสัยว่ามันจะจอดรับมั้ย มันจะขับอันตรายมั้ย มันจะส่งผมที่ป้ายรึเปล่า
กี่คนผู้สูงอายุ ที่ผมเห็นต้องบาดเจ็บเล็กน้อย หรือบาดเจ็บยาวนาน จากการขับที่รุนแรง กระชาก กระแทก หลายสิบชีวิต ในมือคนขับที่ไม่ดีคนเดียว หรือ แม้แต่รถสภาพไม่ดี ก็เกิดจากผู้มีหน้าที่ดูแลรถไม่ดี ชีวิตคนนับสิบและคนขับรถ ก็อยู่ในมือผู้ดูแลรถที่ไม่ดี ตรรกะ ประเทศเรายังยอมกับแบบนี้เลย
จาก ความเห็นของคนโลกแคบครับ
ถ้าเริ่มจากคนมีอำนาจ ใช้เงินตามตรรกะที่ถูกต้อง อะไรควรสนับสนุน อะไรควรยับยั้ง
สิ่งที่น่าสนับสนุนก็จะเจริญก้าวหน้า สิ่งที่ควรจะยับยั้งก็จะลดลง
สิ่งดีๆที่ไทยจะทำได้เป็นที่หนึ่งคงเกิดขึ้นได้บ้าง
เพราะที่หนึ่งไม่ได้หวังจะเกิดได้เพราะอยู่ๆก็เกิดขึ้นเอง แต่มันจะเกิดก็เมื่อความพร้อมมากพอที่จะเป็นเช่นนั้น
ผมสงสัยเรื่องภาษีมรดก คือ 50 ล้านบาท นั้นมากเกินไปสำหรับ คน 1 คน ในสมัยนี้แล้วเหรอ ถึงต้องถูกบั่นทอนลง เพราะ ผมดูบ้านดีหน่อย ก็ เกือบ 10 ล้านบาทแล้ว รถยนต์ 2 ล้านบาท ถ้าจะซื้อบ้านให้ลูกหนึ่งคน 10 ล้านบาทถ้าซื้อเร็วก็ยังต้องอาจเป็นชื่อเราเอง
นี่ก็ 22 ล้านบาท รถยนต์คงต้องใช้มากกว่า 1 คัน แน่ในช่วงชีวิตที่ดี ซื้อรถให้ลูก อีก ค่าพยาบาลโรงพยาบาลดีๆ ค่าใช้จ่ายยามแก่เฒ่า ผมคิดถึงตัวเลขที่เรียกว่าใช้ชีวิตอย่างดี และ เพรียบพร้อม
และถ้าคนที่ได้รับมรดกเพียง 50 ล้านบาทเพราะมีคนบังเอิญคิดว่า 50 ล้านนั้นเพียงพอแล้ว แล้วคนที่ได้รับมรดก ก็ใช้ชีวิตอย่างดีประหนึ่งที่เคยถูกเลี้ยงดูมา แล้วบังเอิญไม่เก่งเรื่องการหาเงิน แล้วเงินค่อยๆลดจนหมดไปด้วยการใช้ชีวิตอย่างดีและเพรียบพร้อม พอเงินหมด
รายได้ทุกอย่าง ก็คือ มาจากการทำงาน เงินเดือนขั้นต่ำ 15000 บาท สวัสดิการทางสังคมต่างๆ ที่ยังคงไม่ทำให้ชีวิตรู้สึกดีพอหรือผมไม่ยอมพอดีเอง แล้วอะไรควรจะมากำหนดว่าตัวเลขที่เกิน 50 ล้านบาทต้องเสียภาษี แล้วถ้าผู้รับมรดกเงินหมด การเป็นคนจนลงจะมาใช้สิทธิ์ขอคืนภาษีมรดกที่ถูกบังคับจ่ายไปคืนมาช่วยชีวิตเขาที่เดือดร้อนอยู่ได้ไหม
แต่ถ้าประเทศไหน ที่มีเงินเดือนประชากรพอเหมาะ มากพอกับค่าครองชีพ มีระบบสวัสดิการที่เพียงพอ กับการมีชีวิตอย่างดี นั้นหมายถึงว่า ใครก็ตามที่เกิดมาในประเทศนั้น มีระบบสนับสนุนการดำรงชีวิตที่ดี มีโอกาสให้ค่าเฉลี่ยเท่าๆกัน อันนี้ย่อมเห็นความแตกต่าง
การที่จะแจกเงินกับคนที่มีรายได้น้อย อย่างน้อยผมก็คิดว่ามันก็คือคำว่าโอกาส สำหรับคนที่มีรายได้น้อยนะและถ้าเขาใช้ไปในทางที่เป็นประโยชน์ก็เป็นเรื่องดี แต่ตรรกะที่ดีคือยังไงกันแน่
ในเมื่อการแข่งขันบางอย่าง จากนับร้อยนับพัน คนที่ได้ที่ 1 มักได้รางวัลสูงสุด ที่2 และ ที่3 ได้ลดลงมา และเลยอันดับที่เท่าไหร่จะไม่ได้รางวัลอะไรเลย ดังนั้น ตรรกะก็แข่งกันพาไปพัฒนาความสามารถ
แต่ถ้าเราตั้งว่าคนรายได้น้อย จะได้รับเงินเท่านี้ คนที่หาเงินได้ถึงเป้าเท่านี้ต่อปีก็จะได้เงินสนับสนุนที่น่าจูงใจขึ้น และเป็นลำดับขั้นจนถึงค่าเฉลี่ยที่มีการวิจัยและวางแผนไว้ที่เป็นขั้นควรสนับสนุน ก็จะเป็นแรงจูงใจพัฒนาคนขึ้นไป
แต่ถ้าเป็นตรรกะ คนจน จะได้รับการแจกเงินเป็นรางวัล (แบบเล็กๆที่ทำให้หลงผิด)
