ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 1
กระผมเพิ่งเข้ามาในเวบนี้ได้ไม่นาน พออ่านๆดูก็รู้สึกชอบแนวคิดและสังคมของการลงทุนแบบ VI จึงอยากใช้วิธีนี้บ้างแต่ติดปัญหาก็คือ พอร์ทของผม
TOP 65.84 600
SSF 3.15 1000
SITHAI 9.1 1000
MODERN 40.75 500
ATC 42.5 500
TTA 35.5 600
SATTEL 15.7 1000
JCT 28 500
TPI 8.4 2000
TCAP 16 1300
ที่สำคัญ ไม่มีเงินสดเหลือแล้ว จึงอยากจะขอคำแนะนำจากพี่ๆ ว่าถ้าผมจะกลับตัวกลับใจเดินตามแบบวิถีของ VI ควรทำไงดีครับ
1. หาเงินสดมาเพิ่มเพื่อถัวเฉลี่ย ( แต่ตัวไหนหละ)
2. ค่อยๆ ขายตัดขาดทุนไป สำหรับตัวเจ็บหนักๆ
3. ออกจากวงการไปสักพัก ถือรอให้ตลาดดีขึ้นแล้วกลับมา
4. ขายทิ้งให้เกลี้ยงพอร์ทแล้วเริ่มนับหนึ่งใหม่แบบ VI
พอดีตอนนี้ผมกำลังศึกษาหาความรู้ โดยการอ่านเวบบ้าง หนังสือของด.ร.นิเวศน์ ,The new Buffetology ที่หลายๆท่านแนะนำ แต่รู้สึกว่าสับสนมากเพราะจับทศทางไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี
ขอคำชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ
TOP 65.84 600
SSF 3.15 1000
SITHAI 9.1 1000
MODERN 40.75 500
ATC 42.5 500
TTA 35.5 600
SATTEL 15.7 1000
JCT 28 500
TPI 8.4 2000
TCAP 16 1300
ที่สำคัญ ไม่มีเงินสดเหลือแล้ว จึงอยากจะขอคำแนะนำจากพี่ๆ ว่าถ้าผมจะกลับตัวกลับใจเดินตามแบบวิถีของ VI ควรทำไงดีครับ
1. หาเงินสดมาเพิ่มเพื่อถัวเฉลี่ย ( แต่ตัวไหนหละ)
2. ค่อยๆ ขายตัดขาดทุนไป สำหรับตัวเจ็บหนักๆ
3. ออกจากวงการไปสักพัก ถือรอให้ตลาดดีขึ้นแล้วกลับมา
4. ขายทิ้งให้เกลี้ยงพอร์ทแล้วเริ่มนับหนึ่งใหม่แบบ VI
พอดีตอนนี้ผมกำลังศึกษาหาความรู้ โดยการอ่านเวบบ้าง หนังสือของด.ร.นิเวศน์ ,The new Buffetology ที่หลายๆท่านแนะนำ แต่รู้สึกว่าสับสนมากเพราะจับทศทางไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี
ขอคำชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 2
ลงทุนกับความรู้เป็นแนวทาง VI ที่คุ้มค่าที่สุดแล้วครับ ไม่เชื่อลองดู motto ของ yoyo ดูสิพอดีตอนนี้ผมกำลังศึกษาหาความรู้ โดยการอ่านเวบบ้าง หนังสือของด.ร.นิเวศน์ ,The new Buffetology ที่หลายๆท่านแนะนำ แต่รู้สึกว่าสับสนมากเพราะจับทศทางไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรดี
อ่านแล้วสับสนตรงไหน ลองเอามาคุยในนี้สิครับ พี่ๆน้องๆที่นี่เก่งๆและใจดีครับ
ส่วนพอร์จะขายก่อนหรือจะเก็บไว้ แนววีไอบอกว่าระยะสั้นเดาไม่ถูกหรอกครับ บัฟเฟตต์ยังเดาไม่ถูกเลยเพราะมันแล้วแต่อารมณ์ mr.market และจริงๆแล้วก็ไม่มีใครเดาถูก ต่อให้เซียนเทคนิคแค่ไหนก็มีทั้งผิดทั้งถูก ไม่เคยเห็นเซียนเทคนิคเดาถูกเป๊ะๆเลย อาจจะถูกเกินครึ่งหน่อยๆ เพราะถ้าถูกเยอะๆซัก 90 % ป่านนี้เขาก็รวยแซงบัฟเฟตต์ไปแล้ว.......
