บริษัทแม่ที่ถือหุ้นจำนวนมากในบริษัทลูก ถ้าราคาหุ้นของบริษัทลูกลดลง มูลค่าทรัพย์สินของบริษัทแม่จะลดลงหรือป่าว?
ปกติแล้วการถือหุ้นในบริษัทอื่น มูลค่าของหุ้นที่ถือถูกนำมาตีเป็นทรัพย์สินที่แสดงในงบการเงินหรือป่าวครับ
ขออนุญาติสอบถามครับ?
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขออนุญาติสอบถามครับ?
โพสต์ที่ 2
ขึ้นกับ % ครับ ว่า "มาก" ที่ว่า มากขนาดไหน
ราคาหุ้นจะมีผลโดยตรงเมื่อถือหุ้นน้อยกว่า 20% เท่านั้นครับ
<20% ลงมาเป็นแค่รายการใน "เงินลงทุน" ... อันนี้จึงถือว่าเป็น Asset ที่ value เปลี่ยนไปตามราคาตลาด คิดเหมือน ใน port นักลงทุนรายย่อยซื้อหุ้น
อย่าง China Mobile ถือหุ้น true เป็นต้น ไม่ต้องเอาอะไรไปแสดงให้ตลาดหุ้นจีนเห็น แค่ราคาหุ้น*จำนวนหุ้นอย่างเดียว คิดเข้าไปในรายการ "เงินลงทุน"
BDMS ถือ BH, RAM ไม่ถึง 50% ก็ต้องถือว่าเป็นแค่เงินลงทุน
(เรื่องเดียวกันนี่เอง... จึงเป็นที่มาของ "window dressing" ของกองทุน ตอนจะปิดบัญชี เพราะ Value คือ Market Price เอาราคามาคิด จะมีผลกับ port รายการอันที่เป็น unrealized profit (loss) )
>20% ขึ้นไป แต่ < 50% คือมาก แต่ยังไม่ถึงครึ่งบริษัท
ลงทุนจริงจังมีนัยสำคัญขนาดนี้ ไม่ได้หวังกำไรจากการค้าหุ้นแล้ว เลยถือว่าเป็นบริษัทร่วม associated company
แต่จะบันทึกแบบส่วนได้ส่วนเสีย สรุปกว้างๆ คือไม่ได้ใช้ราคาตลาด แต่คิดตามกำไร (ขาดทุน) ส่วนได้ส่วนเสีย คือตาม % ที่ถือหุ้น ของบริษัทร่วมนั้นๆ
ถ้าเป็นปันผลระหว่างกาล เอาปันผลมาหักเงินลงทุน
ไปอ่านเพิ่มนะครับ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?p=991319
ตัวอย่างก็ที่ THCOM ADVANC ถือโดย INTUCH
>50% เป็นบริษัทย่อย
จริงจังแบบเลี้ยงดูอุปถัมภ์แล้ว ถือเป็นลูกคนหนึ่งเลย มีอำนาจในการกำหนดทิศทาง เป็นการลงทุนไกลกว่าจะมานั่งดูราคาหุ้น
เอาบัญชีมาแสดงในงบการเงิน แบบ "consolidated"
เราเลยได้เห็นตอนประกาศ มี 2 งบ งบการเงินรวม และงบการเงินเฉพาะกิจการ
อย่างเช่น PTT เป็น parent company PTTEP เป็น subsidiary company
แต่ PTTGC ขาดไม่ถึง 50% ไปนิดเดียว ถือเป็นแค่ associated company
BDMS ถือ SVH มากถึง 96% เป็น subsidiary company อันนี้ ยิ่งกว่าชัด
ราคาหุ้นจะมีผลโดยตรงเมื่อถือหุ้นน้อยกว่า 20% เท่านั้นครับ
<20% ลงมาเป็นแค่รายการใน "เงินลงทุน" ... อันนี้จึงถือว่าเป็น Asset ที่ value เปลี่ยนไปตามราคาตลาด คิดเหมือน ใน port นักลงทุนรายย่อยซื้อหุ้น
อย่าง China Mobile ถือหุ้น true เป็นต้น ไม่ต้องเอาอะไรไปแสดงให้ตลาดหุ้นจีนเห็น แค่ราคาหุ้น*จำนวนหุ้นอย่างเดียว คิดเข้าไปในรายการ "เงินลงทุน"
BDMS ถือ BH, RAM ไม่ถึง 50% ก็ต้องถือว่าเป็นแค่เงินลงทุน
(เรื่องเดียวกันนี่เอง... จึงเป็นที่มาของ "window dressing" ของกองทุน ตอนจะปิดบัญชี เพราะ Value คือ Market Price เอาราคามาคิด จะมีผลกับ port รายการอันที่เป็น unrealized profit (loss) )
>20% ขึ้นไป แต่ < 50% คือมาก แต่ยังไม่ถึงครึ่งบริษัท
ลงทุนจริงจังมีนัยสำคัญขนาดนี้ ไม่ได้หวังกำไรจากการค้าหุ้นแล้ว เลยถือว่าเป็นบริษัทร่วม associated company
แต่จะบันทึกแบบส่วนได้ส่วนเสีย สรุปกว้างๆ คือไม่ได้ใช้ราคาตลาด แต่คิดตามกำไร (ขาดทุน) ส่วนได้ส่วนเสีย คือตาม % ที่ถือหุ้น ของบริษัทร่วมนั้นๆ
ถ้าเป็นปันผลระหว่างกาล เอาปันผลมาหักเงินลงทุน
ไปอ่านเพิ่มนะครับ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?p=991319
ตัวอย่างก็ที่ THCOM ADVANC ถือโดย INTUCH
>50% เป็นบริษัทย่อย
จริงจังแบบเลี้ยงดูอุปถัมภ์แล้ว ถือเป็นลูกคนหนึ่งเลย มีอำนาจในการกำหนดทิศทาง เป็นการลงทุนไกลกว่าจะมานั่งดูราคาหุ้น
เอาบัญชีมาแสดงในงบการเงิน แบบ "consolidated"
เราเลยได้เห็นตอนประกาศ มี 2 งบ งบการเงินรวม และงบการเงินเฉพาะกิจการ
อย่างเช่น PTT เป็น parent company PTTEP เป็น subsidiary company
แต่ PTTGC ขาดไม่ถึง 50% ไปนิดเดียว ถือเป็นแค่ associated company
BDMS ถือ SVH มากถึง 96% เป็น subsidiary company อันนี้ ยิ่งกว่าชัด