สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 1
เริ่มบริษัทแรกด้วย AIS ซึ่งมีเรื่องการประมูล4G พูดในที่ประชุมกันมาก
AGM ADVANC 29 MAR 16 เริ่มประชุม 14.15 ที่ โรงแรม Centara Ladprow
ก่อนอื่น ก็มีการแนะนำผู้บริหารและคณะกรรมการ ของบริษัท
วาระที่ 1 แจ้งเพื่อทราบ
AISได้ว่าจ้างที่ปรึกษามาประเมินใบอนุญาตที่เหมาะสม เพื่อจะได้รู้ราคาควรเป็นเท่าไหร
ใบแรก ประมูล 4x,xxx ล้านบาท คำนวณแล้วสามารถแสวงหากำไรได้
ส่วนการประมูลใบอนุญาติ 900 MHz สู้จนราคาเกินมูลค่า เลยไม่สู้ราคาต่อ
หลังจากพลาดการประมูลใบอนุญาติ 900 MHz บริษัทได้ดำเนินการดังนี้
1. เปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์ของลูกค้าที่เป็น2G ให้ใช้ 3G,4G ได้
2. Roaming with DTAC without charge มีเบอร์ที่รอเยียวยา จะขยายความในวาระ3 โดยคุณสมชัย
AIS เปลี่ยนจาก Mobile operator เข้าไปสู่ดิจิตัลไลท์ Digital Life
1. ส่วนของมือถือ เราเป็นเจ้าตลาด ต้องการสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น
2. Internetความเร็วสูง เป็นธุรกิจใหม่ต้องการบริการครบวงจร ลูกค้ามือถือใช้มือถืออยู่นอกบ้าน พอมาบ้านก็ ใช้ Fix Broadband ของเรา
3. Digital content ขับเคลื่อนให้ใช้งานดาต้ามากขึ้น ไปร่วมมือกับpartnerไม่ว่าcontent ,Game
ทำให้เป็นmodel แบ่งรายได้กันกับPartner
เราต้องสร้างความแข็งแกร่ง กับตัวเรา คู่ค้าเรา เราจะไม่โตคนเดียว เราดึงpartnerต่างๆให้บริการกับลูกค้าเรา
มีบุคลากรที่แข็งแกร่ง สร้างความเป็นนำด้าน Digital Life
ปีที่แล้วเรามีบริการแค่ 3Gแต่เราก็มีmarket share 52% ลูกค้า 38.5 ล้านเลขหมาย ดาต้าที่ใช้คิดเป็นgrowth 27%
อัตราการใช้smart phone 59% ทำให้ตลาดดาต้าของเราโตขึ้น
ปีทีแล้วลูกค้าใช้ดาต้า เฉลี่ย 2 GB ต่อเลขหมายต่อเดือน ปีก่อนแค่ 1 GBเองเป็นภาพที่อยากให้ผู้ถือหุ้นเห็น
ส่วนของ4G เราสร้างความเป็นผู้นำ หลังจากได้ไลเซนท์ตอนปลายปี เราสร้าง4G ADVANCE Mobile DATA
Internet ขยายโครงข่ายให้ได้ในพฤษาคม และ ครบในธันวาคม 15 ด้วยความเร็ว3Gที่มีอยู่ เราเน้นคุณภาพโครงข่าย
3G ใช้งานได้ทั่วประเทศอย่างสม่ำเสมอ มีองค์กรอิสระมาวัดความเร็ว เราได้certificate โครงข่ายเร็วและดีที่สุด
เรากำลังเปลี่ยนถ่ายจาก2Gไป3G,4G ลูกค้าใช้งาน2G,3G อยู่ 12ล้านเลขหมาย เราเอาเครื่อง3G,4G มาแลกเครื่องเดิม
จำนวนลดลงเหลือเพียง 7.6 ล้านเครื่องที่เป็นมือถือ 2G ลูกค้าที่เปลี่ยนไม่ทันก็ไปRoaming DTAC ได้
คลื่นความถื่ เดิมมีแค่ 2.1GHZ 15MHz ปลายปีได้คลื่น 1800 MHz เอามาให้บริการ4G รวมแล้ว 30 MHz
เราร่วมมือกับ TOT ร่วมทำงานกัน เราได้ใช้ capacity , resource ความถึ่ 2.1 GHz อีก 15 MHz
ซึ่งวันนี้(29 Mar)เราเซ๊นต์MOU กับTOT เราจะได้ทั้งหมด 45 MHZ รองรับการใช้งานได้อีก 3ปี
เรายังมีคลื่นความถี่ 850,1800 MHz อีก 3 ปีข้างหน้าของDTAC ที่มาประมูลใหม่
และ 2600 MHZ จากภาครัฐอีก2ที่มาให้ประมูลได้อีก
พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ลูกค้ากลับบ้านจะใช้ Fix Broadband ตอนนี้มี3ราย TOT,True,3BB
เรามองเห็นโอกาสอันนี้ อยากให้ลูกค้าเราใช้บริการFix broadband ของเราด้วย
ตอนนี้ตลาด Fix Broadband ตอนนี้ใช้งานแค่ 30% แต่หาคนลงทุนไม่ค่อยได้
เราได้ลงทุน Fibre optic ตอนทำNetwork 3G ทำให้ลูกค้าสามารถใช้ Fix Broadband ของเราได้
ตอนนี้ ในตลาดเมืองไทย 98%ของลูกค้าใช้ Fix Broadband เป็นแบบเก่า คือ ADSL อยู่ ก็เป็นโอกาสของเราที่ได้ลูกค้าเพิ่มเป็น FTTX ซึ่งความเร็วสูงกว่า เรายังบริการcontentให้กับลูกค้าของเรา เช่น วีดีโอจาก SK Box ได้
เราเองจะลงทุน Fix Broadband อีก 7,000 ลบ ครอบคลุม 6.5 ล้านครัวเรือน สายจะผ่านหน้าบ้านลูกค้า
ภายใน5ปี เราจะเป็น Top 3 ให้ได้
ลูกค้า 38.5ล้านคนที่ใช้มือถือของเรา ก็จะเป็นฐานต่อยอดให้เรา
เราไปติดต่อ คนทำ Digital content and application
เราไม่ลงทุนเองเรามีแนวคิด ธุรกิจแบ่งปัน ให้ผู้ชำนาญทำ เราออกแบบ Platform ให้
ซึ่งแผนเราแบ่งออกมาดังนี้
1. Mobile Money ได้แก่ Bank
2. Game ยังนิยมเล่นอยู่มาก
3. Video หนัง คาราโอเกะ
4. Cloud consumer and corporate cloud
5. M2M การจับมือกับพันธมิตรได้รายได้จากอุตสาหกรรมมาหาเรา
ประมาณการปีนี้ รายได้คงที่ ยอมรับว่าตอนนี้มีการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรม
ยังมีลูกค้า 2G บางส่วนที่ใช้ไม่ได้หลัง 14 เมษายน อาจจะไปใช้ค่ายอื่น
EBITDA ก่อนหักภาษี ลดลงเหลือ 37-38% จากเดิม 4x% เพราะการชดเชยค่าเครื่องทำให้กำไรลดลง
ปีนี้มีการตั้งงบลงทุน Fix Broadband , 3G / 4G ประมาณ 40,000 ลบ
ปีนี้เราจ่ายปันผลที่ 100% แต่ อุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงเร็ว ดังนั้นเราจะตรวจสอบอยู่เรื่อยๆ
ปัจจัยการเป็นผู้นำในโทรคมนาคม
1. เงินลงทุนเพียงพอ
2. เป็นเลิศในการให้บริการ ไม่ว่า call center, shop หน้าร้าน
3. หน่วยงานสนับสนุนหลังบ้าน ต้องมีความแข็งแรง เช่น ระบบบิล ระบบตัดเงินprepaid
4. ภาพพจน์ ต้องสร้างตลอดเวลา
5. เราเป็นรายเดียวที่เติบโตพร้อมกับpartner ดังนั้น partnerของเรา กว่า 100 เจ้าของซึ่งแข็งแรงมาก
ทิศทางในอนาคต
ข้อดีคือ ตอนนี้เราไม่มีข้อจำกัดเรื่องคลื่นความถี่ จาก 15 MHz เป็น 45 MHz
ข้อลบคือ การเติบโตเป็น 0 เพราะการแข่งขันมาก และ การปิดให้บริการ 2G
ระยะกลางเราจะแข็งแรงเพิ่มขึ้น จากรายได้ของ Fix MHz ในธุรกิจ Digital and content application
เราได้ส่วนแบ่งรายได้จากคู่ค้า เช่น เพลง ธุรกรรมการเงิน เกม เสริมรายได้เราได้แน่นอน
EBITDA ในปีต่อไปก็จะดีขึ้น เพราะ ไม่มีการชดเชยค่าเครื่องแล้ว
ในระยะยาย การ move ไปสู่ Digital content application ลูกค้าไปใช้บริการของธุรกิจอื่นด้วย
งบฐานะทางการเงิน
รายได้เพิ่ม 4% การใช้ดาต้าเพิ่มขึ้น ดึงให้รายได้ในส่วนดาต้าสูงขึ้น 1.6%
ต้นทุนค่าบริการและต้นทุนขาย เพิ่ม 1.5%
มาจาก การลดการใช้2G หมายถึงการจ่ายให้TOTน้อยลง
Asset เพิ่มขึ้น 44%มาจากขยายเครือข่าย ทำให้เงินกู้เพิ่มขึ้น
ปีที่แล้วมี งบลงทุนในเครือข่าย 3G และ ใบอนุญาต 1800 MHz
Current ratio ลดลง เหลือ 0.66 เท่า
การระดมหนี้สินเพิ่มขึ้น ทำให้ D/E 1.32 เท่า
สัดส่วนเงินกู้ระยะยาว 93% เพื่อลงทุนเครือข่าย รวมการจ่ายค่า license 1800 MHz
คำถามและคำตอบ
Q: Leverage มากขึ้น ROE ก็สูงขึ้นเป็นเรื่องปกติไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพูด
ในปี14 ต้นปี และ ปลายปี กับ ต้นปี/ปลายปี 15 Asset ที่เห็น ที่ดิน ในส่วน property plant and equipment จะเห็นว่ามีAssetเพิ่มขึ้นมาจากที่ดินหรือเปล่า
จะเห็นส่วนที่เพิ่มขึ้นคือคอมพิวเตอร์ เพิ่มมา 20,000 ล้านบาทเป็นส่วนไหน
ส่วน second license สูงขึ้นมาจากการจ่ายค่าประมูลความถี่
A: ที่ดินอาคาร ส่วนใหญ่เป็นค่าบริการเครือข่าย โครงข่าย และ ส่วนน้อยเป็นคอมพิวเตอร์ แต่ต้องลงบัญชีแบบนี้
Q: ถามนโยบายเรื่องlimit D/E ratio หรือไม่
ส่วน จ่าย คลื่น 1800 MHz D/E Ratio จะเพิ่มไปถึงเท่าไหร่ ต้องเพิ่มทุนหรือเปล่า
A: เรารักษา D/E Ratio ไม่เกิน 2 เท่า ส่วน projection หลังจ่ายครบแล้ว จะมาประเมินในปีที่ 2-3อีกครั้งนึง
Q: D/E Ratio 1.3 เหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากมีภาระจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นห่วงกำไรจะอยู่ไม่ได้ตลอด
จะกระทบต่อเงินปันผลด้วย
A: D/E Ratio 1.32 รับได้ E คงที่ ก่อหนี้เพิ่มทำให้เพิ่มขึ้นแต่รับได้ไม่เกิน 2 เท่า
Q: Interest ต่างประเทศติดลบ สนใจไปกู้ในต่างประเทศหรือไม่
A: เรานำinterest บวกกับค่าswap คิดแล้วต้นทุนจะสูงกว่ากู้ในไทยเลยยังไม่สนใจ
Q: หน้า 98 รายงานคณะกรรมการ ไม่เข้าใจเรื่อง ทำไมหน้าที่คณะกรรมการตรวจสอบต้องไป
ตรวจผู้ตรวจบัญชีด้วย
A: งบการเงินตรวจทานจากผู้ตรวจบัญชีแล้ว ไม่ใช่งานซ้ำซ้อน
เพราะกลต ให้คณะกรรมการตรวจสอบอีกครั้งนึง เป็นหน้าที่ต้องทำตามกฎบัตร
Q: ที่เป็นห่วงเรื่องการประมูลคลื่น 900 MHz ที่ JAS ทิ้ง และ กสทช ให้เริ่มต้นประมูลประมาณ 70,000ล้านบาท
และ อยากให้ท่านสมชัยยืนยันว่า เรื่องการร่วมมือกับ TOT ถึงขั้นไหนแล้ว
และ เรื่องการประมูลใหม่คลื่น 900 MHz ถ้าได้ประสิทธิภาพในการสร้างกำไรจะไม่เหมือนเดิม
A:1. ตัวคลื่น 2100 MHz เป็นของ TOT
ตอนนี้มีหน่วยงานอื่นมากำกับดูแล และTOTร่างสัญญา และหน่วยงานอื่นมาตรวจสอบ
ยังไม่สามารถยืนยันได้ 100% ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ
Board อนุมัติ เซ็นต์ MOU แล้ว
2.การประมูลคลื่น lot1 900MHz ยืนยันว่าด้วยคลื่นที่มีอยู่30MHz บวกกับ TOT อีก 15MHz
ก็เพียงพอแล้ว แต่คลื่น900MHz ก็สนใจ แต่ต้องดูกฎกติกาเงื่อนไขและราคาประมูลด้วย
ต้องรอ Public Hearingใหม่ และรอดูเงื่อนไขอีกที
ถึงแม้มีเงื่อนไขแล้ว การเข้าประมูลต้องไปคำนวณว่าคุ้มค่าหรือเปล่าอีกครั้งนึง และนำเข้าBoardเพื่อพิจารณาอีกที
Q: แจ้งเพื่อทราบ ผมถือหุ้นDTAC และเขาประกาศจะไม่ประมูล Advancน่าจะไม่เข้าประมูล
Q: กังวลว่ากำไรจะลดลงจากค่าบริการเสียงและดาต้าต้องคิดราคาลดลงจากเดิมหลังได้ใบอนุญาต 1800 MHz
A: เราออก package โครงสร้างดาต้าราคาใหม่ ราคาต่อMBถูกลง แต่ไม่มี unlimited data แล้ว
ถูกต้องตามกฎของกสทช หลังจากtestแล้ว เวลามีcontentดีๆจะใช้กันเยอะ คน70%จะใช้งานมากขึ้นก็มาซื้อpackage เพิ่มเติมขึ้น ค่าใช้จ่ายต่อคนสูงขึ้น
Q: อยากรู้ Road map Digital life
1. Cloud storage เปิดให้มากขึ้น ใครเป็นคนลงทุน Data centerครับ
2. ส่วน Internet บ้าน Vision จะเริ่มขยายbusiness หรือ Startup ใช่ไหม
3. Eco system ต้องหาpartnership และ เม็ดเงิน อยากทราบวิสัยทัศน์
A: วิสัยทัศน์ เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง คนใช้ก็เปลี่ยน เราจะเปลี่ยนจาก Mobile operator
เป็น Digital service operator
เป้าหมายก็ต้องการให้องค์กร ลูกค้า สามารถใช้ชีวิตดีขึ้น ต้องมีการใช้ Network ที่แข็งแรงขึ้น
สร้าง Fix Broadband เราจะมีโครงข่ายที่แข็งแรง เราจะสร้างฐานลูกค้าเพิ่มไปอีก
คนนึงอาจใช้บริการมากกว่าหนึ่งเบอร์ อยู่บนdeviceต่างๆ เราจึงต้องมี digital service application
เช่น Line ในอนาคต เมืองจีน ชาวไร่สามารถซื้อขายพืชผักบนมือถือได้
AIS มีรายได้จาก
1. Core business
2. รายได้อื่น เช่น จากส่งผ่านระบบของเรา เพลง ขายผ่านมือถือ อย่างน้อย 10%จะมาอยู่ที่เรา
ธุรการการเงิน จะเกิด เรากินtransaction แต่ยืนยันว่าไม่เปิดเป็นธนาคาร
Data center เราลงทุนหลายแห่ง แต่ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับ network
Infrastructure เราลงทุนเอง แต่ เราไม่ลงทุนเรื่อง content ซึ่งเราไม่แข่งกับช่อง3,7,Grammy
และเรากินรายได้จากส่วนนี้ ลูกค้าจะใช้อุปกรณ์อะไร ก็ดูได้ ต่างจากคู่แข่ง ซึ่งทำเองทั้งหมด
เราใช้ทำการsharingทั้งหมด focus ที่ core ดังนั้นเราจะเปิด startupมากมายมาทำพวกนี้
Q: หลังจาก JAS เข้ามา ทำให้valuation ของAIS ลดลงมามาก ก็เลยกังวลการประมูลรอบใหม่ เป็นห่วงมาก
อีกเรื่อง ผู้ใช้ 2G เหลืออยู่ 7.6ล้านเลขหมายที่ยังไม่เปลี่ยนจาก2G ลูกค้าส่วนนึงจะหลุดเป็นของTrue
มีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร ถ้าจำเป็นต้องประมูลคลื่น 900 MHz กสทช ก็ยังยืนยันราคาเดิม
เพราะ True ก็ไม่ยอมให้ประมูลในราคาตั้งต้นเดิม นอกจากนี้ การตีความกฤษฎาในการร่วมมือกับTOT
แต่ก็ยังไม่แน่นอน ผมกังวลปันผลจะลดลง
A: เราทำด้วยกันสามอย่าง
1. แจกมือถือเพื่อรองรับมือถือ 3G
2. เจรจา DTAC สัญญาพร้อมเปิดทันที ถ้าเปิดRoaming DTAC ได้เลยมีเพียง 4แสนคน ซึ่งเป็นลูกค้า
2G จริงๆ หลังจากได้ขยายถึงเมย พยายามจะกวาดให้มากสุด ลูกค้าส่วนนี้ก็ให้ซื้อซิมใหม่
แต่ DTAC บางพื้นที่ไปไม่ถึงเช่นภูเขา เราใส่ by spot กลางปี network 2100 เท่ากับ 900 MHz
3. TOT Deal เป็นเคสพิเศษที่มี ทรัพยากร คือ คลื่นแต่ไม่ได้ใช้ ถ้ามาร่วมกับเรา เขาก็ได้รายได้ไปรองรับองค์กร
Win - Win situation สำหรับ TOT & AIS
Q: โครงการใช้ Wifi calling ทำให้รายได้ลดลงหรือเปล่า
A: การทำ 4.5G เพื่อโชว์ศักยภาพ และ Technical solution เราเก่ง ทำให้พัฒนาได้ดี
4G วิ่งได้ 100 MBpsec วิธีที่ทำให้เร็วกว่า คือ เอาคลื่น 2-3คลื่นมารวมกัน ทำให้ความเร็วสูงขึ้น
True 4G plus = 300 Mbpsec
เราคลื่นน้อยเราทำได้300 Mbpsec ตั้งแต่วันแรกที่ launch 4G ในเดือนมค 16
ตอนนี้เราร่วมมือกับหัวเว่ย สามารถวิ่งได้ 1GBpsec เป็นเจ้าแรกที่ทำแบบ commercial launch
ซึ่งดีต่อผู้บริโภค ที่ load ข้อมูลได้เร็วขึ้น
Wifi calling สามารถใช้data โทรหากัน เราไม่กังวลเรื่องรายได้ลดลง รายได้จะกลับมาในส่วนต่างๆ
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้
Q: การโอนเงินผ่าน Mpay ยุ่งยาก และ เอาเงินออกไปก็ไม่ได้สำหรับเด็กๆ
A: ขอรับไว้พิจารณา
AGM ADVANC 29 MAR 16 เริ่มประชุม 14.15 ที่ โรงแรม Centara Ladprow
ก่อนอื่น ก็มีการแนะนำผู้บริหารและคณะกรรมการ ของบริษัท
วาระที่ 1 แจ้งเพื่อทราบ
AISได้ว่าจ้างที่ปรึกษามาประเมินใบอนุญาตที่เหมาะสม เพื่อจะได้รู้ราคาควรเป็นเท่าไหร
ใบแรก ประมูล 4x,xxx ล้านบาท คำนวณแล้วสามารถแสวงหากำไรได้
ส่วนการประมูลใบอนุญาติ 900 MHz สู้จนราคาเกินมูลค่า เลยไม่สู้ราคาต่อ
หลังจากพลาดการประมูลใบอนุญาติ 900 MHz บริษัทได้ดำเนินการดังนี้
1. เปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์ของลูกค้าที่เป็น2G ให้ใช้ 3G,4G ได้
2. Roaming with DTAC without charge มีเบอร์ที่รอเยียวยา จะขยายความในวาระ3 โดยคุณสมชัย
AIS เปลี่ยนจาก Mobile operator เข้าไปสู่ดิจิตัลไลท์ Digital Life
1. ส่วนของมือถือ เราเป็นเจ้าตลาด ต้องการสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น
2. Internetความเร็วสูง เป็นธุรกิจใหม่ต้องการบริการครบวงจร ลูกค้ามือถือใช้มือถืออยู่นอกบ้าน พอมาบ้านก็ ใช้ Fix Broadband ของเรา
3. Digital content ขับเคลื่อนให้ใช้งานดาต้ามากขึ้น ไปร่วมมือกับpartnerไม่ว่าcontent ,Game
ทำให้เป็นmodel แบ่งรายได้กันกับPartner
เราต้องสร้างความแข็งแกร่ง กับตัวเรา คู่ค้าเรา เราจะไม่โตคนเดียว เราดึงpartnerต่างๆให้บริการกับลูกค้าเรา
มีบุคลากรที่แข็งแกร่ง สร้างความเป็นนำด้าน Digital Life
ปีที่แล้วเรามีบริการแค่ 3Gแต่เราก็มีmarket share 52% ลูกค้า 38.5 ล้านเลขหมาย ดาต้าที่ใช้คิดเป็นgrowth 27%
อัตราการใช้smart phone 59% ทำให้ตลาดดาต้าของเราโตขึ้น
ปีทีแล้วลูกค้าใช้ดาต้า เฉลี่ย 2 GB ต่อเลขหมายต่อเดือน ปีก่อนแค่ 1 GBเองเป็นภาพที่อยากให้ผู้ถือหุ้นเห็น
ส่วนของ4G เราสร้างความเป็นผู้นำ หลังจากได้ไลเซนท์ตอนปลายปี เราสร้าง4G ADVANCE Mobile DATA
Internet ขยายโครงข่ายให้ได้ในพฤษาคม และ ครบในธันวาคม 15 ด้วยความเร็ว3Gที่มีอยู่ เราเน้นคุณภาพโครงข่าย
3G ใช้งานได้ทั่วประเทศอย่างสม่ำเสมอ มีองค์กรอิสระมาวัดความเร็ว เราได้certificate โครงข่ายเร็วและดีที่สุด
เรากำลังเปลี่ยนถ่ายจาก2Gไป3G,4G ลูกค้าใช้งาน2G,3G อยู่ 12ล้านเลขหมาย เราเอาเครื่อง3G,4G มาแลกเครื่องเดิม
จำนวนลดลงเหลือเพียง 7.6 ล้านเครื่องที่เป็นมือถือ 2G ลูกค้าที่เปลี่ยนไม่ทันก็ไปRoaming DTAC ได้
คลื่นความถื่ เดิมมีแค่ 2.1GHZ 15MHz ปลายปีได้คลื่น 1800 MHz เอามาให้บริการ4G รวมแล้ว 30 MHz
เราร่วมมือกับ TOT ร่วมทำงานกัน เราได้ใช้ capacity , resource ความถึ่ 2.1 GHz อีก 15 MHz
ซึ่งวันนี้(29 Mar)เราเซ๊นต์MOU กับTOT เราจะได้ทั้งหมด 45 MHZ รองรับการใช้งานได้อีก 3ปี
เรายังมีคลื่นความถี่ 850,1800 MHz อีก 3 ปีข้างหน้าของDTAC ที่มาประมูลใหม่
และ 2600 MHZ จากภาครัฐอีก2ที่มาให้ประมูลได้อีก
พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ลูกค้ากลับบ้านจะใช้ Fix Broadband ตอนนี้มี3ราย TOT,True,3BB
เรามองเห็นโอกาสอันนี้ อยากให้ลูกค้าเราใช้บริการFix broadband ของเราด้วย
ตอนนี้ตลาด Fix Broadband ตอนนี้ใช้งานแค่ 30% แต่หาคนลงทุนไม่ค่อยได้
เราได้ลงทุน Fibre optic ตอนทำNetwork 3G ทำให้ลูกค้าสามารถใช้ Fix Broadband ของเราได้
ตอนนี้ ในตลาดเมืองไทย 98%ของลูกค้าใช้ Fix Broadband เป็นแบบเก่า คือ ADSL อยู่ ก็เป็นโอกาสของเราที่ได้ลูกค้าเพิ่มเป็น FTTX ซึ่งความเร็วสูงกว่า เรายังบริการcontentให้กับลูกค้าของเรา เช่น วีดีโอจาก SK Box ได้
เราเองจะลงทุน Fix Broadband อีก 7,000 ลบ ครอบคลุม 6.5 ล้านครัวเรือน สายจะผ่านหน้าบ้านลูกค้า
ภายใน5ปี เราจะเป็น Top 3 ให้ได้
ลูกค้า 38.5ล้านคนที่ใช้มือถือของเรา ก็จะเป็นฐานต่อยอดให้เรา
เราไปติดต่อ คนทำ Digital content and application
เราไม่ลงทุนเองเรามีแนวคิด ธุรกิจแบ่งปัน ให้ผู้ชำนาญทำ เราออกแบบ Platform ให้
ซึ่งแผนเราแบ่งออกมาดังนี้
1. Mobile Money ได้แก่ Bank
2. Game ยังนิยมเล่นอยู่มาก
3. Video หนัง คาราโอเกะ
4. Cloud consumer and corporate cloud
5. M2M การจับมือกับพันธมิตรได้รายได้จากอุตสาหกรรมมาหาเรา
ประมาณการปีนี้ รายได้คงที่ ยอมรับว่าตอนนี้มีการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรม
ยังมีลูกค้า 2G บางส่วนที่ใช้ไม่ได้หลัง 14 เมษายน อาจจะไปใช้ค่ายอื่น
EBITDA ก่อนหักภาษี ลดลงเหลือ 37-38% จากเดิม 4x% เพราะการชดเชยค่าเครื่องทำให้กำไรลดลง
ปีนี้มีการตั้งงบลงทุน Fix Broadband , 3G / 4G ประมาณ 40,000 ลบ
ปีนี้เราจ่ายปันผลที่ 100% แต่ อุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงเร็ว ดังนั้นเราจะตรวจสอบอยู่เรื่อยๆ
ปัจจัยการเป็นผู้นำในโทรคมนาคม
1. เงินลงทุนเพียงพอ
2. เป็นเลิศในการให้บริการ ไม่ว่า call center, shop หน้าร้าน
3. หน่วยงานสนับสนุนหลังบ้าน ต้องมีความแข็งแรง เช่น ระบบบิล ระบบตัดเงินprepaid
4. ภาพพจน์ ต้องสร้างตลอดเวลา
5. เราเป็นรายเดียวที่เติบโตพร้อมกับpartner ดังนั้น partnerของเรา กว่า 100 เจ้าของซึ่งแข็งแรงมาก
ทิศทางในอนาคต
ข้อดีคือ ตอนนี้เราไม่มีข้อจำกัดเรื่องคลื่นความถี่ จาก 15 MHz เป็น 45 MHz
ข้อลบคือ การเติบโตเป็น 0 เพราะการแข่งขันมาก และ การปิดให้บริการ 2G
ระยะกลางเราจะแข็งแรงเพิ่มขึ้น จากรายได้ของ Fix MHz ในธุรกิจ Digital and content application
เราได้ส่วนแบ่งรายได้จากคู่ค้า เช่น เพลง ธุรกรรมการเงิน เกม เสริมรายได้เราได้แน่นอน
EBITDA ในปีต่อไปก็จะดีขึ้น เพราะ ไม่มีการชดเชยค่าเครื่องแล้ว
ในระยะยาย การ move ไปสู่ Digital content application ลูกค้าไปใช้บริการของธุรกิจอื่นด้วย
งบฐานะทางการเงิน
รายได้เพิ่ม 4% การใช้ดาต้าเพิ่มขึ้น ดึงให้รายได้ในส่วนดาต้าสูงขึ้น 1.6%
ต้นทุนค่าบริการและต้นทุนขาย เพิ่ม 1.5%
มาจาก การลดการใช้2G หมายถึงการจ่ายให้TOTน้อยลง
Asset เพิ่มขึ้น 44%มาจากขยายเครือข่าย ทำให้เงินกู้เพิ่มขึ้น
ปีที่แล้วมี งบลงทุนในเครือข่าย 3G และ ใบอนุญาต 1800 MHz
Current ratio ลดลง เหลือ 0.66 เท่า
การระดมหนี้สินเพิ่มขึ้น ทำให้ D/E 1.32 เท่า
สัดส่วนเงินกู้ระยะยาว 93% เพื่อลงทุนเครือข่าย รวมการจ่ายค่า license 1800 MHz
คำถามและคำตอบ
Q: Leverage มากขึ้น ROE ก็สูงขึ้นเป็นเรื่องปกติไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพูด
ในปี14 ต้นปี และ ปลายปี กับ ต้นปี/ปลายปี 15 Asset ที่เห็น ที่ดิน ในส่วน property plant and equipment จะเห็นว่ามีAssetเพิ่มขึ้นมาจากที่ดินหรือเปล่า
จะเห็นส่วนที่เพิ่มขึ้นคือคอมพิวเตอร์ เพิ่มมา 20,000 ล้านบาทเป็นส่วนไหน
ส่วน second license สูงขึ้นมาจากการจ่ายค่าประมูลความถี่
A: ที่ดินอาคาร ส่วนใหญ่เป็นค่าบริการเครือข่าย โครงข่าย และ ส่วนน้อยเป็นคอมพิวเตอร์ แต่ต้องลงบัญชีแบบนี้
Q: ถามนโยบายเรื่องlimit D/E ratio หรือไม่
ส่วน จ่าย คลื่น 1800 MHz D/E Ratio จะเพิ่มไปถึงเท่าไหร่ ต้องเพิ่มทุนหรือเปล่า
A: เรารักษา D/E Ratio ไม่เกิน 2 เท่า ส่วน projection หลังจ่ายครบแล้ว จะมาประเมินในปีที่ 2-3อีกครั้งนึง
Q: D/E Ratio 1.3 เหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากมีภาระจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ เป็นห่วงกำไรจะอยู่ไม่ได้ตลอด
จะกระทบต่อเงินปันผลด้วย
A: D/E Ratio 1.32 รับได้ E คงที่ ก่อหนี้เพิ่มทำให้เพิ่มขึ้นแต่รับได้ไม่เกิน 2 เท่า
Q: Interest ต่างประเทศติดลบ สนใจไปกู้ในต่างประเทศหรือไม่
A: เรานำinterest บวกกับค่าswap คิดแล้วต้นทุนจะสูงกว่ากู้ในไทยเลยยังไม่สนใจ
Q: หน้า 98 รายงานคณะกรรมการ ไม่เข้าใจเรื่อง ทำไมหน้าที่คณะกรรมการตรวจสอบต้องไป
ตรวจผู้ตรวจบัญชีด้วย
A: งบการเงินตรวจทานจากผู้ตรวจบัญชีแล้ว ไม่ใช่งานซ้ำซ้อน
เพราะกลต ให้คณะกรรมการตรวจสอบอีกครั้งนึง เป็นหน้าที่ต้องทำตามกฎบัตร
Q: ที่เป็นห่วงเรื่องการประมูลคลื่น 900 MHz ที่ JAS ทิ้ง และ กสทช ให้เริ่มต้นประมูลประมาณ 70,000ล้านบาท
และ อยากให้ท่านสมชัยยืนยันว่า เรื่องการร่วมมือกับ TOT ถึงขั้นไหนแล้ว
และ เรื่องการประมูลใหม่คลื่น 900 MHz ถ้าได้ประสิทธิภาพในการสร้างกำไรจะไม่เหมือนเดิม
A:1. ตัวคลื่น 2100 MHz เป็นของ TOT
ตอนนี้มีหน่วยงานอื่นมากำกับดูแล และTOTร่างสัญญา และหน่วยงานอื่นมาตรวจสอบ
ยังไม่สามารถยืนยันได้ 100% ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ
Board อนุมัติ เซ็นต์ MOU แล้ว
2.การประมูลคลื่น lot1 900MHz ยืนยันว่าด้วยคลื่นที่มีอยู่30MHz บวกกับ TOT อีก 15MHz
ก็เพียงพอแล้ว แต่คลื่น900MHz ก็สนใจ แต่ต้องดูกฎกติกาเงื่อนไขและราคาประมูลด้วย
ต้องรอ Public Hearingใหม่ และรอดูเงื่อนไขอีกที
ถึงแม้มีเงื่อนไขแล้ว การเข้าประมูลต้องไปคำนวณว่าคุ้มค่าหรือเปล่าอีกครั้งนึง และนำเข้าBoardเพื่อพิจารณาอีกที
Q: แจ้งเพื่อทราบ ผมถือหุ้นDTAC และเขาประกาศจะไม่ประมูล Advancน่าจะไม่เข้าประมูล
Q: กังวลว่ากำไรจะลดลงจากค่าบริการเสียงและดาต้าต้องคิดราคาลดลงจากเดิมหลังได้ใบอนุญาต 1800 MHz
A: เราออก package โครงสร้างดาต้าราคาใหม่ ราคาต่อMBถูกลง แต่ไม่มี unlimited data แล้ว
ถูกต้องตามกฎของกสทช หลังจากtestแล้ว เวลามีcontentดีๆจะใช้กันเยอะ คน70%จะใช้งานมากขึ้นก็มาซื้อpackage เพิ่มเติมขึ้น ค่าใช้จ่ายต่อคนสูงขึ้น
Q: อยากรู้ Road map Digital life
1. Cloud storage เปิดให้มากขึ้น ใครเป็นคนลงทุน Data centerครับ
2. ส่วน Internet บ้าน Vision จะเริ่มขยายbusiness หรือ Startup ใช่ไหม
3. Eco system ต้องหาpartnership และ เม็ดเงิน อยากทราบวิสัยทัศน์
A: วิสัยทัศน์ เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง คนใช้ก็เปลี่ยน เราจะเปลี่ยนจาก Mobile operator
เป็น Digital service operator
เป้าหมายก็ต้องการให้องค์กร ลูกค้า สามารถใช้ชีวิตดีขึ้น ต้องมีการใช้ Network ที่แข็งแรงขึ้น
สร้าง Fix Broadband เราจะมีโครงข่ายที่แข็งแรง เราจะสร้างฐานลูกค้าเพิ่มไปอีก
คนนึงอาจใช้บริการมากกว่าหนึ่งเบอร์ อยู่บนdeviceต่างๆ เราจึงต้องมี digital service application
เช่น Line ในอนาคต เมืองจีน ชาวไร่สามารถซื้อขายพืชผักบนมือถือได้
AIS มีรายได้จาก
1. Core business
2. รายได้อื่น เช่น จากส่งผ่านระบบของเรา เพลง ขายผ่านมือถือ อย่างน้อย 10%จะมาอยู่ที่เรา
ธุรการการเงิน จะเกิด เรากินtransaction แต่ยืนยันว่าไม่เปิดเป็นธนาคาร
Data center เราลงทุนหลายแห่ง แต่ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับ network
Infrastructure เราลงทุนเอง แต่ เราไม่ลงทุนเรื่อง content ซึ่งเราไม่แข่งกับช่อง3,7,Grammy
และเรากินรายได้จากส่วนนี้ ลูกค้าจะใช้อุปกรณ์อะไร ก็ดูได้ ต่างจากคู่แข่ง ซึ่งทำเองทั้งหมด
เราใช้ทำการsharingทั้งหมด focus ที่ core ดังนั้นเราจะเปิด startupมากมายมาทำพวกนี้
Q: หลังจาก JAS เข้ามา ทำให้valuation ของAIS ลดลงมามาก ก็เลยกังวลการประมูลรอบใหม่ เป็นห่วงมาก
อีกเรื่อง ผู้ใช้ 2G เหลืออยู่ 7.6ล้านเลขหมายที่ยังไม่เปลี่ยนจาก2G ลูกค้าส่วนนึงจะหลุดเป็นของTrue
มีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร ถ้าจำเป็นต้องประมูลคลื่น 900 MHz กสทช ก็ยังยืนยันราคาเดิม
เพราะ True ก็ไม่ยอมให้ประมูลในราคาตั้งต้นเดิม นอกจากนี้ การตีความกฤษฎาในการร่วมมือกับTOT
แต่ก็ยังไม่แน่นอน ผมกังวลปันผลจะลดลง
A: เราทำด้วยกันสามอย่าง
1. แจกมือถือเพื่อรองรับมือถือ 3G
2. เจรจา DTAC สัญญาพร้อมเปิดทันที ถ้าเปิดRoaming DTAC ได้เลยมีเพียง 4แสนคน ซึ่งเป็นลูกค้า
2G จริงๆ หลังจากได้ขยายถึงเมย พยายามจะกวาดให้มากสุด ลูกค้าส่วนนี้ก็ให้ซื้อซิมใหม่
แต่ DTAC บางพื้นที่ไปไม่ถึงเช่นภูเขา เราใส่ by spot กลางปี network 2100 เท่ากับ 900 MHz
3. TOT Deal เป็นเคสพิเศษที่มี ทรัพยากร คือ คลื่นแต่ไม่ได้ใช้ ถ้ามาร่วมกับเรา เขาก็ได้รายได้ไปรองรับองค์กร
Win - Win situation สำหรับ TOT & AIS
Q: โครงการใช้ Wifi calling ทำให้รายได้ลดลงหรือเปล่า
A: การทำ 4.5G เพื่อโชว์ศักยภาพ และ Technical solution เราเก่ง ทำให้พัฒนาได้ดี
4G วิ่งได้ 100 MBpsec วิธีที่ทำให้เร็วกว่า คือ เอาคลื่น 2-3คลื่นมารวมกัน ทำให้ความเร็วสูงขึ้น
True 4G plus = 300 Mbpsec
เราคลื่นน้อยเราทำได้300 Mbpsec ตั้งแต่วันแรกที่ launch 4G ในเดือนมค 16
ตอนนี้เราร่วมมือกับหัวเว่ย สามารถวิ่งได้ 1GBpsec เป็นเจ้าแรกที่ทำแบบ commercial launch
ซึ่งดีต่อผู้บริโภค ที่ load ข้อมูลได้เร็วขึ้น
Wifi calling สามารถใช้data โทรหากัน เราไม่กังวลเรื่องรายได้ลดลง รายได้จะกลับมาในส่วนต่างๆ