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 3
การถัวเฉลี่ยโดยไม่รู้จักกิจการอย่างแท้จริง คือ การหลอกตัวเอง ครับ
ผมอยากจะแนะนำข้อ 4 และเสริมว่า อย่าถือหุ้นเกิน 6 ตัวเลยครับด้วยขนาดของพอร์ตของคุณ และอย่าถือแต่ละตัวต่ำกว่า 20000 บาทเลย เสียเวลาตามดูกิจการ กำไรแต่ละทีก็ได้จิ๊บจ๊อย
ตัดสินใจเองนะครับ 8)
ผมอยากจะแนะนำข้อ 4 และเสริมว่า อย่าถือหุ้นเกิน 6 ตัวเลยครับด้วยขนาดของพอร์ตของคุณ และอย่าถือแต่ละตัวต่ำกว่า 20000 บาทเลย เสียเวลาตามดูกิจการ กำไรแต่ละทีก็ได้จิ๊บจ๊อย
ตัดสินใจเองนะครับ 8)
-
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 5
ถือว่าเชียร์หุ้นที่ตัวเองถือก็แล้วกัน
ผมเชื่อว่า JCT ยังมีอนาคตพอสมควรครับ ถ้าไม่มั่นใจให้อ่านร้อยคนร้อยหุ้นและ 56-1 เยอะๆครับ
รวมทั้งหุ้นอื่นด้วยนะครับ อ่านให้เยอะๆ .. ถ้าไม่มั่นใจหุ้นไหนก็หาจังหวะขายครับ
ผมเชื่อว่า JCT ยังมีอนาคตพอสมควรครับ ถ้าไม่มั่นใจให้อ่านร้อยคนร้อยหุ้นและ 56-1 เยอะๆครับ
รวมทั้งหุ้นอื่นด้วยนะครับ อ่านให้เยอะๆ .. ถ้าไม่มั่นใจหุ้นไหนก็หาจังหวะขายครับ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 6
ซื้อกระจายมากตัวไปครับ
เงินแค่นี้ไม่น่าเกิน2ตัว
TPI มันเก็งกำไรครับ คงต้องให้การเก็งกำไรกลับมา
ตัว เจซีที รับปันผลแล้วถือรอปีหน้าก็ได้เงินอีกล่ะ
โมเดินก็ ไม่น่าเกลียด ชอบ แต่ยังไม่ได้ซื้อ
ผมช่วยทำใจละกันครับ
เงินแค่นี้ไม่น่าเกิน2ตัว
TPI มันเก็งกำไรครับ คงต้องให้การเก็งกำไรกลับมา
ตัว เจซีที รับปันผลแล้วถือรอปีหน้าก็ได้เงินอีกล่ะ
โมเดินก็ ไม่น่าเกลียด ชอบ แต่ยังไม่ได้ซื้อ
ผมช่วยทำใจละกันครับ
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 7
จำนวนเงินประมาณ 180000 ตอนนี้ดูแล้วน่าจะลบไปประมาณ 16-20%
จากจำนวนเงินทั้งหมด
น่าเห็นใจครับ เพราะว่าแต่ละตัวก็ค่อนข้างดี แต่เจอภาวะตลาดแบบนี้นะครับ
สำหรับความเห็นผมนะครับ สมมตินะครับสมมติ ถ้าเป็นผมนะ
jct sithai จะซื้อเพิ่มไว้รอปันผล และรอผลประกอบการ นำพาราคาหุ้น
sattel จะขายทิ้ง เพราะธุรกิจนี้ตามความรู้ของผมไม่ดีครับ tech ตกรุ่นได้เร็ว
ต้องคอยตาม ทำให้ต้องพยายามยิงดาวเทียมใหม่ๆขึ้นไปตลอด โอกาสปันผล
น้อยครับ
ส่วนตัวอื่นๆ ไม่ชัวร์เรื่องความเห็นครับ รอท่านต่อไปดีกว่า
* ปล.นะครับอันนี้สมมติ เป็นผมนะครับ * แต่เป็นท่านอื่นไม่รู้ครับ
จากจำนวนเงินทั้งหมด
น่าเห็นใจครับ เพราะว่าแต่ละตัวก็ค่อนข้างดี แต่เจอภาวะตลาดแบบนี้นะครับ
สำหรับความเห็นผมนะครับ สมมตินะครับสมมติ ถ้าเป็นผมนะ
jct sithai จะซื้อเพิ่มไว้รอปันผล และรอผลประกอบการ นำพาราคาหุ้น
sattel จะขายทิ้ง เพราะธุรกิจนี้ตามความรู้ของผมไม่ดีครับ tech ตกรุ่นได้เร็ว
ต้องคอยตาม ทำให้ต้องพยายามยิงดาวเทียมใหม่ๆขึ้นไปตลอด โอกาสปันผล
น้อยครับ
ส่วนตัวอื่นๆ ไม่ชัวร์เรื่องความเห็นครับ รอท่านต่อไปดีกว่า
* ปล.นะครับอันนี้สมมติ เป็นผมนะครับ * แต่เป็นท่านอื่นไม่รู้ครับ
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "
-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 10
ผมไม่ได้เก่งอะไร แต่ขอแนะนำดังนี้
1. ศึกษาทีละตัวที่คุณถืออยู่
2. ถ้าตัวไหนดี จะซื้อเพิ่มหรือถือไว้ก่อนก็ตามใจ
3. ถ้าตัวไหนแย่ ขายไปเลย ขาดทุนช่างมัน ถือเป็นค่าประสบการณ์ เก็บเลเวลไปเรื่อยๆ ยิ่งขาดทุนบ่อย ยิ่งเก่งเร็ว
4. ถ้าสับสนมาก ก็ล้างพอร์ตไปเลย แล้วไปอ่านหนังสือ เดินห้าง ดูหนัง ฟังเพลง คุยกับเพื่อนฟูง พ่อแม่พี่น้อง เสมือนไม่ได้เล่นหุ้น แต่จริงๆแล้วมองหาว่ากิจการใดในตลาดที่คนทั่วไปพูดถึงหรือใช้สินค้าหรือบริการกันเยอะๆบ่อยๆ ก็มาซื้อตัวนั้น
1. ศึกษาทีละตัวที่คุณถืออยู่
2. ถ้าตัวไหนดี จะซื้อเพิ่มหรือถือไว้ก่อนก็ตามใจ
3. ถ้าตัวไหนแย่ ขายไปเลย ขาดทุนช่างมัน ถือเป็นค่าประสบการณ์ เก็บเลเวลไปเรื่อยๆ ยิ่งขาดทุนบ่อย ยิ่งเก่งเร็ว
4. ถ้าสับสนมาก ก็ล้างพอร์ตไปเลย แล้วไปอ่านหนังสือ เดินห้าง ดูหนัง ฟังเพลง คุยกับเพื่อนฟูง พ่อแม่พี่น้อง เสมือนไม่ได้เล่นหุ้น แต่จริงๆแล้วมองหาว่ากิจการใดในตลาดที่คนทั่วไปพูดถึงหรือใช้สินค้าหรือบริการกันเยอะๆบ่อยๆ ก็มาซื้อตัวนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 232
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 11
เห็นด้วยกับคำแนะนำของคุณ BHT และคุณ benn นะครับ หากจะเริ่มต้นแนว VI สิ่งที่สำคัญคือหาข้อมูลพื้นฐานดูก่อนว่าตัวไหนที่ควรหรือไม่ควรถือ เริ่มจากตัวที่เรามีอยู่ในมือตอนนี้ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเก็บตัวไหนไว้ จะทิ้งตัวไหนไป
อยากฝากเพิ่มอีกอย่างหนึ่งคือ ให้ลืมไปเลยว่าแต่ละตัวต้นทุนที่ซื้อมาเท่าไร เพราะ ณ.วันนี้ไม่มีความสำคัญอะไรแล้ว หากคุณจะซื้อหรือขายเพิ่มก็ต้องเป็นราคาตลาด ณ. วันนี้ ไม่ใช่ราคาต้นทุน ดังนั้นเมื่อศึกษาพิจารณาขอให้อิงกับราคาตลาด ณ. วันนี้ ถามตัวเองหลังจากที่ศึกษาข้อมูลแต่ละตัวแล้วว่า ราคาตลาด ณ. วันนี้ยังเหมาะสมไหม แพงไปหรือถูกไป หากตอบตัวเองว่าราคาวันนี้แพงไปแล้ว ก็ขายทิ้งไปเลย แล้วไปซื้อตัวที่คิดว่าราคาวันนี้ถูกไปมาแทน หากไม่มีตัวไหนในพอร์ทที่คิดว่าถูกไปเลย ก็หาตัวใหม่แทน ดูจากร้อยคนร้อยหุ้นหรือกระทู้เก่าๆก็ได้ครับ
สำคัญจะเริ่มเป็น VI ก็ต้องหัดคิดแบบ VI ครับ :D
อยากฝากเพิ่มอีกอย่างหนึ่งคือ ให้ลืมไปเลยว่าแต่ละตัวต้นทุนที่ซื้อมาเท่าไร เพราะ ณ.วันนี้ไม่มีความสำคัญอะไรแล้ว หากคุณจะซื้อหรือขายเพิ่มก็ต้องเป็นราคาตลาด ณ. วันนี้ ไม่ใช่ราคาต้นทุน ดังนั้นเมื่อศึกษาพิจารณาขอให้อิงกับราคาตลาด ณ. วันนี้ ถามตัวเองหลังจากที่ศึกษาข้อมูลแต่ละตัวแล้วว่า ราคาตลาด ณ. วันนี้ยังเหมาะสมไหม แพงไปหรือถูกไป หากตอบตัวเองว่าราคาวันนี้แพงไปแล้ว ก็ขายทิ้งไปเลย แล้วไปซื้อตัวที่คิดว่าราคาวันนี้ถูกไปมาแทน หากไม่มีตัวไหนในพอร์ทที่คิดว่าถูกไปเลย ก็หาตัวใหม่แทน ดูจากร้อยคนร้อยหุ้นหรือกระทู้เก่าๆก็ได้ครับ
สำคัญจะเริ่มเป็น VI ก็ต้องหัดคิดแบบ VI ครับ :D
"Much success can be attributed to inactivity. Most investors cannot resist the temptation to constantly buy and sell."
