AGM 2561
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
AGM 2561
โพสต์ที่ 1
สวัสดีครับ เพื่อนๆนักลงทุน ตอนนี้เป็นช่วงฤดูกาล ของการประชุมผู้ถือหุ้น หรือ AGM
เชิญชวนเพื่อนๆที่ไปประชุมมาแชร์กันในห้องนี้นะครับ
วันนี้ มี AGM SF ใช้เวลาประชุมแค่ 1 ชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อย
มีน้องที่ไปประชุม สรุปมาเรียบร้อยในห้อง SF ต้องขอบคุณมาก
ขอนำเนื้อหาที่สรุปมาใส่ประเดิมครับ
เชิญชวนเพื่อนๆที่ไปประชุมมาแชร์กันในห้องนี้นะครับ
วันนี้ มี AGM SF ใช้เวลาประชุมแค่ 1 ชั่วโมงก็เสร็จเรียบร้อย
มีน้องที่ไปประชุม สรุปมาเรียบร้อยในห้อง SF ต้องขอบคุณมาก
ขอนำเนื้อหาที่สรุปมาใส่ประเดิมครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 2
สรุป SF AGM 21.03.2018 (ถ้ามีส่วนไหนผิดรบกวนคนอื่นช่วยแก้ด้วยครับ)
Cr: Toro149
ฐานะการเงิน
+ ค่าเช่าเพิ่มจากเปิดพื้นที่ขาย 10,000ตรม
+ พื้นที่เช่า 423,558ตรม mega+10,000 นางลิ้นจี่+5,000
+ กำไร 424 -> 499ล +18%
+ ที่ดินบางใหญ่ ไม่มีการปรับมูลค่ายุติธรรม น่าจะมีราคาสูงขึ้นมากจากอิเกียเปิด **
+ บริษัทอยากขาย แต่อยากได้ราคาที่ต้องการ ตอนนี้มีพาร์ทเนอมาคุยอยู่ว่าจะทำเองได้ไหม ไม่ไช่อีเกีย
ปันผล
+ ปันผล 0.25บาท ไม่มีการตั้งสำรองเพราะครบ 10%แล้ว
+ มีผถห เสนอมาว่าให้ปันผลเป็นหุ้น
+ อัตราภาษีตอนนี้เป็น 20% ทั้งหมด
เลือกตั้งกรรมการ ผู้สอบ
+ ให้เป็นชุดเดิมเข้ามาใหม่
+ ไม่มีทดแทนกรรมการที่เสียชีวิต
+ ค่าตอบแทนกรรมการเท่าเดิม ทั้งคณะ 7.5ล
+ ผู้สอบบัญชีรายเดิม pwc ค่าสอบเท่าเดิม 8.13แสน
outlook 2018 + Q&A
+ mega bangna ซื้อที่ 300ไร่ ใช้ไป200ไร่ เหลือ 100ไร่
+ ใน 10ปี มูลค่าโครงการรวมจะสูงกว่าปัจจุบัน
+ เฟสต่อไป 1หมื่นตรม 4-500ล park + โรงเรียน เพื่อรับกลุ่มเด็กๆ
+ มาเวล จะรับกลุ่มท่องเที่ยว เปิดพค 18 ใช้เงิน 100ล+
+ ฮาเวอแลน ให้เด็ก 5-15ปี
+ Homepro ส่วนขยาย
+ Marketplace ทองหล่อ 1พันกว่าล้าน รื้อทำใหม่ รับรู้ปลายปี19 แต่จะมีพื้นที่เช่าด้านข้างมารับ รายได้ไม่หายไปทั้งหมด
+ นางลิ้นจี่ รื้อทำใหม่ 220ล ปีนี้
+ ดุสิต 300ล ปีนี้ โครงการใหม่ ระหว่างก่อสร้าง
+ อิเกีย มี 2ส่วนคือที่ทำอสังหา อีกส่วนคือค้าปลีก ตัวค้าปลีกมีแผนเปิดปีละแห่งใน sea ปีหน้าอาจจะในไทยอีก1สาขา แทนมาเลเซีย(ไม่แน่นอน)
+ รังสิต รอผังเมือง ซื้อที่ 900ไร่ เผื่อมากกว่าบางนา รองรับการพัฒนาได้มากกว่า10ปี
+ บางใหญ่ ซื้อที่ได้เล็กไป 50ไร่ ประกาศขายอยู่ วาละ1แสน
+ ส่วนของ mega bangna จะโต 2 digit ไปอีก 2 ปี ปีนี้กลางปีปรับค่าเช่าอย่างน้อย 5% อาจจะมี โปรเจคไม่ใหญ่มากในปี 20-21
+ ปิยะรม เจ้าของขายให้แมคโนเรียมีทำพื้นที่เช่า กันยานี้ขายคืนก่อน1ปี รับรู้12ล ปีนี้
+ บริษัทมีแผนในอนาคตเกี่ยวกับ onlineไหม กังวลไหม ตอบว่าในตปท online 10% offline 90% ของเมืองไทย0.8% เนื่องจากของสภาพของไม่เหมือน เมืองไทยมีศูนย์การค้า.28 ตรม/หัว น้อยกว่าในอเมริกา 10เท่า กระจุกในเมือง แข่งขันสูงทำให้ตรงแยกบางนาก็ชลอไป ทำให้ mega bangna สบายไปอีกหลายปี
+ ยอดของ sf อัตราเช่า 93% เป้า 95% ปลายปีมีผู้เช่าย้ายออก แต่ตอนนี้มีผู้เช่าแทนชั่วคราวแล้ว
+ การจราจร mega bangna ลงทุนไป 100ล+ ตัดถนนด้านหลังเพื่อระบายไปกาญจนา บริจาคเงินให้กรมทางหลวงเพื่อสร้างยูเทินข้างหน้า
Cr: Toro149
ฐานะการเงิน
+ ค่าเช่าเพิ่มจากเปิดพื้นที่ขาย 10,000ตรม
+ พื้นที่เช่า 423,558ตรม mega+10,000 นางลิ้นจี่+5,000
+ กำไร 424 -> 499ล +18%
+ ที่ดินบางใหญ่ ไม่มีการปรับมูลค่ายุติธรรม น่าจะมีราคาสูงขึ้นมากจากอิเกียเปิด **
+ บริษัทอยากขาย แต่อยากได้ราคาที่ต้องการ ตอนนี้มีพาร์ทเนอมาคุยอยู่ว่าจะทำเองได้ไหม ไม่ไช่อีเกีย
ปันผล
+ ปันผล 0.25บาท ไม่มีการตั้งสำรองเพราะครบ 10%แล้ว
+ มีผถห เสนอมาว่าให้ปันผลเป็นหุ้น
+ อัตราภาษีตอนนี้เป็น 20% ทั้งหมด
เลือกตั้งกรรมการ ผู้สอบ
+ ให้เป็นชุดเดิมเข้ามาใหม่
+ ไม่มีทดแทนกรรมการที่เสียชีวิต
+ ค่าตอบแทนกรรมการเท่าเดิม ทั้งคณะ 7.5ล
+ ผู้สอบบัญชีรายเดิม pwc ค่าสอบเท่าเดิม 8.13แสน
outlook 2018 + Q&A
+ mega bangna ซื้อที่ 300ไร่ ใช้ไป200ไร่ เหลือ 100ไร่
+ ใน 10ปี มูลค่าโครงการรวมจะสูงกว่าปัจจุบัน
+ เฟสต่อไป 1หมื่นตรม 4-500ล park + โรงเรียน เพื่อรับกลุ่มเด็กๆ
+ มาเวล จะรับกลุ่มท่องเที่ยว เปิดพค 18 ใช้เงิน 100ล+
+ ฮาเวอแลน ให้เด็ก 5-15ปี
+ Homepro ส่วนขยาย
+ Marketplace ทองหล่อ 1พันกว่าล้าน รื้อทำใหม่ รับรู้ปลายปี19 แต่จะมีพื้นที่เช่าด้านข้างมารับ รายได้ไม่หายไปทั้งหมด
+ นางลิ้นจี่ รื้อทำใหม่ 220ล ปีนี้
+ ดุสิต 300ล ปีนี้ โครงการใหม่ ระหว่างก่อสร้าง
+ อิเกีย มี 2ส่วนคือที่ทำอสังหา อีกส่วนคือค้าปลีก ตัวค้าปลีกมีแผนเปิดปีละแห่งใน sea ปีหน้าอาจจะในไทยอีก1สาขา แทนมาเลเซีย(ไม่แน่นอน)
+ รังสิต รอผังเมือง ซื้อที่ 900ไร่ เผื่อมากกว่าบางนา รองรับการพัฒนาได้มากกว่า10ปี
+ บางใหญ่ ซื้อที่ได้เล็กไป 50ไร่ ประกาศขายอยู่ วาละ1แสน
+ ส่วนของ mega bangna จะโต 2 digit ไปอีก 2 ปี ปีนี้กลางปีปรับค่าเช่าอย่างน้อย 5% อาจจะมี โปรเจคไม่ใหญ่มากในปี 20-21
+ ปิยะรม เจ้าของขายให้แมคโนเรียมีทำพื้นที่เช่า กันยานี้ขายคืนก่อน1ปี รับรู้12ล ปีนี้
+ บริษัทมีแผนในอนาคตเกี่ยวกับ onlineไหม กังวลไหม ตอบว่าในตปท online 10% offline 90% ของเมืองไทย0.8% เนื่องจากของสภาพของไม่เหมือน เมืองไทยมีศูนย์การค้า.28 ตรม/หัว น้อยกว่าในอเมริกา 10เท่า กระจุกในเมือง แข่งขันสูงทำให้ตรงแยกบางนาก็ชลอไป ทำให้ mega bangna สบายไปอีกหลายปี
+ ยอดของ sf อัตราเช่า 93% เป้า 95% ปลายปีมีผู้เช่าย้ายออก แต่ตอนนี้มีผู้เช่าแทนชั่วคราวแล้ว
+ การจราจร mega bangna ลงทุนไป 100ล+ ตัดถนนด้านหลังเพื่อระบายไปกาญจนา บริจาคเงินให้กรมทางหลวงเพื่อสร้างยูเทินข้างหน้า
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 3
AGM TICON 27 Mar 18
บริษัทเริ่มการประชุมโดยให้ดูประวัติความเป็นมาของบริษัทผ่าน
วีดีโอ หลังจากนั้นคุณวีระได้สรุปเรื่องราวที่ผ่านมาของบริษัท
มีการเทรนนิ่งพนักงานมากขึ้น
หลังจากทางเฟรเซอร์เข้ามาถือหุ้นปลายปี59
และขอให้เพิ่มการอบรมให้พนักงาน
ช่วงปลายปี60มีการรวมกองอสังหาทั้งสามกองเข้ากับกองTREITs
มูลค่าทรัพย์สินรวมสามหมื่นกว่าล้านบาท
เรามีโรงงาน450โรง จาก7จังหวัด16ทำเลย
พื้นที่รวมกว่า 1.14mnsqm.
อัตราการเช่า68% อายุเฉลี่ย 1.6 ปี
มีพื้นที่เช่า16Ksqm
ส่วนคลังสินค้า ใน9จังหวัดใน24ทำเล
กว่า410คลังสินค้า (พื้นที่ 1.56mmsqm)
อายุเฉลี่ยของคลังสินค้า2,5ปี
พิ้นที่โรงงานในไทคอนสามแสนเก้าหมื่นตารางเมตร
มีพื้นที่ให้เช่าหนี่งล้านห้าแสนหกหมื่นตารางเมตร
พื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นบ้างจากการสร้างเพิ่มใหม่
รายได้รวมเพิ่มขึ้น11%
60%มาจากค่าเช่าและค่าบริการถือเป็นธุรกิจหลัก
และรายได้จากTREITs เพิ่มขึ้น14%
ปีที่แล้วไม่เน้นเรื่องขายโรงงานเพราะได้จากเฟรเซอร์
ส่วนใหญ่ที่ขายได้คือขายให้กับผู้เช่ารายเดิม
ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้น9%
ต้นทุนการเงินลดลง30%เหลือ570ลบมาจากเอาเงินเพิ่มทุนไปลดหนี้
รายได้Net income เพิ่มขึ้น73%
Earning per share increase 8%
มีการลงทุนในบริษัทย่อยในกองREITS เป็น 3xxxลบ ทำให้สทเพิ่มขึ้น 13%
Liabilities โดยรวมลดลง
รายได้เพิ่มขึ้นจากค่าเช่าและค่าบริหาร มีคนเช่าเพิ่มขึ้นส่งผลรายได้ขึ้น 11%
NP from 15 to 23%
Debt / Equity =0.5 เราสามารถลงทุนได้ โดยกู้ได้อีกหนึ่งเท่าตัวเท่ากับ
สองหมื่นกว่าล้านบาท นับว่าเป็น Balance Sheetที่ดี
คำถาม หลังจากกลุ่มเฟรเซอร์เพิ่มทุนเข้ามามีแผนเอาเงินไปทำอะไรบ้างนอกจาก
การลดหนี้
ตอบ คุณปณต ซึ่งมาจากเฟรเซอร์ บอกว่าจากการศึกษา ที่เราเฟรเซอร์ชำนาญด้านwarehouse,Logistic
เราสร้างบุคคลากร เราทำBuild to suit สำหรับลูกค้าระยะยาว
โดยสเกลที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
เราศึกษาการลงทุนในภูมิภาคเช่น อินโดนีเซีย หรือ เวียดนาม
เรายังมุ่งเน้นในการเจริญเติบโตในการขนส่ง สำหรับลูกค้าขนาดใหญ่และกลาง
รวมถึงงานBusiness ด้วย
คุณวีระเสริมปีที่ผ่านมามีการกำกับกิจการที่ดี ได้รับประเมินที่ดีมากจากกำกับจาก IOD และ จากCSC
คำถาม Fix costมาจากอะไร และไทคอนกับTREITsเป็นคู่แข่งกันใช่หรือไม่
ตอบ ต้นทุนทางการเงินที่ลดลง และ Fix costที่ลดลงทำให้กำไรดีขึ้นเราพยายามเน้นไปเพิ่ม occupancy rate
TREITsกับเราเป็นคู่แข่งกันกลายๆ ถ้าทรัพย์สินอยู่ใกล้กัน
แต่เราบริหารTREITsดังนั้นเราโชว์พื้นที่ทั้งหมด ขึ้นกับลูกค้าเลือก
ว่าเป็นของเราหรือTREITs
กลต ก็ออกมาตรวจสอบเรื่องนี้เหมือนกัน
ปีที่แล้วกลุ่มเฟรเซอร์เข้ามาใหม่เลยอยากให้พนักงานมีการอบรมเพิ่มเติม
ดังนั้นปีที่แล้วจะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มขึ้น ปีนี้คงไม่มากเหมือนปีที่แล้ว
การจ่ายปันผล หุ้นละ0.1บาทจากกำไรที่ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลทั้งจำนวน
และจ่ายน้อยกว่าปกติ คือกำหนดไว้40%จ่าย38%
เนื่องจากจะนำเงินที่เหลือไปลงทุน
ผู้ถือหุ้นท้วงว่าคราวหน้าไม่ควรจ่ายต่ำกว่าที่กำหนดไว้คือ40%
บริษัทเริ่มการประชุมโดยให้ดูประวัติความเป็นมาของบริษัทผ่าน
วีดีโอ หลังจากนั้นคุณวีระได้สรุปเรื่องราวที่ผ่านมาของบริษัท
มีการเทรนนิ่งพนักงานมากขึ้น
หลังจากทางเฟรเซอร์เข้ามาถือหุ้นปลายปี59
และขอให้เพิ่มการอบรมให้พนักงาน
ช่วงปลายปี60มีการรวมกองอสังหาทั้งสามกองเข้ากับกองTREITs
มูลค่าทรัพย์สินรวมสามหมื่นกว่าล้านบาท
เรามีโรงงาน450โรง จาก7จังหวัด16ทำเลย
พื้นที่รวมกว่า 1.14mnsqm.
