คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
Green
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2846
ผู้ติดตาม: 1

คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

บทความหนึ่ง ที่ท่าน ดร. นิเวศน์ เขียนเมื่อ ปีสองปีก่อน
ว่าหมดช่วงยุคทองของวีไอในประเทศไทยแล้ว นับวันผมเริ่มจะเห็นด้วยกับบทความนั้น มากขึ้นเรื่อยๆ

ยิ่งหลักการนี้ แพร่หลาย มีคนนำไปใช้มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โอกาส ที่นักลงทุนวีไอ ที่ใช้หลักการวีไอ ลงทุนให้ได้ผลตอบแทน เหนือกว่าตลาดยิ่งเป็นไปได้ยากขึ้นเพราะใครๆ ก็ใช้หลักการนี้

การหาหุ้นที่ มีมูลค่าตำ่กว่าความเป็นจริง เป็นบริษัทที่มีคุณภาพ DCA สูง สามารถขยายการเจริญเติบโตออกไปได้ นับวันก็ยิ่งหายากขึ้นทุกที

สถานการณ์ ช่วงนี้แตกต่างกับ เมื่อ 10 กว่าปีก่อนอย่างสิ้นเชิง
เมื่อก่อน หุ้นที่ดูมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง และมี Growth ด้วย หาได้ง่ายมาก เปรียบเหมือน ที่บัพเฟ่ต ว่าไว้ว่า เหมือนคนบ้า Sex อยู่ใน Harem ผมว่า ผลงานของ วีไอ ในช่วงนั้นทำได้ดีกว่าตลาดมากนั้น เป็นเรื่องปกติมากๆ

แล้วดูอย่างในปัจจุบันสิ หาหุ้นยากกว่าเดิมมาก ส่วนการทำผลงานดีกว่าตลาดมากๆ นั้นต้องเป็นเรื่องพิเศษ ต้องใช้ความพยายามมากกว่าเดิมเยอะ

เห็นวีไอ หลายๆ ท่าน ก็เริ่มปรับเปลี่ยน เช่น
ไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น (เวียดนาม)
มีการใช้ เมจิก ฟอร์มูล่า ( PE ต่ำ / ROE สูง / ซื้อหลายๆ ตัว )
เน้นเรื่อง Passive investment มากขึ้น

เพื่อนๆ มอง เรื่องนี้ว่าไงบ้างครับ ปรับตัวกับสถานการณ์ อย่างไรกันบ้าง มีการใช้หลักการ แทคติก อะไรกันบ้างในช่วงนี้ครับ ที่จะทำให้ผลตอบแทนเรา ดีกว่าตลาด ได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต ครับ
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.

Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมยังคิดในแง่ดีนะ

หากนักลงทุนวีไอเป็นส่วนน้อยของตลาด
ไม่ว่าตลาดเป็นอย่างไร คนส่วนน้อยก็ยังทำได้ดี แม้่ไม่เท่าในอดีตที่ดีเกินจริง
ดูปีนี้ซิ มีกี่คนที่ทำได้ดีมาก

ถ้ามันยากขึ้นจริง
ปรับลดความคาดหวัง คือเรื่องที่ง่ายที่สุด
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
duravit
Verified User
โพสต์: 249
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เห็นด้วยครับ ส่วนตัวคิดว่า ลงทุนแนว VI มีปีที่ดีและไม่ดี ผสมกันไป แต่ Long run แล้วผลตอบแทนควรที่จะดีกว่าตลาดครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
astro345
Verified User
โพสต์: 600
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เห็นด้วยกับท่านนายกฯ ครับ ถ้าเรายังเชื่อมันในหลักการวีไอ ก็ต้องอดทนรอได้ (บอกกับตัวเอง) ทำงานไปและหมั่นหาความรู้-สะสมเสบียงอาวุธให้พร้อมสักวันต้องมีกวางตัวอ้วนๆ ให้เราจับได้แน่นอน... :mrgreen:
วัวทะโมน
Verified User
โพสต์: 248
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

หุ้นประเภท"ยอดขายและกำไรเพิ่มขึ้นติดต่อกันหลายๆไตรมาส"คงหายาก การผูกขาดทางธุรกิจทำได้ยากขึ้นถึงจะมีก็ราคาไปไกลแล้ว โดยส่วนตัวยังไม่ไปตลาดต่างประเทศเพราะกังวลเรื่องการเข้าถึงข้อมูล กะว่าถ้ามี port 9หลักค่อยไป :B :B :B
ตัวเองคงต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหา "หุ้นเติบโตที่มี margin of safetyพอสมควร" ต่อไป แต่อาจเพิ่มสัดส่วนของหุ้นวัฏจักรซึ่งเป็นหุ้นที่มีอยู่ในตลาดเสมอแต่การหาจังหวะเข้าออกตามวัฏจักรจะเป็นตัวทำกำไรอย่างงาม อีกกลุ่มที่อาจเพิ่มสัดส่วนคือหุ้นประเภท"เล่นกับอนาคต"ซึ่งหุ้นประเภทนี้คงออกแนวเก็งกำไรเก็งอนาคตและเล่นกับความคาดหวังของตลาดแต่การกำหนดจังหวะเข้าออกอีกเช่นกันก็น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดี....กรอบเวลาเฉลี่ยของตัวเองจะค่อนข้างสั้นอยู่แล้วคือหลายๆเดือนจนถึงปีสองปีเพราะค่อนข้าง aggressive
ภาพประจำตัวสมาชิก
คนขายของ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 792
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

