เกิดอะไรขึ้นกับ PG ครับ เห็นล่วงเอาๆ

[ตาหมูอ้วน.]

เผอิญสนใจตัวนี้อยู่เหมือนกันแต่ 2-3 วันมานี้ เห็นล่วงตลอดเลยครับ

ใครพอจะมีข้อมูลไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น

[woody]

ผมรู้แค่ว่ามันพึ่งผ่าน XR มาได้วันสองวันครับ

[Jeng]

ลองมาคำนวณพื้นฐานกันดิ

แต่ผมขออ่านนะ อิอิ

[ต.หยวนเปียว]

แพทเทินเดียวกับPB  :lol:

[Dr.T]

8) 8)

ผมรักนายตลาด

8) 8)

[chansaiw]

เพิ่มทุน 3:1 จาก 72ล้าน เพิ่มอีก 24 ขายผู้ถือหุ้นเดิม 12 บาท

ราคาก่อน xr 26/5/06 27 บาท

หลัง xr  ราคาจะเท่ากับ (12*24)+(27*72)  หารจำนวนทั้งหมด 96

= 23.25

กำไรสุทธิ 4 ปีย้อนหลัง 02-05  (ขอใช้ข้อมูลที่มีอยู่ในมือก่อนนะครับ 4ปีย้อนหลัง   )   1.02-->2.37

เติบโต 32% ต่อปี

ถ้าปีนี้โต 32% คาดว่า eps เท่ากับ 3.13

dilute ด้วยหุ้นเพิ่มทุนไป eps น่าจะเท่ากับ 3.13/1.33 =2.35

ซื้อขายกันที่ pe เฉลี่ย 9.32

เท่ากับราคา 21.90

ถ้าคาดการณ์ อีก 5 ปี (ปี 2010 )ข้างหน้าโตปีละ 32%=9.5
dilute หุ้นใหม่แล้ว eps เหลือ 7.14

ที่ pe 9.32 ราคาจะซื้อขายที่  66.54

ต้องการผลตอบแทนทบต้น 30% ควรซื้อที่ราคา  17.94

ผิดถูกกรุณาชี้แนะครับ ไม่แน่ใจว่าข้อมูลสั้นไปรึเปล่า 3-4ปีเอง

[Sriracha]

พี่ Dr.T มีคนรักคนเดียวกับน้องเลยคะ

[สุมาอี้]

ผมคิดว่าคนที่ถือตัวนี้ไว้นานแล้ว หรือแม้แต่คนที่ถือตัวนี้ไว้เมื่อ 6 เดือนก่อน (ที่ต้นทุน 15 บาท) คงอยาก take profit มานานมาแล้ว แต่หุ้นตัวนี้ก็ไม่เคยมีวอลุ่มให้ take profit ได้สักที

ช่วงนี้มีวอลุ่มเข้ามามาก (ไม่รู้ว่าทำไม  :roll: ) ก็เหมือนฟ้าเปิดให้มีโอกาสได้ take profit เสียที่ Capital Gain กว่า 100%-300% คงทำให้พวกเขายินดีจะขายที่ราคาเท่าไหร่ก็ได้ครับ  8)  

PB ก็อาจจะอยู่ในอาการเดียวกัน

ส่วน Valuation ที่เหมาะสมของ PG อยู่ที่เท่าไรนั้น ถึงเดี๋ยวนี้ผมก็ยังไม่มั่นใจ เพราะข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มทุนที่ได้รับจากบริษัทใช้ประมาณอะไรไม่ได้เลย

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ส่วน Valuation ที่เหมาะสมของ PG อยู่ที่เท่าไรนั้น ถึงเดี๋ยวนี้ผมก็ยังไม่มั่นใจ เพราะข้อมูลเกี่ยวกับการเพิ่มทุนที่ได้รับจากบริษัทใช้ประมาณอะไรไม่ได้เลย

โหถ้าคุณสุมาอี้ ประมาณไม่ได้ แล้วใครจะประมาณได้หละ

อาจจะลองประมาณกันเล่นดีปะ

[Dr.T]

ผมดูการเติบโตของราคาหุ้นแล้วผมว่าผมยินดีซื้อที่ราคาปัจจุบัน
แต่มาไม่ทัน WG เทกระจาด ไม่งั้นคงตัดสินใจยากกว่าเดิม  :lol: :lol: :lol:

[Dr.T]

แปลก
วันนี้เคาะไปหลายไม้ เพราะมียอด offer มาทีละหยดสองหยด
ทำไมพอเคาะขวาไปแล้ว มี refill ในราคาเดิมทันทีเลย
จะ offer ก็ปล่อย ๆ มาให้หมดสิ เสียเวลาเคาะหลาย ๆ ครั้ง  :roll:

[woody]

[quote="Dr.T"]แปลก
วันนี้เคาะไปหลายไม้ เพราะมียอด offer มาทีละหยดสองหยด
ทำไมพอเคาะขวาไปแล้ว มี refill ในราคาเดิมทันทีเลย
จะ offer ก็ปล่อย ๆ มาให้หมดสิ เสียเวลาเคาะหลาย ๆ ครั้ง

[san]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

แปลก 
วันนี้เคาะไปหลายไม้ เพราะมียอด offer มาทีละหยดสองหยด 
ทำไมพอเคาะขวาไปแล้ว มี refill ในราคาเดิมทันทีเลย 
จะ offer ก็ปล่อย ๆ มาให้หมดสิ เสียเวลาเคาะหลาย ๆ ครั้ง  

อืมม  อาการแบบนี้  ผมเคยซึ้งใจเลยครับ  หลายปีมาแล้วแต่ไม่รู้ว่ามันจะเหมือนกับตอนที่ทำผมซึ้งรึป่าว  ไม่รู้นะครับ ลองฟังดู....

เมื่อหลายปีก่อน  ผมซื้อหุ้นตัวนึง ที่ราคาประมาณ 7 บาท
เคาะซื้อครับ  รวบหมดเลย  ก็มีไม่กี่พันหุ้น  ทันทีที่เคาะปุ๊บ  มันมีอาการ  refill  แบบที่คุณ DR.T  ว่า คือเติมเข้ามาอีกทันที  ทันทีเลยครับ  ผมเลยลองเคาะรวบหมดอีกอีก  มันก็ refill  อีกทันที  ก็คิดว่าเขาคงใช้โปรแกรมตั้งสำหรับการ refill  แล้ว  ก็คิดว่าทำไมมันไม่ยอม offer  ทั้งยวงเลย  ทำไมต้องมากระปิบกระปรอยแบบนี้  คิดไม่ตก  ก็ช่างมัน

ผ่านไป 3 วันได้มัง  จำไม่ได้ชัดแล้ว ครับ  water  fall  ครับจาก 7 บาท  ลงไปเหลือ  3 บาท กว่าๆ  ภายในไม่ถึง เดือน มั๊ง  ถ้าจำไม่ผิดนะ  เพราะว่ามีบทวิเคราะห์บอกว่า ราคาที่เหมาะสมอยู่แถว  4  บาท

โดยที่อาการก่อนจะมี  water  fall  ราคาจะขึ้นมาจาก  ซัก  5  บาทได้มั๊ง  แล้วมาพักอยู่ที่ ประมาณ 7 บาท ซักเดือนได้มั๊ง  ราคานิ่งเลย   นิ้งได้เป้นเดือนแล้วค่อยเกิดอาการ  water  fall  ไม่มีการ XR  XD  ใดๆ ทั้งสิ้น ครับ

แต่ว่าตัวนั้น มันอยู่ใน packaging  นะครับ  อาจจะเปรียบเทียบกันไมได้กับตัวนี้

ผ่านประสพการณ์มา  เลยเอามาเล่าให้ฟังเล่นๆนะครับ  ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์ป่าว

[สุมาอี้]

อ่านกรุงเทพธุรกิจหรือยัง สัมภาษณ์ สหพัฒน์ฯ

-_-'

[EAKEPON]

'สหพัฒน์'เปรียบเศรษฐกิจเหมือนขับรถลงเขาไม่มีคนถือพวงมาลัย

2 มิถุนายน 2549 07:18 น.
เครือสหพัฒน์ ยอมรับเศรษฐกิจฝืดจนน่าเป็นห่วง เหตุมาจาปัญหาทางการเมือง และภายใน 5-6 เดือนข้างหน้าหาทางออกไม่ได้ เปรียบเหมือนขับรถลงเขาโดยไม่มีคนถือพวงมาลัย

นายบุญยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ทำธุรกิจด้านการค้า ภาวะเศรษฐกิจในช่วงนี้เป็นช่วงที่น่าห่วงมาก เรียกได้ว่า เป็นช่วงที่เศรษฐกิจฝืด ซึ่งยังไม่ทราบว่า ทิศทางใน 5-6 เดือนข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะปีนี้เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันที่สูงขึ้น อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นและค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น รวมทั้งสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่ลงตัว ซึ่งหากแก้ปัญหาการเมืองได้เร็วก็จะเป็นสิ่งที่ดี ภาคเอกชนจึงขอเรียกร้องให้เร่งแก้ปัญหาการเมือง เพื่อให้มีผู้นำมาขับเคลื่อนภาวะเศรษฐกิจ

