แล้วข้าจะว่าอย่างไรดี

[ม้าเฉียว]

สองถึงสามปีก่อน ข้าเดินทางไปทั้งหล้า ค้นหายอดคนที่จะช่วยก่อร่างสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ ช้างเผือกชั้นยอด ย่อมซ่อนกายอยู่ในป่าลึก ข้าคิดในใจ จากนั้นข้าก็ออกเดินทางไปลงใต้ เพราะได้ข่าวว่ามีเพชรเม็ดงามเร้นกายอยู่ ท่านนี้เป็นหมอเทวดาที่รักษาคนไข้จากทั่วหล้า ว่ากันว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของคนที่มารักษา มาจากแดนไกลทั้งนั้น ข้าเดินทางแรมเดือนก็มาถึงบ้านของท่านหมอเทวดา ก็พบว่าบ้านของท่านช่างโอ่โถง สะอาดสะอ้าน ข้างๆบ้านมีเรือนพักให้คนไข้และสหายญาติมิตรได้พักผ่อน ข้าอดทนรอจนกระทั่งเย็นจึงได้พบท่านหมอ แรกเห็นก็รู้สึกได้ถึงความเป็นมิตร ยิ่งได้พูดคุยกันยิ่งถูกคอ แล้วข้าก็ตัดสินใจเอ่ยปากชวนท่านหมอให้มาร่วมกันสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ด้วยกัน ด้วยข้าเล็งเห็นว่าความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ของท่านจะสามารถถ่ายทอดไปในวงกว้างและทำให้ช่วยเหลือผู้คนได้อีกมาก ท่านหมอไม่ลังเลที่จะรับข้อเสนอของข้า ส่วนข้าก็ยินดีรับผิดชอบเรื่องการขนสัมภาระและเครื่องมือแพทย์มายังอาณาจักรของข้า รวมทั้งทุนรอนไว้ให้ครอบครัวของท่าน ซึ่งรวมแล้วประมาณ 15 เล่มเกวียน

จากนั้นข้าก็เดินทางต่ออีกร้อยลี้ เพื่อตามหาบุรุษผู้หนึ่ง ว่ากันว่าท่านนี้ไปอยู่ที่แห่งใดแล้ว ข้าวปลาอาหารจะสมบูรณ์ ลูกเล็กเด็กแดงจะชื่นชอบเขามาก เพราะท่านผู้นี้สามารถเสกน้ำนมให้กลายเป็นเกล็ดหิมะละเอียดๆไว้ทานแก้ร้อนได้ดีทีเดียว บุรุษท่านนี้ยังเป็นคนชอบสร้างเรือนแรมชั้นเลิศไว้ให้คนต่างบ้านต่างเมืองได้พักผ่อน บางแห่งก็เลื่องชื่อกระจอนกระจายไปทั่วหล้า ข้าเล็งเห็นว่าหากได้ท่านมาผู้นี้มาช่วยงาน อาณาจักรของข้าคงสมบูรณ์พูนสุข ข้าวปลาอาหารก็สามารถจัดเตรียมสำหรับทุกคนได้รวดเร็ว และทันกับความต้องการ แขกบ้านแยกเมืองก็คงประทับใจกับการต้องรับขับสู้ และกลับมาเยือนอาณาจักรของข้าอีก ข้าตามหาบุรุษท่านนี้อยู่นาน ในที่สุดก็พบ ท่านเป็นคนสูงใหญ่ เคราหนา จมูกโด่ง ชอบขับล้อเลือนความเร็วสูง ยิ่งได้พูดคุยก็พบว่า เป็นคนมีวิสัยทัศน์ก้าวหน้า ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ท่านบอกกับข้าว่า สักวันหนึ่งผู้คนทั้งโลกจะได้ลิ้มชิมรสอาหารสูตรพิเศษที่ท่านคิดค้นขึ้นมา และได้ประทับใจกับเรือนแรมของท่าน ความฝันของบุรุษผู้นี้ทำให้ข้าทึ่งยิ่งนัก ข้าคารวะท่านด้วยข้าวของเงินทอง 10 เล่มเกวียน เพื่อขอให้ท่านมาช่วยเหลือข้า และข้าก็โชคดีที่ท่านตอบรับคำเชิญ

