บริษัทอะไรที่มีรายได้หลักจาก การรับจ้างบริหารกองทุน
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
บริษัทอะไรที่มีรายได้หลักจาก การรับจ้างบริหารกองทุน
โพสต์ที่ 1
บริษัทอะไรที่มีรายได้หลักจาก การรับจ้างบริหารกองทุน (ไม่นับบรรดาธนาคาร)
1 กองทุนบำเหน็จบำนาญ
2 กองทุน RMF
3 กองทุน LTF
1 กองทุนบำเหน็จบำนาญ
2 กองทุน RMF
3 กองทุน LTF
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
Re: บริษัทอะไรที่มีรายได้หลักจาก การรับจ้างบริหารกองทุน
โพสต์ที่ 2
งั้นก็ต้อง mfc ครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: บริษัทอะไรที่มีรายได้หลักจาก การรับจ้างบริหารกองทุน
โพสต์ที่ 3
ขอบพระคุณน้องเดชอย่างสูงครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: บริษัทอะไรที่มีรายได้หลักจาก การรับจ้างบริหารกองทุน
โพสต์ที่ 4
บล ที่มี บริษัทลูกเป็นบริษัทจัดการกองทุนรวม ด้วย
แต่ MFC นิเป็นบริษัทแรกที่เป็นบริษัททจัดการกองทุนรวมเลย
อ่านเจอเจอะเลยว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งประมาณ 253x ประชาชนแห่ไปซื้อ กองทุนแถวยาวๆมากๆ เหมือนประชาชนไปซื้อหุ้น IPO ตอนที่ตลาดหุ้นบูมๆๆมากๆๆ ทำให้ MFC เนื้อหอมในยุคนั้นเลย เพราะเป็นบริษัทเดียวที่ออกกองทุนได้
นั้นคือจุดเริ่มต้นของตลาดกองทุนรวมเลยทีเดียว
แต่ปัจจุบันนี้เปิดกันเพียบเลย แต่ละแห่งมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันไป
พิจารณากันดีๆล่ะักัน
แต่ MFC นิเป็นบริษัทแรกที่เป็นบริษัททจัดการกองทุนรวมเลย
อ่านเจอเจอะเลยว่า มีอยู่ช่วงหนึ่งประมาณ 253x ประชาชนแห่ไปซื้อ กองทุนแถวยาวๆมากๆ เหมือนประชาชนไปซื้อหุ้น IPO ตอนที่ตลาดหุ้นบูมๆๆมากๆๆ ทำให้ MFC เนื้อหอมในยุคนั้นเลย เพราะเป็นบริษัทเดียวที่ออกกองทุนได้
นั้นคือจุดเริ่มต้นของตลาดกองทุนรวมเลยทีเดียว
แต่ปัจจุบันนี้เปิดกันเพียบเลย แต่ละแห่งมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันไป
พิจารณากันดีๆล่ะักัน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
Re: บริษัทอะไรที่มีรายได้หลักจาก การรับจ้างบริหารกองทุน
โพสต์ที่ 6
ด้วยความยินดีอย่างยิ่งครับพี่ NBNevercry.boy เขียน:ขอบพระคุณน้องเดชอย่างสูงครับ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2166
- ผู้ติดตาม: 0
Re: บริษัทอะไรที่มีรายได้หลักจาก การรับจ้างบริหารกองทุน
โพสต์ที่ 7
ถ้ามองต่างประเทศด้วย คงต้องเป็น Blackrock ครับ ETF ตระกูล iShares เป็นของ Blackrock
Minimize risk through an in-depth knowledge. Buy at bargain price. Wait patiently.
