โพสต์
โค้ด: เลือกทั้งหมด
จากบทความเดิมที่กล่าวถึงการเก็บเงินปีละ 14,000 บาทและนำไปลงทุนให้ได้ผลตอบแทนปีละ 20 เปอร์เซนต์จนเวลาผ่านไป 40 ปี เงินก้อนนี้จะกลายเป็นจำนวน 100 ล้านบาท ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้นำบทความนี้โพสในเวปของห้องสมุดมารวยซึ่งเป็นห้องสมุดของตลาดหลักทรัพย์เพื่อเผยแพร่ให้กับผู้ที่สนใจในการลงทุน
สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากโดยส่วนใหญ่บอกว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะการทำผลตอบแทนให้ได้ปีละ 20 เปอร์เซนต์เป็นเวลา 40 ปีนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากและเกินความสามารถของคนทั่วไป นอกเหนือจากนั้นยังคิดว่าตลาดหลักทรัพย์ลงบทความนี้เพื่อหลอกล่อให้คนนำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้น ทั้งๆที่ตอนนี้ตลาดหุ้นกำลังอยู่ในช่วงตกต่ำ ดัชนีลดลงอย่างมากจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากติดหุ้นและขาดทุนจากการเล่นหุ้นในปีนี้
มีผู้อ่านจำนวนน้อยพยายามบอกคนอื่นๆว่าการที่เราจะทำผลตอบแทนได้มากหรือน้อยอยู่ที่ความพยายามและความตั้งใจของเรา แต่ดูเหมือนว่าคนที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้มักจะยกเหตุผลเข้าข้างตนเองว่าการทำอะไรแบบนั้นมันยากเกินไปและไม่ค่อยเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างจากความคิดตนเองเท่าใดนัก นอกเหนือจากนั้นระยะเวลา 40 ปีหลายคนอาจคิดว่านานเกินไปไม่สามารถรอได้
จริงๆแล้วถ้าเข้าไปอ่านบทความให้ละเอียดจะพบว่าการเก็บเงินในแต่ละปีนั้นเพียงปีละ 14,000 บาทหรือเดือนละ 1,000 บาทเท่านั้นเองและไม่ได้เก็บเพิ่มขึ้นในแต่ละปีแต่อย่างใด ถ้าเราเก็บเงินจากการทำงานในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้นตามเงินเดือนของเรา เช่น เดือนละ 10-20 เปอร์เซนต์ ในแต่ละปีที่ผ่านไป เงินเดือนของเราก็เพิ่มขึ้นทำให้เงินเก็บใแต่ละเดือนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกเหนือจากนั้นถ้าเราจะตั้งใจเก็บเงินจริงๆแล้ว โบนัสที่ออกมาควรจะถือว่าเป็นเงินพิเศษที่นำไปเก็บออมเพื่อลงทุน หลายคนที่รู็ว่าจะได้เงินโบนัสก็ใช้เงินโบนัสหมดตั้งแต่ยังไม่ได้รับเงินก่้อนนั้นเสียด้วยซ้ำ
คนที่ลงทุนในหุ้นนั้นน่าจะเป็นคนที่มีเงินเดือนและเงินเก็บจำนวนหนึ่ง ดังนั้นเงินเดือนเฉลี่ยน่าจะอยู่ประมาณ 3 หมื่นบาทขึ้นไปและโบนัสอย่างน้อย 1 เดือน ถ้าเก็บเงินให้ได้สัก 10 เปอร์เซนต์ของเงินเดือนและเก็บเงินโบนัสสักครึ่งหนึ่งจะมีเงินเก็บนำมาลงทุนถึงปีละ 51,000 บาท เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นปีละสัก 3 เปอร์เซนต์ทำให้อัตราการเก็บเงินมากขึ้นมากขึ้นในแต่ละปี
จากอดีต ผลตอบแทนจากตลาดหุ้นในระยะยาวรวมเงินปันผลจะอยู่ที่ประมาณ 10 เปอร์เซนต์ ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกันในตลาดหุ้นทั่วโลก นักลงทุนที่ซื้อกองทุนดัชนีสามารถได้รับผลตอบแทนเท่ากับตลาดหุ้นโดยไม่ต้องลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหุ้นเองซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้นแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี
ถ้าทำตามที่กล่าวมา เงินลงทุนในแต่ละปีจะเป็นดังนี้
ปีที่ เงินลงทุน (บาท)
10 910,588
20 3,585,583
30 10,944,702
40 30,597,973
จะเห็นว่าถึงแม้จะเก็บเงินมากขึ้นแต่ผลตอบแทนในแต่ละปีที่ลดลง ทำให้เป้าหมายในการลงทุนในปีสุดท้ายลดลงเช่นเดียวกัน การเก็บเงิน 10 เปอร์เซนต์ของเงินเดือนในแต่ละเดือนละนำไปลงทุนในกองทุนดัชนี ระยะยาวแล้วถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพราะในช่วงถึงเวลาเกษียณแล้ว เงินลงทุนที่มีก็ถือว่ามากพอสำหรับการใช้ชีวิตกว่าที่เราจะคิดว่าเป็นไปไม่ได้และไม่ลงมือทำอะไรเลย
บันทึกไม่สำเร็จ