การเดินทางหลายร้อยลี้ของข้า ทำให้ข้าสังเกตเห็นว่า หลายที่ที่ข้าเดินทางไปนั้น จะมีพ่อค้าใหญ่รายหนึ่งหอบข้าวหอบของมากมายมาขาย ผู้คนก็จะมารุมล้อมกันแน่น ทำให้ข้าแปลกใจว่าอะไรทำให้ผู้คนมาแย่งซื้อข้าวของกันขนาดนั้น สอบถามแล้วจึงได้ความว่า พ่อค้าท่านนี้ขายของถูกมาก ยิ่งในยุคที่ข้าวยากหมากแพง ผู้คนยิ่งหลงไหล ข้าจึงฉุกคิดขึ้นได้ว่า หากอาณาจักรของข้ามีพ่อค้าท่านนี้ คงจะดีไม่หยอก ข้ารีบเข้าไปเจรจากับท่าน เพื่อขอให้ท่านไปค้าขายที่อาณาจักรของข้า พ่อค้าท่านนี้สมแล้วที่เป็นพ่อค้า เขาบอกข้าว่า จะเชิญให้ไปเฉยๆไม่ได้หรอก เพราะไม่แน่ว่าการค้าขายในอาณาจักรของข้าจะรุ่งเรืองอย่างที่เขาเป็นอยู่ตอนนี้ จึงขอให้ข้ามอบข้าวของเงินทองให้ 10 เล่มเกวียน เป็นเครื่องรับประกัน แค่ 10 เล่มเกวียน สบายมาก ข้านึกในใจ

ข้าเดินทางกลับอาณาจักรพร้อมยอดคนทั้งสามด้วยความอิ่มเอม เพชรเม็ดงามที่เดินทางกว่าพันลี้ไปเสาะหา บุรุษทั้งสามไม่ทำให้ข้าผิดหวัง อาณาจักรของข้ารุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ ข้าพิจารณาแล้วเห็นว่าทุกอย่างดูเข้าที่แล้ว ถึงเวลาที่ข้าจะขอนอนหลับพักผ่อนสักสองสามปี

เวลาผ่านไปสองปีกว่า บุรุษทั้งสามเข้ามาปลุกข้า ข้าเองไม่แน่ใจว่ากำลังฝัน หรือตื่นอยู่ ท่านพ่อค้าบอกกับข้าว่า ข้างนอกมีคนนำเครื่องบรรณาการ 16 เล่มเกวียน มาขอให้ท่านไปค้าขายในอาณาจักรอื่น ท่านจะว่าอย่างไร ส่วนบุรุษผู้ที่ช่วยให้ข้าวปลาอาหารสมบูรณ์ก็บอกว่า ราชาจากแดนไกลนำทรัพย์สินเงินทอง 30 เล่มเกวียนมาขอให้ไปช่วยเหลือ ท่านจะว่าอย่างไร ส่วนหมอเทวดาบอกว่า ราชาจากอาณาจักรที่เกิดโรคระบาดมาขอร้องให้ไปช่วยพร้อมขอบคุณมาล่วงหน้าด้วยเงินทอง 25 เล่มเกวียน ท่านจะว่าอย่างไร

แล้วข้าจะว่าอย่างไรดี

[สุมาอี้]

ลึกซึ้งยิ่งนัก แต่ข้าน้อยก็เบาปัญญาไม่อาจช่วยหาคำตอบให้ท่านได้เหมือนกัน  :D

[leaderinshadow]