http://valueinvestors.wordpress.com/
http://valueinvestors.wordpress.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 334
- ผู้ติดตาม: 0
Re: บริษัทอะไรที่มีรายได้หลักจาก การรับจ้างบริหารกองทุน
โพสต์ที่ 8
ในตลาดก็มีบริษัทเดียวครับคือ MFC แต่ไม่ได้อยู่ในเครือแบงก์ น่าเสียดายเหมือนกันที่พวกธนาคารไม่ยอมปล่อยหุ้นบริษัทจัดการกองทุนของตัวเองเข้าตลาด ไม่งั้นอาจได้เห็น หุ้น growth stock ที่มีอัตราการเติบโตสูงเหมือนกัน เช่น จัดการกองทุนกสิกร หรือบัวหลวง
ในเมืองนอกก็มี Fidelity ที่ปีเตอร์ ลินซ์ เคยสังกัด ก็เป็นหุ้น super stock เหมือนกัน
ในเมืองนอกก็มี Fidelity ที่ปีเตอร์ ลินซ์ เคยสังกัด ก็เป็นหุ้น super stock เหมือนกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 2547
- ผู้ติดตาม: 0
Re: บริษัทอะไรที่มีรายได้หลักจาก การรับจ้างบริหารกองทุน
โพสต์ที่ 9
อุตสาหกรรมกองทุนรวมเติบโตอย่างน่าประทับใจ ทั้งปริมาณที่เพิ่มขึ้นที่สะท้อนจาก AUM และ ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นกว่า 20% ในปี 2557
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... %9520.html
คาดAUMบลจไทยปีนี้โต20%
"เอกชัย" สมาคม บลจ. คาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารปีนี้โต 20% จากปีก่อนที่ระดับ 3.07 ล้านล้านบาท
นายเอกชัย จงวิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมบริษัทจัดการลงทุน คาดว่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไทยทั้งอุตสาหกรรมปีนี้ จะเติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 3,075,956 ล้านบาท โดยเกิดจากการเติบโตของกองทุนประเภท Fix Income และกองทุนหุ้น เป็นไปตามภาพรวมของตลาดหุ้นไทยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น โดย 9 เดือนที่ผ่านมากองทุนรวมมีสินทรัพย์สุทธิกว่า 3.76 ล้านล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อนถึง 22.53% ด้านผลตอบแทนยังทำได้ดีอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของ SET INDEX โดย ณ ไตรมาส 3 อุตสาหกรรมกองทุนรวมสามารถทำผลตอบแทนได้สูงถึง 22.1% และเชื่อว่าจะยังอยู่ในภาวะที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้คาดว่า ในไตรมาส 4 จะได้เม็ดเงินลงทุนหนุนเข้ามาในกองทุน LTF และ RMF อีกกว่า 20,000 ล้านบาท แม้ใน 9 เดือนแรกยังอยู่ในระดับทรงตัว โดยมียอด LTF เป็นเงินไหลออกสุทธิ 3,181 ล้านบาท ขณะที่ RMF มีเงินไหลเข้ามาเบาบางเพียง 1,788 ล้านบาท แต่ถือเป็นเรื่องปกติเนื่องจากสถิติย้อนหลังจะพบว่าเม็ดเงินจะไหลเข้าลงทุนใน LTF และ RMF ในช่วงไตรมาส 4 มากที่สุด
ด้านประเด็นการต่ออายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีของ LTF จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากนัก เนื่องจากเชื่อว่าสุดท้ายแล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีมาตรการใหม่ๆเพื่อออกมาสนับสนุน นอกจากนี้ 9 เดือนที่ผ่านมามีเงินลงทุนจากกลุ่มกองทุนประเภทที่ขายให้แก่นักลงทุนที่เป็น Accredited Investor ซึ่งนิยมลงทุนสินทรัพย์ประเภท High Yield Bond ทั้งในและต่างประเทศ โดยกลุ่มนี้มีเงินไหลเข้ากว่า 1 แสนล้านบาท ขณะที่กองทุนต่างประเทศแบบเจาะกลุ่มประเทศและภูมิภาคมีการเติบโตอย่างโดดเด่น มีเงินลงทุนไหลเข้ากลุ่มดังกล่าวถึง 16,103 ล้านบาท เฉพาะในไตรมาส 3 และกว่า 3,900 ล้านบาท นับตั้งแต่ต้นปี คิดเป็นการเติบโตถึง 111% โดย 3 กลุ่มประเทศที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ ยุโรป ญี่ปุ่น และเอเชีย ตามลำดับ
ส่วนการลงทุนในหุ้นไทยยังถือว่ามีความคึกคัก โดย 9 เดือนที่ผ่านมามีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมทั้งสิ้น 206,921.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.73% จากปีก่อน ขณะที่ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันอยู่ที่ระดับเกิน 20% โดยมีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนหุ้นไทยกว่า 7.4 พันล้านบาท ซึ่งกว่า 5 พันล้านบาท เป็นการลงทุนในหุ้นขนาดเล็กซึ่งถือว่ามีความคึกคักมากในปีนี้ ส่วนกองทุนประเภทสินค้าโภคภัณฑ์ยังอยู่ในช่วงขาลง โดยกองทุนทองคำติดลบ 0.76% และกองทุนน้ำมันติดลบ 3.8%
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... %9520.html