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้
Q: การโอนเงินผ่าน Mpay ยุ่งยาก และ เอาเงินออกไปก็ไม่ได้สำหรับเด็กๆ
A: ขอรับไว้พิจารณา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2558
โพสต์ที่ 2
AGM AUCT 30 Mar 16
เริ่มประชุม 10.00 ที่ สำนักงานใหญ่ สหการประมูล
การประชุมเริ่มจากการแนะนำคณะกรรมการของสหการประมูล
และเริ่มต้นที่รายงานประจำปีของบริษัท
รายได้ส่วนใหญ่ได้จากการประมูลของรถยนต์ เพิ่มขึ้น 0.41%
รถจักรยานยนต์ลดลง -20.35%
ค่าขนย้าย ลดลง -8.1%จากการประมูลสัญจรมาเป็นการเปิดสาขา ทำให้ค่าขนย้ายลดลง
รายได้เพิ่มขึ้นมาจากการประมูลจากราชการ ปปม กสทช หรือ บริการเสริม เช็คเครื่อง
รายได้โดยรวมปี58 เพิ่มขึ้น 1.25% เป็น 718.73 ล้านบาท
สรุปผลการดำเนินการเปรียบเทียบระหว่างปี 57 และ ปี 58
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคา พนักงาน และ การบริการ E auction เสียค่าlicense เพิ่มขึ้น
กำไรสุทธิ 187 ล้านบาท ลดลง7% เมื่อเทียบกับปี57 แต่ EBITDA ไม่รวมค่าเสื่อม 266 ลบ ลดลงแค่ -3.49%
สรุปฐานะการเงิน
Asset รวม เพิ่มขึ้น เป็น 751 ล้านบาท
หนี้สินรวม เพิ่มขึ้น 47.38 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.69%
ส่วนผู้ถือหุ้น ลดลง 9.2 ล้านบาท เป็น 450.16 ล้านบาท ลดลง 2.00%
รายได้รวม เพิ่มขึ้น 2.58 ล้านบาท เป็น 724.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.36%
กำไรสุทธิสำหรับปี ลดลงเหลือ 187.65 ล้านบาท
ความคิดเห็นของผู้สอบบํญชี
มีการตรวจสอบการทำงาน การนำเสนอตัวเลข เปิดเผยข้อมูลทางการเงิน
บทสรุปได้รับการพึงพอใจแบบไม่มีเงื่อนไข
ประธานคณะการตรวจสอบ รศ ดร เสาวณีย์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า
สหการประมูลได้ทำตามกฎระเบียบและคู่มือการทำงาน ระบบการควบคุม การตรวจสอบทางบัญชี ตรงตามกลต
มีการตรวจนับทรัพย์สิน รวมถึงการดูแลจรรยาบรรณ (Conflict of interest) เราได้ดูแลเป็นอย่างดี
การจ่ายเงินปันผลปี58 รวม 34 สต เท่ากับปีที่แล้ว คือปี 57 แม้ว่ากำไรลดลง คิดเป็นอัตราการปันผล 99%ของกำไร
ปันผลระหว่างกาลแล้ว 17 สต ดังนั้น จ่ายงวดนี้ 17 สต XD 9 มีค
ค่าสอบบัญชี เพิ่มขึ้น เนื่องจากเปลี่ยนแปลงระบบการตรวจสอบบัญชี แต่ได้ต่อรองลงมา แสนกว่าบาท
รศ ดร เสาวนีย์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับ บริษัท ไพร์ซวอเตอร์ ซึ่งเป็นTop4 ในประเทศ เป็นบริษัทที่มีคุณภาพ
ราคายอมรับได้สำหรับคุณภาพแบบนี้ เลยเลือกบริษัทเป็นผู้สอบบัญชีต่อ
วาระที่ 8 เรื่องการเปลี่ยนแปลง ตราประทับใหม่ ซึ่งดูง่ายขึ้น ซึ่งได้รับการอนุมัติในวาระที่8 เรียบร้อย
บริษัทมีนโยบายเปิดสาขาเพิ่มในปี 2559 จำนวน 5 สาขา คือ พิษณุโลก พื้นที่ 15 ไร่ ,ขอนแก่น พื้นที่ 25 ไร่ ,
ราชบุรี พื้นที่ 15 ไร่ ,ระยอง พื้นที่ 20 ไร่ และ สระแก้ว อีก 15% เพื่อรองรับงานที่เพิ่มขึ้น
งบลงทุนเพิ่มขึ้น 115 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 24 ล้านบาท สไลด์ผิดครับ เริ่มทยอยดำเนินการตั้งแต่ Q2 ถึง Q3 16
ปกติการเปิดสาขา จะบอกสุดท้าย เพราะ กลัวราคาที่ดินเพิ่มขึ้น หรือ กลัวคู่แข่งก็จะรู้
จริงๆไม่ต้องให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติ แต่อยากให้ผู้ถือหุ้นรับรู้ ถ้าลงมติแล้ว
ผู้บริหารลงทุนจริงอาจมีการปรับเปลี่ยน หรือ ไม่ทำก็ได้ คิดว่าคงลงทุนไม่เกินนี้
คำถามและคำตอบ
Q: คุณเมธี สอบถามว่า ใช้เงินจากแหล่งไหนมาลงทุน
A: ดร ไพบูลย์ เล่าให้ฟัง เอาจากปันผลที่วางไว้ ปี 59
ส่วนเงิน IPO ใช้มาสองปีกว่าหมดแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาเอาเงินเพิ่มเติมเข้าไป
เลยคิดว่า เราจะจ่ายปันผล100%แบบเดิมไม่ได้ แต่ปีหน้าจะเปลี่ยนเป็นหุ้นปันผล
เรามีเงินมาลงทุนได้ ทุนจดทะเบียนจะเพิ่มขึ้น ขยับปีละเกือบ 100 ล้านบาท จนขยับบริษัท
เข้าไป SET ให้ได้ ผู้ถือหุ้นได้หุ้นเพิ่มขึ้น สภาพคล่องก็เพิ่มขึ้น บางบริษัททำแบบนี้ไม่ได้
ตอนนี้เรามีเงินกู้จ่ายดอกเบี้ยประมาณแสนบาท เป็นเงิน OD
การกู้ไม่เหมาะกับสหการประมูล ถ้าเราไม่มีหนี้ เวลาดีก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าเรามีหนี้ เวลาดีจะดีมาก
แต่แย่เราแย่มากๆ กิจการขยายได้โดยไม่ใช้หนี้ เราจะเพิ่มการกู้ไปทำไม เกิด เศรษฐกิจผิดพลาด เราก็ไปเลย สวิงมาก
ธุรกิจเราทำได้โดยไม่กู้เงิน ยกเว้น เราทำแบบเดิม ผู้ถือหุ้นไม่พอใจกำไรช้า ก็ไปลุย Leasing
เวลาดีก็ดีมาก แต่ไม่ดี ก็ออกจากตลาดไปเลย นาทีนี้เราทำธุรกิจแบบไม่ใช้เงิน ใช้กลยุทธ์ และ เทคโนโลยี
ซึ่งจะมีการโหวตกันปีหน้า เอาเงินสดที่ไม่จ่ายปันผลมาลงทุนแทน
บริษัท ไม่ซื้อที่ดิน แต่จะเช่าอย่างเดียว ถ้านักลงทุนเห็นป้ายสหการประมูลที่ไหน เป็นที่เช่าหมดครับ
มติในที่ประชุม วาระที 9.1 ผ่านครับ
เรื่อง การต่อต้านการคอร์รับชั่น รศ ดร เสาวนีย์ ชี้แจงว่า สหการประมูล จะมีเกี่ยวข้องในเรื่องการใช้นายหน้า
เราตัดสินใจเลิก และ Deal กับ นิติบุคคลแทน เพื่อให้เป็นค่าcommission ทุกวันนี้เราก็ยังค้าขายได้ ยังมีกำไรให้
บริษัทเดินได้ เราเดินในแนวธรรมภิบาล ต่อต้านสินบน ดูแลไม่จ่าย ไม่รับ สิ่งของ ของขวัญ ที่แปลกประหลาด
เป็นสี่ข้อของตลาดหลักทรัพย์ที่เราทำตามมาตลอด
Q: ปี59 เรามีขยายธุรกิจอย่างไรบ้าง
การขยายฐานลูกค้าไปแค่ไหน การจับมือกับกลุ่มนี้มากกว่าเดิมไหม
A: คุณเทพทัย บอกว่า เรามี เครื่องจักรกลตามเกษตร เช่น คูโบต้า น่าจะทำรายได้ 10ล้านบาท
ส่วนอสังหาริมทรัพย์ เราประสานกับธนาคารใหญ่ ด้วยที่สินค้าไม่สามารถปรับราคาลงมาได้ เราเลยยังไม่ทำ
หลายบริษัทเพิ่มสัดส่วนในการให้งานกับเราจาก 30% ไป 50% แล้ว
ระยะปีนี้ เราไป present ให้กับหน่วยงานมากแต่เนื่องจากเป็นราชการ เลยต้องรอผ่านมติก่อน
จำนวนเข้าประมูลรถยนต์และมอเตอร์ไซต์เพิ่มขึ้น ความเห็นส่วนตัว การจบการประมูล ปรับลง10%
ดร ไพบูลย์มาเสริม ปกติ Supplier จะให้หลายรายมาทำเรื่องการประมูล
หน้าที่เราคือทำการประมูลให้ดีที่สุด เราต้องปรับปรุงระบบไอที ระบบการให้บริการ บุคลากร
ค่าใช้จ่ายบุคลากรเพิ่มขึ้น พัฒนาคนเพิ่มขึ้น
Bonus ให้พนักงานเฉลี่ย 1.5 เดือน และ ขึ้นเงินเดือนเฉลี่ย 4%
ผู้บริหาร2ท่านไม่รับเงินเดือนเพิ่มเพราะกำไรไม่เพิ่ม ต้องขอบคุณมากครับ
ค่าใช้จ่ายของบุคลากรเพิ่มขึ้น ทำให้กำไรลดลง บริษัทมีทรัพย์สินอย่างเดียวคือคน
เราอยู่ในตลาด มีคนตรวจสอบบัญชี เราต้องมีอะไรที่เหนือกว่าบริษัทนอกตลาด ต้องทำอะไรที่แตกต่าง
พนักงานปีที่ผ่านมาเหนื่อยมาก รายได้ไม่ลดลง30%ตามตลาดก็ดีมากแล้ว ถ้าเศรษฐกิจลงนิดเดียว เราจะลงเยอะ
แต่เราก็ทำผลประกอบได้ดีมากในปีที่แล้ว
Q: แนวโน้มการปรับตัวของรถ และ ทาง JAS ไม่ยื่นหลักประกัน ทางบริษัท มีโอกาสไปทำงานประมูลไหม
A: การคัดเลือกของหน่วยราชการมีกฎเกณฑ์ เราทำงานได้ดี มีโอกาสได้รับคัดเลือก
ส่วนเรื่องราคารถ คุณเทพทัย เสริมว่าอยู่ที่กลไกตลาด ธุรกิจเราไม่มีstock, ไม่มีดอกเบี้ย เรารับค่าบริการ8,000บาทต่อคัน กำลังซื้อยังไม่เห็นชัด แต่ตลาดรถใหม่อ่อนตัว ตามสถิติรถเก่าจะขายดีครับ
ปิดประชุม เวลา 11.00 น
เริ่มประชุม 10.00 ที่ สำนักงานใหญ่ สหการประมูล
การประชุมเริ่มจากการแนะนำคณะกรรมการของสหการประมูล
และเริ่มต้นที่รายงานประจำปีของบริษัท
รายได้ส่วนใหญ่ได้จากการประมูลของรถยนต์ เพิ่มขึ้น 0.41%
รถจักรยานยนต์ลดลง -20.35%
ค่าขนย้าย ลดลง -8.1%จากการประมูลสัญจรมาเป็นการเปิดสาขา ทำให้ค่าขนย้ายลดลง
รายได้เพิ่มขึ้นมาจากการประมูลจากราชการ ปปม กสทช หรือ บริการเสริม เช็คเครื่อง
รายได้โดยรวมปี58 เพิ่มขึ้น 1.25% เป็น 718.73 ล้านบาท
สรุปผลการดำเนินการเปรียบเทียบระหว่างปี 57 และ ปี 58
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคา พนักงาน และ การบริการ E auction เสียค่าlicense เพิ่มขึ้น
กำไรสุทธิ 187 ล้านบาท ลดลง7% เมื่อเทียบกับปี57 แต่ EBITDA ไม่รวมค่าเสื่อม 266 ลบ ลดลงแค่ -3.49%
สรุปฐานะการเงิน
Asset รวม เพิ่มขึ้น เป็น 751 ล้านบาท
หนี้สินรวม เพิ่มขึ้น 47.38 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.69%
ส่วนผู้ถือหุ้น ลดลง 9.2 ล้านบาท เป็น 450.16 ล้านบาท ลดลง 2.00%
รายได้รวม เพิ่มขึ้น 2.58 ล้านบาท เป็น 724.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.36%
กำไรสุทธิสำหรับปี ลดลงเหลือ 187.65 ล้านบาท
ความคิดเห็นของผู้สอบบํญชี
มีการตรวจสอบการทำงาน การนำเสนอตัวเลข เปิดเผยข้อมูลทางการเงิน
บทสรุปได้รับการพึงพอใจแบบไม่มีเงื่อนไข
ประธานคณะการตรวจสอบ รศ ดร เสาวณีย์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า
สหการประมูลได้ทำตามกฎระเบียบและคู่มือการทำงาน ระบบการควบคุม การตรวจสอบทางบัญชี ตรงตามกลต
มีการตรวจนับทรัพย์สิน รวมถึงการดูแลจรรยาบรรณ (Conflict of interest) เราได้ดูแลเป็นอย่างดี
การจ่ายเงินปันผลปี58 รวม 34 สต เท่ากับปีที่แล้ว คือปี 57 แม้ว่ากำไรลดลง คิดเป็นอัตราการปันผล 99%ของกำไร
ปันผลระหว่างกาลแล้ว 17 สต ดังนั้น จ่ายงวดนี้ 17 สต XD 9 มีค
ค่าสอบบัญชี เพิ่มขึ้น เนื่องจากเปลี่ยนแปลงระบบการตรวจสอบบัญชี แต่ได้ต่อรองลงมา แสนกว่าบาท
รศ ดร เสาวนีย์ ให้ความเห็นเกี่ยวกับ บริษัท ไพร์ซวอเตอร์ ซึ่งเป็นTop4 ในประเทศ เป็นบริษัทที่มีคุณภาพ
ราคายอมรับได้สำหรับคุณภาพแบบนี้ เลยเลือกบริษัทเป็นผู้สอบบัญชีต่อ
วาระที่ 8 เรื่องการเปลี่ยนแปลง ตราประทับใหม่ ซึ่งดูง่ายขึ้น ซึ่งได้รับการอนุมัติในวาระที่8 เรียบร้อย
บริษัทมีนโยบายเปิดสาขาเพิ่มในปี 2559 จำนวน 5 สาขา คือ พิษณุโลก พื้นที่ 15 ไร่ ,ขอนแก่น พื้นที่ 25 ไร่ ,
ราชบุรี พื้นที่ 15 ไร่ ,ระยอง พื้นที่ 20 ไร่ และ สระแก้ว อีก 15% เพื่อรองรับงานที่เพิ่มขึ้น
งบลงทุนเพิ่มขึ้น 115 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 24 ล้านบาท สไลด์ผิดครับ เริ่มทยอยดำเนินการตั้งแต่ Q2 ถึง Q3 16
ปกติการเปิดสาขา จะบอกสุดท้าย เพราะ กลัวราคาที่ดินเพิ่มขึ้น หรือ กลัวคู่แข่งก็จะรู้
จริงๆไม่ต้องให้ผู้ถือหุ้นอนุมัติ แต่อยากให้ผู้ถือหุ้นรับรู้ ถ้าลงมติแล้ว
ผู้บริหารลงทุนจริงอาจมีการปรับเปลี่ยน หรือ ไม่ทำก็ได้ คิดว่าคงลงทุนไม่เกินนี้
คำถามและคำตอบ
Q: คุณเมธี สอบถามว่า ใช้เงินจากแหล่งไหนมาลงทุน
A: ดร ไพบูลย์ เล่าให้ฟัง เอาจากปันผลที่วางไว้ ปี 59
ส่วนเงิน IPO ใช้มาสองปีกว่าหมดแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาเอาเงินเพิ่มเติมเข้าไป
เลยคิดว่า เราจะจ่ายปันผล100%แบบเดิมไม่ได้ แต่ปีหน้าจะเปลี่ยนเป็นหุ้นปันผล
เรามีเงินมาลงทุนได้ ทุนจดทะเบียนจะเพิ่มขึ้น ขยับปีละเกือบ 100 ล้านบาท จนขยับบริษัท
เข้าไป SET ให้ได้ ผู้ถือหุ้นได้หุ้นเพิ่มขึ้น สภาพคล่องก็เพิ่มขึ้น บางบริษัททำแบบนี้ไม่ได้
ตอนนี้เรามีเงินกู้จ่ายดอกเบี้ยประมาณแสนบาท เป็นเงิน OD
การกู้ไม่เหมาะกับสหการประมูล ถ้าเราไม่มีหนี้ เวลาดีก็ดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าเรามีหนี้ เวลาดีจะดีมาก
แต่แย่เราแย่มากๆ กิจการขยายได้โดยไม่ใช้หนี้ เราจะเพิ่มการกู้ไปทำไม เกิด เศรษฐกิจผิดพลาด เราก็ไปเลย สวิงมาก
ธุรกิจเราทำได้โดยไม่กู้เงิน ยกเว้น เราทำแบบเดิม ผู้ถือหุ้นไม่พอใจกำไรช้า ก็ไปลุย Leasing
เวลาดีก็ดีมาก แต่ไม่ดี ก็ออกจากตลาดไปเลย นาทีนี้เราทำธุรกิจแบบไม่ใช้เงิน ใช้กลยุทธ์ และ เทคโนโลยี
ซึ่งจะมีการโหวตกันปีหน้า เอาเงินสดที่ไม่จ่ายปันผลมาลงทุนแทน
บริษัท ไม่ซื้อที่ดิน แต่จะเช่าอย่างเดียว ถ้านักลงทุนเห็นป้ายสหการประมูลที่ไหน เป็นที่เช่าหมดครับ
มติในที่ประชุม วาระที 9.1 ผ่านครับ
เรื่อง การต่อต้านการคอร์รับชั่น รศ ดร เสาวนีย์ ชี้แจงว่า สหการประมูล จะมีเกี่ยวข้องในเรื่องการใช้นายหน้า
เราตัดสินใจเลิก และ Deal กับ นิติบุคคลแทน เพื่อให้เป็นค่าcommission ทุกวันนี้เราก็ยังค้าขายได้ ยังมีกำไรให้
บริษัทเดินได้ เราเดินในแนวธรรมภิบาล ต่อต้านสินบน ดูแลไม่จ่าย ไม่รับ สิ่งของ ของขวัญ ที่แปลกประหลาด
เป็นสี่ข้อของตลาดหลักทรัพย์ที่เราทำตามมาตลอด
Q: ปี59 เรามีขยายธุรกิจอย่างไรบ้าง
การขยายฐานลูกค้าไปแค่ไหน การจับมือกับกลุ่มนี้มากกว่าเดิมไหม
A: คุณเทพทัย บอกว่า เรามี เครื่องจักรกลตามเกษตร เช่น คูโบต้า น่าจะทำรายได้ 10ล้านบาท
ส่วนอสังหาริมทรัพย์ เราประสานกับธนาคารใหญ่ ด้วยที่สินค้าไม่สามารถปรับราคาลงมาได้ เราเลยยังไม่ทำ
หลายบริษัทเพิ่มสัดส่วนในการให้งานกับเราจาก 30% ไป 50% แล้ว
ระยะปีนี้ เราไป present ให้กับหน่วยงานมากแต่เนื่องจากเป็นราชการ เลยต้องรอผ่านมติก่อน
จำนวนเข้าประมูลรถยนต์และมอเตอร์ไซต์เพิ่มขึ้น ความเห็นส่วนตัว การจบการประมูล ปรับลง10%
ดร ไพบูลย์มาเสริม ปกติ Supplier จะให้หลายรายมาทำเรื่องการประมูล
หน้าที่เราคือทำการประมูลให้ดีที่สุด เราต้องปรับปรุงระบบไอที ระบบการให้บริการ บุคลากร
ค่าใช้จ่ายบุคลากรเพิ่มขึ้น พัฒนาคนเพิ่มขึ้น
Bonus ให้พนักงานเฉลี่ย 1.5 เดือน และ ขึ้นเงินเดือนเฉลี่ย 4%
ผู้บริหาร2ท่านไม่รับเงินเดือนเพิ่มเพราะกำไรไม่เพิ่ม ต้องขอบคุณมากครับ
ค่าใช้จ่ายของบุคลากรเพิ่มขึ้น ทำให้กำไรลดลง บริษัทมีทรัพย์สินอย่างเดียวคือคน
เราอยู่ในตลาด มีคนตรวจสอบบัญชี เราต้องมีอะไรที่เหนือกว่าบริษัทนอกตลาด ต้องทำอะไรที่แตกต่าง
พนักงานปีที่ผ่านมาเหนื่อยมาก รายได้ไม่ลดลง30%ตามตลาดก็ดีมากแล้ว ถ้าเศรษฐกิจลงนิดเดียว เราจะลงเยอะ
แต่เราก็ทำผลประกอบได้ดีมากในปีที่แล้ว
Q: แนวโน้มการปรับตัวของรถ และ ทาง JAS ไม่ยื่นหลักประกัน ทางบริษัท มีโอกาสไปทำงานประมูลไหม
A: การคัดเลือกของหน่วยราชการมีกฎเกณฑ์ เราทำงานได้ดี มีโอกาสได้รับคัดเลือก
ส่วนเรื่องราคารถ คุณเทพทัย เสริมว่าอยู่ที่กลไกตลาด ธุรกิจเราไม่มีstock, ไม่มีดอกเบี้ย เรารับค่าบริการ8,000บาทต่อคัน กำลังซื้อยังไม่เห็นชัด แต่ตลาดรถใหม่อ่อนตัว ตามสถิติรถเก่าจะขายดีครับ
ปิดประชุม เวลา 11.00 น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2558
โพสต์ที่ 3
AGM INTUCH 31 MAR 16 ที่โรงแรม เซ็นทารา ลาดพร้าว
Business Overview
เริ่มลงทุนในธุรกิจใหม่
1. InVent ลงทุนในStart Up 4 แห่งในปี 2015 รวมมี 7 บริษัทอยู่ใน Portfolio
2. HIGH join venture ในธุรกิจ Home Shopping กับ Hyndai Home Shopping
Home shopping เริ่มเปิดดำเนินการไปแล้วตั้งแต่ 6 มค 16 ยอดขายประมาณ 1 ล้านบาทต่อวัน
กำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 6.9% มาจากกำไรใน AIS และ THCOM
โดยกำไรจาก AIS เพิ่มขึ้น 9.1% จากการเพิ่มขึ้นของ Service revenue 4.4% และ regulatory fee ที่ต่ำลงจากการย้ายจาก 2G ไป 3G 2100 MHz
ส่วนกำไรที่แชร์มาจาก THCOM เพิ่มขึ้น 32.6% มาจากรายได้ส่วนดาวเทียม Launch THCOM7 booking 100%
on Q4 15 และ มาจากการขายบางส่วนของSynertone และ SG&A ที่ต่ำลง
คดี ITV เหตุผลที่ล่าช้า9 ปี เพราะขบวนการทางราชการ ซึ่งมีขั้นตอนเยอะ
Performance ของ บริษัท
กำไรต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 4.6 เป็น 5.01 บาท ต่อหุ้น
รายได้เพิ่มขึ้นจาก 27,234 เป็น 29,268 ล้านบาท
จ่ายเงินปันผล 100% ปันผลระหว่างกาล 2.47 บาท XD 8 เมย และ จ่ายวันที่ 28 เมย 16
สำหรับบริษัท ไอทีวี ประเด็นหลักในการชี้ขาด
1. การบอกเลิกสํญญาจากสปนไม่ชอบ ปรากฏว่า ผ่าน
2. เรียกร้องการขาดรายได้ อนุโตตุลาการชี้ขาดให้ ชนะคดี ได้เงิน 2,890 ลบ แต่ต้องชำระส่วนต่างของ Operating Fee 2,210 บวกดอกเบี้ยในจำนวนที่เท่ากัน ดังนันเป็นการหักกลบลบหนี้พอดร
ส่วนอันอื่นก็ยกฟ้องทั้งหมด แต่ทั้งสองฝ่ายยังยื่นฟ้องได้ภายใน 2 พค 2559
ตอนนี้บริษัทกำลังพิจารณาข้อดีและข้อเสีย โดยว่าจ้างที่ปรึกษากฎหมายมาช่วย และ จะมีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นของไอทีวีด้วย
คำถามและคำตอบในที่ประชุม
Q: ราคาหุ้นตกลงมา 40กว่าบาท หลังประมูลไม่ได้คลื่นของ900MHz อยากทราบสาเหตุ และ ขอถามค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้กับTOT เป็นหลักหมื่นล้านบาทใช่ไหม
A: คุณสมประสงค์ ตอบว่า ในส่วนของปีท้ายๆของTOT เราต้องจ่ายต่อปีประมาณ 20,000กว่าล้านบาทครับ
แต่เรื่องหุ้นตกเกินสติคุณสมประสงค์จะตอบ
Q: ตอนผมประชุมกับ Advance คำถามที่ถาม ไปตอบตอนวาระอื่นๆตอนท้าย ซึ่งผมอยู่ต่างจังหวัด ต้องรีบกลับก่อนเลยไม่ได้ฟัง ผมเลยขอถามในทีประชุมนี้ครับ
1.ธุรกิจของAdvance รายได้จะคงที่ ต้นทุนถูกลง ปีนีกำไรจะโตขนาดไหน
2. Thaicom 8 จะgenerate รายได้ขนาดไหน
3. Home shopping จะมีรายได้เป็นอย่างไร
A: คุณวิทิต ชี้แจงเรื่อง Advance สำหรับคำถามจะมาตอบในช่วงท้าย อยากให้จบวาระก่อน ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญ
ปีที่ผ่านมา Advance เป็นปีที่กำไรมากสุดในประวัติการณ์ 39,000 ล้านบาท
ปีนี้ไม่เท่าเดิม มาจากปีทีผ่านมาลงทุนค่อนข้างหนัก รับรู้ค่าใช้จ่าย มีค่าเสื่อม (depre) จากการลงทุนมากขึ้นมีผลกระทบต่อกำไร เราพยายามจะให้ลดลงน้อยที่สุด
Thaicom 8เสร็จแล้วแต่ยังไม่ยิงขึ้นฟ้า มีค่อยเช่าประมาณ 20% แล้ว จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
กำไร 2000 ล้านบาท เติบโต 30กว่า% Thaicom8 เปิดจะช่วยให้กำไรดีขึ้น
สำหรับ Home shopping เป็นธุรกิจไม่ใหม่ ผมเจอตอนอยู่USA ส่วนในไทยโต 20%ต่อปี5 ปีติดต่อกัน
เป็นเรื่องดีที่เราลงทุน ใน Home shopping ถ้าเราไม่เรียนรู้ เราจะยากในการทำ E-commerce
เราprocess สินค้าที่ตีกลับ เราได้เรียนรู้และเตรียมตัวเพื่อเข้าใจขั้นตอนต่างๆ
เพื่อจะมีประสบการณ์ในการทำ E-commerce ที่จะเกิดในอนาคต
Q: ตอนนี้ VC 7 บริษัท อยากทราบขั้นตอนในการพิจารณาเลือกบริษัท
A: มีคณะกรรมการพิจารณาเลือกบริษัทที่จะลงทุน และ ลงทุนประมาณ 20-30%เท่านั้น เพื่อให้เจ้าของมีอิสระในการตัดสินใจ ถ้ามีบริษัทดีมาก เราก็ลงทุนมากขึ้น
Q: เราอยากมีธุรกิจใหม่เพิ่มอีกเท่าไหร่ สิงค์โปร์ก็มีจัดให้มาเจอกันด้วย ทำไมเราไม่จัดบ้าง วันนี้ควรเชิญstartup ที่เราไปลงทุนมาให้เรารู้จักบ้าง
A: โครงการดีๆเราก็ไม่อยากพลาดโอกาส แต่ก็มีความเสี่ยง มีการscreenกันหลายคน มีคณะกรรมการในการพิจารณา
ต่อไป Home shopping จะมาขายสินค้าในงานประชุมผู้ถือหุ้นด้วย
Q: ธุรกิจภายใต้7บริษัท มีรายได้เท่าไหร่ปีนี้โตเท่าไหร่
A: ธุรกิจที่ไปลง ผลประกอบการ 7 บริษัท VC เราไม่ได้วัดผลแบบธุรกิจทั่วไป เราดูไอเดียใหม่เช่น อุ๊บบี
เราคิดว่าเพียงพอไหมตามบริการที่ให้มา อีกวิธี คือ เราลงทุนใหม่ และวัดผล เช่น
ถ้าลูกค้าเพิ่มขึ้น จาก 5 แสนเป็นล้านคน แสดงว่าใช้ได้
เราต้องช่วยทำตลาด บริหารธุรกิจแบบมืออาชีพสำหรับคนเริ่มต้นทำกิจการ
Q;แสดงว่าไม่มีผลกำไรมีแต่ค่าใช้จ่ายเป็นเงินเท่าไหร ข้อตกลงเป็นอย่างไรบ้าง
เราได้ตั้งสำรองหนี้สูญของไอทีวีเท่าไหร่
A: วงเงิน 200 ลบสำหรับ start up ซึ่งในปีที่แล้วใช้เงินไป98 ล้านบาท
ข้อตกลงตามเงื่อนไขการเป็นผู้ถือหุ้นเหล่านี้ คงไม่สามารถลงรายละเอียดได้
สำหรับ ไอทีวี วันที่ 2 พค 16 รอ สตง สรุปก่อน
ส่วนที่ reverse 3,900 ล้านบาท ของไอที่วีที่อาจกลับมาเป็นกำไร
แต่ต้องรอผู้ตรวจสอบบัญชีรายใหม่ ซึ่งจะสรุปภายใน Q2 16 แต่เป็นแค่ตัวเลขทางบัญชี ไม่มีเงินสด
Q: ไทยคมมีปัญหาในส่วนราชการสำหรับ Thaicom9ไหม
ยังยึดหลัก ยอดพรีเซล ต้องคุ้มทุน คือมีลูกค้าอย่างน้อย 30% ก่อนจะยิง ถ้าไม่ถึงจะเลื่อนออกไปหรือไม่
A: ในส่วน Thaicom8 ไม่เลื่อนยิงในมิย 16 เรามั่นใจจะหาลูกค้ามากขึ้น ค่อยๆทยอยเป็น 40-50%
Thaicom9 กำลังคุยกับICT ในกรณีตัดสินใจลงทุน เราต้องมั่นใจเรื่องใบอนุญาตก่อน จึงดำเนินการ
Q: Homeshopping น่าเสนอให้เข้า internet เข้าไปซื้อเลย ตอนนี้ที่เจอปรากฎว่าไม่มีสินค้าให้เลือกเลย
A: เราต้องปรับปรุงหลายจุดก่อนเข้าไปสู่internet
Q: ยอดกำไรสุทธิ 8,019 ลบ เป็นของปี2015หรือ Q1 16 และ น่าจะมีเวลาให้ผู้ถือหุ้น สัก3วัน- สัปดาห์หลังประชุม ก่อน ขึ้น XD ในการพิจารณาจะซื้อเพิ่มหรือขายออกไป
A: จะรับไปพิจารณา ส่วนการทำงบการเงิน ได้รอ AIS , Thcom เสร็จแล้ว ซึ่งตัวเลขไม่น่าคลาดเคลื่อน
Business Overview
เริ่มลงทุนในธุรกิจใหม่
1. InVent ลงทุนในStart Up 4 แห่งในปี 2015 รวมมี 7 บริษัทอยู่ใน Portfolio
2. HIGH join venture ในธุรกิจ Home Shopping กับ Hyndai Home Shopping
Home shopping เริ่มเปิดดำเนินการไปแล้วตั้งแต่ 6 มค 16 ยอดขายประมาณ 1 ล้านบาทต่อวัน
กำไรสุทธิ เพิ่มขึ้น 6.9% มาจากกำไรใน AIS และ THCOM
โดยกำไรจาก AIS เพิ่มขึ้น 9.1% จากการเพิ่มขึ้นของ Service revenue 4.4% และ regulatory fee ที่ต่ำลงจากการย้ายจาก 2G ไป 3G 2100 MHz
ส่วนกำไรที่แชร์มาจาก THCOM เพิ่มขึ้น 32.6% มาจากรายได้ส่วนดาวเทียม Launch THCOM7 booking 100%
on Q4 15 และ มาจากการขายบางส่วนของSynertone และ SG&A ที่ต่ำลง
คดี ITV เหตุผลที่ล่าช้า9 ปี เพราะขบวนการทางราชการ ซึ่งมีขั้นตอนเยอะ
Performance ของ บริษัท
กำไรต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 4.6 เป็น 5.01 บาท ต่อหุ้น
รายได้เพิ่มขึ้นจาก 27,234 เป็น 29,268 ล้านบาท
จ่ายเงินปันผล 100% ปันผลระหว่างกาล 2.47 บาท XD 8 เมย และ จ่ายวันที่ 28 เมย 16
สำหรับบริษัท ไอทีวี ประเด็นหลักในการชี้ขาด
1. การบอกเลิกสํญญาจากสปนไม่ชอบ ปรากฏว่า ผ่าน
2. เรียกร้องการขาดรายได้ อนุโตตุลาการชี้ขาดให้ ชนะคดี ได้เงิน 2,890 ลบ แต่ต้องชำระส่วนต่างของ Operating Fee 2,210 บวกดอกเบี้ยในจำนวนที่เท่ากัน ดังนันเป็นการหักกลบลบหนี้พอดร
ส่วนอันอื่นก็ยกฟ้องทั้งหมด แต่ทั้งสองฝ่ายยังยื่นฟ้องได้ภายใน 2 พค 2559
ตอนนี้บริษัทกำลังพิจารณาข้อดีและข้อเสีย โดยว่าจ้างที่ปรึกษากฎหมายมาช่วย และ จะมีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นของไอทีวีด้วย
คำถามและคำตอบในที่ประชุม
Q: ราคาหุ้นตกลงมา 40กว่าบาท หลังประมูลไม่ได้คลื่นของ900MHz อยากทราบสาเหตุ และ ขอถามค่าใช้จ่ายที่จ่ายให้กับTOT เป็นหลักหมื่นล้านบาทใช่ไหม
A: คุณสมประสงค์ ตอบว่า ในส่วนของปีท้ายๆของTOT เราต้องจ่ายต่อปีประมาณ 20,000กว่าล้านบาทครับ
แต่เรื่องหุ้นตกเกินสติคุณสมประสงค์จะตอบ
Q: ตอนผมประชุมกับ Advance คำถามที่ถาม ไปตอบตอนวาระอื่นๆตอนท้าย ซึ่งผมอยู่ต่างจังหวัด ต้องรีบกลับก่อนเลยไม่ได้ฟัง ผมเลยขอถามในทีประชุมนี้ครับ
1.ธุรกิจของAdvance รายได้จะคงที่ ต้นทุนถูกลง ปีนีกำไรจะโตขนาดไหน
2. Thaicom 8 จะgenerate รายได้ขนาดไหน
3. Home shopping จะมีรายได้เป็นอย่างไร
A: คุณวิทิต ชี้แจงเรื่อง Advance สำหรับคำถามจะมาตอบในช่วงท้าย อยากให้จบวาระก่อน ซึ่งเป็นประเด็นที่สำคัญ
ปีที่ผ่านมา Advance เป็นปีที่กำไรมากสุดในประวัติการณ์ 39,000 ล้านบาท
ปีนี้ไม่เท่าเดิม มาจากปีทีผ่านมาลงทุนค่อนข้างหนัก รับรู้ค่าใช้จ่าย มีค่าเสื่อม (depre) จากการลงทุนมากขึ้นมีผลกระทบต่อกำไร เราพยายามจะให้ลดลงน้อยที่สุด
Thaicom 8เสร็จแล้วแต่ยังไม่ยิงขึ้นฟ้า มีค่อยเช่าประมาณ 20% แล้ว จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
กำไร 2000 ล้านบาท เติบโต 30กว่า% Thaicom8 เปิดจะช่วยให้กำไรดีขึ้น
สำหรับ Home shopping เป็นธุรกิจไม่ใหม่ ผมเจอตอนอยู่USA ส่วนในไทยโต 20%ต่อปี5 ปีติดต่อกัน
เป็นเรื่องดีที่เราลงทุน ใน Home shopping ถ้าเราไม่เรียนรู้ เราจะยากในการทำ E-commerce
เราprocess สินค้าที่ตีกลับ เราได้เรียนรู้และเตรียมตัวเพื่อเข้าใจขั้นตอนต่างๆ
เพื่อจะมีประสบการณ์ในการทำ E-commerce ที่จะเกิดในอนาคต
Q: ตอนนี้ VC 7 บริษัท อยากทราบขั้นตอนในการพิจารณาเลือกบริษัท
A: มีคณะกรรมการพิจารณาเลือกบริษัทที่จะลงทุน และ ลงทุนประมาณ 20-30%เท่านั้น เพื่อให้เจ้าของมีอิสระในการตัดสินใจ ถ้ามีบริษัทดีมาก เราก็ลงทุนมากขึ้น
Q: เราอยากมีธุรกิจใหม่เพิ่มอีกเท่าไหร่ สิงค์โปร์ก็มีจัดให้มาเจอกันด้วย ทำไมเราไม่จัดบ้าง วันนี้ควรเชิญstartup ที่เราไปลงทุนมาให้เรารู้จักบ้าง
A: โครงการดีๆเราก็ไม่อยากพลาดโอกาส แต่ก็มีความเสี่ยง มีการscreenกันหลายคน มีคณะกรรมการในการพิจารณา
ต่อไป Home shopping จะมาขายสินค้าในงานประชุมผู้ถือหุ้นด้วย
Q: ธุรกิจภายใต้7บริษัท มีรายได้เท่าไหร่ปีนี้โตเท่าไหร่
A: ธุรกิจที่ไปลง ผลประกอบการ 7 บริษัท VC เราไม่ได้วัดผลแบบธุรกิจทั่วไป เราดูไอเดียใหม่เช่น อุ๊บบี
เราคิดว่าเพียงพอไหมตามบริการที่ให้มา อีกวิธี คือ เราลงทุนใหม่ และวัดผล เช่น
ถ้าลูกค้าเพิ่มขึ้น จาก 5 แสนเป็นล้านคน แสดงว่าใช้ได้
เราต้องช่วยทำตลาด บริหารธุรกิจแบบมืออาชีพสำหรับคนเริ่มต้นทำกิจการ
Q;แสดงว่าไม่มีผลกำไรมีแต่ค่าใช้จ่ายเป็นเงินเท่าไหร ข้อตกลงเป็นอย่างไรบ้าง
เราได้ตั้งสำรองหนี้สูญของไอทีวีเท่าไหร่
A: วงเงิน 200 ลบสำหรับ start up ซึ่งในปีที่แล้วใช้เงินไป98 ล้านบาท
ข้อตกลงตามเงื่อนไขการเป็นผู้ถือหุ้นเหล่านี้ คงไม่สามารถลงรายละเอียดได้
สำหรับ ไอทีวี วันที่ 2 พค 16 รอ สตง สรุปก่อน
ส่วนที่ reverse 3,900 ล้านบาท ของไอที่วีที่อาจกลับมาเป็นกำไร
แต่ต้องรอผู้ตรวจสอบบัญชีรายใหม่ ซึ่งจะสรุปภายใน Q2 16 แต่เป็นแค่ตัวเลขทางบัญชี ไม่มีเงินสด
Q: ไทยคมมีปัญหาในส่วนราชการสำหรับ Thaicom9ไหม
ยังยึดหลัก ยอดพรีเซล ต้องคุ้มทุน คือมีลูกค้าอย่างน้อย 30% ก่อนจะยิง ถ้าไม่ถึงจะเลื่อนออกไปหรือไม่
A: ในส่วน Thaicom8 ไม่เลื่อนยิงในมิย 16 เรามั่นใจจะหาลูกค้ามากขึ้น ค่อยๆทยอยเป็น 40-50%
Thaicom9 กำลังคุยกับICT ในกรณีตัดสินใจลงทุน เราต้องมั่นใจเรื่องใบอนุญาตก่อน จึงดำเนินการ
Q: Homeshopping น่าเสนอให้เข้า internet เข้าไปซื้อเลย ตอนนี้ที่เจอปรากฎว่าไม่มีสินค้าให้เลือกเลย
