PE ตลาดที่20 เท่า ในปัจจุบัน เหมือนกันกับปี 40 จริงหรอ?
- คุณคิดไปเอง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 64
- ผู้ติดตาม: 0
PE ตลาดที่20 เท่า ในปัจจุบัน เหมือนกันกับปี 40 จริงหรอ?
โพสต์ที่ 1
สวัสดีสมาชิกทุกท่านนะครับ
ผมอยากแชร์ความคิดเห็นกับทุกท่านเกี่ยวกับค่า PE ตลาดที่ตอนนี้สูงแตะขอบบนที่ 20 เท่า เท่าๆกับตอนปี 40 ที่ดัชนีกว่า 1700 จุด
ส่วนตัวมีความเห็นว่าค่า PE ปีนี้ที่สูงถึง 20 เท่า มีความแตกต่างกันกับปี 40
สัดส่วน PE ตามที่ทุกท่านทราบ ประกอบด้วย P/E
ในปี 40 ส่วนตัวคิดว่ามาจาก P ที่มีการเก็งกำไรกันเกินความจริงไปเยอะทำให้ค่า PE มีค่าสูง แต่ E เติบโตตามปกติ(ก่อนเกิดวิกฤตจริงๆ ที่ทำให้หลายบริษัท มี E ลดลงจริงตอนเกิดวิกฤต) แต่สาเหตุที่ทำให้ค่า PE สูงมากคือ P
ในปัจจุบัน ค่า PE ที่สูง ผมคิดว่ามาจาก E ที่ลดลงมากจากเหตุการณ์หลายๆอย่างทั้งภายในและภายนอกประเทศ แต่ P เติบโตปกติจึงทำให้ค่า PE สูงขึ้น (อันนี้้ไม่นับหุ้นซิ่ง วิ่งไร้เหตุผลนะครับ) สังเกตได้จากหุ้นกลุ่มน้ำมันน้ำหนักมากของตลาดเรา เมื่อก่อนประกาศผลประกอบการ PE ยังไม่ถึง 10 เท่า แต่พอผลออกค่า PE สูงเกิน 20 ไปแล้ว แล้วพวกนี้มีผลต่อ index เยอะจึงลากค่า PE ตลาดให้สูงขึ้นไปอีก
ถูกผิดอย่างไร ขอทุกท่านโปรดแสดงความคิดเห็นด้วยครับ
ผมอยากแชร์ความคิดเห็นกับทุกท่านเกี่ยวกับค่า PE ตลาดที่ตอนนี้สูงแตะขอบบนที่ 20 เท่า เท่าๆกับตอนปี 40 ที่ดัชนีกว่า 1700 จุด
ส่วนตัวมีความเห็นว่าค่า PE ปีนี้ที่สูงถึง 20 เท่า มีความแตกต่างกันกับปี 40
สัดส่วน PE ตามที่ทุกท่านทราบ ประกอบด้วย P/E
ในปี 40 ส่วนตัวคิดว่ามาจาก P ที่มีการเก็งกำไรกันเกินความจริงไปเยอะทำให้ค่า PE มีค่าสูง แต่ E เติบโตตามปกติ(ก่อนเกิดวิกฤตจริงๆ ที่ทำให้หลายบริษัท มี E ลดลงจริงตอนเกิดวิกฤต) แต่สาเหตุที่ทำให้ค่า PE สูงมากคือ P
ในปัจจุบัน ค่า PE ที่สูง ผมคิดว่ามาจาก E ที่ลดลงมากจากเหตุการณ์หลายๆอย่างทั้งภายในและภายนอกประเทศ แต่ P เติบโตปกติจึงทำให้ค่า PE สูงขึ้น (อันนี้้ไม่นับหุ้นซิ่ง วิ่งไร้เหตุผลนะครับ) สังเกตได้จากหุ้นกลุ่มน้ำมันน้ำหนักมากของตลาดเรา เมื่อก่อนประกาศผลประกอบการ PE ยังไม่ถึง 10 เท่า แต่พอผลออกค่า PE สูงเกิน 20 ไปแล้ว แล้วพวกนี้มีผลต่อ index เยอะจึงลากค่า PE ตลาดให้สูงขึ้นไปอีก
ถูกผิดอย่างไร ขอทุกท่านโปรดแสดงความคิดเห็นด้วยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1426
- ผู้ติดตาม: 0
Re: PE ตลาดที่20 เท่า ในปัจจุบัน เหมือนกันกับปี 40 จริงหรอ?