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 1
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 12
ก่อนที่ผมจะมาเจอเวปนี้ ผมก็มีอาการลงทุนแบบเดียวกับคุณ yaris เลยครับ เพียงแต่ทุนผมตอนแรก 50000 บาท มีหุ้นตั้ง 12 ตัวแน่ะ :lol:
ผมแนะนำว่า
1. หาเหตุผลตอนที่คุณซื้อตัวนั้นมาครั้งแรกครับ ว่าซื้อมาทำไม ถ้าซื้อเพราะคิดว่ามันจะขึ้น ชื่อมันดูดี(ไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้ว) ก็ขายทิ้งไปเถอะครับ เพราะตอนซื้อมาก็แทบจะไม่มีเหตุผลอยู่แล้ว
2. ให้ลองพิจารณาดูหุ้นที่เหลืออยู่คร่าวๆ ว่าเข้าใจธุรกิจของมันบ้างป่าว ถ้าตัวไหนไม่เข้าใจก็ทำการขายไป เพราะผมคิดว่าถ้าคุณไม่เข้าใจธุรกิจของมันอย่างแท้จริง การที่หุ้นยิ่งผันผวนหรือตกลง จะทำให้คุณเครียด และกังวลมากขึ้นครับ อาจส่งผลต่องานอื่นๆ ของคุณด้วย
3. ในข้อ 1-2 จะช่วยตะแกรงหุ้น ให้เหลือแต่หุ้นที่พอจะสนใจจริงๆ เท่านั้น จากนั้นลองไปโหลดอ่าน 56-1 ดูครับ แล้วพิจารณาอีกที่ว่าคุณจะสนใจถือมันต่ออีกหรือป่าว ถ้าไม่สนใจแล้ว ค่อยหาจังหวะขายอีกทีก็ได้ครับ
4. สุดท้าย ศึกษาอ่านหนังสือด้าน VI ให้มากครับ และอีกอย่างหากระดาษจดความผิดพลาดจากการลงทุนครั้งนี้ว่ามีอะไรบ้าง แปะไว้ที่หน้าจอคอม ไว้อ่านเป็นบทเรียนก่อนที่จะซื้อหุ้นตัวใหม่ครับจะได้ไม่ทำผิดพลาดอีก
คำเตือน: คำแนะนำนี้เป็นแค่ความเห็นของบุคคลหนึ่งเท่านั้น คุณไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามก็ได้
ผมแนะนำว่า
1. หาเหตุผลตอนที่คุณซื้อตัวนั้นมาครั้งแรกครับ ว่าซื้อมาทำไม ถ้าซื้อเพราะคิดว่ามันจะขึ้น ชื่อมันดูดี(ไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้ว) ก็ขายทิ้งไปเถอะครับ เพราะตอนซื้อมาก็แทบจะไม่มีเหตุผลอยู่แล้ว
2. ให้ลองพิจารณาดูหุ้นที่เหลืออยู่คร่าวๆ ว่าเข้าใจธุรกิจของมันบ้างป่าว ถ้าตัวไหนไม่เข้าใจก็ทำการขายไป เพราะผมคิดว่าถ้าคุณไม่เข้าใจธุรกิจของมันอย่างแท้จริง การที่หุ้นยิ่งผันผวนหรือตกลง จะทำให้คุณเครียด และกังวลมากขึ้นครับ อาจส่งผลต่องานอื่นๆ ของคุณด้วย
3. ในข้อ 1-2 จะช่วยตะแกรงหุ้น ให้เหลือแต่หุ้นที่พอจะสนใจจริงๆ เท่านั้น จากนั้นลองไปโหลดอ่าน 56-1 ดูครับ แล้วพิจารณาอีกที่ว่าคุณจะสนใจถือมันต่ออีกหรือป่าว ถ้าไม่สนใจแล้ว ค่อยหาจังหวะขายอีกทีก็ได้ครับ
4. สุดท้าย ศึกษาอ่านหนังสือด้าน VI ให้มากครับ และอีกอย่างหากระดาษจดความผิดพลาดจากการลงทุนครั้งนี้ว่ามีอะไรบ้าง แปะไว้ที่หน้าจอคอม ไว้อ่านเป็นบทเรียนก่อนที่จะซื้อหุ้นตัวใหม่ครับจะได้ไม่ทำผิดพลาดอีก
คำเตือน: คำแนะนำนี้เป็นแค่ความเห็นของบุคคลหนึ่งเท่านั้น คุณไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามก็ได้
- ksnk
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 414
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 13
ผมว่าสิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือหาความรู้เกี่ยวกับการลงทุนให้มากที่สุด จนคุณเข้าใจเป็นอย่างดี
ส่วนหุ้นที่คุณถือไว้มี 2 แนวทาง
1.ขายมันทั้งหมด(เพราะยังไม่เข้าใจมัน)
2.ถือมันทั้งหมด(เพราะยังไม่เข้าใจมัน)
ยกเว้นแต่คุณจะรู้ว่าตัวไหนมันจะพุ่งหรือร่วงแน่ :lol:
ส่วนหุ้นที่คุณถือไว้มี 2 แนวทาง
1.ขายมันทั้งหมด(เพราะยังไม่เข้าใจมัน)
2.ถือมันทั้งหมด(เพราะยังไม่เข้าใจมัน)
ยกเว้นแต่คุณจะรู้ว่าตัวไหนมันจะพุ่งหรือร่วงแน่ :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 1150
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 14
ลืมของเดิมซะให้หมด แล้วไปศึกษาใหม่ว่าจะซื้อตัวไหน จำบทเรียนในอดีตไว้
วางแผนว่าถ้าหุ้นลงจะทำอย่างไร ถ้าหุ้นขึ้นจะทำอย่างไร อย่าปล่อยใจไปกับอารมณ์ตลาด ผมว่ามือใหม่ร้อยละ 90 ที่มีเงินเล่นหุ้นเอง เริ่มต้นอย่างนี้ทุกคน
