ลงทุนแบบนี้ถูกวิธีไหมคับ

[hot]

เพื่อนผม  คนหนึ่ง

ผมแนะนำ ให้ซื้อหุ้นบริษัท หนึ่งเมื่อ
ต้นปี  ในเงินลงทุน 2ล้านบาท
พอปัจจุบัน เงินลงทุน ได้กำไร6แสนบาท

เพื่อนผมเลยคิดเอาเก็บ อีก 3ล้านบาท
เงินเก็บที่มีทั้งหมด มาซื้อหุ้น
บริษัทนี้เพิ่ม  อีก  โดยกะถือลงทุนอีก 2ปี

ในความเห็นผม  
บริษัทที่ผมแนะนำเพื่อนถึงแม้
ว่า  กำไรจะเติบโตต่อเนื่องมาก ในไตรมาสหนึ่ง
และมีแนวโน้ม เติบโตต่อไปอีกไม่น้อยกว่า2ปีจากนี้

ดูท่าก็น่าจะได้กำไร

แต่ผมไม่สามารถพูดเต็มปากได้ว่า

ลุยไปเลย

เพราะ ดูเหมือนผมต้องรับผิดชอบในการให้
ความมั่นใจ กับเพื่อนสูงไป

ผม รู้สึก

การลงทุนที่เรารับผิดชอบได้

คือ  การลงทุนของเราเอง

แต่พอต้องไปรับผิดชอบ  กับชีวิตคนอื่น
เงินคนอื่น

ดู ไม่มั่นใจขึ้นมาเฉย

มีใครเป็นแบบนี้บ้างคับ

[สุมาอี้]

ผมยังไม่เคยมั่นใจในหุ้นตัวไหนมากขนาดบอกให้คนอื่นซื้อเลยครับ  :D

[นายสต็อก]

เซียนหุ้น อย่างคุณ Hot ไม่ธรรมดาจริงๆครับ... 8)

แค่ปีเดียว...
สามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 30% ทั้งๆที่ปีนี้ ดัชนีตลาด
หลักทรัพย์ปรับตัวขึ้นๆลงๆ มาตลอดตั้งแต่ต้นปี!!!

ยังไงก็อย่าประมาทในการตัดสินใจนะครับ ยิ่งเป็นพอร์ตการลงทุน
กระเป๋าหนัก ยิ่งต้องทำการบ้านเยอะกว่าคนอื่นเค้า

God Bless You!...ครับ :lol:

[ลูกอิสาน]

ปัญหาที่เจอบ่อยๆครับ
อย่างนี้ต้องกรอกหูเรื่องความเสี่ยงให้ฟังบ่อยๆ จะได้รู้ว่าหุ้นใช่ว่ามีด้านเดียว ขาดทุนก็ต้องรับได้

และที่สำคัญ พยายามให้เพื่อนหายใจด้วยตัวเอง โดยแนะนำให้ศึกษา เราแค่บอกว่าที่ไหน หนังสืออะไรที่เป็นแหล่งความรู้ที่ดี

[hot]

ขาดทุนก็ต้องรับได้

ผมคุยกับเพื่อนว่า

ตอนนี้นายกำไรนะตอนนี้
กำไร6แสน
ถ้าถืออีก2ปี
จาก2ล้าน  จะกลายเป็น8ล้าน

คงเพราะประโยคนี้มั่งคับเพื่อน
ผมเลยคิดจะลงเงินเพิ่มขึ้นไปอีก


แต่ผมบอกเพื่อนต่อ  

สิ่งที่ผมคาด ดูจากอัตรากำไรใน2ปี
ปกติ หุ้นมักขึ้นจากกำไรของบริษัทเป็นหลัก
และเป็นตัวกำหนดความเป็นไปได้ในการเติบโต
ด้านราคาหุ้น

ผมคุยกับเพื่อนต่อ  
จุดนี้เป็นเรื่องระหว่างความโลภ กับความพอ

บางครั้งอาจถูก หรือผิด ก็ได้เหมือนกัน

เพราะเราไม่รู้อนาคต  ทังหมด

เขาจะรับความเสี่ยงได้ไหม

ผมถามเพื่อนต่อ

เพื่อน นิ่ง
คงกำลังคิด ถึง กำไรอีก6ล้าน +9ล้าน
ถ้าเสี่ยงเอาเงินเก็บมาลงซื้อเพิ่มอีก 3ล้าน

