ขอสอบถามความเห็นพี่ๆวีไอหน่อยครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 116
- ผู้ติดตาม: 1
ขอสอบถามความเห็นพี่ๆวีไอหน่อยครับ
โพสต์ที่ 1
อันนี้ที่โพสคือขอสอบถามความเห็นเฉยๆนะครับ ไม่ได้มีเจตนาจะคอมเม้นแนวทางการลงทุนของบุคคลใด
สมมุติว่าทั้งตลาดหุ้นมีหุ้นอยู่สองบริษัทคือบริษัท A และ B
สมมุติว่าอนาคตบริษัท A และ B จะทำกำไรได้เท่ารูปนี้ และบริษัท A และ B เริ่มธุรกิจด้วย Book Value เท่ากันสินทรัพย์เหมือนกัน
บริษัท A กำไรโต 5% ต่อปีเป็นเวลา 10 ปี
บริษัท B กำไรโต 25% ต่อปีเป็นเวลา 10 ปี
พอปีที่ 12 ทั้งคู่กำไรโต 5% ต่อปีตลอดไป
บริษัท A ขายอยู่ที่ Trailing PE 10
บริษัท B ขายอยู่ที่ Trailing PE 30
ถ้าคิดว่าเราซึ่งเป็นผถห. แม้จะเป็นรายย่อย ก็ควรจะมีสิทธิ์ในกำไรทั้งหมด
ถ้าตามตารางผมควรจะสรุปว่าหากเราลงทุนในหุ้น A และหุ้น B ตอนนี้ อีก11 ปีผลตอบแทนควรจะมีค่าเท่ากันถูกไหมครับ ปล.ตามหลักแล้วหากสินทรัพย์ทั้งสองบริษัทเหมือนกัน ก็ไม่ควรจะโตต่างกันมากขนาดนี้ แต่ผมขอต๊ต่างว่าโตแบบนี้
ผมเป็นน้องใหม่ประสบการณ์ลงทุนแค่ 3 ปีครับ เลยอยากถามว่า PE กับ Growth อะไรมีผลต่อผลตอบแทนมากกว่ากัน เพราะปัจจุบันหุ้นมีแต่หุ้น PE 30 กำไรโตจริงๆน้อยมากๆ แต่หุ้น PE 10 เต็มเลย แถมดร.ช่วงนี้ก็แนะนำการลงทุนหุ้นถูกด้วย
ใครเห็นต่างไม่เป็นอะไรนะครับ ผมแค่อยากทราบความเห็นพี่ๆที่ลงทุนในแนว VI มานานเฉยๆ
ช่วยกันแสดงความเห็นหน่อยนะครับ จะเป็นพระคุณกับ VI น้อยๆแบบผมมาก
ขอบคุณครับ ^^
สมมุติว่าทั้งตลาดหุ้นมีหุ้นอยู่สองบริษัทคือบริษัท A และ B
สมมุติว่าอนาคตบริษัท A และ B จะทำกำไรได้เท่ารูปนี้ และบริษัท A และ B เริ่มธุรกิจด้วย Book Value เท่ากันสินทรัพย์เหมือนกัน
บริษัท A กำไรโต 5% ต่อปีเป็นเวลา 10 ปี
บริษัท B กำไรโต 25% ต่อปีเป็นเวลา 10 ปี
พอปีที่ 12 ทั้งคู่กำไรโต 5% ต่อปีตลอดไป
บริษัท A ขายอยู่ที่ Trailing PE 10
บริษัท B ขายอยู่ที่ Trailing PE 30
ถ้าคิดว่าเราซึ่งเป็นผถห. แม้จะเป็นรายย่อย ก็ควรจะมีสิทธิ์ในกำไรทั้งหมด
ถ้าตามตารางผมควรจะสรุปว่าหากเราลงทุนในหุ้น A และหุ้น B ตอนนี้ อีก11 ปีผลตอบแทนควรจะมีค่าเท่ากันถูกไหมครับ ปล.ตามหลักแล้วหากสินทรัพย์ทั้งสองบริษัทเหมือนกัน ก็ไม่ควรจะโตต่างกันมากขนาดนี้ แต่ผมขอต๊ต่างว่าโตแบบนี้
ผมเป็นน้องใหม่ประสบการณ์ลงทุนแค่ 3 ปีครับ เลยอยากถามว่า PE กับ Growth อะไรมีผลต่อผลตอบแทนมากกว่ากัน เพราะปัจจุบันหุ้นมีแต่หุ้น PE 30 กำไรโตจริงๆน้อยมากๆ แต่หุ้น PE 10 เต็มเลย แถมดร.ช่วงนี้ก็แนะนำการลงทุนหุ้นถูกด้วย
ใครเห็นต่างไม่เป็นอะไรนะครับ ผมแค่อยากทราบความเห็นพี่ๆที่ลงทุนในแนว VI มานานเฉยๆ
ช่วยกันแสดงความเห็นหน่อยนะครับ จะเป็นพระคุณกับ VI น้อยๆแบบผมมาก
ขอบคุณครับ ^^
- Catchphrase! -
- romee
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอสอบถามความเห็นพี่ๆวีไอหน่อยครับ
โพสต์ที่ 2
"เลยอยากถามว่า PE กับ Growth อะไรมีผลต่อผลตอบแทนมากกว่ากัน"
ส่วนตัวคิดว่าGrowth นะครับ เท่าที่เห็นตลาดชอบหุ้นเติบโต แต่อย่าให้การเติบโตลดลงนะ ตลาดก็พร้อมจะลงโทษได้หนักหน่วงเหมือนกัน
ส่วนจากโจทย์ ถ้าข้อมูลมีแค่นี้ผมเลือกหุ้นBครับ
ส่วนตัวคิดว่าGrowth นะครับ เท่าที่เห็นตลาดชอบหุ้นเติบโต แต่อย่าให้การเติบโตลดลงนะ ตลาดก็พร้อมจะลงโทษได้หนักหน่วงเหมือนกัน
ส่วนจากโจทย์ ถ้าข้อมูลมีแค่นี้ผมเลือกหุ้นBครับ
การลงทุนแนวvi ไม่ได้แปลว่า นักลงทุนคนนั้นดีกว่า หรือมีวรรณะสูงกว่าคนที่ลงทุนแนวอื่นๆหรอก
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 97
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอสอบถามความเห็นพี่ๆวีไอหน่อยครับ
โพสต์ที่ 4
ตามตาราง แม้จะดูเหมือนว่าในช่วงแรกผลตอบแทนหุ้น growth จะต่ำกว่าหุ้น value
แต่ในปีที่ 10 หุ้น growth ให้ผลตอบแทน 31% ต่อปี ในขณะที่หุ้น value ให้ผลตอบแทน 16% ต่อปี
ด้วยเหตุนี้ ในปีที่ 11 เป็นต้นไป แม้หุ้นทั้งสองจะเปลี่ยนมาเป็นหุ้นโตช้าทั้งคู่ แต่หุ้น growth จะมีคุณค่าสูงกว่าครับ
เพราะอนุมานว่า จะได้ผลตอบแทน 31% ต่อปีขึ้น ส่วนหุ้น value ผลตอบแทน 16% ต่อปีขึ้น
แม้จะดูเหมือนการลงทุนหุ้น growth ดีกว่า value แต่เป็นเพราะสมมุติฐานที่ว่า
โตปีละ 25% ติดต่อกัน 10 ปี ซึ่งหาได้ยาก หากบริษัทไหนทำได้จริง ก็ถือว่าเป็นบริษัทที่คุณภาพดีมาก
โดยส่วนตัวผม เน้นหุ้น value เป็นหลัก ไม่เน้นหุ้น growth เพราะมองหุ้น growth ไม่ออกได้ยาวได้ถึง 10 ปีครับ
จึงเน้นหุ้นปลอดภัยไว้ก่อน หาหุ้น value ที่ธุรกิจค่อนข้างนิ่ง กำไรนิ่งย้อนหลัง ไม่ growth มากก็ไม่เป็นไร
ขอแค่ธุรกิจมีโอกาสโดน disrupt น้อย และที่สำคัญ P/E ต้องต่ำๆ ประมาณ 10 ได้ยิ่งดีครับ
แต่ในปีที่ 10 หุ้น growth ให้ผลตอบแทน 31% ต่อปี ในขณะที่หุ้น value ให้ผลตอบแทน 16% ต่อปี
ด้วยเหตุนี้ ในปีที่ 11 เป็นต้นไป แม้หุ้นทั้งสองจะเปลี่ยนมาเป็นหุ้นโตช้าทั้งคู่ แต่หุ้น growth จะมีคุณค่าสูงกว่าครับ
เพราะอนุมานว่า จะได้ผลตอบแทน 31% ต่อปีขึ้น ส่วนหุ้น value ผลตอบแทน 16% ต่อปีขึ้น
แม้จะดูเหมือนการลงทุนหุ้น growth ดีกว่า value แต่เป็นเพราะสมมุติฐานที่ว่า
โตปีละ 25% ติดต่อกัน 10 ปี ซึ่งหาได้ยาก หากบริษัทไหนทำได้จริง ก็ถือว่าเป็นบริษัทที่คุณภาพดีมาก
โดยส่วนตัวผม เน้นหุ้น value เป็นหลัก ไม่เน้นหุ้น growth เพราะมองหุ้น growth ไม่ออกได้ยาวได้ถึง 10 ปีครับ
จึงเน้นหุ้นปลอดภัยไว้ก่อน หาหุ้น value ที่ธุรกิจค่อนข้างนิ่ง กำไรนิ่งย้อนหลัง ไม่ growth มากก็ไม่เป็นไร
ขอแค่ธุรกิจมีโอกาสโดน disrupt น้อย และที่สำคัญ P/E ต้องต่ำๆ ประมาณ 10 ได้ยิ่งดีครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 116
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอสอบถามความเห็นพี่ๆวีไอหน่อยครับ
โพสต์ที่ 6
ขอบคุณพี่หนุ่มVI และพี่pop007 มากครับ
เห็นด้วยกับพี่หนุ่มVI ครัับหุ้น growth เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนมากจริงๆ ไม่แปลกใจที่ได้ PE สูง
ส่วนหุ้นที่ Growth ต่ำๆก็ใช่ว่าจะให้ผลตอบแย่ไปซะทีเดียว เพราะด้วยความถูกของมันก็ให้ผลตอบแทนที่สมเหตสมผล กับความเสี่ยงที่น้อยกว่า
และเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับว่ามีหุ้นน้อยตัวมากที่โต 25% เป็นเวลา 10 ปี ปัจจุบันก็มีหุ้น VI หลายตัวที่โตช้าลงแต่ยังแพงอยู่ บางตัวก็โตสะดุด
ปล.Idea สำคัญที่ได้จากพี่ๆทั้งสามคนคือ ไม่ว่า Trailing PE จะต่ำหรือจะสูง สุดท้ายแล้วหุ้นที่เราควรจะลงทุน คือหุ้นมี PE ตอนใกล้จะหยุดโตต่ำที่สุด
เห็นด้วยกับพี่หนุ่มVI ครัับหุ้น growth เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนมากจริงๆ ไม่แปลกใจที่ได้ PE สูง
ส่วนหุ้นที่ Growth ต่ำๆก็ใช่ว่าจะให้ผลตอบแย่ไปซะทีเดียว เพราะด้วยความถูกของมันก็ให้ผลตอบแทนที่สมเหตสมผล กับความเสี่ยงที่น้อยกว่า
และเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับว่ามีหุ้นน้อยตัวมากที่โต 25% เป็นเวลา 10 ปี ปัจจุบันก็มีหุ้น VI หลายตัวที่โตช้าลงแต่ยังแพงอยู่ บางตัวก็โตสะดุด
ปล.Idea สำคัญที่ได้จากพี่ๆทั้งสามคนคือ ไม่ว่า Trailing PE จะต่ำหรือจะสูง สุดท้ายแล้วหุ้นที่เราควรจะลงทุน คือหุ้นมี PE ตอนใกล้จะหยุดโตต่ำที่สุด
- Catchphrase! -