เล่นหุ้นต้องดูคน/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1827
ผู้ติดตาม: 1

เล่นหุ้นต้องดูคน/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 1

โพสต์

การลงทุนในตลาดหุ้นนั้น นอกจากต้องดูข้อมูล “พื้นฐาน” ต่าง ๆ เช่นตัวเลขผลประกอบการและข้อมูลเชิงคุณภาพอื่น ๆ เช่นความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจแล้ว การดู “คน” ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและหุ้นก็เป็นเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่ง นักลงทุนแนว VI นั้น มักจะเน้นที่การดูผู้บริหารสำคัญและผู้บริหารสูงสุดของบริษัทเป็นหลักว่า พวกเขานั้นมีความสามารถและความซื่อสัตย์และ “เห็นแก่ผู้ถือหุ้น” หรือมองผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นมากน้อยแค่ไหน การที่จะเข้าใจในตัวผู้บริหารได้ดีก็ต้องคอยติดตามว่าพวกเขามีพฤติกรรมอย่างไรในประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับบริษัท และบางทีก็ในเรื่อง “ส่วนตัว” ด้วย ส่วน “นักเก็งกำไร” นั้น จำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์ในเรื่องของ “คน” มากขึ้นมาก เพราะนอกจากผู้บริหารแล้ว พวกเขาจะต้องมองไปถึงผู้ถือหุ้นใหญ่ นักเล่นหุ้น “ขาใหญ่” รวมไปถึงนักเล่นหุ้นคนอื่น ที่สนใจและเข้าไปเล่นหุ้นด้วย ว่าที่จริงหลาย ๆ คนนั้นดูเรื่องนี้เป็นหลัก ส่วนเรื่องพื้นฐานของบริษัทนั้นเป็นรอง เหนือสิ่งอื่นใด พวกเขาคิดว่าเป็นเรื่องยากที่จะวิเคราะห์หุ้นได้ถูกต้องจริง ๆ และถึงจะวิเคราะห์ได้ถูกต้อง มันก็เป็นเรื่อง “ระยะยาว” ที่ไม่มีประโยชน์มากนักในการเล่นหุ้นในช่วงสั้น ๆ หรือวันต่อวัน

เรื่องของคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับหุ้นที่มีทุกวันเรื่องแรกก็คือ การซื้อ-ขายของผู้บริหาร หรือที่เรียกว่า Insider Trading นั้น เป็นสิ่งที่ผมมักตามดูอยู่ห่าง ๆ โดยทั่วไป การซื้อขายจำนวนน้อยและทำโดยพนักงานหรือคู่สมรสนั้น ผมคิดว่าไม่ใคร่จะมีความหมายหรือมีสัญญาณอะไร ว่าที่จริงผมคิดว่าพวกเขาไม่ได้รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับบริษัท แต่การซื้อหรือขายโดยผู้บริหารระดับสูงสุดหรือเป็นคนสำคัญของบริษัทนั้น ส่วนใหญ่แล้วก็มักจะมีความหมายพอสมควร การขายหุ้นจำนวนมากซึ่งบ่อยครั้งทำเป็นเรื่อง “โอนออก” นั้น เราจะต้องวิเคราะห์ให้ออกว่ามันหมายความว่าอะไร? โดยส่วนใหญ่แล้วผมมองว่ามันอาจจะไม่ใคร่ดีนัก เขาอาจจะดูว่าหุ้นมีราคาสูงมากหรืออาจจะเกินพื้นฐานไปแล้วเขาจึงขาย หรือเขาแค่ต้องการลดความเสี่ยงที่มีหุ้นตัวเดียวมากเกินไป? เหล่านี้เป็นเรื่องที่เราต้องคิด