คาดAUMบลจไทยปีนี้โต20%
"เอกชัย" สมาคม บลจ. คาดสินทรัพย์ภายใต้การบริหารปีนี้โต 20% จากปีก่อนที่ระดับ 3.07 ล้านล้านบาท
นายเอกชัย จงวิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สมาคมบริษัทจัดการลงทุน คาดว่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไทยทั้งอุตสาหกรรมปีนี้ จะเติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อนที่อยู่ระดับ 3,075,956 ล้านบาท โดยเกิดจากการเติบโตของกองทุนประเภท Fix Income และกองทุนหุ้น เป็นไปตามภาพรวมของตลาดหุ้นไทยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น โดย 9 เดือนที่ผ่านมากองทุนรวมมีสินทรัพย์สุทธิกว่า 3.76 ล้านล้านบาท หรือเติบโตจากปีก่อนถึง 22.53% ด้านผลตอบแทนยังทำได้ดีอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตของ SET INDEX โดย ณ ไตรมาส 3 อุตสาหกรรมกองทุนรวมสามารถทำผลตอบแทนได้สูงถึง 22.1% และเชื่อว่าจะยังอยู่ในภาวะที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้คาดว่า ในไตรมาส 4 จะได้เม็ดเงินลงทุนหนุนเข้ามาในกองทุน LTF และ RMF อีกกว่า 20,000 ล้านบาท แม้ใน 9 เดือนแรกยังอยู่ในระดับทรงตัว โดยมียอด LTF เป็นเงินไหลออกสุทธิ 3,181 ล้านบาท ขณะที่ RMF มีเงินไหลเข้ามาเบาบางเพียง 1,788 ล้านบาท แต่ถือเป็นเรื่องปกติเนื่องจากสถิติย้อนหลังจะพบว่าเม็ดเงินจะไหลเข้าลงทุนใน LTF และ RMF ในช่วงไตรมาส 4 มากที่สุด
ด้านประเด็นการต่ออายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีของ LTF จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนมากนัก เนื่องจากเชื่อว่าสุดท้ายแล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีมาตรการใหม่ๆเพื่อออกมาสนับสนุน นอกจากนี้ 9 เดือนที่ผ่านมามีเงินลงทุนจากกลุ่มกองทุนประเภทที่ขายให้แก่นักลงทุนที่เป็น Accredited Investor ซึ่งนิยมลงทุนสินทรัพย์ประเภท High Yield Bond ทั้งในและต่างประเทศ โดยกลุ่มนี้มีเงินไหลเข้ากว่า 1 แสนล้านบาท ขณะที่กองทุนต่างประเทศแบบเจาะกลุ่มประเทศและภูมิภาคมีการเติบโตอย่างโดดเด่น มีเงินลงทุนไหลเข้ากลุ่มดังกล่าวถึง 16,103 ล้านบาท เฉพาะในไตรมาส 3 และกว่า 3,900 ล้านบาท นับตั้งแต่ต้นปี คิดเป็นการเติบโตถึง 111% โดย 3 กลุ่มประเทศที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ ยุโรป ญี่ปุ่น และเอเชีย ตามลำดับ
ส่วนการลงทุนในหุ้นไทยยังถือว่ามีความคึกคัก โดย 9 เดือนที่ผ่านมามีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมทั้งสิ้น 206,921.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.73% จากปีก่อน ขณะที่ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันอยู่ที่ระดับเกิน 20% โดยมีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุนหุ้นไทยกว่า 7.4 พันล้านบาท ซึ่งกว่า 5 พันล้านบาท เป็นการลงทุนในหุ้นขนาดเล็กซึ่งถือว่ามีความคึกคักมากในปีนี้ ส่วนกองทุนประเภทสินค้าโภคภัณฑ์ยังอยู่ในช่วงขาลง โดยกองทุนทองคำติดลบ 0.76% และกองทุนน้ำมันติดลบ 3.8%
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
-
- Verified User
- โพสต์: 2547
- ผู้ติดตาม: 0
Re: บริษัทอะไรที่มีรายได้หลักจาก การรับจ้างบริหารกองทุน
โพสต์ที่ 10
MFC จุดเด่นอยู่ที่การบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เติบโตสูงมาก
และยังคงมีแนวโน้มที่จะรุกตลาดด้านนี้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีลูกค้าจากรัฐวิสาหกิจมาใช้บริการเพิ่มขึ้นอีกมาก
้ข้อมูลเริ่มปี 2557 MFC ทำการตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ดีมากในไตรมาส 1
จากข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ วันที่ 30 เม.ย.57 ของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน โดย 3 อันดับแรกได้แก่ อันดับ 1 เอ็มเอฟซี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,914.21ล้านบาท อันดับ 2 บลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,425.21 ล้านบาท และอันดับ 3 บลจ.ทิสโก้ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 102,792 ล้านบาท
อันดับ 1 Kasset 140276 ล้านบาท ส่วนครองตลาด 17.51%
อันดับ 2 MFC 139527 ล้านบาท ส่วนครองตลาด 17.41% แพ้อย่างเฉียดฉิว
อันดับ 3 ทิสโก้ 105124 ล้านบาท ส่วนครองตลาด 13.12%