โดยส่วนตัวแล้วผมไม่ค่อยให้น้ำหนักว่า VI จะหมดยุคทองแล้วหรือยัง ทั้งนี้เป็นเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่ แต่ผมจะสนใจว่าความสามารถในการทำกำไรในตลาดหุ้นของผมหมดไป
แล้วหรือยัง เหมือนที่ Buffett กับ Munger เคยพูดไว้ว่า นักลงทุนควรขยายCircle of Competence ให้กว้างขึ้น ผมเชื่อว่าถ้า Circle ของผมใหญ่พอ ผมก็ยังคงสามารถหาโอกาสทำกำไรงามๆจากตลาดหุ้นได้อยู่เสมอ จากบทเรียนในอดีต ผมได้เรียนรู้ว่า"อคติส่วนตัว" ทำให้ผมพลาดโอกาสงามๆไปหลายครั้ง หากผมลดเรื่องนี้ลงได้ ผมเชื่อว่าโอกาสทำกำไรงามๆในตลาดยังคงมีอยู่ ... ลองดูอย่างปีนี้ (2559) บ้านปู และ สผ ขึ้นมาจาก 52week low กี่เปอร์เซนต์
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
ภาพประจำตัวสมาชิก
vim
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2770
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เวลาหาหุ้นไม่ได้ ผมชอบถามตัวเองอยู่บ่อยๆ ว่า
1. เราเชื่อมั่นในหลักการวีไอแค่ไหน
2. เราสามารถหาตัวเลือกในการลงทุนที่ดีกว่าที่มีได้ไหม

ผมก็มีคำตอบของผมเอง ซึ่งอาจไม่เหมือนกับใคร

สำหรับผมการลงทุนแนววีไอ โดยเฉพาะแนวดั้งเดิมของเบ็นเกรแฮม นั้นสาระสำคัญอยู่ที่คำว่า "value" หรือมูลค่า

มันเป็นหลักการทำให้เราเห็นมูลค่าที่แท้จริงของสิ่งที่เราลงทุนไป ไม่ไปหลงกับราคาตลาดที่คนอื่นให้ ผมตีความว่าหลักการนี้ไม่ได้บอกว่าเราจะได้ผลตอบแทนดีเลิศกว่าหลักการไหนๆ แต่อย่างน้อยมันเป็นหลักการที่ไม่ทำให้เราจน และทำให้เราอยู่รอดได้นานที่สุด

ถ้ายอมรับหลักการตรงนี้ได้ ก็จะทำให้เราไม่ยึดติดกับผลตอบแทนของตลาด หรือผลตอบแทนของเพื่อนๆนักลงทุนคนอื่นมากไปนัก ถ้ารับไม่ได้ก็คงต้องอย่าไปยึดมัน มันอาจไม่เหมาะกับเรา หลักการอื่นอาจถูกจริตกว่า

นอกจากหลักการการ VI แล้ว อีกส่วนหนึ่งคือ"ตัวเลือก" โดยเฉพาะตัวเลือกในการลงทุน ซึ่งตัวเลือกเหล่านี้แต่ละคนมีไม่เท่ากัน เช่นในตลาดหุ้นไทยเอง แต่ละคนก็มีความรู้แตกต่างกัน มีความสามารถในการลงทุนแตกต่างกัน ถ้าอยากมีทางเลือกมากขึ้น เราก็ต้องพัฒนาตัวเอง หาความรู้เพื่อสร้างตัวเลือกใหม่ๆ หรือที่เรียกว่าสร้าง circle of competence

นอกจากตลาดหุ้นไทยแล้ว บางคนมีโอกาสและความรู้ที่จะไปลงทุนหุ้นต่างประเทศ หรือแม้แต่นอกตลาดหุ้น บางคนมีโอกาสนำเงินไปลงทุนในธุรกิจตัวเอง บางคนก็เอาไปปล่อยกู้ บางคนก็เอาไปลงทุนกับอสังหาฯ บางคนมีโอกาสไปร่วมลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ ตัวเลือกต่างๆเหล่านี้ล้วนมาจาก circle of competence ของแต่ละคนที่แตกต่างกัน