อัตราการเช่า68% อายุเฉลี่ย 1.6 ปี
มีพื้นที่เช่า16Ksqm
ส่วนคลังสินค้า ใน9จังหวัดใน24ทำเล
กว่า410คลังสินค้า (พื้นที่ 1.56mmsqm)
อายุเฉลี่ยของคลังสินค้า2,5ปี
พิ้นที่โรงงานในไทคอนสามแสนเก้าหมื่นตารางเมตร
มีพื้นที่ให้เช่าหนี่งล้านห้าแสนหกหมื่นตารางเมตร
พื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นบ้างจากการสร้างเพิ่มใหม่
รายได้รวมเพิ่มขึ้น11%
60%มาจากค่าเช่าและค่าบริการถือเป็นธุรกิจหลัก
และรายได้จากTREITs เพิ่มขึ้น14%
ปีที่แล้วไม่เน้นเรื่องขายโรงงานเพราะได้จากเฟรเซอร์
ส่วนใหญ่ที่ขายได้คือขายให้กับผู้เช่ารายเดิม
ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้น9%
ต้นทุนการเงินลดลง30%เหลือ570ลบมาจากเอาเงินเพิ่มทุนไปลดหนี้
รายได้Net income เพิ่มขึ้น73%
Earning per share increase 8%
มีการลงทุนในบริษัทย่อยในกองREITS เป็น 3xxxลบ ทำให้สทเพิ่มขึ้น 13%
Liabilities โดยรวมลดลง
รายได้เพิ่มขึ้นจากค่าเช่าและค่าบริหาร มีคนเช่าเพิ่มขึ้นส่งผลรายได้ขึ้น 11%
NP from 15 to 23%
Debt / Equity =0.5 เราสามารถลงทุนได้ โดยกู้ได้อีกหนึ่งเท่าตัวเท่ากับ
สองหมื่นกว่าล้านบาท นับว่าเป็น Balance Sheetที่ดี
คำถาม หลังจากกลุ่มเฟรเซอร์เพิ่มทุนเข้ามามีแผนเอาเงินไปทำอะไรบ้างนอกจาก
การลดหนี้
ตอบ คุณปณต ซึ่งมาจากเฟรเซอร์ บอกว่าจากการศึกษา ที่เราเฟรเซอร์ชำนาญด้านwarehouse,Logistic
เราสร้างบุคคลากร เราทำBuild to suit สำหรับลูกค้าระยะยาว
โดยสเกลที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
เราศึกษาการลงทุนในภูมิภาคเช่น อินโดนีเซีย หรือ เวียดนาม
เรายังมุ่งเน้นในการเจริญเติบโตในการขนส่ง สำหรับลูกค้าขนาดใหญ่และกลาง
รวมถึงงานBusiness ด้วย
คุณวีระเสริมปีที่ผ่านมามีการกำกับกิจการที่ดี ได้รับประเมินที่ดีมากจากกำกับจาก IOD และ จากCSC
คำถาม Fix costมาจากอะไร และไทคอนกับTREITsเป็นคู่แข่งกันใช่หรือไม่
ตอบ ต้นทุนทางการเงินที่ลดลง และ Fix costที่ลดลงทำให้กำไรดีขึ้นเราพยายามเน้นไปเพิ่ม occupancy rate
TREITsกับเราเป็นคู่แข่งกันกลายๆ ถ้าทรัพย์สินอยู่ใกล้กัน
แต่เราบริหารTREITsดังนั้นเราโชว์พื้นที่ทั้งหมด ขึ้นกับลูกค้าเลือก
ว่าเป็นของเราหรือTREITs
กลต ก็ออกมาตรวจสอบเรื่องนี้เหมือนกัน
ปีที่แล้วกลุ่มเฟรเซอร์เข้ามาใหม่เลยอยากให้พนักงานมีการอบรมเพิ่มเติม
ดังนั้นปีที่แล้วจะมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มขึ้น ปีนี้คงไม่มากเหมือนปีที่แล้ว
การจ่ายปันผล หุ้นละ0.1บาทจากกำไรที่ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลทั้งจำนวน
และจ่ายน้อยกว่าปกติ คือกำหนดไว้40%จ่าย38%
เนื่องจากจะนำเงินที่เหลือไปลงทุน
ผู้ถือหุ้นท้วงว่าคราวหน้าไม่ควรจ่ายต่ำกว่าที่กำหนดไว้คือ40%
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 4
ต่อเนื่องจากการประชุม
TICON เผย`เฟรเซอร์ส`จะใช้เงินอีก 1.08 หมื่นลบ.ซื้อหุ้น TICON ทั้งหมด หลังได้แล้ว 67.05%
บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัท เฟรเซอร์ส แอสเซ็ทส์ ในฐานะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ เจตนาจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ TICON ทั้งหมดของกิจการ โดยมีความประสงค์ที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดที่เหลือจากผู้ถือหุ้นรายย่อยอีก 604.43 ล้านหุ้น หรือ 32.95% ที่ราคา 17.90 บาท มูลค่าที่เสนอซื้อ 1.08 หมื่นล้านบาท
TICON เผย`เฟรเซอร์ส`จะใช้เงินอีก 1.08 หมื่นลบ.ซื้อหุ้น TICON ทั้งหมด หลังได้แล้ว 67.05%
บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TICON แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บริษัท เฟรเซอร์ส แอสเซ็ทส์ ในฐานะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ เจตนาจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ TICON ทั้งหมดของกิจการ โดยมีความประสงค์ที่จะซื้อหุ้นทั้งหมดที่เหลือจากผู้ถือหุ้นรายย่อยอีก 604.43 ล้านหุ้น หรือ 32.95% ที่ราคา 17.90 บาท มูลค่าที่เสนอซื้อ 1.08 หมื่นล้านบาท
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 5
AGM SCC 28 Mar 18
สรุปผลการดำเนินงานโดย ซีอีโอ
ภาพรวมศกไทยดีขึ้นกว่าปีที่แล้วจากการลงทุนภาครัฐและการส่งออก
ต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานสุงขึ้น ค่าเงินบาทแข็ง แข่งขันรุนแรง
เราปรับโครงสร้าง เอาideมาเพิ่มความคล่องตัว
เรามีรายได้จากการขายสูงขึ้น 6%เนื่องจากปรับราคาขาย
กำไรลดลง2%จากเหตุผลดังกล่าว
ผลกำไรจากเคมีภัณฑ์คิดเป็น73%ของกำไรทั้งหมด
การก่อตั้งInnovation center
เปิดนำร่องธุรกิจเคมีภัณฑ์กับจีน
ลงทุนรถlogistic 7000คันทั่วอาเซียน
จัด
IOT for stock เพื่อความแม่นยำ
เป็นเจ้าแรก (Scg express )แบบควบคุมอุณหภูมิภายในกลางปีนี้
การลงทุนในอาเซียนก่อสร้างใช้เวลาห้าปี
ก่อสร้างลงในvcm ซึ่งอยู่ในภาคกลางของเวียดนาม
รวมถึงใน6ประเทศ อาเซียน
ในอินโดกำลังการผลิต 3.3หมื่นตันต่อปี
รายได้จากการขายในอาเซียนเป็น25%ของทั้งหมด
เพิ่มขึ้น9%ากปีที่แล้ว
บริษัทยึดมั่นCG ต่อต้านการทุจริตของธุรกิจ
ควบคุมภายในป้องกันการให้สินบนในบริษัท
คำถาม บริษัทเราราคาหุ้นเริ่มแตกต่างจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่
กลางปีที่แล้วมีคำถามต่อเนื่องที่จะถามดังนี้
1. หลายบริษัทถูกdisruptive ซึ่งTechnologyเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น
การขึ้นภาษีของUSต่อจีนมีผลกระทบต่อเราอย่างไร
2 การลงทุนกับVCทำให้sccเป็นอย่างไร เราใช้blockchainอย่างไร
ทำไมยอดค่าใช้จากการวิจัยลดลงจากปี59
3 SCG มีแผนใช้robot แทนคนหรือไม่ ลดคนหรือไม่
4. EECมีผลต่อธุรกิจอย่างไร
เราจะเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างไร
5 เราเข้าสู่สังคมสูงอายุ เช่นเดียวกับประเทศในอาเซียนเช่นสิงคโปร์
พูดถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน SCGมีโครงการเป้าหมายอย่างไรกับผู้สูงอายุ
6.มีแผนเข้าสู่ธุรกิจยาหรือไม่
เพราะตอนนี้ภาครัฐทำไม่ได้
7 สินค้าที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกย่อยสลายยาก
เรามีแผนผลิตวัสดุที่ย่อยง่ายหรือไม่
8. มีใช้ iotมากน้อยแค่ไหน
9 งานวิจัยเพื่อสิ่งแวดล้อม งบลดลงเพราะอะไร
10โรงเรียนทักษะพิพัฒน์มีหน้าที่อย่างไร
11 การแข็งค่าของเงินบาทมีผลกระทบอย่างไร
12 ราคาไม่สอดคล้องกับset บอกอะไรกับผู้ลงทุนได้ไหม
ตอบโดยซีอีโอ
เราติดตามทั้ง12ข้อ
เรื่องปัญหาus เรื่องtariff ต่อจีน
มีผลกระทบกับเราไม่มาก เพราะไม่เกี่ยวสินค้าเรา
ธุรกิจscg ต่อการกระทบ iot excluded B to B เช่นpackaging chemical
เช่นรายการที่โดนกระทบบ้าง
วัสดุก่อสร้าง การขาย การขนส่ง กระทบไม่มาก แต่เราถือว่าเป็นวาระใหญ่
ถึงแม้กระทบไม่มาก
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย
ปี2559 มีโรงงานต้นแบบ มีค่าใช้จ่ายมาก เเต่ปีที่แล้วค่าใช้จ่ายก็เข้าสู่ปกติ
เดิมเราเน้นทำเอง ตอนนี้ให้คนอื่นร่วมลงทุนเช่น มหาวิทยาลัย oxfordหรือในจีน
การลงทุนในdigital tech จะส่งผลในปีนี้ และ จะเพิ่มงบวิจัยและพัฒนามากขึ้น
การเข้าหุ่นยนต์มาใช้ทดแทนพนักงาน เป็นเรื่องที่เราทำอย่างต่อเนื่อง
มีการร่วมกับหลายบริษัท เราเทรนพนักงานที่ใช้แรงงานมากมาใช้ ฝีกหัด
ให้เก่งเรื่องเทคโนมากขึ้น
ทำอย่างไรให้พนักงานมีskillที่เหมาะสม
การลงทุนในEEC หลักคือลงทุนในธุรกิจเดิม แต่ไม่หนักมากนัก
เพราะรัฐอยากให้ลงทุน light industry
การเข้าไปตอบรับผู้สูงอายุ เช่นบรรจุภัณฑ์ที่เปิดสดวกขึ้น
อุปกรณ์เครื่องมือเเพทย์ที่ใช้เคมีคอล
ตัวที่มีผลสุดคือวัสดุก่อสร้างที่เกี่ยวกับเรามากสุดสำหรับผู้สูงวัย
โรงเรียนทักษะพิพัฒน์สำหรับเทรนผู้รับเหมาของเราปีละหมื่นคน
ต่อมาขยายเปิดรับกว้างขึ้น เพื่อให้ปลอดภัยในการขนส่ง
ค่าเงินบาทแข็งตัวตั้งแต่ต้นปี
หนึ่งบาทแข็งขึ้นมีผลต่อเรา2,200ล้านบาท ปีที่แล้วโดนไป5,xxxลบ
ราคาหุ้นเทียบกับset เราได้ดูอย่างต่อเนื่อง
สภาวะตลาด เราไม่สามารถควบคุมได้
เรื่องที่ควบคุมได้ คือพื้นฐานธุรกิจของเรา ให้แข่งขันได้
ธุรกิจเคมีคอล ผันผวนมาก นลทให้ค่าความเสี่ยงค่อนข้างมาก
นลท ให้ความสำคัญกับอันนี้มาก เลยทำให้เราด้อยกว่า
การลงทุนในเคมีคอล ทำให้ความผันผวนมากขึ้น
การที่ลงทุนวิจัย และ พัฒนา ทำให้สินค้ามีราคาเพิ่มขึ้น
นลท ต้องรอให้เกิดขึ้น เพื่อให้ราคาปรับตัวดีขึ้น
คำถาม โครงสร้างของกำไร เรามีสามขา
ขาแรก ปิโตรเคมี ประมาณ 70%
ขาที่สองวัสดุก่อสร้าง และ ขาที่สาม วัสดุหีบห่อ
ดังนั้นส่วนแรกผันผวนทำให้กำไรผันผวน ส่งผลต่อราคาหุ้น
เทียบกับ ปตท มีการเดินและขึ้นคล้ายๆกัน
โอลิฟิน และ อีกหมวดที่ส่งผลกระทบต่อรายได้อย่างมากผู้ถามจำไม่ได้
เมื่อสองปีก่อน ที่ทางบริษัทขายPTTGCออกไปไม่ทราบว่า
การตัดสินใจถูกต้องหรือไม่ เพราะราคาPTTGCขึ้นถึงเกือบร้อยบาท
เรามีแผนการดำเนินการอย่างไร
ข้อที่สอง เรื่องการวิจัยและพํฒนา ลดลง
ไม่ทราบถูกต้องหรือไม่ มีสองทาง คือ ซื้อมา หรือทำวิจัยเอง
อยากถามว่าเน้นแบบไหน
คำถาม อยากทราบมุมมองเกี่ยวกับธุรกิจซีเมนต์
มีปัญหาค่อนข้างเยอะ
แต่เรายังขยายธุรกิจซีเมนต์ค่อนข้างเยอะ
คำถาม โครงการปิโตรเคมี ที่เวียดนาม ที่ดินเป็น Freehold or Leasehold
มีการเปิดตัวที่เวียดนามจะเริ่มก่อสร้างเมื่อไหร่
คำถามต่อมา มีการลงทุนที่ผ่านมาค่อนข้างมาก
โครงการใหญ่ๆเช่น ปิโตรเคมี ให้list in SETor other country
เร่องการลดราคาพาร์
ตอบคำถามทั้งสามคนแบบรวบยอด
โครงสร้างกำไรของบริษัท ดูเคมีเคิลทำอย่างไร
ราคาหุ้นบางทีขึ้นกับบริษัทอื่น บางทีโครงสร้างของแตละบริษัทก็แตกต่างกัน
จะพูดถึงเรื่องที่เราให้ความใส่ใจ เรื่องการแข่งขัน และ การเติบโตของธุรกิจ
เป็นเรื่องฝ่ายจัดการทำได้
ส่วนราคาหุ้นจะเป็นสิ่งที่สะท้อนหลังผลประกอบการอออกมา
เคมีเคิลต้องแข่งขันได้ในตลาดโลก
เราพยายามปรับปรุงให้สินค้าแข่งขันได้ในตลาดโลก
ซีเมนต์ เป็น localized แข่งขันกันเองในตลาดเมืองไทย
แข่งขันรุนแรง ผลิตมากกว่าที่ต้องการ ต้องใช้เวลา
ในอาเซียน ยังต้องการเยอะ พอแข่งขันลดลง ธุรกิจก็ดีขึ้น
Packaging เราขยายตลาดและสินค้า ในอินโดนีเซีย
การให้บริการใหม่ เช่น ร่วมกับ ecommerce
คำถามเรื่องวิจัยพัฒนา เราพยายามปรับ การวิจัยที่ดี มาจากการร่วมมือ
กับที่อื่นๆ หรือ ร่วมมือกับลูกค้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
ส่งผลให้เราสามารถพัฒนาธุรกิจที่เป็นสินค้ามูลค่าสูงขึ้นได้
Outlook Sement 2559 market -2% , 2560 -5%
แต่ตลาดมีการผลิตเพิ่มขึ้นในช่วงนั้น
ถ้าการลงทุนภาครัฐเหล่านี้เกิดจริง ทำให้การลงทุนของเอกชนในต่อมา
ประเทศอินโด ความต้องการสินค้า 60ล้านตัน แต่ผลิตได้ 100ล้านตัน
ราคาหายไป30% ต้องใช้เวลาพอสมควร
แต่ความต้องการก่อสร้างมากขึ้นในอนาคต แต่ช่วงนี้แข่งขันค่อนข้างลำบาก
ที่เวียดนาม การซื้อที่หรือ เช่าที่ คุณชลนัฐตอบว่า ที่ดินเช่าจากรัฐ49 yesrs
ต่ออายุได้เมื่อหมดสัญญา
คำถาม อยากทราบเรื่องที่ขาดทุนในอินโดนีเซีย
ทุนเรือนหุ้นยังชำระไม่ครบจะเรียกชำระเพิ่มไหม
งบกระแสเงินสดมีการเปลี่ยนหลักเกณฑ์อย่างไร
เรื่องการวิเคราะห์ความอ่อนไหว ใครวิเคราะห์
การทำป้องกันความเสี่ยง ทำน้อยไปหรือเปล่า
คำตอบ คุณเชาวลิตตอบว่า คำถามในหน้า 155
ทุนเรือนหุ้น ที่ชำระไม่ครบ เรายังคิดว่าไม่มีความจำเป็นเรียกชำระเพิ่ม
หน้า 157 รายการที่ถูกจัดประเภทใหม่
มาจากการขาย PTTGCออกไป
หน้า 162 สินทรพัย์การดำเนินงานมาจากลูกหนี้การค้าที่เพิ่มขึ้นจาก
การขยายตัวไปต่างประเทศหน้า 148 ผู้ประเมินอิสระ มาจากผู้ประเมินในแต่ละประเทศ เช่น ซื้อที่เวียดนามก็ใช้ผู้ประเมินที่นั่น
หน้า215 เรามีผู้ถือหุ้นกู้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยให้สิทธิผู้ถือหุ้นกู้เดิมซื้อก่อนหน้าซื้อ
หน้า218 วิเคราะห์ความอ่อนไหว ผู้ประเมินภายนอกที่เชี่ยวชาญ
มีการทบทวนทุกสามปี
ส่วนเรื่องการป้องกันอัตราแลกเปลี่ยน เราต้องตัดสินใจในช่วงนั้นๆ
พอภายหลังอาจมองทำป้องกันน้อยไป
ส่วนคำถามข้อแรก อินโดขาดทุน รายละเอียด
คือ1. ธุรกิจซีเมนต์ เพราะกำลังการผลิต
มากกว่าความต้องการของตลาด
เราต้องขายได้ก่อน ถึงแม้ราคาค่อนข้างต่ำ เพื่อมีโอกาสเข้าตลาด
ตอนนี้ราคาดีขึ้นใกล้เคียงกับ
อันดับหนึ่งและสอง แต่จีนก็เข้ามาด้วย เราต้องรอสภาพตลาดดีขึ้น
แต่อย่างน้อยก็ห้าปีจึงดีขึ้น เราต้องให้เวลา
2.ธุรกิจเซรามิค ความต้องการแค่ครึ่งเดียวของกำลังผลิตทั่วประเทศรวมถึง
จีนเอามาขานเพิ่มสัดส่วนอีก 20% ทำให้ราคาลดลง
สภาพตลาดไม่มีการสร้างบ้านใหม่กระทบกับธุรกิจเซรามิค
เราพยายามเพิ่มประสิทธิภาพ และ ลดต้นทุน แต่ใช้เวลามากกว่าซีเมนต์
การจ่ายปันผลงวดนี้ 10.50 บาท รวมทั้งปี19 บาท ที่ฐานภาษี20%
XD 4 Apr 18 and pay 20 Apr 18
สรุปผลการดำเนินงานโดย ซีอีโอ
ภาพรวมศกไทยดีขึ้นกว่าปีที่แล้วจากการลงทุนภาครัฐและการส่งออก
ต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานสุงขึ้น ค่าเงินบาทแข็ง แข่งขันรุนแรง
เราปรับโครงสร้าง เอาideมาเพิ่มความคล่องตัว
เรามีรายได้จากการขายสูงขึ้น 6%เนื่องจากปรับราคาขาย
กำไรลดลง2%จากเหตุผลดังกล่าว
ผลกำไรจากเคมีภัณฑ์คิดเป็น73%ของกำไรทั้งหมด
การก่อตั้งInnovation center
เปิดนำร่องธุรกิจเคมีภัณฑ์กับจีน
ลงทุนรถlogistic 7000คันทั่วอาเซียน
จัด
IOT for stock เพื่อความแม่นยำ
เป็นเจ้าแรก (Scg express )แบบควบคุมอุณหภูมิภายในกลางปีนี้
การลงทุนในอาเซียนก่อสร้างใช้เวลาห้าปี
ก่อสร้างลงในvcm ซึ่งอยู่ในภาคกลางของเวียดนาม
รวมถึงใน6ประเทศ อาเซียน
ในอินโดกำลังการผลิต 3.3หมื่นตันต่อปี
รายได้จากการขายในอาเซียนเป็น25%ของทั้งหมด
เพิ่มขึ้น9%ากปีที่แล้ว