ขณะนี้เศรษฐกิจไทยกำลังเหมือนการขับรถลงเขา วนไปเวียนมา เพราะไม่มีคนถือพวงมาลัย หากเราเร่งหาคนถือพวงมาลัยได้เร็ว ก็น่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพราะไม่เช่นนั้นเศรษฐกิจไทยอาจจะตกเขาก็ได้ นายบุญยสิทธิ์ กล่าว

นายบุญยสิทธิ์ กล่าวว่า นับตั้งแต่ราคาน้ำมันสูงขึ้นทำให้ต้นทุนสินค้าในเครือสหพัฒน์เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 แต่เนื่องจากบริษัทได้ลดต้นทุนทั้งด้านพลังงาน ขนส่ง วัตถุดิบ และปรับปรุงบรรจุภัณฑ์โดยการใช้วัตถุดิบในประเทศแทนการนำเข้า ทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนลงได้ร้อยละ 30 เช่นกัน บริษัทจึงยังตรึงราคาไว้ในระดับเดิม ซึ่งสหพัฒน์ยืนยันว่า จะเป็นผู้ประกอบการรายสุดท้ายที่ปรับขึ้นราคา

ด้านนายบุญยเกียรติ์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทไอซีซี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สหพัฒน์ยังคงตรึงราคาสินค้า ไม่ขยับตามราคาน้ำมัน เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชนที่กำลังซื้อชะลอตัวลง โดยเฉพาะการซื้อสินค้าขนาดใหญ่ เช่น รถยนต์ และบ้าน

ข่าวนี้หรือ เป่าคับ  :D

[สุมาอี้]

เป่า

ดูจากหนังสือพิมพ์สิ

[KEL_NOY]

ข่าวนี้แน่เลย,

สหพัฒน์ อินเด็กซ์ : ผงซักฟอก, มาม่า  ขายดี แต่เสื้อผ้าราคาแพงยอดขายลดลง แต่เสื้อผ้าราคาถูกกลับมียอดซื้อเพิ่มขึ้น

[สุมาอี้]

[quote="KEL_NOY"]ข่าวนี้แน่เลย,

สหพัฒน์ อินเด็กซ์ : ผงซักฟอก, มาม่า

[ลูกอิสาน]

ราคานี้น่าสนหรือเปล่าครับ

pe รวมหุ้นเพิ่มทุน น่าจะประมาณ 9 เท่า

[สุมาอี้]

แต่ไม่มีข่าวร้ายอะไรเกี่ยวกับบริษัทที่ public ยังไม่รู้ ผมว่าราคานี้ต่ำมากแล้ว แต่...

แม้ว่าคนทีขายอยู่ตอนนี้จะพยายามเหนียมๆ แต่ก็เห็นได้ชัดว่ายังต้องการออกของอีกเป็นจำนวนมาก เพราะพอ offer หมดทีไรเห็นมีของใหม่มาเติมได้ทันทีอย่างไม่มีทีท่าว่าของจะหมด

ถ้าคนที่ขายอยู่ตอนนี้ขายเพราะไม่มีสภาพคล่องจึงต้องการเงินมาซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ 12 บาทในวันที่ 26 มิย ราคาก็ยังสามารถลงไปได้ถึงแถวๆ 12 บาท เพราะตราบใดที่ยังสูงกว่า 12 บาท ก็ยังคุ้มที่จะขายเอาเงินสดมาซื้อใหม่ที่ 12 บาท ผมจึงคิดว่าใครอยากซื้อน่าจะรอ "กดราคา" คนขายไปได้เรื่อยๆ จนถึงใกล้ๆ วันที่ 26 มิย หรือจนกว่าของจะหมด (อันนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าของยังเหลือเท่าไร แต่น่าจะเยอะมากๆ เพราะดูแกจะขายแบบร้อนใจ) ไม่ต้องรีบซื้อ

แต่ถ้าคนที่ขายอยู่ตอนนี้ขายด้วยเหตุผลอื่น เช่น รู้ข้อมูลภายในว่าบริษัทกำลังแย่อันนี้ก็ตัวใครตัวท่านล่ะครับ ขนาด PB เลยวันจ่ายเงินซื้อหุ้นเพิ่มทุนไปแล้ว ราคาก็ยังลงต่อไปอีก ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่ทราบ

[mr.bean]

ดูแล้วไม่น่าจะคุ้มกันนะครับ

กับการที่ทยอยตั้งขายหุ้น ณ ระดับราคาตอนนี้จนไปถึง

ราคาที่ซื้อหุ้นเพิ่มทุน

เพราะเงินสดที่ได้มาก็ยิ่งน้อยลงไปเรื่อยๆ

อัตราการใช้สิทธิ 3:1 ดูๆแล้วจำนวนหุ้นสุทธิที่ได้

อาจจะลดลงด้วย ที่สำคัญก็คือ

ต้นทุนของคนที่ขาย น่าคิดนะครับว่าจะอยู่ที่กี่บาท

แต่ถ้าทยอยขายในราคาที่สูงกว่านี้ ก็ค่อยน่าสนใจ :lol:

[สุมาอี้]

หุ้น PG ถ้าซื้อ ณ วันนี้ ไม่มีสิทธิ์เพิ่มทุนพ่วงมาแล้วนะครับ อย่าลืมประเด็นนี้ ดังนั้นคนที่ไม่มีเงินเพิ่มทุนจริงๆ ตราบใดที่ขายทิ้งในราคาสูงกว่า 12 บาทเพื่อเอาเงินมาเพิ่มทุนย่อม better off แต่ถ้าคนที่มีเงินสดพอเพิ่มทุนอยู่แล้วทำแบบนี้ไม่คุ้มเลยจริงๆ

ถ้าคนที่ขายๆ เพราะเหตุผลนี้ ก็ไม่น่ากลัวเลยสักนิด เพราะเราเข้าใจได้ว่าเขายอมขายเพราะร้อนเงิน แต่ที่จะน่ากลัวกว่าก็คือเขาขายด้วยเหตุผลอื่นที่ public ยังไม่รู้ อันนี้หนาว

ถ้าเห็นราคาลงไปต่ำกว่า 12 บาท ล่ะก็ ตัวใครตัวมันครับ

[mr.bean]

เป็นลักษณะของการ

SHORT AGAIN PORT

หรือปล่าวครับ

Critical Point คือ รอลุ้นราคาต้องไม่ต่ำกว่า ราคาซื้อหุ้นเพิ่มทุน

แล้วพี่สุมาอี้ ให้น้ำหนักความเป็นไปได้ใน กรณีแรก หรือ หลัง มากกว่ากันครับ

[สุมาอี้]

คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นกรณีแรกหรือหลังกันแน่  แต่ผมคิดอย่างนี้ครับ

ถ้าเป็นกรณีแรก แสดงว่าต้นทุนเก่าของผมตอนนี้แม้ว่าจะติดดอยไปแล้วแต่ก็ไม่ใช่ต้นทุนที่ overvalued เพราะมันไม่ได้ลงมาเพราะมีเรื่องร้ายเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท ดังนั้นถ้าผมพลาดไม่ได้เก็บของถูกตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย

แต่ถ้าเป็นกรณีที่สอง อันนี้ต้นทุนเก่าผมคงแพงไปแล้ว และราคาตลาดตอนนี้ก็อาจจะยังแพงอยู่ด้วย ถ้าผมรีบเข้าไปเก็บเพื่อเฉลี่ยต้นทุน ผมก็จะยิ่งขาดทุนมากกว่าเดิม

ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะรอให้ใกล้วันที่ 26 ก่อนแล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะเข้าไปช้อนซื้อหรือไม่จะปลอดภัยกว่า เสียดายดีกว่าเสียใจ

ไม่รู้ว่าคนที่ขายอยู่ตอนนี้เข้าบอร์ด TVI หรือเปล่า ถ้าเข้าคงโกรธผมตายเลย

[Dr.T]

ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะรอให้ใกล้วันที่ 26 ก่อนแล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะเข้าไปช้อนซื้อหรือไม่จะปลอดภัยกว่า เสียดายดีกว่าเสียใจ

เอาไงเอากัน ท่านแม่ทัพ  :roll:
คุณ Sriracha มาช่วยออกความเห็นหน่อยครับ เห็นน่าจะตามมานานกว่าคนอื่น

[สุมาอี้]

จับตาดูให้ดีก่อนวันที่ 26 ถ้าต่ำกว่า 12 บาทล่ะก็ You're dead! เพราะสมมติฐานอย่างหลังจะมีน้ำหนักทันที และนั้นหมายถึงส้มในมือของทุกท่านรวมถึงลูกที่ซื้อเฉลี่ยในช่วงนี้ด้วยเป็น "ส้มเน่า" ทันทีครับ

แต่ถ้าไม่ต่ำกว่า 12 และเริ่มเด้งก่อนวันที่ 26 เพราะ "ของ" หมดแล้ว ผมก็เชื่อว่ามันจะไม่เด้งไป 30 บาทในทันทีหรอกครับ ต่อให้เราซื้อแพงกว่าก้นเหวไปสัก 10% ก็ยังดีกว่าซื้อตอนนี้เพราะอย่างน้อยเราก็รู้แล้วว่าก้นเหวอยู่ตรงไหน

เป็นไงเป็นกันครับ ดร.ที