ส่วนตัวผม ผมคิดว่าผมยังหาหลักการที่ถูกจริตกับผมเองกว่าหลักวีไอไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าตัวเลือกการลงทุนใหม่ๆมันมักจะมาเรื่อยๆตราบใดที่เรายังไม่เลิกพัฒนาตัวเอง
Vi IMrovised
ภาพประจำตัวสมาชิก
anubist
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1373
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ผมคิดว่าพี่ยึดติดกับคำว่า 'durable' competitive advantage มากเกินไปครับ
เพราะคำว่า'durable'นั้นหายากมากๆ ที่เจอก็มักเป็นหุ้นยอดนิยมราคาสูงไปแล้ว
ทำให้ผลตอบแทนที่ได้ต่ำกว่าคาดจากราคาหุ้นที่อาจมีmosน้อยหรือfull valueไปแล้ว
ถ้าตัดdurableออกไป เหลือแค่competitive advantageระยะ2-3ปี หรือไม่เกิน5ปี พี่น่าจะเจอหุ้นที่มีvalueมากขึ้น
แน่นอนว่าต้องทำการบ้านมากขึ้น แต่โดยปกติเราก็ต้องทำการบ้านเพื่อเพิ่ม cycle of competenceอยู่แล้ว
และถ้าย้อนไปยุคแรกของแกรมแฮม เค้ายังหยิบหุ้นก้นบุหรี่ที่ไม่มีdcaมาเล่นเลย

อีกแง่หนึ่งคือ พี่ใช้timeframeในการวัดผลผิดไป
ถ้าพี่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีdca พี่ต้องให้เวลาเค้าค่อยๆแสดงคุณค่าที่แท้จริงออกมาก ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่า1ปี อาจ3-5ปีหรือนานกว่านั้น(แต่ผมไม่รู้ว่าการใช้ timeframe นานๆเป็นสิ่งที่ถูกต้องรึเปล่าเพราะเงินหาย ขาดทุน ก็ทำงานหาเงินมาเติมพอร์ทได้ แต่เวลาใช้แล้วหมดไปเรียกคืนไม่ได้
บางทีผมก็คิดว่า'เวลา'เป็น ultimate commodity ที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้)
ทุนน้อยและหลุดดอยแล้ว เย้ๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
XO
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1011
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผมชอบกระทู้นี้ของคุณ green ครับ ส่วนตัวผมมักลืมคิดถึงแนวโน้มของภาพใหญ่

สัดส่วน VI ในตลาดน่าจะมากขึ้นกว่าสมัยหลายปีก่อน แต่ผมยังไม่ค่อยแน่ใจว่า รวมๆแล้ว ปัจจุบันจะเป็นสัดส่วน เท่าไร ถึงครึ่งของตลาดหรือไม่ หรือ ยังเป็นคนส่วนน้อย (ใครพอทราบ ช่วยแชร์ทีนะครับ)
ส่วนเรื่องเรื่องการหาหุ้นผมเห็นด้วยว่ายากขึ้น เนื่องจาก PE ตลาด หรือ หลายๆ sector นั้นค่อนข้างสูง (ตัวธุรกิจดีๆมีไม่น้อยไปกว่าเดิมหรอกครับ แต่เห็นราคาแล้วมันซื้อไม่ลง)
แต่ผมว่าตลาดก็คงตัวระดับค่อนข้างสูงแบบนี้มานานสัก 2-3 ปี แล้วเหมือนกัน จึงคงเรียกได้ว่าไม่ได้ยากไปกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา
สุดท้ายเรื่องการทำผลตอบแทนให้ดีนั้น ผมว่ายังเป็นไปได้อยู่มากพอควร อย่างปีนี้ นับตั้งแต่ 1 มกรา 59 ถึงวันนี้ เพียงแค่ทำผลตอบแทนได้เท่ากับตลาดพอดี ก็ มีผลตอบแทนที่น่าพอใจ ถึงประมาณ 17% (ดัชนีเพียวๆ) หรือ 22% ในกรณี ที่รวมปันผลแล้วครับ

ผลตอบแทนส่วนตัวของผมก็ถือว่ายังทำได้ดีพอสมควรในปีนี้ ยืนเหนือตลาดได้เล็กน้อย ถ้าถามว่าได้ปรับตัวอย่างไรไปบ้าง
ขอแชร์ว่า เคยคิดว่าจะแบ่งสัดส่วนมาถือเงินสด หรือ ไปลง ตปท เหมือนคนอื่นเค้าบ้างเหมือนกันครับ แต่หาไปหามา ก็ยังหาหุ้นไทยให้ลงทุนได้ 5-10 ตัว
สุดท้ายแล้วเกือบ100% ก็เลยยังอยู่ในหุ้นไทยเหมือนเดิมครับ
อย่าพยายามเข้าใจ จงใช้ความรู้สึก :oops:
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ไม่เคยมียุคทองส่วนตัว สบายไป คับ