บริษัทยึดมั่นCG ต่อต้านการทุจริตของธุรกิจ
ควบคุมภายในป้องกันการให้สินบนในบริษัท
คำถาม บริษัทเราราคาหุ้นเริ่มแตกต่างจากดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่
กลางปีที่แล้วมีคำถามต่อเนื่องที่จะถามดังนี้
1. หลายบริษัทถูกdisruptive ซึ่งTechnologyเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น
การขึ้นภาษีของUSต่อจีนมีผลกระทบต่อเราอย่างไร
2 การลงทุนกับVCทำให้sccเป็นอย่างไร เราใช้blockchainอย่างไร
ทำไมยอดค่าใช้จากการวิจัยลดลงจากปี59
3 SCG มีแผนใช้robot แทนคนหรือไม่ ลดคนหรือไม่
4. EECมีผลต่อธุรกิจอย่างไร
เราจะเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างไร
5 เราเข้าสู่สังคมสูงอายุ เช่นเดียวกับประเทศในอาเซียนเช่นสิงคโปร์
พูดถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน SCGมีโครงการเป้าหมายอย่างไรกับผู้สูงอายุ
6.มีแผนเข้าสู่ธุรกิจยาหรือไม่
เพราะตอนนี้ภาครัฐทำไม่ได้
7 สินค้าที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกย่อยสลายยาก
เรามีแผนผลิตวัสดุที่ย่อยง่ายหรือไม่
8. มีใช้ iotมากน้อยแค่ไหน
9 งานวิจัยเพื่อสิ่งแวดล้อม งบลดลงเพราะอะไร
10โรงเรียนทักษะพิพัฒน์มีหน้าที่อย่างไร
11 การแข็งค่าของเงินบาทมีผลกระทบอย่างไร
12 ราคาไม่สอดคล้องกับset บอกอะไรกับผู้ลงทุนได้ไหม
ตอบโดยซีอีโอ
เราติดตามทั้ง12ข้อ
เรื่องปัญหาus เรื่องtariff ต่อจีน
มีผลกระทบกับเราไม่มาก เพราะไม่เกี่ยวสินค้าเรา
ธุรกิจscg ต่อการกระทบ iot excluded B to B เช่นpackaging chemical
เช่นรายการที่โดนกระทบบ้าง
วัสดุก่อสร้าง การขาย การขนส่ง กระทบไม่มาก แต่เราถือว่าเป็นวาระใหญ่
ถึงแม้กระทบไม่มาก
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย
ปี2559 มีโรงงานต้นแบบ มีค่าใช้จ่ายมาก เเต่ปีที่แล้วค่าใช้จ่ายก็เข้าสู่ปกติ
เดิมเราเน้นทำเอง ตอนนี้ให้คนอื่นร่วมลงทุนเช่น มหาวิทยาลัย oxfordหรือในจีน
การลงทุนในdigital tech จะส่งผลในปีนี้ และ จะเพิ่มงบวิจัยและพัฒนามากขึ้น
การเข้าหุ่นยนต์มาใช้ทดแทนพนักงาน เป็นเรื่องที่เราทำอย่างต่อเนื่อง
มีการร่วมกับหลายบริษัท เราเทรนพนักงานที่ใช้แรงงานมากมาใช้ ฝีกหัด
ให้เก่งเรื่องเทคโนมากขึ้น
ทำอย่างไรให้พนักงานมีskillที่เหมาะสม
การลงทุนในEEC หลักคือลงทุนในธุรกิจเดิม แต่ไม่หนักมากนัก
เพราะรัฐอยากให้ลงทุน light industry
การเข้าไปตอบรับผู้สูงอายุ เช่นบรรจุภัณฑ์ที่เปิดสดวกขึ้น
อุปกรณ์เครื่องมือเเพทย์ที่ใช้เคมีคอล
ตัวที่มีผลสุดคือวัสดุก่อสร้างที่เกี่ยวกับเรามากสุดสำหรับผู้สูงวัย
โรงเรียนทักษะพิพัฒน์สำหรับเทรนผู้รับเหมาของเราปีละหมื่นคน
ต่อมาขยายเปิดรับกว้างขึ้น เพื่อให้ปลอดภัยในการขนส่ง
ค่าเงินบาทแข็งตัวตั้งแต่ต้นปี
หนึ่งบาทแข็งขึ้นมีผลต่อเรา2,200ล้านบาท ปีที่แล้วโดนไป5,xxxลบ
ราคาหุ้นเทียบกับset เราได้ดูอย่างต่อเนื่อง
สภาวะตลาด เราไม่สามารถควบคุมได้
เรื่องที่ควบคุมได้ คือพื้นฐานธุรกิจของเรา ให้แข่งขันได้
ธุรกิจเคมีคอล ผันผวนมาก นลทให้ค่าความเสี่ยงค่อนข้างมาก
นลท ให้ความสำคัญกับอันนี้มาก เลยทำให้เราด้อยกว่า
การลงทุนในเคมีคอล ทำให้ความผันผวนมากขึ้น
การที่ลงทุนวิจัย และ พัฒนา ทำให้สินค้ามีราคาเพิ่มขึ้น
นลท ต้องรอให้เกิดขึ้น เพื่อให้ราคาปรับตัวดีขึ้น
คำถาม โครงสร้างของกำไร เรามีสามขา
ขาแรก ปิโตรเคมี ประมาณ 70%
ขาที่สองวัสดุก่อสร้าง และ ขาที่สาม วัสดุหีบห่อ
ดังนั้นส่วนแรกผันผวนทำให้กำไรผันผวน ส่งผลต่อราคาหุ้น
เทียบกับ ปตท มีการเดินและขึ้นคล้ายๆกัน
โอลิฟิน และ อีกหมวดที่ส่งผลกระทบต่อรายได้อย่างมากผู้ถามจำไม่ได้
เมื่อสองปีก่อน ที่ทางบริษัทขายPTTGCออกไปไม่ทราบว่า
การตัดสินใจถูกต้องหรือไม่ เพราะราคาPTTGCขึ้นถึงเกือบร้อยบาท
เรามีแผนการดำเนินการอย่างไร
ข้อที่สอง เรื่องการวิจัยและพํฒนา ลดลง
ไม่ทราบถูกต้องหรือไม่ มีสองทาง คือ ซื้อมา หรือทำวิจัยเอง
อยากถามว่าเน้นแบบไหน
คำถาม อยากทราบมุมมองเกี่ยวกับธุรกิจซีเมนต์
มีปัญหาค่อนข้างเยอะ
แต่เรายังขยายธุรกิจซีเมนต์ค่อนข้างเยอะ
คำถาม โครงการปิโตรเคมี ที่เวียดนาม ที่ดินเป็น Freehold or Leasehold
มีการเปิดตัวที่เวียดนามจะเริ่มก่อสร้างเมื่อไหร่
คำถามต่อมา มีการลงทุนที่ผ่านมาค่อนข้างมาก
โครงการใหญ่ๆเช่น ปิโตรเคมี ให้list in SETor other country
เร่องการลดราคาพาร์
ตอบคำถามทั้งสามคนแบบรวบยอด
โครงสร้างกำไรของบริษัท ดูเคมีเคิลทำอย่างไร
ราคาหุ้นบางทีขึ้นกับบริษัทอื่น บางทีโครงสร้างของแตละบริษัทก็แตกต่างกัน
จะพูดถึงเรื่องที่เราให้ความใส่ใจ เรื่องการแข่งขัน และ การเติบโตของธุรกิจ
เป็นเรื่องฝ่ายจัดการทำได้
ส่วนราคาหุ้นจะเป็นสิ่งที่สะท้อนหลังผลประกอบการอออกมา
เคมีเคิลต้องแข่งขันได้ในตลาดโลก
เราพยายามปรับปรุงให้สินค้าแข่งขันได้ในตลาดโลก
ซีเมนต์ เป็น localized แข่งขันกันเองในตลาดเมืองไทย
แข่งขันรุนแรง ผลิตมากกว่าที่ต้องการ ต้องใช้เวลา
ในอาเซียน ยังต้องการเยอะ พอแข่งขันลดลง ธุรกิจก็ดีขึ้น
Packaging เราขยายตลาดและสินค้า ในอินโดนีเซีย
การให้บริการใหม่ เช่น ร่วมกับ ecommerce
คำถามเรื่องวิจัยพัฒนา เราพยายามปรับ การวิจัยที่ดี มาจากการร่วมมือ
กับที่อื่นๆ หรือ ร่วมมือกับลูกค้าเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
ส่งผลให้เราสามารถพัฒนาธุรกิจที่เป็นสินค้ามูลค่าสูงขึ้นได้
Outlook Sement 2559 market -2% , 2560 -5%
แต่ตลาดมีการผลิตเพิ่มขึ้นในช่วงนั้น
ถ้าการลงทุนภาครัฐเหล่านี้เกิดจริง ทำให้การลงทุนของเอกชนในต่อมา
ประเทศอินโด ความต้องการสินค้า 60ล้านตัน แต่ผลิตได้ 100ล้านตัน
ราคาหายไป30% ต้องใช้เวลาพอสมควร
แต่ความต้องการก่อสร้างมากขึ้นในอนาคต แต่ช่วงนี้แข่งขันค่อนข้างลำบาก
ที่เวียดนาม การซื้อที่หรือ เช่าที่ คุณชลนัฐตอบว่า ที่ดินเช่าจากรัฐ49 yesrs
ต่ออายุได้เมื่อหมดสัญญา
คำถาม อยากทราบเรื่องที่ขาดทุนในอินโดนีเซีย
ทุนเรือนหุ้นยังชำระไม่ครบจะเรียกชำระเพิ่มไหม
งบกระแสเงินสดมีการเปลี่ยนหลักเกณฑ์อย่างไร
เรื่องการวิเคราะห์ความอ่อนไหว ใครวิเคราะห์
การทำป้องกันความเสี่ยง ทำน้อยไปหรือเปล่า
คำตอบ คุณเชาวลิตตอบว่า คำถามในหน้า 155
ทุนเรือนหุ้น ที่ชำระไม่ครบ เรายังคิดว่าไม่มีความจำเป็นเรียกชำระเพิ่ม
หน้า 157 รายการที่ถูกจัดประเภทใหม่
มาจากการขาย PTTGCออกไป
หน้า 162 สินทรพัย์การดำเนินงานมาจากลูกหนี้การค้าที่เพิ่มขึ้นจาก
การขยายตัวไปต่างประเทศหน้า 148 ผู้ประเมินอิสระ มาจากผู้ประเมินในแต่ละประเทศ เช่น ซื้อที่เวียดนามก็ใช้ผู้ประเมินที่นั่น
หน้า215 เรามีผู้ถือหุ้นกู้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยให้สิทธิผู้ถือหุ้นกู้เดิมซื้อก่อนหน้าซื้อ
หน้า218 วิเคราะห์ความอ่อนไหว ผู้ประเมินภายนอกที่เชี่ยวชาญ
มีการทบทวนทุกสามปี
ส่วนเรื่องการป้องกันอัตราแลกเปลี่ยน เราต้องตัดสินใจในช่วงนั้นๆ
พอภายหลังอาจมองทำป้องกันน้อยไป
ส่วนคำถามข้อแรก อินโดขาดทุน รายละเอียด
คือ1. ธุรกิจซีเมนต์ เพราะกำลังการผลิต
มากกว่าความต้องการของตลาด
เราต้องขายได้ก่อน ถึงแม้ราคาค่อนข้างต่ำ เพื่อมีโอกาสเข้าตลาด
ตอนนี้ราคาดีขึ้นใกล้เคียงกับ
อันดับหนึ่งและสอง แต่จีนก็เข้ามาด้วย เราต้องรอสภาพตลาดดีขึ้น
แต่อย่างน้อยก็ห้าปีจึงดีขึ้น เราต้องให้เวลา
2.ธุรกิจเซรามิค ความต้องการแค่ครึ่งเดียวของกำลังผลิตทั่วประเทศรวมถึง
จีนเอามาขานเพิ่มสัดส่วนอีก 20% ทำให้ราคาลดลง
สภาพตลาดไม่มีการสร้างบ้านใหม่กระทบกับธุรกิจเซรามิค
เราพยายามเพิ่มประสิทธิภาพ และ ลดต้นทุน แต่ใช้เวลามากกว่าซีเมนต์
การจ่ายปันผลงวดนี้ 10.50 บาท รวมทั้งปี19 บาท ที่ฐานภาษี20%
XD 4 Apr 18 and pay 20 Apr 18
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 6
AGM SMPC 28/3/61
Cr:คุณโหย๋วAlways24
เปิดประชุม 14.00 น.
ผลการดำเนินงาน ในปี 2560
บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 857,80ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.7%
ต้นทุนขาย เพิ่มขึ้น 876.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.4% จากต้นทุนวัตถุดิบ เหล็ก
กำไรขึ้นต้น ลดลง 18.79 ล้านบาท ลดลง 1.91% จาก ค่าเงินและ ต้นทุนเหล็ก
รายได้อื่นๆ เพิ่มจากการขายเศษซากเหล็ก
ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น 15% จากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น
ปี 2556-2560 ได้เพิ่มกำลังการผลิต จาก 5ล้านใบ มาเป็น 7.7 ล้านใบ คิดเป็น 89% ของกำลังการผลิต
บริษัทไปร่วม oppday ปีละ 2 ครั้ง
วันที่ 20 ก.พ.2561และ งวด 6 เดือน ในวันที่ 20 ส.ค. 2561
บ.smpc ได้ไปร่วมงานที่ ปท.อินเดีย , งาน WLPG ที่ย่างกุ้ง ปท.พม่า , ร่วมงานแสดงสินค้ากับกระทรวงพาณิชย์ ที่ บังคลาเทศ , งาน World LPG Forum วันที่ 2-4 ต.ค.2018 ที่ USA
หลังปิดประชุมมีให้ผู้ถือหุ้นเยี่ยมชมโรงงาน
Cr:คุณโหย๋วAlways24
เปิดประชุม 14.00 น.
ผลการดำเนินงาน ในปี 2560
บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 857,80ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.7%
ต้นทุนขาย เพิ่มขึ้น 876.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.4% จากต้นทุนวัตถุดิบ เหล็ก
กำไรขึ้นต้น ลดลง 18.79 ล้านบาท ลดลง 1.91% จาก ค่าเงินและ ต้นทุนเหล็ก
รายได้อื่นๆ เพิ่มจากการขายเศษซากเหล็ก
ค่าใช้จ่ายในการขายเพิ่มขึ้น 15% จากค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้น
ปี 2556-2560 ได้เพิ่มกำลังการผลิต จาก 5ล้านใบ มาเป็น 7.7 ล้านใบ คิดเป็น 89% ของกำลังการผลิต
บริษัทไปร่วม oppday ปีละ 2 ครั้ง
วันที่ 20 ก.พ.2561และ งวด 6 เดือน ในวันที่ 20 ส.ค. 2561
บ.smpc ได้ไปร่วมงานที่ ปท.อินเดีย , งาน WLPG ที่ย่างกุ้ง ปท.พม่า , ร่วมงานแสดงสินค้ากับกระทรวงพาณิชย์ ที่ บังคลาเทศ , งาน World LPG Forum วันที่ 2-4 ต.ค.2018 ที่ USA
หลังปิดประชุมมีให้ผู้ถือหุ้นเยี่ยมชมโรงงาน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 7
AGM AIS 29 MAR 18 14.00
คุณกานต์ มาเป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งพบท่านแล้วตอน AGM SCC
แต่เนื่องจากหมดวาระการเป็นกรรมการเลยให้คุณสมประสงค์เป็นประธานแทน
ปีนี้ AIS change to Digital
เรามีอีกสองส่วนคือ Digital service and Internet provider
การเป็นinternet ความเร็วสูง market share of AIS increase 6.4%
ปี2563 เราจะเป็นผู้เล่นรายใหญ่ของตลาด
Digital service มี 4 Platform
1 entertainment มุ่งเน้นวีดีโอ
2 การทำธุรกรรมมือถือ
3, Cloud computing
4, IOT
ปีที่แล้วรายได้จาก1% เพิ่มเป็น 2.4% สำหรับ internet ความเร็วสูง
รายได้จาก 900ลบ to 3,xxx ลบ
เรามุ่งเน้นการลดต้นทุน ลดได้ 16%มาจากการปรับกระบวนการ ลดค่าใช้จ่าย
การบริหารจาก 30,000ลบ to 25,000 ลบ โดยลดแคมเปญ ไม่แจกมือถือ
ให้กับลูกค้าที่ไม่มีคุณภาพ
การติดตั้งเสาสัญญาณ ก็ลดลงจากปีก่อน
การลงทุนจะเบาบางลงเหลือ 41,000 ลบ
เราต้องการnetworkที่มีคุณภาพและความเร็ว 1 GBit per sec ซึ่งเป็นความเร็วเริ่มต้นของ ระบบ 5G
ผลการดำเนินงาน
นอกจากมือถือ fix broadband , Digital service
ในส่วนธุรกิจมือถือ ฐานลค เติบโตขึ้นในเรื่องการใช้ข้อมูลจาก
70% to 73%ของรายได้
เราเติบโตขึ้นมาในส่วนของการใช้ข้อมูลของลูกค้าทั่วไปเพิ่มจากการใช้ข้อมูล 3.6 GB to 6.7 GB ต่อเดือน
สิ่งสำคัญ ปีที่แล้ว postpaid เราสามารถเพิ่มเป็น 7.4 ล้านหมายเลข เพิ่มมาหนี่งล้านเบอร์ มาจากการย้ายลูกค้าเติมเงิน
รายได้เติบโต16% for postpaid and prepaid reduce 4% เนื่องจากย้ายมาpostpaid ซึ่งค่าใช้จ่ายการโทรและเน๊ตถูกกว่า
เราเพิ่มความสามารถของnetwork การวัด speed test ดีกว่าคู่แข่งตลอดเวลา
โดยมีคนกลางสำหรับการทดสอบ
คลื่นความถื่ในมือ 55 MHz มีทั้ง 15 MH ระบบ2100 , 15 MHzในระบบ1800 และระบบ 900 and 10 MHz ที่ได้จาก TOT
เราได้เตรียมพร้อมสำหรับการขยายในอนาคต เพื่อขยับไป5G
Internet ความเร็วสูง เราจบที่ 653,000 subscriber
เราอยากหาคุณภาพที่ดี ค่อยๆหา อยากได้ลูกค้าที่มีคุณภาพ
ARPU increase from 510 baht to 635 baht per month
เราขยายไปแค่ 50 จังหวัด ไม่ทั่วประเทศ
ใช้เงินลงทุน 5,000 ลบ for infra fix broadband
ลูกค้ามือถือก็สามารถใช้แพตเกจfix broadband
โดยลูกค้า 78%ของfix broadband ใช้มือถือของเราด้วย
ตัวแรก Digital service
AiSพี่งเข้ามา โดยเอา content : HBO,FOX เข้ามาช่วงแรก
ปีนี้เพิ่มเติม content ใหม่คือ
cartoon network สำหรับเด็ก และ CNN ช่องข่าวสำหรับนักธุรกิจ
ทั้งสองcontentเข้ามาอยู่port content ของเรา
ช่วยทำให้branding แข็งแรง
Content ช่วยทำให้เราแตกต่าง
อนาคตจะสร้างรายได้ให้กับเราด้วยครับ
ตัวที่สอง ธุรกรรมทางการเงินบนมือถือ เรามีMpayมาสิบกว่าปี
ปีนี่ เราไปรวมลงทุนกับ Rabbit linepay เพราะเรามีฐานลูกค้า 40 ล้านคน
แต่line ก็มี 40 ล้านคน ซึ่งครึ่งนึงเป็นของเรา สรุปลูกค้าอย่างต่ำ60ล้านคน
จะเห็นความคืบหน้า
ตัวที่3 cloud platform for corporate ยังต้องการsolution for cloud IT
เราสร้าง data structure , IOT
เราซื้อCS loxinfo ซึ่งทำด้านcorpoarate.อย่างยาวนาน
รายได้ปีที่แล้ว corporate 9% เราอยากเพิ่มสัดส่วนอีกสามปีเป็น25%
นอกเหนือจาก mobile,fix broadband
ตัวที่4. IOT
ในการสร้างแพลทฟอร์ม เราวางโครงข่าย NVIOT
บ้านของลูกค้าอยากให้มี AIS Fibre เพื่อใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า
ทำให้เกิดรายได้ใหม่ๆขึ้นมา
ผลประกอบการ
สิ่งที่เกิดใหม่ ที่จับต้องได้คือ fix broadband , enterprise
โลกดิจิตอลเข้ามา ไม่รู้จะเป็นอย่างไร แต่เราเตรียมความพร้อมไว้แล้ว
เราพูดถึงลูกค้า พนักงาน
ซึ่งเราโฟกัสในส่วนชุมชนและสังคม เรามีคนไปประสานไม่ให้มีปัญหา
เวลาไปตั้งเสา มีทีมcommunities relationอธิบายเรื่องเสาไม่มีปัญหา
มี application สำหรับสาธารณสุข ให้ชุมขนรักเรามากขึ้น เข่น อสม
ได้รางวัลในเรื่องช่วยเหลือสังคม
Environmentจำเป็นต้องได้รับการปกป้อง
ใช้ไฟฟ้าอย่างระวัง ลดการใช้กระดาษ โดยใช้ E view ในการสมัคร
เวลาตอบแทนกลับมาเห็นผลทันตา ค่าใช้จ่ายกลับลดลง16%ด้วย
คุณกานต์ได้วางไว้อย่างดี แบบ SD
การประมูลคลื่นความถื่
เจ้าหน้าที่กสทช ยังไม่หมดอายุแล้ว เพราะตอนนี้ต่ออายุแบบชั่วคราว
ผู้สมัครเหลือ 14คน และจะลดเหลือ7คน ปลายมีค หรือ ต้นเมย
จะถูกเลือกจาก สนช เหลือ 7 คน เพื่อประกาศลงในพระราชกิจจา
ดังนั้น เดือน เมย หรือ พค น่าจะมีชุดใหม่กสทช เกิดขึ้น
แต่ถ้าสนชไม่เลือกเลยเหมือน กกต
อาจมีการเลือกใหม่ หรือ กสทชชุดเดิม สามารถจัดการ
ประมูลคลื่นได้หรือไม่ ก็ยังไม่แน่นอน
ความถี่ที่ประมูล ของ dtac 850 Mhz 10 mhz อาจประมูลได้แค่ 5 mhz
เพราะที่เหลือให้การรถไฟใช้งาน
ส่วน คลื่น1800 จำนวน 45 MHz อาจแบ่งเป็น 3 slots. ต้องติดตามต่อไป
และมีความจำเป็นต้องใช้คลื่นนี้ไหม โดยจะนำหัวข้อไปประชุมในบอร์คอีกครั้ง
การคาดการณ์สำหรับปีนี้ โตได้อีก 7-8%มาจากCS loxinfo 2-3%
ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจเดิมอีก 5-6%
กำไรคิดเป็นสัดส่วน 45-47% ปีที่แล้วคิดเป็น 44%ของรายได้
มาจาก fix broadband และ ลดต้นทุนการดำเนินงาน
งบในเรื่องการขยายเสาเหลือ 3x,xxx ลบ
นโยบาย ปันผลไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิ
คำถาม ตัวMpay จำเป็นต้องพัฒนาต่อหรือไม่
ในเมื่อธนาคารขนาดใหญ่เริ่มให้ฟรีในการจ่าย โอนข้ามธนาคารแล้ว
ตอบ ตัวmobile paymentอย่างไรก็เกิดแน่
ปกติเกิดได้จาก
1. ความแข็งแกร่งของTelecom operator
2 social media
3 Banking
เราทำมา10กว่าปี และ เป็นบริษัทเดียวที่มีกำไร เพราะเราทำเเบบ B2B
แต่สำหรับรายย่อยเราไม่ได้ขยาย เพราะรายได้ไม่ค่อยเกิด เราก็ไม่ทำ
หลายรายทำเลยเจ็ง เพราะยังไม่เกิดtransaction
ที่เราร่วมมือกับRabbit line pay เพราะมีคนใช้เยอะมีหัวอ่าน5000แห่ง
เราเข้าไปร่วม ทำให้เราขยายไป B2C เราลงทุน 800ล้านบาท
โดยถือหุ้น 33% แต่คิดเป็นเงินลงทุนสำหรับเราน้อยมาก
ถ้าเกิดขึ้น ซึ่งมาจากพฤติกรรมผู้บริโภค เราก็ตามไปด้วย
ธนาคารจะกลัวเรื่องนี้มาก
หลังจากนั้น SCB,KBANK,BBL,KTB ก็ปรับค่าธรรมเนียมบนมือถือเป็นฟรี
คำถาม อยากทราบว่าการประมูลรอบหน้าจะเข้าประมูลหรือไม่
ตอบ คลื่นที่มีอยู่55MHzสามารถใช้ได้อีก2-3ปี
กฏเกณฑ์สำหรับการตัดสินใจจะประมูลหรือไม่
คลื่นที่คาดว่าจะนำมาประมูลจะเป็นคลื่นของDTAC 850/1800
1,ราคาที่ประมูล ถ้าถูกมาก ก็จะประมูลมาเหมือนซื้อที่ดินราคาถูกเก็บไว้ก่อน
2.การเเข่งขันที่รุนแรงหรือไม่
3.ความจำเป็นในการใช้คลื่นในช่วงนั้น
สุดท้ายขอขอบคุณสมประสงค์และกรรมการทุกท่านที่ให้ข้อมูลของบริษัทมา
คุณกานต์ มาเป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งพบท่านแล้วตอน AGM SCC
แต่เนื่องจากหมดวาระการเป็นกรรมการเลยให้คุณสมประสงค์เป็นประธานแทน
ปีนี้ AIS change to Digital
เรามีอีกสองส่วนคือ Digital service and Internet provider
การเป็นinternet ความเร็วสูง market share of AIS increase 6.4%
ปี2563 เราจะเป็นผู้เล่นรายใหญ่ของตลาด
Digital service มี 4 Platform
1 entertainment มุ่งเน้นวีดีโอ
2 การทำธุรกรรมมือถือ
3, Cloud computing
4, IOT
ปีที่แล้วรายได้จาก1% เพิ่มเป็น 2.4% สำหรับ internet ความเร็วสูง
รายได้จาก 900ลบ to 3,xxx ลบ
เรามุ่งเน้นการลดต้นทุน ลดได้ 16%มาจากการปรับกระบวนการ ลดค่าใช้จ่าย
การบริหารจาก 30,000ลบ to 25,000 ลบ โดยลดแคมเปญ ไม่แจกมือถือ
ให้กับลูกค้าที่ไม่มีคุณภาพ
การติดตั้งเสาสัญญาณ ก็ลดลงจากปีก่อน
การลงทุนจะเบาบางลงเหลือ 41,000 ลบ
เราต้องการnetworkที่มีคุณภาพและความเร็ว 1 GBit per sec ซึ่งเป็นความเร็วเริ่มต้นของ ระบบ 5G
ผลการดำเนินงาน
นอกจากมือถือ fix broadband , Digital service
ในส่วนธุรกิจมือถือ ฐานลค เติบโตขึ้นในเรื่องการใช้ข้อมูลจาก
70% to 73%ของรายได้
เราเติบโตขึ้นมาในส่วนของการใช้ข้อมูลของลูกค้าทั่วไปเพิ่มจากการใช้ข้อมูล 3.6 GB to 6.7 GB ต่อเดือน
สิ่งสำคัญ ปีที่แล้ว postpaid เราสามารถเพิ่มเป็น 7.4 ล้านหมายเลข เพิ่มมาหนี่งล้านเบอร์ มาจากการย้ายลูกค้าเติมเงิน
รายได้เติบโต16% for postpaid and prepaid reduce 4% เนื่องจากย้ายมาpostpaid ซึ่งค่าใช้จ่ายการโทรและเน๊ตถูกกว่า
เราเพิ่มความสามารถของnetwork การวัด speed test ดีกว่าคู่แข่งตลอดเวลา
โดยมีคนกลางสำหรับการทดสอบ
คลื่นความถื่ในมือ 55 MHz มีทั้ง 15 MH ระบบ2100 , 15 MHzในระบบ1800 และระบบ 900 and 10 MHz ที่ได้จาก TOT
เราได้เตรียมพร้อมสำหรับการขยายในอนาคต เพื่อขยับไป5G
Internet ความเร็วสูง เราจบที่ 653,000 subscriber
เราอยากหาคุณภาพที่ดี ค่อยๆหา อยากได้ลูกค้าที่มีคุณภาพ
ARPU increase from 510 baht to 635 baht per month
เราขยายไปแค่ 50 จังหวัด ไม่ทั่วประเทศ
ใช้เงินลงทุน 5,000 ลบ for infra fix broadband
ลูกค้ามือถือก็สามารถใช้แพตเกจfix broadband
โดยลูกค้า 78%ของfix broadband ใช้มือถือของเราด้วย
ตัวแรก Digital service
AiSพี่งเข้ามา โดยเอา content : HBO,FOX เข้ามาช่วงแรก
ปีนี้เพิ่มเติม content ใหม่คือ
cartoon network สำหรับเด็ก และ CNN ช่องข่าวสำหรับนักธุรกิจ
ทั้งสองcontentเข้ามาอยู่port content ของเรา
ช่วยทำให้branding แข็งแรง
Content ช่วยทำให้เราแตกต่าง
อนาคตจะสร้างรายได้ให้กับเราด้วยครับ
ตัวที่สอง ธุรกรรมทางการเงินบนมือถือ เรามีMpayมาสิบกว่าปี
ปีนี่ เราไปรวมลงทุนกับ Rabbit linepay เพราะเรามีฐานลูกค้า 40 ล้านคน
แต่line ก็มี 40 ล้านคน ซึ่งครึ่งนึงเป็นของเรา สรุปลูกค้าอย่างต่ำ60ล้านคน
จะเห็นความคืบหน้า
ตัวที่3 cloud platform for corporate ยังต้องการsolution for cloud IT
เราสร้าง data structure , IOT
เราซื้อCS loxinfo ซึ่งทำด้านcorpoarate.อย่างยาวนาน
รายได้ปีที่แล้ว corporate 9% เราอยากเพิ่มสัดส่วนอีกสามปีเป็น25%
นอกเหนือจาก mobile,fix broadband
ตัวที่4. IOT
ในการสร้างแพลทฟอร์ม เราวางโครงข่าย NVIOT
บ้านของลูกค้าอยากให้มี AIS Fibre เพื่อใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า
ทำให้เกิดรายได้ใหม่ๆขึ้นมา
ผลประกอบการ
สิ่งที่เกิดใหม่ ที่จับต้องได้คือ fix broadband , enterprise
โลกดิจิตอลเข้ามา ไม่รู้จะเป็นอย่างไร แต่เราเตรียมความพร้อมไว้แล้ว
เราพูดถึงลูกค้า พนักงาน
ซึ่งเราโฟกัสในส่วนชุมชนและสังคม เรามีคนไปประสานไม่ให้มีปัญหา
เวลาไปตั้งเสา มีทีมcommunities relationอธิบายเรื่องเสาไม่มีปัญหา
มี application สำหรับสาธารณสุข ให้ชุมขนรักเรามากขึ้น เข่น อสม
ได้รางวัลในเรื่องช่วยเหลือสังคม
Environmentจำเป็นต้องได้รับการปกป้อง
ใช้ไฟฟ้าอย่างระวัง ลดการใช้กระดาษ โดยใช้ E view ในการสมัคร
เวลาตอบแทนกลับมาเห็นผลทันตา ค่าใช้จ่ายกลับลดลง16%ด้วย
คุณกานต์ได้วางไว้อย่างดี แบบ SD
การประมูลคลื่นความถื่
เจ้าหน้าที่กสทช ยังไม่หมดอายุแล้ว เพราะตอนนี้ต่ออายุแบบชั่วคราว
ผู้สมัครเหลือ 14คน และจะลดเหลือ7คน ปลายมีค หรือ ต้นเมย
จะถูกเลือกจาก สนช เหลือ 7 คน เพื่อประกาศลงในพระราชกิจจา
ดังนั้น เดือน เมย หรือ พค น่าจะมีชุดใหม่กสทช เกิดขึ้น
แต่ถ้าสนชไม่เลือกเลยเหมือน กกต
อาจมีการเลือกใหม่ หรือ กสทชชุดเดิม สามารถจัดการ
ประมูลคลื่นได้หรือไม่ ก็ยังไม่แน่นอน
ความถี่ที่ประมูล ของ dtac 850 Mhz 10 mhz อาจประมูลได้แค่ 5 mhz
เพราะที่เหลือให้การรถไฟใช้งาน
ส่วน คลื่น1800 จำนวน 45 MHz อาจแบ่งเป็น 3 slots. ต้องติดตามต่อไป
และมีความจำเป็นต้องใช้คลื่นนี้ไหม โดยจะนำหัวข้อไปประชุมในบอร์คอีกครั้ง
การคาดการณ์สำหรับปีนี้ โตได้อีก 7-8%มาจากCS loxinfo 2-3%
ส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจเดิมอีก 5-6%
กำไรคิดเป็นสัดส่วน 45-47% ปีที่แล้วคิดเป็น 44%ของรายได้
มาจาก fix broadband และ ลดต้นทุนการดำเนินงาน
งบในเรื่องการขยายเสาเหลือ 3x,xxx ลบ
นโยบาย ปันผลไม่ต่ำกว่า 70% ของกำไรสุทธิ
คำถาม ตัวMpay จำเป็นต้องพัฒนาต่อหรือไม่
ในเมื่อธนาคารขนาดใหญ่เริ่มให้ฟรีในการจ่าย โอนข้ามธนาคารแล้ว
ตอบ ตัวmobile paymentอย่างไรก็เกิดแน่
ปกติเกิดได้จาก
1. ความแข็งแกร่งของTelecom operator
2 social media
3 Banking
เราทำมา10กว่าปี และ เป็นบริษัทเดียวที่มีกำไร เพราะเราทำเเบบ B2B
แต่สำหรับรายย่อยเราไม่ได้ขยาย เพราะรายได้ไม่ค่อยเกิด เราก็ไม่ทำ
หลายรายทำเลยเจ็ง เพราะยังไม่เกิดtransaction
ที่เราร่วมมือกับRabbit line pay เพราะมีคนใช้เยอะมีหัวอ่าน5000แห่ง
เราเข้าไปร่วม ทำให้เราขยายไป B2C เราลงทุน 800ล้านบาท
โดยถือหุ้น 33% แต่คิดเป็นเงินลงทุนสำหรับเราน้อยมาก
ถ้าเกิดขึ้น ซึ่งมาจากพฤติกรรมผู้บริโภค เราก็ตามไปด้วย
ธนาคารจะกลัวเรื่องนี้มาก
หลังจากนั้น SCB,KBANK,BBL,KTB ก็ปรับค่าธรรมเนียมบนมือถือเป็นฟรี
คำถาม อยากทราบว่าการประมูลรอบหน้าจะเข้าประมูลหรือไม่
ตอบ คลื่นที่มีอยู่55MHzสามารถใช้ได้อีก2-3ปี
กฏเกณฑ์สำหรับการตัดสินใจจะประมูลหรือไม่
คลื่นที่คาดว่าจะนำมาประมูลจะเป็นคลื่นของDTAC 850/1800
1,ราคาที่ประมูล ถ้าถูกมาก ก็จะประมูลมาเหมือนซื้อที่ดินราคาถูกเก็บไว้ก่อน
2.การเเข่งขันที่รุนแรงหรือไม่
3.ความจำเป็นในการใช้คลื่นในช่วงนั้น
สุดท้ายขอขอบคุณสมประสงค์และกรรมการทุกท่านที่ให้ข้อมูลของบริษัทมา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 8
AGM INTOUCH 30 MAR 18 14.00
หุ้นIntouchถือเป็นหุ้นปันผลหุ้นนึงในตลาดหลักทรัพย์ ช่วงที่AISไม่ได้ลงทุนเครือข่ายเพิ่มเติม
ในหลายปีที่ผ่านมา สามารถส่งถ่ายกำไรมาที่บริษัทแม่ที่เป็นHolding company เกือบ100%
รวมถึงไทยคมที่ฟื้นตัวมาด้วยในช่วงที่ผ่านมา
1. หลังจากAISประมูลคลื่นความถี่ 900 และ 1800มา ต้องมีการลงทุนใหม่และชำระค่าLicense
ดังนั้นAISจึงเปลี่ยนนโยบายการจ่ายปันผลเป็นไม่ต่ำกว่า 70% ประกอบกับ
2. THCOM มีการตั้งสำรองหรือ Impairmentเป็นจำนวนพันกว่าล้านบาท ส่งผลให้กำไรของIntouchลดลง แต่ก็ไม่กระทบต่อกำไรมากนัก
เงินปันผลที่จ่ายในช่วง 2H17และรวมถึงเดือนมค 18 รวมจ่ายปันผลเท่ากับ 1.46 บาท ก็ถือว่าไม่แย่นัก
หลายๆคนคาดว่าปันผลจะน้อยลง เพราะกระทบมาจากTHCOM แต่จริงๆแล้วกำไร99%มาจากAIS
ดังนั้นผลกระทบไม่มาก THCOM ผลประกอบการไม่รวมImpairment ยังมีกำไร
3. ส่วนInvent : บริษัทที่ไปลงทุน13บริษัท ตอนนี้Wongnaiเริ่มมีผลประกอบการที่ดีขึ้น
งบลงทุนในInvent 200 ลบ ต่อปี มูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 402 ลบเป็น 606 ลบ
โดยมูลค่าบริษัทที่ลงทุนไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
เราbookราคาจากมูลค่าของบริษัทในInventที่ขายให้กับนักลงทุนรายใหม่
4. ส่วนธุรกิจHigh Shopping ยอดขายในonline เพิ่มขึ้น80%จากปี 2016
5. มีการยกเลิกการตั้งสำรองของITV จำนวน 3,691 ลบในปี2017
สำหรับปี2018 กำไรหลักๆมาจากกำไรจากการถือลงทุนในAIS คิดเป็นสัดส่วน40.45%
ส่วนกำไรจากInternational business และดาวเทียมมีแนวโน้มลดลง
ส่วนงบเดี่ยวของบริษัท คุมงบการลงทุนในinventไม่เกิน 200ลบ และ admin&SG&A 400 ลบ
คำถามส่วนใหญ่ของในที่ประชุม จะพูดถึงว่าสามารถจะเพิ่มปันผลได้ไหม ซึ่งต้องให้AISพิจารณา
ว่าจะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 70%ได้หรือไม่ จริงๆต้องขึ้นกับความต้องการใช้เงิน
ของAISมากกว่า ช่วงลงทุนเครือข่ายและLicenseคงยากที่จะเปลี่ยนแปลงในความเห็นของAdmin page
หุ้นIntouchถือเป็นหุ้นปันผลหุ้นนึงในตลาดหลักทรัพย์ ช่วงที่AISไม่ได้ลงทุนเครือข่ายเพิ่มเติม
ในหลายปีที่ผ่านมา สามารถส่งถ่ายกำไรมาที่บริษัทแม่ที่เป็นHolding company เกือบ100%
รวมถึงไทยคมที่ฟื้นตัวมาด้วยในช่วงที่ผ่านมา
1. หลังจากAISประมูลคลื่นความถี่ 900 และ 1800มา ต้องมีการลงทุนใหม่และชำระค่าLicense
ดังนั้นAISจึงเปลี่ยนนโยบายการจ่ายปันผลเป็นไม่ต่ำกว่า 70% ประกอบกับ
2. THCOM มีการตั้งสำรองหรือ Impairmentเป็นจำนวนพันกว่าล้านบาท ส่งผลให้กำไรของIntouchลดลง แต่ก็ไม่กระทบต่อกำไรมากนัก
เงินปันผลที่จ่ายในช่วง 2H17และรวมถึงเดือนมค 18 รวมจ่ายปันผลเท่ากับ 1.46 บาท ก็ถือว่าไม่แย่นัก
หลายๆคนคาดว่าปันผลจะน้อยลง เพราะกระทบมาจากTHCOM แต่จริงๆแล้วกำไร99%มาจากAIS
ดังนั้นผลกระทบไม่มาก THCOM ผลประกอบการไม่รวมImpairment ยังมีกำไร
3. ส่วนInvent : บริษัทที่ไปลงทุน13บริษัท ตอนนี้Wongnaiเริ่มมีผลประกอบการที่ดีขึ้น
งบลงทุนในInvent 200 ลบ ต่อปี มูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 402 ลบเป็น 606 ลบ
โดยมูลค่าบริษัทที่ลงทุนไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์
เราbookราคาจากมูลค่าของบริษัทในInventที่ขายให้กับนักลงทุนรายใหม่
4. ส่วนธุรกิจHigh Shopping ยอดขายในonline เพิ่มขึ้น80%จากปี 2016
5. มีการยกเลิกการตั้งสำรองของITV จำนวน 3,691 ลบในปี2017
สำหรับปี2018 กำไรหลักๆมาจากกำไรจากการถือลงทุนในAIS คิดเป็นสัดส่วน40.45%
ส่วนกำไรจากInternational business และดาวเทียมมีแนวโน้มลดลง
ส่วนงบเดี่ยวของบริษัท คุมงบการลงทุนในinventไม่เกิน 200ลบ และ admin&SG&A 400 ลบ
คำถามส่วนใหญ่ของในที่ประชุม จะพูดถึงว่าสามารถจะเพิ่มปันผลได้ไหม ซึ่งต้องให้AISพิจารณา
ว่าจะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 70%ได้หรือไม่ จริงๆต้องขึ้นกับความต้องการใช้เงิน
ของAISมากกว่า ช่วงลงทุนเครือข่ายและLicenseคงยากที่จะเปลี่ยนแปลงในความเห็นของAdmin page
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 818