ผู้น้อยขอเดาว่า
ท่านหมอคือ BH หรือไม่ก็ BGH
พ่อค้าคือ bigc หรือ CP7-11
ผู้ทำอาหารรสเลิศน่าจะเป็น CPFหรือ PB หรือ S&P

[ม้าเฉียว]

บุรุษทั้ง 3 ของข้า แต่เดิมเป็นคนสมถะ ไม่มีใครใคร่จะสนใจ เอาไปพูดที่ไหน ต้องอธิบายกันสามวันสามคืนถึงจะพอรู้เรื่องว่านิสัยใจคอเป็นอย่างไร คนแวะเวียนไปเยี่ยมก็บางตา ใครๆก็ว่าไม่น่าตื่นเต้น เหมาะกับการคบหายาวๆๆๆๆ ค่อยๆเติบโตไปด้วยกัน

แต่เวลาผ่านไปแค่ 2 ปีกว่า ดูเหมือนใครๆก็พูดถึง บุรุษทั้ง 3 ของข้าดูเหมือนจะกลายเป็นดารา แลซ้ายแลขวาเหมือนกอล์ฟ ไมค์ อีกหนึ่งหน่อก็ไม่ต่างจาก เรน แต่ละวันมีคนแวะเวียนพูดจาคบหาสมาคมกันแน่น จนหัวกระไดไม่เคยแห้ง ทำเอาข้าตกอกตกใจในบางเพลา นึกว่านั่งบนรถไฟเหาะ ท่านหมอเทวดาของข้า ตั้งแต่คบเพื่อนไหมจากแคว้นเมอร์ไลออน ก็ดูจะแตะตากลายเป็นเพชรจรัสแสง พ่อครัวหัวป่า ใครๆก็ดูจะกล่าวขวัญถึงความคิดเริดหรูอลังการมากมาย จนข้าเองยังอายที่จะเข้าไปเจรจาด้วย เช่นเดียวกับพ่อค้าใหญ่ที่รัก ที่เหมือนจะมีข่าวรักโปรโมทกับพ่อมดคุณค่าชื่อก้องหล้าวรากร ก็โด่งดังขึ้นมาจนน่าใจหาย

อาณาจักรของข้า ฤ จะคับแคบเกินไปเสียแล้ว สำหรับดาราทั้ง 3

[อาฮุย]

555...
คุณม้าเฉียว เป็นคนมีความสามารถ ย่อมสามารถหาผู้มีฝีมือใหม่ได้แน่ ๆ
ส่วนคนเก่า เมื่อสามารถหาได้ ย่อมมีความสามารถใช้ได้เช่นกัน
ขอให้ดินแดนของคุณม้าเฉียวอุดมสมบูรณ์ตลอดไปนะครับ  :D  :D

[leaderinshadow]

เดาใหม่ครับ
ท่านหมอเทวดา=BH
พ่อครัวหัวป่า = MINT
พ่อค้าใหญ่ที่รัก = ไม่แน่ใจ MBK หรือ BIGC อะ ครับ

[ม้าเฉียว]

เดาใหม่ครับ
ท่านหมอเทวดา=BH
พ่อครัวหัวป่า = MINT
พ่อค้าใหญ่ที่รัก = ไม่แน่ใจ MBK หรือ BIGC อะ ครับ

อะเกือบถูกหมดแล้ว เหลือฟันธงคนสุดท้าย

[leaderinshadow]

ท่านเล่าปี่ไปเรียนเชิญท่านขงเบ้งถึง 3 ครั้ง จึงได้ท่านขงเบ้งมารับใช้
ถ้าท่านโจโฉมาเสนอโดยยกหัวเมืองใหญ่ 3 เมือง ท่านเล่าปี่ก็คงไม่ยก
ขงเบ้งให้ เพราะท่านขงเบ้งสามารถช่วยท่านเล่าปี่ ให้ครอบครองเมือง
มากกว่า 3 หัวเมืองใหญ่เป็นแน่แท้
เฉกเช่นเดียวกันที่ บุรุษทั้ง 3 ของท่านม้าเฉียวมีผู้มาขอเสนอซื้อตัวในราคาแพง
เพราะบุรุษทั้ง 3  สามารถสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปของผู้ลงทุนใหม่ ที่มาซื้อในราคาแพง