บางครั้งผู้บริหาร รวมถึงผู้บริหารสูงสุด เข้ามาซื้อหรือขายหุ้นบ่อย ๆ หรือ “ตลอดเวลา” ซึ่งในกรณีนี้ ส่วนมากแล้วจะเป็นการซื้อมากกว่าขาย ถ้าเป็นแบบนี้ ผมมักมีความรู้สึกว่า พวกเขาพยายาม “ส่งสัญญาณ” ว่า หุ้นเขา “ราคาถูกกว่าพื้นฐาน” ดังนั้น นักลงทุนหรือคนเล่นหุ้นจึงควรเข้ามาซื้อ เพราะ “ขนาดเจ้าของที่มีหุ้นมากมายอยู่แล้วยังเข้ามาเก็บหุ้นเลย” อย่างไรก็ตาม เราก็ต้องดูอย่างอื่นประกอบด้วย เพราะเจ้าของเองอาจจะมี “วาระซ่อนเร้น” อยู่ พวกเขาอาจจะอยากทำให้ราคาหุ้นสูงเพื่อเหตุผลบางอย่าง หรือไม่พวกเขาบางคนก็อาจจะคิดไปเองว่าหุ้นของตนเองมีราคาถูกโดยที่ตนเองก็วิเคราะห์ไม่เป็น และมักจะมีความ “ลำเอียง” ว่าหุ้นของบริษัทตนเองนั้นดีกว่าความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหน สำหรับผมเองแล้ว ผมไม่ชอบที่ผู้บริหารเข้ามาซื้อขายหุ้นตัวเองมากเกินไป เพราะมันอาจจะทำให้ราคาหุ้นไม่เป็นไปตาม “ธรรมชาติ”

ในช่วงที่ตลาดมีการเก็งกำไรในหุ้นโดยเฉพาะที่เป็นหุ้นตัวเล็กอย่างหนักนั้น นักเล่นหุ้นจำนวนมากนั้น ชอบดู “ขาใหญ่” ว่ากำลังเข้ามาเล่นหุ้นตัวใดตัวหนึ่งหรือเปล่า? เพราะเขาเชื่อว่า ราคาหุ้นจะปรับตัวแรงมากน้อยแค่ไหนสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ มีนักเล่นหุ้นรายใหญ่เข้าไปซื้อ ซึ่งจะทำให้หุ้นสามารถวิ่งขึ้นไปได้อาจจะหลายเท่าในเวลาอันสั้น ความคิดแบบนี้ผมคิดว่ามีอยู่มากในบรรดานักเล่นรายวันจำนวนมาก ดังนั้น นักเล่นหุ้นรายใหญ่จึงมักจะพยายามส่งข้อมูลหรือสัญญาณว่าตนเองได้เข้าไปซื้อหุ้นตัวนั้นจำนวนมากเพราะเห็นว่ามันเป็นหุ้นที่ดีราคาถูกและจะปรับตัวขึ้นไปอีกมากอาจจะหลายเท่า ผลก็คือ ราคาหุ้นก็มักจะมีการปรับตัวขึ้นไปอย่างรวดเร็วด้วยแรงซื้อของนักลงทุนและคนเล่นหุ้นรายย่อยจำนวนมาก แต่หุ้นลักษณะแบบนี้นั้นก็มักจะมีอันตรายสูงที่จะปรับตัวลงอย่างรวดเร็วถ้ารายใหญ่ขายหุ้นทิ้งเนื่องจากราคาอาจจะสูงเกินพื้นฐานไปมาก พูดถึงเรื่อง “ขาใหญ่” แล้ว ดูเหมือนว่าตลาดหุ้นไทยในยามนี้จะมีอยู่เป็นจำนวนมาก เหตุผลก็เพราะตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนสูงมายาวนานและนักลงทุนที่ “กล้าได้กล้าเสีย” สามารถทำกำไรมโหฬารจนกลายเป็นนักลงทุนรายใหญ่จำนวนมาก ผลก็คือ หุ้นตัวเล็กที่ “วิ่งกันระเบิด” นั้น แทบทุกตัวก็จะต้องมี “ขาใหญ่” บางคนหรือบางกลุ่มเข้าไปเล่นทั้งสิ้น