โพสต์ที่ 2
ประวัติการขึ้นลงของดัชนีราคาหลักทรัพย์
ยุคตกต่ำครั้งที่ 2 (2537-2544)
ปี 2537 ดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์เปิดที่ 1753.73 เป็นจุดสูงสุดของปีในวันที่ 4 มกราคม แต่ต่ำสุดที่
ระดับ 1196.59 จุดในวันที่ 4 เมษายน โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 2,113,860.65 ล้านบาทมีค่า PE 31.49 เท่าทำ
ให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง
ปี 2538 ดัชนีราคาตลาดเปิดทำการวันที่ 3 มกราคม ดัชนีราคา 1354.04 แต่หลังจากนั้นปรับตัวลดลง
มาตลอดเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในประเทศเม็กซิโก ที่เกิดในวันที่ 12 มกราคม ทำให้นักลงทุนต่าง
ประเทศ ไม่มั่นใจลงทุนในตลาดหลักทรัพยเกิดใหม่ พร้อมทั้งมีข่าวลือเรื่องการการลดค่าเงินบาทของไทยนอก
จากนี้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงในเมื่องโกเบของปประเทศญี่ปุ่นทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง
http://www.thaistockinfo.com/forum2010/f0031c.html
ยุคตกต่ำครั้งที่ 2 (2537-2544)
ปี 2537 ดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์เปิดที่ 1753.73 เป็นจุดสูงสุดของปีในวันที่ 4 มกราคม แต่ต่ำสุดที่
ระดับ 1196.59 จุดในวันที่ 4 เมษายน โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 2,113,860.65 ล้านบาทมีค่า PE 31.49 เท่าทำ
ให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง
ปี 2538 ดัชนีราคาตลาดเปิดทำการวันที่ 3 มกราคม ดัชนีราคา 1354.04 แต่หลังจากนั้นปรับตัวลดลง
มาตลอดเนื่องมาจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในประเทศเม็กซิโก ที่เกิดในวันที่ 12 มกราคม ทำให้นักลงทุนต่าง
ประเทศ ไม่มั่นใจลงทุนในตลาดหลักทรัพยเกิดใหม่ พร้อมทั้งมีข่าวลือเรื่องการการลดค่าเงินบาทของไทยนอก
จากนี้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงในเมื่องโกเบของปประเทศญี่ปุ่นทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง
http://www.thaistockinfo.com/forum2010/f0031c.html
- คุณคิดไปเอง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 64
- ผู้ติดตาม: 0
Re: PE ตลาดที่20 เท่า ในปัจจุบัน เหมือนกันกับปี 40 จริงหรอ?
โพสต์ที่ 4
ช่วงปี 2008 ก่อนเกิดวิกฤต subprime ค่า PE สูงสุดประมาณ 18 เท่าครับ
ส่วนตัวที่พูดถึงเรื่องนี้เพราะเห็นว่า การที่ PE ตลาดบ้านเราสูงรอบนี้ ทำให้หลายๆคนกังวลว่าเกินปัจจัยพื้นฐานไหมหรือ เก็งกำไรกันมากไปไหม น่าจะถูกครึ่งหนึ่งครับคือ รายได้บริษัทส่วนใหญ่แย่ลง แต่ปัจจัยที่ทำให้แย่ลงที่สำคัญๆคือ
1. น้ำมันราคาตกมาก
2. ครึ่งปีแรก มีปัญหาเรื่องการเมือง
ดังนั้นผมมองว่า ถ้ากระทบจาก 2 เหตุนี้เป็นหลัก (จริงๆ) มันไม่ได้เปลี่ยนพื้นฐานของบริษัทบ้านเรา