[gutenberg]

หมอเทวดา = bh
พ่อครัว = mint
พ่อค้า = bigc

--ฟันธง--

[CK]

ท่านจะว่าอย่างไรนั้น ข้าหาทราบไม่


แต่ข้าสังหรณ์ใจว่า... ท่านคงจะต้องดั้นด้น
ออกเดินทางไกล เพื่อค้นหาเพชรเม็ดงามอีกครั้ง
อาจจะต้องเสียเวลาระหกระเหินเดินทาไปอีกสามสี่ปี


หากท่านพบแล้ว อย่าลืมแจ้งให้ข้าน้อยทราบด้วย

:lol:

[BLuEMaNiA]

หากเหตุการณ์เป็นเช่นนั้นจริง ท่านคงต้องปล่อยสหายทั้ง 3 ไปตามความต้องการของพวกเขาเอง เนื่องจากก่อนหน้านี้ ท่านก็ได้ใช้ข้าวของเงินทอง แลกเปลี่ยนกับความช่วยของพวกเค้า มาจากสถานที่แห่งหนึ่ง ที่จะต้องรู้สึกสูญเสีย เช่นเดียวกับที่ท่านรู้สึกอยู่ตอนนี้เช่นกัน และเวลานี้ ก็เป็นท่านที่ต้องรู้สึกเช่นนั้นบ้าง ดังนั้น ท่านจึงไม่จำเป็นต้องคิดมาก เพราะท่านไม่มีทางเลือกใด ๆ นอกจากการปล่อยพวกเขาไป จะใช้ข้าวของเงินทองที่มากกว่าไปรั้งพวกเค้าไว้ ก้อรังแต่จะก่อให้เกิดวังวนแห่งความโลภที่ไม่จบสิ้น ทางที่ดี ท่านก็เพียงแต่กลับไปเป็นเช่นดังสถานะเดิม คือมิได้มีพวกเค้า และผลประโยชน์ที่เมืองของท่านได้รับ ก้อคือกำไรจากข้าวของที่ท่านได้ลงทุนไป

แต่ถ้าสถานการณ์ของท่านคือสารพันหลักทรัพย์ที่หลายผู้หลายนามกำลังทายกันอยู่ สถานการณ์มันก้อจะแตกต่างกันไป เนื่องจากท่านมีทางเลือก คือเก็บสหายเก่าไว้หรือปล่อยสหายเก่าไป เพื่อแลกกับข้าวของเงินทองที่มากกว่าที่ท่านเสียไปมาก สิ่งที่แตกต่างกันกับสถานการณ์แรกคือ สหายของท่านมิได้เป็นผู้เรียกร้องที่จะจากไป แต่เป็นใจของท่านเองต่างหากที่ชั่งน้ำหนักระหว่างมิตรที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งสามนี้ กับข้าวของและกำไรมากมายที่ท่านจะได้รับ ซึ่งผลตัดสินทุกอย่าง จะอยู่ที่ตราชั่งของท่านว่าจะโอนเอียงไปในทิศทางใด

ข้าน้อยมิอาจชี้แนะท่านได้ และหาได้มีความรู้เพียงพอจะไปชี้แนะใครได้ไม่ เพียงแต่ท่าน ก็เพียงแต่พิจารณาสหายที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งสามนี้ ว่าสหายท่านใด จะสามารถทำประโยชน์ให้กับเมืองของท่านได้บ้าง พิจารณาเหมือนกับที่ท่านเคยพิจารณาเมื่อแรกรับสหายเหล่านี้มาร่วมพัฒนาเมือง เพียงแต่พิจารณาด้วยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น นั่นก้อคือด้วยปริมาณข้าวของเท่ากับที่ท่านจะได้รับจากการปล่อยสหายเหล่านี้ไปให้กับเมืองอื่นนั่นเอง