มองแง่ดี คือ หุ้นวิ่งเร็วคับ สะท้อนราคาอนาคตไว
และมีคนยอมจ่าย

แต่แน่นอน ว่า การปรับกระบวนทัศน์ความคิด กับ เปิด risk exposure
มันทำใจยาก

หุ้นบางตัว เราพอมองออกว่า มันขึ้นไม่ถาวร แต่ราคามันขึ้นหรือ สะท้อน growth
ที่ยังไม่เกิด อีกหลายปี เราเองยากที่จะทำใจไม่มีส่วนร่วม
และพยายามหา กลยุทธ ที่จะ capture ผลตอบแทนส่วนนั้นทั้งที่รู้ว่ามันไม่ยั่งยืน
ซึ่งแตกต่างจากกระบวนทัศน์ สมัยที่ผ่านมา
ที่อาจจะเป็น buy and hold

หุ้นดีๆ กะมีrisk exposure แม้ว่าจะดีแค่ไหนและราคาขึ้น
เช่น cpall ตกลงมา 38-40 ก่อนเด้งไป 60+ ถามว่า
หาหุ้นได้ แล้วลงทุนได้ไหม คำตอบคือได้ แต่ถามว่า
กล้าใช้กลยุทธ buy and hold cpall ต่อไปไหม หลายคนอาจจะตอบไม่


สรุป ผมว่า มันพอทำหากิน ได้ แต่มันต้องปรับตัว ปรับวิธีการ
กลยุทธ และ พาราดามความคิด
การไป ตปท เราอาจจะเจออุปสรรคใหม่ แต่ พาราดาม มันไม่เปลี่ยนมาก
ความรู้สึกเลยเหมือน ง่ายกว่าหากินในไทย

ปล มั่วๆเอาคับ ส่วนนึงกะจาก ปสก ตรงด้วย
show me money.
saichon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1223
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ผมยังชอบและสนุกกับการติดตามความก้าวหน้าของธุรกิจที่ผมลงทุนอยู่
และคิดว่าคงจะทำแบบนี้ตลอดไป ไม่ว่ามันจะหมดยุคทอง(ของวีไอ)ไปหรือไม่ครับ :wink:
ซื้อหุ้นตัวที่เมื่อมองไปในอนาคตแล้ว ที่ปัจจุบันราคายัง undervalue ที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Highway_Star
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 452
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ผมเห็นต่างกับหลายคนในนี้แฮะ
คือผมว่าความ sexy ของหุ้นไทยมันลดลง (ยังไม่เคยเล่นหุ้นนอกอยู่ดี 555) คือเห็นแล้วไม่อยากได้มาก เห็นแล้วเฉยๆ
เพราะผมเอาไปเทียบกับสมัยก่อนๆ ที่หุ้นมันดูดี sexy เต็มตลาด เฮ้ย ดูตัวนี้สิกำไรดี ราคาต่ำ อร่อย
เดี๋ยวนี้ด้วยความที่ circle of competance ของผมมันแคบ หุ้นที่คุ้นๆ มันก็ขึ้นๆ พอมันขึ้น มันก็ดูไม่สวยไม่เซ็กซี่แล้ว ไม่อยากได้

หุ้นมันก็หายากขึ้นจริงๆ แหละครับ เพราะการลงทุนมัน mass มากขึ้น
ขยาย COC แล้ว ก็จะไปชนกับกลุ่มคนบางกลุ่มอยู่ดี
ผลงานตอนนี้ถ้าได้มา 10% 20% 30% ต่อปี เอาจริงๆ มันไม่ตอบโจทย์ผมแล้ว
ว่ากันซึ่งๆ ถ้าใครอยากรวยเร็ว(ผม) ผลตอบแทนเท่านี้มันไม่ตอบโจทย์ใดๆ
เช่นเงินต้นสมมติ 1 ล้าน กำไร 30% ได้มา 3 แสนบาทต่อปี หรือ 25,000 บาท/เดือน
ถ้าเล่นหุ้นเป็นอาชีพ"อย่างเดียว" ไม่น่าจะพอต่อคุณภาพชีวิตที่ดีพอประมาณได้
เพราะคุณต้องใช้เงินจำนวนนี้ในชีวิตประจำวัน จะ reinvest 25,000 มันก็ยากอยู่ ดังนั้นเงินในพอร์ตก็น่าจะแค่ทรงๆ อยู่ที่ 1 ล้านบาทนิดๆ
คือเพิ่มไม่มากในแต่ละปี ทั้งๆ ที่ทำผลตอบแทนได้ตั้ง 30%