อ่านใน comment หลายท่านจะให้กำลังใจหรืออวยพรพนักงาน ผบห บริษัทที่ตนถืออยู่ ให้สู้กันต่อไป
ผมอยากให้เราให้กำลังใจและอวยพรให้คนไทยทั้งประเทศครับ ถ้าทุกฝ่ายช่วยกัน สามัคคีกัน เศรษฐกิจเราไปไกลแน่นอนครับ
ถึงตอนนั้นพวกเราทุกคนคงได้ทั้งกำไรและความสุขแน่นอนครับ
ส่วนตัวที่พูดถึงเรื่องนี้เพราะเห็นว่า การที่ PE ตลาดบ้านเราสูงรอบนี้ ทำให้หลายๆคนกังวลว่าเกินปัจจัยพื้นฐานไหมหรือ เก็งกำไรกันมากไปไหม น่าจะถูกครึ่งหนึ่งครับคือ รายได้บริษัทส่วนใหญ่แย่ลง แต่ปัจจัยที่ทำให้แย่ลงที่สำคัญๆคือ
1. น้ำมันราคาตกมาก
2. ครึ่งปีแรก มีปัญหาเรื่องการเมือง
ดังนั้นผมมองว่า ถ้ากระทบจาก 2 เหตุนี้เป็นหลัก (จริงๆ) มันไม่ได้เปลี่ยนพื้นฐานของบริษัทบ้านเรา
อ่านใน comment หลายท่านจะให้กำลังใจหรืออวยพรพนักงาน ผบห บริษัทที่ตนถืออยู่ ให้สู้กันต่อไป
ผมอยากให้เราให้กำลังใจและอวยพรให้คนไทยทั้งประเทศครับ ถ้าทุกฝ่ายช่วยกัน สามัคคีกัน เศรษฐกิจเราไปไกลแน่นอนครับ
ถึงตอนนั้นพวกเราทุกคนคงได้ทั้งกำไรและความสุขแน่นอนครับ
- คุณคิดไปเอง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 64
- ผู้ติดตาม: 0
Re: PE ตลาดที่20 เท่า ในปัจจุบัน เหมือนกันกับปี 40 จริงหรอ?
โพสต์ที่ 6
ผมหมายถึงตัวดีๆนี่ละครับ ที่ปกติ
- คุณคิดไปเอง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 64
- ผู้ติดตาม: 0
Re: PE ตลาดที่20 เท่า ในปัจจุบัน เหมือนกันกับปี 40 จริงหรอ?
โพสต์ที่ 7
เมื่อวานโชคดีมาก ได้เจอท่านอาจารย์นิเวศน์ ที่พารากอน
เลยคุยเรื่องค่า PE ตามที่ตั้งกระทู้นี้กับอาจารย์ อาจารย์ทำหน้างงๆ 5555 สงสัยผมอธิบายไม่รู้เรื่อง หรือไม่ก็คิดอะไรแปลกๆ
ท่านได้แต่บอกว่า "แต่ผมว่ามันแพงนะ" 55555
ดีใจมากๆที่ได้พบอาจารย์ครับ
เลยคุยเรื่องค่า PE ตามที่ตั้งกระทู้นี้กับอาจารย์ อาจารย์ทำหน้างงๆ 5555 สงสัยผมอธิบายไม่รู้เรื่อง หรือไม่ก็คิดอะไรแปลกๆ
ท่านได้แต่บอกว่า "แต่ผมว่ามันแพงนะ" 55555
ดีใจมากๆที่ได้พบอาจารย์ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 29
- ผู้ติดตาม: 0
Re: PE ตลาดที่20 เท่า ในปัจจุบัน เหมือนกันกับปี 40 จริงหรอ?
โพสต์ที่ 8
เหมือนหรือเปล่าผมไม่ทราบครับ. เพราะตอนนั้นเพิ่งเรียนจบ. ความรู้เรื่ิองการลงทุนยังไม่มีเลย. แต่ถ้าเทียบการลงทุนตั้งแต่ที่ผมเริ่มลงทุนมาประมาณ 7-8 ปีที่ผ่านมาตอนนี้ก็เห็นได้ชัดว่าราคามันแพงขึ้นไปมากเลย. แถมผลประกอบการของบริษัทส่วนใหญ่ก็ผลงานไม่ได้ดีอะไรมากมายนัก ไอ้ที่ดีจริง ๆ ก็ราคาแพงจนงงว่ามันจะคุ้มการลงทุนได้จริงไหม. ในช่วนนี้ผมกลับรู้สึกกลัวมากกว่าว่าเราจะทำผลตอบแทนได้คุ้มกับความเสี่ยงที่ถ้าตลาดมันตกลงอย่างแรงหรือเปล่า.
-
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
Re: PE ตลาดที่20 เท่า ในปัจจุบัน เหมือนกันกับปี 40 จริงหรอ?