อันดับ 4 บลจ. ไทยพาณิชย์ 104314 ล้านบาท ส่วนครองตลาด 13.02% แพ้อย่างเฉียดฉิวเช่นกัน
สำหรับขนาดตลาดอุตสาหกรรมของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้น มียอดเติบโตต่อเนื่องดังนี้
2553 573,382 ล้านบาท
2554 615,259 ล้านบาท โต 7.3%
2555 696,144 ล้านบาท โต 13.14%
2556 748,123 ล้านบาท โต 7.47%
ส.ค. 2557 10.07%
ส่วนการเติบโตล่าสุดของ MFC เฉพาะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เป็นเรือธงนั้น
ล่าสุดข้อมูลจาก เวปไซต์ของบริษัท
การจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การจัดการของ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)
ณ 30 กันยายน 2557
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 141,300.13 ล้านบาท เติบโตเทียบกับปี 2556 ที่อยู่ที่ 102,152 ล้านบาท โต 38.32% โตกว่าอุตสาหกรรมเกือบ 3 เท่าตัว
นายจ้าง 521 นายจ้าง
สมาชิก 198,096 ราย
และยังคงมีแนวโน้มที่จะรุกตลาดด้านนี้อย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีลูกค้าจากรัฐวิสาหกิจมาใช้บริการเพิ่มขึ้นอีกมาก
้ข้อมูลเริ่มปี 2557 MFC ทำการตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ดีมากในไตรมาส 1
จากข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ณ วันที่ 30 เม.ย.57 ของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน โดย 3 อันดับแรกได้แก่ อันดับ 1 เอ็มเอฟซี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,914.21ล้านบาท อันดับ 2 บลจ.กสิกรไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,425.21 ล้านบาท และอันดับ 3 บลจ.ทิสโก้ มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 102,792 ล้านบาท
ต่อมาไตรมาส 2 MFC มีส่วนครองตลาดปรับลดลงมาอยู่อันดับ 2 เพราะโดน Kasset แซงกลับอย่างเฉียดฉิวMFC ขึ้นอันดับ 1 รับบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพรัฐวิสาหกิจ-เอกชน
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี(MFC) กล่าวว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการก้าวสู่อันดับหนึ่งด้านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ โดย ณ วันที่ 30 เม.ย.57 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 136,914.21 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 34 จากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ 27 ธ.ค.56 ซึ่งอยู่ที่ 102,152.29 ล้านบาท เนื่องจากเอ็มเอฟซีได้รับความไว้วางใจจากรัฐวิสาหกิจหลายแห่งให้บริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ จึงมีเงินก้อนใหม่เข้ามาส่งผลให้ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของอุตสาหกรรม
อันดับ 1 Kasset 140276 ล้านบาท ส่วนครองตลาด 17.51%
อันดับ 2 MFC 139527 ล้านบาท ส่วนครองตลาด 17.41% แพ้อย่างเฉียดฉิว
อันดับ 3 ทิสโก้ 105124 ล้านบาท ส่วนครองตลาด 13.12%
อันดับ 4 บลจ. ไทยพาณิชย์ 104314 ล้านบาท ส่วนครองตลาด 13.02% แพ้อย่างเฉียดฉิวเช่นกัน
สำหรับขนาดตลาดอุตสาหกรรมของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพนั้น มียอดเติบโตต่อเนื่องดังนี้
2553 573,382 ล้านบาท
2554 615,259 ล้านบาท โต 7.3%
2555 696,144 ล้านบาท โต 13.14%
2556 748,123 ล้านบาท โต 7.47%
ส.ค. 2557 10.07%
ส่วนการเติบโตล่าสุดของ MFC เฉพาะกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เป็นเรือธงนั้น
ล่าสุดข้อมูลจาก เวปไซต์ของบริษัท
การจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภายใต้การจัดการของ
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)
ณ 30 กันยายน 2557
มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 141,300.13 ล้านบาท เติบโตเทียบกับปี 2556 ที่อยู่ที่ 102,152 ล้านบาท โต 38.32% โตกว่าอุตสาหกรรมเกือบ 3 เท่าตัว
นายจ้าง 521 นายจ้าง
สมาชิก 198,096 ราย
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
-
- Verified User
- โพสต์: 2547
- ผู้ติดตาม: 0
Re: บริษัทอะไรที่มีรายได้หลักจาก การรับจ้างบริหารกองทุน
โพสต์ที่ 11
ขนาดตลาดอุตสาหกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ส.ค. 2557 คือ 823,453 ล้านบาท เติบโตจากสิ้นปี 2556 เท่ากับ 10.07%
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger