เมื่อ นตท. เริ่ม คิดจะลงทุน และก่อนอายุ 30 จะมีเงิน1ล้าน
-
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อ นตท. เริ่ม คิดจะลงทุน และก่อนอายุ 30 จะมีเงิน1ล้าน
โพสต์ที่ 61
ผ่านจากโพสครั้งแรก
ผ่านมาเกือบ 3 ปี แล้วที่ได้มาพบกลุ่ม thaivi
ได้ความรู้และหลักคิดมากมาย
ผมขอมาบรรยาต่อเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ระหว่างเดินทาง 3 ปีที่ผ่านมา
หลักจากผมได้กู้เงินมาลงทุนและนำเงินกู้ก้อนนั้น คือ แม่แล้วและได้มอบกำไรส่วนหนึ่งให้แม่ไปปรับปรุงบ้าน
ในปี 2556ผมก็ได้มาเงินก่อนนั้นมาเป็นสินสอดแต่งงานลงทุนสร้างครอบครัว^^< และคุณแม่ของภรรยามอบคืนให้มาลงทุนเช่นเดิม
หลักจากนั้นผมพยายามเร่งการเติบโตด้วยการพยายามอ่านหนังสือที่มีมากกมาย
โดยละเลยการเลือกผู้เขียน คือ ครูนั้นเอง
จากนั้นนำมาใช้กับการลงทุนเลยโดยไม่ได้ตั้งข้อสงสัยหรือทดลองก่อนจนเกิดความมั่นใจ
ทำให้ผมขาดทุนและสับสนกับการลงทุนมาก "ยิ่งขาดทุน ใจยิ่งหวั่น"
เป็นอย่างนี้นานพอสมควร กว่าจะรู้ตัวพอร์ตก็เสียหายไปพอสมควร
เมื่อรู้ตัวแล้วกลับมาทบทวนกับตนเอง
เพราะไม่รู้จะถามใคร คิดตลอดเวลา
มีครั้งหนึ่งระหว่างที่คิดว่า ทำไม?
ผมก็ได้มีโอกาสจอดรถยนต์ระหว่างเดินทาง ถวายน้ำดื่มและยารักษาโรคซึ่งผมเตรียมไว้ก่อนว่าถ้าเจอพระธุดงค์จะจอดถวาย และวันนั้นผมก็เจอท่านมารูปเดียวเดินค้ำไม้เท้ามา ผมก็ได้ถวาย
หลังจากขับรถยนต์ออกมาไม่นาน ผมก็สงสัยว่า ทำไมพระท่านถึงออกจากวัดมาธุดงค์....และผมก็คิดเองว่าท่านต้องการออกมาปฏิบัติหลังจากได้ร่ำเรียนวิชาด้วยการธุดงค์และไปหาครูบาอาจารย์ระหว่างทางด้วย
ผมก็รู้สึกว่า...ทำไมผมถึงไม่ออกปฏิบัติด้วยตนเองและออกไปหาครูอาจารย์ที่ดีด้วยตนเองมากกว่าการอ่านตำราหรือดูผ่าน youtube ไม่ใช่ตำราไม่ดี แต่เพราะตำราไม่สามารถอธิบายรายละเอียดที่ผมสงสัยได้
ผมเริ่มออกจากกรอบห้องเรียนสู้การเดินทางหาเพื่อนๆพี่นักลงทุน
ที่ผมรู้จักจากคนใกล้ตัวออกไปก่อน
ทำไม? ผมถึงให้ความสำคัญกับออกไปพบมากกว่าอ่าน
เพราะ ผมเตรียมความสงสัยที่ตำราตอบผมไม่ได้...นั่นเอง
ถึงตอนนี้ ผมเริ่มต้นกระบวนการจดบันทึกความสงสัยและบันทึกความรู้จากชีวิตจริงที่ผมได้สอบถามมา
ด้วยสมุดเล่มน้อยของผม
และเวลาผ่านมานานหลักจากผมตั้งโจทย์ว่า "ต้องไปหาครูด้วยตนเอง"
ก็มีโอกาสได้พบพี่ผู้ชายท่านหนึ่ง(ผมเรียกพี่ที่เคารพท่านนี้ว่า พี่หมอ")และพี่นุชthavi