โพสต์ที่ 9
ไม่เหมือนแน่นอนครับ ผมมั่นใจ
ตอนก่อนปี 40 หุ้นแพง แถมพื้นฐานเศรษฐกิจไม่เข้มแข็ง โดยเฉพาะ สถาบันการเงินซึ่งเป็นสถาบันหลักทางเศรษฐกิจ
แต่ตอนนี้ หุ้นแพง แต่พื้นฐานเศรษฐกิจไทย ยังแน่นปึ้ก ดูจาก กลุ่มสถาบันการเงินซึ่งเข้มแข็งมาก
ทั้งด้าน capitalized ratio และความสามารถในการทำกำไร ค่าเงินบาทก็แข็งมาก เมื่อเทียบกับสกุลภูมิภาค
ตอนก่อนปี 40 หุ้นแพง แถมพื้นฐานเศรษฐกิจไม่เข้มแข็ง โดยเฉพาะ สถาบันการเงินซึ่งเป็นสถาบันหลักทางเศรษฐกิจ
แต่ตอนนี้ หุ้นแพง แต่พื้นฐานเศรษฐกิจไทย ยังแน่นปึ้ก ดูจาก กลุ่มสถาบันการเงินซึ่งเข้มแข็งมาก
ทั้งด้าน capitalized ratio และความสามารถในการทำกำไร ค่าเงินบาทก็แข็งมาก เมื่อเทียบกับสกุลภูมิภาค
- นายมานะ
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1167
- ผู้ติดตาม: 1
Re: PE ตลาดที่20 เท่า ในปัจจุบัน เหมือนกันกับปี 40 จริงหรอ?
โพสต์ที่ 10
แพงหรือไม่แพง กับจะเกิดวิกฤติหรือไม่เกิดวิกฤติ น่าจะเป็นคนละคำถามกันนะครับ
โดยส่วนตัวถามว่าแพงมั้ย ถ้ามองไปที่ historical PE ของ SET ถึงจะไม่ได้แพงเท่าปี 40 แต่ก็น่าจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยไปพอสมควรนะครับ นอกจากนี้เทียบกับตลาดหุ้นในต่างประเทศ บ้านเราก็คงไม่ถือว่าถูกเท่าไหร่ครับ
แต่เพราะภาวะดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบัน ทำให้ถ้าเทียบกับการลงทุนทางเลือกอื่นๆ ที่ไม่ใช่หุ้น การลงทุนในหุ้นก็ยังถือว่าให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่า (แน่นอนว่ามาพร้อมความเสี่ยงที่มากกว่าครับ)
ผมคิดว่าความแพงของตลาด หรือภาวะฟองสบู่ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤติครับ แต่คงไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงปัจจัยเดียว ซึ่งถ้ามองไปที่พื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับเงินสำรองของภาครัฐ และระดับ D/E ของภาคเอกชน ผมคิดว่าไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจไม่มากครับ (ถ้าไม่นับปัญหาการเมืองนะครับ)
ถามว่าเหมือน 40 มั้ย ผมว่าไม่ได้แพงเท่า และโอกาสเกิดวิกฤติไม่ได้มากเท่าครับ
แต่ถ้าถามว่าแพงมั้ย ก็คงต้องตอบว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับผลตอบแทนคาดหวังครับ
โดยส่วนตัวถามว่าแพงมั้ย ถ้ามองไปที่ historical PE ของ SET ถึงจะไม่ได้แพงเท่าปี 40 แต่ก็น่าจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยไปพอสมควรนะครับ นอกจากนี้เทียบกับตลาดหุ้นในต่างประเทศ บ้านเราก็คงไม่ถือว่าถูกเท่าไหร่ครับ
แต่เพราะภาวะดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบัน ทำให้ถ้าเทียบกับการลงทุนทางเลือกอื่นๆ ที่ไม่ใช่หุ้น การลงทุนในหุ้นก็ยังถือว่าให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่า (แน่นอนว่ามาพร้อมความเสี่ยงที่มากกว่าครับ)
ผมคิดว่าความแพงของตลาด หรือภาวะฟองสบู่ เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤติครับ แต่คงไม่ใช่ปัจจัยหลักเพียงปัจจัยเดียว ซึ่งถ้ามองไปที่พื้นฐานเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับเงินสำรองของภาครัฐ และระดับ D/E ของภาคเอกชน ผมคิดว่าไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจไม่มากครับ (ถ้าไม่นับปัญหาการเมืองนะครับ)
ถามว่าเหมือน 40 มั้ย ผมว่าไม่ได้แพงเท่า และโอกาสเกิดวิกฤติไม่ได้มากเท่าครับ
แต่ถ้าถามว่าแพงมั้ย ก็คงต้องตอบว่าอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับผลตอบแทนคาดหวังครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 433
- ผู้ติดตาม: 0
Re: PE ตลาดที่20 เท่า ในปัจจุบัน เหมือนกันกับปี 40 จริงหรอ?