A: เราต้องปรับปรุงหลายจุดก่อนเข้าไปสู่internet
Q: ยอดกำไรสุทธิ 8,019 ลบ เป็นของปี2015หรือ Q1 16 และ น่าจะมีเวลาให้ผู้ถือหุ้น สัก3วัน- สัปดาห์หลังประชุม ก่อน ขึ้น XD ในการพิจารณาจะซื้อเพิ่มหรือขายออกไป
A: จะรับไปพิจารณา ส่วนการทำงบการเงิน ได้รอ AIS , Thcom เสร็จแล้ว ซึ่งตัวเลขไม่น่าคลาดเคลื่อน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2558
โพสต์ที่ 4
AGM MINT 1 Apr 16 เวลา 14.00 ที่ รร AVANI เจริญนคร
โรงแรม AVANI ที่จัดประชุม เป็นโรงแรมที่สร้างขึ้นใหม่ เดิมเป็นส่วนพลาซ่าและลานจอดรถ
ด้านล่างของโรงแรมเป็นพลาซ่าซึ่งมีร้านค้า ของ MINTมาเปิดทั้งนั้น
ใครอยากศึกษาธุรกิจอาหารมาที่นี่เจอหมด ส่วนด้านหลังเป็นรร Anantara
ซึ่งเป็นส่วนของโรงแรมเดิมสมัยรอยัล การ์เด้นรีสอซ
วันนี้คุณช้าง ธีรพงศ์ จันศิริ ผู้บริหาร TU ซึ่งเป็นกรรมการอิสระของ MINT ป่วยเลยไม่ได้เข้าประชุมในวันนี้
ผมได้เรียนถามคุณหญิงชฎา ซึ่งเข้าประชุมครบทุกครั้ง ไตรมาสละครั้ง ซึ่งท่านบอกว่าได้คุณช้างมาช่วยในแง่มุมมอง
ในการทำธุรกิจ ช่วยบริษัทได้มากๆเลย
ผลประกอบการ ของปี 2015
รายได้รวม เติบโตจาก 39,787 เป็น 48,149 ล้านบาทในปี 2015
สัดส่วนรายได้แยกตามประเภทธุรกิจ
1. ธุรกิจโรงแรม คิดเป็น 51% ของรายได้ทั้งหมด
2. ธุรกิจร้านอาหาร คิดเป็น 41% ของรายได้ทั้งหมด
3. ธุรกิจจัดจำหน่าย คิดเป็น 8% ของรายได้ทั้งหมด
กำไรปีนี้กระโดดจาก 4,000 ล้านบาท ไปที่ 7,000ล้านบาท
หลักๆคือกำไรจากการเข้าซื้อกิจการในราคาที่ต่ำเป็นหลัก
ส่วนกำไรปกติโตประมาณ10%
บริษัทตั้งเป้าแผน 5 ปี จากปี 2015 – 2020 จะโตปีละ15%
ต่อไปรายได้อาจโตประมาณ12-15% แต่กำไรจะโตกว่าคือประมาณ15%
คำถามและคำตอบ
Q: ผู้ถือหุ้นได้กล่าวขอบคุณฝ่ายบริหารที่ทำให้ผลกำไรnew high ขึ้นมาเรื่อยๆ
ที่นี่เปิดใหม่ เจอประธานบริหาร มาตรวจตราที่โรงแรม 2ทุ่มยังทำงานอยู่เลย ขอชมเชยครับ
กำไรเติบโตตลอด แต่จ่ายปันผลแค่ 35 สต เทียบกับราคาตลาดแล้วไม่ถึง1%
ช่วยพิจารณาให้เพิ่มด้วย เพราะทำให้ราคาค่อนข้างสวิงมาก
อยากเสนอ ในช่วง Low Season ให้ผู้ถือหุ้นมาพักในอัตราพิเศษ
A: เรื่องการจ่ายปันผล ของบริษัทอยู่ในช่วง 30-35% ของกำไร
ล่าสุดคิดเป็น 21.89% มาจากรวมรายการพิเศษจาก M&A ถ้าคิดเฉพาะกำไรปกติ 32.75%
บริษัทกำลังเจริญเติบโต หรือ เรียกว่า Growth Stock ราคาหุ้นจะเติบโตตามกำไรด้วย
ส่วนเรื่อง การให้ราคาพิเศษสำหรับผู้ถือหุ้นเข้าพักในช่วง Low Season จะรับไว้พิจารณา จะทำ
อย่างไรให้ตอบสนองได้
วาระที่ 5 เรื่องการแก้ไขข้อบังคับสัดส่วยผู้ถือหุ้นต่างด้าวจาก 39% เป็น 49%
เนื่องจากวันปิดสมุดเมื่อ วันที่ 7 มีนาคม 16 ผู้ถือหุ้นต่างด้าวมีจำนวน 38.6% แล้ว ยังมี NVDR 7.2%
และยังมีผู้ถือ W5 ที่ยังไม่หมดอายุรอแปลงอีก ที่มีสัญชาติต่างด้าว ถูกจำกัดสิทธ์ ซื้อเกินไม่ได้
จึงเห็นควรอนุมัติขยายออกไปเป็น 49%
Q: บริษัทมีท่าทีต่ออาเซียนอย่างไร
A: เนื่องจากพึ่งเข้าสู่AECปีนี้ ผลประโยชน์อาจยังไม่เห็นในช่วง2-3ปีนี้
ดังนั้นเรายังคงเน้นในธุรกิจเดิม
Q: ตอนนี้กระแสสุขภาพในธุรกิจอาหารมาแรง
1. เป็นโอกาสหรือไม่ ผมหาไม่ค่อยเจออาหารเพื่อสุขภาพ
2. ร้านอาหาของMINT จะมี calories สูง ปัจจุบัน ออริโอ วิซาสมี calories สูงมาก
เท่ากับ การออกกำลังกายว่ายน้ำ 2 ชั่วโมง
A: เราเห็นเทรนนี้ กำลังmonitor อาหารพวก Healthy เราก็มีเช่น ซิสเลอร์ สลัดบาร์ แต่ละbrand
คิดถึงความสะอาด สุขภาพ อนามัย เมนูค่อนข้างสมดุล กระจายเมนูหลายรูปแบบ
ส่วน ออริโอ วิซาส ของ แดลี่ควีน ผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสินใจเอง แต่เราไม่เห็น major healthy problem
เรายังใช้ organic food เช่น ซิสเลอร์ ไม่ใช้ผงชูรส ซื้อผักสอจากสินค้าโครงการหลวง เราทำอย่างสม่ำเสมอ
Q: ปีนี้ซื้อโรงแรมมาค่อนข้างเยอะ เราคาดว่ารายได้จะสูงมากเท่าไหน
เราจะmaintain DE ration ไว้สักเท่าไหร่
A: เราชี้แจงนักลงทุน ผลกำไรจะเจริญเติบโตต่อปี 15-20% ใน5ปีข้างหน้า
ในแง่รายได้ อัตราการเติบโตอาจน้อยกว่ากำไร รายได้โตประมาณ 12-15%
เราสามารถผลักดัน margin ให้สูงได้ในอนาคต DE ratio 1.2-1.3 เท่า
เราconservative อยากเห็น ต่ำกว่า 1.3 เท่า ตอนนี้ 1.26 เท่า เพราะไปซื้อ TIVOLI เข้ามา
แต่กำไรยังไม่เข้ามาเต็มที่ ถ้ากำไรเข้ามาจะทำให้ DE Ratio ลดลงเอง
Q: อาสาพิทักษ์สิทธิผู้ถือหุ้นสอบถามว่า หลังจากบริษัทประกาศเป็นแนวร่วมในการต่อต้านทุจริต
มีแผนส่งต่อไปให้คู่ค้าอย่างไรบ้าง
A: เราพยายามค่อยๆบอกคู่ค้า ผ่านทางรายงานประจำปี หรือ ทาง Website
เลิกประชุม 15.50 น
ผู้ถือหุ้นบางส่วนได้ไปถ่ายรูปตรงระเบียงซึ่งเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและฝั่งพระนครด้วย
โรงแรม AVANI ที่จัดประชุม เป็นโรงแรมที่สร้างขึ้นใหม่ เดิมเป็นส่วนพลาซ่าและลานจอดรถ
ด้านล่างของโรงแรมเป็นพลาซ่าซึ่งมีร้านค้า ของ MINTมาเปิดทั้งนั้น
ใครอยากศึกษาธุรกิจอาหารมาที่นี่เจอหมด ส่วนด้านหลังเป็นรร Anantara
ซึ่งเป็นส่วนของโรงแรมเดิมสมัยรอยัล การ์เด้นรีสอซ
วันนี้คุณช้าง ธีรพงศ์ จันศิริ ผู้บริหาร TU ซึ่งเป็นกรรมการอิสระของ MINT ป่วยเลยไม่ได้เข้าประชุมในวันนี้
ผมได้เรียนถามคุณหญิงชฎา ซึ่งเข้าประชุมครบทุกครั้ง ไตรมาสละครั้ง ซึ่งท่านบอกว่าได้คุณช้างมาช่วยในแง่มุมมอง
ในการทำธุรกิจ ช่วยบริษัทได้มากๆเลย
ผลประกอบการ ของปี 2015
รายได้รวม เติบโตจาก 39,787 เป็น 48,149 ล้านบาทในปี 2015
สัดส่วนรายได้แยกตามประเภทธุรกิจ
1. ธุรกิจโรงแรม คิดเป็น 51% ของรายได้ทั้งหมด
2. ธุรกิจร้านอาหาร คิดเป็น 41% ของรายได้ทั้งหมด
3. ธุรกิจจัดจำหน่าย คิดเป็น 8% ของรายได้ทั้งหมด
กำไรปีนี้กระโดดจาก 4,000 ล้านบาท ไปที่ 7,000ล้านบาท
หลักๆคือกำไรจากการเข้าซื้อกิจการในราคาที่ต่ำเป็นหลัก
ส่วนกำไรปกติโตประมาณ10%
บริษัทตั้งเป้าแผน 5 ปี จากปี 2015 – 2020 จะโตปีละ15%
ต่อไปรายได้อาจโตประมาณ12-15% แต่กำไรจะโตกว่าคือประมาณ15%
คำถามและคำตอบ
Q: ผู้ถือหุ้นได้กล่าวขอบคุณฝ่ายบริหารที่ทำให้ผลกำไรnew high ขึ้นมาเรื่อยๆ
ที่นี่เปิดใหม่ เจอประธานบริหาร มาตรวจตราที่โรงแรม 2ทุ่มยังทำงานอยู่เลย ขอชมเชยครับ
กำไรเติบโตตลอด แต่จ่ายปันผลแค่ 35 สต เทียบกับราคาตลาดแล้วไม่ถึง1%
ช่วยพิจารณาให้เพิ่มด้วย เพราะทำให้ราคาค่อนข้างสวิงมาก
อยากเสนอ ในช่วง Low Season ให้ผู้ถือหุ้นมาพักในอัตราพิเศษ
A: เรื่องการจ่ายปันผล ของบริษัทอยู่ในช่วง 30-35% ของกำไร
ล่าสุดคิดเป็น 21.89% มาจากรวมรายการพิเศษจาก M&A ถ้าคิดเฉพาะกำไรปกติ 32.75%
บริษัทกำลังเจริญเติบโต หรือ เรียกว่า Growth Stock ราคาหุ้นจะเติบโตตามกำไรด้วย
ส่วนเรื่อง การให้ราคาพิเศษสำหรับผู้ถือหุ้นเข้าพักในช่วง Low Season จะรับไว้พิจารณา จะทำ
อย่างไรให้ตอบสนองได้
วาระที่ 5 เรื่องการแก้ไขข้อบังคับสัดส่วยผู้ถือหุ้นต่างด้าวจาก 39% เป็น 49%
เนื่องจากวันปิดสมุดเมื่อ วันที่ 7 มีนาคม 16 ผู้ถือหุ้นต่างด้าวมีจำนวน 38.6% แล้ว ยังมี NVDR 7.2%
และยังมีผู้ถือ W5 ที่ยังไม่หมดอายุรอแปลงอีก ที่มีสัญชาติต่างด้าว ถูกจำกัดสิทธ์ ซื้อเกินไม่ได้
จึงเห็นควรอนุมัติขยายออกไปเป็น 49%
Q: บริษัทมีท่าทีต่ออาเซียนอย่างไร
A: เนื่องจากพึ่งเข้าสู่AECปีนี้ ผลประโยชน์อาจยังไม่เห็นในช่วง2-3ปีนี้
ดังนั้นเรายังคงเน้นในธุรกิจเดิม
Q: ตอนนี้กระแสสุขภาพในธุรกิจอาหารมาแรง
1. เป็นโอกาสหรือไม่ ผมหาไม่ค่อยเจออาหารเพื่อสุขภาพ
2. ร้านอาหาของMINT จะมี calories สูง ปัจจุบัน ออริโอ วิซาสมี calories สูงมาก
เท่ากับ การออกกำลังกายว่ายน้ำ 2 ชั่วโมง
A: เราเห็นเทรนนี้ กำลังmonitor อาหารพวก Healthy เราก็มีเช่น ซิสเลอร์ สลัดบาร์ แต่ละbrand
คิดถึงความสะอาด สุขภาพ อนามัย เมนูค่อนข้างสมดุล กระจายเมนูหลายรูปแบบ
ส่วน ออริโอ วิซาส ของ แดลี่ควีน ผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสินใจเอง แต่เราไม่เห็น major healthy problem
เรายังใช้ organic food เช่น ซิสเลอร์ ไม่ใช้ผงชูรส ซื้อผักสอจากสินค้าโครงการหลวง เราทำอย่างสม่ำเสมอ
Q: ปีนี้ซื้อโรงแรมมาค่อนข้างเยอะ เราคาดว่ารายได้จะสูงมากเท่าไหน
เราจะmaintain DE ration ไว้สักเท่าไหร่
A: เราชี้แจงนักลงทุน ผลกำไรจะเจริญเติบโตต่อปี 15-20% ใน5ปีข้างหน้า
ในแง่รายได้ อัตราการเติบโตอาจน้อยกว่ากำไร รายได้โตประมาณ 12-15%
เราสามารถผลักดัน margin ให้สูงได้ในอนาคต DE ratio 1.2-1.3 เท่า
เราconservative อยากเห็น ต่ำกว่า 1.3 เท่า ตอนนี้ 1.26 เท่า เพราะไปซื้อ TIVOLI เข้ามา
แต่กำไรยังไม่เข้ามาเต็มที่ ถ้ากำไรเข้ามาจะทำให้ DE Ratio ลดลงเอง
Q: อาสาพิทักษ์สิทธิผู้ถือหุ้นสอบถามว่า หลังจากบริษัทประกาศเป็นแนวร่วมในการต่อต้านทุจริต
มีแผนส่งต่อไปให้คู่ค้าอย่างไรบ้าง
A: เราพยายามค่อยๆบอกคู่ค้า ผ่านทางรายงานประจำปี หรือ ทาง Website
เลิกประชุม 15.50 น
ผู้ถือหุ้นบางส่วนได้ไปถ่ายรูปตรงระเบียงซึ่งเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและฝั่งพระนครด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 339
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2558
โพสต์ที่ 5
สรุปการประชุม AGM หุ้น THCOM ประจำปี 2016
http://www.dojii.net/2016/04/thcom-agm-y2016.html#more
Trend การเชื่อมต่อข้อมูลผ่านระบบดาวเทียมแบบเคลื่อนที่ (Mobility) เป็น Trend ที่กำลังมาแต่ปัจจุบัน Model ธุรกิจยังไม่แน่นอน
ยอด Presale THCOM8 อยู่ที่ 17% ปัจจุบันดาวเทียมเสร็จเรียบร้อยแล้วรอการปล่อยเดือนมิถุนายน
ปี 2558 กำไรจากการดำเนินงานปกติเติบโต 33 %YoY
แผนธุรกิจปี 2559 ภายใต้ธีม The NEXT Phase
New Capability เสริมศักยภาพของพนักงานภายใต้ระบบที่ดี
New Technology บริษัทยังคงลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีต่อไป ทั้งพัฒนาเองและพัฒนาร่วมกับเจ้าอื่น เน้นหาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาให้บริการลูกค้า
New Destination มองหาเป้าหมายทางธุรกิจใหม่ๆ ไม่เพียงเฉพาะการหาตลาดใหม่แต่รวมถึงธุรกิจใหม่ที่มาเสริมธุรกิจเดิม เช่นจากดาวเทียมขายเหมาเป็นมีบริการเสริม อาจมีการร่วมมือกับ Partner มากขึ้น ตลาดอินเดียมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก
New Future สิ่งที่จะมาแรงคือ Mobility ทั้งภาคอากาศและภาคน้ำที่การแข่งขันจากภาคพื้นดินเข้าไม่ถึง ส่วนใหญ่จะเป็นการให้บริการนานาชาติ บริษัทจำเป็นต้องหาพันธมิตรให้มีเครือข่าย Landing Right ในภูมิภาคนี้
รายได้จาก TOT ประมาณ 6% ของรายได้รวม 12% ของรายได้ IPStar เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยสำหรับดาวเทียม Broadband TOT เซ็นสัญญาถึงปี 2021 จน IPStar หมดอายุ มีสิทธิ์ในการบอกเลิกสัญญาแต่ต้องแจ้งล่วงหน้า 1 ปี ตามข่าวที่ TOT จะขอลดการใช้งานหรือต่อรองราคาลงมา THCOM จะไม่รับข้อเสนอนี้ ปัจจุบัน THCOM พยายามหาลูกค้าช่วย TOT แต่หาก TOT จะบอกเลิกสัญญาก็มีแผนรองรับไว้แล้ว
THCOM8 เชื่อว่าเพียงพอที่จะรองรับสำหรับความต้องการในประเทศไทย จำนวน 12 Transponders สามารถรองรับได้ 120 ช่อง HD อีกทั้งเทคโนโลยีในอนาคตสามารถที่จะบีบอัดสัญญาณได้มากขึ้น
Trend การใช้ดาวเทียมจะไปในย่านความถี่สูงขึ้นมากกว่า C-Band ช่องสัญญาณ C-Band ที่มีเพียงพอในภูมิภาคนี้
แผนการรองรับกรณี NBN ออสเตรเลีย
แผน 1 เชื่อว่าการใช้งานดาวเทียม NBN1 ไม่เพียงพอ จากการวิจัยพบว่าบางพื้นที่ในออสเตรเลียมีปริมาณความต้องการใช้งานมากจนดาวเทียม NBN ไม่สามารถรองรับได้ กำลังหารือกับ NBN ให้ใช้ IPStar เสริม Capacity และเป็นดาวเทียม BackUp
แผน 2 เมื่อ 2 ปีที่แล้วเข้าซื้อบริษัท โอไรอ้อน แซทเทลไลท์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ N2N ตลาด Corperate หรือตลาดเหมือง คิดว่าน่าจะมีโอกาสรวมถึงหา Value Added เพิ่มในส่วนนี้
THCOM8 ยอด Presale 17% Breakeven 30% เชื่อว่าเกิน Breakeven ตอนช่วงยิง คาดว่า 12 เดือนหลังจากยิงจะมี Utilization 40 - 50%
มีการแข่งขันสูงขึ้นในทุกตลาดที่เข้าไป THCOM ได้เปรียบตรงที่ครบวงจร ปัจจุบันมีรายได้จาก Value Added 20% ของรายได้รวม และจะเพิ่มมูลค่าเพิ่มในส่วนนี้ให้ไทยคมแตกต่างจากคู่แข่ง บางกรณีก็ทำธุรกิจร่วมกับคู่แข่ง
ในอนาคตหากมี Supply ดาวเทียมมากจริงๆ ไทยคมอาจไม่ทำดาวเทียมเองแต่อาจซื้อ Capacity ของคู่แข่งมาให้บริการ จะสร้างดาวเทียมเองเมื่อมีลูกค้าแน่นอนเท่านั้น
การให้บริการ Mobility จะไม่มีตำแหน่ง Hot Bird โดย Key Success Factor ของ Mobility อยู่ที่โมเดลธุรกิจและการสร้างภาคี Landing Right
http://www.dojii.net/2016/04/thcom-agm-y2016.html#more
Trend การเชื่อมต่อข้อมูลผ่านระบบดาวเทียมแบบเคลื่อนที่ (Mobility) เป็น Trend ที่กำลังมาแต่ปัจจุบัน Model ธุรกิจยังไม่แน่นอน
ยอด Presale THCOM8 อยู่ที่ 17% ปัจจุบันดาวเทียมเสร็จเรียบร้อยแล้วรอการปล่อยเดือนมิถุนายน
ปี 2558 กำไรจากการดำเนินงานปกติเติบโต 33 %YoY
แผนธุรกิจปี 2559 ภายใต้ธีม The NEXT Phase
New Capability เสริมศักยภาพของพนักงานภายใต้ระบบที่ดี
New Technology บริษัทยังคงลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีต่อไป ทั้งพัฒนาเองและพัฒนาร่วมกับเจ้าอื่น เน้นหาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาให้บริการลูกค้า
New Destination มองหาเป้าหมายทางธุรกิจใหม่ๆ ไม่เพียงเฉพาะการหาตลาดใหม่แต่รวมถึงธุรกิจใหม่ที่มาเสริมธุรกิจเดิม เช่นจากดาวเทียมขายเหมาเป็นมีบริการเสริม อาจมีการร่วมมือกับ Partner มากขึ้น ตลาดอินเดียมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก
New Future สิ่งที่จะมาแรงคือ Mobility ทั้งภาคอากาศและภาคน้ำที่การแข่งขันจากภาคพื้นดินเข้าไม่ถึง ส่วนใหญ่จะเป็นการให้บริการนานาชาติ บริษัทจำเป็นต้องหาพันธมิตรให้มีเครือข่าย Landing Right ในภูมิภาคนี้
รายได้จาก TOT ประมาณ 6% ของรายได้รวม 12% ของรายได้ IPStar เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยสำหรับดาวเทียม Broadband TOT เซ็นสัญญาถึงปี 2021 จน IPStar หมดอายุ มีสิทธิ์ในการบอกเลิกสัญญาแต่ต้องแจ้งล่วงหน้า 1 ปี ตามข่าวที่ TOT จะขอลดการใช้งานหรือต่อรองราคาลงมา THCOM จะไม่รับข้อเสนอนี้ ปัจจุบัน THCOM พยายามหาลูกค้าช่วย TOT แต่หาก TOT จะบอกเลิกสัญญาก็มีแผนรองรับไว้แล้ว
THCOM8 เชื่อว่าเพียงพอที่จะรองรับสำหรับความต้องการในประเทศไทย จำนวน 12 Transponders สามารถรองรับได้ 120 ช่อง HD อีกทั้งเทคโนโลยีในอนาคตสามารถที่จะบีบอัดสัญญาณได้มากขึ้น
Trend การใช้ดาวเทียมจะไปในย่านความถี่สูงขึ้นมากกว่า C-Band ช่องสัญญาณ C-Band ที่มีเพียงพอในภูมิภาคนี้
แผนการรองรับกรณี NBN ออสเตรเลีย
แผน 1 เชื่อว่าการใช้งานดาวเทียม NBN1 ไม่เพียงพอ จากการวิจัยพบว่าบางพื้นที่ในออสเตรเลียมีปริมาณความต้องการใช้งานมากจนดาวเทียม NBN ไม่สามารถรองรับได้ กำลังหารือกับ NBN ให้ใช้ IPStar เสริม Capacity และเป็นดาวเทียม BackUp
แผน 2 เมื่อ 2 ปีที่แล้วเข้าซื้อบริษัท โอไรอ้อน แซทเทลไลท์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ N2N ตลาด Corperate หรือตลาดเหมือง คิดว่าน่าจะมีโอกาสรวมถึงหา Value Added เพิ่มในส่วนนี้
THCOM8 ยอด Presale 17% Breakeven 30% เชื่อว่าเกิน Breakeven ตอนช่วงยิง คาดว่า 12 เดือนหลังจากยิงจะมี Utilization 40 - 50%
มีการแข่งขันสูงขึ้นในทุกตลาดที่เข้าไป THCOM ได้เปรียบตรงที่ครบวงจร ปัจจุบันมีรายได้จาก Value Added 20% ของรายได้รวม และจะเพิ่มมูลค่าเพิ่มในส่วนนี้ให้ไทยคมแตกต่างจากคู่แข่ง บางกรณีก็ทำธุรกิจร่วมกับคู่แข่ง
ในอนาคตหากมี Supply ดาวเทียมมากจริงๆ ไทยคมอาจไม่ทำดาวเทียมเองแต่อาจซื้อ Capacity ของคู่แข่งมาให้บริการ จะสร้างดาวเทียมเองเมื่อมีลูกค้าแน่นอนเท่านั้น
การให้บริการ Mobility จะไม่มีตำแหน่ง Hot Bird โดย Key Success Factor ของ Mobility อยู่ที่โมเดลธุรกิจและการสร้างภาคี Landing Right
-
- Verified User
- โพสต์: 339
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2558
โพสต์ที่ 6
สรุปการประชุม AGM หุ้น CSL ประจำปี 2016
http://www.dojii.net/2016/04/csl-agm-y2016.html
ปี 2558 ได้ BOI ยกเว้นภาษีสำหรับกำไรสุทธิที่เกิดจากศูนย์คอมพิวเตอร์ที่อาคารเดอะคลาวด์ทั้ง 2 อาคาร เป็นเวลา 8 ปี (ม.ค. 2558 - ธ.ค. 2565) บริษัททำงบรายงานกำไรขาดทุนของส่วนนี้ให้ BOI แยกต่างหากแต่ไม่สามารถทำงบแยกแจ้งสาธารณะได้เพราะอาจกระทบกับการแข่งขัน
ทิศทางการพัฒนาเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว
1. Internet ความเร็วสูงตามคอนโดมิเนียม เริ่มจากตามแนวรถไฟฟ้าย่านสุขุมวิทปัจจุบันมีลูกค้าประมาณ 5,000 ราย
2. พัฒนา Software เพื่อองค์กรธุรกิจ Software ด้านบริหารจัดการโรงแรมเริ่มมีลูกค้า ส่วนด้านบริหารจัดการการขายอยู่ระหว่างทดสอบตลาด
3. วิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ Internet of Thing อยู่ระหว่างการศึกษาทำการตลาด
ทิศทางธุรกิจสมุดหน้าเหลือง
1. จะพัฒนาสินค้าเจาะกลุ่มตลาดมากขึ้น
2. เสนอบริการใหม่ๆ บน Online ควบคู่กับกระดาษ
3. ปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนสินค้าและการบริหารงาน
ทิศทางธุรกิจ ADV
เน้นการพัฒนา Application เพื่อรองรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กร ปัจจุบันมี Application Verk (Office in Your Hand)
ผลประกอบการในภาพรวมลดลงจากธุรกิจสมุดหน้าเหลืองและธุรกิจ Mobile Content ในขณะที่ธุรกิจ ICT มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้เติบโต 2% กำไรเติบโต 4% จากปี 2557 กำไรสุทธิ 315 ล้านบาท หรือ 0.53 บาท/หุ้น
ระยะยาวเน้นขายผลิตภัณฑ์ทางด้าน Online Software
กลุ่ม Cloud และ Data Center รายได้ส่วนใหญ่จะมาจาก Data Center การเติบโต 10% กว่าๆ มีคู่แข่งประมาณ 10 ราย การแข่งขันรุนแรงระดับนึง กลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่องใกล้ชิด เชื่อว่ากลุ่มนี้น่าจะเติบโตมากกว่า 10%
Broadband คอนโดมิเนียมเน้นจุด Traffic สูงที่สามารถทำได้ในต้นทุนต่ำกว่าเปรียบเหมือน Low Cost Airline คาดหวังลูกค้า 5 - 10% ของตลาด เน้นการขายเจาะกลุ่มลูกค้าปัจจุบันมีลูกค้าประมาณ 150 คอนโดมิเนียมในพื้นที่กลางเมือง
เชื่อว่าผลประกอบการในภาพรวมปี 2016 น่าจะใกล้เคียงเดิม สำหรับ ADV 2 เดือนที่ผ่านมาผลประกอบการไม่ได้ลดลงรุนแรง
Broadband คอนโดมีรายได้เดือนละ 2.5 ล้านบาท ปี 2559 จะขยายออกจากพื้นที่สุขุมวิทไปตามแนวรถไฟฟ้า
TRUE TOT และ 3BB มีลูกค้า Broadband รวมกันประมาณ 95% จาก 6 ล้านราย CSL กับ AIS มีพื้นที่ซ้อนทับกันน้อยมาก CSL เน้นกลุ่มลูกค้าที่ใช้งาน Internet อย่างเดียว ส่วน AIS เป็นลูกค้าคนละกลุ่ม
App Verk จะพัฒนาต่อเนื่องตามความต้องการของลูกค้า
เหตุที่รายได้ Broadband ในรายงานประจำปีลดลงเนื่องจากก่อนหน้านี้บริษัทเคยทำ Broadband โดยใช้โครงข่ายของเจ้าอื่นทำให้ต้นทุนแพงไม่สามารถแข่งขันได้ รายได้จากส่วนที่มีอยู่เดิมลดลงในขณะที่รายได้ Broadband จากคอนโดเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่สามารถชดเชยรายได้เดิมได้
ค่าเฉลี่ยรายได้ Broadband คอนโดสูงกว่า 450 บาทต่อเดือน แต่ไม่สามารถเปิดเผย ARPU ได้เพราะจะมีผลต่อการแข่งขัน
ต้นทุนการเงินระยะยาว 4% กว่าๆ ระยะสั้นประมาณ 2%
สามารถดูคลิปการประชุมได้ที่ Youtube Channel csloxinfoplc
http://www.dojii.net/2016/04/csl-agm-y2016.html
ปี 2558 ได้ BOI ยกเว้นภาษีสำหรับกำไรสุทธิที่เกิดจากศูนย์คอมพิวเตอร์ที่อาคารเดอะคลาวด์ทั้ง 2 อาคาร เป็นเวลา 8 ปี (ม.ค. 2558 - ธ.ค. 2565) บริษัททำงบรายงานกำไรขาดทุนของส่วนนี้ให้ BOI แยกต่างหากแต่ไม่สามารถทำงบแยกแจ้งสาธารณะได้เพราะอาจกระทบกับการแข่งขัน
ทิศทางการพัฒนาเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว
1. Internet ความเร็วสูงตามคอนโดมิเนียม เริ่มจากตามแนวรถไฟฟ้าย่านสุขุมวิทปัจจุบันมีลูกค้าประมาณ 5,000 ราย
2. พัฒนา Software เพื่อองค์กรธุรกิจ Software ด้านบริหารจัดการโรงแรมเริ่มมีลูกค้า ส่วนด้านบริหารจัดการการขายอยู่ระหว่างทดสอบตลาด
3. วิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ Internet of Thing อยู่ระหว่างการศึกษาทำการตลาด
ทิศทางธุรกิจสมุดหน้าเหลือง
1. จะพัฒนาสินค้าเจาะกลุ่มตลาดมากขึ้น
2. เสนอบริการใหม่ๆ บน Online ควบคู่กับกระดาษ
3. ปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนสินค้าและการบริหารงาน
ทิศทางธุรกิจ ADV
เน้นการพัฒนา Application เพื่อรองรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้าองค์กร ปัจจุบันมี Application Verk (Office in Your Hand)
ผลประกอบการในภาพรวมลดลงจากธุรกิจสมุดหน้าเหลืองและธุรกิจ Mobile Content ในขณะที่ธุรกิจ ICT มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้เติบโต 2% กำไรเติบโต 4% จากปี 2557 กำไรสุทธิ 315 ล้านบาท หรือ 0.53 บาท/หุ้น
ระยะยาวเน้นขายผลิตภัณฑ์ทางด้าน Online Software
กลุ่ม Cloud และ Data Center รายได้ส่วนใหญ่จะมาจาก Data Center การเติบโต 10% กว่าๆ มีคู่แข่งประมาณ 10 ราย การแข่งขันรุนแรงระดับนึง กลุ่มลูกค้าจะเป็นกลุ่มบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ที่ต้องการการดูแลอย่างต่อเนื่องใกล้ชิด เชื่อว่ากลุ่มนี้น่าจะเติบโตมากกว่า 10%
Broadband คอนโดมิเนียมเน้นจุด Traffic สูงที่สามารถทำได้ในต้นทุนต่ำกว่าเปรียบเหมือน Low Cost Airline คาดหวังลูกค้า 5 - 10% ของตลาด เน้นการขายเจาะกลุ่มลูกค้าปัจจุบันมีลูกค้าประมาณ 150 คอนโดมิเนียมในพื้นที่กลางเมือง
เชื่อว่าผลประกอบการในภาพรวมปี 2016 น่าจะใกล้เคียงเดิม สำหรับ ADV 2 เดือนที่ผ่านมาผลประกอบการไม่ได้ลดลงรุนแรง
Broadband คอนโดมีรายได้เดือนละ 2.5 ล้านบาท ปี 2559 จะขยายออกจากพื้นที่สุขุมวิทไปตามแนวรถไฟฟ้า
TRUE TOT และ 3BB มีลูกค้า Broadband รวมกันประมาณ 95% จาก 6 ล้านราย CSL กับ AIS มีพื้นที่ซ้อนทับกันน้อยมาก CSL เน้นกลุ่มลูกค้าที่ใช้งาน Internet อย่างเดียว ส่วน AIS เป็นลูกค้าคนละกลุ่ม
App Verk จะพัฒนาต่อเนื่องตามความต้องการของลูกค้า
เหตุที่รายได้ Broadband ในรายงานประจำปีลดลงเนื่องจากก่อนหน้านี้บริษัทเคยทำ Broadband โดยใช้โครงข่ายของเจ้าอื่นทำให้ต้นทุนแพงไม่สามารถแข่งขันได้ รายได้จากส่วนที่มีอยู่เดิมลดลงในขณะที่รายได้ Broadband จากคอนโดเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่สามารถชดเชยรายได้เดิมได้
ค่าเฉลี่ยรายได้ Broadband คอนโดสูงกว่า 450 บาทต่อเดือน แต่ไม่สามารถเปิดเผย ARPU ได้เพราะจะมีผลต่อการแข่งขัน
ต้นทุนการเงินระยะยาว 4% กว่าๆ ระยะสั้นประมาณ 2%
สามารถดูคลิปการประชุมได้ที่ Youtube Channel csloxinfoplc
-
- Verified User
- โพสต์: 339
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2558
โพสต์ที่ 8
ยินดีครับ ผมอยู่ไกลไปประชุมต่อเนื่องนานๆ ไม่สะดวกamornkowa เขียน:ขอบคุณ น้อง dojii ที่ช่วยเสริมในหัวข้อ AGM 2558 กำลังหาอ่านไทยคมพอดี
อาศัยหาดูจากบริษัทที่เผยแพร่ผ่านอินเตอร์เน็ต
ที่เหลือก็หาอ่านจากพี่อมร และท่านอื่นๆ ใน ThaiVI นี่แหละครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2558
โพสต์ที่ 12
AGM TCAP 5 Apr 16
สถานที่จัดงานประชุมเปลี่ยนไปจัดที่ รร เชอราตัน สี่พระยา สถานที่จัดงานอาจไปยากนิดนึง
เพราะอยู่ไกลจากรถไฟฟ้าตากสินพอสมควร ต้องนั่งรถต่อมาอีกที
สถานที่จัดงาน รู้สึกว่าเล็กกว่า รร พลาซ่าแอททินี่ แต่ดูเป็นสัดส่วนดี อาจดูจากงานปีที่แล้ว
ห้องประชุมใหญ่มาก แต่อาจมีหลายท่านมานั่งด้านนอก ซึ่งพื้นที่อาจไม่เพียงพอ
คราวนี้เลยมีห้องทานข้าวเป็นสัดส่วน ซึ่งมีอาหารกลางวัน เป็นข้าวผักห้าสหาย ขนม เป็นกล่องให้ทาน
มีห้องนั่งเล่นหลายห้องด้านนอกรองรับผู้ถือหุ้นสูงวัยในการนั่งพักผ่อนจิบกาแฟ
ส่วนห้องประชุมก็พอเหมาะกับคนที่มาฟังครับ เลยรู้สึกว่าคราวนี้
คนสนใจมาประชุมจริงๆน้อยกว่าเดิม แต่เนื้อหาในการประชุมก็ยังเหมือนเดิม
ผมไปสายเล็กน้อยเพราะไปสัมมนาที่ทิสโก้ก่อนมาประชุม เลยจะมาสรุปในส่วนคำถามและคำตอบแทน
ดีใจได้เจอคุณหว่า สมเกียรติ และ น้อง Job Jakkrapan เลยได้แลกเปลี่ยนมุมมองกันบ้าง
คุณหว่า เล่าว่าช่วงต้น มีดราม่าเล็กน้อย ผู้ถือหุ้นคนนึง ต่อว่าปัญหาจากการใช้บริการที่บริษัทหลักทรัพย์
คุณ สมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งเคยบริหาร บล มาก่อนได้เข้าไปแก้ปัญหา
ของผู้ถือหุ้นด้านนอกห้องประชุม ผมว่าท่านเอาใจใส่ผู้ถือหุ้นเป็นอย่างดี ขอชมเชยครับ
ไม่รวมถึงการควบคุมการปล่อยสินเชื่อในปีที่แล้ว ทำให้ NPL ลดลงมามากเหลือ 2.96%l
เทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ ที่ NPL เพิ่มขึ้นมากมาย
เรามาเข้าสู่คำถามและคำตอบกันนะครับ
Q: สอบถามความคืบหน้าของธนาคารโนวาสโกเทียที่จะขายในส่วนที่ถือในTCAPออก มีผลต่อธนาคารอย่างไร
A: ผมจะสรุปจากในที่ประชุมและถามนอกรอบกับคุณสมเจตน์ให้นะครับ
เนื่องจากธนาคารโนวาสโกเทีย เปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงไปมาก และ ขยายงาน มีนโยบายใหม่เน้นในธุรกิจ
ในประเทศอเมริกากลางและใต้มากที่สุด ดังนั้นต้องการลดหรือเลิกธุรกรรมทางเอเชียแปซิฟิก รวมถึงฟิลิปปินส์
เวียดนามที่ขายออกไปแล้ว เขามาติดต่อเรา สำรวจความเป็นไปได้ในการขายเงินลงทุนออกไปทั้งหมด
