โพสต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
นักลงทุนคงคุ้นเคยกับเครื่องหมาย H (Trading Halt) หรือการถูกห้ามซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราวเครื่องหมาย NP (Notice Pending) เพราะบริษัทจดทะเบียนที่มีข้อมูลรายงานและตลาดหลักทรัพย์อยู่ระหว่างรอข้อมูลจากบริษัท หรือเครื่องหมาย NR (Notice Received) เมื่อตลาดหลักทรัพย์ได้รับการชี้แจงข้อมูลจากบริษัทจดทะเบียนที่ได้มีการ Pending (NP) ไว้แล้ว
เครื่องหมาย SP (Trading Suspension) เป็นเครื่องหมายแสดงการห้ามซื้อขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว โดยแต่ละครั้งมีระยะเวลา “เกินกว่า” หนึ่งรอบการซื้อขาย เกิดจากสาเหตุดังนี้ หนึ่งบริษัทไม่สามารถชี้แจงหรือเปิดเผยข้อมูลได้ทันที สองบริษัทฝ่าฝืนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สามบริษัทไม่ส่งงบการเงินภายในเวลากำหนด สี่อยู่ระหว่างการพิจารณาเพิกถอนหรือปรับปรุงสถานะภาพเพื่อให้พ้นข่ายถูกเพิกถอน ห้าหลักทรัพย์จะครบกำหนดเวลาในการไถ่ถอนหรือการแปลงสภาพหรือการใช้สิทธิ หรือการขายคืน และหกมีเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการซื้อขายหลักทรัพย์
“หนูช่วยคุณยายทวดกวาดบ้านและเดินไปหยิบของใช้จำเป็นให้ท่านอยู่เสมอ ที่โรงเรียนหนูช่วยเพื่อนๆ พี่ๆ ทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน หนูแบ่งปันของใช้ให้เพื่อนเสมอ หนูจะไปช่วยคุณครูชั้นอนุบาลดูแลพาน้องๆ อนุบาลอาบน้ำและเปลี่ยนชุดนอนเพื่อเข้านอนในช่วงบ่าย เมื่อเลิกเรียนกลับบ้าน หนูจะรีบทำการบ้านให้เสร็จก่อนที่จะไปเล่นกับพี่ๆ ข้างบ้านและช่วยกันเก็บของเล่นทุกครั้ง และทุกวันก่อนนอนหนูจะอ่านหนังสือให้คุณยายทวดอยู่เสมอ แม้ว่าหนูจะอ่านไม่คล่อง หนูก็พยายามอ่าน สะกดเองเพราะคุณยายของหนูอ่านหนังสือไม่ออก” นี่คือส่วนหนึ่งของบทความ “ความดีที่หนูทำได้” ของเด็กหญิงณัฐชา วงศ์สุวรรณ นักเรียนชั้นป. 1 โรงเรียนบ้านโป่งแดง ตำบลทรายขาว อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย โดยน้องเป็นบุตรคนเดียว คุณพ่อและคุณแม่แยกทางกัน ไม่เคยเห็นหน้าคุณพ่อตั้งแต่เกิด มีโอกาสพบหน้าคุณแม่ปีละครั้งโดยอาศัยอยู่กับยายทวดตั้งแต่เกิดมาเพียงไม่กี่เดือน
กิจกรรม “ความดีที่หนูทำได้” เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ชุดนี้ “ทีโอทีจัดให้” ที่ บจม. ทีโอที มอบทุนการศึกษาให้โรงเรียน 20 แห่งและนักเรียน 60 ทุนใน 18 จังหวัดภาคเหนือในปี 2557 นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “งานพระกฐินพระราชทาน” ที่บจม. ทีโอที ได้รับพระมหากรุณาธิคุณตั้งแต่ปี 2526 โดยปีนี้จัดขึ้นที่วัดพระแก้ว จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา
หลังจากประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงานประจำระดับหนึ่ง มีอิสรภาพทางการเงินด้วยการวางแผนทางการเงินและผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนก่อนหน้า ได้ใช้ความรู้และประสบการณ์ในการเป็นกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านจนถึงปัจจุบัน ชีวิตที่เคยจัดสรรเวลาได้อย่างสมดุลต้องผกผันอีกครั้งหลังจากได้รับการติดต่อชักชวนให้เข้ามาช่วยงานที่ บจม. ทีโอที หรือองค์การโทรศัพท์ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ท่ามกลางคำถามและความห่วงใยอย่างมากจากคนหวังดีรอบข้างว่า คิดดีแล้วหรือ ทำไมและคิดอย่างไร โดยยังมีจำนวนไม่น้อยที่เห็นด้วย ให้กำลังและแสดงความขอบคุณ
หลังจากรับหน้าที่ในบทบาทเป็นหนึ่งในคณะกรรมการและเพิ่งได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่เพิ่มเติมในปัจจุบัน องค์กรที่มีพัฒนาการมาครบ 60 ปีที่เคยเป็นผู้ให้สัมปทานในอดีต รายได้สัมปทานกำลังจะหมดลง และต้องเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่มี “โครงสร้างต้นทุนที่สูง” ภายใต้สภาวะการทำงานแบบรัฐวิสาหกิจแต่ต้องดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่แข่งขันอย่างรุนแรงกับภาคเอกชนที่มีความแข็งแกร่ง นับว่าเป็น “งานที่ท้าทาย” มากที่สุดในชีวิตอีกครั้ง
แม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่ตัดสินใจเข้ามารับบทบาทนี้และยังต้องเปลี่ยนแปลงการจัดสรรเวลาของชีวิตในช่วงนี้ แต่เมื่อตั้งใจแล้ว ก็ต้องการทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพราะคิดว่าตนเองสามารถทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อผลประโยชน์ต่อประเทศและองค์กรได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลกับความก้าวหน้าในอาชีพการงานในอนาคต นี่คือสิ่งที่ตั้งใจเพื่อทำ “ความดีที่ผมทำได้”
ในฐานะ Value Investor นักลงทุนเน้นคุณค่าทุกคนไม่จำเป็นต้องทุ่มเททั้งกายและใจเพื่อผลตอบแทนที่สูงสุดตลอดเวลาการลงทุนของตน แต่ควรตั้งเป้าหมายการลงทุนให้สมเหตุสมผล การมีความสุขกับการลงทุนและมีโอกาสได้ “ทำความดีที่ทำได้” น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในยามที่ตลาดหุ้นไทยอาจจะไม่สร้างผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมดังเช่นที่เป็นมา
สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามบทความอย่างดีมาตลอด ด้วยภารกิจที่เพิ่มขึ้นและความตั้งใจที่จะทุ่มเทและหน้าที่ทำให้ดีที่สุด ผมจึงขอขึ้นเครื่องหมาย “SP” หรือยุติบทบาทในการเขียนบทความไว้ชั่วคราวก่อน ขอทุกท่านมีความสุขกับการลงทุนตลอดไป และหวังว่าจะมีโอกาสได้พบกันอีกในอนาคตครับ
บันทึกไม่สำเร็จ