โพสต์ที่ 12
PE ตลาดตอนนี่้ถูกบิดเบือนไปเยอะ
- การขาดทุนสต็อกน้ำมันของบริษัทในกลุ่มพลังงาน
- หุ้นที่ขึ้นเยอะๆมัก free float ต่ำ มีแรงซื้อนิดเดียวก็ทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เช่นพวก IPO ที่มักจะมี free float 25-30% หรือจะเอาชัดๆ ก็ BAY ที่ free float จริงๆ ราวๆ 2-3%ของหุ้นทั้งหมด (แต่ดันมีน้ำหนักใน SET Index ตั้ง 3%)
- หุ้นกลางๆ เล็กๆ ขึ้นมาเยอะมากจนเริ่มมีผลกับ index โดยรวม ตัวอย่างที่ผมว่าชัดลองเปรียบเทียบ
.......................SAWAD.......MTLS............TISCO
market cap......42,750......41,976...........37,228 2ตัวแรกใหญ่กว่า TISCO ซึ่งมีทั้งธนาคาร บล. บลจ. และอื่นๆ
Asset size..........8,591........8,776.........317,673
equity...............3,432.........5,106...........25,823
NP.......................854............544.............4,249
PE ...................50.02.........77.14................8.76
PB ...................12.46...........8.22...............1.45
free float..........29.52.........25.43.............74.26
mkt cap ที่ใหญ่ ทำให้ตอนนี้ SAWAD MTLS มีผลต่อ index มากกว่า TISCO ด้วยซ้ำ
ถ้าจะข้ามไป MAI ตอนนี้ EA มี market cap 117,495 ลบ. ใหญ่กว่า EGCO, RATCH, TOP, BANPU และใหญ่กว่า BCP ถึงกว่า 2 เท่า (แม้แต่ SUPER ยังมี mkt cap ใหญ่กว่า BCP ด้วยซ่้ำ)
ไม่แปลกใจ ทำไม BMW ถึงฉลองยอดขายสูงสุดต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ในขณะที่ยอดขายรถโดยรวมลดกว่า 30%
- การขาดทุนสต็อกน้ำมันของบริษัทในกลุ่มพลังงาน
- หุ้นที่ขึ้นเยอะๆมัก free float ต่ำ มีแรงซื้อนิดเดียวก็ทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เช่นพวก IPO ที่มักจะมี free float 25-30% หรือจะเอาชัดๆ ก็ BAY ที่ free float จริงๆ ราวๆ 2-3%ของหุ้นทั้งหมด (แต่ดันมีน้ำหนักใน SET Index ตั้ง 3%)
- หุ้นกลางๆ เล็กๆ ขึ้นมาเยอะมากจนเริ่มมีผลกับ index โดยรวม ตัวอย่างที่ผมว่าชัดลองเปรียบเทียบ
.......................SAWAD.......MTLS............TISCO
market cap......42,750......41,976...........37,228 2ตัวแรกใหญ่กว่า TISCO ซึ่งมีทั้งธนาคาร บล. บลจ. และอื่นๆ
Asset size..........8,591........8,776.........317,673
equity...............3,432.........5,106...........25,823
NP.......................854............544.............4,249
PE ...................50.02.........77.14................8.76
PB ...................12.46...........8.22...............1.45
free float..........29.52.........25.43.............74.26
mkt cap ที่ใหญ่ ทำให้ตอนนี้ SAWAD MTLS มีผลต่อ index มากกว่า TISCO ด้วยซ้ำ
ถ้าจะข้ามไป MAI ตอนนี้ EA มี market cap 117,495 ลบ. ใหญ่กว่า EGCO, RATCH, TOP, BANPU และใหญ่กว่า BCP ถึงกว่า 2 เท่า (แม้แต่ SUPER ยังมี mkt cap ใหญ่กว่า BCP ด้วยซ่้ำ)
ไม่แปลกใจ ทำไม BMW ถึงฉลองยอดขายสูงสุดต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ในขณะที่ยอดขายรถโดยรวมลดกว่า 30%
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
Re: PE ตลาดที่20 เท่า ในปัจจุบัน เหมือนกันกับปี 40 จริงหรอ?