ข้าวของ 10 เล่มเกวียน 15 เล่มเกวียน ที่ท่านเคยใช้และคิดว่ามันเป็นจำนวนน้อยนิดนั้น มันยังเป็นจำนวนที่น้อยนิดและคุ้มค่าที่จะใช้จ่ายเพื่อการนี้หรือไม่ เมื่อมันได้กลายเป็น 16 เกวียน 25 เกวียน และ 30 เกวียน ซึ่งคนที่จะตอบได้ ก็คือท่านนั่นเอง

ข้าน้อยเพิ่งเข้ามาในประเทศนี้ และเพิ่งโต้ตอบกับท่านเป็นคนแรก รวมทั้งข้าน้อยไม่ถนัดในการใช้วาจาด้วยภาษาของท่าน หากได้เอ่ยวาจาใด ให้เป็นที่ไม่พอใจของท่าน ข้าน้อยขออภัยมา ณ โอกาสนี้

[artvr4]

เอาเป็นว่า ถ้าหากท่านคิดจะหามิตรใหม่ เข้ามาสู่อาณาจักร ของท่าน โปรด แนะนำ ด้วย เผื่อว่าข้า อาจจะชักชวน มาช่วยสร้างกระท่อม ข้าน้อยบ้าง :lol:

ข้าน้อยก็มี มิตรที่เป็นญาติกับ มิตรสหายของท่าน อยู่เหมือนกัน ยังรักใคร่กันดี มิอาจ ตัดขาดอันเนื่อมาจากได้เกือกูลกันมาตามอาธยาศัย :lol:

[สามัญชน]

เพชรในตมเยี่ยงนี้ มิอาจเสาะหาได้อีกโดยง่าย...

อีกทั้งทั้งสามท่านล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดคุณประโยชน์แก่ชาวเมืองเป็นอันมาก  เงินทองที่ผู้อื่นนำมามอบให้ท่านในครั้งนี้  ข้าพเจ้าพินิจดูแล้วจะว่ามากก็มากอยู่  แต่ไม่ถึงกับมากเกินไป

หากท่านยินยอมแลกเปลี่ยน เงินทองก็คงจะจมอยู่ในคลังมิก่อประโยชน์อันใด  ชาวเมืองย่อมจะร้องเรียนว่าท่านไม่ดูแลทุกข์สุขเลย

ถ้าเยี่ยงนั้น  ข้าพเจ้าขอเสนอว่าท่านควรจะเริ่มเสาะหายอดคนผู้เร้นกายให้พบก่อนและยอดคนนั้นจักต้องมีความสามารถที่เหนือกว่าด้วย  เยี่ยงนี้ท่านจึงค่อยตกลงใจแลกเปลี่ยน.............

ถ้าทำเยี่ยงนี้ชาวเมืองก็จะแซ่ซ้องท่านตราบนานเท่านาน........

[nanchan]

ข้าก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร

ก็ขอ คารวะ3จอก  

ข้าไม่มีเหล้ามีแต่น้ำผลไม้

ถ้าท่านห่วงใยสุขภาพก็ชวนมาดื่มด้วยกัน

ถ้าเมื่อใดท่านสามารถหายอดขุนพลที่จะสามารถสร้างอาณาจักรได้ใหม่

ก็อย่าลืม ส่งหมาเร็ว เอ้ยม้าเร็วซิ มาบอกกล่าวกัน

[thawattt]