ผ่านมาเกือบ 3 ปี แล้วที่ได้มาพบกลุ่ม thaivi
ได้ความรู้และหลักคิดมากมาย
ผมขอมาบรรยาต่อเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ระหว่างเดินทาง 3 ปีที่ผ่านมา
หลักจากผมได้กู้เงินมาลงทุนและนำเงินกู้ก้อนนั้น คือ แม่แล้วและได้มอบกำไรส่วนหนึ่งให้แม่ไปปรับปรุงบ้าน
ในปี 2556ผมก็ได้มาเงินก่อนนั้นมาเป็นสินสอดแต่งงานลงทุนสร้างครอบครัว^^< และคุณแม่ของภรรยามอบคืนให้มาลงทุนเช่นเดิม
หลักจากนั้นผมพยายามเร่งการเติบโตด้วยการพยายามอ่านหนังสือที่มีมากกมาย
โดยละเลยการเลือกผู้เขียน คือ ครูนั้นเอง
จากนั้นนำมาใช้กับการลงทุนเลยโดยไม่ได้ตั้งข้อสงสัยหรือทดลองก่อนจนเกิดความมั่นใจ
ทำให้ผมขาดทุนและสับสนกับการลงทุนมาก "ยิ่งขาดทุน ใจยิ่งหวั่น"
เป็นอย่างนี้นานพอสมควร กว่าจะรู้ตัวพอร์ตก็เสียหายไปพอสมควร
เมื่อรู้ตัวแล้วกลับมาทบทวนกับตนเอง
เพราะไม่รู้จะถามใคร คิดตลอดเวลา
มีครั้งหนึ่งระหว่างที่คิดว่า ทำไม?
ผมก็ได้มีโอกาสจอดรถยนต์ระหว่างเดินทาง ถวายน้ำดื่มและยารักษาโรคซึ่งผมเตรียมไว้ก่อนว่าถ้าเจอพระธุดงค์จะจอดถวาย และวันนั้นผมก็เจอท่านมารูปเดียวเดินค้ำไม้เท้ามา ผมก็ได้ถวาย
หลังจากขับรถยนต์ออกมาไม่นาน ผมก็สงสัยว่า ทำไมพระท่านถึงออกจากวัดมาธุดงค์....และผมก็คิดเองว่าท่านต้องการออกมาปฏิบัติหลังจากได้ร่ำเรียนวิชาด้วยการธุดงค์และไปหาครูบาอาจารย์ระหว่างทางด้วย
ผมก็รู้สึกว่า...ทำไมผมถึงไม่ออกปฏิบัติด้วยตนเองและออกไปหาครูอาจารย์ที่ดีด้วยตนเองมากกว่าการอ่านตำราหรือดูผ่าน youtube ไม่ใช่ตำราไม่ดี แต่เพราะตำราไม่สามารถอธิบายรายละเอียดที่ผมสงสัยได้
ผมเริ่มออกจากกรอบห้องเรียนสู้การเดินทางหาเพื่อนๆพี่นักลงทุน
ที่ผมรู้จักจากคนใกล้ตัวออกไปก่อน
ทำไม? ผมถึงให้ความสำคัญกับออกไปพบมากกว่าอ่าน
เพราะ ผมเตรียมความสงสัยที่ตำราตอบผมไม่ได้...นั่นเอง
ถึงตอนนี้ ผมเริ่มต้นกระบวนการจดบันทึกความสงสัยและบันทึกความรู้จากชีวิตจริงที่ผมได้สอบถามมา
ด้วยสมุดเล่มน้อยของผม
และเวลาผ่านมานานหลักจากผมตั้งโจทย์ว่า "ต้องไปหาครูด้วยตนเอง"
ก็มีโอกาสได้พบพี่ผู้ชายท่านหนึ่ง(ผมเรียกพี่ที่เคารพท่านนี้ว่า พี่หมอ")และพี่นุชthavi
-
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อ นตท. เริ่ม คิดจะลงทุน และก่อนอายุ 30 จะมีเงิน1ล้าน
โพสต์ที่ 62
ผมขอนำคำแนะนำที่พี่ๆทั้งสองกรุณามาแชร์
หากผิกพลาดประการใดต้องของอภัยด้วยครับ
>>พี่ที่เคารพของผมท่านแรก(ผมเรียกติดปากว่า"พี่หมอ")
1.vi เหมือนผีที่มองไม่เห็น แต่มีคนที่ประสบความสำเร็จมากมาย
นั้นเพราะสับสนในสไตล์ตนเอง ทำให้ผมเห็นเหมือนมีครูคอยชี้แนะครับ
ผมขออธิบายเพิ่มเติม vi เป็นการลงทุนที่เน้นทางศาสตร์ จับต้องได้ยากเพราะไม่มีตัวชี้วัดมากมายนัก
แต่ผลปรากฎว่าผู้ลงทุนจำนวนมากประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
2.การรับรู้ข้อมูลและการประโยชน์ของข้อมูล (ทำให้เลิกสับสนการใช้ข้อมูล)
ผมขออธิบายเพิ่มเติม นั่นเพราะในยุคปัจจุบันข้อมูลมากมาย
ทำให้เราโฟกัสและแบ่งความสำคัญของข้อมูลยากและสับสนในการนำมาใช้กับสไตล์การลงทุน
ถ้ารับรู้ทุกอย่าง แต่ไม่มีผลที่ดีต่อการลงทุนคงไม่มีประโยชน์อะไรใช่มั้ยครับ
3.สุดท้ายหลักการบริหารการลงทุนร่วมกับใช้ชีวิตครอบครัว
เช่น
-ลงทุนชื่อภรรยา เทคนิค^^< ทำให้ลงทุนระมัดระวังมากกว่าปกติ
-การใช้จ่ายและการมองชีวิตที่มีคุณค่ารวมถึงการท่องเที่ยวในชีวิต
>>พี่สาวที่เคารพอีกท่านคือ พี่นุช
มีโอกาสได้ต้อนรับในการมาปั่นจักรยานใกล้ที่ทำงาน ผมไม่รอช้าที่เตรียมคำถามมากมาย
1. "เหตุ ไป ผล "
(ผมว่านี้คือหลักคิด...ผมตามหามานานที่ไม่เคยเข้าใจ")
หลักจากวันนั้น ผมก็มาตามหา"เหตุ" ที่แท้จริงของการลงทุน คืออะไร? แล้วผลที่ตามมาคืออะไร
ซึ่งก็ตรงที่พี่โจลูกอิสานVI พูดไว้ ว่า "กำไร คือ เจ้ามือตัวจริง "**
ผมกลับมาดูย้อนหลังของบริษัทต่างๆเท่าที่ทำได้
2.หลักพอเพียง
พี่นุชพูดง่ายว่า. พอใจก็ขาย...ฟังแล้วก็ถามต่อจึงได้ความว่า
ถ้าเรามองภาพไม่ออกหรือความรู้ไม่ถึงก็พอใจที่ได้ไม่โลภ ทำตามความสามารถที่ตนเองมี
ฟังดูง่ายจัง^^<
3.จุดเปลี่ยนที่พี่นุช
-ไม่ใช่พึ่งเกิด แต่มันสะสมมานานก่อนจะมาลงทุนในหุ้น
-การเก็บออมคือจุดเริ่มต้น และการเรียนรู้ที่ถูกต้องทำให้ก้าวอย่างรวดเร็ว
"ศิษย์จะดีเพราะมีครูดี
ครูปรากฏเมื่อศิษย์พร้อม"
หากผิกพลาดประการใดต้องของอภัยด้วยครับ
>>พี่ที่เคารพของผมท่านแรก(ผมเรียกติดปากว่า"พี่หมอ")
1.vi เหมือนผีที่มองไม่เห็น แต่มีคนที่ประสบความสำเร็จมากมาย
นั้นเพราะสับสนในสไตล์ตนเอง ทำให้ผมเห็นเหมือนมีครูคอยชี้แนะครับ
ผมขออธิบายเพิ่มเติม vi เป็นการลงทุนที่เน้นทางศาสตร์ จับต้องได้ยากเพราะไม่มีตัวชี้วัดมากมายนัก
แต่ผลปรากฎว่าผู้ลงทุนจำนวนมากประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
2.การรับรู้ข้อมูลและการประโยชน์ของข้อมูล (ทำให้เลิกสับสนการใช้ข้อมูล)
ผมขออธิบายเพิ่มเติม นั่นเพราะในยุคปัจจุบันข้อมูลมากมาย
ทำให้เราโฟกัสและแบ่งความสำคัญของข้อมูลยากและสับสนในการนำมาใช้กับสไตล์การลงทุน
ถ้ารับรู้ทุกอย่าง แต่ไม่มีผลที่ดีต่อการลงทุนคงไม่มีประโยชน์อะไรใช่มั้ยครับ
3.สุดท้ายหลักการบริหารการลงทุนร่วมกับใช้ชีวิตครอบครัว
เช่น
-ลงทุนชื่อภรรยา เทคนิค^^< ทำให้ลงทุนระมัดระวังมากกว่าปกติ
-การใช้จ่ายและการมองชีวิตที่มีคุณค่ารวมถึงการท่องเที่ยวในชีวิต
>>พี่สาวที่เคารพอีกท่านคือ พี่นุช
มีโอกาสได้ต้อนรับในการมาปั่นจักรยานใกล้ที่ทำงาน ผมไม่รอช้าที่เตรียมคำถามมากมาย
1. "เหตุ ไป ผล "
(ผมว่านี้คือหลักคิด...ผมตามหามานานที่ไม่เคยเข้าใจ")
หลักจากวันนั้น ผมก็มาตามหา"เหตุ" ที่แท้จริงของการลงทุน คืออะไร? แล้วผลที่ตามมาคืออะไร
ซึ่งก็ตรงที่พี่โจลูกอิสานVI พูดไว้ ว่า "กำไร คือ เจ้ามือตัวจริง "**
ผมกลับมาดูย้อนหลังของบริษัทต่างๆเท่าที่ทำได้
2.หลักพอเพียง
พี่นุชพูดง่ายว่า. พอใจก็ขาย...ฟังแล้วก็ถามต่อจึงได้ความว่า
ถ้าเรามองภาพไม่ออกหรือความรู้ไม่ถึงก็พอใจที่ได้ไม่โลภ ทำตามความสามารถที่ตนเองมี
ฟังดูง่ายจัง^^<
3.จุดเปลี่ยนที่พี่นุช
-ไม่ใช่พึ่งเกิด แต่มันสะสมมานานก่อนจะมาลงทุนในหุ้น
-การเก็บออมคือจุดเริ่มต้น และการเรียนรู้ที่ถูกต้องทำให้ก้าวอย่างรวดเร็ว
"ศิษย์จะดีเพราะมีครูดี
ครูปรากฏเมื่อศิษย์พร้อม"
-
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อ นตท. เริ่ม คิดจะลงทุน และก่อนอายุ 30 จะมีเงิน1ล้าน
โพสต์ที่ 63
ผ่านมา 3 ปี
สาเหตุที่ผมไม่ก้าวหน้ามากนักเลย นั้นเพราะ
-ทัศนคติที่ไม่แน่นอน นั้นอาจจะมาจากขาดผู้แนะนำที่ดี
-หลักคิดที่ไม่ชัดเจน นั้นเพราะขาดความเชื่อมั่น
-สไตล์การลงทุนที่มีพื้นฐานไม่มั่นคง สับสนตามกระแส
-การไม่เลือกครู(แบบอย่างที่ดี) ทำให้ก้าวหน้าได้ยากมาก
-การควบคุมความโลภ เร่งรวย ซึ่งไม่ดีเท่าหากจะค่อยพัฒนาตัว
-สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทัศนคติ/แนวคิด
-วิธีการปรับตามสถานการณ์ได้ แต่หลักคิดต้องมั่นคง
-การคิดว่าตนเองสามารถศึกษาได้เองคนเดียว...อาจจะได้แต่ไม่ดีเลยครับ
-การที่เราจะเชื่อสนิทใจต้องลงมือปฏิบัติกับตนเองเท่านั้น(คหสต.)
-***ความนอบน้อม คือสิ่งที่ควรมีในสังคม ต้องขอบคุณพี่ที่กล่าวมาและอีกหลายท่านครับ
MarkOto VI
สาเหตุที่ผมไม่ก้าวหน้ามากนักเลย นั้นเพราะ
-ทัศนคติที่ไม่แน่นอน นั้นอาจจะมาจากขาดผู้แนะนำที่ดี
-หลักคิดที่ไม่ชัดเจน นั้นเพราะขาดความเชื่อมั่น
-สไตล์การลงทุนที่มีพื้นฐานไม่มั่นคง สับสนตามกระแส
-การไม่เลือกครู(แบบอย่างที่ดี) ทำให้ก้าวหน้าได้ยากมาก
-การควบคุมความโลภ เร่งรวย ซึ่งไม่ดีเท่าหากจะค่อยพัฒนาตัว
-สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ทัศนคติ/แนวคิด
-วิธีการปรับตามสถานการณ์ได้ แต่หลักคิดต้องมั่นคง
-การคิดว่าตนเองสามารถศึกษาได้เองคนเดียว...อาจจะได้แต่ไม่ดีเลยครับ
-การที่เราจะเชื่อสนิทใจต้องลงมือปฏิบัติกับตนเองเท่านั้น(คหสต.)
-***ความนอบน้อม คือสิ่งที่ควรมีในสังคม ต้องขอบคุณพี่ที่กล่าวมาและอีกหลายท่านครับ
MarkOto VI
-
- Verified User
- โพสต์: 53
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อ นตท. เริ่ม คิดจะลงทุน และก่อนอายุ 30 จะมีเงิน1ล้าน
โพสต์ที่ 65
เมื่อก่อนผมมีความรู้หรือความเข้าใจผม ดูห่างไกลมาก
เพราะไม่เคยตั้งเรียนรู้กับตนเองและขาดคนชี้แนะ
เมื่อผมใช้แนวคิดของพี่โจ กำไร คือ เจ้ามือตัวจริง!!!
ซึ่งเดิมทีไม่ได้ให้ความสำคัญ จนวันหนึ่งไปเจอรุ่นพี่ที่ดีชี้แนะ
และผมกลับนำไปใช้และทดลองจริงกับการลงทุน
มันทำให้เห็นโอกา่สที่จะเรียนรู้การลงทุนมากขึ้นกว่าเดิมและชัดขึ้น
และเริ่มเจาะลึก ถึงที่มาของ กำไรจากผลประกอบการมากขึ้น
และมีผลต่อราคาหุ้นที่เพิ่มมากขึ้น...รวมถึงปันผลที่ได้รับจากการลงทุน
เพราะไม่เคยตั้งเรียนรู้กับตนเองและขาดคนชี้แนะ
เมื่อผมใช้แนวคิดของพี่โจ กำไร คือ เจ้ามือตัวจริง!!!
ซึ่งเดิมทีไม่ได้ให้ความสำคัญ จนวันหนึ่งไปเจอรุ่นพี่ที่ดีชี้แนะ
และผมกลับนำไปใช้และทดลองจริงกับการลงทุน
มันทำให้เห็นโอกา่สที่จะเรียนรู้การลงทุนมากขึ้นกว่าเดิมและชัดขึ้น
และเริ่มเจาะลึก ถึงที่มาของ กำไรจากผลประกอบการมากขึ้น
และมีผลต่อราคาหุ้นที่เพิ่มมากขึ้น...รวมถึงปันผลที่ได้รับจากการลงทุน
-
- Verified User
- โพสต์: 1980
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เมื่อ นตท. เริ่ม คิดจะลงทุน และก่อนอายุ 30 จะมีเงิน1ล้าน
โพสต์ที่ 67
เพิ่งมาเจอกระทู้นี้ของมาร์ค
555
ยินดีต้อนรับเข้าชมรมทหารปวดๆ
555
ยินดีต้อนรับเข้าชมรมทหารปวดๆ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.