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 9
HUMAN AGM 02.04.2018
+ ผู้ร่วมประชุม 544 ราย 438.5ลหุ้น คิดเป็น 64.5%
+ รับรองรายงานการประชุมปี 60
+ ปีนี้บ.จะเผยแพร่รายงานการประชุมภายใน 14วัน
+ จะรออีก 14วันเพื่อให้ผู้ร่วมประชุมแก้ไขรายงานกลับมา แล้วจะถือว่ารายงานการประชุมของปีนี้ถูกรับรอง
Product & Service
+ hr payroll มี brand humatrix ที่เน้นบริษัทขนาดใหญ่
+ brand esspace เจาะ sme ทำขึ้นใหม่
+ ใช้ pos(บ.ที่ซื้อเข้ามา) เจาะตลาด sme
+ ERP ไม่มี Product ของตัวเอง ใช้ sap
Financial
+ รายได้ อัตราเติบโตเฉลี่ย 3 ปี 31%
+ 83% มาจาก hr นอกนั้นมาจาก financial
+ gross profit 39%
+ net margin 20% เป้าหมาย อยากให้ได้ net 30% ภายใน 3ปี
Outlook
+ เชื่อว่าเป็นธุรกิจที่เหมือนวิ่งมาราธอน
+ มี mk share อยู่ 2% ของมนุษย์เงินเดือน 2แสนใน 10ล.คน
+ แต่นับเป็นครึ่งหนึงของตลาด HR Outsource
+ เป้า ต้องการโต 20-30% ทุกปี ทั้งรายได้และกำไร
+ new office จากสาธรธานี 300คน แยกอยู่2ตึก ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่สะดวก
+ ตอนนี้ย้ายแล้วไปรองเมืองซอย 5 เป็นศูนย์รถเบนต์เก่าที่เลิกแล้ว
+ ตึกใหม่ เช่า30ปี 280บ/ตรม ไม่มีค่าเซ้ง เจ้าของน่าจะใช้งบปรับปรุงไป 70ล เพื่อปรับปรุงอาคาร
+ Human ออกค่าตกแต่งภายใน+เฟอร์ 20ล
+ มีศูนย์ฝึกอบรม จุประมาณ 100คน
Product ใหม่
+ ไม่เกิน q2 จะมี online training ผ่านมือถือ เป็นการเรียน 3-8 นาที ตั้ง scheduleเพื่อทบทวน มี concept เกม
+ แอบเปิดตัวแล้ว
+ new service การวัดผลงาน วัดถี่ๆ เป็นวัน อาทิตย์ โปรเจค เริ่ม q2
+ new service เกี่ยวกับสวัสดิการ q2 อาจจะไม่ได้เก็บเงินเพิ่ม
+ new service personal wealth มี bot แนะนำการลงทุน ปลาย q3 จะรับรายได้จาก transaction การซื้อขาย
+ ตลาด sme สนใจเรื่องราคา แต่องค์กรขนาดใหญ่สนเรื่องประโยชน์ที่ได้รับ
+ hr payroll เป็นงานที่ต้องใช้ความสามารถ ต้องมีพนักงานเงินเดือน 3-5หมื่น ถึงจะทำได้ บ.เล็กทำให้ดียาก
q&a
+ คู่แข่ง กลัวเจ้าใหญ่ระดับโลก ลงมาทำไหม วิธีการของเจ้าใหญ่คือจับมือกับ partner ในประเทศ เพราะไทยยังเล็กไป ทำที่ประเทศใหญ่ๆคุ้มกว่า หรือจะง่ายกว่าถ้าซื้อ Human
+ รายได้มีทั้ง 2 แบบ
+ 1.ต่อหัวต่อเดือน ลูกค้าเก่ามีการขยายงานเพิ่มคน มีประมาณ 80% เกินค่าใช้จ่ายแล้ว
+ สัญญา มีทั้ง 1, 3, 5 ปี อย่าง Minor 10ปี แต่มีสัญญาว่าขึ้นได้กี่ % ปีไหนบ้าง
+ 2. non recurring พวกซื้อโปรแกรมจะรับครั้งเดียว แต่มีการบวก ma รายปี 10%+
+ รายได้ตปท. ตอนนี้มีผลต่อกำไร 10% ยังโฟกัสประเทศไทยจาก Service ใหม่
+ ปีนี้ต้นทุนโต แต่ไม่โตเยอะเท่ารายได้ กำไร
+ รายได้แต่ละ q จะไม่ต่าง แต่กำไร q4 เยอะ เพราะ ส่วนใหญ่งานจะเริ่ม q1 ทำ q2-3 แล้วเสร็จ q4 เลยมีก้อนใหญ่เข้ามา + Implement รับรู้ตาม %สำเร็จของงาน
+ เงิน ipo พักอยู่ใน Money Market กำลังจะกระจายไปพักในสินทรัพย์อื่น คุยกับกองทุนอยู่
+ กันสภาพคล่อง 660ล ไม่ได้ซื้อ ออฟฟิสตกแต่งภายใน 20ล + Training คน 10ล
+ งบ M&A 100ล มี 1รายแล้วแต่งบไม่เยอะ
+ อาจจะต้องตั้งสำนักงานในตจว เชียงใหม่ เพราะหาโปรแกมเมอร์ง่ายกว่า
+ ebit margin ตปท.ดีกว่า เพราะไปด้วยโปรแกรมที่สำเร็จแล้ว
+ โปรแกรมใหม่ คุยกับลูกค้าก่อนหรือพัฒนาก่อน ทำก่อนแต่ระหว่างทำจะคุยกับลูกค้าไปด้วย อย่าง personal wealth ไปถาม minor ชอบมาก ถ้ารอลูกค้าบอกจะช้าเกินไป
สำรอง&ปันผล + เลือกกรรมการ ผู้สอบ
+ สำรองต้องไม่ต่ำกว่า 5% สำรองเพิ่ม 4.5ล รวมเป็น 11ล. เท่ากับ 5%
+ กำไรต่อหุ้น 0.26บ จ่ายปันผล 0.03 ประมาณ 20.4ล เพราะปันจากกำไร q4เท่านั้น
+ มีสภาพคล่องเพียงพอ ที่จะปันผลระหว่างกาลได้ในปีนี้ ต้องรอกรรมการสรุปกันอีกครั้งหนึ่ง
+ ปี 59 ปันผลเกิน100% เพราะไม่เคยจ่ายเลยตั้งแต่ตั้งบริษัท
+ ปี 60 มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล + เพิ่มทุน เพื่อเตรียม ipo
+ ผู้ตรวจสอบใช้ EY งบ 1.82ล
+ กรรมการ ทั้ง 3ท่าน ได้รับเลือกกลับมา
+ ค่าตอบแทนกรรมการ เท่าเดิม ค่าเบี้ยประชุม 25k -35k/meeting
+ ตั้งคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน เพิ่ม 3ท่าน 5k/meeting 2-3ครั้ง/ปี
Other Business
+ บัญชี ที่ทำเพราะตลาดใหญ่มาก เพราะถ้าบ.ไม่ใหญ่พอจะไม่มีความสามารถทำได้ จะทำเป็น cfo service ไม่ทำบัญชีแบบปิดบัญชีส่งสรรภากร
+ บ.ที่เทคมาใช้โปรแกรมของอเมริกา แต่เล็กมาก ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ sap ก่อน กำลังเริ่มทำโปรแกรมตัวเอง
+ มีโปรเจคใหญ่ บ.สื่อสาร ยังไม่สามารถบอกได้
+ ใช้ concept open technology เพื่อส่งมอบได้เร็ว
+ การดูแลคน ระดับ middle management มี engagement กับบริษัท เวลามีปัญหาจะร่วมกันแก้ จะรักษาคนที่ไช่ไว้
+ ลูกค้า eec นิคม มีคุยกับบางองค์กรแล้ว แต่จะไม่ส่งคนไปทำที่นิคม ถ้าตลาดใหญ่พออาจจะไปตั้งไกล้ๆเพื่อให้สะดวกในการพูดคุย
+ โน้มน้าวยังไงให้ลูกค้ามาใช้บริการ มองตัวเองเป็น expert เหมือนสำนักตรวจบัญชีชั้นนำที่สามารถตรวจบ.ในธุรกิจเดียวกันได้
+ strategy คือ differentiation แต่พอไป sme อาจจะดูเรื่อง cost บ้าง
+ free float น้อยไป กำลังมองอยู่ เพราะกองทุนก็อยากมาถือ
+ ธุรกิจ financial audit ไม่ทำ
+ ผู้ร่วมประชุม 544 ราย 438.5ลหุ้น คิดเป็น 64.5%
+ รับรองรายงานการประชุมปี 60
+ ปีนี้บ.จะเผยแพร่รายงานการประชุมภายใน 14วัน
+ จะรออีก 14วันเพื่อให้ผู้ร่วมประชุมแก้ไขรายงานกลับมา แล้วจะถือว่ารายงานการประชุมของปีนี้ถูกรับรอง
Product & Service
+ hr payroll มี brand humatrix ที่เน้นบริษัทขนาดใหญ่
+ brand esspace เจาะ sme ทำขึ้นใหม่
+ ใช้ pos(บ.ที่ซื้อเข้ามา) เจาะตลาด sme
+ ERP ไม่มี Product ของตัวเอง ใช้ sap
Financial
+ รายได้ อัตราเติบโตเฉลี่ย 3 ปี 31%
+ 83% มาจาก hr นอกนั้นมาจาก financial
+ gross profit 39%
+ net margin 20% เป้าหมาย อยากให้ได้ net 30% ภายใน 3ปี
Outlook
+ เชื่อว่าเป็นธุรกิจที่เหมือนวิ่งมาราธอน
+ มี mk share อยู่ 2% ของมนุษย์เงินเดือน 2แสนใน 10ล.คน
+ แต่นับเป็นครึ่งหนึงของตลาด HR Outsource
+ เป้า ต้องการโต 20-30% ทุกปี ทั้งรายได้และกำไร
+ new office จากสาธรธานี 300คน แยกอยู่2ตึก ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่สะดวก
+ ตอนนี้ย้ายแล้วไปรองเมืองซอย 5 เป็นศูนย์รถเบนต์เก่าที่เลิกแล้ว
+ ตึกใหม่ เช่า30ปี 280บ/ตรม ไม่มีค่าเซ้ง เจ้าของน่าจะใช้งบปรับปรุงไป 70ล เพื่อปรับปรุงอาคาร
+ Human ออกค่าตกแต่งภายใน+เฟอร์ 20ล
+ มีศูนย์ฝึกอบรม จุประมาณ 100คน
Product ใหม่
+ ไม่เกิน q2 จะมี online training ผ่านมือถือ เป็นการเรียน 3-8 นาที ตั้ง scheduleเพื่อทบทวน มี concept เกม
+ แอบเปิดตัวแล้ว
+ new service การวัดผลงาน วัดถี่ๆ เป็นวัน อาทิตย์ โปรเจค เริ่ม q2
+ new service เกี่ยวกับสวัสดิการ q2 อาจจะไม่ได้เก็บเงินเพิ่ม
+ new service personal wealth มี bot แนะนำการลงทุน ปลาย q3 จะรับรายได้จาก transaction การซื้อขาย
+ ตลาด sme สนใจเรื่องราคา แต่องค์กรขนาดใหญ่สนเรื่องประโยชน์ที่ได้รับ
+ hr payroll เป็นงานที่ต้องใช้ความสามารถ ต้องมีพนักงานเงินเดือน 3-5หมื่น ถึงจะทำได้ บ.เล็กทำให้ดียาก
q&a
+ คู่แข่ง กลัวเจ้าใหญ่ระดับโลก ลงมาทำไหม วิธีการของเจ้าใหญ่คือจับมือกับ partner ในประเทศ เพราะไทยยังเล็กไป ทำที่ประเทศใหญ่ๆคุ้มกว่า หรือจะง่ายกว่าถ้าซื้อ Human
+ รายได้มีทั้ง 2 แบบ
+ 1.ต่อหัวต่อเดือน ลูกค้าเก่ามีการขยายงานเพิ่มคน มีประมาณ 80% เกินค่าใช้จ่ายแล้ว
+ สัญญา มีทั้ง 1, 3, 5 ปี อย่าง Minor 10ปี แต่มีสัญญาว่าขึ้นได้กี่ % ปีไหนบ้าง
+ 2. non recurring พวกซื้อโปรแกรมจะรับครั้งเดียว แต่มีการบวก ma รายปี 10%+
+ รายได้ตปท. ตอนนี้มีผลต่อกำไร 10% ยังโฟกัสประเทศไทยจาก Service ใหม่
+ ปีนี้ต้นทุนโต แต่ไม่โตเยอะเท่ารายได้ กำไร
+ รายได้แต่ละ q จะไม่ต่าง แต่กำไร q4 เยอะ เพราะ ส่วนใหญ่งานจะเริ่ม q1 ทำ q2-3 แล้วเสร็จ q4 เลยมีก้อนใหญ่เข้ามา + Implement รับรู้ตาม %สำเร็จของงาน
+ เงิน ipo พักอยู่ใน Money Market กำลังจะกระจายไปพักในสินทรัพย์อื่น คุยกับกองทุนอยู่
+ กันสภาพคล่อง 660ล ไม่ได้ซื้อ ออฟฟิสตกแต่งภายใน 20ล + Training คน 10ล
+ งบ M&A 100ล มี 1รายแล้วแต่งบไม่เยอะ
+ อาจจะต้องตั้งสำนักงานในตจว เชียงใหม่ เพราะหาโปรแกมเมอร์ง่ายกว่า
+ ebit margin ตปท.ดีกว่า เพราะไปด้วยโปรแกรมที่สำเร็จแล้ว
+ โปรแกรมใหม่ คุยกับลูกค้าก่อนหรือพัฒนาก่อน ทำก่อนแต่ระหว่างทำจะคุยกับลูกค้าไปด้วย อย่าง personal wealth ไปถาม minor ชอบมาก ถ้ารอลูกค้าบอกจะช้าเกินไป
สำรอง&ปันผล + เลือกกรรมการ ผู้สอบ
+ สำรองต้องไม่ต่ำกว่า 5% สำรองเพิ่ม 4.5ล รวมเป็น 11ล. เท่ากับ 5%
+ กำไรต่อหุ้น 0.26บ จ่ายปันผล 0.03 ประมาณ 20.4ล เพราะปันจากกำไร q4เท่านั้น
+ มีสภาพคล่องเพียงพอ ที่จะปันผลระหว่างกาลได้ในปีนี้ ต้องรอกรรมการสรุปกันอีกครั้งหนึ่ง
+ ปี 59 ปันผลเกิน100% เพราะไม่เคยจ่ายเลยตั้งแต่ตั้งบริษัท
+ ปี 60 มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล + เพิ่มทุน เพื่อเตรียม ipo
+ ผู้ตรวจสอบใช้ EY งบ 1.82ล
+ กรรมการ ทั้ง 3ท่าน ได้รับเลือกกลับมา
+ ค่าตอบแทนกรรมการ เท่าเดิม ค่าเบี้ยประชุม 25k -35k/meeting
+ ตั้งคณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน เพิ่ม 3ท่าน 5k/meeting 2-3ครั้ง/ปี
Other Business
+ บัญชี ที่ทำเพราะตลาดใหญ่มาก เพราะถ้าบ.ไม่ใหญ่พอจะไม่มีความสามารถทำได้ จะทำเป็น cfo service ไม่ทำบัญชีแบบปิดบัญชีส่งสรรภากร
+ บ.ที่เทคมาใช้โปรแกรมของอเมริกา แต่เล็กมาก ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ sap ก่อน กำลังเริ่มทำโปรแกรมตัวเอง
+ มีโปรเจคใหญ่ บ.สื่อสาร ยังไม่สามารถบอกได้
+ ใช้ concept open technology เพื่อส่งมอบได้เร็ว
+ การดูแลคน ระดับ middle management มี engagement กับบริษัท เวลามีปัญหาจะร่วมกันแก้ จะรักษาคนที่ไช่ไว้
+ ลูกค้า eec นิคม มีคุยกับบางองค์กรแล้ว แต่จะไม่ส่งคนไปทำที่นิคม ถ้าตลาดใหญ่พออาจจะไปตั้งไกล้ๆเพื่อให้สะดวกในการพูดคุย
+ โน้มน้าวยังไงให้ลูกค้ามาใช้บริการ มองตัวเองเป็น expert เหมือนสำนักตรวจบัญชีชั้นนำที่สามารถตรวจบ.ในธุรกิจเดียวกันได้
+ strategy คือ differentiation แต่พอไป sme อาจจะดูเรื่อง cost บ้าง
+ free float น้อยไป กำลังมองอยู่ เพราะกองทุนก็อยากมาถือ
+ ธุรกิจ financial audit ไม่ทำ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 10
AGM KBANK 4 Apr 14.00
เริ่มประชุม ผู้บริหารไม่ได้สรุปผลประกอบการที่ผ่านมาในวาระที่สอง
ทำให้มีนักลงทุนบางท่านท้วงติงมา แต่ก็ยังไม่มีการอับเดทเลยตั้งคำถาม
ไปที่กรรมการ
คำถาม NIM , ROAA , ROAE ลดลง อยากทราบสาเหตุ
Fin techมีผลกระทบอย่างไรกับธุรกิจธนาคาร
เราพัฒนาความสามารถในการแข่งขันอย่างไร
ตอบ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM)ถูกบีบตลอดเวลา แต่พอรับได้
ค่าธรรมเนียม และ อื่นๆ ค่อยๆลดลงไป
เราเตรียมทีมงานและระบบเพื่อแข่งขันในรูปแบบDigital platform
ทุกธนาคารก็โดนเหมือนกัน
คำถาม นับจากปัจจุบันอีก7-10ปี รายได้ในอนาคตมาจากไหน
ตอบ ธุรกิจที่เราให้การสนับสนุนคือ SMEเราปล่อยสินเชื่อมากกว่าเจ้าอื่นๆ
และเขาจะทำมาหากินกับเราตลอดไป
คำถาม ธนาคารที่การพัฒนามาตลอด
ลูกค่าแบ่งสามกลุ่มได้แก่ ลูกค้าธรรมดาสามกลุ่ม และ กลุ่มธุรกิจสามกลุ่ม
ธุรกรรมบางอย่าง บุคคลธรรมดา กลุ่มธุรกิจ ทำได้ มียอดbalance ยอดใช้
ผ่านบัญชี. แต่SME บางรายการทำไม่ได้ อยากให้ท่านไปแก้ไข
เเสดงยอดทางบัญชี และ ยอดใช้ได้ด้วยครับ
ตอบ จดไว้แล้วครับ
วาระที่3
รายได้ลดลงจากรายได้การประกันภัยลดลง
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายการตลาด
หนี้สูญเพิ่มขึ้น ตั้งสูงขึ้นเพื่อให้ฐานะทางการเงินดีขึ้น
คำถาม รายได้ที่ลดลง จากรายได้จากการประกันอยากให้ชี้แจงสาเหตุ
สาขาที่ลดลงในปีนี้และอยากทราบอนาคตเก่ียวกับการลดสาขา
และพนักงานเป็นอย่างไร
ตอบ ค่าธรรมเนียมการขายถือเป็นรายได้ที่เคยได้เป็นกอบเป็นกำ
ลูกค้าซื้อประกันไปแล้ว อาจไม่ได้ซื้ออีก เมืองไทยประกันชีวิตก็พยายาม
หาสินค้าใหม่ๆมาตอบสนอง
ส่วนเรื่องสาขาที่ทยอยปิด เพื่อลดต้นทุนของในสาขาที่ไม่ค่อยจำเป็น
แต่การบริการลูกค้าก็ไม่ได้ไปไหน พนักงานก็ย้ายไปอยู่อีกที่นึง
และลูกค้าก็ใช้applicationมาช่วยอำนวยความสะดวก
คำถาม จากคุณศิริวัฒน์ เจ้าของศิริวัฒน์ แซนวิช
แสดงความยินดีกับคุณปรีดี ดาวฉาย ดำรงตำเเหน่งประธานสมาคมธนาคารไทยอีกวาระหนึ่ง
1. Kbank ไม่เก็บค่าธรรมเนียม รายได้จะลดลงเท่าไหร่
2. หุ้นธนาคารหล่น ข่าวลือว่ากองทุนฟื้นฟูจะเก็บเงินเพิ่มเป็น1%จาก0.47%จริงหรือไม่
ตอบ
แนวโน้มการแข่งขันค่าธรรมเนียมเป็นเรื่องปกติ ต้องไปหารายได้อื่นมาชดเชยแทน. หุ้นตกพุดไม่ได้ แต่เมืองไทยมีความคาดหวังต่อธนาคารพาณิชย์สูง
หวังว่าคนเกี่ยวข้องจะมองได้และหาทางออก
วาระที่4
จ่ายปันผลงวดนี้ 3.5 บาท XD 12 Apr , Pay 30 Apr
Credit tax 3/7 (Rate30%)
คุณศิรวัฒน์ถามคุณหญิงสุชาดา เคยเป็นกรรมการมากี่ปี
คุณหญิงตอบ เป็นกรรมการมา18ปี
เข้ามาในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ตอนนั้นไม่จ่ายปันผลมา6-7ปี
คุณศิริวัฒน์ขอเชิญชวนผู้ถือหุ้นปรบมือให้คุณหญิงถึงการเสียสละ
(ตอนนี้คุณหญิงสุชาดาลาออกจากกรรมการเพราะอายุครบ72ปี)
วาระที่11 เรื่องพิจารณาอนุมัติกรอบการดำเนินการขยายธุรกิจ
โดยวิธีการเข้าซื้อหรือร่วมลงทุนในกิจการ
คะแนนได้66%ซึ่งไม่ถึง 3 ใน 4 ทำให้วาระนี้ไม่ผ่าน
วาระที่12 ไม่มีใครเสนอ
ปิดการประชุม
เริ่มประชุม ผู้บริหารไม่ได้สรุปผลประกอบการที่ผ่านมาในวาระที่สอง
