โค้ด: เลือกทั้งหมด
“ในโลกไม่มีงานเลี้ยงไหนที่มิแยกย้ายเลิกรา ในเมื่อพวกเราจะเร็วจะช้าก็ต้องแยกทางกัน เร็วหลายวัน ช้าหลายวัน จะผิดแปลกกันอย่างไรกัน” ลี้คิมฮวงเอ่ยกับอาฮุย ก่อนคารวะหนึ่งจอกร่ำลากัน โกวเล้งผู้เขียนฤทธิ์มีดสั้นได้นำสุภาษิตโบราณของจีนมาบรรจุไว้ในนิยายกำลังภายในชื่อดังอมตะได้อย่างลงตัวและเป็นวลีที่มีผู้นำมากล่าวขวัญถึงจนถึงทุกวันนี้
ผู้เขียนเขียนบทความValueWayมาตั้งแต่เริ่มต้นตั้งกรุงเทพธุรกิจบิสวิคฉบับแรกเมื่อหลายปีก่อนจวบจนปัจจุบัน บทความนี้คงจะเป็นบทความสุดท้ายValueWayเริ่มจากบรรณาธิการของกรุงเทพธุรกิจมีความคิดจะจัดทำนสพ.กรุงเทพธุรกิจบิสวีคแยกออกจากนสพ.กรุงเทพธุรกิจฉบับธรรมดาโดยเน้นไปที่การลงทุนในตลาดหุ้น ทางบก.จึงติดต่อมาทางเวปไซค์ Thaivi.com ซึ่งทางคุณมนตรี นิพิฐวิทยาเป็นผู้ก่อตั้งและดำเนินการเพื่อหานักเขียนเขียนลงบทความประจำทุกวันจันทร์ ด้วยความที่คุณมนตรีต้องการลดภาระในการเขียนคอลัมน์เป็นประจำทุกสัปดาห์จึงทาบทามผู้เขียนให้มาร่วมช่วยกันเขียนกันเป็นคอลัมน์ประจำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผ่านไปหลายปีคุณมนตรีเลิกเขียนบทความจึงได้คุณประภาคาร ภราดรภิบาลมาช่วยเขียนต่อทุกสัปดาห์
บทความValueWayเริ่มเขียนขึ้นในช่วงที่นักลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังไม่รู้จักคำว่าวีไอ สมันนั้นการลงทุนที่ได้กำไรคือต้องเล่นหุ้นตามข่าวหรือเล่นหุ้นตามขาใหญ่เท่านั้น วีไอหรือValue Investingถือว่าเป็นคำประหลาดที่คนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ในตลาดหุ้นไทย จนถึงปัจจุบันไม่มีใครรู้จักวีไอ ทุกคนอยากจะเป็นวีไอ ถึงแม้จะเป็นวีไอแท้ วีไอเทียมหรือแม้แต่วีไอจำเป็นก็ตาม ด้วยอานิสงค์จากกลุ่มนักลงทุนวีไอที่พิสูจน์จากความสามารถในการลงทุนจนทำผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นในช่วงเวลาสิบปีที่ผ่านมา หลายคนร่ำรวยเข้าขั้นมหาเศรษฐีจากการลงทุนในตลาดหุ้นด้วยวิธีการวีไอ ทำให้นักลงทุนรุ่นใหม่หันมาสนใจการลงทุนแบบวีไอเป็นอันมากจนกลายเป็นกระแสหนึ่งของการลงทุนในตลาดหุ้นเมืองไทย
นอกเหนือจากนั้นหนังสือเกี่ยวกับวีไอซึ่งแต่ก่อนมีเพียงหนังสือภาษาอังกฤษเท่านั้น เริ่มมีผู้แปลมาเป็นภาษาไทยเป็นจำนวนมาก นักลงทุนรุ่นหลังๆไม่จำเป็นต้องรออ่านหนังสือวีไอจากภาษาอังกฤษที่หลายท่านอาจไม่ชำนาญและใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ รวมทั้งการอบรมการลงทุนเกี่ยวกับวีไอเริ่มเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ดทั้งจากสมาคมต่างๆหรือจากบุคคลที่ต้องการสอนคนอื่นๆในเรื่องของการลงทุนแบบวีไอ ทำให้นักลงทุนรุ่นใหม่หันมาสนใจการลงทุนแนววีไอเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
จนถึงปัจจุบันนักเก็งกำไรจำนวนมากต่างหันมาบอกว่าตนเองก็เป็นวีไอเช่นเดียวกัน เพราะในแง่ของมุมมองของสังคมยังมองว่าตลาดหุ้นคือการพนัน นักเก็งกำไรต่างถูกสังคมมองอย่างดูแคลนว่าเป็นพวกเอาแต่ได้และใจเร็วด่วนได้ ขณะที่สังคมภายนอกมองว่าวีไอคือนักลงทุนที่ช่วยสร้างตลาดทุนของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนจากการลงทุนโดยใช้การวิเคราะห์ทางพื้นฐานและการถือหุ้นเป็นเวลานานถึงแม้สภาวะตลาดจะไม่อำนวย การบอกว่าตนเองเป็นวีไอจะได้รับการยอมรับจากสังคมมากกว่า คำว่าวีไอจึงถูกใช้ไปอย่างฟุ่มเฟือยและเริ่มออกจากหลักการที่แท้จริงของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
นักลงทุนรายใหญ่ในปัจจุบันเริ่มใช้คำว่าวีไอในการสร้างกระแสต่อหุ้นเป้าหมาย ด้วยความร่วมมือของโบรกเกอร์ที่ออกบทวิเคราะห์มาเชียร์หุ้นที่รายใหญ่ถืออยู่จำนวนมาก เพื่อให้นักลงทุนในตลาดเริ่มเห็นในปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นของหุ้นเหล่านั้น เมื่อนักลงทุนรายย่อยเข้ามาไล่ซื้อหุ้นเป้าหมายนั้น สุดท้ายก็ตกเป็นเหยื่อของรายใหญ่ที่ทำการขายหุ้นออกมาโดยให้เหตุผลว่าราคาถึงเป้าหมาย
ดังนั้นนักลงทุนที่เรียกตนเองว่าวีไอควรจะเข้าใจในหลักการของการลงทุนแบบเน้นคุณค่าอย่างแท้จริงเพื่อไม่ให้เป็นเหยื่อของนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหุ้นในอนาคต