โพสต์ที่ 13
vim เขียน:ผมคิดว่าคำถามที่ตามมาคือ "มีการลงทุนอย่างอื่นที่ดีกว่าหรือเปล่า?"
การมองความถูกแพงนอกจากจะมองในมุมเปรียบเทียบกับอดีตแล้ว เราอาจจะมีมิติมีมุมมองในการเทียบกับทางเลือกในการลงทุนอื่นด้วยครับ มองหลายๆ มุม แล้วจะได้ไอเดียของความถูกแพง
อย่างหุ้นต่างประเทศที่กิจการแข็งแกร่งกว่าเรา ผู้บริหาร พนักงานเก่งกว่าเรา แต่ราคาถูกหุ้นบ้านเราหาได้เต็มไปหมด
ข้อเท็จจริง คือ ตลาดหุ้นไม่ได้มีแค่ตลาดประเทศไทยประเทศเดียว และนักลงทุนไทยก็ไม่ได้ถูกบังคับให้ลงทุนแต่ในประเทศเท่านั้น
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
- Lastpun
- Verified User
- โพสต์: 819
- ผู้ติดตาม: 0
Re: PE ตลาดที่20 เท่า ในปัจจุบัน เหมือนกันกับปี 40 จริงหรอ?
โพสต์ที่ 14
nu เขียน:PE ตลาดตอนนี่้ถูกบิดเบือนไปเยอะ
- การขาดทุนสต็อกน้ำมันของบริษัทในกลุ่มพลังงาน
- หุ้นที่ขึ้นเยอะๆมัก free float ต่ำ มีแรงซื้อนิดเดียวก็ทำให้ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เช่นพวก IPO ที่มักจะมี free float 25-30% หรือจะเอาชัดๆ ก็ BAY ที่ free float จริงๆ ราวๆ 2-3%ของหุ้นทั้งหมด (แต่ดันมีน้ำหนักใน SET Index ตั้ง 3%)
- หุ้นกลางๆ เล็กๆ ขึ้นมาเยอะมากจนเริ่มมีผลกับ index โดยรวม ตัวอย่างที่ผมว่าชัดลองเปรียบเทียบ
.......................SAWAD.......MTLS............TISCO
market cap......42,750......41,976...........37,228 2ตัวแรกใหญ่กว่า TISCO ซึ่งมีทั้งธนาคาร บล. บลจ. และอื่นๆ
Asset size..........8,591........8,776.........317,673
equity...............3,432.........5,106...........25,823
NP.......................854............544.............4,249
PE ...................50.02.........77.14................8.76
PB ...................12.46...........8.22...............1.45
free float..........29.52.........25.43.............74.26
mkt cap ที่ใหญ่ ทำให้ตอนนี้ SAWAD MTLS มีผลต่อ index มากกว่า TISCO ด้วยซ้ำ
ถ้าจะข้ามไป MAI ตอนนี้ EA มี market cap 117,495 ลบ. ใหญ่กว่า EGCO, RATCH, TOP, BANPU และใหญ่กว่า BCP ถึงกว่า 2 เท่า (แม้แต่ SUPER ยังมี mkt cap ใหญ่กว่า BCP ด้วยซ่้ำ)
ไม่แปลกใจ ทำไม BMW ถึงฉลองยอดขายสูงสุดต่อเนื่อง 4 ปีซ้อน ในขณะที่ยอดขายรถโดยรวมลดกว่า 30%
เปรียบเทียบได้ดีมากเลยครับ
- คุณคิดไปเอง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 64
- ผู้ติดตาม: 0
Re: PE ตลาดที่20 เท่า ในปัจจุบัน เหมือนกันกับปี 40 จริงหรอ?
โพสต์ที่ 15
เห็นด้วยกับคุณ Nu
หุ้นบางตัวได้รับการโปรโมทมากเกินจริง แต่หุ้นดีๆอีกหลายๆตัว ไม่มีใครสนใจ
หุ้นบางตัวได้รับการโปรโมทมากเกินจริง แต่หุ้นดีๆอีกหลายๆตัว ไม่มีใครสนใจ