รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
setmaker
Verified User
โพสต์: 215
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

หนี้สิน
ณ วันที่
                   สกลุเงิน 31 มีนาคม 2549 31 ธันวาคม 2548

         ดอลลาร์สหรัฐ 60,142.37 71,314.84
         เยน 184,800,000.00 271,200,000.00

ณ วันที่ 31 มีนาคม 2549 และวันที่ 31 ธันวาคม 2548 บริษัทฯ ได้ทำสัญญาขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้ากับธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง  เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในการจ่ายชำระหนี้สินในรูปเงินตราต่างประเทศ ซึ่ง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2549 และวันที่ 31 ธันวาคม 2548 บริษัทฯ ยังไม่ได้บันทึกหนี้สินทางการเงินดังกล่าวในงบการเงิน โดยมีรายละเอียดดังนี้

จำนวนเงินที่ทำสัญญา
เยน
ณ วันที่
31 มีนาคม 2549 31 ธันวาคม 2548
184,800,000.00 271,200,000.00

จำนวนเงินที่ได้ตามสัญญา
บาท
ณ วันที่
31 มีนาคม 2549 31 ธันวาคม 2548
67,748,820.00 100,026,045.60

มูลค่ายุติธรรม ณ วันสิ้นงวด
บาท
ณ วันที่
31 มีนาคม 2549 31 ธันวาคม 2548
63,543,293.01 97,864,365.04


ขอเป็นกรณีตัวอย่างแล้วกันครับ ถ้าโชว์แบบนี้
ผลจะเป็นอย่างไรต่อไปครับ
ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ยังมึนอยู่ว่าทำไมถึงเป็นสัญญาขายเงินเยน ทำไมไม่เป็นสัญญาซื้อ

ท่านที่ชำนาญตลาดอนุพันธ์มาตอบหน่อยเร็ว..
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

การขายล่วงหน้า (Short Futures) ในกรณีนี้เป็นการป้องกันความเสี่ยง
จากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน JPY-BHT
เนื่องจากบริษัทมีหนี้ต่างประเทศเป็นสกุลเยน
(Lock หนี้ต่างประเทศในอนาคตว่าต้องจ่ายเป็นเงินกี่บาท)

ในกรณีดังกล่าวบริษัทขาดทุนจากการเข้าไป Short Futures
เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน
ทำให้มูลค่ายุติธรรม ณ สิ้นงวด ได้เงินบาทน้อยกว่า

แต่ถ้าหากบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน
บริษัทจะได้กำไรจากการ Short Futures
เพื่อมาชดเชยกับเงินบาทที่ต้องจ่ายมากขึ้น

สรุปว่าเป็นการ Lock จำนวนหนี้ต่างประเทศเป็นสกุลบาท
โดยกรณีนี้เผอิญว่าบาทแข็ง เลยขาดทุนครับ

อย่างไรก็ตามบริษัทมีนโยบายใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อการ
ป้องกันความเสี่ยง (Hedging) เท่านั้น
ไม่ได้มีนโยบายในการเข้าไปใช้เครื่องมือดังกล่าวในการเก็งกำไร
"Winners never quit, and quitters never win."
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ยังไงนะครับ เราจะต้องจ่ายหนี้เป็นเงินเยนในอนาคต แต่ทำไมเราถึงขายเงินเยนล่วงหน้า ทำไมเราไม่ซื้อเงินเยนล่วงหน้า เพื่อล็อคราคาไว้  :?:
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ยกตัวอย่าง Currency Futures ของ 31 มี.ค. 2549
เราทำสัญญาให้
Japanese Yen 184,800,000.00 แลกได้  67,748,820 บาท
หรือ 1 Yen แลกได้ 0.3666 บาท

แต่เมื่อสัญญาสิ้นสุด
Currency Exchange ใน Spot Market เป็น
Japanese Yen 184,800,000.00 แลกได้ 63,543,293.01 บาท
หรือ 1 Yen แลกได้ 0.3438 บาท (เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับบาท
หรืออาจจะพูดได้ว่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน)

สมมติเราเข้าไป Long
เราจะได้กำไรก็ต่อเมื่อ ณ สิ้นสุดสัญญา
ใน Spot Market เงินเยนต้องแลกเงินบาทได้น้อยลง
หรือ Japanese Yen 184,800,000.00 ต้องแลกได้น้อยกว่า  67,748,820 บาท
ซึ่งในกรณีนี้ปรากฎว่าเป็นไปตามนั้น
ดังนั้นส่วนต่างระหว่าง 63,543,293.01 บาท และ 67,748,820 บาท
หรือ  4,205,526.99 บาท จะเป็นกำไรของผู้ Long

ส่วนผู้ Short ก็จะขาดทุนเป็นจำนวนดังกล่าว เช่นเดียวกัน

กลับมาที่คำถามทำไมเราต้อง Short
เนื่องจากว่าหากเงินบาทไทยอ่อนค่าลง
ยกตัวอย่างเช่น หาก ณ สิ้นสุดสัญญา
ใน Spot Market, Japanese Yen 184,800,000.00 แลกได้  70,000,000 บาท

ฝั่ง Short จะเป็นผู้ที่ได้กำไรจาก Currency Futures และนำกำไรในส่วนนี้
ไปชดเชยกับการที่เราต้องใช้เงินถึง 70,000,000 ในการจ่ายหนี้ 184,800,000 Yen