การดูผู้บริหารหรือเจ้าของที่เกี่ยวกับตัวหุ้นนั้น ยังต้องดูแรงจูงใจของพวกเขาด้วย ผู้บริหารบางคนนั้น ชอบ “ดูแลหุ้น” ตัวเองมาก เขาจะพยายามทำทุกวิถีทางที่จะทำให้หุ้นมีราคาดีมีปริมาณการซื้อขายสูง การพูดโปรโมตหุ้นนั้น จะทำอยู่ตลอดเวลาถ้าทำได้ นอกจากนั้น หลายคนยังเข้าไปซื้อขายหุ้นของตนเอง โดยอาจจะผ่านนอมินีหรือส่งเสริมให้คนอื่นเข้ามาช่วย “ทำราคา” ด้วย เจ้าของหรือผู้บริหารบริษัทบางคนโดยเฉพาะที่อยู่ในอุตสาหกรรมโตช้าหรือตะวันตกดินนั้น ตรงกันข้าม ไม่ดูแลหุ้นของตนเองเลย พวกเขาไม่สนใจที่จะพบนักลงทุนหรือให้ข่าวข้อมูลของกิจการแก่นักลงทุนถ้าไม่จำเป็น ราคาหุ้นจะเป็นอย่างไรเขาไม่สนใจ ในกรณีแบบนี้ บ่อยครั้งก็พบว่าพวกเขาไม่ต้องการจะจ่ายปันผลที่งดงามให้แก่ผู้ถือหุ้นด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขาอยากจะบริหารบริษัทคล้าย ๆ กับบริษัทส่วนตัวมากกว่า ในทั้งสองกรณีคือ ดูแลหุ้นตัวเองมากเกินไปและไม่ดูแลหุ้นเลยนั้น ผมไม่ชอบทั้งคู่ โดยที่ไม่ชอบมากกว่าก็คือการไม่ดูแลหุ้นเลย หุ้นที่ดีนั้นผมคิดว่า ควรจะเป็นหุ้นที่ผู้บริหารและเจ้าของควร “ดูแล” พอประมาณในด้านของการให้ข้อมูลและการจ่ายปันผลรวมถึงการปรับในเรื่องต่าง ๆ ยกเว้นการเข้ามาซื้อขายหุ้นเอง การดูแลหุ้นมากเกินไปนั้น ผมคิดว่ามันทำให้หุ้นอาจจะไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง ราคาอาจจะเกินมูลค่าที่แท้จริง ในขณะที่หุ้นที่เจ้าของไม่ดูแลเลยนั้น ผู้ถือหุ้นมักจะไม่ได้ผลตอบแทนตามพื้นฐานที่ควรเป็นและผมมักจะหลีกเลี่ยง

ประวัติหรือพฤติกรรมของผู้บริหารหรือเจ้าของหุ้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมมอง ถ้าเจ้าของมีประวัติเป็น “นักเล่นหุ้น” เคยซื้อขายหุ้นในฐานะ “ขาใหญ่” ผมจะไม่ชอบ ข้อแรกก็คือ ผมไม่แน่ใจในเรื่องทักษะหรือความสามารถในการบริหารธุรกิจที่จะทำให้บริษัทประสบความสำเร็จ ข้อสองก็คือ ผมคิดว่าเขามักจะเน้นไปที่การทำหรือดูแลราคาหุ้นมากเกินไปซึ่งนี่อาจจะนำไปสู่ราคาหุ้นที่สูงกว่าพื้นฐาน ผู้บริหารที่ดีนั้น ควรเป็นคนที่คลุกคลีและสร้างธุรกิจด้วยตนเองหรือสืบทอดธุรกิจต่อมาอย่างประสบความสำเร็จ ในด้านของประวัติทางการเงินนั้น ผมชอบคนที่มีความรับผิดชอบและน่าเชื่อถือ ไม่เคยถูก “Blaklist” หรือถูก “ตราหน้า” ในสังคมของสถาบันการเงินว่าเป็นลูกหนี้ที่ “เบี้ยว” หนี้ทั้งที่ธุรกิจยังพอไปได้ เช่นเดียวกัน เขาก็ควรจะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อลูกค้าและสังคมไม่มีประวัติที่ “น่ารังเกียจ” และสุดท้ายก็คือ เมื่อนำบริษัทเข้ามาจดทะเบียนซื้อขายหุ้นและเป็นบริษัทมหาชนแล้ว เขาควรที่จะต้องคำนึงถึงนักลงทุนเสมอเวลาที่จะตัดสินใจทำอะไรโดยเฉพาะในสิ่งที่มี “ผลประโยชน์ขัดกัน” ระหว่างตนเองและบริษัทในฐานะที่เป็นของมหาชนที่เขาเป็นผู้บริหาร