ทำให้มีนักลงทุนบางท่านท้วงติงมา แต่ก็ยังไม่มีการอับเดทเลยตั้งคำถาม
ไปที่กรรมการ
คำถาม NIM , ROAA , ROAE ลดลง อยากทราบสาเหตุ
Fin techมีผลกระทบอย่างไรกับธุรกิจธนาคาร
เราพัฒนาความสามารถในการแข่งขันอย่างไร
ตอบ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย(NIM)ถูกบีบตลอดเวลา แต่พอรับได้
ค่าธรรมเนียม และ อื่นๆ ค่อยๆลดลงไป
เราเตรียมทีมงานและระบบเพื่อแข่งขันในรูปแบบDigital platform
ทุกธนาคารก็โดนเหมือนกัน
คำถาม นับจากปัจจุบันอีก7-10ปี รายได้ในอนาคตมาจากไหน
ตอบ ธุรกิจที่เราให้การสนับสนุนคือ SMEเราปล่อยสินเชื่อมากกว่าเจ้าอื่นๆ
และเขาจะทำมาหากินกับเราตลอดไป
คำถาม ธนาคารที่การพัฒนามาตลอด
ลูกค่าแบ่งสามกลุ่มได้แก่ ลูกค้าธรรมดาสามกลุ่ม และ กลุ่มธุรกิจสามกลุ่ม
ธุรกรรมบางอย่าง บุคคลธรรมดา กลุ่มธุรกิจ ทำได้ มียอดbalance ยอดใช้
ผ่านบัญชี. แต่SME บางรายการทำไม่ได้ อยากให้ท่านไปแก้ไข
เเสดงยอดทางบัญชี และ ยอดใช้ได้ด้วยครับ
ตอบ จดไว้แล้วครับ
วาระที่3
รายได้ลดลงจากรายได้การประกันภัยลดลง
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายการตลาด
หนี้สูญเพิ่มขึ้น ตั้งสูงขึ้นเพื่อให้ฐานะทางการเงินดีขึ้น
คำถาม รายได้ที่ลดลง จากรายได้จากการประกันอยากให้ชี้แจงสาเหตุ
สาขาที่ลดลงในปีนี้และอยากทราบอนาคตเก่ียวกับการลดสาขา
และพนักงานเป็นอย่างไร
ตอบ ค่าธรรมเนียมการขายถือเป็นรายได้ที่เคยได้เป็นกอบเป็นกำ
ลูกค้าซื้อประกันไปแล้ว อาจไม่ได้ซื้ออีก เมืองไทยประกันชีวิตก็พยายาม
หาสินค้าใหม่ๆมาตอบสนอง
ส่วนเรื่องสาขาที่ทยอยปิด เพื่อลดต้นทุนของในสาขาที่ไม่ค่อยจำเป็น
แต่การบริการลูกค้าก็ไม่ได้ไปไหน พนักงานก็ย้ายไปอยู่อีกที่นึง
และลูกค้าก็ใช้applicationมาช่วยอำนวยความสะดวก
คำถาม จากคุณศิริวัฒน์ เจ้าของศิริวัฒน์ แซนวิช
แสดงความยินดีกับคุณปรีดี ดาวฉาย ดำรงตำเเหน่งประธานสมาคมธนาคารไทยอีกวาระหนึ่ง
1. Kbank ไม่เก็บค่าธรรมเนียม รายได้จะลดลงเท่าไหร่
2. หุ้นธนาคารหล่น ข่าวลือว่ากองทุนฟื้นฟูจะเก็บเงินเพิ่มเป็น1%จาก0.47%จริงหรือไม่
ตอบ
แนวโน้มการแข่งขันค่าธรรมเนียมเป็นเรื่องปกติ ต้องไปหารายได้อื่นมาชดเชยแทน. หุ้นตกพุดไม่ได้ แต่เมืองไทยมีความคาดหวังต่อธนาคารพาณิชย์สูง
หวังว่าคนเกี่ยวข้องจะมองได้และหาทางออก
วาระที่4
จ่ายปันผลงวดนี้ 3.5 บาท XD 12 Apr , Pay 30 Apr
Credit tax 3/7 (Rate30%)
คุณศิรวัฒน์ถามคุณหญิงสุชาดา เคยเป็นกรรมการมากี่ปี
คุณหญิงตอบ เป็นกรรมการมา18ปี
เข้ามาในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง ตอนนั้นไม่จ่ายปันผลมา6-7ปี
คุณศิริวัฒน์ขอเชิญชวนผู้ถือหุ้นปรบมือให้คุณหญิงถึงการเสียสละ
(ตอนนี้คุณหญิงสุชาดาลาออกจากกรรมการเพราะอายุครบ72ปี)
วาระที่11 เรื่องพิจารณาอนุมัติกรอบการดำเนินการขยายธุรกิจ
โดยวิธีการเข้าซื้อหรือร่วมลงทุนในกิจการ
คะแนนได้66%ซึ่งไม่ถึง 3 ใน 4 ทำให้วาระนี้ไม่ผ่าน
วาระที่12 ไม่มีใครเสนอ
ปิดการประชุม
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 11
AGM RS 4 Apr 18
รายได้เพิ่ม17%
ต้นทุนขาย และ ค่าบริการ
ต้นทุนรวมลดลง8%
กำไรคิดเป็น39%ของรายได้
รายได้อื่น : ได้ค่าmust carry เป็นรายได้อื่น จำนวน 40.9 ลบ
ค่าใช้จ่ายผันแปรตามการขายสินค้า สุขภาพและความงาม
ต้นทุนเพิ่ม9%มาจากดอกเบี้ยจ่ายการชำระค่าธรรมเนียม
ใบอนุญาติรายได้ดิจิตอลทีวี
ซึ่งได้รับการเยียวยาจากกสทชยืดจ่ายไปอีกสามปี
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 426% (ปีก่อนขาดทุน 102 ลบ)
บริษัท ไลฟ์สตาร์ มีรายได้ส่วนสุขภาพและความงามแบ่งออกเป็น
กลุ่มแรก magique ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
กลุ่มสอง revive ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม
กลุ่มสาม S.O.M. ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
รายได้รวม 1,389 ลบ
กลยุทธ์ในการหารายได้
1. มาจากการบริหารช่องการขาย ผ่านสื่อช่องของบริษัททุกช่องทาง
เราเอาข้อมูลจากช่องทีวีมาทำ co-outbound ทำให้เรามีรายได้โตทุกช่องทาง
ทำให้ได้ลูกค้าเพิ่ม30,000-40,000 รายต่อเดือน
2. เพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง SKU เพิ่มจาก 12 SKU to 30 SKU
รายได้จากสื่อ ต่างๆ รวมสื่อวิทยุ สื่อโทรทัศน์ สื่อดาวเทียม
รายได้จากratingดีขึ้น เช่นคุยข่าวช่อง8 ,gameเรียงเบอร์
หนัง ละครหลังข่าว ทำให้ติดrating TOP 5
คลื่นคูลฟาเรนไฮร์ ติดตลาดทั้งวิทยุและออนไลน์
3 . ธุรกิจเพลง
บริหารศิลปิน และ ให้เขาร่วมทุนด้วย เราสามารถควบคุมต้นทุนได้
มีกำไรจากธุรกิจเพลบ
4 ธุรกิจรับจ้าง ลดลง 79% เนื่องจากกิจกรรมลดลงตามสภาพเศรษฐกิจในปีที่แล้ว
สรุป รายได้ขายและบริการ 3,501.7 ลบ เพิ่มขึ้น 17%
กำไร 332.9 ลบ เพิ่มขึ้น 426
คำถาม สินค้า Revive เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ บางผู้ใช้บอกว่าใช้ไม่ได้ผล
เราได้สินค้านี้มาจากไหน สัดส่วนที่ลูกค้าซื้อซ้ำเป็นอย่างไร
อยากรู้ว่าโอกาสซื้อซ้ำเยอะไหม
ตอบ
สินค้าดูแลเส้นผม Top3ของเรา มียอดซื้อซ้ำ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ได้ผล
แต่การตอบรับแต่ละคนไม่เหมือนกัน เเต่เราเห็นอัตราการซื้อซ้ำต่อ
เนื่องและขายดีต้ังแต่ 3 ปี สัดส่วนของความงามประมาณ30%
คำถาม บางธุรกิจเป็นขาลงในช่วงสามปีที่ผ่านมา
ส่วนสุขภาพความงาม พึ่งก้าวกระโดดมาปีที่แล้ว
เป็นตัวหลักที่กำไรอย่างมากอนาคตปีต่อไป บริษัทจะอะไรต่อไป
คำตอบ
ภาพรวม businessแต่ละตัวไม่มีขาลง มีกำไร สะท้อนสภาพความเป็นจริง
ธุรกิจเพลงยอด5%แต่อยู่ได้ขึ้นการจัดการเป็นเจ้าเดียว
ธุรกิจวิทยุ เป็นขาลง แต่เราลงน้อยกว่าอุตสาหกรรม
เราทำการปรับปรุงโครงสร้าง องค์กร
รายได้ธุรกิจใหม่ จริงๆคนติดตามจะรู้ว่าเราทำตั้งแต่ปี58 จนเห็นผลในปี60
Business model unique
แม้แต่สื่อ เพลง ก็เชื่อมกับธุรกิจสุขภาพ และ ความงาม
ถือเป็นธุรกิจหลักในอนาคต margin สูง
จะเติบโตแบบก้าวกระโดดอีก 3 years
คำถาม ธุรกิจสุขภาพและความงามแตกต่างจากเจ้าอื่นอย่างไร
ตอบ เราไม่เหมือนคนอื่น วิธีการใช้สื่อ คือลงในsatalite,TV8
เราจ่ายค่าสื่อในราคาตลาด ไม่มีเงินสูญเสียไปทางไหน
คำถาม เครื่องใช้ในครัวเรื่อน เครื่องใช้ไฟฟ้า อัตราเติบโตอย่างไร
ตอบเป็นส่วนใหม่ที่เปิด feedbackดี ยิงโฆษณาไป2-3วันหายไป
เพราะไม่มีของขาย ขายดีมาก เป็นลูกค้ากลุ่มใหม่90%ที่ไม่ใช่กลุ่มความงาม
คำถาม แนวโน้มทีวีดิจิตอลโตไหม
เรื่องสีดาราม ชูโรง แต่ช่องอื่นก็เอาหนังอินเดียมาด้วย
ตอบ เราอยู่ธุรกิจทีวี ก็ต้องแข่งขันแรง ทุกคนก็เลียนแบบเรา
แต่สุดท้ายไม่ใช่ทุกคนจะประสบความสำเร็จ มีองค์ประกอบอื่นอีกเยอะ
เราทำบนความเข้าใจของเรา แต่เราไปห้ามการแข่งขันไม่ได้
ส่วนภาพรวมธุรกิจทีวีดิจิตอล ม44ไม่มีผลต่อการแข่งขัน เช่น คืนช่อง
คนอยู่ช่องหลัก5ช่อง ก็สู้กันแค่นี้ ประสบความสำเร็จพอสมควร
เราอย่ามองช่อง8เหมือนช่องอื่นที่เอารายได้จากการขายของ90%
เราเอาสื่อไปขายให้ธุรกิจของเรา เม็ดเงินเติบโตตามธุรกิจที่เราได้
คำถาม เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินจาก 4xx to 6xx ลบ
ตอบ กู้เพิ่มสองร้อยกว่าล้านไปจ่ายดิจิตอลทีวีอย่างเดียว
ต่อไปเราจะใช้เงินกู้ระยะยาวน้อยลง
กระแสเงินสดจากธุรกิจความงามจะช่วยลดการใช้เงินกู้ระยะยาว
ไม่มีแผนการกู้เพิ่มในปีหน้า
ถึงถ้าไม่มีการพักชำระหนี้ดิจิตอล เราก็ไม่กู้
คำถาม การบริหารความเสี่ยง ratingมาจากseries อินเดีย ซึ่งยาว
ถ้าดีก็ดี แต่ไม่ดี จะทำอย่างไร
ตอบ ต้นทุนไม่สูง ถ้าเรตติ้งไม่ดี เราก็ย้ายเวลา อยู่ในสายตาที่เราเฝ้ามอง
คำถาม ผมดูหลายช่องแต่ช่องอาร์เอสดูน่าสนใจ มีชีวิตชีวา
ช่องบางช่อง ทีมงานไม่เข้าท่า ทำให้หนังอินเดียไม่มีชีวิตชีวา
คำถาม ลูกค้าใช้ครีมกลุ่มไหน
บอลโลกเป็นอย่างไร
ตอบ บอลโลก ยังไม่มีความชัดเจน
ส่วนลูกค้าข้อแรก ย้อนกลับไปที่คุณสุรชัย เราได้เปรียบ เลยไปหาลูกค้าที่
ดูช่องของเรา ยังมีโอกาสโตอีกเยอะ ไม่จำเป็นต้องลงทุนหาลูกค้ากลุ่มอื่นอีกในช่วงนี้
คำถาม occupancy 2017 ค่าโฆษณาเท่าไหร่
ตอบ
เราใช้utilization rate 45% 22,000 บาทต่อนาที มาจากratingปี59
ปี60 ศกไม่ดีมีการdiscountเพื่อได้เงินสดมา จริงๆได้ถึง 26,000บาทต่อนาที
ปีนี้ตั้งเฉลี่ย 40,000 บาทต่อนาทีมาจากratingเพิ่มขึ้นเป็นหลัก
ถือเป็นเรตที่ถือว่าต่ำแล้ว เราจะมีการบริหารการขายระยะยาวของเอเจนซี่
หกเดือนถึงหนึ่งปีอย่างต่ำ50% ถ้าเรตติ้งดีขึ้นมีโอกาสปรับอีก
หนุมาณได้ถึง 200,000บาทต่อนาที. ข่าวเช้า 1.5แสนบาทต่อนาที
Utilization rate 60% ratingดีขึ้น 40%
CPRPเป็นเรตกลางของตลาด 2.5หมื่นบาทต่อหนึ่งrating point
ส่วนช่องดาวเทียมประมาณ 1-1.5หมืนบาทต่อนาที
เราลดความเสี่ยงจากช่องดิจิตอล ด้วยการเสริมธุรกิจความงาม
ส่วนธุรกิจดาวเทียมทั้งสี่ช่อง ซึ่งรายได้ลดลงอย่างมากจากโครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนไป ถูกลดความสำคัญจากผู้ใช้โฆษณา
สบายดีทีวี เรายังออกอากาศอยู่ ส่วนช่องอื่นพยายามบริหารให้เป็น Zero cost
เช่น เอารายการมาจากช่อง8 , ทำบาร์เธอร์กับที่อื่น
ปีที่แล้วสบายดีทีวีทำรายได้ 70-80ลบ ส่วนช่องอื่นรายได้ประมาณ50ลบ
เป็นชั้นขายของของhealth and beauty
ส่วนการเพิ่มseat of call centerมีสองส่วน
เชิงลึก in bound. ลูกค้าเห็นจากทีวีโทรมาที่ 1781
มีหน้าที่รับให้ครบปิดการขาย100%ตอนนี้ทำได้ตามkpiแล้ว
เราได้data base ปีที่แล้วได้สองแสนราย ตอนนี้เจ็ดแสนรายแล้ว
เรารู้พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า
เรานำมาใช้โทร out boundเพื่อเสนอสินค้าใหม่ๆ
เสนอสินค้าในสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ยิน ซึ่งเติบโตสูงมาในปีทีแล้ว
รายได้จากout bound 25%ของรายได้ทั้งหมด เราจึงเน้นเพิ่มพนักงาน
ในส่วนนี้จาก80คน เราค่อยๆเติมส่วนนี้เข้าไป
ทั้งหมดเราวางเป้า2,500ลบ จากปีที่แล้ว 1,400ลบ
การมีcall centerเป็นการยืนยันว่าเป้าจะได้ตามที่ตั้งปัจจุบัน
inbound 120คน รวม out bound 180 คนประมาณ 300 คน
ตอนนี้ยอดขายโตทุกไตรมาส
คุณพรพรรณเสริม ratingเฉลี่ยคิดทั้งวัน24hours
แต่เราคิดแค่18hours ,utilization rate 60-70%
คำถาม GP ของสินค้าใหม่ สินค้าครัวเรื่อน
ตอบ ปกติคิดเหมือน7-11 ประมาณ 50% (home and life stye product )
ส่วนอันอื่น 70%
ปีนี้มีการกันสำรองกำไรตามกฏหมาย5% และ งดจ่ายเงินปันผล
เพื่อนำเงินไปลงทุนเพิ่มเติมและเป็นเงินทุนหมุนเวียน
คำถามค่าตรวจสอบบัญชี บริษัทแม่เพิ่มขึ้น และ บริษัทลูกลดลง เพราะเหตุใด
ตอบ Move cool lism from บริษัทลูกมาที่RS ทำให้ค่าสอบบัญชีเพิ่มขึ้น
แต่ค่าสอบบัญชีบริษัทลูกลดลง
รายได้เพิ่ม17%
ต้นทุนขาย และ ค่าบริการ
ต้นทุนรวมลดลง8%
กำไรคิดเป็น39%ของรายได้
รายได้อื่น : ได้ค่าmust carry เป็นรายได้อื่น จำนวน 40.9 ลบ
ค่าใช้จ่ายผันแปรตามการขายสินค้า สุขภาพและความงาม
ต้นทุนเพิ่ม9%มาจากดอกเบี้ยจ่ายการชำระค่าธรรมเนียม
ใบอนุญาติรายได้ดิจิตอลทีวี
ซึ่งได้รับการเยียวยาจากกสทชยืดจ่ายไปอีกสามปี
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 426% (ปีก่อนขาดทุน 102 ลบ)
บริษัท ไลฟ์สตาร์ มีรายได้ส่วนสุขภาพและความงามแบ่งออกเป็น
กลุ่มแรก magique ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
กลุ่มสอง revive ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม
กลุ่มสาม S.O.M. ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
รายได้รวม 1,389 ลบ
กลยุทธ์ในการหารายได้
1. มาจากการบริหารช่องการขาย ผ่านสื่อช่องของบริษัททุกช่องทาง
เราเอาข้อมูลจากช่องทีวีมาทำ co-outbound ทำให้เรามีรายได้โตทุกช่องทาง
ทำให้ได้ลูกค้าเพิ่ม30,000-40,000 รายต่อเดือน
2. เพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง SKU เพิ่มจาก 12 SKU to 30 SKU
รายได้จากสื่อ ต่างๆ รวมสื่อวิทยุ สื่อโทรทัศน์ สื่อดาวเทียม
รายได้จากratingดีขึ้น เช่นคุยข่าวช่อง8 ,gameเรียงเบอร์
หนัง ละครหลังข่าว ทำให้ติดrating TOP 5
คลื่นคูลฟาเรนไฮร์ ติดตลาดทั้งวิทยุและออนไลน์
3 . ธุรกิจเพลง
บริหารศิลปิน และ ให้เขาร่วมทุนด้วย เราสามารถควบคุมต้นทุนได้
มีกำไรจากธุรกิจเพลบ
4 ธุรกิจรับจ้าง ลดลง 79% เนื่องจากกิจกรรมลดลงตามสภาพเศรษฐกิจในปีที่แล้ว
สรุป รายได้ขายและบริการ 3,501.7 ลบ เพิ่มขึ้น 17%
กำไร 332.9 ลบ เพิ่มขึ้น 426
คำถาม สินค้า Revive เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ บางผู้ใช้บอกว่าใช้ไม่ได้ผล
เราได้สินค้านี้มาจากไหน สัดส่วนที่ลูกค้าซื้อซ้ำเป็นอย่างไร
อยากรู้ว่าโอกาสซื้อซ้ำเยอะไหม
ตอบ
สินค้าดูแลเส้นผม Top3ของเรา มียอดซื้อซ้ำ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ได้ผล
แต่การตอบรับแต่ละคนไม่เหมือนกัน เเต่เราเห็นอัตราการซื้อซ้ำต่อ
เนื่องและขายดีต้ังแต่ 3 ปี สัดส่วนของความงามประมาณ30%
คำถาม บางธุรกิจเป็นขาลงในช่วงสามปีที่ผ่านมา
ส่วนสุขภาพความงาม พึ่งก้าวกระโดดมาปีที่แล้ว
เป็นตัวหลักที่กำไรอย่างมากอนาคตปีต่อไป บริษัทจะอะไรต่อไป
คำตอบ
ภาพรวม businessแต่ละตัวไม่มีขาลง มีกำไร สะท้อนสภาพความเป็นจริง
ธุรกิจเพลงยอด5%แต่อยู่ได้ขึ้นการจัดการเป็นเจ้าเดียว
ธุรกิจวิทยุ เป็นขาลง แต่เราลงน้อยกว่าอุตสาหกรรม
เราทำการปรับปรุงโครงสร้าง องค์กร
รายได้ธุรกิจใหม่ จริงๆคนติดตามจะรู้ว่าเราทำตั้งแต่ปี58 จนเห็นผลในปี60
Business model unique
แม้แต่สื่อ เพลง ก็เชื่อมกับธุรกิจสุขภาพ และ ความงาม
ถือเป็นธุรกิจหลักในอนาคต margin สูง
จะเติบโตแบบก้าวกระโดดอีก 3 years
คำถาม ธุรกิจสุขภาพและความงามแตกต่างจากเจ้าอื่นอย่างไร
ตอบ เราไม่เหมือนคนอื่น วิธีการใช้สื่อ คือลงในsatalite,TV8