เรียนท่านแม่ทัพ ม้าเฉียว

ถ้าข้าพเจ้าดูแล้วว่าหุ้นส่วนที่ข้าพเจ้าลงทุนนั้น มันเป็นเครื่องจักรปั่นเงินปั่นทองให้ข้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยมองไปอีกชั่วชีวิตของข้าแล้ว เจ้าเครื่องจักรปั่นเงินปั่นทองของข้ามันก็ไม่รู้จักหยุดเหนื่อย และข้าก็เที่ยวแสวงหาเครื่องจักรปั่นเงินปั่นทองในทั่วหล้า ทั้งที่อยู่ในอาณาจักรต่างๆที่ห่างไกลแล้ว ข้าก็ไม่แน่ใจว่าจะหาเครื่องจักรปั่นเงินปั่นทองแบบนี้ที่ข้าไว้วางใจได้ แบบนี้ ข้าก็คงไม่ทำอะไรกับมันหละครับ และในแต่ละปีที่ปั่นเงินปั่นทองออกมา ถ้าราคาของหุ้นส่วนของข้ายังหัวกระไดไม่แห้ง ข้าก็อาจลองนำเงินทองที่ได้ค่อยทดลองไปหาหุ้นส่วนใหม่ที่ข้าคิดว่าจะช่วยปั่นเงินปั่นทองให้ข้าเพิ่มเติมไม่ด้อยกว่าหุ้นส่วนเดิม ในราคาที่ไม่แพงนัก

แต่ถ้าข้าพบว่า นะดินแดนไกลข้างหน้า ยังมีแหล่งทำกินแห่งใหม่ที่อุดมสมบูรณ์กว่าเก่า และมั่นใจว่ามันจะเป็นเครื่องจักรปั่นเงินปั่นทองตัวใหม่ที่ดีกว่าเก่าและไม่รู้จักหยุดเหนื่อยเช่นกัน แบบนี้ข้าก็อาจเปลี่ยนใจไปหาหุ้นส่วนใหม่ แต่ข้าจะค่อย ๆ ทำนะท่าน เพราะหุ้นส่วนเดิมของข้ามันเป็นหุ้นส่วนที่ข้าไว้วางใจได้ แต่หุ้นส่วนใหม่ข้าอาจต้องใช้เวลากับมันสักพักจนกว่าข้าจะมั่นใจ ข้าจึงจะไปยึดหุ้นส่วนใหม่นะแดนไกลนั้นให้มากขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป

[riname]

.........ท่านหมอ   ......
.........หากท่านจะไป  ข้าขอ 10 เล่มเกวียนคืนเถอะ....
.........เพราะหมอดีเช่นท่าน....
หากได้ช่วยเหลือชาวประชา....จักเป็นกุศลแก่ปวงชน.....ส่วนที่เหลือข้าฝากไว้กับท่าน.......ใว้เป็นค่ารักษาคนยากไร้....หากนึกถึงข้า   แบ่งยาที่ดีมาที่เมืองข้าบ้าง.......
.........ท่านพ่อค้า....ท่านเป็นกว้างไกล  ข้าขอคืนส่วนที่ข้าให้ท่านไป...
เพราะข้าจักต้องเตรียมไว้  ....ให้กับท่านอื่นที่จะมาแทนท่าน.....
เสียดายที่คบหากันมานาน   เพียงแต่จากกันคราวนี้.....หว้งว่าท่านอาจจักต้องกับคืนมาหาข้าอีกเป็นแน่แท้......หากข้ามีข้อเสนอให้ท่าน.....
..........สำหรับท่าน....ส่วนที่ให้ท่านไป.....ข้าขอคืนเพิ่ม....จากที่ข้าให้ท่าน
แล้วแต่ท่านจักให้คืนข้าได้   ตอนนี้ข้าได้เรียนรู้เคล็ดวิชาใหม่......
....จากวรยุทธของท่านแล้ว.......
.......การอันใดที่ผ่านมา     ข้าคารวะด้วยใจ..........

