คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041/2558 ~ ฎีกานี้ ผู้ถือหุ้นควรรู้นะคร

[syj]

*ในกรณีที่ กรรมการ ของบริษัท ฯ ยักยอกเงินของบริษัท น แต่มติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ดังกล่าว ได้ตกลงให้ยุติการดำเนินคดีและยุติข้อพิพาท ระหว่างผู้ถือหุ้นกับกรรมการ กรณีเช่นนี้จะถือว่า เป็นการยอมความกันหรือไม่ และผู้ถือหุ้นจะเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องกรรมการที่ยักยอกเงินของบริษัท ฯ ได้หรือไม่

*คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1041/2558

คดีนี้เป็นความผิดที่ได้กระทำต่อนิติบุคคลซึ่งตาม ป.วิ.อ. มาตรา 5 (3) บัญญัติให้ผู้จัดการหรือผู้แทนอื่น ๆ ของนิติบุคคลเป็นผู้ฟ้องคดีแทน เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 5 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนบริษัทและเป็นกรรมการบริษัทผู้กระทำผิดต่อบริษัท ค. ซึ่งเป็นนิติบุคคลนั้นเอง ย่อมจะไม่ฟ้องคดีแทนนิติบุคคลเพื่อกล่าวหาตนเอง เมื่อเป็นดังนี้ โจทก์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นและมีประโยชน์ได้เสียร่วมกับนิติบุคคลนั้นย่อมได้รับความเสียหาย ทั้ง ป.พ.พ. มาตรา 1169 ก็บัญญัติไว้ว่า ถ้ากรรมการทำให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทและบริษัทไม่ฟ้องคดี ผู้ถือหุ้นคนใดคนหนึ่งฟ้องคดีได้ ดังนี้ โจทก์ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นจึงเป็นผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 5 ฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ของบริษัทตาม ป.วิ.อ. มาตรา 28 (2) ประกอบมาตรา 2 (4) ได้ และต้องถือว่าโจทก์ฟ้องแทนบริษัทด้วย

มติที่ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ค. ที่ให้ยุติการฟ้องร้องและยุติข้อพิพาทระหว่างผู้ถือหุ้นกับกรรมการบริหารทั้งหมด ไม่มีข้อความตอนใดที่แสดงว่าผู้ถือหุ้นของบริษัท ค. ซึ่งรวมทั้งโจทก์ ตกลงไม่เอาความทางอาญาแก่จำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 5 จึงฟังไม่ได้ว่าโจทก์มีเจตนาไม่ดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยที่ 1 ที่ 3 และที่ 5 และไม่เป็นการยอมความในความผิดฐานร่วมกันยักยอกโดยถูกต้องตามกฎหมาย สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ในความผิดฐานดังกล่าวจึงไม่ระงับตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2)

จาก Facebook Page : ผ่าคำบรรยายเนติ” โดย เส้นทางลัดสู่เนติบัณฑิตกรุ๊ป”

[miracle]

ขออภัยครับ เคสนี้ เป็นเคสในตลาด(ห)ลักทรัพย์แห่งประเทศไทยใช่ไหมครับ
ซึ่งเกิดราว 2007- 2008 ใช่ไหมครับ
ซึ่งตอนนี้บริษัทนี้ ยังคงซื้อขายอยู่ โดยการเปลี่ยนคณะกรรมการไปแล้วใช่ไหมครับ