ถ้าคุณยังติดกับอดีต คุณจะไม่มีวันได้เริ่มอนาคตใหม่ และ ให้คิดว่าขาดทุนตอนเงินน้อยนี่ดีแล้ว
วางแผนว่าถ้าหุ้นลงจะทำอย่างไร ถ้าหุ้นขึ้นจะทำอย่างไร อย่าปล่อยใจไปกับอารมณ์ตลาด ผมว่ามือใหม่ร้อยละ 90 ที่มีเงินเล่นหุ้นเอง เริ่มต้นอย่างนี้ทุกคน
ถ้าคุณยังติดกับอดีต คุณจะไม่มีวันได้เริ่มอนาคตใหม่ และ ให้คิดว่าขาดทุนตอนเงินน้อยนี่ดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 269
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 15
ผมเองก็ยังขาดทุนอยู่ แถมยังไม่เก่งด้วย ขอบังอาจแนะนำ อย่าเพิ่งขายเลย
1) TOP ผมว่ารอ รับปันผล แล้วรอตลาดดีดี ก็น่าจะขายได้กำไรส่วนต่างนิดหน่อยนะ ถ้ายังไม่ถึงก็กินปันผลไปก่อน หุ้นยอดนิยมขนาดนี้ถือรอบูมๆค่อยขายก็ได้นะ
2) sithai modern jct ไม่ต้องคิดมาก ถือกินปันผลไป เท่าทุนเมื่อไหร่อยากขายเริ่มต้นใหม่ค่อยขาย
3) TTA ATC SATTEL ผมว่าอนาคตไม่ค่อยดีครับ กำไรตก ปิโตร เดินเรือ เป็นวัฎจักรขาลง ถ้าได้ปันผลมาหลายปีแล้ว รอข่าวดี ตลาดดี ปล่อยขายขาดทุนน่าจะดีครับ ATC อาจขึ้นได้เพราะจะมีข่าวรวมกับ RRC ต้องดูอีกทีว่า RRC เข้าเทรดแล้วเป็นยังไงถ้าดี ก็อาจถือได้
4) ตัวอื่นไม่รู้ครับ โชคดีครับ
1) TOP ผมว่ารอ รับปันผล แล้วรอตลาดดีดี ก็น่าจะขายได้กำไรส่วนต่างนิดหน่อยนะ ถ้ายังไม่ถึงก็กินปันผลไปก่อน หุ้นยอดนิยมขนาดนี้ถือรอบูมๆค่อยขายก็ได้นะ
2) sithai modern jct ไม่ต้องคิดมาก ถือกินปันผลไป เท่าทุนเมื่อไหร่อยากขายเริ่มต้นใหม่ค่อยขาย
3) TTA ATC SATTEL ผมว่าอนาคตไม่ค่อยดีครับ กำไรตก ปิโตร เดินเรือ เป็นวัฎจักรขาลง ถ้าได้ปันผลมาหลายปีแล้ว รอข่าวดี ตลาดดี ปล่อยขายขาดทุนน่าจะดีครับ ATC อาจขึ้นได้เพราะจะมีข่าวรวมกับ RRC ต้องดูอีกทีว่า RRC เข้าเทรดแล้วเป็นยังไงถ้าดี ก็อาจถือได้
4) ตัวอื่นไม่รู้ครับ โชคดีครับ
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 16
เป็นกำลังใจให้ คุณ Yaris ครับ
ผมเองเริ่มด้วยเงิน 400000 ผ่านไปเกือบปี เหลือ 200000 ครับ เริ่มเล่นหุ้น
เมื่อต้นปี 47 นี่เองครับ
พยายาหาความรู้ที่มีทุกทาง ทั้งจากห้องนี้ และห้องอื่นๆ รวมถึงหนังสือมาก
มาย แล้วมาคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่ผ่านมาตลอด
ทุกวันนี้ พอร์ต เป็นบวกแล้วครับ ( แต่ถ้ายังลบต่ออีกสักเดือน ก็ไม่แน่แล้ว
ครับ แฮ่ ๆ ๆ ๆ)
ผมเองเริ่มด้วยเงิน 400000 ผ่านไปเกือบปี เหลือ 200000 ครับ เริ่มเล่นหุ้น
เมื่อต้นปี 47 นี่เองครับ
พยายาหาความรู้ที่มีทุกทาง ทั้งจากห้องนี้ และห้องอื่นๆ รวมถึงหนังสือมาก
มาย แล้วมาคิดใคร่ครวญถึงสิ่งที่ผ่านมาตลอด
ทุกวันนี้ พอร์ต เป็นบวกแล้วครับ ( แต่ถ้ายังลบต่ออีกสักเดือน ก็ไม่แน่แล้ว
ครับ แฮ่ ๆ ๆ ๆ)
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "
-
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 18
ที่มาของชื่อน้ำครึ่งแก้ว งั้นตอนนี้ล้นแก้วแล้ว
ยอดเยี่ยมครับ turnaround ได้สวยงาม
ยินดีด้วยครับ
ยอดเยี่ยมครับ turnaround ได้สวยงาม
ยินดีด้วยครับ
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 19
มันมีสองทางแหละ
อย่างแรก ก็ปล่อยๆมันไปก่อน แล้วก็ศึกษาหุ้นไปเรื่อยๆจนฝีมือแน่นแล้วก็กลับมาล้างพอร์ต แล้วซื้อใหม่ ที่แนะนำอันนี้ก็เพราะว่าตอนนี้ตลาดมันไม่เหลือ Volume แล้ว ....
แต่อีกอย่างก็ล้างพอร์ตตอนนี้เลยแล้วออกจากตลาดไปศึกษาให้ดีก่อน แต่ัก็เสี่ยงที่หุ้นมันลงมาเยอะแล้ว อาจจะเด้งไปก็ได้
อย่างแรก ก็ปล่อยๆมันไปก่อน แล้วก็ศึกษาหุ้นไปเรื่อยๆจนฝีมือแน่นแล้วก็กลับมาล้างพอร์ต แล้วซื้อใหม่ ที่แนะนำอันนี้ก็เพราะว่าตอนนี้ตลาดมันไม่เหลือ Volume แล้ว ....