[007-s]

โห......ท่านจอมยุทธทั้งหลาย ข้าน้อยขอคาราวะค่ะ






ตอนแรกเข้าใจว่า เข้าเวบผิด ...นึกว่า เวบ ฮั่วหยวนเจี่ย ดอท คอม

 :mrgreen:  :mrgreen:

[miracle]

เหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลาย เมื่อทางมา ณ สำนัก ไทยวีไอแล้ว
ไม่พักดื่มน้ำแก้กระหายก่อนแล้วค่อยเดินทางต่อดีไหมและท่าน
เพื่อให้พวกท่านทั้งหลาย ชี้แนะและเปลี่ยนกระบวนยุทธ์แก่ท่านเจ้าสำนักไทยวีไอเลย
จะได้มาไม่เสียเที่ยว

[riname]

.........ม้าดีมีคู่ขุนพล......
.........ม้าทนคนอยู่มิจาก....
.........ม้าพรากหากไปใยคิด.....
.........ม้าเฉียวมีจิตมากปํญญา.......

[thawattt]

ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์หุ้น (จะเป็นเพชรในตม หรือเป็นเพชรเทียม) :lol:

[thawattt]

ธุรกิจดี คู่ผู้บริหารที่ดีด้วย เลิศล้ำ
ธุรกิจดี คู่ผู้บริหารธรรมดา พอไหว
ธุรกิจไม่ดี คู่ผู้บริหารดี หืดจับ
ธุรกิจไม่ดี คู่ผู้บริหารธรรมดา หลีกเลี่ยง


ธุรกิจไม่ดี และซ้ำเติมกับผู้บริหารยอดแย่ หลีกหนีไปไกล ๆ อย่าข้องแวะเด็ดขาด

[riname]

............คารวะอีกสักจอก.............
............ธุรกิจดี       คนดี       มีน้อย....
............ธุรกิจดี       คนไม่ดี    ก็มาก...
............ธุรกิจไม่ดี   คนดี        ใช่เยอะ....
............ธุรกิจไม่ดี   คนไม่ดี     เต็มเมือง.....
..............................................................
............สิ่งที่เป็น   แลเห็น        คือ......
............ธุรกิจมีดีทั้งนั้น     เพียงแต่   มีปํญหา....
............คนไม่ดีไม่มีหรอก  เพียงแต่   เสแสร้ง....
............อนิจจาปัญญา      ม้กเกิดตอน   สูญเสีย.......

[สุมาอี้]

เรียนท่านม้าเฉียว

ท่านคิดจะซื้อ MINT กลับที่เท่าไรครับ ข้าน้อยขอพึ่งปัญญาท่าน  

สุมาอี้

[ม้าเฉียว]

ซัก 6-7 บาท ครับ ไม่รู้ว่าจะลงมารึเปล่า เพราะภาพการขยายธุรกิจที่ประกาศออกมามันสวยหรูเหลือเกิน จนเผลอเคลิ้มตามไปด้วยเลย 555
โรงแรมตอนนี้ 15 แห่ง (รวมทั้งที่เป็นเจ้าของ บริหาร resident และ Time share จะขยายเป็น 30 แห่ง (มีแบรนด์ใหม่ด้วยนะ) ในปี 2010 เน้นการเข้าไปบริหารจัดการโดยใช้ชื่อ Anantara ส่วนโรงแรมที่เป็นเจ้าของจะเน้นเรื่อง Mixed-Use กับ Residential Component
สรุปแล้ว
โรงแรมที่เป็นเจ้าของจาก 760 ห้อง--->1003 ห้อง
เป็นเจ้าของและบริหารเอง 1292 ห้อง--->1610 ห้อง
เป็นเจ้าของบางส่วนและบริหารเอง 306 ห้อง--->771 ห้อง
รับจ้างบริหารจาก 0 ห้อง --->1238 ห้อง
Residence 160 ห้อง --->473 ห้อง