เรายินดีให้ความร่วมมือโดยมีเงื่อนไขสำคัญ ใครก็ตามเข้ามาซื้อเราให้ความยินยอม ต้องเป็นสถาบันขนาดใหญ่
มั่นคง และ มีชื่อเสียงดี ทำงานร่วมกับเราได้ เราไม่ได้เข้าไปยุ่งกับเขา เขาดำเนินการเอง ตอนนี้ยังไม่ได้รับความคืบหน้า
ผลกระทบตอบว่าไม่มี เรายังร่วมมือกันอย่างดีไม่มีปัญหา
ส่วนระบบใหม่ที่ทำร่วมกันก็จบไปแล้ว เช่น Mobile Banking ก็เสร็จแล้ว กำลังทดสอบอยู่โดยtestกับพนักงานของเรา
กว่า 20,000 คน และให้ทุกคนเข้าใจระบบ เพื่อว่าเวลาเสนอให้ลูกค้าใช้ต้นเดือน พค และ มิย เราก็รู้ระบบดีสามารถอธิบายผู้ถือหุ้น และ ลูกค้าได้ คุณบันเทิงแจ้งว่า ผลทดสอบดี ไม่แพ้ธนาคารอื่นๆที่ทำมาแล้ว
เราไม่มีเรื่องอื่นที่ต้องพึ่งพากับธนาคารโนวาสโกเทีย เราหวังว่ารายใหม่สามารถร่วมมือเพื่อมีproductใหม่ออกมาได้
Q: ผู้ถือหุ้นท่านนึง อยากให้ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง ถูกหลักการหรือไม่ เช่น Data warehouse รวมถึงการเพิ่มเจ้าหน้าที่ITมาอีก 10กว่าคน
A: ในส่วนระบบจัดซื้อจัดจ้าง จะไม่มีผู้บริหารคนใดตัดสินใจในเรื่องใดคนเดียว
เราจะมีหน่วยงานอีกหลายหน่วยงานมาเกี่ยวข้อง เช่น IT มีผู้บริหารระดับสูง และ อีกหลายหน่วยงานมาตรวจสอบ
การเพิ่มคนไม่มากเมื่อเทียบกับงานที่เพิ่มขึ้น เช่น การเพิ่มเครื่องไม้เครื่องมือ อำนวยความสะดวก
ผู้เสนอเพิ่มคน จะต้องมีตัวชี้วัดว่าลงทุนแล้ว ได้ผลตอบแทนดีขึ้นอย่างไร
ในการจัดซื้อทุกอย่าง เรามีหน่วยดูแล และ หน่วยงานกลาง เจรจาต่อรอง
ผู้บริหารไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ ให้หน่วยงานกลางเป็นคนเจรจาต่อรองเอง ส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมการชุดย่อย
และส่งต่อให้ชุดใหญ่ ส่วน IT อาศัย partner ธนาคารโนวาสโกเทียเข้ามาดู ให้ความเห็นเปรียบเทียบกัน
บางที่ใช้สัญญาเก่าที่เคยทำมาอ้างอิงด้วย เราพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น
Q: คำถามจากเพื่อนนักลงทุน อยากทราบว่าแผนการดำเนินงานปีนี้ และ ทำให้กำไรเท่าเดิม หรือ ดีขึ้นอย่างไร
ธนชาติเป็นผู้นำproductใหม่ๆ แต่อยากสนับสนุนหารายได้ทางอื่นด้วย เพราะสินค้าประกันชีวิตอาจโดน
ลูกค้าต่อว่า และ สนับสนุน Mobile banking แต่ต้องระวัง และขอให้ทำรองรับ windows phoneด้วย
เพราะยังไม่มีเจ้าไหนทำมารองรับเลย
A: SCB ลด MLR ลดมา ตอนนี้ไม่พ้น ธนาคารอื่นก็ต้องลดตามด้วย คาดได้ว่า ต้นทุนเงินฝากไม่น่าจะเพิ่มขึ้น
มีโอกาสลดลงด้วย เป็นช่วงที่เราต้องปรับปรุงต้นทุนด้านเงินฝากให้ดีขึ้น เพื่อชดเชยส่วนที่ลดลง ช่วงนี้ส่วนที่ดีคือ
สินเชื่อ50%เป็นสินเชื่อดอกเบี้ยตายตัว สินเชื่อเช่าซื้อถ้าเรารักษาต้นทุนลดลง กำไรสูงขึ้นได้ แต่ความเสี่ยงเรื่องต้นทุน
ดอกเบี้ยสูงขึ้น ทำให้กำไรลดลงก็เป็นไปได้
คุณสมเจตน์เสริมว่า ภาวะดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ลดลง เราพยายามส่งเสริมลูกค้าทุกส่วนมาทำธุรกรรมกับเรามากขึ้น
เช่น Internet Banking / Mobile Banking จะทำให้ลูกค้าจะทิ้งเงินออมที่เหลืออยู่ในบัญชีออมทรัพย์ จะทำให้
ต้นทุนของเราลดลงอย่างยั่งยืน การเติบโตด้านสินทรัพย์ ภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย ธนาคารธนชาติมีportสินเชื่อ
รถยนต์มากจำนวนสินเชื่อติดลบ แต่ดีขึ้นเล็กน้อย พยายามขยายไปในตลาดรถเก่า กำลังศึกษาทำแผนจำนำรถยนต์
แต่ก็เดินไปด้วยความระมัดระวัง สินเชื่อธุรกิจ SME แม้เศรษฐกิจไม่ดี แต่ก็มีหลายsectorสามารถเติบโตไปได้ ภาพรวมทรัพย์สินรวม อาจไม่พุ่งขึ้นมากมาย โชคดีเพิ่มขึ้นนิดหน่อย อีกส่วนคือพยายามเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม ช่วยหาสินค้าให้ลูกค้า เช่น เราคิดกับบลจ ธนชาติออก T prime low beta นำเสนอลูกค้าได้ค่าFee รวมๆแล้วน่าจะรักษากำไรได้ เติบโตพอสมควร ส่วนค่าธรรมเนียมพยายามเพิ่มสัดส่วนมากขึ้น ในอุตสาหกรรมเราไม่สูง เราน่าจะเพิ่มสัดส่วนตัวนี้ไปได้
Q: คุณหว่า สมเกียรติ์ ได้ถามใน Slide แจ้งผลขาดทุนในธนาคารนครหลวงไทยเหลืออยู่ 25,000 ล้านบาท เราจะประหยัดภาษีไปอีก 1-2 ปีข้างหน้า ผู้บริหารมีแนวทางอย่างไร เราตั้งสำรองไปเยอะแล้ว เงินส่วนนี้จะปันผลเพิ่มขึ้น
หรือซื้อหุ้นคืนอีกได้ไหม
A: CFO คุณอนุวัฒน์ แจ้งว่า Tax loss 25,000 ล้านบาท เทียบเป็นสิทธิภาษี 7,000 ล้านบาท ตั้งสำรองล่วงหน้าปี 59
คิดว่าประโยชน์ทางภาษี จะตั้งสำรองส่วนนึง อีกส่วนจะtakeเป็นกำไร ทำให้TCAP กำไรสูงขึ้น อาจปันผลได้เพิ่มขึ้น
จบการประชุม 16.30
สถานที่จัดงานประชุมเปลี่ยนไปจัดที่ รร เชอราตัน สี่พระยา สถานที่จัดงานอาจไปยากนิดนึง
เพราะอยู่ไกลจากรถไฟฟ้าตากสินพอสมควร ต้องนั่งรถต่อมาอีกที
สถานที่จัดงาน รู้สึกว่าเล็กกว่า รร พลาซ่าแอททินี่ แต่ดูเป็นสัดส่วนดี อาจดูจากงานปีที่แล้ว
ห้องประชุมใหญ่มาก แต่อาจมีหลายท่านมานั่งด้านนอก ซึ่งพื้นที่อาจไม่เพียงพอ
คราวนี้เลยมีห้องทานข้าวเป็นสัดส่วน ซึ่งมีอาหารกลางวัน เป็นข้าวผักห้าสหาย ขนม เป็นกล่องให้ทาน
มีห้องนั่งเล่นหลายห้องด้านนอกรองรับผู้ถือหุ้นสูงวัยในการนั่งพักผ่อนจิบกาแฟ
ส่วนห้องประชุมก็พอเหมาะกับคนที่มาฟังครับ เลยรู้สึกว่าคราวนี้
คนสนใจมาประชุมจริงๆน้อยกว่าเดิม แต่เนื้อหาในการประชุมก็ยังเหมือนเดิม
ผมไปสายเล็กน้อยเพราะไปสัมมนาที่ทิสโก้ก่อนมาประชุม เลยจะมาสรุปในส่วนคำถามและคำตอบแทน
ดีใจได้เจอคุณหว่า สมเกียรติ และ น้อง Job Jakkrapan เลยได้แลกเปลี่ยนมุมมองกันบ้าง
คุณหว่า เล่าว่าช่วงต้น มีดราม่าเล็กน้อย ผู้ถือหุ้นคนนึง ต่อว่าปัญหาจากการใช้บริการที่บริษัทหลักทรัพย์
คุณ สมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งเคยบริหาร บล มาก่อนได้เข้าไปแก้ปัญหา
ของผู้ถือหุ้นด้านนอกห้องประชุม ผมว่าท่านเอาใจใส่ผู้ถือหุ้นเป็นอย่างดี ขอชมเชยครับ
ไม่รวมถึงการควบคุมการปล่อยสินเชื่อในปีที่แล้ว ทำให้ NPL ลดลงมามากเหลือ 2.96%l
เทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ ที่ NPL เพิ่มขึ้นมากมาย
เรามาเข้าสู่คำถามและคำตอบกันนะครับ
Q: สอบถามความคืบหน้าของธนาคารโนวาสโกเทียที่จะขายในส่วนที่ถือในTCAPออก มีผลต่อธนาคารอย่างไร
A: ผมจะสรุปจากในที่ประชุมและถามนอกรอบกับคุณสมเจตน์ให้นะครับ
เนื่องจากธนาคารโนวาสโกเทีย เปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงไปมาก และ ขยายงาน มีนโยบายใหม่เน้นในธุรกิจ
ในประเทศอเมริกากลางและใต้มากที่สุด ดังนั้นต้องการลดหรือเลิกธุรกรรมทางเอเชียแปซิฟิก รวมถึงฟิลิปปินส์
เวียดนามที่ขายออกไปแล้ว เขามาติดต่อเรา สำรวจความเป็นไปได้ในการขายเงินลงทุนออกไปทั้งหมด
เรายินดีให้ความร่วมมือโดยมีเงื่อนไขสำคัญ ใครก็ตามเข้ามาซื้อเราให้ความยินยอม ต้องเป็นสถาบันขนาดใหญ่
มั่นคง และ มีชื่อเสียงดี ทำงานร่วมกับเราได้ เราไม่ได้เข้าไปยุ่งกับเขา เขาดำเนินการเอง ตอนนี้ยังไม่ได้รับความคืบหน้า
ผลกระทบตอบว่าไม่มี เรายังร่วมมือกันอย่างดีไม่มีปัญหา
ส่วนระบบใหม่ที่ทำร่วมกันก็จบไปแล้ว เช่น Mobile Banking ก็เสร็จแล้ว กำลังทดสอบอยู่โดยtestกับพนักงานของเรา
กว่า 20,000 คน และให้ทุกคนเข้าใจระบบ เพื่อว่าเวลาเสนอให้ลูกค้าใช้ต้นเดือน พค และ มิย เราก็รู้ระบบดีสามารถอธิบายผู้ถือหุ้น และ ลูกค้าได้ คุณบันเทิงแจ้งว่า ผลทดสอบดี ไม่แพ้ธนาคารอื่นๆที่ทำมาแล้ว
เราไม่มีเรื่องอื่นที่ต้องพึ่งพากับธนาคารโนวาสโกเทีย เราหวังว่ารายใหม่สามารถร่วมมือเพื่อมีproductใหม่ออกมาได้
Q: ผู้ถือหุ้นท่านนึง อยากให้ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้าง ถูกหลักการหรือไม่ เช่น Data warehouse รวมถึงการเพิ่มเจ้าหน้าที่ITมาอีก 10กว่าคน
A: ในส่วนระบบจัดซื้อจัดจ้าง จะไม่มีผู้บริหารคนใดตัดสินใจในเรื่องใดคนเดียว
เราจะมีหน่วยงานอีกหลายหน่วยงานมาเกี่ยวข้อง เช่น IT มีผู้บริหารระดับสูง และ อีกหลายหน่วยงานมาตรวจสอบ
การเพิ่มคนไม่มากเมื่อเทียบกับงานที่เพิ่มขึ้น เช่น การเพิ่มเครื่องไม้เครื่องมือ อำนวยความสะดวก
ผู้เสนอเพิ่มคน จะต้องมีตัวชี้วัดว่าลงทุนแล้ว ได้ผลตอบแทนดีขึ้นอย่างไร
ในการจัดซื้อทุกอย่าง เรามีหน่วยดูแล และ หน่วยงานกลาง เจรจาต่อรอง
ผู้บริหารไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ ให้หน่วยงานกลางเป็นคนเจรจาต่อรองเอง ส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมการชุดย่อย
และส่งต่อให้ชุดใหญ่ ส่วน IT อาศัย partner ธนาคารโนวาสโกเทียเข้ามาดู ให้ความเห็นเปรียบเทียบกัน
บางที่ใช้สัญญาเก่าที่เคยทำมาอ้างอิงด้วย เราพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น
Q: คำถามจากเพื่อนนักลงทุน อยากทราบว่าแผนการดำเนินงานปีนี้ และ ทำให้กำไรเท่าเดิม หรือ ดีขึ้นอย่างไร
ธนชาติเป็นผู้นำproductใหม่ๆ แต่อยากสนับสนุนหารายได้ทางอื่นด้วย เพราะสินค้าประกันชีวิตอาจโดน
ลูกค้าต่อว่า และ สนับสนุน Mobile banking แต่ต้องระวัง และขอให้ทำรองรับ windows phoneด้วย
เพราะยังไม่มีเจ้าไหนทำมารองรับเลย
A: SCB ลด MLR ลดมา ตอนนี้ไม่พ้น ธนาคารอื่นก็ต้องลดตามด้วย คาดได้ว่า ต้นทุนเงินฝากไม่น่าจะเพิ่มขึ้น
มีโอกาสลดลงด้วย เป็นช่วงที่เราต้องปรับปรุงต้นทุนด้านเงินฝากให้ดีขึ้น เพื่อชดเชยส่วนที่ลดลง ช่วงนี้ส่วนที่ดีคือ
สินเชื่อ50%เป็นสินเชื่อดอกเบี้ยตายตัว สินเชื่อเช่าซื้อถ้าเรารักษาต้นทุนลดลง กำไรสูงขึ้นได้ แต่ความเสี่ยงเรื่องต้นทุน
ดอกเบี้ยสูงขึ้น ทำให้กำไรลดลงก็เป็นไปได้
คุณสมเจตน์เสริมว่า ภาวะดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ลดลง เราพยายามส่งเสริมลูกค้าทุกส่วนมาทำธุรกรรมกับเรามากขึ้น
เช่น Internet Banking / Mobile Banking จะทำให้ลูกค้าจะทิ้งเงินออมที่เหลืออยู่ในบัญชีออมทรัพย์ จะทำให้
ต้นทุนของเราลดลงอย่างยั่งยืน การเติบโตด้านสินทรัพย์ ภาวะเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย ธนาคารธนชาติมีportสินเชื่อ
รถยนต์มากจำนวนสินเชื่อติดลบ แต่ดีขึ้นเล็กน้อย พยายามขยายไปในตลาดรถเก่า กำลังศึกษาทำแผนจำนำรถยนต์
แต่ก็เดินไปด้วยความระมัดระวัง สินเชื่อธุรกิจ SME แม้เศรษฐกิจไม่ดี แต่ก็มีหลายsectorสามารถเติบโตไปได้ ภาพรวมทรัพย์สินรวม อาจไม่พุ่งขึ้นมากมาย โชคดีเพิ่มขึ้นนิดหน่อย อีกส่วนคือพยายามเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม ช่วยหาสินค้าให้ลูกค้า เช่น เราคิดกับบลจ ธนชาติออก T prime low beta นำเสนอลูกค้าได้ค่าFee รวมๆแล้วน่าจะรักษากำไรได้ เติบโตพอสมควร ส่วนค่าธรรมเนียมพยายามเพิ่มสัดส่วนมากขึ้น ในอุตสาหกรรมเราไม่สูง เราน่าจะเพิ่มสัดส่วนตัวนี้ไปได้
Q: คุณหว่า สมเกียรติ์ ได้ถามใน Slide แจ้งผลขาดทุนในธนาคารนครหลวงไทยเหลืออยู่ 25,000 ล้านบาท เราจะประหยัดภาษีไปอีก 1-2 ปีข้างหน้า ผู้บริหารมีแนวทางอย่างไร เราตั้งสำรองไปเยอะแล้ว เงินส่วนนี้จะปันผลเพิ่มขึ้น
หรือซื้อหุ้นคืนอีกได้ไหม
A: CFO คุณอนุวัฒน์ แจ้งว่า Tax loss 25,000 ล้านบาท เทียบเป็นสิทธิภาษี 7,000 ล้านบาท ตั้งสำรองล่วงหน้าปี 59
คิดว่าประโยชน์ทางภาษี จะตั้งสำรองส่วนนึง อีกส่วนจะtakeเป็นกำไร ทำให้TCAP กำไรสูงขึ้น อาจปันผลได้เพิ่มขึ้น
จบการประชุม 16.30
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2558
โพสต์ที่ 13
AGM SNC Y2015 (1 เม.ย. 2559 )
Cr: น้อง J Saran
สรุปในช่วง Q&A
- ค่าสอบบัญชีของ SCAN เพิ่มขึ้น 100% จากปีก่อน เนื่องจากบริษัทวางแผนย้ายธุรกิจในส่วน OEM และงานอื่นเข้ามาอยู่กับ SCAN มากขึ้น ทำให้ผู้สอบบัญชีคิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม (ส่วนบ.แม่ SNC ค่าสอบบัญชีก็ลดลงแทน)
- บริษัทเน้นเลือกคู่ค้าที่ดีมีความมั่นคง ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง เนื่องจากบริษัทต้องการขอเครดิตเทอมที่ยาว เพื่อทำให้การบริหาร cash cycle ของบริษัทติดลบ เหมือนธุรกิจค้าปลีก การที่บริษัททำแบบนี้ได้มาจากประสิทธิภาพในการบริหารงานได้ตามแผนกลยุทธ์ของบริษัท ตั้งแต่เป้าหมายผลิตของมีคุณภาพดีกว่าหรือถูกกว่าที่ลูกค้าผลิตเองและการส่งของได้ตรงเวลา ทำให้ช่วยลดภาระการทำงานของลูกค้าลง ข้อดีคือการต่อรองเรื่องราคาของลูกค้าจะเริ่มเป็นปัจจัยรอง ให้ความสำคัญด้านคุณภาพและกระบวนการผลิตแทน
- เนื่องจากปัจจุบันคุณสมชัยเป็นคณะกรรมการอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เลยไม่เหมาะสมที่จะมาพูดในงาน Oppday ไว้รอหมดวาระก่อนจะกลับมาออก Oppday อีกครั้ง
- เป้าหมายยอดขายโต 10% ยังทำได้ตามแผน ส่วนคู่แข่งจากจีน ปัจจุบันมีค่าแรงสูงกว่าไทยแล้ว และการจะมาแย่งลูกค้าญี่ปุ่นก็ยังทำได้ยากอยู่ แต่บริษัทก็ไม่ได้ประมาณ เงินปันผลคาดว่าจะจ่ายได้มากกว่าปีก่อน (ปี2015 รวมจ่ายเงินปันผล 0.9 บาทต่อหุ้น)
- Q3 จะมีการย้ายเครื่องจักรส่วน OEM ไปโรงงานใหม่ที่ระยอง เนื่องจากที่เก่าอยู่ในแหลมฉบังเป็นเขตส่งออก ที่ผ่านมาบริษัทมีลูกค้าเพียงรายเดียว (ฟูจิตสึ) ทำให้ใช้เครื่องจักรผลิตได้ไม่เต็มที่ (ทำ 4 เดือน ว่าง 8 เดือน) ดังนั้นการย้ายไปอยู่ที่ระยองจะมีประโยชน์กว่า เช่น มีอัตราค่าน้ำค่าไฟที่ถูกกว่า วางแผนจัดสรรบุคลากรให้ไปทำงานอื่นแทนในช่วง low seasons ได้ และโอกาสในการได้ลูกค้าใหม่ที่มีโรงงานผลิตอยู่ในประเทศไทย
- ส่วนโรงงานเก่าในแหลมฉบัง เตรียมเอาธุรกิจใหม่เข้ามาใส่แทน แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ (ตอนแรกที่ทำอยู่ในแหลมฉบังเพราะได้ประโยชน์ด้านภาษีในการส่งออก แต่หลังจากการเปิดเสรี AEC ประโยชน์ตรงนี้หมดไป)
- ระหว่างย้ายธุรกิจ OEM ไประยอง ประมาณ Q2-Q4 จะต้องมีสำรองจ่ายค่าชดเชยให้แก่พนักงานราวๆ 30 ลบ. และอีกส่วนเป็นค่า write off กรณีอุปกรณ์ตัวไหนย้ายไปไม่ได้ ตรงนี้บริษัทได้เตรียมตั้งสำรองจ่ายไว้ในแผนงานแล้ว
- ลูกค้าของบริษัทเริ่มให้ความสนใจฐานลูกค้าในกลุ่มอาเซียนมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีกับบริษัทที่มีฐานการผลิตอยู่ในไทย (ไดกิ้น, มิตซูบิชิ ขยายกำลังผลิตเท่าตัว ส่วนฟูจิตสึย้าย R&D มาเมืองไทย)
- SCAN ผู้บริหารชาวญี่ปุ่น (อดีตประธานบริษัท KEIHIN) รับรู้ถึงปัญหาขาดทุนเป็นอย่างดี ปีนี้มีเตรียมธุรกิจใหม่ 2-3 ตัวเข้ามาเสริม มั่นใจว่าปีนี้ผลขาดทุนลดลงแน่นอน และในอนาคตจากนโยบายภาครัฐที่วางแผนยกเลิกการใช้น้ำยา R22 แล้วให้เปลี่ยนมาใช้ R32 แทน ทำให้บริษัทยังเชื่อว่าระยะยาวอนาคตของ Aluminium Coil ยังมีโอกาสเติบโตอยู่
Cr: น้อง J Saran
สรุปในช่วง Q&A
- ค่าสอบบัญชีของ SCAN เพิ่มขึ้น 100% จากปีก่อน เนื่องจากบริษัทวางแผนย้ายธุรกิจในส่วน OEM และงานอื่นเข้ามาอยู่กับ SCAN มากขึ้น ทำให้ผู้สอบบัญชีคิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม (ส่วนบ.แม่ SNC ค่าสอบบัญชีก็ลดลงแทน)
- บริษัทเน้นเลือกคู่ค้าที่ดีมีความมั่นคง ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง เนื่องจากบริษัทต้องการขอเครดิตเทอมที่ยาว เพื่อทำให้การบริหาร cash cycle ของบริษัทติดลบ เหมือนธุรกิจค้าปลีก การที่บริษัททำแบบนี้ได้มาจากประสิทธิภาพในการบริหารงานได้ตามแผนกลยุทธ์ของบริษัท ตั้งแต่เป้าหมายผลิตของมีคุณภาพดีกว่าหรือถูกกว่าที่ลูกค้าผลิตเองและการส่งของได้ตรงเวลา ทำให้ช่วยลดภาระการทำงานของลูกค้าลง ข้อดีคือการต่อรองเรื่องราคาของลูกค้าจะเริ่มเป็นปัจจัยรอง ให้ความสำคัญด้านคุณภาพและกระบวนการผลิตแทน
- เนื่องจากปัจจุบันคุณสมชัยเป็นคณะกรรมการอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ เลยไม่เหมาะสมที่จะมาพูดในงาน Oppday ไว้รอหมดวาระก่อนจะกลับมาออก Oppday อีกครั้ง
- เป้าหมายยอดขายโต 10% ยังทำได้ตามแผน ส่วนคู่แข่งจากจีน ปัจจุบันมีค่าแรงสูงกว่าไทยแล้ว และการจะมาแย่งลูกค้าญี่ปุ่นก็ยังทำได้ยากอยู่ แต่บริษัทก็ไม่ได้ประมาณ เงินปันผลคาดว่าจะจ่ายได้มากกว่าปีก่อน (ปี2015 รวมจ่ายเงินปันผล 0.9 บาทต่อหุ้น)
- Q3 จะมีการย้ายเครื่องจักรส่วน OEM ไปโรงงานใหม่ที่ระยอง เนื่องจากที่เก่าอยู่ในแหลมฉบังเป็นเขตส่งออก ที่ผ่านมาบริษัทมีลูกค้าเพียงรายเดียว (ฟูจิตสึ) ทำให้ใช้เครื่องจักรผลิตได้ไม่เต็มที่ (ทำ 4 เดือน ว่าง 8 เดือน) ดังนั้นการย้ายไปอยู่ที่ระยองจะมีประโยชน์กว่า เช่น มีอัตราค่าน้ำค่าไฟที่ถูกกว่า วางแผนจัดสรรบุคลากรให้ไปทำงานอื่นแทนในช่วง low seasons ได้ และโอกาสในการได้ลูกค้าใหม่ที่มีโรงงานผลิตอยู่ในประเทศไทย
- ส่วนโรงงานเก่าในแหลมฉบัง เตรียมเอาธุรกิจใหม่เข้ามาใส่แทน แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ (ตอนแรกที่ทำอยู่ในแหลมฉบังเพราะได้ประโยชน์ด้านภาษีในการส่งออก แต่หลังจากการเปิดเสรี AEC ประโยชน์ตรงนี้หมดไป)
- ระหว่างย้ายธุรกิจ OEM ไประยอง ประมาณ Q2-Q4 จะต้องมีสำรองจ่ายค่าชดเชยให้แก่พนักงานราวๆ 30 ลบ. และอีกส่วนเป็นค่า write off กรณีอุปกรณ์ตัวไหนย้ายไปไม่ได้ ตรงนี้บริษัทได้เตรียมตั้งสำรองจ่ายไว้ในแผนงานแล้ว
- ลูกค้าของบริษัทเริ่มให้ความสนใจฐานลูกค้าในกลุ่มอาเซียนมากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีกับบริษัทที่มีฐานการผลิตอยู่ในไทย (ไดกิ้น, มิตซูบิชิ ขยายกำลังผลิตเท่าตัว ส่วนฟูจิตสึย้าย R&D มาเมืองไทย)
- SCAN ผู้บริหารชาวญี่ปุ่น (อดีตประธานบริษัท KEIHIN) รับรู้ถึงปัญหาขาดทุนเป็นอย่างดี ปีนี้มีเตรียมธุรกิจใหม่ 2-3 ตัวเข้ามาเสริม มั่นใจว่าปีนี้ผลขาดทุนลดลงแน่นอน และในอนาคตจากนโยบายภาครัฐที่วางแผนยกเลิกการใช้น้ำยา R22 แล้วให้เปลี่ยนมาใช้ R32 แทน ทำให้บริษัทยังเชื่อว่าระยะยาวอนาคตของ Aluminium Coil ยังมีโอกาสเติบโตอยู่
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 15
AGM HMPRO 7 APR 16 10.00 โรงแรมแมนดาริน
รายได้รวม 56,243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.83% มาจากรายได้จากการขายสินค้า 52,515 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 9.48% ส่วนใหญ่เกิดจากการเติบโตของสาขาเดิม และ การเปิดสาขาใหม่ในปี 58
คำถามและคำตอบในที่ประชุม
Q:นายบุญช่วย สอบถามว่า
1.ดูจากยอดขายเพิ่มน้อยกว่าการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายมาจากอะไร
2. และสาขาที่ Malaysia ขาดทุนอย่างไร
3. ทราบข่าวว่ามีปัญหาเรื่องการขอใบอนุญาติและมีปัญหากับท้องถิ่นคือสาขาที่สุโขทัย
4. งบมีการปรับปรุง68ล้านบาทคืออะไร
A: 1&2. การขยายลงทุนในMegahome เริ่มมีกำไรแล้วและ ส่วนที่สาขาในมาเลเซียพึ่งเปิดแค่1สาขา
ถ้าเป็นระดับstoreมีกำไร แต่เพราะมีค่าใช้จ่ายที่เป็น HQ สรุปยังขาดทุนอยู่
3. เราดำเนินการอย่างถูกต้อง แต่คนฟ้องว่าผิดกฎหมาย รอศาลพิสูจน์ ซึ่งเราได้ใบอนุญาตแล้ว
ถ้าผ่าน3ศาลแล้วแพ้ก็ปิดเท่านั้นเอง
4. งบมีการปรับปรุง68ล้านบาทคือมาจากการแปลงค่างบการเงินของมาเลยเซีย ค่าเงินอ่อนลงจาก10บาท
เป็น8บาทเลยขาดทุนทางบัญชี
Q: 1. การขาดทุนจากมาเลเซียเพราะต้องเปิด4สาขาจึงคุ้มทุน เลยอยากทราบว่าปีนี้จะเปิดกี่สาขา
2.Margin ของเราลดลง ต้องวิเคราะห์ว่าผู้บริหารจะทำอย่างไรให้coverในส่วนสาขาที่มาเลเซีย
3.ตัวที่มาเลเซียยังกระทบเราอีก2-3ปี เราจะsubsidizedในส่วนนี้อย่างไร
A: 1.ปีนี้จะเปิดในมาเลเซียเพิ่มอีกแค่1สาขา เพราะมีสาเหตุมีเปิดได้น้อยมาจากเรื่อง
กฎเกณฑ์ในการขออนุญาตจากรัฐบาลกลางและท้องถิ่น
2. ส่วนmarginลดลง เพราะลูกค้าจะซื้อสินค้าที่functionที่ต่ำลง กำไรในการขายก็ลดลง เช่นซื้อตู้เย็นต่ำกว่า18คิว
ทำให้เราได้กำไรน้อยลง เราพยายามรักษาmarginอยู่ตลอด
3. Magahome ขาดทุนไปอีก2-3ปี เปิด4สาขาก็เริ่มมีกำไร Hmpro สาขามาเลเซียก็เหมือนกัน
กรุณาอดทนสักนิด ร้านแบบเราที่นั่นยังไม่มี เราถือหุ้นได้ 100% ต่างจากบริษัทที่อื่นถือน้อยโดยเข้าหุ้น
กับท้องถิ่นก็ขาดทุน ดังนั้นอย่าเข้าหุ้นกับใครเลย ตอนนี้ไม่มีนโยบายเพิ่มทุน มีเงินสดมากมาย
Q: 1.การเปิดสาขาที่มาเลเซีย หาคนงานค่อนข้างยาก เรามีวิธีแก้ไขอย่างไร
2. ส่วนที่อรัญประเทศขายดีมาก สาขาเราที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง
A: ที่มาเลยเซีย เราต้องแก้ไข
ส่วนอรัญประเทศ เราเปิด Mega home ขายดีมาก
Q: ขอทราบสถานการณ์ของไตรมาสแรกและปีนี้
A: รอผลประกอบการไตรมาสแรกปลายๆเมษายน แต่เป็นไปตามเป้าครับ
ปีนี้บริษัทยังขยายอยู่ ขยายสาขาตามเป้า ปีที่แล้วโต9%ดีกว่าGDP โตแค่ 2%
Q: อยากทราบนโยบายการไปAEC
และ Homepro อยู่ในตำแหน่งที่เท่าไหร่ในไทย
A:เราสนใจขยายไปในตลาดAEC เราอยากใช้เวลาพิจารณาให้รอบคอบก่อนไปลงทุน
เรามีmarket share 21% เป็นอันดับหนึ่งในไทย
Q: Bike club มีแผนการดำเนินงานอย่างไร
A: ปีนี้ขยายกลุ่มสินค้ามารองรับลูกค้าเดิมสาขาแรกชัยพฤกษ์
สาขาสองจะเปิดที่พระรามสาม ต้องใช้เวลาพิจารณาในsegment bicycle
Q: น้องภาณุวัฒน์ สอบถามว่า อยากทราบเรื่องโครงการสะสมหุ้นของพนักงาน มีเพดานเท่าไหร่
ในห้าปีจำนวนหุ้นเท่าไหร่ครับ
ส่วนเรื่องบุคลากรลดลง แต่สาขาเพิ่มขึ้น เราใช้outsource ใช่ไหม
A:โครงการ EJIP หักเงินเดือน 5%บริษัทสมทบ5% เงินเดือนออกก็ซื้อในราคาตลาดเริ่มในปี2556
อายุ5ปีหมดในปี61 เป็นโครงการสมัครใจ สำหรับระดับบริหารเท่านั้น Silent period 3 ปี
เงินสมทบต่อปีไม่เกิน 10 ล้านบาท คิดเป็นหลัก 10 ล้านหุ้นเมื่อเทียบกับ จำนวนหุ้นทั้งหมด
10,000 ล้านหุ้น
เราreview ปรับปรุงประสิทธิภาพ พนักงานสโตร์น้อยลงเหลือแค่ประมาณ 100 คนต่อสาขา
Q: คุณนริศ อยากทราบว่ามีการถ่ายทอดตอนประชุมกับนักวิเคราะห์ อยากขอไปฟังบ้าง
A: สามารถดูจากOpp day ได้ แต่สามารถไปลงชื่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อไปฟังได้ครับ
รายได้รวม 56,243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.83% มาจากรายได้จากการขายสินค้า 52,515 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 9.48% ส่วนใหญ่เกิดจากการเติบโตของสาขาเดิม และ การเปิดสาขาใหม่ในปี 58
คำถามและคำตอบในที่ประชุม
Q:นายบุญช่วย สอบถามว่า
1.ดูจากยอดขายเพิ่มน้อยกว่าการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายมาจากอะไร
2. และสาขาที่ Malaysia ขาดทุนอย่างไร
3. ทราบข่าวว่ามีปัญหาเรื่องการขอใบอนุญาติและมีปัญหากับท้องถิ่นคือสาขาที่สุโขทัย
4. งบมีการปรับปรุง68ล้านบาทคืออะไร
A: 1&2. การขยายลงทุนในMegahome เริ่มมีกำไรแล้วและ ส่วนที่สาขาในมาเลเซียพึ่งเปิดแค่1สาขา
ถ้าเป็นระดับstoreมีกำไร แต่เพราะมีค่าใช้จ่ายที่เป็น HQ สรุปยังขาดทุนอยู่
3. เราดำเนินการอย่างถูกต้อง แต่คนฟ้องว่าผิดกฎหมาย รอศาลพิสูจน์ ซึ่งเราได้ใบอนุญาตแล้ว
ถ้าผ่าน3ศาลแล้วแพ้ก็ปิดเท่านั้นเอง
4. งบมีการปรับปรุง68ล้านบาทคือมาจากการแปลงค่างบการเงินของมาเลยเซีย ค่าเงินอ่อนลงจาก10บาท
เป็น8บาทเลยขาดทุนทางบัญชี
Q: 1. การขาดทุนจากมาเลเซียเพราะต้องเปิด4สาขาจึงคุ้มทุน เลยอยากทราบว่าปีนี้จะเปิดกี่สาขา
2.Margin ของเราลดลง ต้องวิเคราะห์ว่าผู้บริหารจะทำอย่างไรให้coverในส่วนสาขาที่มาเลเซีย
3.ตัวที่มาเลเซียยังกระทบเราอีก2-3ปี เราจะsubsidizedในส่วนนี้อย่างไร
A: 1.ปีนี้จะเปิดในมาเลเซียเพิ่มอีกแค่1สาขา เพราะมีสาเหตุมีเปิดได้น้อยมาจากเรื่อง
กฎเกณฑ์ในการขออนุญาตจากรัฐบาลกลางและท้องถิ่น
2. ส่วนmarginลดลง เพราะลูกค้าจะซื้อสินค้าที่functionที่ต่ำลง กำไรในการขายก็ลดลง เช่นซื้อตู้เย็นต่ำกว่า18คิว
ทำให้เราได้กำไรน้อยลง เราพยายามรักษาmarginอยู่ตลอด
3. Magahome ขาดทุนไปอีก2-3ปี เปิด4สาขาก็เริ่มมีกำไร Hmpro สาขามาเลเซียก็เหมือนกัน
กรุณาอดทนสักนิด ร้านแบบเราที่นั่นยังไม่มี เราถือหุ้นได้ 100% ต่างจากบริษัทที่อื่นถือน้อยโดยเข้าหุ้น
กับท้องถิ่นก็ขาดทุน ดังนั้นอย่าเข้าหุ้นกับใครเลย ตอนนี้ไม่มีนโยบายเพิ่มทุน มีเงินสดมากมาย
Q: 1.การเปิดสาขาที่มาเลเซีย หาคนงานค่อนข้างยาก เรามีวิธีแก้ไขอย่างไร
2. ส่วนที่อรัญประเทศขายดีมาก สาขาเราที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง
A: ที่มาเลยเซีย เราต้องแก้ไข
ส่วนอรัญประเทศ เราเปิด Mega home ขายดีมาก
Q: ขอทราบสถานการณ์ของไตรมาสแรกและปีนี้
A: รอผลประกอบการไตรมาสแรกปลายๆเมษายน แต่เป็นไปตามเป้าครับ
ปีนี้บริษัทยังขยายอยู่ ขยายสาขาตามเป้า ปีที่แล้วโต9%ดีกว่าGDP โตแค่ 2%
Q: อยากทราบนโยบายการไปAEC
และ Homepro อยู่ในตำแหน่งที่เท่าไหร่ในไทย
A:เราสนใจขยายไปในตลาดAEC เราอยากใช้เวลาพิจารณาให้รอบคอบก่อนไปลงทุน
เรามีmarket share 21% เป็นอันดับหนึ่งในไทย
Q: Bike club มีแผนการดำเนินงานอย่างไร
A: ปีนี้ขยายกลุ่มสินค้ามารองรับลูกค้าเดิมสาขาแรกชัยพฤกษ์
สาขาสองจะเปิดที่พระรามสาม ต้องใช้เวลาพิจารณาในsegment bicycle
Q: น้องภาณุวัฒน์ สอบถามว่า อยากทราบเรื่องโครงการสะสมหุ้นของพนักงาน มีเพดานเท่าไหร่
ในห้าปีจำนวนหุ้นเท่าไหร่ครับ
ส่วนเรื่องบุคลากรลดลง แต่สาขาเพิ่มขึ้น เราใช้outsource ใช่ไหม
A:โครงการ EJIP หักเงินเดือน 5%บริษัทสมทบ5% เงินเดือนออกก็ซื้อในราคาตลาดเริ่มในปี2556
อายุ5ปีหมดในปี61 เป็นโครงการสมัครใจ สำหรับระดับบริหารเท่านั้น Silent period 3 ปี
เงินสมทบต่อปีไม่เกิน 10 ล้านบาท คิดเป็นหลัก 10 ล้านหุ้นเมื่อเทียบกับ จำนวนหุ้นทั้งหมด
10,000 ล้านหุ้น
เราreview ปรับปรุงประสิทธิภาพ พนักงานสโตร์น้อยลงเหลือแค่ประมาณ 100 คนต่อสาขา
Q: คุณนริศ อยากทราบว่ามีการถ่ายทอดตอนประชุมกับนักวิเคราะห์ อยากขอไปฟังบ้าง
A: สามารถดูจากOpp day ได้ แต่สามารถไปลงชื่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อไปฟังได้ครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 16
AGM WORK 7 APR 16 14.00น