เราจ่ายค่าสื่อในราคาตลาด ไม่มีเงินสูญเสียไปทางไหน
คำถาม เครื่องใช้ในครัวเรื่อน เครื่องใช้ไฟฟ้า อัตราเติบโตอย่างไร
ตอบเป็นส่วนใหม่ที่เปิด feedbackดี ยิงโฆษณาไป2-3วันหายไป
เพราะไม่มีของขาย ขายดีมาก เป็นลูกค้ากลุ่มใหม่90%ที่ไม่ใช่กลุ่มความงาม
คำถาม แนวโน้มทีวีดิจิตอลโตไหม
เรื่องสีดาราม ชูโรง แต่ช่องอื่นก็เอาหนังอินเดียมาด้วย
ตอบ เราอยู่ธุรกิจทีวี ก็ต้องแข่งขันแรง ทุกคนก็เลียนแบบเรา
แต่สุดท้ายไม่ใช่ทุกคนจะประสบความสำเร็จ มีองค์ประกอบอื่นอีกเยอะ
เราทำบนความเข้าใจของเรา แต่เราไปห้ามการแข่งขันไม่ได้
ส่วนภาพรวมธุรกิจทีวีดิจิตอล ม44ไม่มีผลต่อการแข่งขัน เช่น คืนช่อง
คนอยู่ช่องหลัก5ช่อง ก็สู้กันแค่นี้ ประสบความสำเร็จพอสมควร
เราอย่ามองช่อง8เหมือนช่องอื่นที่เอารายได้จากการขายของ90%
เราเอาสื่อไปขายให้ธุรกิจของเรา เม็ดเงินเติบโตตามธุรกิจที่เราได้
คำถาม เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินจาก 4xx to 6xx ลบ
ตอบ กู้เพิ่มสองร้อยกว่าล้านไปจ่ายดิจิตอลทีวีอย่างเดียว
ต่อไปเราจะใช้เงินกู้ระยะยาวน้อยลง
กระแสเงินสดจากธุรกิจความงามจะช่วยลดการใช้เงินกู้ระยะยาว
ไม่มีแผนการกู้เพิ่มในปีหน้า
ถึงถ้าไม่มีการพักชำระหนี้ดิจิตอล เราก็ไม่กู้
คำถาม การบริหารความเสี่ยง ratingมาจากseries อินเดีย ซึ่งยาว
ถ้าดีก็ดี แต่ไม่ดี จะทำอย่างไร
ตอบ ต้นทุนไม่สูง ถ้าเรตติ้งไม่ดี เราก็ย้ายเวลา อยู่ในสายตาที่เราเฝ้ามอง
คำถาม ผมดูหลายช่องแต่ช่องอาร์เอสดูน่าสนใจ มีชีวิตชีวา
ช่องบางช่อง ทีมงานไม่เข้าท่า ทำให้หนังอินเดียไม่มีชีวิตชีวา
คำถาม ลูกค้าใช้ครีมกลุ่มไหน
บอลโลกเป็นอย่างไร
ตอบ บอลโลก ยังไม่มีความชัดเจน
ส่วนลูกค้าข้อแรก ย้อนกลับไปที่คุณสุรชัย เราได้เปรียบ เลยไปหาลูกค้าที่
ดูช่องของเรา ยังมีโอกาสโตอีกเยอะ ไม่จำเป็นต้องลงทุนหาลูกค้ากลุ่มอื่นอีกในช่วงนี้
คำถาม occupancy 2017 ค่าโฆษณาเท่าไหร่
ตอบ
เราใช้utilization rate 45% 22,000 บาทต่อนาที มาจากratingปี59
ปี60 ศกไม่ดีมีการdiscountเพื่อได้เงินสดมา จริงๆได้ถึง 26,000บาทต่อนาที
ปีนี้ตั้งเฉลี่ย 40,000 บาทต่อนาทีมาจากratingเพิ่มขึ้นเป็นหลัก
ถือเป็นเรตที่ถือว่าต่ำแล้ว เราจะมีการบริหารการขายระยะยาวของเอเจนซี่
หกเดือนถึงหนึ่งปีอย่างต่ำ50% ถ้าเรตติ้งดีขึ้นมีโอกาสปรับอีก
หนุมาณได้ถึง 200,000บาทต่อนาที. ข่าวเช้า 1.5แสนบาทต่อนาที
Utilization rate 60% ratingดีขึ้น 40%
CPRPเป็นเรตกลางของตลาด 2.5หมื่นบาทต่อหนึ่งrating point
ส่วนช่องดาวเทียมประมาณ 1-1.5หมืนบาทต่อนาที
เราลดความเสี่ยงจากช่องดิจิตอล ด้วยการเสริมธุรกิจความงาม
ส่วนธุรกิจดาวเทียมทั้งสี่ช่อง ซึ่งรายได้ลดลงอย่างมากจากโครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนไป ถูกลดความสำคัญจากผู้ใช้โฆษณา
สบายดีทีวี เรายังออกอากาศอยู่ ส่วนช่องอื่นพยายามบริหารให้เป็น Zero cost
เช่น เอารายการมาจากช่อง8 , ทำบาร์เธอร์กับที่อื่น
ปีที่แล้วสบายดีทีวีทำรายได้ 70-80ลบ ส่วนช่องอื่นรายได้ประมาณ50ลบ
เป็นชั้นขายของของhealth and beauty
ส่วนการเพิ่มseat of call centerมีสองส่วน
เชิงลึก in bound. ลูกค้าเห็นจากทีวีโทรมาที่ 1781
มีหน้าที่รับให้ครบปิดการขาย100%ตอนนี้ทำได้ตามkpiแล้ว
เราได้data base ปีที่แล้วได้สองแสนราย ตอนนี้เจ็ดแสนรายแล้ว
เรารู้พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า
เรานำมาใช้โทร out boundเพื่อเสนอสินค้าใหม่ๆ
เสนอสินค้าในสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ยิน ซึ่งเติบโตสูงมาในปีทีแล้ว
รายได้จากout bound 25%ของรายได้ทั้งหมด เราจึงเน้นเพิ่มพนักงาน
ในส่วนนี้จาก80คน เราค่อยๆเติมส่วนนี้เข้าไป
ทั้งหมดเราวางเป้า2,500ลบ จากปีที่แล้ว 1,400ลบ
การมีcall centerเป็นการยืนยันว่าเป้าจะได้ตามที่ตั้งปัจจุบัน
inbound 120คน รวม out bound 180 คนประมาณ 300 คน
ตอนนี้ยอดขายโตทุกไตรมาส
คุณพรพรรณเสริม ratingเฉลี่ยคิดทั้งวัน24hours
แต่เราคิดแค่18hours ,utilization rate 60-70%
คำถาม GP ของสินค้าใหม่ สินค้าครัวเรื่อน
ตอบ ปกติคิดเหมือน7-11 ประมาณ 50% (home and life stye product )
ส่วนอันอื่น 70%
ปีนี้มีการกันสำรองกำไรตามกฏหมาย5% และ งดจ่ายเงินปันผล
เพื่อนำเงินไปลงทุนเพิ่มเติมและเป็นเงินทุนหมุนเวียน
คำถามค่าตรวจสอบบัญชี บริษัทแม่เพิ่มขึ้น และ บริษัทลูกลดลง เพราะเหตุใด
ตอบ Move cool lism from บริษัทลูกมาที่RS ทำให้ค่าสอบบัญชีเพิ่มขึ้น
แต่ค่าสอบบัญชีบริษัทลูกลดลง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 12
AGM RS 4 Apr 18
รายได้เพิ่ม17%
ต้นทุนขาย และ ค่าบริการ
ต้นทุนรวมลดลง8%
กำไรคิดเป็น39%ของรายได้
รายได้อื่น : ได้ค่าmust carry เป็นรายได้อื่น จำนวน 40.9 ลบ
ค่าใช้จ่ายผันแปรตามการขายสินค้า สุขภาพและความงาม
ต้นทุนเพิ่ม9%มาจากดอกเบี้ยจ่ายการชำระค่าธรรมเนียม
ใบอนุญาติรายได้ดิจิตอลทีวี
ซึ่งได้รับการเยียวยาจากกสทชยืดจ่ายไปอีกสามปี
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 426% (ปีก่อนขาดทุน 102 ลบ)
บริษัท ไลฟ์สตาร์ มีรายได้ส่วนสุขภาพและความงามแบ่งออกเป็น
กลุ่มแรก magique ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
กลุ่มสอง revive ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม
กลุ่มสาม S.O.M. ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
รายได้รวม 1,389 ลบ
กลยุทธ์ในการหารายได้
1. มาจากการบริหารช่องการขาย ผ่านสื่อช่องของบริษัททุกช่องทาง
เราเอาข้อมูลจากช่องทีวีมาทำ co-outbound ทำให้เรามีรายได้โตทุกช่องทาง
ทำให้ได้ลูกค้าเพิ่ม30,000-40,000 รายต่อเดือน
2. เพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง SKU เพิ่มจาก 12 SKU to 30 SKU
รายได้จากสื่อ ต่างๆ รวมสื่อวิทยุ สื่อโทรทัศน์ สื่อดาวเทียม
รายได้จากratingดีขึ้น เช่นคุยข่าวช่อง8 ,gameเรียงเบอร์
หนัง ละครหลังข่าว ทำให้ติดrating TOP 5
คลื่นคูลฟาเรนไฮร์ ติดตลาดทั้งวิทยุและออนไลน์
3 . ธุรกิจเพลง
บริหารศิลปิน และ ให้เขาร่วมทุนด้วย เราสามารถควบคุมต้นทุนได้
มีกำไรจากธุรกิจเพลบ
4 ธุรกิจรับจ้าง ลดลง 79% เนื่องจากกิจกรรมลดลงตามสภาพเศรษฐกิจในปีที่แล้ว
สรุป รายได้ขายและบริการ 3,501.7 ลบ เพิ่มขึ้น 17%
กำไร 332.9 ลบ เพิ่มขึ้น 426
คำถาม สินค้า Revive เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ บางผู้ใช้บอกว่าใช้ไม่ได้ผล
เราได้สินค้านี้มาจากไหน สัดส่วนที่ลูกค้าซื้อซ้ำเป็นอย่างไร
อยากรู้ว่าโอกาสซื้อซ้ำเยอะไหม
ตอบ
สินค้าดูแลเส้นผม Top3ของเรา มียอดซื้อซ้ำ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ได้ผล
แต่การตอบรับแต่ละคนไม่เหมือนกัน เเต่เราเห็นอัตราการซื้อซ้ำต่อ
เนื่องและขายดีต้ังแต่ 3 ปี สัดส่วนของความงามประมาณ30%
คำถาม บางธุรกิจเป็นขาลงในช่วงสามปีที่ผ่านมา
ส่วนสุขภาพความงาม พึ่งก้าวกระโดดมาปีที่แล้ว
เป็นตัวหลักที่กำไรอย่างมากอนาคตปีต่อไป บริษัทจะอะไรต่อไป
คำตอบ
ภาพรวม businessแต่ละตัวไม่มีขาลง มีกำไร สะท้อนสภาพความเป็นจริง
ธุรกิจเพลงยอด5%แต่อยู่ได้ขึ้นการจัดการเป็นเจ้าเดียว
ธุรกิจวิทยุ เป็นขาลง แต่เราลงน้อยกว่าอุตสาหกรรม
เราทำการปรับปรุงโครงสร้าง องค์กร
รายได้ธุรกิจใหม่ จริงๆคนติดตามจะรู้ว่าเราทำตั้งแต่ปี58 จนเห็นผลในปี60
Business model unique
แม้แต่สื่อ เพลง ก็เชื่อมกับธุรกิจสุขภาพ และ ความงาม
ถือเป็นธุรกิจหลักในอนาคต margin สูง
จะเติบโตแบบก้าวกระโดดอีก 3 years
คำถาม ธุรกิจสุขภาพและความงามแตกต่างจากเจ้าอื่นอย่างไร
ตอบ เราไม่เหมือนคนอื่น วิธีการใช้สื่อ คือลงในsatalite,TV8
เราจ่ายค่าสื่อในราคาตลาด ไม่มีเงินสูญเสียไปทางไหน
คำถาม เครื่องใช้ในครัวเรื่อน เครื่องใช้ไฟฟ้า อัตราเติบโตอย่างไร
ตอบเป็นส่วนใหม่ที่เปิด feedbackดี ยิงโฆษณาไป2-3วันหายไป
เพราะไม่มีของขาย ขายดีมาก เป็นลูกค้ากลุ่มใหม่90%ที่ไม่ใช่กลุ่มความงาม
คำถาม แนวโน้มทีวีดิจิตอลโตไหม
เรื่องสีดาราม ชูโรง แต่ช่องอื่นก็เอาหนังอินเดียมาด้วย
ตอบ เราอยู่ธุรกิจทีวี ก็ต้องแข่งขันแรง ทุกคนก็เลียนแบบเรา
แต่สุดท้ายไม่ใช่ทุกคนจะประสบความสำเร็จ มีองค์ประกอบอื่นอีกเยอะ
เราทำบนความเข้าใจของเรา แต่เราไปห้ามการแข่งขันไม่ได้
ส่วนภาพรวมธุรกิจทีวีดิจิตอล ม44ไม่มีผลต่อการแข่งขัน เช่น คืนช่อง
คนอยู่ช่องหลัก5ช่อง ก็สู้กันแค่นี้ ประสบความสำเร็จพอสมควร
เราอย่ามองช่อง8เหมือนช่องอื่นที่เอารายได้จากการขายของ90%
เราเอาสื่อไปขายให้ธุรกิจของเรา เม็ดเงินเติบโตตามธุรกิจที่เราได้
คำถาม เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินจาก 4xx to 6xx ลบ
ตอบ กู้เพิ่มสองร้อยกว่าล้านไปจ่ายดิจิตอลทีวีอย่างเดียว
ต่อไปเราจะใช้เงินกู้ระยะยาวน้อยลง
กระแสเงินสดจากธุรกิจความงามจะช่วยลดการใช้เงินกู้ระยะยาว
ไม่มีแผนการกู้เพิ่มในปีหน้า
ถึงถ้าไม่มีการพักชำระหนี้ดิจิตอล เราก็ไม่กู้
คำถาม การบริหารความเสี่ยง ratingมาจากseries อินเดีย ซึ่งยาว
ถ้าดีก็ดี แต่ไม่ดี จะทำอย่างไร
ตอบ ต้นทุนไม่สูง ถ้าเรตติ้งไม่ดี เราก็ย้ายเวลา อยู่ในสายตาที่เราเฝ้ามอง
คำถาม ผมดูหลายช่องแต่ช่องอาร์เอสดูน่าสนใจ มีชีวิตชีวา
ช่องบางช่อง ทีมงานไม่เข้าท่า ทำให้หนังอินเดียไม่มีชีวิตชีวา
คำถาม ลูกค้าใช้ครีมกลุ่มไหน
บอลโลกเป็นอย่างไร
ตอบ บอลโลก ยังไม่มีความชัดเจน
ส่วนลูกค้าข้อแรก ย้อนกลับไปที่คุณสุรชัย เราได้เปรียบ เลยไปหาลูกค้าที่
ดูช่องของเรา ยังมีโอกาสโตอีกเยอะ ไม่จำเป็นต้องลงทุนหาลูกค้ากลุ่มอื่นอีกในช่วงนี้
คำถาม occupancy 2017 ค่าโฆษณาเท่าไหร่
ตอบ
เราใช้utilization rate 45% 22,000 บาทต่อนาที มาจากratingปี59
ปี60 ศกไม่ดีมีการdiscountเพื่อได้เงินสดมา จริงๆได้ถึง 26,000บาทต่อนาที
ปีนี้ตั้งเฉลี่ย 40,000 บาทต่อนาทีมาจากratingเพิ่มขึ้นเป็นหลัก
ถือเป็นเรตที่ถือว่าต่ำแล้ว เราจะมีการบริหารการขายระยะยาวของเอเจนซี่
หกเดือนถึงหนึ่งปีอย่างต่ำ50% ถ้าเรตติ้งดีขึ้นมีโอกาสปรับอีก
หนุมาณได้ถึง 200,000บาทต่อนาที. ข่าวเช้า 1.5แสนบาทต่อนาที
Utilization rate 60% ratingดีขึ้น 40%
CPRPเป็นเรตกลางของตลาด 2.5หมื่นบาทต่อหนึ่งrating point
ส่วนช่องดาวเทียมประมาณ 1-1.5หมืนบาทต่อนาที
เราลดความเสี่ยงจากช่องดิจิตอล ด้วยการเสริมธุรกิจความงาม
ส่วนธุรกิจดาวเทียมทั้งสี่ช่อง ซึ่งรายได้ลดลงอย่างมากจากโครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนไป ถูกลดความสำคัญจากผู้ใช้โฆษณา
สบายดีทีวี เรายังออกอากาศอยู่ ส่วนช่องอื่นพยายามบริหารให้เป็น Zero cost
เช่น เอารายการมาจากช่อง8 , ทำบาร์เธอร์กับที่อื่น
ปีที่แล้วสบายดีทีวีทำรายได้ 70-80ลบ ส่วนช่องอื่นรายได้ประมาณ50ลบ
เป็นชั้นขายของของhealth and beauty
ส่วนการเพิ่มseat of call centerมีสองส่วน
เชิงลึก in bound. ลูกค้าเห็นจากทีวีโทรมาที่ 1781
มีหน้าที่รับให้ครบปิดการขาย100%ตอนนี้ทำได้ตามkpiแล้ว
เราได้data base ปีที่แล้วได้สองแสนราย ตอนนี้เจ็ดแสนรายแล้ว
เรารู้พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า
เรานำมาใช้โทร out boundเพื่อเสนอสินค้าใหม่ๆ
เสนอสินค้าในสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ยิน ซึ่งเติบโตสูงมาในปีทีแล้ว
รายได้จากout bound 25%ของรายได้ทั้งหมด เราจึงเน้นเพิ่มพนักงาน
ในส่วนนี้จาก80คน เราค่อยๆเติมส่วนนี้เข้าไป
ทั้งหมดเราวางเป้า2,500ลบ จากปีที่แล้ว 1,400ลบ
การมีcall centerเป็นการยืนยันว่าเป้าจะได้ตามที่ตั้งปัจจุบัน
inbound 120คน รวม out bound 180 คนประมาณ 300 คน
ตอนนี้ยอดขายโตทุกไตรมาส
คุณพรพรรณเสริม ratingเฉลี่ยคิดทั้งวัน24hours
แต่เราคิดแค่18hours ,utilization rate 60-70%
คำถาม GP ของสินค้าใหม่ สินค้าครัวเรื่อน
ตอบ ปกติคิดเหมือน7-11 ประมาณ 50% (home and life stye product )
ส่วนอันอื่น 70%
ปีนี้มีการกันสำรองกำไรตามกฏหมาย5% และ งดจ่ายเงินปันผล
เพื่อนำเงินไปลงทุนเพิ่มเติมและเป็นเงินทุนหมุนเวียน
คำถามค่าตรวจสอบบัญชี บริษัทแม่เพิ่มขึ้น และ บริษัทลูกลดลง เพราะเหตุใด
ตอบ Move cool lism from บริษัทลูกมาที่RS ทำให้ค่าสอบบัญชีเพิ่มขึ้น
แต่ค่าสอบบัญชีบริษัทลูกลดลง
รายได้เพิ่ม17%
ต้นทุนขาย และ ค่าบริการ
ต้นทุนรวมลดลง8%
กำไรคิดเป็น39%ของรายได้
รายได้อื่น : ได้ค่าmust carry เป็นรายได้อื่น จำนวน 40.9 ลบ
ค่าใช้จ่ายผันแปรตามการขายสินค้า สุขภาพและความงาม
ต้นทุนเพิ่ม9%มาจากดอกเบี้ยจ่ายการชำระค่าธรรมเนียม
ใบอนุญาติรายได้ดิจิตอลทีวี
ซึ่งได้รับการเยียวยาจากกสทชยืดจ่ายไปอีกสามปี
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 426% (ปีก่อนขาดทุน 102 ลบ)
บริษัท ไลฟ์สตาร์ มีรายได้ส่วนสุขภาพและความงามแบ่งออกเป็น
กลุ่มแรก magique ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว
กลุ่มสอง revive ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม
กลุ่มสาม S.O.M. ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
รายได้รวม 1,389 ลบ
กลยุทธ์ในการหารายได้
1. มาจากการบริหารช่องการขาย ผ่านสื่อช่องของบริษัททุกช่องทาง
เราเอาข้อมูลจากช่องทีวีมาทำ co-outbound ทำให้เรามีรายได้โตทุกช่องทาง
ทำให้ได้ลูกค้าเพิ่ม30,000-40,000 รายต่อเดือน
2. เพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง SKU เพิ่มจาก 12 SKU to 30 SKU
รายได้จากสื่อ ต่างๆ รวมสื่อวิทยุ สื่อโทรทัศน์ สื่อดาวเทียม
รายได้จากratingดีขึ้น เช่นคุยข่าวช่อง8 ,gameเรียงเบอร์
หนัง ละครหลังข่าว ทำให้ติดrating TOP 5
คลื่นคูลฟาเรนไฮร์ ติดตลาดทั้งวิทยุและออนไลน์
3 . ธุรกิจเพลง
บริหารศิลปิน และ ให้เขาร่วมทุนด้วย เราสามารถควบคุมต้นทุนได้
มีกำไรจากธุรกิจเพลบ
4 ธุรกิจรับจ้าง ลดลง 79% เนื่องจากกิจกรรมลดลงตามสภาพเศรษฐกิจในปีที่แล้ว