ร้านอาหารก็สวยหรูไม่แพ้กัน
ที่เป็นเจ้าของจาก 547 ร้าน --->727 ร้าน ในปี 2010
ที่เป็นแฟรนไชส์จาก 119 ร้าน ---> 519 ร้าน ในปี 2010

เหลืออีก 4 ปี กับกับยอดขายทะลุ 2 หมื่นล้าน น่ารักน่าลุ้นจริงๆ

[teetotal]

อันตัวข้า แต่ก่อนเก่านั้น อุปมาไปก็เปรียบดั่ง คนเลี้ยงสุกร
เคยซื้อสุกรพันธุ์ดีได้ในราคาเยาว์
หากแต่ไม่รู้ค่า ขุนเลี้ยงโตขึ้นนิดหน่อยก็หลงขายไปอย่างไม่รู้ค่า
แล้วก็เฝ้าเสียดาย ดูสุกรที่ข้าพเจ้าเคยขุนเลี้ยง เติบโตเจริญวัย ในคอกของคนอื่น
โดยยังไม่เคยลิ้มลองรสอันโอชาของสุกรพันุ์ดีนั้น แม้สักครั้ง

บัดนี้ ข้าได้อ่านทบทวน คัมภีร์  เลี้ยงห่านทองคำ ของปรมาจารย์ เทพ
จึงอยากเปลี่ยนวิถีกลับมาเลี้ยงห่านทองคำ แทนที่จะเลี้ยงสุกรขาย เฉกเช่นที่เคยเป็น
สนใจห่านทองคำพันธุ์ MINT ยิ่งนัก เฝ้ามองอยู่นานแล้ว
หากแต่ยังติดขัดเรื่องราคา ในท้องตลาด
หาก ราคาของ MINT ลงมาถึง 6-7 บาท อย่างท่าน ม้าเฉียว สนใจ
ข้าก็จะมีความยินดีปรีดาเป็นยิ่งนัก
และจะเอาเงินค่าจ้างของข้าพเจ้า สัก 2 เดือนครึ่ง ซื้อห่านทองคำ พันธุ์ MINT
มาเลี้ยงไว้ในครอบครอง

ด้วยความนับถือในสติปัญญาของพวกท่านทั้งหลาย

[สุมาอี้]

รอบที่แล้วเกือบแตะ 8 บาท ไม่รู้รอบนี้จะแตะ 7 บาทได้หรือไม่นะครับ  :ep:

[Oatarm]

รู้สึกตัวละครสามก๊ก มาดลดแล่นใน TVI เยอะนะครับ  เท่าที่เห็นก็มี
ม้าเฉียว
สุมาอี้
ขงเบ้ง
จูล่ง(เห็นใน MSN สุภาพบุรุษทางการเงิน )
เล่าปี่
ไม่เห็นมีพวกง่อก๊ก มีแต่ใกล้เคียง ท่าน โลโซ -โลซก
ผมน่ะ ชอบ โจโฉ
ทหารเอกของวุยก๊ก ก็ไม่มีคนเอามาตั้งชื่อแฮะ สงสัยแบรนด์ไม่ดี น่าจะมี
แฮหัวตุ้น เตียวเลี้ยว เตียวคับ   มาสร้างสีสรรบ้าง

[ดร.โหน่ง]

         
         "Wisdom of masters"

 

[สุมาอี้]

[quote="ดร.โหน่ง"]

[artvr4]

ทหารเอกของวุยก๊ก ก็ไม่มีคนเอามาตั้งชื่อแฮะ สงสัยแบรนด์ไม่ดี น่าจะมี
แฮหัวตุ้น เตียวเลี้ยว เตียวคับ   มาสร้างสีสรรบ้าง

น่าจะรวมทหารเอก ฝั่งซุนกวนด้วยนะครับ มีหลายคนเหมือนกัน

 ลกซุน  ไทสูจู้  กำเหล็ง  จิวยี่