เกริ่นนำ โดยคุณปัญญาแนะนำ รายการ I can see your voice Thailand ได้เรตติ้ง 4.5 เมื่อวานนี้
รางวัลล่าสุด เมษขลา สถานีดิจิตอลยอดเยี่ยม Rating เติบโตดี
คุณประภาสได้รางวัลโทรทัศน์ทองคำ เกียรติยศคนทีวี ครั้งที่30 ปี2558
ปีใหม่ สงกรานต์ ให้มีความสุขในช่วงใช้น้ำน้อย
ตอนนี้เราทำรายการเองทั้งหมด เราคือความต่าง ถ้าชอบความต่างต้องเลือกWorkpoint
Rating 1 หายาก แต่เรามีรายการที่มีRating 4.x ในหลายรายการ
ตอนนี้คู่แข่งคือ ช่อง 7 และ ช่อง 3 ซึ่งถือเป็นกลุ่มเดียว หลังจากนั้นเป็นกลุ่ม 0.5 อีกหลายช่อง
ส่วนRating 0.0x ขึ้นมายากมาก ราคาเราถูกที่สุดเมื่อเทียบกับ Rating ที่มี
ถ้าเปรียบเทียบDigital เรานำห่างมาก เราได้รับรางวัลมากมาย
เรามี Dinosaur planet อยู่ที่สุขุมวิท คนเข้า 5,000 คนต่อวัน มีการจัดงาน World expo Milano
เข้าสู่วาระการประชุม
อุตสาหกรรมโฆษณาโต 3% แต่โทรทัศน์โตกว่า ก้อนที่โตจากในส่วนดิจิตอลทีวี ส่วนอนาลอตโตลดลง
รายได้รวม 2,100 ล้านบาทในปี57 ปีนี้ 2,400 ล้านบาท
กำไรสุทธิเป็นบวก เติบโตกว่า 1,000%
1.รายได้หลักมากจากโทรทัศน์แต่เปลี่ยนจากการเช่าช่องอนาลอต มาเป็นช่องWorkpoint TV เป็นหลัก
2.Concert 8% ในปี58 โดยเปิดโรงละครเวทีสยามพิฆเนศ ในเดือนมีค 58
3.ธุรกิจรับจ้างจัดงานลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวมชลอตัว
รายได้ในการเช่าช่องต่างๆ ในปี57 แต่ปี58ได้ย้ายมาช่อง Workpoint ทำให้รายได้ในส่วนธุรกิจโทรทัศน์
จาก 1,800 เป็น 2,000 ลบ
อัตรากำไรขั้นต้น 550 ล้านบาท แต่ปี57ยังขาดทุน พอปี 58 เริ่มเห็นกำไรจาก rating เพิ่ม
เมื่อก่อนยังขายในราคา 1x,xxx ตอนนี้กำไรขั้นต้น Q4 ดีขึ้น ค่าโฆษณา ขึ้นมาเป็น 3x,xxx บาท
Highest Rating Record
ชกมวยบัวขาว เคยได้ถึง 13.3 ในบางช่วง เฉลี่ย 8.76
ไมล์ทองคำปี3 rating 6.59 เป็นต้น
รายการในกลุ่ม Nationwide , BKK+Urban , Rural , Female 15+ เราก็เป็นผู้นำในทุกกลุ่ม
เราจับกลุ่มผู้ชมได้ทุกกลุ่ม
-ธุรกิจรับจ้างจัดงาน ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ มีงานได้แก่
งาน Siamstreet , เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ เป็นต้น
-ธุรกิจconcertและละครเวที
รายได้จากการโชว์ประมาณ 40% บางส่วนมาจากธนาคารกสิกรไทยสนับสนุน 5 ปี
นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการเช่าพื้นที่จัดแสดงสินค้า สัมมนา
ละครเวทีและคอนเสิร์ต ได้แก่ โหมโรง ,คุณพระช่วย ,Big fun ,concert เพลงแบบประภาส2
ค่าใช้จ่ายในการขาย
ค่านายหน้าการขาย เพิ่มขึ้น 18% จากปริมาณงานเพิ่มขึ้น
ค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่ม 19% มาจากโรงละคร เพิ่มจำนวนพนักงานจาก 6xx เป็น 7xx คน เพิ่มขึ้น
ประมาณ 39% ตอนนี้ชะลอตัวลง ไม่รับเพิ่มแล้ว
มีเรื่องแจ้งให้ทราบคือ เรื่องการรับรายรู้และรายจ่ายดิจิตอลทีวี สภาวิชาชีพให้เปลี่ยนวิธีการรับรู้
ค่าใช้จ่าย 2,300 ล้านบาท ก่อนนี้เป็นการตัดเส้นตรง
ก็เปลี่ยนเป็น Discount รายได้ในอนาคตลงมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน ได้ 2,000 ล้านบาท
ที่เหลือเป็นดอกเบี้ย 300 ล้านบาท
กำไร 164 ล้านบาท
Asset เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุนในส่วน PP
การเพิ่มสตูดิโอเป็น 19 ที่ ทำให้Fix asset เพิ่มขึ้น
หนี้สินหมุนเวียนลดลง ได้ Private placement มา ซึ่งไปลดภาระทางการเงินระยะสั้นและยาว
D/E Ratio ลดจาก 2 เท่า เป็น 1 เท่า
ปี 59 Rating ช่วงปลายปี2558 ลดลงมาจากการเปลี่ยนเลขช่อง ทุกกล่องอยู่ช่องเดียวกัน rating เลยไหลลง
เดือน ธค ใช้ฉายซ้ำเลยลงมานิดนึง พอเดือน มค59 ก็ฉายปกติ Rating ก็กลับขึ้นมา
Workpoint อยู่อันดับ3ไม่ว่าจัดตามcategoryใดก็ตาม
-เกมโชว์ variety ต่างๆก็ได้รับความนิยมมากขึ้น
-ข่าวเช้า Rating จาก 0.08 เป็น 0.3 เมื่อเรามาทำเองในเดือน มค 16 ก่อนนี้ให้สนพ แห่งหนึ่งทำ
-รายการ Big Tailor made program For Big Sponsers ได้แก่ คาราบาวแดง, The final ,Ichitan
-Event , concert ได้แก่
Concert คุณพระช่วย ,นิ้วกลม,นิทานหิ่งห้อย
-เช่าพื้นที่ เอ็มโพเลียม สุขุมวิท 22 สร้างเป็น Dinosaur Planet
รายได้น่าจะทะลุเป้า คนเพิ่มจาก target 1500 คนต่อวัน เป็น 5000 คน ต่อวันแล้ว
Q; การดำเนินงานมีปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง
A: การเปลี่ยนแปลง regulationจาก กสทช บ่อยมาก
ค่าธรรมเนียมจะเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่ดีคือถูกลง
ใบอนุญาตค้างอยู่จะเป็นลักษณะใด ในรูปแบบไหน คนเข้ามาใหม่จะเป็นอย่างไร
ส่วน operation ของบริษัท ค่อนข้างมั่นใจในเรื่องคุณภาพ ตอบโจทย์ผู้ชมได้ดี
Q: เงินสด 1,000 ล้าน อยู่ใน เงินฝากและ พันธบัตร
และ เงินลงทุนชั่วคราว 200 ล้านบาท เราทำไมไม่ไปลดหนี้
A: จริงๆเราวางแผนไปลดหนี้แต่เมื่อไหร่ดี น่าจะเป็นปีนี้ ช่วงนี้ต้องจ่ายค่าก่อสร้างเช่น ไดโนเสาร์
เราต้องไปฝาก Mutaul fund , Bond ได้ดอกเบี้ยมากกว่า
Q: ลูกหนี้การค้า 438 ล้านบาท หน้า 98 หนี้เกิน 12 ล้านบาท ลดลงเหลือ 4.7 ล้านบาท ดีมากๆ
แสดงว่าเก็บหนี้เก่งมาก ขอชมเชย
A: อายุหนี้การค้าเกิน 12 เดือน
1. ค้างชำระ ก็เก็บได้
2. Barter trade ค่อยๆมาทยอยนำมาใช้
อาคารสำนักงานตัดค่าเสื่อม 40 ปี ตอนนี้ไม่มีการลงทุนใน fix asset ใหญ่ๆแล้ว ฉากไม่ต้องมาตั้งใหม่
ค้างไว้ในสตูดิโอได้เลย
การจ่ายปันผล Payout ration 80% โดยเฉลี่ย 2H58 กำไร 78 ลบ ของงบบริษัท
ปันผล 15 สตต่อหุ้น ทั้งปี 34 สต ต่อหุ้น
XD 10มีค16 , Pay 4 พค 16
Q:ไม่มีรายงานการประชุมของคณะกรรมการสรรหา แต่มีจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง
A: ตกหล่นไป ปีที่แล้วมีการประชุม1ครั้ง
Q: ค่าตรวจสอบของบริษัทขึ้นมา 1ล้านบาท ทำไมราคาขึ้นมามาก เรามีการเรียกบริษัทอื่น
มายื่นแข่งขันด้วยหรือไม่
A: เราเรียกหลายเจ้ามาส่วนใหญ่เป็น Big4 ราคานี้สมเหตุสมผลกว่าที่อื่นเลยเลือก KPMG
Q:สอบถามนโยบายต่อต้านcorruption บริษัทยังไม่ได้เข้าร่วมกับ IOD
A: ตอนนี้เรายังไม่มีบทสรุป คงรับพิจารณาต่อไป
Q: ช่องอื่น ที่ได้Rating 4-6 มีแผนปรับเนื้อหาเพื่อดึงrating เรามีแผนอะไรบ้าง
A: ประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่างในการดึง Rating เราทำไปเรื่อยๆ เรามีความพร้อมทั้งประสบการณ์
และพื้นที่ เรามีการขยับขยายหลายรายการ และ สังเกตคู่แข่งด้วย รายการ rating 5-6 ก็อาจหายไปได้
เราต้องมองให้ออก
Q: บริษัทมีแผนแตกพาร์หรือไม่ จะได้ซื้อง่ายขายคล่อง
A: รับไว้พิจารณา
Q: ปีที่แล้วเรามีการฉายตาม BTS และเห็นช่อง3,7 ฉายตามโรงพยาบาลเรามีหรือไม่
A: เรายังมีฉายตาม Public screen BTS อยู่
Q: ยังมีงบลงทุนใหญ่ๆอีกหรือไม่ และ เป้าหมายเรื่อง Rating ในปี1-2ปี
A: คุณชลากรณ์ ตอบว่า ตอนนี้ไม่มีการลงทุนใหญ่ๆแล้ว มีแค่อัปเกรดอุปกรณ์ 150 ล้านบาท
เป้าหมาย Rating 1.2 เราได้และพยายาม keep ไว้แบบนี้
Workpoint จะพยายามใช้ความถนัดในการปรับปรุงมีเหมือนบ้างเช่นละคร
ส่วนคุณปัญญาเสริมว่า Rating ขึ้นกับฝีมือ ผอเราบอกว่า 1.2 เราไม่สามารถบอกได้ว่าเท่านั้นเท่านี้
เวลาเติบโตก็โตได้อีกเยอะ
Q: อยากสอบถาม coverage ของ agency
Utilization อาจแค่ 60% ใช่ไหม
A: เราเข้าได้ 100% ,Agency เข้าถึง 100%
ลูกค้าDirect เข้าถึงเป็นส่วนมาก เจาะเข้าไปแทบจะ 100%
Q: เราอยู่ Top Rank แล้วเรามองในแง่ discount เมื่อเทียบกับเบอร์ 1,2 เป็นอย่างไร
ถ้าเรียกแบบ CPLT จะได้แค่ 40,000 บาทเท่านั้นไม่ได้ปรับเพิ่มเท่าไหร
A:อำนาจการต่อรองดีขึ้นมาก สามารถปรับได้ 30% จาก 38,000 เป็น 48,000 บาทแล้ว
Agencyยอมรับขึ้น เค้าจะเลือกเฉพาะTop ในการเลือก
เราก็พยายามปรับ CPLT เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ปิดประชุม 16.00 น
เกริ่นนำ โดยคุณปัญญาแนะนำ รายการ I can see your voice Thailand ได้เรตติ้ง 4.5 เมื่อวานนี้
รางวัลล่าสุด เมษขลา สถานีดิจิตอลยอดเยี่ยม Rating เติบโตดี
คุณประภาสได้รางวัลโทรทัศน์ทองคำ เกียรติยศคนทีวี ครั้งที่30 ปี2558
ปีใหม่ สงกรานต์ ให้มีความสุขในช่วงใช้น้ำน้อย
ตอนนี้เราทำรายการเองทั้งหมด เราคือความต่าง ถ้าชอบความต่างต้องเลือกWorkpoint
Rating 1 หายาก แต่เรามีรายการที่มีRating 4.x ในหลายรายการ
ตอนนี้คู่แข่งคือ ช่อง 7 และ ช่อง 3 ซึ่งถือเป็นกลุ่มเดียว หลังจากนั้นเป็นกลุ่ม 0.5 อีกหลายช่อง
ส่วนRating 0.0x ขึ้นมายากมาก ราคาเราถูกที่สุดเมื่อเทียบกับ Rating ที่มี
ถ้าเปรียบเทียบDigital เรานำห่างมาก เราได้รับรางวัลมากมาย
เรามี Dinosaur planet อยู่ที่สุขุมวิท คนเข้า 5,000 คนต่อวัน มีการจัดงาน World expo Milano
เข้าสู่วาระการประชุม
อุตสาหกรรมโฆษณาโต 3% แต่โทรทัศน์โตกว่า ก้อนที่โตจากในส่วนดิจิตอลทีวี ส่วนอนาลอตโตลดลง
รายได้รวม 2,100 ล้านบาทในปี57 ปีนี้ 2,400 ล้านบาท
กำไรสุทธิเป็นบวก เติบโตกว่า 1,000%
1.รายได้หลักมากจากโทรทัศน์แต่เปลี่ยนจากการเช่าช่องอนาลอต มาเป็นช่องWorkpoint TV เป็นหลัก
2.Concert 8% ในปี58 โดยเปิดโรงละครเวทีสยามพิฆเนศ ในเดือนมีค 58
3.ธุรกิจรับจ้างจัดงานลดลงตามภาวะเศรษฐกิจโดยรวมชลอตัว
รายได้ในการเช่าช่องต่างๆ ในปี57 แต่ปี58ได้ย้ายมาช่อง Workpoint ทำให้รายได้ในส่วนธุรกิจโทรทัศน์
จาก 1,800 เป็น 2,000 ลบ
อัตรากำไรขั้นต้น 550 ล้านบาท แต่ปี57ยังขาดทุน พอปี 58 เริ่มเห็นกำไรจาก rating เพิ่ม
เมื่อก่อนยังขายในราคา 1x,xxx ตอนนี้กำไรขั้นต้น Q4 ดีขึ้น ค่าโฆษณา ขึ้นมาเป็น 3x,xxx บาท
Highest Rating Record
ชกมวยบัวขาว เคยได้ถึง 13.3 ในบางช่วง เฉลี่ย 8.76
ไมล์ทองคำปี3 rating 6.59 เป็นต้น
รายการในกลุ่ม Nationwide , BKK+Urban , Rural , Female 15+ เราก็เป็นผู้นำในทุกกลุ่ม
เราจับกลุ่มผู้ชมได้ทุกกลุ่ม
-ธุรกิจรับจ้างจัดงาน ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจ มีงานได้แก่
งาน Siamstreet , เทศกาลสีสันแห่งสายน้ำ เป็นต้น
-ธุรกิจconcertและละครเวที
รายได้จากการโชว์ประมาณ 40% บางส่วนมาจากธนาคารกสิกรไทยสนับสนุน 5 ปี
นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการเช่าพื้นที่จัดแสดงสินค้า สัมมนา
ละครเวทีและคอนเสิร์ต ได้แก่ โหมโรง ,คุณพระช่วย ,Big fun ,concert เพลงแบบประภาส2
ค่าใช้จ่ายในการขาย
ค่านายหน้าการขาย เพิ่มขึ้น 18% จากปริมาณงานเพิ่มขึ้น
ค่าใช้จ่ายพนักงานเพิ่ม 19% มาจากโรงละคร เพิ่มจำนวนพนักงานจาก 6xx เป็น 7xx คน เพิ่มขึ้น
ประมาณ 39% ตอนนี้ชะลอตัวลง ไม่รับเพิ่มแล้ว
มีเรื่องแจ้งให้ทราบคือ เรื่องการรับรายรู้และรายจ่ายดิจิตอลทีวี สภาวิชาชีพให้เปลี่ยนวิธีการรับรู้
ค่าใช้จ่าย 2,300 ล้านบาท ก่อนนี้เป็นการตัดเส้นตรง
ก็เปลี่ยนเป็น Discount รายได้ในอนาคตลงมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน ได้ 2,000 ล้านบาท
ที่เหลือเป็นดอกเบี้ย 300 ล้านบาท
กำไร 164 ล้านบาท
Asset เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มทุนในส่วน PP
การเพิ่มสตูดิโอเป็น 19 ที่ ทำให้Fix asset เพิ่มขึ้น
หนี้สินหมุนเวียนลดลง ได้ Private placement มา ซึ่งไปลดภาระทางการเงินระยะสั้นและยาว
D/E Ratio ลดจาก 2 เท่า เป็น 1 เท่า
ปี 59 Rating ช่วงปลายปี2558 ลดลงมาจากการเปลี่ยนเลขช่อง ทุกกล่องอยู่ช่องเดียวกัน rating เลยไหลลง
เดือน ธค ใช้ฉายซ้ำเลยลงมานิดนึง พอเดือน มค59 ก็ฉายปกติ Rating ก็กลับขึ้นมา
Workpoint อยู่อันดับ3ไม่ว่าจัดตามcategoryใดก็ตาม
-เกมโชว์ variety ต่างๆก็ได้รับความนิยมมากขึ้น
-ข่าวเช้า Rating จาก 0.08 เป็น 0.3 เมื่อเรามาทำเองในเดือน มค 16 ก่อนนี้ให้สนพ แห่งหนึ่งทำ
-รายการ Big Tailor made program For Big Sponsers ได้แก่ คาราบาวแดง, The final ,Ichitan
-Event , concert ได้แก่
Concert คุณพระช่วย ,นิ้วกลม,นิทานหิ่งห้อย
-เช่าพื้นที่ เอ็มโพเลียม สุขุมวิท 22 สร้างเป็น Dinosaur Planet
รายได้น่าจะทะลุเป้า คนเพิ่มจาก target 1500 คนต่อวัน เป็น 5000 คน ต่อวันแล้ว
Q; การดำเนินงานมีปัจจัยเสี่ยงอะไรบ้าง
A: การเปลี่ยนแปลง regulationจาก กสทช บ่อยมาก
ค่าธรรมเนียมจะเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่ดีคือถูกลง
ใบอนุญาตค้างอยู่จะเป็นลักษณะใด ในรูปแบบไหน คนเข้ามาใหม่จะเป็นอย่างไร
ส่วน operation ของบริษัท ค่อนข้างมั่นใจในเรื่องคุณภาพ ตอบโจทย์ผู้ชมได้ดี
Q: เงินสด 1,000 ล้าน อยู่ใน เงินฝากและ พันธบัตร
และ เงินลงทุนชั่วคราว 200 ล้านบาท เราทำไมไม่ไปลดหนี้
A: จริงๆเราวางแผนไปลดหนี้แต่เมื่อไหร่ดี น่าจะเป็นปีนี้ ช่วงนี้ต้องจ่ายค่าก่อสร้างเช่น ไดโนเสาร์
เราต้องไปฝาก Mutaul fund , Bond ได้ดอกเบี้ยมากกว่า
Q: ลูกหนี้การค้า 438 ล้านบาท หน้า 98 หนี้เกิน 12 ล้านบาท ลดลงเหลือ 4.7 ล้านบาท ดีมากๆ
แสดงว่าเก็บหนี้เก่งมาก ขอชมเชย
A: อายุหนี้การค้าเกิน 12 เดือน
1. ค้างชำระ ก็เก็บได้
2. Barter trade ค่อยๆมาทยอยนำมาใช้
อาคารสำนักงานตัดค่าเสื่อม 40 ปี ตอนนี้ไม่มีการลงทุนใน fix asset ใหญ่ๆแล้ว ฉากไม่ต้องมาตั้งใหม่
ค้างไว้ในสตูดิโอได้เลย
การจ่ายปันผล Payout ration 80% โดยเฉลี่ย 2H58 กำไร 78 ลบ ของงบบริษัท
ปันผล 15 สตต่อหุ้น ทั้งปี 34 สต ต่อหุ้น
XD 10มีค16 , Pay 4 พค 16
Q:ไม่มีรายงานการประชุมของคณะกรรมการสรรหา แต่มีจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง
A: ตกหล่นไป ปีที่แล้วมีการประชุม1ครั้ง
Q: ค่าตรวจสอบของบริษัทขึ้นมา 1ล้านบาท ทำไมราคาขึ้นมามาก เรามีการเรียกบริษัทอื่น
มายื่นแข่งขันด้วยหรือไม่
A: เราเรียกหลายเจ้ามาส่วนใหญ่เป็น Big4 ราคานี้สมเหตุสมผลกว่าที่อื่นเลยเลือก KPMG
Q:สอบถามนโยบายต่อต้านcorruption บริษัทยังไม่ได้เข้าร่วมกับ IOD
A: ตอนนี้เรายังไม่มีบทสรุป คงรับพิจารณาต่อไป
Q: ช่องอื่น ที่ได้Rating 4-6 มีแผนปรับเนื้อหาเพื่อดึงrating เรามีแผนอะไรบ้าง
A: ประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่างในการดึง Rating เราทำไปเรื่อยๆ เรามีความพร้อมทั้งประสบการณ์
และพื้นที่ เรามีการขยับขยายหลายรายการ และ สังเกตคู่แข่งด้วย รายการ rating 5-6 ก็อาจหายไปได้
เราต้องมองให้ออก
Q: บริษัทมีแผนแตกพาร์หรือไม่ จะได้ซื้อง่ายขายคล่อง
A: รับไว้พิจารณา
Q: ปีที่แล้วเรามีการฉายตาม BTS และเห็นช่อง3,7 ฉายตามโรงพยาบาลเรามีหรือไม่
A: เรายังมีฉายตาม Public screen BTS อยู่
Q: ยังมีงบลงทุนใหญ่ๆอีกหรือไม่ และ เป้าหมายเรื่อง Rating ในปี1-2ปี
A: คุณชลากรณ์ ตอบว่า ตอนนี้ไม่มีการลงทุนใหญ่ๆแล้ว มีแค่อัปเกรดอุปกรณ์ 150 ล้านบาท
เป้าหมาย Rating 1.2 เราได้และพยายาม keep ไว้แบบนี้
Workpoint จะพยายามใช้ความถนัดในการปรับปรุงมีเหมือนบ้างเช่นละคร
ส่วนคุณปัญญาเสริมว่า Rating ขึ้นกับฝีมือ ผอเราบอกว่า 1.2 เราไม่สามารถบอกได้ว่าเท่านั้นเท่านี้
เวลาเติบโตก็โตได้อีกเยอะ
Q: อยากสอบถาม coverage ของ agency
Utilization อาจแค่ 60% ใช่ไหม
A: เราเข้าได้ 100% ,Agency เข้าถึง 100%
ลูกค้าDirect เข้าถึงเป็นส่วนมาก เจาะเข้าไปแทบจะ 100%
Q: เราอยู่ Top Rank แล้วเรามองในแง่ discount เมื่อเทียบกับเบอร์ 1,2 เป็นอย่างไร
ถ้าเรียกแบบ CPLT จะได้แค่ 40,000 บาทเท่านั้นไม่ได้ปรับเพิ่มเท่าไหร
A:อำนาจการต่อรองดีขึ้นมาก สามารถปรับได้ 30% จาก 38,000 เป็น 48,000 บาทแล้ว
Agencyยอมรับขึ้น เค้าจะเลือกเฉพาะTop ในการเลือก
เราก็พยายามปรับ CPLT เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ปิดประชุม 16.00 น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 17
AGM SVOA 8 APR 16 14.00
วันนี้ ท่านประธาน เธียรชัย ศรีวิจิตร อายุ83ปี ได้ประกาศไม่ต่ออายุตำแหน่ง ประธานกรรมการ และ กรรมการ กับทาง SVOA แต่ทางบริษัท ยังขอให้เป็นประธานกิติมศักด์ต่อ หลังจากท่านเกษียณอายุจากธนาคารกรุงไทยก็มาอยู่ช่วยที่นี่กว่า 20ปี ตอนนี้ท่านอยากไปพักผ่อนบ้างแล้ว ในยามว่าง ก็จะไปออกกำลังปั่นจักรยานในบ้านเป็นประจำ ท่านได้พูดคุยกับผมหลังประชุมว่า หลังเกษียณถ้าไม่ได้หาอะไรทำก็จะห่อเหี่ยว เลยต้องมาเป็นผู้บริหารของSVOA ต้องขอบคุณท่านมากๆครับ นับเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ชีวิตหลังเกษียณ
ทำให้ผมนึกถึง ศจ ศรีศักดิ์ ที่ยังร่วมงานที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ท่านก็ยังทำงานอยู่ทั้งที่เกษียณมาร่วม20ปีเหมือนกัน
ท่านชอบทำงานมาก งานเยอะเหมือนทำงานปกติเลย ทำให้ผมรู้สึกว่าอายุไม่เป็นอุปสรรคถ้าอยากทำในสิ่งที่เราตั้งเป้าไว้
เอาละมาเข้าเรื่องประชุมกันดีกว่า
คำถามและคำตอบในที่ประชุม
Q: กำไรสุทธิ 124 ล้านบาท กับที่โชว์กำไร/ขาดทุนเบ็ดเสร็จต่างกันอย่างไร
A: เวลาดูกำไรให้ดูที่กำไรสุทธิ ส่วนกำไร/ขาดทุนเบ็ดเสร็จจะไม่บันทึกลงในกำไรขาดทุน แต่จะเข้าไปในส่วนของผู้ถือหุ้น คุณิม แจ๊คมาเพิ่มเติมว่า มาตราฐานบัญชีใหม่ ได้ให้มีการสำรองในส่วนที่พนักงานที่เกษียณและจะต้องชดเชยรายได้ ซึ่งมีนักคณิตศาสตร์มาคำนวณ ว่าต้องตั้งสำรองเท่าไหร่ จะได้ไม่กระทบกับงบกำไรขาดทุนในแต่ละปี
Q:กำไรจากบริษัทลูก 37 ล้านบาท อยากให้แยกว่ามาจากบริษัทใดบ้าง และ เงินกำไรสะสมกว่า 800 ล้านบาท
ขอทราบรายละเอียดว่าไปใช้อะไรบ้าง
A: ดูจากหนังสือรายงานประจำปีหน้า 160
IT City 7 MB
Lease IT 29 MB
เอบิคส์ 249,000 Baht
ส่วนกำไรสะสม 800 กว่าล้านบาท เป็นกำไรที่สะสมมาจากอดีต ที่เหลือจากการตั้งสำรอง และ จ่ายปันผลแล้ว
เราเอามาเป็นทุนสำรองในการค้าขาย ให้เครดิตร้านค้า ลูกค้า เป็น Working capital ส่วนนึงด้วย
Q: คุณสิทธิโชค ถาม จะขอลดส่วนที่เพิ่มค่าตรวจสอบบัญชี 40,000 บาทลงมาได้ไหม
A: คุณมนู ประธานตรวจสอบ แจ้งว่า เราพิจารณาอย่างเหมาะสมแล้ว และได้มีการตรวจสอบเปรียบเทียบจากที่อื่นด้วย
วาระสุดท้าย เรื่องอื่นๆ
Q: ผมสอบถามเองว่า มีข่าวเรื่อง หัวเหว่ยจะมาเข้าซื้อหุ้นบางส่วนของ ไอทีซิตี้ เป็นจริงหรือไม่
A: คุณแจ๊ค แจ้งว่าได้มีการคุยกับหัวเหว่ย ซึ่งทำมือถือแซงหน้าเซี่ยวมี่ไปแล้ว ผู้บริหารไอทีซิตี้สนใจจะนำมาขายเท่านั้น
ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการเข้าซื้อหุ้นแต่อย่างใด
Q: เราเก่งด้านใดบ้าง และ คู่แข่งของเราเป็นใคร
A: คุณแจ๊คตอบว่า เราเป็นเหมือนทศกีฑา คือเราไม่ได้มีคู่แข่งแค่ธุรกิจเดียว เรามีคู่แข่งในแต่ละBusinesss unit
1. Distribution คู่แข่งคือ SIS , Synex
2. System intregrator ด้าน ขาย project :ซึ่ง Dataone ทำอยู่กับธนาคาร คู่แข่งคือ MFEC
แต่ถ้าเป็นงานประมูลราชการ คู่แข่งคือ AIT
3. Retail ITCity คู่แข่งคือ Banana IT ของ COM7 ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และอยู่นอกตลทคือ JIB,Advice
4. แผนกเงินผ่อน Lease IT คู่แข่งมีมากเลย
5. ธุรกิจ After Sales Service คู่แข่ง กับ เป็นบริษัท IT ต่างๆ
ดังนั้นไม่มีบริษัทไหนเหมือนเรา เราจึงได้เปรียบเทียบตัวเองเป็นแชมป์กีฬา ทศกีฑา
Q: น้องวินัย ได้สอบถามว่า SVOA ถือหุ้น Lease ITและ ขายออกจนเหลือ 39.9% ขอทราบเหตุผล
เรามีความคิดที่จะลดสัดส่วนของบริษัทลูกลงอีกไหม
A: กติกาใหม่สำหรับบริษัทแม่ที่จะต้อง consolidate งบบริษัทลูกคือ ถือหุ้นเกิน 40% และพิสูจน์ได้ว่า
มีอำนาจควบคุมบริษัท SVOA ไม่อยากconsol งบบริษัทลูกเพราะทำให้ DE Ratio ผิดเพี้ยนไปส่งผลต่อการกู้ยืมในอนาคต เราเลยตกลงจะถือ Lease IT ไม่เกิน 39.5%
ส่วน ITcity เราถือ 31%มานานกว่า 10ปีแล้ว มีคนติดต่อขอซื้อแต่เราไม่ขาย
Q: สอบถามบริษัทมีแผน ขาย Data one ออกหรือไม่ รายได้ค่อนข้าง Flat และกำไรลดลง
A: คุณแจ๊คตอบว่า เศรษฐกิจปีที่แล้ว ชลอตัวลง NPL เพิ่มขึ้น การใช้เงินของธนาคารเริ่ม conservative มากขึ้น
บางโครงการที่จะซื้อเครื่องใหม่ก็ชลอและใช้เครื่องเก่าต่ออีก การแข่งขันธนาคารรุนแรงขึ้น ด้าน E payment , Digital Economy เขาต้องซื้อเทคโนโลยีใหม่ เราเป็นผู้นำ มีโอกาสดีกว่าคนอื่น ส่วนการเข้าตลาดต้องเตรียมความพร้อม ตอนนี้อยู่ระหว่างเตรียมการ
Q: ตลาดไอทีเปลี่ยนแปลงไปมากไหม และ IT city สามารถใช้ศักยภาพด้านสาขาให้ได้มากกว่านี้ไหม
A: 1. IT ชลอทั่วโลก ติดลบ 12 Q ติดต่อกัน สินค้าจะย้ายจาก PC/NB มาเป็น Tablet ปัจจุบันคือ มือถือ
Income structure ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่แนวโน้ม ยังขึ้นกับรัฐบาลด้วย
2. เมื่อก่อนเราทำสินค้าเป็นbrand svoa หลายproduct แต่สู้ economy of scale ของ เจ้าของbrand ไม่ได้
ตอนนี้เราขายสินค้า brand และ ให้เจ้าของbrand โฆษณาให้ เราจะเป็นคนเลือกสินค้าว่ารุ่นไหนดีจาก
Sales field และ การแนะนำของเจ้าของBrand
3. ส่วนเรื่องการบริการหลังการขาย เราเป็น drop pointให้หลายbrand
AIS LAVA ก็มาให้เราบริการ ผ่าน SVOA , IT city
Q: Inventory ปลายปีที่แล้วสูงกว่า ปี 57 เยอะขอทราบเหตุผล
A: มาจาก project กระทรวงศึกษา ซึ่งจะรับรู้รายได้ใน Q415 , Q1 16
จบการประชุม 15.30
วันนี้ ท่านประธาน เธียรชัย ศรีวิจิตร อายุ83ปี ได้ประกาศไม่ต่ออายุตำแหน่ง ประธานกรรมการ และ กรรมการ กับทาง SVOA แต่ทางบริษัท ยังขอให้เป็นประธานกิติมศักด์ต่อ หลังจากท่านเกษียณอายุจากธนาคารกรุงไทยก็มาอยู่ช่วยที่นี่กว่า 20ปี ตอนนี้ท่านอยากไปพักผ่อนบ้างแล้ว ในยามว่าง ก็จะไปออกกำลังปั่นจักรยานในบ้านเป็นประจำ ท่านได้พูดคุยกับผมหลังประชุมว่า หลังเกษียณถ้าไม่ได้หาอะไรทำก็จะห่อเหี่ยว เลยต้องมาเป็นผู้บริหารของSVOA ต้องขอบคุณท่านมากๆครับ นับเป็นแบบอย่างที่ดีในการใช้ชีวิตหลังเกษียณ
ทำให้ผมนึกถึง ศจ ศรีศักดิ์ ที่ยังร่วมงานที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ท่านก็ยังทำงานอยู่ทั้งที่เกษียณมาร่วม20ปีเหมือนกัน
ท่านชอบทำงานมาก งานเยอะเหมือนทำงานปกติเลย ทำให้ผมรู้สึกว่าอายุไม่เป็นอุปสรรคถ้าอยากทำในสิ่งที่เราตั้งเป้าไว้
เอาละมาเข้าเรื่องประชุมกันดีกว่า
คำถามและคำตอบในที่ประชุม
Q: กำไรสุทธิ 124 ล้านบาท กับที่โชว์กำไร/ขาดทุนเบ็ดเสร็จต่างกันอย่างไร
A: เวลาดูกำไรให้ดูที่กำไรสุทธิ ส่วนกำไร/ขาดทุนเบ็ดเสร็จจะไม่บันทึกลงในกำไรขาดทุน แต่จะเข้าไปในส่วนของผู้ถือหุ้น คุณิม แจ๊คมาเพิ่มเติมว่า มาตราฐานบัญชีใหม่ ได้ให้มีการสำรองในส่วนที่พนักงานที่เกษียณและจะต้องชดเชยรายได้ ซึ่งมีนักคณิตศาสตร์มาคำนวณ ว่าต้องตั้งสำรองเท่าไหร่ จะได้ไม่กระทบกับงบกำไรขาดทุนในแต่ละปี
Q:กำไรจากบริษัทลูก 37 ล้านบาท อยากให้แยกว่ามาจากบริษัทใดบ้าง และ เงินกำไรสะสมกว่า 800 ล้านบาท
ขอทราบรายละเอียดว่าไปใช้อะไรบ้าง
A: ดูจากหนังสือรายงานประจำปีหน้า 160
IT City 7 MB
Lease IT 29 MB
เอบิคส์ 249,000 Baht
ส่วนกำไรสะสม 800 กว่าล้านบาท เป็นกำไรที่สะสมมาจากอดีต ที่เหลือจากการตั้งสำรอง และ จ่ายปันผลแล้ว
เราเอามาเป็นทุนสำรองในการค้าขาย ให้เครดิตร้านค้า ลูกค้า เป็น Working capital ส่วนนึงด้วย
Q: คุณสิทธิโชค ถาม จะขอลดส่วนที่เพิ่มค่าตรวจสอบบัญชี 40,000 บาทลงมาได้ไหม
A: คุณมนู ประธานตรวจสอบ แจ้งว่า เราพิจารณาอย่างเหมาะสมแล้ว และได้มีการตรวจสอบเปรียบเทียบจากที่อื่นด้วย
วาระสุดท้าย เรื่องอื่นๆ
Q: ผมสอบถามเองว่า มีข่าวเรื่อง หัวเหว่ยจะมาเข้าซื้อหุ้นบางส่วนของ ไอทีซิตี้ เป็นจริงหรือไม่
A: คุณแจ๊ค แจ้งว่าได้มีการคุยกับหัวเหว่ย ซึ่งทำมือถือแซงหน้าเซี่ยวมี่ไปแล้ว ผู้บริหารไอทีซิตี้สนใจจะนำมาขายเท่านั้น
ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการเข้าซื้อหุ้นแต่อย่างใด
Q: เราเก่งด้านใดบ้าง และ คู่แข่งของเราเป็นใคร
A: คุณแจ๊คตอบว่า เราเป็นเหมือนทศกีฑา คือเราไม่ได้มีคู่แข่งแค่ธุรกิจเดียว เรามีคู่แข่งในแต่ละBusinesss unit
1. Distribution คู่แข่งคือ SIS , Synex
2. System intregrator ด้าน ขาย project :ซึ่ง Dataone ทำอยู่กับธนาคาร คู่แข่งคือ MFEC
แต่ถ้าเป็นงานประมูลราชการ คู่แข่งคือ AIT
3. Retail ITCity คู่แข่งคือ Banana IT ของ COM7 ซึ่งอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และอยู่นอกตลทคือ JIB,Advice
4. แผนกเงินผ่อน Lease IT คู่แข่งมีมากเลย
5. ธุรกิจ After Sales Service คู่แข่ง กับ เป็นบริษัท IT ต่างๆ
ดังนั้นไม่มีบริษัทไหนเหมือนเรา เราจึงได้เปรียบเทียบตัวเองเป็นแชมป์กีฬา ทศกีฑา
Q: น้องวินัย ได้สอบถามว่า SVOA ถือหุ้น Lease ITและ ขายออกจนเหลือ 39.9% ขอทราบเหตุผล
เรามีความคิดที่จะลดสัดส่วนของบริษัทลูกลงอีกไหม
A: กติกาใหม่สำหรับบริษัทแม่ที่จะต้อง consolidate งบบริษัทลูกคือ ถือหุ้นเกิน 40% และพิสูจน์ได้ว่า
มีอำนาจควบคุมบริษัท SVOA ไม่อยากconsol งบบริษัทลูกเพราะทำให้ DE Ratio ผิดเพี้ยนไปส่งผลต่อการกู้ยืมในอนาคต เราเลยตกลงจะถือ Lease IT ไม่เกิน 39.5%
ส่วน ITcity เราถือ 31%มานานกว่า 10ปีแล้ว มีคนติดต่อขอซื้อแต่เราไม่ขาย
Q: สอบถามบริษัทมีแผน ขาย Data one ออกหรือไม่ รายได้ค่อนข้าง Flat และกำไรลดลง
A: คุณแจ๊คตอบว่า เศรษฐกิจปีที่แล้ว ชลอตัวลง NPL เพิ่มขึ้น การใช้เงินของธนาคารเริ่ม conservative มากขึ้น
บางโครงการที่จะซื้อเครื่องใหม่ก็ชลอและใช้เครื่องเก่าต่ออีก การแข่งขันธนาคารรุนแรงขึ้น ด้าน E payment , Digital Economy เขาต้องซื้อเทคโนโลยีใหม่ เราเป็นผู้นำ มีโอกาสดีกว่าคนอื่น ส่วนการเข้าตลาดต้องเตรียมความพร้อม ตอนนี้อยู่ระหว่างเตรียมการ
Q: ตลาดไอทีเปลี่ยนแปลงไปมากไหม และ IT city สามารถใช้ศักยภาพด้านสาขาให้ได้มากกว่านี้ไหม
A: 1. IT ชลอทั่วโลก ติดลบ 12 Q ติดต่อกัน สินค้าจะย้ายจาก PC/NB มาเป็น Tablet ปัจจุบันคือ มือถือ