สุดท้ายที่ผมจะพูดถึงก็คือเรื่องของคนที่เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นหรือเล่นหุ้นแต่ละตัวว่าพวกเขามีหลักการหรือกลยุทธ์การลงทุนหรือเล่นหุ้นอย่างไร เป็น VI หรือเป็นแนวเทคนิค พฤติกรรมของพวกเขาที่ผ่านมาเป็นอย่างไรเช่นลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว ต่าง ๆ เหล่านี้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เราต้องค่อย ๆ เรียนรู้และต้องอาศัยประสบการณ์เพราะมันไม่มีใครเขียนเป็นบันทึกให้อ่านหรือบางทีเราอ่านพบก็อาจจะไม่ใช่เรื่องจริง ถ้าจะถามว่าเราจะต้องรู้ไปทำไมว่าหุ้นตัวนั้นตัวนี้ใครเป็นเจ้าของหรือใครเข้าไปเล่น คำตอบของผมก็คือ การที่รู้ว่าใครเข้าไปเล่นหุ้นตัวไหนนั้น อาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยบอกหรือเตือนเราว่า ราคาหุ้นที่เราเห็นนั้น อาจจะต่างจากมูลค่าพื้นฐานได้มากน้อยแค่ไหน หุ้นบางตัวนั้น ผมคิดว่าราคาอาจจะสูงกว่ามูลค่าพื้นฐานได้หลายเท่า กลายเป็นหุ้น “อภินิหาร” ได้ เพียงเพราะคนที่เข้าไปเล่นนั้นกล้าทำและทำได้ ในกรณีแบบนี้เราอาจจะต้องหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปเล่นถ้าไม่ต้องการ “หายนะ”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nevercry.boy
Verified User
โพสต์: 4641
ผู้ติดตาม: 0

Re: เล่นหุ้นต้องดูคน/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผี มีจริงหรือไม่?

แต่ "จ้าว" ในตลาดหุ้น มีจริงแท้แน่นอน พันเปอร์เซนต์

เข้าใจตรงกันนะ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
monz
Verified User
โพสต์: 39
ผู้ติดตาม: 0

Re: เล่นหุ้นต้องดูคน/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 3

โพสต์

55555+++ (^___^)
ลูกหิน
Verified User
โพสต์: 1217
ผู้ติดตาม: 0

Re: เล่นหุ้นต้องดูคน/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
Red24
Verified User
โพสต์: 64
ผู้ติดตาม: 0

Re: เล่นหุ้นต้องดูคน/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ข้อเตือนใจของ อ. มีประโยชน์มาก ขอบคุณครับ
I feel control.
yoko
Verified User
โพสต์: 4395
ผู้ติดตาม: 0

Re: เล่นหุ้นต้องดูคน/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

โพสต์ที่ 6

โพสต์

โบราณว่า ดูนางให้ดูแม่ ถ้าจะดูให้แน่ ต้องดูถึงปู่ย่าตายาย555
โพสต์โพสต์