แต่อีกอย่างก็ล้างพอร์ตตอนนี้เลยแล้วออกจากตลาดไปศึกษาให้ดีก่อน แต่ัก็เสี่ยงที่หุ้นมันลงมาเยอะแล้ว อาจจะเด้งไปก็ได้
_________
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 20
เอ้อ......คือว่าไม่ได้ ปั๊มเงิน 200,000 ขึ้นมาจาก 200,000 ที่เหลืออยู่นะครับ
พอดีตอนนั้นโลภ บวก ห้าว ครับเลยซัดแบบ โลภนำ แล้ว ห้าวตามครับ
ก็เลยหายไป 200,000 เลย
แต่นำเงินที่มีอยู่เกือบทั้งหมด ประมาณ 2,000,000 อัดเพิ่มเข้าไป
โดยดูตัวดี ๆ ที่คิดว่าใช่ ( มีโชคเล็กน้อย ) ด้วยครับ
ก็เลยฟื้นขึ้นมาเป็นบวกได้ แต่ก็เพราะครั้งนั้นทำให้เราเข้าใจว่า
ตัวเองเหมาะกับอะไร ระหว่าง VI กับ VS
ตอนนี้ในพอร์ตบวกอยู่พอประมาณ ก็ Happy แล้วครับ
พอดีตอนนั้นโลภ บวก ห้าว ครับเลยซัดแบบ โลภนำ แล้ว ห้าวตามครับ
ก็เลยหายไป 200,000 เลย
แต่นำเงินที่มีอยู่เกือบทั้งหมด ประมาณ 2,000,000 อัดเพิ่มเข้าไป
โดยดูตัวดี ๆ ที่คิดว่าใช่ ( มีโชคเล็กน้อย ) ด้วยครับ
ก็เลยฟื้นขึ้นมาเป็นบวกได้ แต่ก็เพราะครั้งนั้นทำให้เราเข้าใจว่า
ตัวเองเหมาะกับอะไร ระหว่าง VI กับ VS
ตอนนี้ในพอร์ตบวกอยู่พอประมาณ ก็ Happy แล้วครับ
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 22
ที่มาของน้ำครึ่งแก้ว เพราะเป็นการเตือนตัวเองว่า คราวหน้าไม่รู้อย่าห้าว
ครับ ต้องดูดีๆ ศึกษาก่อน บอกตัวเองว่าเรานะรู้น้อยต้องศึกษามากๆ ค่อย
ๆเติมตัวเองตลอดเวลา อย่าใจเร็วด่วนได้ และ อีกความหมายที่ชอบคือ
เป็นมุมมองตอนที่รู้สึกแย่จากการลงทุนครั้งแรกกับตลาดหุ้นครับ พอเรามอง
ตัวเลขในพอร์ต ก็ทำให้เข้าใจว่า ยังเหลืออีกตั้งครึ่งนี่หว่า ไอ้ที่หายไป
ครึ่งหนึ่งก็ไม่ได้หายไปเปล่าๆนี้ มันแลกมาด้วยอะไรหลายอย่างเลยนะนี่
ก็เลยใช้ชื่อนี่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาครับ.......................เพราะฉะนั้นคุณ yaris
สู้ๆ เค้านะครับ
ครับ ต้องดูดีๆ ศึกษาก่อน บอกตัวเองว่าเรานะรู้น้อยต้องศึกษามากๆ ค่อย
ๆเติมตัวเองตลอดเวลา อย่าใจเร็วด่วนได้ และ อีกความหมายที่ชอบคือ
เป็นมุมมองตอนที่รู้สึกแย่จากการลงทุนครั้งแรกกับตลาดหุ้นครับ พอเรามอง
ตัวเลขในพอร์ต ก็ทำให้เข้าใจว่า ยังเหลืออีกตั้งครึ่งนี่หว่า ไอ้ที่หายไป
ครึ่งหนึ่งก็ไม่ได้หายไปเปล่าๆนี้ มันแลกมาด้วยอะไรหลายอย่างเลยนะนี่
ก็เลยใช้ชื่อนี่ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาครับ.......................เพราะฉะนั้นคุณ yaris
สู้ๆ เค้านะครับ
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 23
สำหรับคุณยาริส ดิฉันไม่แนะนำว่า หุ้นที่ถือ ตัวไหนดีไม่ดีอย่างไรนะคะ
(ให้พี่ๆท่านอื่นช่วยแนะนำ :lol: )
แต่อยากลองแนะว่า ควรเริ่มจาก ตอบตัวเองก่อนว่า หุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ รู้สึกชอบตัวไหนบ้าง
และ เพราะอะไรจึงชอบ
ขอให้คำตอบออกมาแนวๆ ว่า
หนึ่ง.... หุ้นนี้ดีต่อไปแน่ๆ ธุรกิจ และสินค้า บริษัท จะดีต่อไปแน่ๆ ในวันข้างหน้า
สอง... หุ้นตัวนั้นๆที่ว่าดี ราคาทุนที่ถือ เป็นราคาที่"อย่างน้อย"คือราคาเหมาะสม ที่จะลงทุนต่อไป
ทั้งสองข้อนั้น มีเหตุผลประกอบมากมาย ที่ต้องเข้าไปทำความเข้าใจ เพื่อให้ได้คำตอบออกมาว่า ....ใช่ :!:
ในข้อหนึ่ง ก็เช่นว่า ...ผู้บริหารเก่งมั้ย ดีมั้ย ...สินค้าของบริษัทคืออะไร ทำไมจึงคิดว่า จะดีต่อไป ทำไมคิดว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค ...แบรนด์(ถ้ามี)แข็งแรงดีมั้ย ...คู่แข่งล่ะ สู้ได้มั้ย ........เป็นต้น
ในข้อสองนี่ มีหลักการ มีเรโช และวิธีคิดต่างๆมากมาย เพื่อคำนวนออกมา ว่า เท่าไหร่ เมื่อไหร่ สำหรับอะไร จึงเรียกว่า เหมาะสม หรือ ถูกมากนะราคานี้
ข้อนี้ ให้พี่ๆท่านอื่นตอบนะคะ ดิฉันยังด้อยนัก(เดี๋ยวผิด อิอิ) ก็อาศัยอ่านค่ะ อ่านมากๆๆๆๆๆๆๆ
อ่าน และถามให้มาก มากๆๆๆๆ มากจนกว่าจะเข้าใจ และอย่าหยุดอ่าน อย่าหยุดเรียนรู้
ถ้าทำการบ้าน ผ่านสองข้อนี้ได้แล้ว ค่อยตัดสินใจลงทุนค่ะ
:D :D
(ส่วนที่มีอยู่แล้ว จะถือไว้ หรือจะขายออกมายืนนอกวงก่อน อันนี้แล้วแต่นะคะ แต่ เข้าใจว่าบางตัวก็ดูใช้ได้นะ บางตัวก็ดีทีเดียว แต่อาจจะราคาถูกน้อยไปหน่อย และตลาดก้อไม่ค่อยดีด้วย)
(ให้พี่ๆท่านอื่นช่วยแนะนำ :lol: )
แต่อยากลองแนะว่า ควรเริ่มจาก ตอบตัวเองก่อนว่า หุ้นทั้งหมดที่ถืออยู่ รู้สึกชอบตัวไหนบ้าง
และ เพราะอะไรจึงชอบ
ขอให้คำตอบออกมาแนวๆ ว่า
หนึ่ง.... หุ้นนี้ดีต่อไปแน่ๆ ธุรกิจ และสินค้า บริษัท จะดีต่อไปแน่ๆ ในวันข้างหน้า
สอง... หุ้นตัวนั้นๆที่ว่าดี ราคาทุนที่ถือ เป็นราคาที่"อย่างน้อย"คือราคาเหมาะสม ที่จะลงทุนต่อไป
ทั้งสองข้อนั้น มีเหตุผลประกอบมากมาย ที่ต้องเข้าไปทำความเข้าใจ เพื่อให้ได้คำตอบออกมาว่า ....ใช่ :!:
ในข้อหนึ่ง ก็เช่นว่า ...ผู้บริหารเก่งมั้ย ดีมั้ย ...สินค้าของบริษัทคืออะไร ทำไมจึงคิดว่า จะดีต่อไป ทำไมคิดว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค ...แบรนด์(ถ้ามี)แข็งแรงดีมั้ย ...คู่แข่งล่ะ สู้ได้มั้ย ........เป็นต้น
ในข้อสองนี่ มีหลักการ มีเรโช และวิธีคิดต่างๆมากมาย เพื่อคำนวนออกมา ว่า เท่าไหร่ เมื่อไหร่ สำหรับอะไร จึงเรียกว่า เหมาะสม หรือ ถูกมากนะราคานี้
ข้อนี้ ให้พี่ๆท่านอื่นตอบนะคะ ดิฉันยังด้อยนัก(เดี๋ยวผิด อิอิ) ก็อาศัยอ่านค่ะ อ่านมากๆๆๆๆๆๆๆ
อ่าน และถามให้มาก มากๆๆๆๆ มากจนกว่าจะเข้าใจ และอย่าหยุดอ่าน อย่าหยุดเรียนรู้
ถ้าทำการบ้าน ผ่านสองข้อนี้ได้แล้ว ค่อยตัดสินใจลงทุนค่ะ
:D :D
(ส่วนที่มีอยู่แล้ว จะถือไว้ หรือจะขายออกมายืนนอกวงก่อน อันนี้แล้วแต่นะคะ แต่ เข้าใจว่าบางตัวก็ดูใช้ได้นะ บางตัวก็ดีทีเดียว แต่อาจจะราคาถูกน้อยไปหน่อย และตลาดก้อไม่ค่อยดีด้วย)
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 27
ความคิดสองข้อนี้ผมไม่ค่อยชอบ เราไม่ควรนำต้นทุนในอดีตมาตัดสินใจซื้อขาย ควรนำราคา ณ ปัจจุบันมาเป็นตัวตัดสินใจมากกว่าyaris เขียน: 1. หาเงินสดมาเพิ่มเพื่อถัวเฉลี่ย ( แต่ตัวไหนหละ)
2. ค่อยๆ ขายตัดขาดทุนไป สำหรับตัวเจ็บหนักๆ
แล้วก็เห็นด้วยกับความเห็นอีกหลายท่านว่ากระจายพอร์ตมากไปสำหรับเงินลงทุนครับ
ขอให้โชคดี
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
ขอความช่วยเหลือจากพี่ VI ในเวบนี้
โพสต์ที่ 28
ผมว่าถือหุ้นมากไปนะครับ
ลดจำนวนให้น้อยกว่า 6 ท่าจะดีทำให้เราติดตามกิจการได้ดีขึ้น
ลดจำนวนให้น้อยกว่า 6 ท่าจะดีทำให้เราติดตามกิจการได้ดีขึ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 777
- ผู้ติดตาม: 0
ปรับแต่งพอร์ต
โพสต์ที่ 29
แนะนำตามประสาคนมีประสบการณ์บ้างแล้วกันนะครับ... 8)
พอร์ตของคุณ Yaris...