Income structure ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่แนวโน้ม ยังขึ้นกับรัฐบาลด้วย
2. เมื่อก่อนเราทำสินค้าเป็นbrand svoa หลายproduct แต่สู้ economy of scale ของ เจ้าของbrand ไม่ได้
ตอนนี้เราขายสินค้า brand และ ให้เจ้าของbrand โฆษณาให้ เราจะเป็นคนเลือกสินค้าว่ารุ่นไหนดีจาก
Sales field และ การแนะนำของเจ้าของBrand
3. ส่วนเรื่องการบริการหลังการขาย เราเป็น drop pointให้หลายbrand
AIS LAVA ก็มาให้เราบริการ ผ่าน SVOA , IT city
Q: Inventory ปลายปีที่แล้วสูงกว่า ปี 57 เยอะขอทราบเหตุผล
A: มาจาก project กระทรวงศึกษา ซึ่งจะรับรู้รายได้ใน Q415 , Q1 16
จบการประชุม 15.30
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 18
AGM AIT 8 Apr 16 10.00
คุณศิริพงษ์มาให้ข้อมูลว่า ปีที่แล้ว เป็นปีที่ไม่ปกติ ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ส่งผลต่อไทย
ถึงแม้คสชจะเร่งงานต่างๆ รวมถึง Megaproject หลายโครงการ ปีที่แล้วยังไม่ได้เกิดขึ้นหวังว่า
ปีนี้จะได้อานิสงค์บ้าง เราเลยปรับแผนกลางปีลดเป้าเหลือ 5,000 ล้านบาท ปรากฏว่าผลประกอบการ
เป็นไปตามเป้าหมาย
ด้านการขาย ได้ขยายฐานไปหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น เช่น โรงพยาบาลจุฬา 179 ล้านบาท ,SME, True
การขายเทคโนโลยีใหม่ของ CISCO ( ACI ) ทำให้ชีวิตของลูกค้าสะดวกขึ้น
เราพัฒนา ACI และ ได้รับ Certificated from CISCO เจ้าแรกในไทย
เราขายระบบไปให้ตลาดหลักทรัพย์ และ Inet
การลงทุนในประเทศ เช่น Data center 600 Racks งบ 400 ล้านบาท มีร่วมทุน2ราย และเริ่ม
ได้ใน Q1 60
ขายกิจการ KIRZ เราซื้อมา 100 กว่าล้านบาท และเนื่องจากการสื่อสาร รวมถึง นโยบายไม่สอดคล้องเลย
ขายไป 80 ล้านบาท เราได้กำไรในรูปทางบัญชี เพราะ มูลค่าของกิจการตอนซื้อ 40 ลบ
ต่างประเทศ เป็น project submarine cable รวมถึง ระบบจัดการภาครัฐ (SCI) ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
การปรับองค์ความรู้ จาก smart company ข้ามมาสู่ Digital company
รายได้ในส่วน TOT,CAT ลดลง เรามีฐานลูกค้าอื่นเข้ามา
กำไรขั้นต้น เราตั้งไว้ 22-24% เราได้ 23.7%
กำไรสุทธิ 10.1% ดีมากเมื่อเทียบกับ 3-4 ปีก่อน DE Ratio 0.6 เท่า
Q: อยากทราบกลุ่มเป้าหมายใหม่ในปีนี้
A: เราไม่ทำ Software project ใหญ่ เราถนัดเรื่อง Network , Intregration , โครงสร้างพื้นฐาน ,Network
ปีนี้ ค่อนข้างชัดเจนขึ้น หวังว่า Mega project สื่อสาร Internet หมู่บ้าน ขอให้ออกมาเร็ว มาทัน จะเป็นปีที่ดีมาก
Q: ที่กัมพูชายกเลิกการดำเนินงานใช่ไหม และ มีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ใกล้เราไหม
A: ตอนนี้เราปิดสาขา แต่ support partnerที่นั้น เสนอ โครงการ ทะเบียนราษฎร์และ บัตรประชาชน
ส่วนคู่แข่งรายใหญ่ก็เหลือไม่เกิน 4 ราย นอกตลาดไม่เยอะ
คุณศิริพงษ์มาให้ข้อมูลว่า ปีที่แล้ว เป็นปีที่ไม่ปกติ ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ส่งผลต่อไทย
ถึงแม้คสชจะเร่งงานต่างๆ รวมถึง Megaproject หลายโครงการ ปีที่แล้วยังไม่ได้เกิดขึ้นหวังว่า
ปีนี้จะได้อานิสงค์บ้าง เราเลยปรับแผนกลางปีลดเป้าเหลือ 5,000 ล้านบาท ปรากฏว่าผลประกอบการ
เป็นไปตามเป้าหมาย
ด้านการขาย ได้ขยายฐานไปหาลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น เช่น โรงพยาบาลจุฬา 179 ล้านบาท ,SME, True
การขายเทคโนโลยีใหม่ของ CISCO ( ACI ) ทำให้ชีวิตของลูกค้าสะดวกขึ้น
เราพัฒนา ACI และ ได้รับ Certificated from CISCO เจ้าแรกในไทย
เราขายระบบไปให้ตลาดหลักทรัพย์ และ Inet
การลงทุนในประเทศ เช่น Data center 600 Racks งบ 400 ล้านบาท มีร่วมทุน2ราย และเริ่ม
ได้ใน Q1 60
ขายกิจการ KIRZ เราซื้อมา 100 กว่าล้านบาท และเนื่องจากการสื่อสาร รวมถึง นโยบายไม่สอดคล้องเลย
ขายไป 80 ล้านบาท เราได้กำไรในรูปทางบัญชี เพราะ มูลค่าของกิจการตอนซื้อ 40 ลบ
ต่างประเทศ เป็น project submarine cable รวมถึง ระบบจัดการภาครัฐ (SCI) ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
การปรับองค์ความรู้ จาก smart company ข้ามมาสู่ Digital company
รายได้ในส่วน TOT,CAT ลดลง เรามีฐานลูกค้าอื่นเข้ามา
กำไรขั้นต้น เราตั้งไว้ 22-24% เราได้ 23.7%
กำไรสุทธิ 10.1% ดีมากเมื่อเทียบกับ 3-4 ปีก่อน DE Ratio 0.6 เท่า
Q: อยากทราบกลุ่มเป้าหมายใหม่ในปีนี้
A: เราไม่ทำ Software project ใหญ่ เราถนัดเรื่อง Network , Intregration , โครงสร้างพื้นฐาน ,Network
ปีนี้ ค่อนข้างชัดเจนขึ้น หวังว่า Mega project สื่อสาร Internet หมู่บ้าน ขอให้ออกมาเร็ว มาทัน จะเป็นปีที่ดีมาก
Q: ที่กัมพูชายกเลิกการดำเนินงานใช่ไหม และ มีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ใกล้เราไหม
A: ตอนนี้เราปิดสาขา แต่ support partnerที่นั้น เสนอ โครงการ ทะเบียนราษฎร์และ บัตรประชาชน
ส่วนคู่แข่งรายใหญ่ก็เหลือไม่เกิน 4 ราย นอกตลาดไม่เยอะ
-
- Verified User
- โพสต์: 339
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 19
สรุปการประชุม AGM หุ้น QTC ประจำปี 2016
http://www.dojii.net/2016/04/qtc-agm-y2016.html#more
การเสนอราคาเป็นลักษณะ Cost Plus แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว Margin จากต่างประเทศจะดีกว่าในประเทศเนื่องจากผลของการแข่งขันด้านราคา
ต้นทุนขายปี 2558 สูงกว่าปี 2557 เนื่องจากราคาวัตถุดิบหลักบางประการได้ปรับตัวสูงขึ้น
ลูกหนี้การค้าที่สูงขึ้นมาจากการไฟฟ้าซึ่งอยู่ระหว่างการเก็บเงิน ส่วนภาคเอกชนเป็น Solar Farm ที่ต้องรีบส่งมอบงานก่อนสิ้นปี ปัจจุบันเก็บเงินได้เยอะแล้วเป็นไปตามแผนไม่น่าเป็นห่วง
การร่วมทุนกับ UAC อยู่ระหว่างการศึกษาขนาดโครงการ
หม้อแปลอะโมฟัสต์ได้ดำเนินการแล้วมีการทดลองใช้ประมาณ 2 ปีกำลังเก็บข้อมูล แต่อะโมฟัสต์มีราคาสูงกำลังคิดว่าจะทำยังไงให้การไฟฟ้าทดลองใช้และสั่งซื้อ
OEM ไม่ได้ทำกับฮิตาชิแต่ทำกับแบรนด์อื่นที่เป็นยักษ์ใหญ่ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ปัจจุบันยังคงส่งหม้อแปลงไปขาย
Backlog มีอยู่ประมาณเป็นร้อย ส่วนงานส่งออกคาดว่าจะได้งานใหญ่หลักเป็นร้อย รอความชัดเจนเดือนหน้าเป็น Big Lot ในอเมริกาใต้
เรื่อง Seasonal ของธุรกิจยังคงเหมือนเดิม
หม้อแปลงอะโมฟัสต์เป็นหม้อแปลงที่เปลี่ยนแกนเหล็กจาก Silicon Steel เป็นเหล็กอะโมฟัสต์ ช่วยลดการสูญเสียจาก 100% เหลือเพียง 30% ทำให้ประหยัดพลังงาน แต่ราคาวัตถุดิบแพงขึ้น 1 เท่า
คลิปการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น QTC ประจำปี 2559
http://qtc.listedcompany.com/wp.html/t/vdo/e/agm2016
เอกสารประกอบการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น QTC ประจำปี 2559
http://qtc.listedcompany.com/misc/prese ... gm2016.pdf
http://www.dojii.net/2016/04/qtc-agm-y2016.html#more
การเสนอราคาเป็นลักษณะ Cost Plus แต่เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว Margin จากต่างประเทศจะดีกว่าในประเทศเนื่องจากผลของการแข่งขันด้านราคา
ต้นทุนขายปี 2558 สูงกว่าปี 2557 เนื่องจากราคาวัตถุดิบหลักบางประการได้ปรับตัวสูงขึ้น
ลูกหนี้การค้าที่สูงขึ้นมาจากการไฟฟ้าซึ่งอยู่ระหว่างการเก็บเงิน ส่วนภาคเอกชนเป็น Solar Farm ที่ต้องรีบส่งมอบงานก่อนสิ้นปี ปัจจุบันเก็บเงินได้เยอะแล้วเป็นไปตามแผนไม่น่าเป็นห่วง
การร่วมทุนกับ UAC อยู่ระหว่างการศึกษาขนาดโครงการ
หม้อแปลอะโมฟัสต์ได้ดำเนินการแล้วมีการทดลองใช้ประมาณ 2 ปีกำลังเก็บข้อมูล แต่อะโมฟัสต์มีราคาสูงกำลังคิดว่าจะทำยังไงให้การไฟฟ้าทดลองใช้และสั่งซื้อ
OEM ไม่ได้ทำกับฮิตาชิแต่ทำกับแบรนด์อื่นที่เป็นยักษ์ใหญ่ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ปัจจุบันยังคงส่งหม้อแปลงไปขาย
Backlog มีอยู่ประมาณเป็นร้อย ส่วนงานส่งออกคาดว่าจะได้งานใหญ่หลักเป็นร้อย รอความชัดเจนเดือนหน้าเป็น Big Lot ในอเมริกาใต้
เรื่อง Seasonal ของธุรกิจยังคงเหมือนเดิม
หม้อแปลงอะโมฟัสต์เป็นหม้อแปลงที่เปลี่ยนแกนเหล็กจาก Silicon Steel เป็นเหล็กอะโมฟัสต์ ช่วยลดการสูญเสียจาก 100% เหลือเพียง 30% ทำให้ประหยัดพลังงาน แต่ราคาวัตถุดิบแพงขึ้น 1 เท่า
คลิปการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น QTC ประจำปี 2559
http://qtc.listedcompany.com/wp.html/t/vdo/e/agm2016
เอกสารประกอบการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น QTC ประจำปี 2559
http://qtc.listedcompany.com/misc/prese ... gm2016.pdf
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 843
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 20
AGM TTL 28 มกราคม 2559 เปิดประชุม 14.05 น.
วาระที่ 2.รับทราบรายงานของคณะกรรมการถึงผลการดำเนินกิจการของบริษัทในรอบปีที่ผ่านมา
เมื่อก่อนบริษัทเราอยู่ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ แต่บริษัทได้มีมติยุติการดำเนินการสิ่งทอไปแล้ว ในระหว่างปีเราได้มีการว่าจ้าง
สถาบันนิด้า ได้เข้ามาสำรวจดูความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจ เราพบว่าพื้นที่ของเรา พื้นที่ของเรามีข้อจำกัดหลายอย่าง
ถึงแม้จะมีพื้นที่ 120กว่าไร่ก็ตาม เป็นพื้นที่สีเหลือง ทำให้มีข้อจำกัดในการทำธุรกิจมาก รวมทั้งอยู่ใกล้สนามบิน มีปัญหาถึงเรื่องข้อจำกัดในความสูง การการสำรวจของสถาบันนิด้า สิ่งที่น่าจะทำในพื้นที่ของเราประกอบด้วย
1) ธุรกิจค้าปลีก
2) ธุรกิจ MICE
3) ธุรกิจโรงแรม
4) ธุรกิจโกดังและสำนักงาน
5) ธุรกิจ Edutainment - สวนสนุก , สวนน้ำ
และได้มีการว่าจ้างบริษัทต่างชาติ คือบริษัท ดีทีแซด (ประเทศไทย)ของประเทศสิงคโปร์
1)ธุรกิจค้าปลีก
2) ธุรกิจ MICE
3) ธุรกิจโรงแรม และ Service Apartment
4) Medical Center
5) ให้เช่าที่ดินบางส่วน
Q-เสนอให้ทำสวนสนุกร่วมกับ วอลต์ ดิสนีย์ ไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้ไหม
A-เนื่องจากพื้นที่ของเราอยู่ใกล้กับสนามบิน มีการควบคุมเรื่องความสูง คือจะสร้างได้ไม่เกิน 24 เมตรสวนสนุกต่างๆมันอาจจะมีข้อจำกัด
วาระที่ 3.พิจารณาอนุมัติงบแสดงฐานะการเงินและงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จในรอบปีบัญชีที่ 49 ซึ่งสิ้นสุด ณ. 30 กันยายน 2558
วาระที่ 3.พิจารณาอนุมัติงบแสดงฐานะการเงินและงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จในรอบปีบัญชีที่ 49 ซึ่งสิ้นสุด ณ. 30 กันยายน 2558
วาระที่ 3.พิจารณาอนุมัติงบแสดงฐานะการเงินและงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จในรอบปีบัญชีที่ 49 ซึ่งสิ้นสุด ณ. 30 กันยายน 2558
เงินสดเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้มีการนำเงินลงทุนชั่วคราวมาแสดงในรายการนี้ด้วย
เงินลงทุนชั่วคราวลดลงเนื่องจากมีการจ่ายเงินปันผล
สินค้าคงเหลือไม่มีแล้ว เพราะบริษัทได้ขายออกไปหมด
ที่ดินที่จังหวัด ปทุมธานี ได้ขายให้กับบริษัท JSP ไปแล้ว ได้จดทะเบียนขายไปจริงๆในเดือน พฤศจิกายน 2558 รายการนี้จะไปปรากฏในงบของปีถัดไปในปี 2559
หนี้สินที่เพิ่ม มาจากสัญญาจะซื้อจะขายกับบริษัท JSP เป็นแปลงที่ปทุมธานี จำนวนทั้งสิ้น 680ล้านบาท JSPได้วางเงินมัดจำไว้
Q-บริษัท วิทยาคม ในงบได้หายไป
A-บริษัท วิทยาคม เป็นบริษัทในฐานะล้มละลาย เราได้ตั้งค่าเผื่อไว้ 100%อยู่แล้ว แต่ว่าในรอบปีบัญชีนี้บริษัทมองว่าคงไม่ได้รับคืน
เลยมีมติให้ตัดออก ได้มีการตัดจำหน่ายให้ออกไปจากบัญชีแล้วค่ะ
Q-เงินลงทุนของบริษัทร่วม ที่ลดลง ด้อยค่าไป 4แสน เป็นของบริษัทที่ทำธุรกิจอะไรครับ
A-เป็นบริษัททำธุรกิจนำเข้ากระเป๋า ยังดำเนินธุรกิจอยู่ เป็นเงินลงทุนในบริษัทร่วม บริษัทจะไปรับรู้ในส่วนของผลกำไรขาดทุน
ของบริษัทมาตามสัดส่วนที่เราถือหุ้นอยู่ TTLถือหุ้นอยู่ 45%
วาระที่ 8.พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
Q- 1)จากวาระที่ 2 ที่ท่านประธานได้มีการบอกกล่าวในที่ประชุม ได้ให้สถาบันนิด้ากับทางบริษัทของสิงคโปร์ มาประเมินว่าสามารถทำอะไรบ้างนั้น เพราะบริษัทของเราเป็น Cash Company ก็อยากจะเรียนถามท่านประธานว่า ท่านประธานได้มองว่าบริษัทของเราจะก้าวเดินไปในทางไหนบ้าง
2)..จากวาระที่ 6 การเลือกตั้งแต่งตั้งคณะกรรมการ อยากให้ทางบริษัทกำหนดเลือกเป็นรายบุคคล เพราะถ้ากำหนด
ให้เลือกครั้งเดียวทีละ 3ท่าน มองว่าจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ค่ะ ขอเรียนท่านประธานค่ะ ขอบคุณค่ะ
A- คณะกรรมการบริษัทของเราได้มีการหารือตลอดเวลา ว่าเราจะทำกิจกรรมอะไร ขณะนี้เรากำลังดูอยู่ และเจรจากับผู้สนใจมาลงทุน
และหลายรายก็เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มอง Parking สถานที่จอดรถ จอดรถได้เท่าไหร่ ทางเข้าออกเป็นยังไง
จะเห็นในปีนี้ ว่าเป็นรูปเป็นร่าง บริษัทที่เราติดต่ออยู่ก็กำลังอยู่ระหว่างออกแบบ ผมคิดว่าในปีนี้ก็คงจะก้าวหน้าไปได้มาก
ส่วนคำถามที่ 2ก็ รับไว้พิจารณา
Q-1)ขณะนี้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยมีกี่ % และสถาบันยังถืออยู่ไหม 2)ที่ดินที่เรามีอยู่เยอะๆที่ปราจีน ดีลและให้เค้าเช่า ทำพืชพลังงาน
แต่อย่าทำเองนะ
A-รายงานการกระจายหุ้น ณ 30 กันยายน 2558 ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ถือต่ำกว่า 0.05% มีทั้งหมด 824 ราย คิดเป็น 11.14%ของ 15ล้านหุ้น
สถาบัน ไม่มีค่ะ (ไม่ได้ถือ)
ปิดประชุมเวลา 15.22 น.
วาระที่ 2.รับทราบรายงานของคณะกรรมการถึงผลการดำเนินกิจการของบริษัทในรอบปีที่ผ่านมา
เมื่อก่อนบริษัทเราอยู่ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ แต่บริษัทได้มีมติยุติการดำเนินการสิ่งทอไปแล้ว ในระหว่างปีเราได้มีการว่าจ้าง
สถาบันนิด้า ได้เข้ามาสำรวจดูความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจ เราพบว่าพื้นที่ของเรา พื้นที่ของเรามีข้อจำกัดหลายอย่าง
ถึงแม้จะมีพื้นที่ 120กว่าไร่ก็ตาม เป็นพื้นที่สีเหลือง ทำให้มีข้อจำกัดในการทำธุรกิจมาก รวมทั้งอยู่ใกล้สนามบิน มีปัญหาถึงเรื่องข้อจำกัดในความสูง การการสำรวจของสถาบันนิด้า สิ่งที่น่าจะทำในพื้นที่ของเราประกอบด้วย
1) ธุรกิจค้าปลีก
2) ธุรกิจ MICE
3) ธุรกิจโรงแรม
4) ธุรกิจโกดังและสำนักงาน
5) ธุรกิจ Edutainment - สวนสนุก , สวนน้ำ
และได้มีการว่าจ้างบริษัทต่างชาติ คือบริษัท ดีทีแซด (ประเทศไทย)ของประเทศสิงคโปร์
1)ธุรกิจค้าปลีก
2) ธุรกิจ MICE
3) ธุรกิจโรงแรม และ Service Apartment
4) Medical Center
5) ให้เช่าที่ดินบางส่วน
Q-เสนอให้ทำสวนสนุกร่วมกับ วอลต์ ดิสนีย์ ไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้ไหม
A-เนื่องจากพื้นที่ของเราอยู่ใกล้กับสนามบิน มีการควบคุมเรื่องความสูง คือจะสร้างได้ไม่เกิน 24 เมตรสวนสนุกต่างๆมันอาจจะมีข้อจำกัด
วาระที่ 3.พิจารณาอนุมัติงบแสดงฐานะการเงินและงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จในรอบปีบัญชีที่ 49 ซึ่งสิ้นสุด ณ. 30 กันยายน 2558
วาระที่ 3.พิจารณาอนุมัติงบแสดงฐานะการเงินและงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จในรอบปีบัญชีที่ 49 ซึ่งสิ้นสุด ณ. 30 กันยายน 2558
วาระที่ 3.พิจารณาอนุมัติงบแสดงฐานะการเงินและงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จในรอบปีบัญชีที่ 49 ซึ่งสิ้นสุด ณ. 30 กันยายน 2558
เงินสดเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้มีการนำเงินลงทุนชั่วคราวมาแสดงในรายการนี้ด้วย
เงินลงทุนชั่วคราวลดลงเนื่องจากมีการจ่ายเงินปันผล
สินค้าคงเหลือไม่มีแล้ว เพราะบริษัทได้ขายออกไปหมด
ที่ดินที่จังหวัด ปทุมธานี ได้ขายให้กับบริษัท JSP ไปแล้ว ได้จดทะเบียนขายไปจริงๆในเดือน พฤศจิกายน 2558 รายการนี้จะไปปรากฏในงบของปีถัดไปในปี 2559
หนี้สินที่เพิ่ม มาจากสัญญาจะซื้อจะขายกับบริษัท JSP เป็นแปลงที่ปทุมธานี จำนวนทั้งสิ้น 680ล้านบาท JSPได้วางเงินมัดจำไว้
Q-บริษัท วิทยาคม ในงบได้หายไป
A-บริษัท วิทยาคม เป็นบริษัทในฐานะล้มละลาย เราได้ตั้งค่าเผื่อไว้ 100%อยู่แล้ว แต่ว่าในรอบปีบัญชีนี้บริษัทมองว่าคงไม่ได้รับคืน
เลยมีมติให้ตัดออก ได้มีการตัดจำหน่ายให้ออกไปจากบัญชีแล้วค่ะ
Q-เงินลงทุนของบริษัทร่วม ที่ลดลง ด้อยค่าไป 4แสน เป็นของบริษัทที่ทำธุรกิจอะไรครับ
A-เป็นบริษัททำธุรกิจนำเข้ากระเป๋า ยังดำเนินธุรกิจอยู่ เป็นเงินลงทุนในบริษัทร่วม บริษัทจะไปรับรู้ในส่วนของผลกำไรขาดทุน
ของบริษัทมาตามสัดส่วนที่เราถือหุ้นอยู่ TTLถือหุ้นอยู่ 45%
วาระที่ 8.พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
Q- 1)จากวาระที่ 2 ที่ท่านประธานได้มีการบอกกล่าวในที่ประชุม ได้ให้สถาบันนิด้ากับทางบริษัทของสิงคโปร์ มาประเมินว่าสามารถทำอะไรบ้างนั้น เพราะบริษัทของเราเป็น Cash Company ก็อยากจะเรียนถามท่านประธานว่า ท่านประธานได้มองว่าบริษัทของเราจะก้าวเดินไปในทางไหนบ้าง
2)..จากวาระที่ 6 การเลือกตั้งแต่งตั้งคณะกรรมการ อยากให้ทางบริษัทกำหนดเลือกเป็นรายบุคคล เพราะถ้ากำหนด
ให้เลือกครั้งเดียวทีละ 3ท่าน มองว่าจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ค่ะ ขอเรียนท่านประธานค่ะ ขอบคุณค่ะ
A- คณะกรรมการบริษัทของเราได้มีการหารือตลอดเวลา ว่าเราจะทำกิจกรรมอะไร ขณะนี้เรากำลังดูอยู่ และเจรจากับผู้สนใจมาลงทุน
และหลายรายก็เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ มอง Parking สถานที่จอดรถ จอดรถได้เท่าไหร่ ทางเข้าออกเป็นยังไง
จะเห็นในปีนี้ ว่าเป็นรูปเป็นร่าง บริษัทที่เราติดต่ออยู่ก็กำลังอยู่ระหว่างออกแบบ ผมคิดว่าในปีนี้ก็คงจะก้าวหน้าไปได้มาก
ส่วนคำถามที่ 2ก็ รับไว้พิจารณา
Q-1)ขณะนี้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยมีกี่ % และสถาบันยังถืออยู่ไหม 2)ที่ดินที่เรามีอยู่เยอะๆที่ปราจีน ดีลและให้เค้าเช่า ทำพืชพลังงาน
แต่อย่าทำเองนะ
A-รายงานการกระจายหุ้น ณ 30 กันยายน 2558 ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ถือต่ำกว่า 0.05% มีทั้งหมด 824 ราย คิดเป็น 11.14%ของ 15ล้านหุ้น
สถาบัน ไม่มีค่ะ (ไม่ได้ถือ)
ปิดประชุมเวลา 15.22 น.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 843
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 21
AGM TSC 26 มกราคม 2559 เปิดประชุม 10.00 น.
วาระที่ 2 รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทประจำปี 2558
ยอดผลิตรถยนต์ปี 2015 คาดน่าจะผลิตได้ 2ล้านคัน แต่ผลิตได้จริง 1.93ล้านคันซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมยังไม่แจ้งอย่างเป็นทางการ
ลดลงกว่าปีที่แล้วแต่ไม่มาก ไม่เป็นไปตามเป้า
ส่วนจักรยานยนต์มีการผลิตอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน ซึ่งก็ลดลงจากเป้า
ในปี 2015 สภาอุตสาหกรรมคาดการณ์จะผลิตอยู่ที่ 2ล้านคัน ส่วนจักรยานยนต์ก็ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
ในปีที่ผ่านมาสัดส่วนของยอด TOYOTA ลดลง ทางบริษัทได้รับยอดของ NISSAN เป็น Order ใหม่
บริษัทได้เข้าร่วมแนวร่วมโครงการต่อต้านคอรัปชั่นอยู่ในขั้นตอนการเข้ารับเป็นสมาชิก จากปีที่แล้วเราไม่ได้เข้าร่วมการประกาศเจตนารมณ์ ขอยื่นการรับรองการเป็นสมาชิกในโครงการ เราได้รับการรับรองอยู่ใน ลำดับที่ 474 เมื่อ 26 พ.ค. 2558
อยู่ระหว่างการจัดทำแบบประเมินตนเองส่งให้กับทาง IOD คาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนงานของ IOD ที่กำหนดไว้
เป็นวาระแจ้งเพื่อทราบไม่มีการขอมติ
วาระที่ 3 พิจารณาอนุมัติงบดุลและงบกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558
อัตรากำไรขั้นต้นของปี 2558 ต่ำกว่าปี 2557 เนื่องจาก ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นมากกว่าสัดส่วนของยอดขาย
ROE ในปี2558 สูงกว่าปี2557 เนื่องจากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อัตราหนี้สินต่อทุน เพิ่มขึ้น เนื่องจาก บริษัทได้มีการกู้ยืมระยะสั้นกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
รายได้จากการขายในปี 2558 เพิ่มขึ้น 3.52%
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 14.5% เกิดจากบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้และมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น
วาระที่ 8..พิจารณาเรื่องอื่นๆ(ถ้ามี)
เป้าหมายที่ทางภาครัฐตั้งไว้ 3 ล้านคัน เป็นเหมือนจุดเช็ค point ทางบริษัทรถยนต์ยังใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออก
อย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น ECO Car 2 อย่างโครงการที่ 1 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่ก่อนรถมอเตอร์ไซค์เปลี่ยนมาเป็น
รถมอเตอร์ไซค์ราคาสูง Big Bike จะเป็นตัวที่เราผลิตและส่งออกมาในอนาคต บริษัท HONDA ก็ได้เปิดโรงงานที่ปราจีนบุรี
และทำการผลิตแล้ว.และมีแผนจะสร้างสนามทดสอบยานยนต์ มีการทำ R&D
ทางบริษัท FORD บอกว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตถึง 70%. ผลิตรถกระบะ มองว่ามีการเติบโต มีการสร้าง Warehouse
ทางบริษัท TSC มีการวิจัยเอาพลาสติกมาแทนเหล็ก
ปิดประชุม 11.50 น
วาระที่ 2 รับทราบรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทประจำปี 2558
ยอดผลิตรถยนต์ปี 2015 คาดน่าจะผลิตได้ 2ล้านคัน แต่ผลิตได้จริง 1.93ล้านคันซึ่งทางสภาอุตสาหกรรมยังไม่แจ้งอย่างเป็นทางการ
ลดลงกว่าปีที่แล้วแต่ไม่มาก ไม่เป็นไปตามเป้า
ส่วนจักรยานยนต์มีการผลิตอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน ซึ่งก็ลดลงจากเป้า
ในปี 2015 สภาอุตสาหกรรมคาดการณ์จะผลิตอยู่ที่ 2ล้านคัน ส่วนจักรยานยนต์ก็ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
ในปีที่ผ่านมาสัดส่วนของยอด TOYOTA ลดลง ทางบริษัทได้รับยอดของ NISSAN เป็น Order ใหม่
บริษัทได้เข้าร่วมแนวร่วมโครงการต่อต้านคอรัปชั่นอยู่ในขั้นตอนการเข้ารับเป็นสมาชิก จากปีที่แล้วเราไม่ได้เข้าร่วมการประกาศเจตนารมณ์ ขอยื่นการรับรองการเป็นสมาชิกในโครงการ เราได้รับการรับรองอยู่ใน ลำดับที่ 474 เมื่อ 26 พ.ค. 2558
อยู่ระหว่างการจัดทำแบบประเมินตนเองส่งให้กับทาง IOD คาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนงานของ IOD ที่กำหนดไว้
เป็นวาระแจ้งเพื่อทราบไม่มีการขอมติ
วาระที่ 3 พิจารณาอนุมัติงบดุลและงบกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558
อัตรากำไรขั้นต้นของปี 2558 ต่ำกว่าปี 2557 เนื่องจาก ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นมากกว่าสัดส่วนของยอดขาย
ROE ในปี2558 สูงกว่าปี2557 เนื่องจากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
อัตราหนี้สินต่อทุน เพิ่มขึ้น เนื่องจาก บริษัทได้มีการกู้ยืมระยะสั้นกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
รายได้จากการขายในปี 2558 เพิ่มขึ้น 3.52%
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 14.5% เกิดจากบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้และมีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น
วาระที่ 8..พิจารณาเรื่องอื่นๆ(ถ้ามี)
เป้าหมายที่ทางภาครัฐตั้งไว้ 3 ล้านคัน เป็นเหมือนจุดเช็ค point ทางบริษัทรถยนต์ยังใช้ไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออก
อย่างต่อเนื่อง อย่างเช่น ECO Car 2 อย่างโครงการที่ 1 ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่ก่อนรถมอเตอร์ไซค์เปลี่ยนมาเป็น
รถมอเตอร์ไซค์ราคาสูง Big Bike จะเป็นตัวที่เราผลิตและส่งออกมาในอนาคต บริษัท HONDA ก็ได้เปิดโรงงานที่ปราจีนบุรี
และทำการผลิตแล้ว.และมีแผนจะสร้างสนามทดสอบยานยนต์ มีการทำ R&D
ทางบริษัท FORD บอกว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตถึง 70%. ผลิตรถกระบะ มองว่ามีการเติบโต มีการสร้าง Warehouse
ทางบริษัท TSC มีการวิจัยเอาพลาสติกมาแทนเหล็ก
ปิดประชุม 11.50 น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 843
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 22
AGM SMPC 30 มีนาคม 2559
เปิดประชุม 14.10 น.
วาระที่ 3 คณะกรรมการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทประจำปี2558
บริษัทมียอดขายลดลง ลดจากราคาวัตถุดิบทำให้ต้องปรับราคาขายลงมา
กำไรขั้นต้นเพิ่ม เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายต่อหน่วยลดลง
ค่าใช้จ่ายขายลดลง จากค่าใช้จ่ายส่งเสริมและค่าขนส่งลดลง
กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 5.5 ล้านใบ ไปเป็น 6.2 ล้านใบ
เป็นถัง 2ส่วน 85% ถัง 3 ส่วน 15 %
ปี 2558 มีการขยายการลงทุนในเครื่องจักร และปรับปรุงเครื่องจักร กำลังการผลิตเพิ่มได้อีก
5 แสนใบ เป็นกำลังการผลิต 6.7 ล้านใบ
วาระที่ 6 พิจารณาอนุมัติการจ่ายปันผล สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2558
Q- บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า ร้อยละ 60 ของกำไรสุทธิประจำปี แต่บริษัทจ่ายจริงเพียง 52% ขอทราบเหตุผลด้วยค่ะ
A-ที่จ่ายเงินปันผลต่ำกว่า 60% เพราะได้กันกำไรเป็นเงินสำรองตามกฎหมายก่อน
วาระที่ 9 พิจารณาแต่งตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทนประจำปี 2559
Q-การขึ้นค่าสอบบัญชี ขอทางกรรมการช่วยยืนยันด้วยครับ
A-ทางคณะกรรมการตรวจสอบได้ดู ตรวจเช็คข้อมูลกับทางบริษัทอื่น ยืนยันว่าสมเหตุสมผล
Q-ค่าตรวจสอบแพงขึ้น 19.8% ?