เมื่อก่อนที่หุ้นหลายเด้งหาง่ายกว่านี้เยอะ มันยังตอบโจทย์อยู่ก็เข้าไปร่วมวงได้
สำหรับตอนนี้ผมมองว่าตลาดหุ้นไทย เหมาะสำหรับคนที่ port ใหญ่อยู่แล้วและมีเงินนอนนิ่งอยากจะกระจายความเสี่ยง หรือเพิ่ม wealth มากกว่า ถ้าเพิ่งเริ่มแล้วอยากจะรวยไวๆ นี่ยากกว่าเดิมเยอะ
อยากรวยเร็ว(ผม again) ทำธุรกิจแล้ว flip เอาดีกว่าครับ
ปล. นี่เงื่อนไขสำหรับอยากรวยไวๆ เท่านั้นครับ ถ้าใจเย็นก็ค่อยๆ ทำกันไป ไม่มีอะไรเสียหาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Renne
Verified User
โพสต์: 322
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

อาจจะเป็นเพราะด้วยลักษณะของตลาดด้วยครับ

ผมเองก็หายหน้าหายตาไปนาน น่าจะนานจน User ใหม่ๆไม่คุ้นชื่อแล้วละ 55
จริงๆก็แวะมาอ่านบ้าง ส่วน port ก็แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมีอยู่ 4 ตัว แล้วก็คาไว้แบบนั้น
อาจจะมีปรับสัดส่วนบ้างตามความเหมาะสม สัดส่วนที่ว่าไม่ใช่สัดส่วนหุ้น แต่เป็นสัดส่วนการลงทุน
เช่นแบ่งไปลงทุนในสหกรณ์ออมทรัพย์ และอื่นๆ หรือถ้ามีเงินก็หาซื้อที่ดินเพิ่ม อะไรแบบนี้

ในบางครั้งผมว่าตลาดก็มีลักษณะของมัน ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่ามันจะวนลูปไหม เพราะผมก็ไม่เคย
สัมผัสตลาดช่วงก่อนปี 40 จนถึงปี 45-46 แต่ก็เชื่อว่าลักษณะตลาดก็คงเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย
แนวความคิดผมในปัจจุบันก็เริ่มเปลี่ยน จากที่คิดว่าจะลงทุนในหุ้นอย่างเดียว ก็มองการลงทุนใน
รูปแบบอื่น เพื่อชดเชยและกระจายความเสี่ยงให้ได้ผลตอบแทนเหมาะสมแทน จากที่เคยคาดหวัง
ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 15-17% ต่อปี ปัจจุบันก็ลดลง ถ้าได้สัก 13-15% ต่อปี ผมก็ถือว่าโอเค
สำหรับตัวผมเองแล้ว การเติบโตหักลด%เงินเฟ้อต่อปี เกิน10% ก็ถือว่าอยู่ได้ ได้มากกว่าก็กำไร

ผมว่าถึงตลาดและทุกอย่างมันจะไม่เหมือนเดิมแล้ว แต่การที่เราลงทุนและศึกษาอย่างไม่มีหยุด
พยายามเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่อยๆ มันทำให้เรา mature ขึ้นนะ พอเราโตขึ้น อายุมากขึ้น มุมมองต่อโลก
หรือต่อตลาดทุนมันก็เปลี่ยนไปบ้าง อาจจะไม่หวือหวาหรือตื่นเต้นน่าค้นหาแบบในอดีต (อาจจะเฉพาะ
ผมนะครับ) แต่เราก็นื่งขึ้นพอที่จะมองอะไรได้กว้างขึ้น

ทุกวันนี้ผมถือคติง่ายๆ ก็แค่เงินทุกบาทพยายาม ให้มันทำงานโดยไม่แพ้เงินเฟ้อ กับวางแผนชีวิตใน
อนาคตว่าเราจะอยู่อย่างไร อะไรคือความสุขของเรา พยายามไม่ตั้งเป้าเป็นยอดหรือตัวเงินมากเหมือนแต่ก่อน
แต่การที่เรามีความสุขที่ได้นั่งคิด นั่งวิเคราะห์และลงทุน จากนั้นดูผลลัพธ์ของเรา ถ้ากำไรขึ้นเราก็อิ่มใจและ
รู้สึกภูมิใจกับการที่ได้ลงทุน ถ้าขาดทุนก็เรียนรู้จากมันและก็หาทางป้องกันในอนาคต การที่เราทำอะไร
สักอย่างด้วยตัวเราเอง ก้าวเดินและวิเคราะห์ด้วยตัวเราเอง ถ้าถึงจุดที่ประสบความสำเร็จ ผมว่าตัวเราเอง
ในอนาคตคงจะภูมิใจกับความรู้สึกตอนนั้นมากเลยละ

ปล. พิมพ์มาซะยาว แทบไม่ได้เกี่ยวกับหัวข้อเลย 55 แต่ยังจำ User เก่าๆได้หลายท่านนะครับ ไม่ได้มานาน
พอมาก็เลยระบายอะไรเต็มไปหมด หวังว่าคงไม่ว่ากัน
"มีสติ คิดก่อนทำ และอย่าดูถูกตลาดมากเกินไป"
"เป็นเรื่องง่ายที่จะถือหุ้นเอาไว้ให้นานและี่ยากที่จะรอซื้อในราคาที่เหมาะสม"
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4366
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

เผื่อไว้เป็นข้อมูลครับ สำหรับช่วงเวลาที่ใครๆ มองว่าตลาดหุ้นไทยหมดยุคทอง :8)
แนบไฟล์

Night90
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 160
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ปีนี้ หมดยุคทองแล้ว แต่ถ้า
เรารู้ทรัพย์แฝงได้ เราก็ตีแตกหุ้นบางตัว
เรารู้ยอดขายที่ลดแบบชั่วคราวเราก็ตีแตกหุ้นบางตัว
เรารู้รายจ่ายเกิดขึ้นชั่วคราวเราก็ตีแตกหุ้นบางตัว
ฯลฯ

เสียดายเหมือนกันที่เขียนมาข้างบนผมก็ถึงบางอ้อช้าเกินไป เพราะรู้ไม่พอ

มันไม่ใช่หมดยุคทองครับ มันคือการหมดปัญญา สิ่งที่ต้องทำคือไปหา ปัญญา(ความรู้) เพิ่ม
prichar s.
Verified User
โพสต์: 1426
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ไม่มียุคทองหรือปีทองหรอก
มีแต่ปีที่ง่ายกับปีที่ง่ายน้อยกว่า

ขยันทำการบ้าน - กิจการดีมีมากมาย หุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีมีถมไป
................................................................................................
ความผิดพลาด บ่อยครั้งไม่ได้เกิดจากการมีข้อมูลผิด แต่เกิดจากการวิเคราะห์พลาด -Roger Bootle
ภาพประจำตัวสมาชิก
ส.สลึง
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3750
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ถ้าจะเปรียบเทียบ ผลตอบแทน
เป็นสิ่งของที่จับต้องได้
margin of safety ก็คงเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น

การที่เราได้รับผลตอบแทนที่ดี
ก็ไม่ได้หมายความว่า...
เป็นการลงทุนที่ปลอดภัยพออยู่หรือเปล่า ?

บางที...
เราอาจจะอยู่ในตำแหน่งที่
ได้ผลตอบแทนที่ดีในตลาด
แต่อาจจะไม่ค่อยจะปลอดภัยอยู่ก็ได้

บรื๋อออออ....
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <⁠(⁠ ̄⁠︶⁠ ̄⁠)⁠> ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดำ
Verified User
โพสต์: 4366
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ส.สลึง เขียน:ถ้าจะเปรียบเทียบ ผลตอบแทน
เป็นสิ่งของที่จับต้องได้
margin of safety ก็คงเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น

การที่เราได้รับผลตอบแทนที่ดี
ก็ไม่ได้หมายความว่า...
เป็นการลงทุนที่ปลอดภัยพออยู่หรือเปล่า ?

บางที...
เราอาจจะอยู่ในตำแหน่งที่
ได้ผลตอบแทนที่ดีในตลาด
แต่อาจจะไม่ค่อยจะปลอดภัยอยู่ก็ได้

บรื๋อออออ....
เป็นความคิดเห็นที่เยี่ยมมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
วิมานดิน
Verified User
โพสต์: 170
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ผมชอบชมรายการ MONEY TALK มากครับ
มีอยู่เทปรายการนึง ของปี 2559 คือ '' กลยุทธ์วีไอในปี 59 Money Talk@SET '' เมื่อ 9 มกราคม 2559
เทปนี้ ผมฟังไป 5 รอบแล้ว!!! ชอบฟังนักลงทุนทุกท่าน ที่ไปให้ความรู้
คือลิ้งค์นี้ กดชมที่ https://www.youtube.com/watch?v=HeqVbMrbmyk&t=1796s

และบังเอิญมีว่า นักลงทุนท่านนึงในเวทีนี้ มีผลงานการลงทุนที่น่าประทับใจมากๆ ในปี 2559
ผมขอแสดงความยินดีด้วยครับ กับ ''คุณประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์''
ซึ่งผมเองก็ไม่ได้รู้จักกับคุณประชา เป็นการส่วนตัว แต่ผมก็ฝากท่านใดก็ตามที่รู้จักคุณประชา ฝากบอกว่าผมยินดีด้วยครับ

( จริงๆแล้วมีนักลงทุนอีกหลายท่าน ที่ลงทุนปี 2559 แล้วทำผลตอบแทนได้ดีมาก แต่ผมขอยกตัวอย่างแค่นี้ก่อนครับ )

กรณีนี้เป็นตัวอย่างที่ดีมากสำหรับผมเอง กล่าวคือ ไม่ว่าสถานการณ์ภาพรวมของตลาดหุ้นเป็นเช่นใดก็ตาม
แต่ถ้าเราขยันทำการบ้าน ฝึกฝนตนเอง ใฝ่หาความรู้อยู่เสมอ เราอาจจะมี''ยุคทองของการลงทุนตลอดไป'' ก็ได้ครับ