สรุปว่าเป็น Hedging Strategy ที่เอาไว้ Lock ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนครับ
โดยเราทราบล่วงหน้าเราต้องจ่ายเงินกี่บาทในการใช้หนี้ต่างประเทศจำนวนดังกล่าว
"Winners never quit, and quitters never win."
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

HVI เขียน: กลับมาที่คำถามทำไมเราต้อง Short
คำว่า short ในที่นี้หมายถึง short เงินบาท หรือ short เงินเยนครับ? :roll:
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

สุมาอี้ เขียน: คำว่า short ในที่นี้หมายถึง short เงินบาท หรือ short เงินเยนครับ? :roll:

โค้ด: เลือกทั้งหมด

จำนวนเงินที่ทำสัญญา 
เยน 
ณ วันที่ 
31 มีนาคม 2549 31 ธันวาคม 2548 
184,800,000.00 271,200,000.00 

จำนวนเงินที่ได้ตามสัญญา 
บาท 
ณ วันที่ 
31 มีนาคม 2549 31 ธันวาคม 2548 
67,748,820.00 100,026,045.60 

มูลค่ายุติธรรม ณ วันสิ้นงวด 
บาท 
ณ วันที่ 
31 มีนาคม 2549 31 ธันวาคม 2548 
63,543,293.01 97,864,365.04 

Underlying Asset ของ Futures ในที่นี้คือเงินบาทครับ
จะเห็นว่าจำนวนเงินที่ทำสัญญาอยู่ในรูปเยน
ส่วนเงินที่ได้ตามสัญญา และมูลค่ายุติธรรม ณ วันสิ้นงวด
อยู่ในรูปเงินบาท

แต่เราเป็นฝ่าย Short เงินบาท
เงินบาทแข็งขึ้น(มีค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับเยน) เราเลยขาดทุน
เพราะขายใน Spot Market ได้ราคาดีกว่า
"Winners never quit, and quitters never win."
ภาพประจำตัวสมาชิก
สุมาอี้
Verified User
โพสต์: 4576
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

HVI เขียน: Underlying Asset ของ Futures ในที่นี้คือเงินบาทครับ
convention เขาถือกันแบบนี้น่าเอง ถ้างั้นไม่งงแล้วครับ

เราเป็นคนไทย เวลาพูดว่า short หรือ long น่าจะหมายถึง short หรือ long เงินสกุลต่างประเทศนะครับ ผมรู้สึกเป็นธรรมชาติกับแบบนี้มากกว่า ก็เลยงงไปได้
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

แต่ถ้าหากเงินบาทอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน
แสดงว่าเราขายได้ราคาดีกว่า Spot Market
ฝั่ง Short เลยได้กำไร

แต่การที่บาทอ่อนค่าลง นั่นหมายความว่า
เราต้องใช้หนี้ต่างประเทศเป็นจำนวนเงินในรูปบาทมากขึ้น
เลยเอามาชดเชยความเสี่ยงได้

จะเห็นว่าไม่ว่าบาทจะแข็งหรือจะอ่อน
หากเราเข้าไปขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าแบบนี้
จะไม่มี Surprise เกิดขึ้นเมื่อถึงกำหนดชำระ

แต่กรณีนี้อยู่เฉยๆ (อาจจะ)ดีกว่า  :D
"Winners never quit, and quitters never win."
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

สุมาอี้ เขียน: convention เขาถือกันแบบนี้น่าเอง ถ้างั้นไม่งงแล้วครับ

เราเป็นคนไทย เวลาพูดว่า short หรือ long น่าจะหมายถึง short หรือ long เงินสกุลต่างประเทศนะครับ ผมรู้สึกเป็นธรรมชาติกับแบบนี้มากกว่า ก็เลยงงไปได้
เวลาผมคิดหาเหตุผลในการตอบ ผมก็งงเหมือนกันครับ  :lol:
เพราะไม่เคยไปเล่นกับ Currency Market มาก่อนเลย
ใช้ความรู้จากตำราในการตอบทั้งนั้น
แต่คิดว่าคงถูกแหละน่า...
เพราะดูแล้วมันลงตัวดี แหะๆๆ ...
"Winners never quit, and quitters never win."
setmaker
Verified User
โพสต์: 215
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
:idea:
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ท่านใดพอจะทราบมั้ยครับว่า
ทำไม APRINT ถึงได้มีหนี้สกุลเงินต่างประเทศ
ทั้งเงินเยน และ เงิน Dollar
โดยเฉพาะสกุลเยน ไม่ใช่น้อยๆเลย
"Winners never quit, and quitters never win."
setmaker
Verified User
โพสต์: 215
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

HVI เขียน:ท่านใดพอจะทราบมั้ยครับว่า
ทำไม APRINT ถึงได้มีหนี้สกุลเงินต่างประเทศ
ทั้งเงินเยน และ เงิน Dollar
โดยเฉพาะสกุลเยน ไม่ใช่น้อยๆเลย
Yen นี่ซื้อเครื่องพิมพ์
แต่ Dollars ไม่ทราบครับ
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

รบกวนช่วยแปล เรื่องหนี้สิน ตปท.ของ aprint ให้หน่อยสิครับ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

อ้อ... ขอบคุณครับ
ซื้อเครื่องพิมพ์นี่เอง...

ส่วนหนี้สกุล Dollar ผมว่าไม่มีนัยสำคัญเท่าไหร่
แค่ US$ 60,000 - 70,000
"Winners never quit, and quitters never win."
โพสต์โพสต์