เอาไงดีละคับ

ผมไปก่อความโลภกับเพื่อนเขาแล้วซิ

แล้วจะดับอย่างไงดี

[sittc]

[quote="hot"]

ผม รู้สึก

การลงทุนที่เรารับผิดชอบได้

คือ

[yoyo]

ผมก็เป็นเหมือนกันครับพี่ hot
เวลาเป็นหุ้นตัวเองนี่มั่นใจเต็มร้อย
แต่พอเป็นหุ้นคนอื่นนี่ความมั่นใจหายวูบเลยครับ
ล่าสุดแฟนเพิ่งเปิด port ผมเป็นคนสั่งซื้อให้
ซื้อหุ้นได้ไม่นานเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน วันแดงเดือด
แป๊บเดียวขาดทุนไปเกือบแสน ผมใจหายวาบเลย
แต่ยังดีที่แฟนผมเค้าบอกว่าเชื่อใจ ลงทุนระยะยาว ระยะสั้นอย่าไปสน ผมเลยรู้สึกดีขึ้น
ตอนนี้ port กลับมาเกือบเท่าทุนแล้ว จิตใจก็ดีขึ้นด้วย .. ยิ้มออก  :lol:

[woody]

[quote="yoyo"]ผมก็เป็นเหมือนกันครับพี่ hot
เวลาเป็นหุ้นตัวเองนี่มั่นใจเต็มร้อย
แต่พอเป็นหุ้นคนอื่นนี่ความมั่นใจหายวูบเลยครับ
ล่าสุดแฟนเพิ่งเปิด port ผมเป็นคนสั่งซื้อให้
ซื้อหุ้นได้ไม่นานเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน วันแดงเดือด
แป๊บเดียวขาดทุนไปเกือบแสน ผมใจหายวาบเลย
แต่ยังดีที่แฟนผมเค้าบอกว่าเชื่อใจ ลงทุนระยะยาว ระยะสั้นอย่าไปสน ผมเลยรู้สึกดีขึ้น
ตอนนี้ port กลับมาเกือบเท่าทุนแล้ว จิตใจก็ดีขึ้นด้วย .. ยิ้มออก

[กล้วยทอด]

[quote="yoyo"]ผมก็เป็นเหมือนกันครับพี่ hot
เวลาเป็นหุ้นตัวเองนี่มั่นใจเต็มร้อย
แต่พอเป็นหุ้นคนอื่นนี่ความมั่นใจหายวูบเลยครับ
ล่าสุดแฟนเพิ่งเปิด port ผมเป็นคนสั่งซื้อให้
ซื้อหุ้นได้ไม่นานเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ก่อน วันแดงเดือด
แป๊บเดียวขาดทุนไปเกือบแสน ผมใจหายวาบเลย
แต่ยังดีที่แฟนผมเค้าบอกว่าเชื่อใจ ลงทุนระยะยาว ระยะสั้นอย่าไปสน ผมเลยรู้สึกดีขึ้น
ตอนนี้ port กลับมาเกือบเท่าทุนแล้ว จิตใจก็ดีขึ้นด้วย .. ยิ้มออก

[hot]

ไม่มีใครมีไอเดียจะเสนอผม

ทำให้เพื่อนลงทุนแต่พอเพียงบ้างหรือคับ

กลัวเขาจะลงทุนเกินตัวไป


ลงสุดตัว แบบ

โยนหัว ก้อย

[bennn]

แนะเพื่อนว่าบริษัทที่ว่าดี มันก็มีเรื่องที่เสี่ยงอยู่เหมือนกันครับ
เหตุการณ์ไม่คาดฝันมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ
ภัยธรรมชาติ ลูกค้าเปลี่ยนเจ้า หรือปัญหาทางบัญชี หรืออื่นๆ

การที่เราทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับที่ๆเดียว ผมคิดว่ามันไม่ปลอดภัยพอครับ
เราควรมีเงินสดที่เอาออกมาใช้ง่ายๆในยามฉุกเฉินบ้าง
นอกซะจากว่าเพื่อนคุณ hot เค้าพร้อมยอมรับในความเสี่ยงและโอกาสที่จะเสียเงินนั้นด้วยตัวของเค้าเอง ทุกคนต้องรับผิดชอบเงินของตัวเองนะครับ