แต่ ถ้าคุณขึ้นมาเป็นคนมีอันจะกินมีชีวิตที่เพรียบพร้อมดูแลตัวเองได้ คุณก็ดูแลตัวเองไป แล้วเราจะไปเอาเงินจากผู้รับเงินคุณ และถ้าบังเอิญ ผู้รับเงินจากคุณเงินหมด เราจะแจกเงินเป็นรางวัล (แบบเล็กๆที่ทำให้หลงผิด) และเราคนที่เอาเงินคุณไปก็ไม่สามารถดูแลผู้รับเงินจากคุณได้ดีเท่าคุณอยู่ดี เพราะเราผู้เอาเงินไปเอาเงินไปทำอะไรก็ไม่รู้โดยไม่มีตรรกะที่ดี แล้วลืมไปว่าเราเอาเงินจากใครมา
ขออภัยถ้าผมคิดขัดแย้งนะครับ
แค่ผมเป็นคนไม่ค่อยอยากขับรถ แล้วเคยไปขึ้นรถ bus หรือ รถเมล์ ของสิงคโปร์ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน แล้วผมรู้สึกดีกับรถเมล์ที่นั่น แต่ประเทศไทยจนถึงวันนี้ แค่คิดจะขึ้นรถเมล์ทุกครั้ง ต้องสงสัยว่ามันจะจอดรับมั้ย มันจะขับอันตรายมั้ย มันจะส่งผมที่ป้ายรึเปล่า
กี่คนผู้สูงอายุ ที่ผมเห็นต้องบาดเจ็บเล็กน้อย หรือบาดเจ็บยาวนาน จากการขับที่รุนแรง กระชาก กระแทก หลายสิบชีวิต ในมือคนขับที่ไม่ดีคนเดียว หรือ แม้แต่รถสภาพไม่ดี ก็เกิดจากผู้มีหน้าที่ดูแลรถไม่ดี ชีวิตคนนับสิบและคนขับรถ ก็อยู่ในมือผู้ดูแลรถที่ไม่ดี ตรรกะ ประเทศเรายังยอมกับแบบนี้เลย
จาก ความเห็นของคนโลกแคบครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1217
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมืองไทยมีอะไรเป็นอันดับหนึ่งของโลก บ้างครับ?
โพสต์ที่ 10
ขอบคุณ คุณ areliang มากๆครับที่แชร์ความคิดเห็น เป็นสิ่งที่ดีสำหรับมุมมองที่หลากหลายนะครับ ถูกหรือผิด เราทุกคนก็ควรรับฟังเหตุผลและคิดวิเคราะห์อย่างไม่มีอคตินะครับ เพราะสิ่งที่เราคิดว่าผิดอาจถูกก็ได้ เช่นเดียวกับสิ่งที่คิดว่าถูกก็อาจจะผิดได้เช่นกันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 874
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เมืองไทยมีอะไรเป็นอันดับหนึ่งของโลก บ้างครับ?
โพสต์ที่ 11
อันดับหนึ่งโลกของเมืองไทย
ยังใช่คอมโม(วัดแบบเชิงปริมาณ) พวก
ข้าว ยาง กุ้ง (แต่ก่อนอาจมีไม้สัก? ตามตำราเรียนประถม) มั้ยครับ
หรือ แบบที่เคยถูกล้อเลียน
Sex ,golf (วัดแบบเชิงคุณภาพ)
หรือ แบบthailand only(ที่นี่ที่เดียว เลยเป็นอันดับหนึ่งที่ไม่มีอันดับสองสาม)
มวยไทย ผัดไทย ต้มยำกุ้ง การเมืองแบบไทยๆ..อุ๊ย..อันหลังนี่เผลอไปหน่อย..
ยังใช่คอมโม(วัดแบบเชิงปริมาณ) พวก
ข้าว ยาง กุ้ง (แต่ก่อนอาจมีไม้สัก? ตามตำราเรียนประถม) มั้ยครับ
หรือ แบบที่เคยถูกล้อเลียน
Sex ,golf (วัดแบบเชิงคุณภาพ)
หรือ แบบthailand only(ที่นี่ที่เดียว เลยเป็นอันดับหนึ่งที่ไม่มีอันดับสองสาม)
มวยไทย ผัดไทย ต้มยำกุ้ง การเมืองแบบไทยๆ..อุ๊ย..อันหลังนี่เผลอไปหน่อย..
samatah
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 90
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมืองไทยมีอะไรเป็นอันดับหนึ่งของโลก บ้างครับ?
โพสต์ที่ 12
นวดครับ มีทุกจังหวัด ถูกที่สุด ดีที่สุด
แม้แต่นวด+อาบน้ำก็เถอะ
แม้แต่นวด+อาบน้ำก็เถอะ
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมืองไทยมีอะไรเป็นอันดับหนึ่งของโลก บ้างครับ?
โพสต์ที่ 14
จริงเหรอครับ??ลูกหิน เขียน:แหล่องท่องเที่ยว
อุปนิสัยความโออ้อมอารี
การบริการ
ความอิสระในการท่องเที่ยวแบบไม่ค่อยมีกฎหมายควบคุมอะไรมากเหมือนต่างประเทศ
รถติดในเมืองหลวง
การไม่เหยียดเชื้อชาติ
ผลไม้
คุณภาพอาหารเทียบกับราคาและความหลากหลาย
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.