ลงทุนประมาณ 182,000 บาท เหลือมูลค่า ณ วันที่ 1/6/2549
ประมาณ 148000 บาท!!! มูลค่าลดลงไปราว 19 % ยังดูดีอยู่ครับ
ถ้าพอร์ตยังติดลบไปอีก 25%-30% แนะนำว่า Stop Loss ชั่วคราว
หุ้นคุณติดลบตั้งแต่ 4% - 50% ซึ่งสามารถซื้อถัวเฉลี่ยได้ โดยเฉพาะ
ตัวที่ติดลบมากกว่า 10% ทั้งหลาย ถ้ามีเงินสำรอง แต่ไม่ได้การันตีว่า
ราคาตลาดจะปรับตัวขึ้นมา ณ ราคาที่คุณ ถัวเฉลี่ยแล้วจะปล่อยหุ้นได้
เพราะ วัฏจักรหุ้นบางตัว ยังเป็นขาลง...
ในกรณีไม่มีเงินสำรองเลย...
คุณก็รอตลาดปรับตัวขึ้น และ รอปันผล พอร์ตของคุณคาดว่าจะได้ปันผล
รวมราว 8-9000 บาทต่อปี สามารถนำเงินจำนวนนี้ มาถัวเฉลี่ยพอร์ตได้
(ถ้าจำเป็น)!!!
Good Luck!!! :lol:
พอร์ตของคุณ Yaris...
ลงทุนประมาณ 182,000 บาท เหลือมูลค่า ณ วันที่ 1/6/2549
ประมาณ 148000 บาท!!! มูลค่าลดลงไปราว 19 % ยังดูดีอยู่ครับ
ถ้าพอร์ตยังติดลบไปอีก 25%-30% แนะนำว่า Stop Loss ชั่วคราว
หุ้นคุณติดลบตั้งแต่ 4% - 50% ซึ่งสามารถซื้อถัวเฉลี่ยได้ โดยเฉพาะ
ตัวที่ติดลบมากกว่า 10% ทั้งหลาย ถ้ามีเงินสำรอง แต่ไม่ได้การันตีว่า
ราคาตลาดจะปรับตัวขึ้นมา ณ ราคาที่คุณ ถัวเฉลี่ยแล้วจะปล่อยหุ้นได้
เพราะ วัฏจักรหุ้นบางตัว ยังเป็นขาลง...
ในกรณีไม่มีเงินสำรองเลย...
คุณก็รอตลาดปรับตัวขึ้น และ รอปันผล พอร์ตของคุณคาดว่าจะได้ปันผล
รวมราว 8-9000 บาทต่อปี สามารถนำเงินจำนวนนี้ มาถัวเฉลี่ยพอร์ตได้
(ถ้าจำเป็น)!!!
Good Luck!!! :lol:
- thiroil
- Verified User
- โพสต์: 65
- ผู้ติดตาม: 0
เอาใจช่วยครับ
โพสต์ที่ 30
เอาใจช่วยครับ สำหรับผมก็น้องใหม่เหมือนกัน เพิ่งเข้าตลาดเมื่อปลายปี 2548 แต่ก่อนหน้านั้นศึกษามาก่อน 1 ปี ความรู้สึกต่างกันครับ ระหว่าง ก่อนเข้าตลาด และเมื่ออยู่ในตลาด ช่วงแรก ผมกำไรใน พอร็ต ตั้ง 20 % ในเวลา 1 เดือน จึงได้ใจ ไม่ใช้แบบ VI และหันไปเล่น VS ปรากฎว่า ได้เปลี่ยนกำไรที่มีอยู่เป็น ขาดทุนทันใด พอตั้งหลักได้ หักมาเป็น VI ดีกว่าครับ ไม่ต้องไปสนใจตลาดมากมาย ผมสนใจ ความมหัศจรรย์ของดอกเบี้ยทนต้นที่ บัฟเฟตร์หรือ ดร. นิเวศน์ หรือคนอื่นๆ พูดครับ จึงมองหุ้นที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน และจ่ายปันผลบ่อย เฉลี่ย 1 ปี จ่ายสัก 2-4 ครั้งอะไรทำนองนี้ครับ พอได้ปันผลมา ก็หาจังหวะ ซื้อตัวมันเองเพื่อทบต้นไปเรื่อย ๆ ครับ ตอนนี้ก็เริ่ม ๆ เจ็บตัวน้อยลง แล้วจะเปลี่ยนเป็นกำไร ๆ ไวไว นี่แล้วครับ เอาเป็นว่า ถ้าตัวไหนมีปันผลดี ถือไว้ก่อน ตัวไหน แย่ก็ทำใจตัดขาดทุนไปเลยครับ
เพราะ 1 ในคุณสมบัติของนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ ต้องยอมรับผลขาดทุนได้ครับ
hight risk hight return ครับผม
เพราะ 1 ในคุณสมบัติของนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ ต้องยอมรับผลขาดทุนได้ครับ
hight risk hight return ครับผม
0000