A-เมื่อก่อนทางผู้สอบช่วยคิดราคาต่ำ บริษัทเพิ่งฟื้นมาในปีนี้ในปี2558-2559 เรามีการขยายกำลังการผลิตกับมาตรฐานบัญชีที่เปลี่ยน
วาระที่ 11 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
Q- 1. ความคืบหน้าของกรณีพิพาท มีความคืบหน้าและผลกระทบกับบริษัทยังไงบ้าง
2.นโยบายจ่ายปันผล ขอฝากบริษัทไปพิจารณา เรื่องการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 60% ของกำไรสุทธิ
A- กรณีพิพาทยังไม่ยุติ ได้เลื่อนไปเดือนเมษายน เราได้ขอใบ รง 4 ผ่าน ไม่มีผลกระทบ
Q-บริษัทประมาณได้ไหมว่า ปี 2559-2560 อัตราการผลิตจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่
A-กำลังการผลิต ปี 59 ตั้งเป้าโต 15% ปี 2560 กำลังการผลิตจะเต็ม 100% และมีการหารือกันหลายๆทาง ว่าจะปรับปรุงเครื่องจักร
หรือสร้างโรงงาน
Q-บริษัทมีโอกาสเติบโตใน CLMV ไหม
A-ก็เริ่มขยายไปใน CLMV แต่ยังไม่ได้เติบโตแบบก้าวกระโดดมาก
Q- รายงานประจำปี 2558 ในหน้า 78 บริษัทได้ประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านคอร์รัปชั่น กับCAC ขอเรียนถามว่าปัจจุบันบริษัทเราอยู่ในขั้นตอนไหน และจะได้รับการรับรองเมื่อใด ขอบคุณค่ะ
A- บริษัทได้ประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านคอร์รัปชั่น กับCAC ประมาณไตรมาส 2ทางCACจะเข้ามาตรวจ และคาดว่าจะได้รับการรับรองประมาณไตรมาส2
ปิดประชุม 16.00 น. หลังปิดประชุม ทางบริษัทมีพาเดินเยี่ยมชมโรงงานด้วยค่ะ
เปิดประชุม 14.10 น.
วาระที่ 3 คณะกรรมการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทประจำปี2558
บริษัทมียอดขายลดลง ลดจากราคาวัตถุดิบทำให้ต้องปรับราคาขายลงมา
กำไรขั้นต้นเพิ่ม เนื่องจาก ค่าใช้จ่ายต่อหน่วยลดลง
ค่าใช้จ่ายขายลดลง จากค่าใช้จ่ายส่งเสริมและค่าขนส่งลดลง
กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 5.5 ล้านใบ ไปเป็น 6.2 ล้านใบ
เป็นถัง 2ส่วน 85% ถัง 3 ส่วน 15 %
ปี 2558 มีการขยายการลงทุนในเครื่องจักร และปรับปรุงเครื่องจักร กำลังการผลิตเพิ่มได้อีก
5 แสนใบ เป็นกำลังการผลิต 6.7 ล้านใบ
วาระที่ 6 พิจารณาอนุมัติการจ่ายปันผล สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2558
Q- บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า ร้อยละ 60 ของกำไรสุทธิประจำปี แต่บริษัทจ่ายจริงเพียง 52% ขอทราบเหตุผลด้วยค่ะ
A-ที่จ่ายเงินปันผลต่ำกว่า 60% เพราะได้กันกำไรเป็นเงินสำรองตามกฎหมายก่อน
วาระที่ 9 พิจารณาแต่งตั้งผู้สอบบัญชีและกำหนดค่าตอบแทนประจำปี 2559
Q-การขึ้นค่าสอบบัญชี ขอทางกรรมการช่วยยืนยันด้วยครับ
A-ทางคณะกรรมการตรวจสอบได้ดู ตรวจเช็คข้อมูลกับทางบริษัทอื่น ยืนยันว่าสมเหตุสมผล
Q-ค่าตรวจสอบแพงขึ้น 19.8% ?
A-เมื่อก่อนทางผู้สอบช่วยคิดราคาต่ำ บริษัทเพิ่งฟื้นมาในปีนี้ในปี2558-2559 เรามีการขยายกำลังการผลิตกับมาตรฐานบัญชีที่เปลี่ยน
วาระที่ 11 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
Q- 1. ความคืบหน้าของกรณีพิพาท มีความคืบหน้าและผลกระทบกับบริษัทยังไงบ้าง
2.นโยบายจ่ายปันผล ขอฝากบริษัทไปพิจารณา เรื่องการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 60% ของกำไรสุทธิ
A- กรณีพิพาทยังไม่ยุติ ได้เลื่อนไปเดือนเมษายน เราได้ขอใบ รง 4 ผ่าน ไม่มีผลกระทบ
Q-บริษัทประมาณได้ไหมว่า ปี 2559-2560 อัตราการผลิตจะเพิ่มเป็นเท่าไหร่
A-กำลังการผลิต ปี 59 ตั้งเป้าโต 15% ปี 2560 กำลังการผลิตจะเต็ม 100% และมีการหารือกันหลายๆทาง ว่าจะปรับปรุงเครื่องจักร
หรือสร้างโรงงาน
Q-บริษัทมีโอกาสเติบโตใน CLMV ไหม
A-ก็เริ่มขยายไปใน CLMV แต่ยังไม่ได้เติบโตแบบก้าวกระโดดมาก
Q- รายงานประจำปี 2558 ในหน้า 78 บริษัทได้ประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านคอร์รัปชั่น กับCAC ขอเรียนถามว่าปัจจุบันบริษัทเราอยู่ในขั้นตอนไหน และจะได้รับการรับรองเมื่อใด ขอบคุณค่ะ
A- บริษัทได้ประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านคอร์รัปชั่น กับCAC ประมาณไตรมาส 2ทางCACจะเข้ามาตรวจ และคาดว่าจะได้รับการรับรองประมาณไตรมาส2
ปิดประชุม 16.00 น. หลังปิดประชุม ทางบริษัทมีพาเดินเยี่ยมชมโรงงานด้วยค่ะ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 843
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 23
AGM Gcap 7 เมษายน 2559 เปิดประชุม 14.00 น
ปี 2558 ภาคการเกษตรประสบปัญหาภัยแล้ง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้ผลกำไรของบริษัทลดลงจากปี 57 ร้อยละ 7
บริษัทได้ปรับตัว ได้ขยายไปใน สินค้าพืชไร่มากขึ้น , ขยายไปในสินเชื่อส่วนบุคคล
และนาโนไฟแนนซ์
1 ธ.ค.58 ได้เริ่มประกอบสินเชื่อส่วนบุคคล (บริษัทใช้ชื่อว่า "สินเชื่อ สบายใจ กู้ง่าย ผ่อนสบาย)
22 มี.ค.59 ได้ประกอบสินเชื่อ นาโนไฟแนนซ์
สินเชื่อส่วนบุคคลจะเป้นการปล่อยให้กับพนักงาน, คู่ค้า,พันธมิตร เป็นสินเชื่อกึ่งสวัสดิการ
สินเชื่อให้ไม่เกิน 5เท่าของรายได้พนักงานเงินเดือน
วงเงินปล่อยกู้ ขั้นต่ำ 30,000 ไม่เกิน 500,000 บาท และจะแค๊ปวงเงินยอดผ่อนชำระต่อเดือนต้องไม่เกิน 30%ต่อรายได้ และจะแถมประกันชีวิตให้กับผู้กู้ทุกราย เพื่อป้องกันวงเงินกู้ (โดยใช้บริการของทิพยประกันภัย) ได้รับการตอบรับที่ดี เป็นการกู้ไปเพื่อปิดหนี้บัตรเครดิตและปิดหนี้นอกระบบ
บริษัทคิดดอกเบี้ย 15% โดยหักจากเงินเดือนของพนักงานที่เป้นลูกค้า
สินเชื่นนาโนไฟแนนซ์ ตอนนี้อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์
สินเชื่อนาโนและสินเชื่อส่วนบุคคล บริษัทตั้งประมาณการไว้ 100 ล้าน
ถ้าได้รับการตอบรับดีก็ขยายสินเชื่อได้
บริษัทเชื่อว่า ครึ่งปีหลังมองว่าภัยแล้งจะหมดไปจากปรากฎการณ์ ลานินญ่า คาดจะมีฝนตก ทำให้สถานการณ์จะดีขึ้น
รายได้ 90 % มาจากรถเกี่ยวนวดข้าว ถ้าจะให้มั่นคง ก็ต้องมีรายได้หลัก 3 ทาง
1.รายได้เช่าซื่อเครื่องจักรกลการเกษตร ที่เกี่ยวกับนาข้าว ใช้น้ำเยอะ
2. รายได้จากเครื่องจักรกลการเกษตร ที่ใช้น้ำน้อย พืชไร่
3. สินเชื่อส่วนบุคคล+สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์
เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
ปี 2558 ภาคการเกษตรประสบปัญหาภัยแล้ง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้ผลกำไรของบริษัทลดลงจากปี 57 ร้อยละ 7
บริษัทได้ปรับตัว ได้ขยายไปใน สินค้าพืชไร่มากขึ้น , ขยายไปในสินเชื่อส่วนบุคคล
และนาโนไฟแนนซ์
1 ธ.ค.58 ได้เริ่มประกอบสินเชื่อส่วนบุคคล (บริษัทใช้ชื่อว่า "สินเชื่อ สบายใจ กู้ง่าย ผ่อนสบาย)
22 มี.ค.59 ได้ประกอบสินเชื่อ นาโนไฟแนนซ์
สินเชื่อส่วนบุคคลจะเป้นการปล่อยให้กับพนักงาน, คู่ค้า,พันธมิตร เป็นสินเชื่อกึ่งสวัสดิการ
สินเชื่อให้ไม่เกิน 5เท่าของรายได้พนักงานเงินเดือน
วงเงินปล่อยกู้ ขั้นต่ำ 30,000 ไม่เกิน 500,000 บาท และจะแค๊ปวงเงินยอดผ่อนชำระต่อเดือนต้องไม่เกิน 30%ต่อรายได้ และจะแถมประกันชีวิตให้กับผู้กู้ทุกราย เพื่อป้องกันวงเงินกู้ (โดยใช้บริการของทิพยประกันภัย) ได้รับการตอบรับที่ดี เป็นการกู้ไปเพื่อปิดหนี้บัตรเครดิตและปิดหนี้นอกระบบ
บริษัทคิดดอกเบี้ย 15% โดยหักจากเงินเดือนของพนักงานที่เป้นลูกค้า
สินเชื่นนาโนไฟแนนซ์ ตอนนี้อยู่ระหว่างประชาสัมพันธ์
สินเชื่อนาโนและสินเชื่อส่วนบุคคล บริษัทตั้งประมาณการไว้ 100 ล้าน
ถ้าได้รับการตอบรับดีก็ขยายสินเชื่อได้
บริษัทเชื่อว่า ครึ่งปีหลังมองว่าภัยแล้งจะหมดไปจากปรากฎการณ์ ลานินญ่า คาดจะมีฝนตก ทำให้สถานการณ์จะดีขึ้น
รายได้ 90 % มาจากรถเกี่ยวนวดข้าว ถ้าจะให้มั่นคง ก็ต้องมีรายได้หลัก 3 ทาง
1.รายได้เช่าซื่อเครื่องจักรกลการเกษตร ที่เกี่ยวกับนาข้าว ใช้น้ำเยอะ
2. รายได้จากเครื่องจักรกลการเกษตร ที่ใช้น้ำน้อย พืชไร่
3. สินเชื่อส่วนบุคคล+สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์
เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 843
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 24
AGM MEGA 11 เมษายน 2559 เปิดประชุม 10.00 น.
วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(CEO) แจ้งให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นทราบ
คุณวิเวก ปีที่แล้วเราได้ผลงานดียอดขายเราเพิ่มขึ้น 10 กว่า % รายได้ 7,945 ล้านบาท
Gross Profit เราก็ได้ 3,406 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ค้าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น 7.6%
กำไรสุทธิเราได้ 696 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%
ต้นปี 2015 บริษัท ลงทุนไป 174 ล้านบาท เพื่อพัฒนากำลังการผลิต
ในอนาคต MEGA เข้าไปลงทุนในประเทศกำลังพัฒนา พม่า,เวียดนาม,กัมพูชา,ไทย
รายได้ประมาณ 70 กว่า% ของยอดขายมาจากประเทศใน CLMV
มองว่าเรายังขยายได้อีกเยอะใน 2 ธุรกิจ หลักๆ
ภายใต้แบรนด์ Mega We Care
1.ยาที่จ่ายตามใบสั่งแพทย์,ยารักษาโรค
2.ยาที่สามัญที่เราไปซื้อในร้านยา
3.ยาเพื่อสุขภาพ,อาหารเสริม
เศรษฐกิจก็ยังมีปัญหาอยู่ในหลายๆประเทศ ทั้งแอฟริกา,ยูเครน เจอปัญหาในปีที่ผ่านมา
แต่ยอดขายส่วนใหญ่ของเราอยู่ในเอเซีย ,southeast asia ,เวียดนาม ,พม่า ,ไทย
ปี2559 เราคาดหวังว่ายอดขายเราจะเพิ่มได้ 5-10%
new product อยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียน 59 product
ประมาณ 40 product อยู่ภายใต้ยาเพื่อสุขภาพ
39 product อยู่ภายใต้หมอจ่าย
ยารักษาโรค,ยาสามัญอีก 6 product
- บริษัทได้มีการคุยกันลงทุนเพิ่มในประเทศพม่า ในพม่าเราอยุ่มาแล้ว 20 กว่าปี
มีแผนจะลงทุนในประเทศพม่า จะสร้าง distributor อยุ่ในระหว่างการพิจารณาหาที่
ลงทุนในพม่าประมาณ 540 ล้านบาท
- บริษัทมีซื้อที่ดินติดกับโรงงานที่บางปู 17.2 ไร่ กรรมการอนุญาติให้ซื้อ ลงทุนไป 160 ล้านบาท และที่ดินที่บริษัทเคยซื้อมา 28 ไร่ กำลังจะขายออกอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
- เรากำลังพ้ฒนา center ที่มวกเหล็ก ลงทุนสร้างศูนย์สุขภาพ Lifestyle
เป็นการรักษาทางเลือก ลงทุนไป 120 ล้านบาท
บริษัทคาดเติบโต 2 เท่า ใน 5 ปี ข้างหน้า
วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร(CEO) แจ้งให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นทราบ
คุณวิเวก ปีที่แล้วเราได้ผลงานดียอดขายเราเพิ่มขึ้น 10 กว่า % รายได้ 7,945 ล้านบาท
Gross Profit เราก็ได้ 3,406 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ค้าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น 7.6%
กำไรสุทธิเราได้ 696 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%
ต้นปี 2015 บริษัท ลงทุนไป 174 ล้านบาท เพื่อพัฒนากำลังการผลิต
ในอนาคต MEGA เข้าไปลงทุนในประเทศกำลังพัฒนา พม่า,เวียดนาม,กัมพูชา,ไทย
รายได้ประมาณ 70 กว่า% ของยอดขายมาจากประเทศใน CLMV
มองว่าเรายังขยายได้อีกเยอะใน 2 ธุรกิจ หลักๆ
ภายใต้แบรนด์ Mega We Care
1.ยาที่จ่ายตามใบสั่งแพทย์,ยารักษาโรค
2.ยาที่สามัญที่เราไปซื้อในร้านยา
3.ยาเพื่อสุขภาพ,อาหารเสริม
เศรษฐกิจก็ยังมีปัญหาอยู่ในหลายๆประเทศ ทั้งแอฟริกา,ยูเครน เจอปัญหาในปีที่ผ่านมา
แต่ยอดขายส่วนใหญ่ของเราอยู่ในเอเซีย ,southeast asia ,เวียดนาม ,พม่า ,ไทย
ปี2559 เราคาดหวังว่ายอดขายเราจะเพิ่มได้ 5-10%
new product อยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียน 59 product
ประมาณ 40 product อยู่ภายใต้ยาเพื่อสุขภาพ
39 product อยู่ภายใต้หมอจ่าย
ยารักษาโรค,ยาสามัญอีก 6 product
- บริษัทได้มีการคุยกันลงทุนเพิ่มในประเทศพม่า ในพม่าเราอยุ่มาแล้ว 20 กว่าปี
มีแผนจะลงทุนในประเทศพม่า จะสร้าง distributor อยุ่ในระหว่างการพิจารณาหาที่
ลงทุนในพม่าประมาณ 540 ล้านบาท
- บริษัทมีซื้อที่ดินติดกับโรงงานที่บางปู 17.2 ไร่ กรรมการอนุญาติให้ซื้อ ลงทุนไป 160 ล้านบาท และที่ดินที่บริษัทเคยซื้อมา 28 ไร่ กำลังจะขายออกอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
- เรากำลังพ้ฒนา center ที่มวกเหล็ก ลงทุนสร้างศูนย์สุขภาพ Lifestyle
เป็นการรักษาทางเลือก ลงทุนไป 120 ล้านบาท
บริษัทคาดเติบโต 2 เท่า ใน 5 ปี ข้างหน้า
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 26
ไปเผื่อเพื่อนในนี้ไง บางทีเพื่อนก็มอบฉันทะประชุมแทนด้วย ก็เลยมาสรุปให้ครับi-salmon เขียน:ขอบคุณครับ พี่อมรไปเยอะมว้ากก สุดยอด
ต้องขอบใจน้องๆ เพื่อนๆ เช่น คุณ โย๋ว น้องเจ น้องdojji ที่มาสรุปลงในนี้ จะได้อ่านง่ายขึ้น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 27
AGM HTECH 12 APR 16 14.00
คุณพีท ได้อัปเดทผลประกอบการในปีที่แล้ว ไม่อยากให้ไปมุ่งเน้นในส่วน แอโร่สเปส มากนัก
เพราะสัดส่วนมันยังน้อยอยู่ เลยเอาไปรวมอยู่ในรายได้อื่น รอให้มันโตซะก่อนค่อยแยก
ในส่วนแอโร่สเปส หรือ อากาศยาน ปีที่แล้ว ยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะเราtarget ไปที่อเมริกา
แต่บุคลากรที่นั่นได้มีการเปลี่ยนคน ทำให้ต้นทุนเพิ่ม แต่เราได้ประสบการณ์ ความรู้มาเจาะตลาด
Southeast asia แทน เช่นตลาดในPhiliphine USA ชอบมากมีเงินทุนขนาดใหญ่เข้ามา2-3ราย
มาทำ แอโร่สเปส เราเริ่มประสบความสำเร็จในไทย ซึ่งบางบริษัทเคยสั่งจากUK แต่หันมาสั่งจากบริษัท
เพราะราคาสมเหตุผล และ ประสิทธิภาพดีกว่าเดิม ตอนนี้ขยายผลไปที่บริษัทอื่นๆ รวมถึงในมาเลเซีย
คุณพีท น่ารักและจริงใจมาก ท่านได้กล่าวขอโทษผู้ถือหุ้นว่าไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้ในปีที่แล้ว
แต่ก็มาอัปเดทในส่วนของHarddisk tool ซึ่งตลาดไม่โตขึ้น แต่ผู้ผลิตharddisk ในต่างประเทศเชื่อมั่นในไทย
ซึ่งมีบุคลลากรทีมีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก เลยย้ายฐานมาในไทย และ เราก็ได้งานมากขึ้นในQ4ต่อเนื่อง
ในQ1ปีนี้ด้วย นับเป็นข่าวดี สังเกตว่า ทุกปี Q4 ยอดจะตกลงแต่ปีที่แล้วโตขึ้น ต้องลุ้นQ1 ปีนี้กันครับ
ส่วนเรื่องการลงทุน จะมีการสร้างโรงงานใหม่งบ 100 ล้านในพื้นที่เดิม ตอนนี้กำลังเจรจาเรื่องราคาค่าก่อสร้าง
คาดว่าจะเสร็จใน 1-1.5 ปี มีการลงทุนเครื่องจักร 92 ล้านบาท เครื่องจะทยอยเข้าตั้งแต่Q1ปีนี้จนถึงกลางปี
ส่วนใหญ่ใช้เวลาset up ไม่เกิน 3 วัน เพราะเป็นเครื่องที่คุ้นเคยอยู่แล้ว จะช่วยลดเวลาในการผลิตTool และสามารถ
รับยอดได้หมด เราไม่อยากให้คู่แข่งเข้ามา เพราะถ้าเข้าได้จะอยู่ยาวเลย บางครั้งต่างประเทศเข้ามาbid เราก็ให้ราคา
ต่ำสุดจนเขาต้องถอยไปเอง มีผู้ถือหุ้นเป็นห่วงเรื่องงบลงทุนเครื่องจักร เพราะพอๆกับกำไรในแต่ละปี แต่คุณพีทบอกว่า
มันเป็นโอกาสที่จะขยายยอดขาย และ ตัดคู่แข่งออกจากวงการด้วย ต้องติดตามดูต่อไปครับ
ผู้ถือหุ้นท่านอื่นสามารถเสริมได้นะครับ จะพยายามสรุปใจความให้สั้น จะได้ไม่เบื่อซะก่อน
คุณพีท ได้อัปเดทผลประกอบการในปีที่แล้ว ไม่อยากให้ไปมุ่งเน้นในส่วน แอโร่สเปส มากนัก
เพราะสัดส่วนมันยังน้อยอยู่ เลยเอาไปรวมอยู่ในรายได้อื่น รอให้มันโตซะก่อนค่อยแยก
ในส่วนแอโร่สเปส หรือ อากาศยาน ปีที่แล้ว ยังไม่ประสบความสำเร็จเพราะเราtarget ไปที่อเมริกา
แต่บุคลากรที่นั่นได้มีการเปลี่ยนคน ทำให้ต้นทุนเพิ่ม แต่เราได้ประสบการณ์ ความรู้มาเจาะตลาด
Southeast asia แทน เช่นตลาดในPhiliphine USA ชอบมากมีเงินทุนขนาดใหญ่เข้ามา2-3ราย
มาทำ แอโร่สเปส เราเริ่มประสบความสำเร็จในไทย ซึ่งบางบริษัทเคยสั่งจากUK แต่หันมาสั่งจากบริษัท
เพราะราคาสมเหตุผล และ ประสิทธิภาพดีกว่าเดิม ตอนนี้ขยายผลไปที่บริษัทอื่นๆ รวมถึงในมาเลเซีย
คุณพีท น่ารักและจริงใจมาก ท่านได้กล่าวขอโทษผู้ถือหุ้นว่าไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้ในปีที่แล้ว
แต่ก็มาอัปเดทในส่วนของHarddisk tool ซึ่งตลาดไม่โตขึ้น แต่ผู้ผลิตharddisk ในต่างประเทศเชื่อมั่นในไทย
ซึ่งมีบุคลลากรทีมีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก เลยย้ายฐานมาในไทย และ เราก็ได้งานมากขึ้นในQ4ต่อเนื่อง
ในQ1ปีนี้ด้วย นับเป็นข่าวดี สังเกตว่า ทุกปี Q4 ยอดจะตกลงแต่ปีที่แล้วโตขึ้น ต้องลุ้นQ1 ปีนี้กันครับ
ส่วนเรื่องการลงทุน จะมีการสร้างโรงงานใหม่งบ 100 ล้านในพื้นที่เดิม ตอนนี้กำลังเจรจาเรื่องราคาค่าก่อสร้าง
คาดว่าจะเสร็จใน 1-1.5 ปี มีการลงทุนเครื่องจักร 92 ล้านบาท เครื่องจะทยอยเข้าตั้งแต่Q1ปีนี้จนถึงกลางปี
ส่วนใหญ่ใช้เวลาset up ไม่เกิน 3 วัน เพราะเป็นเครื่องที่คุ้นเคยอยู่แล้ว จะช่วยลดเวลาในการผลิตTool และสามารถ
รับยอดได้หมด เราไม่อยากให้คู่แข่งเข้ามา เพราะถ้าเข้าได้จะอยู่ยาวเลย บางครั้งต่างประเทศเข้ามาbid เราก็ให้ราคา
ต่ำสุดจนเขาต้องถอยไปเอง มีผู้ถือหุ้นเป็นห่วงเรื่องงบลงทุนเครื่องจักร เพราะพอๆกับกำไรในแต่ละปี แต่คุณพีทบอกว่า
มันเป็นโอกาสที่จะขยายยอดขาย และ ตัดคู่แข่งออกจากวงการด้วย ต้องติดตามดูต่อไปครับ
ผู้ถือหุ้นท่านอื่นสามารถเสริมได้นะครับ จะพยายามสรุปใจความให้สั้น จะได้ไม่เบื่อซะก่อน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 843
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 28
AGM FSMART 8 เมษายน 2559
เปิดประชุม 14.00 น.
วาระที่ 2 พิจารณารับรองผลการดำเนินงานของบริษัท และพิจารณาอนุมัติงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558
คุณสมชัย สำหรับในปีที่ผ่านมาเราปิดจำนวนตู้ที่สามารถตั้งได้ 65,867 ตู้
นับว่าเป็นปีนึงที่จำนวนตู้เพิ่มสูงสุดเพิ่มขึ้นสูงถึง 23,000 ตู้
ส่งผลให้ยอดเติมเงินของเราปิดได้ที่ 15,386 ล้านบาท
โดยที่ยอดเติมเงินอยู่ที่ 1.47 ล้านรายการ ต่อ วัน
โดยมีฐานลูกค้าที่มาใช้ในช่วง 3 เดือนอยู่ที่ 18 ล้านหมายเลข
บริการที่เรามี เปิดใช้ได้ 61 รายการ รองรับได้ทั้งหมด 4 ภาษา
โดยเฉลี่ยแล้วยอดเติมเงินต่อวัน ณ.สิ้นเดือน ธันวาคมอยู่ที่ 51.03 ล้านบาท
ปีนี้ก็คาดหวังว่าจะทำให้ตัวเลขของจำนวนตู้เพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าปลายปีนี้จำนวนตู้ของเราจะปิดได้ไม่น้อยกว่า 9 หมื่นตู้
จำนวนตู้ในปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่แล้วกระจายไปตาม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนตู้สูงสุด รองลงมาก็จะเป็น กรุงเทพฯและปริมณฑล,ภาคเหนือ,ภาคกลาง,ภาคใต้,ภาคตะวันออก
สำหรับจำนวนตู้ที่ทำการติดก็แยกออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรกจำนวนตู้ที่มากที่สุดจะตกอยู่ที่ 5 หมื่นกว่าตู้ โดยกระจายอยู่ตามตัวแทนทั่วประเทศ
ส่วนที่ 2 เป็นการตั้งจำนวนตู้กับ project ที่เราปิด โดยปีที่ผ่านมามีจำนวน project ที่เราปิด 26 ราย มีจำนวนตู้เป็นสัดส่วนอยู่ที่ 22%
สำหรับบริการหน้าตู้ 61 รายการ ก็จะแบ่งเป็นหมวดใหญ่ๆ
-หมวดโทรศัพท์มือถือ ก็มีการบริการเติมเงินมือถือทั้งหมด 6 ค่าย
- ทางด้านของbill payment และ internet wifi ก็มีบริการทั้งหมด 3 ค่าย
- ทางด้าน cash card และ บัตรโทรทางไกลระหว่างประเทศก็มีทั้งหมด 7 ค่าย
- game ก็มีทั้งหมด 20 game , บริการดูดวง,กิจกรรมทางด้าน csr มีทั้งหมด 13 รายการ
ส่วนอื่นๆก็จะเป็น E-commerce และบริการทั่วไป ก็มี 12 รายการ
ส่วนนึงที่เรามีรายได้เข้ามาก็จากการปิด project ด้านรายได้ค่าโฆษณา เราได้สัญญามาจาก AIS โฆษณา 4G จะสิ้นสุดในเดือน พฤษภาคม
คุณณรงค์ศักดิ์ - สรุปตัวเลขผลประกอบการ
ใน 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนตู้ของเรามีการเติบโตขึ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในปีที่ผ่านมา
เรามีจำนวนตู้เพิ่มขึ้น 23,000 ตู้
ในส่วนของยอดเติมเงินก็มีการเติบโตในอัตราก้าวกระโดด เพิ่มจาก 10,500 ล้าน มาเป็น 15,000 ล้าน
ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจของระบบต่างๆจาก ที่ 1,078 ล้านในปี 2557 มาเป็น 1,533 ล้าน ในปี 2558
โครงสร้างรายได้บริษัท โครงสร้างหลักของเรามาจาก 2 ส่วน
- รายได้จาก service charge เราเรียกเก็บจากลูกค้าที่มาเติมเงิน มากถึง 53%
- commission ที่เราเรียกเก็บจากผู้ให้บริการ มากถึง 38%
- ธุรกิจใหม่ที่เราเริ่มเมื่อปีที่แล้วคือธุรกิจโฆษณา อยู่ที่ 0.7% ที่เหลือก็จะเป็นรายได้อื่นๆ
Q-ในการวิเคราะห์ เนื่องจากเป็นการเพิ่มจำนวนตู้เรามีการวิเคราะห์ไหมว่า การเพิ่มจำนวนตู้ทำให้รายได้ต่อตู้มันลดลงหรือเพิ่มขึ้นหรือเปล่า และการที่เราไปลงตู้ในที่ต่างๆ รายได้ต่อประชากรของแต่ละจังหวัดที่เราเอาไปลง มันมีรายได้ที่มีความแตกต่างในแต่ละภาคและมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลง
A- ในส่วนของการตั้งตู้ใหม่ โดยปกติเราจะให้ระยะเวลาในการตั้งตู้ใหม่เพื่อดู performance ไปจนถึงจุดpeak โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 6 เดือน แต่ตู้เราเราก็เข้มข้นในการวัดเพื่อให้ยอดเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ เรื่องรายได้ต่อประชากร เราเอาข้อมูลมาเปรียบเทียบจำนวนประชากรในแต่ละจังหวัดด้วยเพื่อดูสัดส่วนของจำนวนตู้ที่มันเหมาะสมในแต่ละจังหวัด เป็นจุดนึงที่เราค่อนข้างระมัดระวัง
วาระที่ 8 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
คุณ พงษ์ชัย สำหรับปีที่ผ่านมาก็ถือว่าเราทำได้เป้า ทิศทางของบริษัทผมขอเรียนว่าก็คงยังขยายตู้ต่อ และเพิ่มบริการในตัวตู้เองให้มีบริการที่หลากหลายขึ้น คำถามที่ผู้ถือหุ้นถามก็เป็นคำถามที่ดีครับ ถ้ายิ่งตั้งตู้เยอะก็ยิ่งจะมา average ตู้เราให้รายได้ต่อตู้มันน้อยลง ผมก็เห็นว่าตอนนี้มันไม่กระทบมาก เพราะว่าจำนวนประชากรต่อตู้ ประชากร 70-80 ล้านคน เรายังตั้งตู้ 7-8หมื่นตู้ยังถือว่ายังน้อยมาก ตู้เราก็บริหารให้กระจายพื้นที่ การตั้งตู้เราวิเคราะห์เยอะครับ เราวิเคราะห์หลายอย่าง มีการควบคุม เราเก็บข้อมูลว่าประชากรโซนไหน อยู่ตรงไหน มีตู้เยอะเท่าไหร่ และรายได้ต่อตู้เราคำนวณตลอด ว่า average ของเราต้องได้ตามที่เราต้องการ ถ้าไม่ได้ average ก็ต้องย้าย พวกนี้เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำขึ้นมาสั่งได้อัตโนมัติเลย 3 เดือน 6 เดือน ถ้ายอดไม่ถึงกำหนดก็ต้องย้าย อันนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราปฏิบัติมาตลอด สำหรับตู้บริการต่างๆก็จะพอเห็นข่าวในช่วงวันสองวันคือ เราโอนเงินของธนาคารได้ ค่อนข้างจะประทับใจ ธนาคารกรุงไทยก็พอใจ วันแรกก็มีโอน 300 transaction วันที่ 2 ก็ขึ้นมาเป็น 600,วันที่ 3 ก็ขึ้นมาเป็น 800,วันที่ 4 ก็ขึ้นมาเป็นเกือบ 1,900กว่าAverage ก็ 700 บาทต่อ transaction ค่า free ก็ 30 บาทที่ BANKกรุงไทย ถ้าโอนต่าง BANK ก็ 50 บาท ในอนาคตเราก็จะต่อตรงกับ BANK ใหญ่ๆ (กสิกร,ไทยพาณิชย์,กรุงเทพ) ต้องขอใบอนุญาต BANK ชาติ ได้หลายใบละ ทำE-Wallet ได้ ,ทำpayment ได้
เราก็พยายามเพิ่มตู้น้ำมัน เพิ่มตู้น้ำ ในส่วนของบริษัทเราก็มีคุยกันเรื่องความเสี่ยงเยอะ
ว่าจะมีตู้รุ่นใหม่มาไหม มีคนแข่งไหมผมเรียนเลยว่าเรื่องความเสี่ยงของคู่แข่งที่จะเอามาตั้ง เราค่อนข้างจะไม่กังวลละ เดิมจะมี SINGER มาแข่ง หลังจาก SINGER เพลาแรงไป ก็มี AJD มา เป็นห่วงเหมือนกันตัวแทนก็เป็นห่วงมาก หลัง AJD ตั้งตู้มาได้ 4-6 เดือน เราก็คลายกังวล เพราะดูแล้วว่าทำได้ยาก การทำตู้มันบริหารยากจริงๆ ถ้าคู่แข่งที่เข้ามาทำ จำนวนตู้ไม่ถึงเค้าก็จะรับภาระขาดทุนเลย ผมว่าอย่างน้อย 4-5 ปีไม่มีกำไร และตัวแทนที่เอาไปตั้งก็จะต้องรับภาระขาดทุนด้วย ตอนนี้เราตั้งตู้แทนตู้ SINGER ตลอด ทุกเดือนจะมีตู้ที่เราไป replace ตู้ SINGER , AJD เราก็เริ่มมี replace
สำหรับปีนี้เริ่มมา ไตรมาส 1 ตั้งไปได้แล้ว 8000 ตู้ การที่เรามีบริการตรงตู้เพิ่มขึ้นโอนเงิน รายได้ต่อตู้ก็ไม่ตก ผมก็เรียนคร่าวๆว่าทิศทางของตู้เราขึ้นได้สม่ำเสมอ
ปีนี้ผมว่าน่าจะขึ้นได้เยอะกว่าปีที่แล้ว ร้านค้าหรือสถานที่ที่เราไปตั้งพอรู้ว่าโอนเงินได้
เค้าก็อยากให้เราไปตั้งเลย ปีนี้ทีมงานคาดตั้งได้เกิน 24,000 ตู้
เปิดประชุม 14.00 น.