หรือถ้าเค้ายังไม่เชื่อลองหากรณีตัวอย่างแนะเค้าดูครับ
คนที่เก่งที่สุดยังเลือกหุ้นไม่ถูกทุกตัวเลยครับ

[hot]

เค้าพร้อมยอมรับในความเสี่ยง

ผมตรงนี้น่ากลัวที่สุด

เพราะกำไรที่คาด บังตาเอาคิดว่ารับความเสี่ยงได้
แต่พอถึงเวลาเงินหายไป  จะรับได้จริงหรือ

[san]

คล้ายๆกันมากครับ
เมื่อจะแนะนำเพื่อน ก็ขาดความมั่นใจ  เพราะว่าไม่แน่ใจว่า  ตัวเพื่อนจะเข้าใจเรื่องความเสี่ยง  และสามารถรับความเสี่ยงได้เหมือนเรารึป่าวนะคัรบ
อันนั้นคือประเด็นที่ไม่มั่นใจ
ต้องรอดูตอนขาดทุนซักคัร้งอ่ะครับว่าเป็นไง  จิตใจเป้นไง

ก็อย่าเรื่องบอล
เวลาบอลชนะอะไรก็ดีไปหมด
เวลาบอลแพ้  ถึงตอนนั้นจะรู้เองว่าใครเป็นยังไง  โทษกันยังไง

ต้องคุยกันนานครับ

[สุมาอี้]

ถ้าขึ้นก็ทวงบุญคุณ ถ้าลงก็บอกว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง" หรือไม่ก็บอกว่า "ต่างประเทศขาย" ก็ได้ครับ  :D

[hot]

เหตุที่ผมแนะนำให้เขาลงทุนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

เพราะเขาบ่นว่ามีเงินเก็บ5 ล้าน กว่าได้ดอกเบี้ยต่ำมาก

มีลูกอยู่4 คน  อยู่ในช่วงวัยเรียนกันทั้งนั้น
เงินเดือนได้เดือนละ1แสนบาท  แต่พอหักค่าใช้จ่าย
แล้วหักเข้าเนื้อเดือนละ3หมื่นบาท เขากลัวว่าถ้าเป็นแบบ
นี้ต่อไป  เงิน5ล้านเขาคงหมด  ผมถึงแนะนำให้เขา
แบ่งเงิน2ล้านมาลงทุนหุ้น  อีก3ล้านก็ฝากแบงค์ต่อไป
โดยแนะให้เปิดกระแสรายวันโอดี เงินฝากค้ำ  
จำเป็นก็เอามาใช้มีเงินก็เอาไปกลบ กำไรหุ้น ก็ลงทุนต่อไป
ปัญหา  ความโลภเพื่อน กลัวว่าจะก่อปัญหาสำหรับเขา
เองและครอบครัว  ผมเลยเป็นห่วงนะคับ

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

เหตุที่ผมแนะนำให้เขาลงทุนในช่วงต้นปีที่ผ่านมา 

เพราะเขาบ่นว่ามีเงินเก็บ5 ล้าน กว่าได้ดอกเบี้ยต่ำมาก 

มีลูกอยู่4 คน  อยู่ในช่วงวัยเรียนกันทั้งนั้น 
เงินเดือนได้เดือนละ1แสนบาท  แต่พอหักค่าใช้จ่าย 
แล้วหักเข้าเนื้อเดือนละ3หมื่นบาท เขากลัวว่าถ้าเป็นแบบ 
นี้ต่อไป  เงิน5ล้านเขาคงหมด  ผมถึงแนะนำให้เขา 
แบ่งเงิน2ล้านมาลงทุนหุ้น  อีก3ล้านก็ฝากแบงค์ต่อไป 
โดยแนะให้เปิดกระแสรายวันโอดี เงินฝากค้ำ   
จำเป็นก็เอามาใช้มีเงินก็เอาไปกลบ กำไรหุ้น ก็ลงทุนต่อไป 
ปัญหา  ความโลภเพื่อน กลัวว่าจะก่อปัญหาสำหรับเขา 
เองและครอบครัว  ผมเลยเป็นห่วงนะคับ

ฟังปัญหา กับทางแก้ปัญหาแล้วแปลกๆ

คือ ปัญหาคือ ค่าใช้จ่ายสูง เพราะลูกกำลังเรียน แต่มีวันจบนี่ และไม่ต้องให้เรียนสูงมาก ถ้าอยากเรียนต่อออกมาทำงาน ก่อนแล้วเก็บเงิน แล้วค่อยไปเรียนต่อโท ต่อเอก ไม่งั้นจะกลายเป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ

ส่วนเรืองติดลบก็ไม่ต้องกลัว เพราะเมื่อลูกเรียนจบ ก็ส่งต่อๆกันไป

เรืองลงทุนเพิ่ม ไม่เห็นด้วย บอกไปเลยว่า ภาพที่เห็น มันสวยสดเกินไป

ถ้าอยากลงจริงๆ

ให้ไปถามคนที่ขาดทุนจากหุ้นจนกระทั้งเลิกเล่นไปแล้ว ซัก 10 คน ว่าทำไมถึงเจ๊ง ทำไมถึงเลิก

[ปรัชญา]

ถ้าขึ้นก็ทวงบุญคุณ ถ้าลงก็บอกว่า "การลงทุนมีความเสี่ยง" หรือไม่ก็บอกว่า "ต่างประเทศขาย" ก็ได้ครับ  :D

ถ้าขึ้นก็บอกว่าคุณโชคดี
ถ้าลงก็บอกว่าโชคร้าย

ก็โชคลาภมันเถียงไม่ได้ 555

[iambuffet]

ถ้าเป็นผมจะพูดว่าแล้วถ้ามันลงล่ะ
นายยังอยากได้มันอยู่ไหม

[yoyo]

วิธีแก้ดีๆยังนึกไม่ออก
แต่สำหรับวิธีป้องกันเวลาเพื่อนมาถามหุ้นว่าซื้ออะไรดี
ก็อย่าไปฟันธงว่าซื้อตัวไหนดี
อย่างผมหลายๆครั้งไม่อยากฟันธง ผมก็เปิด port ให้ดู
ว่ามีตัวไหนบ้าง สัดส่วนการถือเป็นอย่างไร
แล้วไปตัดสินใจกันเอาเองละกันว่าจะซื้อตามรึเปล่า จะซื้อตัวไหน

[MisterK]

convince กลับข้างบ้างสิครับ    เช่น  บอกว่าดอกเบี้ยกำลังขึ้นทำให้เงินฝากจะดีขึ้นเรื่อย ๆ แต่หุ้นจะแย่ลงเรื่อย ๆ   ระดับท่าน Hot น่าจะหาสารพัดเหตุผลมาโน้มน้าวได้นะ

[Tiger]

ท่านพี่ hot

ก็ short หุ้นตัวนั้นให้มันล่วงคาตา เลยสิครับ

ถ้ายังกล้าซื้อเพิ่มก็ให้มันรู้ไป อิ อิ  

หุ้นดี ดี เดี๋ยวมันก็ขึ้นใหม่  

แต่เพื่อนพี่ได้ประสบการณ์ หุ้นตกคาตาไป จะได้ไม่โลภ  

[chatchai]

[quote="hot"]มีลูกอยู่4 คน

[hot]

เป็นครอบครัว เริ่มแรกนะคับ

เด็กอายุ8เดือนถึง8ปี
เกิดไล่ไล่กัน

ดีว่าได้เงินเดือนระดบแสน
มีคอนโดที่ต้องผ่อน
รถต้องผ่อน
ค่าโรงเรียน

อะไรอีก ผมก็ถามไม่หมด

ชีวิตคนสร้างครอบครัวไทย ก็อย่างนี้นะผมว่า

[chatchai]

ถ้ามีลูก 4 คน  คงไม่อาศัยอยู่คอนโดฯมั๊งครับ   ถ้าใช่คงต้องมีพื้นที่กว้างมากทีเดียว

ถ้าคอนโดฯ  ไม่ได้อาศัยอยู่  ก็อาจจะให้เช่าเพื่อเพิ่มรายได้  เมื่อรวมกับดอกเบี้ยจากเงินสดที่เหลืออยู่  ก็คงเพียงพอกับรายจ่ายนะครับ

ไม่งั้นก็ขายคอนโดฯ  เพื่อลดภาระกระแสเงินสดออก

คนทั่วไป  เวลาเห็นใครประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง  ก็มักจะทำตาม  โดยไม่พิจารณาจากความรู้ความสามารถของตัวเองเป็นหลัก

ปล. ภาระจ่ายค่าผ่อนรถไม่นานก็หมด  สภาพเงินตึงตัวก็น่าจะดีขึ้นในระยะเวลาอันสั้น

[Monet]

คุณ hot ครับ ถ้าเป็นผมคงแนะนำไม่ให้เอาเงินเก็บอีก 3 ล้านมาลงทุนเพิ่ม
เนื่องจากเป็นครอบครัวที่มีภาระค่อนข้างเยอะ
ไม่ควรรับความเสี่ยงที่สูงเกินไป
น่าจะถามเขาว่า อีก 2 ปี
1. ถ้าเป็นไปตามที่คุณ hot วิเคราะห์ไว้
เงิน 2 ล้านก็จะเป็น 8 ล้าน บวกกับเงินเก็บ 3 ล้านเป็น 11 ล้าน พอใจไหม
2. ถ้าเป็นไปตามที่คุณ hot วิเคราะห์ไว้โดยลงทุนเพิ่มอีก 3 ล้าน
เงิน 5 ล้านก็จะเป็น 20 ล้าน พอใจไหม
3. ถ้าไม่เป็นไปตามที่คุณ hot วิเคราะห์ไว้
(สมมติให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ราคาหุ้นลดเหลือ 25%)
เงิน 2 ล้านก็เหลือ 5 แสน บวกกับเงินเก็บ 3 ล้านเป็น 3.5 ล้าน รับได้ไหม
4. ถ้าไม่เป็นไปตามที่คุณ hot วิเคราะห์ไว้โดยลงทุนเพิ่มอีก 3 ล้าน
(สมมติให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ราคาหุ้นลดเหลือ 25%)
เงิน 5 ล้านก็เหลือ 1.25 ล้าน รับได้ไหม
(ขออย่าให้ความโลภบังตาจนเขาตอบว่ารับได้นะครับ)

คือ ปัญหาคือ ค่าใช้จ่ายสูง เพราะลูกกำลังเรียน แต่มีวันจบนี่ และไม่ต้องให้เรียนสูงมาก ถ้าอยากเรียนต่อออกมาทำงาน ก่อนแล้วเก็บเงิน แล้วค่อยไปเรียนต่อโท ต่อเอก ไม่งั้นจะกลายเป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ

คุณ Jeng ครับ อันนี้อย่าเหมารวมสิครับ มันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย
(อันนี้ไม่ใช่ตัวผมนะครับ ที่บ้านผมไม่สามารถส่งผมเรียนต่อโทเอกได้เองหรอกครับ)

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

Quote: 
คือ ปัญหาคือ ค่าใช้จ่ายสูง เพราะลูกกำลังเรียน แต่มีวันจบนี่ และไม่ต้องให้เรียนสูงมาก ถ้าอยากเรียนต่อออกมาทำงาน ก่อนแล้วเก็บเงิน แล้วค่อยไปเรียนต่อโท ต่อเอก ไม่งั้นจะกลายเป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ  

คุณ Jeng ครับ อันนี้อย่าเหมารวมสิครับ มันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย 
(อันนี้ไม่ใช่ตัวผมนะครับ ที่บ้านผมไม่สามารถส่งผมเรียนต่อโทเอกได้เองหรอกครับ)

ครับ ไม่ได้เหมารวมครับ

[hot]

จริงในความเห็นก็ว่าไม่ควรลงทุนเพิ่มเพราะ
ความเสี่ยงครอบครัวสูงกว่าความเสี่ยง หุ้นเสียอีก

สมมุตนะคับ

ถ้าอีก1ปี เพื่อนตกงานละจะเกิดอะไรขึ้น

ในขณะที่หุ้นยังคงเท่าเดิม หรือติดลบ

ท้ายสุดอาจต้องขายออกมาใช้พอขาย
หุ้นก็ขึ้นให้เจ็บใจเล่น

[Capo]

เห็นภาระแล้ว ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการลงอีก 3 ล้านเลยครับ
ก็เลยพาลคิดหมัด (อาจจะ) เด็ดออกครับ
คุณพี่ Hot ลองถามหรือพูดประมาณว่า

"ถ้าลงอีก 3 ล้าน ก็เท่ากับเอาการศึกษาของลูก ๆ
และความมั่นคงของครอบครัวไปเสี่ยงนะ"

อารมณ์แบบนี้ต้องการอะไรจี๊ด ๆ ครับ
เนิบ ๆ จะไม่ค่อยได้รับความสนใจเท่าไหร่

จึงเรียนมาพื่อโปรดพิจารณาครับ