ขอขอบคุณ Money Talk อาจารย์ ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา และ อ.เสน่ห์ ศรีสุวรรณ ดำเนินรายการ
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
คุณอนุรักษ์ บุญแสวง
คุณพีรนาถ โชควัฒนา
นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี
คุณประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์
รวมทั้งทีมงานมันนี่ ทอล์ค ทุกท่านด้วยครับ
_____

ไหนๆก็พิมพ์แล้ว ผมขออนุญาตช่วยประชาสัมพันธ์ว่า Money Talk@SET ปี 2560 ครั้งต่อไปมีวันเสาร์ที่ 14 มกราคม 2560
คาดว่าก็คงจะมีเทปรายการ อัพโหลดบน youtube เช่นเดิมครับ
ซึ่งผมเองก็อยากไปชมที่ "ตลาดหลักทรัพย์ฯ" สักครั้ง เพราะอยากได้บรรยากาศเจอสุดยอดนักลงทุน ตัวจริงครับ ^__^

ติดตามรายละเอียด กำหนดวันรับจอง และวันสัมมนา Money Talk@SET ปี 2560
ได้ที่ www.facebook.com/MoneyTalkTV ครับ
ฉันรัก Money Talk
ภาพประจำตัวสมาชิก
newbie_12
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2912
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ก็ต้องทำใจยอมรับในผลตอบแทนที่ลดลงแหละครับ
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง

----------------------------
harikung
Verified User
โพสต์: 2236
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ถ้ายุคทองของวีไอหมายถึงจะหาหุ้นถูกๆแบบไม่น่าเชื่อแล้วได้ซื้อก้อคงหมดแล้วมั้ง(ยกเว้นตลาดcrashจากcrisisไรสักอย่าง)เพราะนลท.เก่งๆเยอะขึ้น แต่อยากจะบอกว่าตลาดมีการพัฒนาตลอด ถ้าไปดูตลาดในประเทศพัฒนาแล้วอย่างเมกาเช่นเมื่อเกือบ100ปีก่อน เบนจามิน เกรแฮมก้อยังหากินกับหุ้นแบบnet netได้อยู่ แต่ปัจจุบันจะมีหุ้นแบบนั้นมั้ย บางทีเราก้อยึดติดกับคำว่าวีไอไปเพราะอ่านหนังสือมาต้องซื้อหุ้นpeต่ำๆ pbvต่ำๆ(ซึ่งหลายๆครั้งมันก้อต่ำแบบมีเหตุผลของมัน) เลยทำให้มองหุ้นpe25-30+แพง(ซึ่งก้อเหมือนกัน มันก้อมีเหตุผลให้มันpeสูง) ปีนี้เป็นปีที่หุ้นขึ้นเยอะมาก ถ้าจะหมดยุคทองก้อคงเป็นพวกที่ยังยึดติดกับราคาหุ้นหรือตลาดสมัยก่อนที่เล่นง่ายเพราะนลท.แล้วfundamentalยังน้อยแต่ตัวตามไม่ทัน(ผมก้อเป็นคนหนึ่งในนั้นนะที่ปรับตัวได้ช้าเพราะยึดติดแต่กับหุ้นpeต่ำเพราะยึดติดกับสิ่บที่อ่านมามากไป หลังๆเลยพยายามปรับตัวยอมซื้อหุ้นpeสูงๆแต่คุณภาพดีขึ้น)
นักเลงคีย์บอร์ด4.0
amornkowa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2576
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 22

โพสต์

ผมว่าบทความที่ ดร เขียนขึ้นเพื่อเตือนว่า ผลตอบแทนที่สูงมากๆในอดีตได้หมดไปแล้ว
แต่ถ้าเราใช้หลักการของ value investment ในการหาหุ้น ก็ยังมีหุ้นที่เข้าข่ายอยู่
เพียงแต่ว่า ราคามันแพงเกินที่รับได้หรือเปล่า
แต่ผมได้หลักการอย่างนึงว่า ถึงหุ้นดีแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าราคาแพงเกินไปมากๆ เช่น
หุ้น IPO ที่พึ่งเข้าตลาดไปเมื่อศุกร์ที่แล้ว ถึงดีแค่ไหนก็ตาม ก็ซื้อไม่ไหว
เราก็ไม่ไปตามกระแส แต่พยายามหาหุ้นที่คนไม่สนใจ และราคาไม่แพง
เพียงแต่รอตัวกระตุ้นให้มันขึ้นไปนั่นเอง บางตัวก็ถือนานมาก เพราะไม่รู้ว่าจะขึ้นเมื่อไหร่
แต่บทที่มันจะขึ้น จะขึ้นจนคุณร้องขอเลยครับ
Green
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2846
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 23