วาระที่ 2 พิจารณารับรองผลการดำเนินงานของบริษัท และพิจารณาอนุมัติงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558
คุณสมชัย สำหรับในปีที่ผ่านมาเราปิดจำนวนตู้ที่สามารถตั้งได้ 65,867 ตู้
นับว่าเป็นปีนึงที่จำนวนตู้เพิ่มสูงสุดเพิ่มขึ้นสูงถึง 23,000 ตู้
ส่งผลให้ยอดเติมเงินของเราปิดได้ที่ 15,386 ล้านบาท
โดยที่ยอดเติมเงินอยู่ที่ 1.47 ล้านรายการ ต่อ วัน
โดยมีฐานลูกค้าที่มาใช้ในช่วง 3 เดือนอยู่ที่ 18 ล้านหมายเลข
บริการที่เรามี เปิดใช้ได้ 61 รายการ รองรับได้ทั้งหมด 4 ภาษา
โดยเฉลี่ยแล้วยอดเติมเงินต่อวัน ณ.สิ้นเดือน ธันวาคมอยู่ที่ 51.03 ล้านบาท
ปีนี้ก็คาดหวังว่าจะทำให้ตัวเลขของจำนวนตู้เพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าปลายปีนี้จำนวนตู้ของเราจะปิดได้ไม่น้อยกว่า 9 หมื่นตู้
จำนวนตู้ในปีที่ผ่านมาส่วนใหญ่แล้วกระจายไปตาม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนตู้สูงสุด รองลงมาก็จะเป็น กรุงเทพฯและปริมณฑล,ภาคเหนือ,ภาคกลาง,ภาคใต้,ภาคตะวันออก
สำหรับจำนวนตู้ที่ทำการติดก็แยกออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรกจำนวนตู้ที่มากที่สุดจะตกอยู่ที่ 5 หมื่นกว่าตู้ โดยกระจายอยู่ตามตัวแทนทั่วประเทศ
ส่วนที่ 2 เป็นการตั้งจำนวนตู้กับ project ที่เราปิด โดยปีที่ผ่านมามีจำนวน project ที่เราปิด 26 ราย มีจำนวนตู้เป็นสัดส่วนอยู่ที่ 22%
สำหรับบริการหน้าตู้ 61 รายการ ก็จะแบ่งเป็นหมวดใหญ่ๆ
-หมวดโทรศัพท์มือถือ ก็มีการบริการเติมเงินมือถือทั้งหมด 6 ค่าย
- ทางด้านของbill payment และ internet wifi ก็มีบริการทั้งหมด 3 ค่าย
- ทางด้าน cash card และ บัตรโทรทางไกลระหว่างประเทศก็มีทั้งหมด 7 ค่าย
- game ก็มีทั้งหมด 20 game , บริการดูดวง,กิจกรรมทางด้าน csr มีทั้งหมด 13 รายการ
ส่วนอื่นๆก็จะเป็น E-commerce และบริการทั่วไป ก็มี 12 รายการ
ส่วนนึงที่เรามีรายได้เข้ามาก็จากการปิด project ด้านรายได้ค่าโฆษณา เราได้สัญญามาจาก AIS โฆษณา 4G จะสิ้นสุดในเดือน พฤษภาคม
คุณณรงค์ศักดิ์ - สรุปตัวเลขผลประกอบการ
ใน 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนตู้ของเรามีการเติบโตขึ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในปีที่ผ่านมา
เรามีจำนวนตู้เพิ่มขึ้น 23,000 ตู้
ในส่วนของยอดเติมเงินก็มีการเติบโตในอัตราก้าวกระโดด เพิ่มจาก 10,500 ล้าน มาเป็น 15,000 ล้าน
ส่งผลให้รายได้ของธุรกิจของระบบต่างๆจาก ที่ 1,078 ล้านในปี 2557 มาเป็น 1,533 ล้าน ในปี 2558
โครงสร้างรายได้บริษัท โครงสร้างหลักของเรามาจาก 2 ส่วน
- รายได้จาก service charge เราเรียกเก็บจากลูกค้าที่มาเติมเงิน มากถึง 53%
- commission ที่เราเรียกเก็บจากผู้ให้บริการ มากถึง 38%
- ธุรกิจใหม่ที่เราเริ่มเมื่อปีที่แล้วคือธุรกิจโฆษณา อยู่ที่ 0.7% ที่เหลือก็จะเป็นรายได้อื่นๆ
Q-ในการวิเคราะห์ เนื่องจากเป็นการเพิ่มจำนวนตู้เรามีการวิเคราะห์ไหมว่า การเพิ่มจำนวนตู้ทำให้รายได้ต่อตู้มันลดลงหรือเพิ่มขึ้นหรือเปล่า และการที่เราไปลงตู้ในที่ต่างๆ รายได้ต่อประชากรของแต่ละจังหวัดที่เราเอาไปลง มันมีรายได้ที่มีความแตกต่างในแต่ละภาคและมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลง
A- ในส่วนของการตั้งตู้ใหม่ โดยปกติเราจะให้ระยะเวลาในการตั้งตู้ใหม่เพื่อดู performance ไปจนถึงจุดpeak โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 6 เดือน แต่ตู้เราเราก็เข้มข้นในการวัดเพื่อให้ยอดเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อยๆ เรื่องรายได้ต่อประชากร เราเอาข้อมูลมาเปรียบเทียบจำนวนประชากรในแต่ละจังหวัดด้วยเพื่อดูสัดส่วนของจำนวนตู้ที่มันเหมาะสมในแต่ละจังหวัด เป็นจุดนึงที่เราค่อนข้างระมัดระวัง
วาระที่ 8 พิจารณาเรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
คุณ พงษ์ชัย สำหรับปีที่ผ่านมาก็ถือว่าเราทำได้เป้า ทิศทางของบริษัทผมขอเรียนว่าก็คงยังขยายตู้ต่อ และเพิ่มบริการในตัวตู้เองให้มีบริการที่หลากหลายขึ้น คำถามที่ผู้ถือหุ้นถามก็เป็นคำถามที่ดีครับ ถ้ายิ่งตั้งตู้เยอะก็ยิ่งจะมา average ตู้เราให้รายได้ต่อตู้มันน้อยลง ผมก็เห็นว่าตอนนี้มันไม่กระทบมาก เพราะว่าจำนวนประชากรต่อตู้ ประชากร 70-80 ล้านคน เรายังตั้งตู้ 7-8หมื่นตู้ยังถือว่ายังน้อยมาก ตู้เราก็บริหารให้กระจายพื้นที่ การตั้งตู้เราวิเคราะห์เยอะครับ เราวิเคราะห์หลายอย่าง มีการควบคุม เราเก็บข้อมูลว่าประชากรโซนไหน อยู่ตรงไหน มีตู้เยอะเท่าไหร่ และรายได้ต่อตู้เราคำนวณตลอด ว่า average ของเราต้องได้ตามที่เราต้องการ ถ้าไม่ได้ average ก็ต้องย้าย พวกนี้เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ทำขึ้นมาสั่งได้อัตโนมัติเลย 3 เดือน 6 เดือน ถ้ายอดไม่ถึงกำหนดก็ต้องย้าย อันนี้เป็นเรื่องสำคัญที่เราปฏิบัติมาตลอด สำหรับตู้บริการต่างๆก็จะพอเห็นข่าวในช่วงวันสองวันคือ เราโอนเงินของธนาคารได้ ค่อนข้างจะประทับใจ ธนาคารกรุงไทยก็พอใจ วันแรกก็มีโอน 300 transaction วันที่ 2 ก็ขึ้นมาเป็น 600,วันที่ 3 ก็ขึ้นมาเป็น 800,วันที่ 4 ก็ขึ้นมาเป็นเกือบ 1,900กว่าAverage ก็ 700 บาทต่อ transaction ค่า free ก็ 30 บาทที่ BANKกรุงไทย ถ้าโอนต่าง BANK ก็ 50 บาท ในอนาคตเราก็จะต่อตรงกับ BANK ใหญ่ๆ (กสิกร,ไทยพาณิชย์,กรุงเทพ) ต้องขอใบอนุญาต BANK ชาติ ได้หลายใบละ ทำE-Wallet ได้ ,ทำpayment ได้
เราก็พยายามเพิ่มตู้น้ำมัน เพิ่มตู้น้ำ ในส่วนของบริษัทเราก็มีคุยกันเรื่องความเสี่ยงเยอะ
ว่าจะมีตู้รุ่นใหม่มาไหม มีคนแข่งไหมผมเรียนเลยว่าเรื่องความเสี่ยงของคู่แข่งที่จะเอามาตั้ง เราค่อนข้างจะไม่กังวลละ เดิมจะมี SINGER มาแข่ง หลังจาก SINGER เพลาแรงไป ก็มี AJD มา เป็นห่วงเหมือนกันตัวแทนก็เป็นห่วงมาก หลัง AJD ตั้งตู้มาได้ 4-6 เดือน เราก็คลายกังวล เพราะดูแล้วว่าทำได้ยาก การทำตู้มันบริหารยากจริงๆ ถ้าคู่แข่งที่เข้ามาทำ จำนวนตู้ไม่ถึงเค้าก็จะรับภาระขาดทุนเลย ผมว่าอย่างน้อย 4-5 ปีไม่มีกำไร และตัวแทนที่เอาไปตั้งก็จะต้องรับภาระขาดทุนด้วย ตอนนี้เราตั้งตู้แทนตู้ SINGER ตลอด ทุกเดือนจะมีตู้ที่เราไป replace ตู้ SINGER , AJD เราก็เริ่มมี replace
สำหรับปีนี้เริ่มมา ไตรมาส 1 ตั้งไปได้แล้ว 8000 ตู้ การที่เรามีบริการตรงตู้เพิ่มขึ้นโอนเงิน รายได้ต่อตู้ก็ไม่ตก ผมก็เรียนคร่าวๆว่าทิศทางของตู้เราขึ้นได้สม่ำเสมอ
ปีนี้ผมว่าน่าจะขึ้นได้เยอะกว่าปีที่แล้ว ร้านค้าหรือสถานที่ที่เราไปตั้งพอรู้ว่าโอนเงินได้
เค้าก็อยากให้เราไปตั้งเลย ปีนี้ทีมงานคาดตั้งได้เกิน 24,000 ตู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 29
AGM SCBLIF 18 APR 16 10.30 ที่ ตึก SCBPARK
วาระที่1 รับรองรายงานการประชุม
เบี้ยรับรวมปี58 เติบโต 9% = 52,972 ล้านบาท เป็นอันดับที่ 5 ส่วนแบ่งตลาด 9.9%
ธุรกิจใหม่ ลดลงจากปีที่แล้ว 8% ส่วนแบ่งตลาด 10.2% เป็นอันดับ5 ของเบี้ยธุรกิจใหม่
Q: หน้า 4 เบี้ยประกันlotใหม่ จาก อันดับ4 เป็นอันดับ5อยากรู้ว่าใครเป็นคนแซงเราไป
A: กรุงไทยแอกซ่า ซึ่งเป็น บริษัทลูกของธนาคารกรุงไทย
เรื่องธุรกิจผ่านช่องทางธนาคาร เราเป็นผู้ริเริ่มเจ้าแรก คู่แข่งจากธุรกิจเดียวกัน มาเข้าก็จะมีการดึงส่วนแบ่งตลาด
พยายามเปลี่ยนจาก protection เป็น saving มากขึ้น
อัตราดอกเบี้ยลดต่ำลงมาก ถ้ายังขายสินค้าที่มีประกันผลตอบแทนมากขึ้น จะเป็นความเสี่ยงของบริษัทมากขึ้น
กำลังการออมสูง สภาพคล่องยังสูงมาก คนยังสามารถออม ลงทุนได้ แต่ปัญหาคือจะเลือกลงทุนอะไร
แม้แต่หุ้นยังมีความเสี่ยงสูงมาก
Q: ผมถามในส่วน slide สุดท้าย ที่อัตราการเติบโตปี 57 ทำไมลดลง และแนะนำศึกษา unitlink เพื่อเพิ่มสัดส่วนธุรกิจใหม่มากขึ้น
A: ยอมรับว่าพิมพ์ผิด จริงเป็นบวก ในปี57
ส่วน Unitlink ยังอยู่ในความสนใจของบริษัท แต่สินค้ามีความcomplex
ขายผ่านช่องทางธนาคารก็ยังยาก แม้แต่ เมืองไทยยังพึ่งได้อนุมัติ regular premium unitlink ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
Q: คุณกิติชัย ถามเป็นความรู้ หน้า4 การที่อัตราดอกเบี้ยเป็นขาลง เลยต้องจัดสำรองเพิ่ม
ทำให้เงินกองทุนลดลง และ จาก 338 % เป็น 258 %
A: การตั้งสำรอง ถ้าธุรกิจขายเพิ่มขึ้นก็ต้องตั้งสำรองมากขึ้น
ส่วน เงินสำรอง คือมูลค่าปัจจุบันของภาระการจ่ายเงินในอนาคต ต้องdiscountเป็นปัจจุบันด้วยอัตราดอกเบี้ย
ถ้าดอกเบี้ยน้อยลง เลยต้องสำรองสูงขึ้น ส่วน Car ratio คปภ กำหนดว่าการประกอบธุรกิจดำรงเงินกองทุนไว้เท่าไหร่
เงินกองทุนขึ้นอยู่กับหลายอย่างเช่น อัตราดอกเบี้ย
หรือสินทรัพย์ที่ลงทุน
ถ้าลงทุนในหุ้นก็ต้องดำรงกองทุนสูงขึ้น ตอนนี้เรามีอยู่ 258% ปกติ คปภ กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 200%
วาระที่2 งบการเงิน
Asset เพิ่มขึ้น 22% เป็น 211.7 พันล้านบาท
Liability เพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อน จากสัญญาประกันชีวิตที่เพิ่มขึ้น
รายได้ 61.1 พันล้านบาท โตขึ้น 10%
รายได้จากเบี้ยประกัน เพิ่มขึ้น 9% ส่วนรายได้จากการลงทุน เพิ่มขึ้น 19%
สำหรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 9%
แยกเป็น ค่าใช้จ่ายประกันชีวิต 50,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%
ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานและ คปภ ลดลง 4%
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 17% เป็น 6,838 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 102.80 บาท
ROE 35% ลดลงจากปี57, CAR Ratio 258 % เทียบกับ CAR ของ คปภ 200%
Q: สอบถามว่าเหตุผลของทุนสำรองประกันชีวิตที่เพิ่มขึ้น
A: Increase of provision from capital product
Saving product guarantee return
ทุนสำรองประกันชีวิตเพิ่มขึ้น 26% มาจากประกันแบบนึงในปีที่แล้วที่มีการประกันผลตอบแทน เรียกว่า 12/4 เป็นลักษณะการออมมากกว่าการคุ้มครองความเสี่ยง เมื่อขายมากก็สำรองมากขึ้น
Q: แนวโน้มปีนี้ การสำรองเพิ่มขึ้นหรือลดลง ขึ้นกับ Asset ใช่ไหม ต้องตั้งเพิ่มขึ้น หรือ reverse กลับมาเมื่อไหร่
A: แนวโน้มดอกเบี้ยลดต่ำลง ดังนั้นต้องreserve เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นขึ้นแน่นอน ถึงแม้ว่าไม่ได้ขายเพิ่มขึ้น
แต่ยังมีเบี้ยต่ออายุมาจ่ายเพิ่ม ก็ตั้งสำรองมากขึ้น แต่ถ้าอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ก็จะสำรองลดลงในบรรทัดเดิม
Q: จากการลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขาย อยากทราบว่าทำไมมาลงในช่องนี้
A: มองว่าตอนนั้นดอกเบี้ยอาจกลับขึ้นได้เลยเอาหลักทรัพย์มาตั้งไว้เผื่อขาย เราต้องการbookเผื่อขายถ้าขายทำกำไรได้
Q: หน้า 34 กำไรเบ็ดเสร็จปี58 ขาดทุน 1,000 ล้านบาท ทำให้ท้ายสุดกำไรลดลงเมื่อเทียบกับปี57
A: stock market not so good เลยmark ขาดทุน 1,000 ล้านบาทลงใน annual report
กำไรเบ็ดเสร็จ ขาดทุน มาจากราคาหุ้นในปี 2015 น้อยกว่าปี 2014
ปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 6,838 ลบ การจ่ายปันผลต้องคำนึงถึงการลงทุนในระยะยาวด้วย
อัตราดอกเบี้ยลดต่ำลงอย่างมาก ทำให้การตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเลยขอเปลี่ยนแปลงอัตราการจ่ายปันผลเป็น
15.42 บาทต่อหุ้นเพื่อสำรองเงินในการรับรองเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอน surprise กันทั้งห้องประชุม
ผมพยายามเช็คเอกสารไม่เจอเปลี่ยนแปลง คุณหญิงชฎาแจ้งว่าเพิ่งเปลี่ยนแปลงหลังเอกสารส่งออกไป
ผมว่าบรรยากาศในห้องประชุมเงียบไปเยอะเลย
Q: ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ สามารถจ่ายปันผลที่เหลือได้ในช่วงครึ่งปีหลังได้ไหม
A: เราไม่เคยจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล และ เงินปันผลนี้เป็นของปี58 ดังนั้นเลยต้องดูผลประกอบการปีนี้อีกที
Q: 1. ช่วยแจ้งผู้ถือหุ้น เพื่อให้ทราบการเปลี่ยนแปลงอัตราการจ่ายเงินปันผลด้วยครับ
2. เป็นห่วงการเปิดเสรีการค้า ถ้าไม่มีการป้องกัน ดังนั้นต้องมีการตั้งรับที่ดี
A: คุณหญิงชฎา กล่าวขอบคุณ จะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นรับทราบ
Q: คุณเสรี ถามว่า รายได้บริษัทเพิ่มขึ้น แต่รายได้พนักงานลดลง และ กรรมการเท่าเดิม
จะทำให้รายได้พนักงานและกรรมการเพิ่มขึ้น จะทำให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น ผมไม่ได้ติดใจปันผลลดลง
คุณฮั่งใช้มากระซิบบอก คนนี้ถือแค่ 1 หุ้น ถึงบางอ้อทำไมทำใจเร็วจัง
A: เราไม่ได้ตัดเงินเดือนพนักงานลง มีการเพิ่มเงินเดือนมากกว่าอัตราเงินเฟ้อ
ปีที่แล้วยกเลิกธุรกิจประกันกลุ่มซึ่งเป็นธุรกิจที่ใช้คน 400 คน โยกย้ายบ้าง
ยกเลิกสัญญาจ้างบ้าง ดังนั้น personal expense ลดลง
ตลาดเงิน ดอกเบี้ยต่ำมากกระทบต่อธุรกิจเรา หวังว่าโชคช่วย ภาวะตลาดเงิน เงินไหลเข้าไทยทำให้ผันผวนมากต้องระมัดระวังให้ดี เราพยายามอย่างยิ่งยวด ทำผลงานให้ดีที่สุด ตอนนี้อยู่ในวัฐจักรขาลง
ญี่ปุ่นอยู่ในวัฐจักรนานมาก ขอให้ไทยอยู่ไม่นานนัก
Q: คุณสุพลได้สอบถามว่า บริษัท ซุปเปอร์แนบในหน้า 83 ได้มีการลงทุนและเพิ่มทุนตลอด อยากทราบรายละเอียด
A: ในเครือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ลงทุนในบริษัทนี้ที่ทำ Data warehouse ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดบริษัท
Q: ขอให้จ่ายเงินปันผลในส่วนที่เสียภาษีที่สูงก่อน เช่น 25%,23%
A: เราทำคะ ปันผลไม่ถึงrate 20%
Q: อยากทราบเรื่องการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงที่ลงในหนังสือประชุมประจำปี
A: ตัวอนุพันธ์เงินตราต่างประเทศ OEC ให้เราทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเมื่อเราลงทุนเพิ่มขึ้น
Q: สินทรัพย์ประกันภัยต่อคืออะไร
A: หน้า 37 try to manage risk , pending correction to pay back
ปกติธุรกิจประกันภัยลดความเสี่ยงจากการประกันภัยต่อ เลยมาอยู่บรรทัดนี้ แต่เราทำประกันภัยต่อน้อยมาก
Q: คุณ ฮั่งใช้ เป็นผู้กล่าวและให้ผู้ถือหุ้นทุกท่าน ขอยืนไว้อาลัย สำหรับ คุณวิรัตน์ รัตนพร ที่เสียชีวิตไปเมื่อ กพ 16
หลังจากไว้อาลัย ขอฝากเรื่องการทำกำไรสูงขึ้นด้วยครับ
ขอจบการสรุปการประชุมของ SCBLIF ครับ
วาระที่1 รับรองรายงานการประชุม
เบี้ยรับรวมปี58 เติบโต 9% = 52,972 ล้านบาท เป็นอันดับที่ 5 ส่วนแบ่งตลาด 9.9%
ธุรกิจใหม่ ลดลงจากปีที่แล้ว 8% ส่วนแบ่งตลาด 10.2% เป็นอันดับ5 ของเบี้ยธุรกิจใหม่
Q: หน้า 4 เบี้ยประกันlotใหม่ จาก อันดับ4 เป็นอันดับ5อยากรู้ว่าใครเป็นคนแซงเราไป
A: กรุงไทยแอกซ่า ซึ่งเป็น บริษัทลูกของธนาคารกรุงไทย
เรื่องธุรกิจผ่านช่องทางธนาคาร เราเป็นผู้ริเริ่มเจ้าแรก คู่แข่งจากธุรกิจเดียวกัน มาเข้าก็จะมีการดึงส่วนแบ่งตลาด
พยายามเปลี่ยนจาก protection เป็น saving มากขึ้น
อัตราดอกเบี้ยลดต่ำลงมาก ถ้ายังขายสินค้าที่มีประกันผลตอบแทนมากขึ้น จะเป็นความเสี่ยงของบริษัทมากขึ้น
กำลังการออมสูง สภาพคล่องยังสูงมาก คนยังสามารถออม ลงทุนได้ แต่ปัญหาคือจะเลือกลงทุนอะไร
แม้แต่หุ้นยังมีความเสี่ยงสูงมาก
Q: ผมถามในส่วน slide สุดท้าย ที่อัตราการเติบโตปี 57 ทำไมลดลง และแนะนำศึกษา unitlink เพื่อเพิ่มสัดส่วนธุรกิจใหม่มากขึ้น
A: ยอมรับว่าพิมพ์ผิด จริงเป็นบวก ในปี57
ส่วน Unitlink ยังอยู่ในความสนใจของบริษัท แต่สินค้ามีความcomplex
ขายผ่านช่องทางธนาคารก็ยังยาก แม้แต่ เมืองไทยยังพึ่งได้อนุมัติ regular premium unitlink ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
Q: คุณกิติชัย ถามเป็นความรู้ หน้า4 การที่อัตราดอกเบี้ยเป็นขาลง เลยต้องจัดสำรองเพิ่ม
ทำให้เงินกองทุนลดลง และ จาก 338 % เป็น 258 %
A: การตั้งสำรอง ถ้าธุรกิจขายเพิ่มขึ้นก็ต้องตั้งสำรองมากขึ้น
ส่วน เงินสำรอง คือมูลค่าปัจจุบันของภาระการจ่ายเงินในอนาคต ต้องdiscountเป็นปัจจุบันด้วยอัตราดอกเบี้ย
ถ้าดอกเบี้ยน้อยลง เลยต้องสำรองสูงขึ้น ส่วน Car ratio คปภ กำหนดว่าการประกอบธุรกิจดำรงเงินกองทุนไว้เท่าไหร่
เงินกองทุนขึ้นอยู่กับหลายอย่างเช่น อัตราดอกเบี้ย
หรือสินทรัพย์ที่ลงทุน
ถ้าลงทุนในหุ้นก็ต้องดำรงกองทุนสูงขึ้น ตอนนี้เรามีอยู่ 258% ปกติ คปภ กำหนดไว้ไม่ต่ำกว่า 200%
วาระที่2 งบการเงิน
Asset เพิ่มขึ้น 22% เป็น 211.7 พันล้านบาท
Liability เพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อน จากสัญญาประกันชีวิตที่เพิ่มขึ้น
รายได้ 61.1 พันล้านบาท โตขึ้น 10%
รายได้จากเบี้ยประกัน เพิ่มขึ้น 9% ส่วนรายได้จากการลงทุน เพิ่มขึ้น 19%
สำหรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 9%
แยกเป็น ค่าใช้จ่ายประกันชีวิต 50,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%
ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานและ คปภ ลดลง 4%
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 17% เป็น 6,838 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 102.80 บาท
ROE 35% ลดลงจากปี57, CAR Ratio 258 % เทียบกับ CAR ของ คปภ 200%
Q: สอบถามว่าเหตุผลของทุนสำรองประกันชีวิตที่เพิ่มขึ้น
A: Increase of provision from capital product
Saving product guarantee return
ทุนสำรองประกันชีวิตเพิ่มขึ้น 26% มาจากประกันแบบนึงในปีที่แล้วที่มีการประกันผลตอบแทน เรียกว่า 12/4 เป็นลักษณะการออมมากกว่าการคุ้มครองความเสี่ยง เมื่อขายมากก็สำรองมากขึ้น
Q: แนวโน้มปีนี้ การสำรองเพิ่มขึ้นหรือลดลง ขึ้นกับ Asset ใช่ไหม ต้องตั้งเพิ่มขึ้น หรือ reverse กลับมาเมื่อไหร่
A: แนวโน้มดอกเบี้ยลดต่ำลง ดังนั้นต้องreserve เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นขึ้นแน่นอน ถึงแม้ว่าไม่ได้ขายเพิ่มขึ้น
แต่ยังมีเบี้ยต่ออายุมาจ่ายเพิ่ม ก็ตั้งสำรองมากขึ้น แต่ถ้าอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ก็จะสำรองลดลงในบรรทัดเดิม
Q: จากการลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขาย อยากทราบว่าทำไมมาลงในช่องนี้
A: มองว่าตอนนั้นดอกเบี้ยอาจกลับขึ้นได้เลยเอาหลักทรัพย์มาตั้งไว้เผื่อขาย เราต้องการbookเผื่อขายถ้าขายทำกำไรได้
Q: หน้า 34 กำไรเบ็ดเสร็จปี58 ขาดทุน 1,000 ล้านบาท ทำให้ท้ายสุดกำไรลดลงเมื่อเทียบกับปี57
A: stock market not so good เลยmark ขาดทุน 1,000 ล้านบาทลงใน annual report
กำไรเบ็ดเสร็จ ขาดทุน มาจากราคาหุ้นในปี 2015 น้อยกว่าปี 2014
ปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 6,838 ลบ การจ่ายปันผลต้องคำนึงถึงการลงทุนในระยะยาวด้วย
อัตราดอกเบี้ยลดต่ำลงอย่างมาก ทำให้การตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเลยขอเปลี่ยนแปลงอัตราการจ่ายปันผลเป็น
15.42 บาทต่อหุ้นเพื่อสำรองเงินในการรับรองเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอน surprise กันทั้งห้องประชุม
ผมพยายามเช็คเอกสารไม่เจอเปลี่ยนแปลง คุณหญิงชฎาแจ้งว่าเพิ่งเปลี่ยนแปลงหลังเอกสารส่งออกไป
ผมว่าบรรยากาศในห้องประชุมเงียบไปเยอะเลย
Q: ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ สามารถจ่ายปันผลที่เหลือได้ในช่วงครึ่งปีหลังได้ไหม
A: เราไม่เคยจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล และ เงินปันผลนี้เป็นของปี58 ดังนั้นเลยต้องดูผลประกอบการปีนี้อีกที
Q: 1. ช่วยแจ้งผู้ถือหุ้น เพื่อให้ทราบการเปลี่ยนแปลงอัตราการจ่ายเงินปันผลด้วยครับ
2. เป็นห่วงการเปิดเสรีการค้า ถ้าไม่มีการป้องกัน ดังนั้นต้องมีการตั้งรับที่ดี
A: คุณหญิงชฎา กล่าวขอบคุณ จะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นรับทราบ
Q: คุณเสรี ถามว่า รายได้บริษัทเพิ่มขึ้น แต่รายได้พนักงานลดลง และ กรรมการเท่าเดิม
จะทำให้รายได้พนักงานและกรรมการเพิ่มขึ้น จะทำให้ผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น ผมไม่ได้ติดใจปันผลลดลง
คุณฮั่งใช้มากระซิบบอก คนนี้ถือแค่ 1 หุ้น ถึงบางอ้อทำไมทำใจเร็วจัง
A: เราไม่ได้ตัดเงินเดือนพนักงานลง มีการเพิ่มเงินเดือนมากกว่าอัตราเงินเฟ้อ
ปีที่แล้วยกเลิกธุรกิจประกันกลุ่มซึ่งเป็นธุรกิจที่ใช้คน 400 คน โยกย้ายบ้าง
ยกเลิกสัญญาจ้างบ้าง ดังนั้น personal expense ลดลง
ตลาดเงิน ดอกเบี้ยต่ำมากกระทบต่อธุรกิจเรา หวังว่าโชคช่วย ภาวะตลาดเงิน เงินไหลเข้าไทยทำให้ผันผวนมากต้องระมัดระวังให้ดี เราพยายามอย่างยิ่งยวด ทำผลงานให้ดีที่สุด ตอนนี้อยู่ในวัฐจักรขาลง
ญี่ปุ่นอยู่ในวัฐจักรนานมาก ขอให้ไทยอยู่ไม่นานนัก
Q: คุณสุพลได้สอบถามว่า บริษัท ซุปเปอร์แนบในหน้า 83 ได้มีการลงทุนและเพิ่มทุนตลอด อยากทราบรายละเอียด
A: ในเครือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ลงทุนในบริษัทนี้ที่ทำ Data warehouse ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดบริษัท
Q: ขอให้จ่ายเงินปันผลในส่วนที่เสียภาษีที่สูงก่อน เช่น 25%,23%
A: เราทำคะ ปันผลไม่ถึงrate 20%
Q: อยากทราบเรื่องการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงที่ลงในหนังสือประชุมประจำปี
A: ตัวอนุพันธ์เงินตราต่างประเทศ OEC ให้เราทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเมื่อเราลงทุนเพิ่มขึ้น
Q: สินทรัพย์ประกันภัยต่อคืออะไร
A: หน้า 37 try to manage risk , pending correction to pay back
ปกติธุรกิจประกันภัยลดความเสี่ยงจากการประกันภัยต่อ เลยมาอยู่บรรทัดนี้ แต่เราทำประกันภัยต่อน้อยมาก
Q: คุณ ฮั่งใช้ เป็นผู้กล่าวและให้ผู้ถือหุ้นทุกท่าน ขอยืนไว้อาลัย สำหรับ คุณวิรัตน์ รัตนพร ที่เสียชีวิตไปเมื่อ กพ 16
หลังจากไว้อาลัย ขอฝากเรื่องการทำกำไรสูงขึ้นด้วยครับ
ขอจบการสรุปการประชุมของ SCBLIF ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 339
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุป สาระสำคัญ ในการประชุม AGM ปี2559
โพสต์ที่ 30
สรุปการประชุม AGM หุ้น COL ประจำปี 2016
http://www.dojii.net/2016/04/col-agm-y2016.html#more
ปี 2015 รายได้รวม 10,827 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขาย 10,035 ล้านบาท แบ่งเป็น
รายได้ OFM 6,053 ล้านบาท (60%)
รายได้ B2S 3,708 ล้านบาท (37%)
รายได้ Online 275 ล้านบาท (3%)
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 2,741 ล้านบาท กำไรสุทธิ 397 ล้านบาท
ธุรกิจ OFM
สิ้นปี 2015 สาขารวม 58 สาขา ในจำนวนนี้มีบริการ Premium Corner 41 สาขา Printing Solution 41 สาขา Pack & Post 39 สาขา
จัดสัมมนา e-Procurement มีผู้เข้าร่วม 400 ราย / ครั้ง
เพิ่ม Own Brand ใหม่สำหรับ Office Supplies ชื่อแบรนด์ one ส่วนเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ FURRADEC ทำได้ค่อนข้างดี
ธุรกิจ B2S
สิ้นปี 2015 สาขารวม 94 สาขา
สาขารูปแบบใหม่ที่ Westgate สามารถ Breakeven ใน 6 เดือน ในขณะที่สาขาปกติใช้เวลา 2 ปี
Own Brand ของ B2S เน้นทาง Design ชื่อแบรนด์ me.style
The 1 Book เป็น e-book ของ B2S มียอดขายมากกว่า 100 ล้าน
ธุรกิจ Online
ให้บริการ Click & Collect ซื้อ Online รับของที่ห้าง Central ปัจจุบันทำได้ 10 กว่าสาขา อนาคตจะขยายให้ครบทุกสาขาทั่วประเทศ
แผนงานปี 2016
ธุรกิจ OFM
เปิดสาขาใหม่ 8 สาขา ในรูปแบบใหม่ ปรับ Mix สินค้าในแนวคิด Omni-Channel สั่งซื้อและรับสินค้าระหว่าง Online และหน้าร้าน
ปรับปรุงแคตตาล็อกรายเดือน แยกแคตตาล็อกเฟอร์นิเจอร์ออกมาต่างหาก
จัดสัมมนา e-Procurement ทุกไตรมาส
ปรับ Website ใหม่ในปีนี้
ธุรกิจ B2S
เปิดสาขาใหม่ 6 สาขา
สาขา Eastville งบประมาณลงทุน 300 - 400 ล้านบาท เปิดปลายเมษายน รูปแบบ Model ใหม่
เน้น e-Library
เพิ่มสินค้า Life Style เพิ่มสัดส่วน Own Brand
ธุรกิจ Online
พัฒนา Web ให้เป็น MarketPlace
ปรับโครงสร้างการถือหุ้นของ Central Group Online เป็น CNG 49% HCDS 51%
แผนขยายต่างประเทศ
เปิด 1 - 2 สาขาในโฮจิมินห์ ประมาณไตรมาส 3 ปี 2016 รูปแบบ OFM + B2S
ผลประกอบการ Online ต่ำกว่าเป้าเนื่องจากการแข่งขันรุนแรงมาก ไม่อยากขายขาดทุนเพื่อดึงลูกค้าเข้ามาเพราะการตัดราคาสำหรับธุรกิจ Online ไม่สามารถดึงลูกค้าให้อยู่กับเราได้
จากยอดขาย Online 275 ล้านบาท ขาดทุนไป 100 กว่าล้านบาท แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ผลประกอบการภาพรวมสามารถประคองได้
พยายามให้ Online ขาดทุนไม่มากแต่ยังคงรักษาการเติบโตได้
กลยุทธ์สำหรับ Online ใช้ Last Man Standing เชื่อว่า COL สามารถยืนได้ในระยะยาว
ทำโปรโมชั่น O2O ไขว้กันระหว่าง Online กับ Store
หลังจากปรับการถือหุ้นใน Online จะทำให้การทำการตลาดดีขึ้นจากเดิมที่ COL จ่ายเองทั้งหมดเป็นบริษัทในเครือ Central ช่วยทำการตลาดด้วย
เงินลงทุน Online ในบริษัทใหม่สำหรับ MarketPlace เริ่มต้นประมาณ 300 ล้านบาท โดย CNG ลงทุน 49% ปัจจุบันคิดว่าเงินลงทุนยังคงเพียงพอ
สัดส่วนการขายจาก SME ใน Central Online ยังไม่ถึง 1%
การบริหาร Logistic ใช้ของ HCDS ร่วมกับบริการ Click & Collect ช่วยให้ประหยัดขึ้น
ปี 2016 ตั้งเป้าภาพรวมเติบโต 10%
ค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากรไม่น่าจะสูงกว่านี้มากนัก
สำหรับต่างประเทศก่อนไปประเทศอื่นต้องดูในเวียดนามให้ดีก่อน ด้านพนักงานให้คนเวียดนามมาฝึกงานในไทยแล้วส่งกลับไปทำงานที่เวียดนาม หากจะขยายไปประเทศอื่นจะใช้ Format เดียวกับเวียดนาม
Service ใหม่ๆ ของ OFM ไม่ว่าจะเป็น Printing Solution หรือ Pack & Post ปัจจุบันมีรายได้ประมาณ 2 - 3% ของรายได้รวม ในอนาคตระยะยาวควรจะถึง 10 - 15%
OFM ตั้งเป้าภายใน 5 ปีข้างหน้าควรจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ด้าน Potential ของ OFM เชื่อว่าสามารถเพิ่ม Market Share ได้มากขึ้น
e-Ordering ที่สโตร์จะมีทุก Retail ในอนาคต เริ่มที่ B2S
การ Breakevent ของ Online ถ้าตาม Budget ที่ตั้งไว้จะอยู่ที่ประมาณ 3 - 4 ปี แต่หากการแข่งขันรุนแรงระยะเวลาอาจเลื่อนออกไปอีก
การลงทุนกับ Start Up ตั้งเป้าคาดหวังให้ Start Up เหล่านั้นสามารถ IPO ได้
คลิปการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น COL ประจำปี 2559
http://col.listedcompany.com/wp.html/t/ ... /e/agm2016
เอกสารประกอบการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น COL ประจำปี 2559
http://col.listedcompany.com/misc/prese ... gm2016.pdf
http://www.dojii.net/2016/04/col-agm-y2016.html#more
ปี 2015 รายได้รวม 10,827 ล้านบาท เป็นรายได้จากการขาย 10,035 ล้านบาท แบ่งเป็น
รายได้ OFM 6,053 ล้านบาท (60%)
รายได้ B2S 3,708 ล้านบาท (37%)
รายได้ Online 275 ล้านบาท (3%)
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 2,741 ล้านบาท กำไรสุทธิ 397 ล้านบาท
ธุรกิจ OFM
สิ้นปี 2015 สาขารวม 58 สาขา ในจำนวนนี้มีบริการ Premium Corner 41 สาขา Printing Solution 41 สาขา Pack & Post 39 สาขา
จัดสัมมนา e-Procurement มีผู้เข้าร่วม 400 ราย / ครั้ง
เพิ่ม Own Brand ใหม่สำหรับ Office Supplies ชื่อแบรนด์ one ส่วนเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ FURRADEC ทำได้ค่อนข้างดี
ธุรกิจ B2S
สิ้นปี 2015 สาขารวม 94 สาขา
สาขารูปแบบใหม่ที่ Westgate สามารถ Breakeven ใน 6 เดือน ในขณะที่สาขาปกติใช้เวลา 2 ปี
Own Brand ของ B2S เน้นทาง Design ชื่อแบรนด์ me.style
The 1 Book เป็น e-book ของ B2S มียอดขายมากกว่า 100 ล้าน
ธุรกิจ Online
ให้บริการ Click & Collect ซื้อ Online รับของที่ห้าง Central ปัจจุบันทำได้ 10 กว่าสาขา อนาคตจะขยายให้ครบทุกสาขาทั่วประเทศ
แผนงานปี 2016
ธุรกิจ OFM
เปิดสาขาใหม่ 8 สาขา ในรูปแบบใหม่ ปรับ Mix สินค้าในแนวคิด Omni-Channel สั่งซื้อและรับสินค้าระหว่าง Online และหน้าร้าน
ปรับปรุงแคตตาล็อกรายเดือน แยกแคตตาล็อกเฟอร์นิเจอร์ออกมาต่างหาก
จัดสัมมนา e-Procurement ทุกไตรมาส
ปรับ Website ใหม่ในปีนี้
ธุรกิจ B2S
เปิดสาขาใหม่ 6 สาขา
สาขา Eastville งบประมาณลงทุน 300 - 400 ล้านบาท เปิดปลายเมษายน รูปแบบ Model ใหม่
เน้น e-Library
เพิ่มสินค้า Life Style เพิ่มสัดส่วน Own Brand
ธุรกิจ Online
พัฒนา Web ให้เป็น MarketPlace
ปรับโครงสร้างการถือหุ้นของ Central Group Online เป็น CNG 49% HCDS 51%
แผนขยายต่างประเทศ
เปิด 1 - 2 สาขาในโฮจิมินห์ ประมาณไตรมาส 3 ปี 2016 รูปแบบ OFM + B2S
ผลประกอบการ Online ต่ำกว่าเป้าเนื่องจากการแข่งขันรุนแรงมาก ไม่อยากขายขาดทุนเพื่อดึงลูกค้าเข้ามาเพราะการตัดราคาสำหรับธุรกิจ Online ไม่สามารถดึงลูกค้าให้อยู่กับเราได้
จากยอดขาย Online 275 ล้านบาท ขาดทุนไป 100 กว่าล้านบาท แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ผลประกอบการภาพรวมสามารถประคองได้
พยายามให้ Online ขาดทุนไม่มากแต่ยังคงรักษาการเติบโตได้
กลยุทธ์สำหรับ Online ใช้ Last Man Standing เชื่อว่า COL สามารถยืนได้ในระยะยาว
ทำโปรโมชั่น O2O ไขว้กันระหว่าง Online กับ Store
หลังจากปรับการถือหุ้นใน Online จะทำให้การทำการตลาดดีขึ้นจากเดิมที่ COL จ่ายเองทั้งหมดเป็นบริษัทในเครือ Central ช่วยทำการตลาดด้วย
เงินลงทุน Online ในบริษัทใหม่สำหรับ MarketPlace เริ่มต้นประมาณ 300 ล้านบาท โดย CNG ลงทุน 49% ปัจจุบันคิดว่าเงินลงทุนยังคงเพียงพอ
สัดส่วนการขายจาก SME ใน Central Online ยังไม่ถึง 1%
การบริหาร Logistic ใช้ของ HCDS ร่วมกับบริการ Click & Collect ช่วยให้ประหยัดขึ้น
ปี 2016 ตั้งเป้าภาพรวมเติบโต 10%
ค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากรไม่น่าจะสูงกว่านี้มากนัก
สำหรับต่างประเทศก่อนไปประเทศอื่นต้องดูในเวียดนามให้ดีก่อน ด้านพนักงานให้คนเวียดนามมาฝึกงานในไทยแล้วส่งกลับไปทำงานที่เวียดนาม หากจะขยายไปประเทศอื่นจะใช้ Format เดียวกับเวียดนาม
Service ใหม่ๆ ของ OFM ไม่ว่าจะเป็น Printing Solution หรือ Pack & Post ปัจจุบันมีรายได้ประมาณ 2 - 3% ของรายได้รวม ในอนาคตระยะยาวควรจะถึง 10 - 15%
OFM ตั้งเป้าภายใน 5 ปีข้างหน้าควรจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท ด้าน Potential ของ OFM เชื่อว่าสามารถเพิ่ม Market Share ได้มากขึ้น
e-Ordering ที่สโตร์จะมีทุก Retail ในอนาคต เริ่มที่ B2S
การ Breakevent ของ Online ถ้าตาม Budget ที่ตั้งไว้จะอยู่ที่ประมาณ 3 - 4 ปี แต่หากการแข่งขันรุนแรงระยะเวลาอาจเลื่อนออกไปอีก
การลงทุนกับ Start Up ตั้งเป้าคาดหวังให้ Start Up เหล่านั้นสามารถ IPO ได้
คลิปการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น COL ประจำปี 2559
http://col.listedcompany.com/wp.html/t/ ... /e/agm2016
เอกสารประกอบการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น COL ประจำปี 2559
http://col.listedcompany.com/misc/prese ... gm2016.pdf