โพสต์

ขอบคุณ พี่ๆ เพื่อนๆ ในทุกๆความเห็นนะครับ รู้สึกดีใจที่มีความเห็นกันมากมาย ช่วงหลังรู้สึกว่ากระทู้ในห้องดีจะเงียบเหงาลงไปพอสมควร อยากให้คึกคักกันแบบแต่ก่อน

สำหรับผม ช่วงปีหลังๆนี้ผมคิดเรื่อง Risk and Reward มากยิ่งขึ้น ท่องเอาไว้เสมอว่าตลอดชีวิตการลงทุน เราจะมีโอกาสผิดได้เสมอ แต่ทำอย่างไรให้เราถูกมากกว่าผิดและหากผิดจะไม่ตาย มีการกระจายถือหุ้นหลายตัวมากยิ่งขึ้น เน้นเรื่องการบริหาร Portfolio มากกว่าเดิม มีเงินสดในพอร์ตแล้วไม่รู้สึกคันมือเหมือนแต่ก่อน เอาไว้รอเมื่อเราเจอการลงทุนที่เหมาะสม

ในวาระสิ้นปีเก่า เริ่มปีใหม่นี้ ขอให้ทุกท่านโชคดี มีสุขกับการลงทุนนะครับ
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.

Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
Feudalz
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1090
ผู้ติดตาม: 0

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 24

โพสต์

จริงๆ ต้องถามว่าหมดยุคทองของวีไอ หรือว่าเราย่ำกับที่กันแน่ครับ เพราะผมก็เห็นมีคนชนะตลาดอยู่ทุกปี อย่าเอาแต่โทษตลาดเลยครับ
drsp
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 411
ผู้ติดตาม: 1

Re: คุยกันเล่นๆ - ทำอย่างไร เมื่อหมดยุคทอง วีไอ

โพสต์ที่ 25

โพสต์

เป็นความจริงที่คนลงทุนแนววีไอมากขึ้น
หุ้นดีและถูกหายากขึ้นมากๆ

แต่การจะเป็นวีไอที่เก่งและเฉียบคม ไม่เคยง่ายเลย
ต้องอาศัยทั้งสติปัญญา ความมุมานะ ประสพการณ์ และระยะเวลาอันยาวนาน
ดังนั้นวีไอที่เก่งจึงเป็นคนจํานวนน้อยในหมู่มากอยู่เสมอ

หุ้นในตลาดประมาณ500ตัว
ถ้าหาหุ้นคุณภาพสูงราคาไม่แพงสัก1-3ตัวได้ในแต่ละปีก็เพียงพอแล้ว
เอาจริงๆตัวเดียวก็อาจจะพอแล้วถ้ามันดีจริงๆ
และอาจไม่ต้องหาทุกปี เพราะเราถือหุ้นหลายปี

ในช่วงลงทุนวีไอใหม่ๆ
หลายคนรวมทั้งตัวผม
มักจะหมกมุ่นอยากได้ผลตอบแทนสูงๆรวยเร็วๆ
จนหลายครั้งกลายเป็นเครียดและทุกข์

แต่พอลงทุนมานาน
แล้วจะเข้าใจว่า ถ้ามีหลักการลงทุนที่ถูกต้อง
ในระยะเวลาที่ยาวนานพอ คุณรวยแน่นอน
ทําไมต้องรีบรวยอย่างรวดเร็ว แล้วใจมีแต่ความเครียดและทุกข์ไปเพื่ออะไร
ในความเห็นของผม
การลงทุนเหมือนการเดินขึ้นภูเขาที่มีทิวทัศน์สวยงาม
ค่อยๆเดินค่อยๆดูวิวตามทางไปก็ได้
จะวิ่งตลอดทางเป็นสิบกิโลไปทําไมให้เหนื่อย
บางคนใจร้อน ขับsport carเลย แต่ไม่เห็นวิวอะไรเลย

ผมลงทุนมาประมาณ10ปี
ผลตอบแทนล้อมากับsetมาตลอด
ไม่เคยมีปีไหนแพ้ชนะมากๆเลย
แต่มันก็เป็นบวกทุกปีไม่เคยลบ
ยิ่งนานพอร์ทใหญ่ขึ้น
สิบเปอร์เซนต์ต่อปีมันก็เหลือเฟือ สําหรับใช้จ่ายดําเนินชีวิตแล้ว
แล้วจะไปกังวลทําไมว่าชนะหรือแพ้set
เกินจากนั้นมันก็เป็นเรื่องของความโลภและอีโก้ส่วนตัวเท่านั้น

สุดท้ายอยากบอกว่ารวยช้าๆอย่างมีความสุข
ดีกว่าเร็วแต่เครียด และเพิ่มความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง
สวัสดีปีใหม่ครับ
โพสต์โพสต์