สรุป รายได้ขายและบริการ 3,501.7 ลบ เพิ่มขึ้น 17%
กำไร 332.9 ลบ เพิ่มขึ้น 426
คำถาม สินค้า Revive เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ บางผู้ใช้บอกว่าใช้ไม่ได้ผล
เราได้สินค้านี้มาจากไหน สัดส่วนที่ลูกค้าซื้อซ้ำเป็นอย่างไร
อยากรู้ว่าโอกาสซื้อซ้ำเยอะไหม
ตอบ
สินค้าดูแลเส้นผม Top3ของเรา มียอดซื้อซ้ำ ผู้ใช้ส่วนใหญ่ได้ผล
แต่การตอบรับแต่ละคนไม่เหมือนกัน เเต่เราเห็นอัตราการซื้อซ้ำต่อ
เนื่องและขายดีต้ังแต่ 3 ปี สัดส่วนของความงามประมาณ30%
คำถาม บางธุรกิจเป็นขาลงในช่วงสามปีที่ผ่านมา
ส่วนสุขภาพความงาม พึ่งก้าวกระโดดมาปีที่แล้ว
เป็นตัวหลักที่กำไรอย่างมากอนาคตปีต่อไป บริษัทจะอะไรต่อไป
คำตอบ
ภาพรวม businessแต่ละตัวไม่มีขาลง มีกำไร สะท้อนสภาพความเป็นจริง
ธุรกิจเพลงยอด5%แต่อยู่ได้ขึ้นการจัดการเป็นเจ้าเดียว
ธุรกิจวิทยุ เป็นขาลง แต่เราลงน้อยกว่าอุตสาหกรรม
เราทำการปรับปรุงโครงสร้าง องค์กร
รายได้ธุรกิจใหม่ จริงๆคนติดตามจะรู้ว่าเราทำตั้งแต่ปี58 จนเห็นผลในปี60
Business model unique
แม้แต่สื่อ เพลง ก็เชื่อมกับธุรกิจสุขภาพ และ ความงาม
ถือเป็นธุรกิจหลักในอนาคต margin สูง
จะเติบโตแบบก้าวกระโดดอีก 3 years
คำถาม ธุรกิจสุขภาพและความงามแตกต่างจากเจ้าอื่นอย่างไร
ตอบ เราไม่เหมือนคนอื่น วิธีการใช้สื่อ คือลงในsatalite,TV8
เราจ่ายค่าสื่อในราคาตลาด ไม่มีเงินสูญเสียไปทางไหน
คำถาม เครื่องใช้ในครัวเรื่อน เครื่องใช้ไฟฟ้า อัตราเติบโตอย่างไร
ตอบเป็นส่วนใหม่ที่เปิด feedbackดี ยิงโฆษณาไป2-3วันหายไป
เพราะไม่มีของขาย ขายดีมาก เป็นลูกค้ากลุ่มใหม่90%ที่ไม่ใช่กลุ่มความงาม
คำถาม แนวโน้มทีวีดิจิตอลโตไหม
เรื่องสีดาราม ชูโรง แต่ช่องอื่นก็เอาหนังอินเดียมาด้วย
ตอบ เราอยู่ธุรกิจทีวี ก็ต้องแข่งขันแรง ทุกคนก็เลียนแบบเรา
แต่สุดท้ายไม่ใช่ทุกคนจะประสบความสำเร็จ มีองค์ประกอบอื่นอีกเยอะ
เราทำบนความเข้าใจของเรา แต่เราไปห้ามการแข่งขันไม่ได้
ส่วนภาพรวมธุรกิจทีวีดิจิตอล ม44ไม่มีผลต่อการแข่งขัน เช่น คืนช่อง
คนอยู่ช่องหลัก5ช่อง ก็สู้กันแค่นี้ ประสบความสำเร็จพอสมควร
เราอย่ามองช่อง8เหมือนช่องอื่นที่เอารายได้จากการขายของ90%
เราเอาสื่อไปขายให้ธุรกิจของเรา เม็ดเงินเติบโตตามธุรกิจที่เราได้
คำถาม เงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงินจาก 4xx to 6xx ลบ
ตอบ กู้เพิ่มสองร้อยกว่าล้านไปจ่ายดิจิตอลทีวีอย่างเดียว
ต่อไปเราจะใช้เงินกู้ระยะยาวน้อยลง
กระแสเงินสดจากธุรกิจความงามจะช่วยลดการใช้เงินกู้ระยะยาว
ไม่มีแผนการกู้เพิ่มในปีหน้า
ถึงถ้าไม่มีการพักชำระหนี้ดิจิตอล เราก็ไม่กู้
คำถาม การบริหารความเสี่ยง ratingมาจากseries อินเดีย ซึ่งยาว
ถ้าดีก็ดี แต่ไม่ดี จะทำอย่างไร
ตอบ ต้นทุนไม่สูง ถ้าเรตติ้งไม่ดี เราก็ย้ายเวลา อยู่ในสายตาที่เราเฝ้ามอง
คำถาม ผมดูหลายช่องแต่ช่องอาร์เอสดูน่าสนใจ มีชีวิตชีวา
ช่องบางช่อง ทีมงานไม่เข้าท่า ทำให้หนังอินเดียไม่มีชีวิตชีวา
คำถาม ลูกค้าใช้ครีมกลุ่มไหน
บอลโลกเป็นอย่างไร
ตอบ บอลโลก ยังไม่มีความชัดเจน
ส่วนลูกค้าข้อแรก ย้อนกลับไปที่คุณสุรชัย เราได้เปรียบ เลยไปหาลูกค้าที่
ดูช่องของเรา ยังมีโอกาสโตอีกเยอะ ไม่จำเป็นต้องลงทุนหาลูกค้ากลุ่มอื่นอีกในช่วงนี้
คำถาม occupancy 2017 ค่าโฆษณาเท่าไหร่
ตอบ
เราใช้utilization rate 45% 22,000 บาทต่อนาที มาจากratingปี59
ปี60 ศกไม่ดีมีการdiscountเพื่อได้เงินสดมา จริงๆได้ถึง 26,000บาทต่อนาที
ปีนี้ตั้งเฉลี่ย 40,000 บาทต่อนาทีมาจากratingเพิ่มขึ้นเป็นหลัก
ถือเป็นเรตที่ถือว่าต่ำแล้ว เราจะมีการบริหารการขายระยะยาวของเอเจนซี่
หกเดือนถึงหนึ่งปีอย่างต่ำ50% ถ้าเรตติ้งดีขึ้นมีโอกาสปรับอีก
หนุมาณได้ถึง 200,000บาทต่อนาที. ข่าวเช้า 1.5แสนบาทต่อนาที
Utilization rate 60% ratingดีขึ้น 40%
CPRPเป็นเรตกลางของตลาด 2.5หมื่นบาทต่อหนึ่งrating point
ส่วนช่องดาวเทียมประมาณ 1-1.5หมืนบาทต่อนาที
เราลดความเสี่ยงจากช่องดิจิตอล ด้วยการเสริมธุรกิจความงาม
ส่วนธุรกิจดาวเทียมทั้งสี่ช่อง ซึ่งรายได้ลดลงอย่างมากจากโครงสร้างธุรกิจเปลี่ยนไป ถูกลดความสำคัญจากผู้ใช้โฆษณา
สบายดีทีวี เรายังออกอากาศอยู่ ส่วนช่องอื่นพยายามบริหารให้เป็น Zero cost
เช่น เอารายการมาจากช่อง8 , ทำบาร์เธอร์กับที่อื่น
ปีที่แล้วสบายดีทีวีทำรายได้ 70-80ลบ ส่วนช่องอื่นรายได้ประมาณ50ลบ
เป็นชั้นขายของของhealth and beauty
ส่วนการเพิ่มseat of call centerมีสองส่วน
เชิงลึก in bound. ลูกค้าเห็นจากทีวีโทรมาที่ 1781
มีหน้าที่รับให้ครบปิดการขาย100%ตอนนี้ทำได้ตามkpiแล้ว
เราได้data base ปีที่แล้วได้สองแสนราย ตอนนี้เจ็ดแสนรายแล้ว
เรารู้พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า
เรานำมาใช้โทร out boundเพื่อเสนอสินค้าใหม่ๆ
เสนอสินค้าในสิ่งที่ลูกค้าอยากได้ยิน ซึ่งเติบโตสูงมาในปีทีแล้ว
รายได้จากout bound 25%ของรายได้ทั้งหมด เราจึงเน้นเพิ่มพนักงาน
ในส่วนนี้จาก80คน เราค่อยๆเติมส่วนนี้เข้าไป
ทั้งหมดเราวางเป้า2,500ลบ จากปีที่แล้ว 1,400ลบ
การมีcall centerเป็นการยืนยันว่าเป้าจะได้ตามที่ตั้งปัจจุบัน
inbound 120คน รวม out bound 180 คนประมาณ 300 คน
ตอนนี้ยอดขายโตทุกไตรมาส
คุณพรพรรณเสริม ratingเฉลี่ยคิดทั้งวัน24hours
แต่เราคิดแค่18hours ,utilization rate 60-70%
คำถาม GP ของสินค้าใหม่ สินค้าครัวเรื่อน
ตอบ ปกติคิดเหมือน7-11 ประมาณ 50% (home and life stye product )
ส่วนอันอื่น 70%
ปีนี้มีการกันสำรองกำไรตามกฏหมาย5% และ งดจ่ายเงินปันผล
เพื่อนำเงินไปลงทุนเพิ่มเติมและเป็นเงินทุนหมุนเวียน
คำถามค่าตรวจสอบบัญชี บริษัทแม่เพิ่มขึ้น และ บริษัทลูกลดลง เพราะเหตุใด
ตอบ Move cool lism from บริษัทลูกมาที่RS ทำให้ค่าสอบบัญชีเพิ่มขึ้น
แต่ค่าสอบบัญชีบริษัทลูกลดลง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 13
AGM IRPC 4 APR 18 14.00
Cr:อินโฟเควช
สุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) กล่าวว่า บริษัทวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อการเติบโตในอนาคต โดยวางเป้าหมายจะทำดีลซื้อกิจการและร่วมลงทุน (M&A) ในโรงงานปิโตรเคมีเพื่อต่อยอดธุรกิจ ซึ่งเน้นในภูมิภาคอาเซียน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 600-800 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้ได้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย และภาษี (EBIT) ราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการทำ M&A ภายในปี 63 ซึ่งคาดว่าจะสรุปดีล M&A ในประเทศได้อย่างน้อย 1 ดีลภายในปีนี้
ทั้งนี้ การทำดีล M&A อยู่ภายใต้โปรแกรม GALAXY ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืนตามแผน Power Three ที่ประกอบด้วย Power of Growth ,Power of Digital และ Power of People
Power of Growth ซึ่งนอกเหนือจากโปรแกรม GALAXY แล้วยังประกอบด้วย MARS ซึ่งจะเป็นการลงทุน 1-1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสร้างโรงงานอะโรเมติกส์ ขนาด 1.3 ล้านตัน/ปี แบ่งเป็น พาราไซลีน 1 ล้านตัน/ปี และเบนซีน 3 แสนตัน/ปี คาดว่าจะเริ่มผลิตในไตรมาส 4/65 จะสร้างอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนราว 13-15% ,Everest forever ซึ่งเป็นโครงการที่จะดำเนินการต่อจากโครงการ EVEREST เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในทุกด้านที่แล้วเสร็จในปีที่ผ่านมา โดยจะรักษาความยั่งยืนของ EVEREST ให้มีความต่อเนื่องเพื่อสร้าง EBIT ให้ได้ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 63
Power of Digital ภายใต้โปรแกรม โครงการ IRPC 4.0 ลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อนำมาพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัท คาดว่าจะสร้าง EBIT ราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 63 และ Power of People ซึ่งเป็นการสร้างบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
นายสุกฤตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นตามแผนกลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยสร้าง EBIT ได้รวม 300 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 63 ซึ่งจะสนับสนุนให้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ,ภาษี ,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ได้ตามเป้า 2.9 หมื่นล้านบาทในปี 63 จาก 2 หมื่นล้านบาทในปี 60
นายสุกฤตย์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้เชื่อว่าจะเป็นปีที่ดีที่สุดของบริษัท หลังจากที่จะรับรู้ผลการดำเนินได้เต็มปีจากโครงการที่แล้วเสร็จในปีที่แล้วทั้งโครงการ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (UHV) ของโรงกลั่นและการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) อีก 3 แสนตัน/ปี และโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีน เพาเวอร์ ขนาด 240 เมกะวัตต์แล้วเสร็จ ประกอบกับในปีนี้ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานเหมือนในปีก่อน โดยเฉพาะในส่วนของโรงกลั่นน้ำมัน คาดว่าจะเดินเครื่องกลั่นน้ำมันได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่กว่า 2.1 แสนบาร์เรล/วัน จาก 1.8 แสนบาร์เรล/วันในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการจัดหาแหล่งเงินกู้เพิ่มเติมเพื่อใช้รีไฟแนนซ์หนี้ที่จะครบกำหนดราว 1 หมื่นล้านบาทในปีนี้ด้วย หลังจากในวันนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอยุมัติแผนจัดหาเงินกู้ 5 ปี ( ปี 61-65) ในวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทวางแผนจะใช้รองรับการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด
ส่วนแนวโน้มกำไรปกติของบริษัทในไตรมาส 1/61 คาดว่าจะดีกว่าระดับ 2 พันล้านบาทในไตรมาส 4/60 หลังกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) ซึ่งไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันจะสูงกว่าระดับ 14.30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาสก่อน จากมาร์จิ้นโรงกลั่นที่ดีต่อเนื่องตามความต้องการใช้น้ำมันที่สูงขึ้น
Cr:อินโฟเควช
สุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) กล่าวว่า บริษัทวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อการเติบโตในอนาคต โดยวางเป้าหมายจะทำดีลซื้อกิจการและร่วมลงทุน (M&A) ในโรงงานปิโตรเคมีเพื่อต่อยอดธุรกิจ ซึ่งเน้นในภูมิภาคอาเซียน คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 600-800 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้ได้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย และภาษี (EBIT) ราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการทำ M&A ภายในปี 63 ซึ่งคาดว่าจะสรุปดีล M&A ในประเทศได้อย่างน้อย 1 ดีลภายในปีนี้
ทั้งนี้ การทำดีล M&A อยู่ภายใต้โปรแกรม GALAXY ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ก้าวต่อไปอย่างยั่งยืนตามแผน Power Three ที่ประกอบด้วย Power of Growth ,Power of Digital และ Power of People
Power of Growth ซึ่งนอกเหนือจากโปรแกรม GALAXY แล้วยังประกอบด้วย MARS ซึ่งจะเป็นการลงทุน 1-1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อสร้างโรงงานอะโรเมติกส์ ขนาด 1.3 ล้านตัน/ปี แบ่งเป็น พาราไซลีน 1 ล้านตัน/ปี และเบนซีน 3 แสนตัน/ปี คาดว่าจะเริ่มผลิตในไตรมาส 4/65 จะสร้างอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนราว 13-15% ,Everest forever ซึ่งเป็นโครงการที่จะดำเนินการต่อจากโครงการ EVEREST เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในทุกด้านที่แล้วเสร็จในปีที่ผ่านมา โดยจะรักษาความยั่งยืนของ EVEREST ให้มีความต่อเนื่องเพื่อสร้าง EBIT ให้ได้ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 63
Power of Digital ภายใต้โปรแกรม โครงการ IRPC 4.0 ลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อนำมาพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานของบริษัท คาดว่าจะสร้าง EBIT ราว 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 63 และ Power of People ซึ่งเป็นการสร้างบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต
นายสุกฤตย์ กล่าวว่า เบื้องต้นตามแผนกลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยสร้าง EBIT ได้รวม 300 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 63 ซึ่งจะสนับสนุนให้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ,ภาษี ,ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ได้ตามเป้า 2.9 หมื่นล้านบาทในปี 63 จาก 2 หมื่นล้านบาทในปี 60
นายสุกฤตย์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในปีนี้เชื่อว่าจะเป็นปีที่ดีที่สุดของบริษัท หลังจากที่จะรับรู้ผลการดำเนินได้เต็มปีจากโครงการที่แล้วเสร็จในปีที่แล้วทั้งโครงการ เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (UHV) ของโรงกลั่นและการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) อีก 3 แสนตัน/ปี และโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีน เพาเวอร์ ขนาด 240 เมกะวัตต์แล้วเสร็จ ประกอบกับในปีนี้ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานเหมือนในปีก่อน โดยเฉพาะในส่วนของโรงกลั่นน้ำมัน คาดว่าจะเดินเครื่องกลั่นน้ำมันได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่กว่า 2.1 แสนบาร์เรล/วัน จาก 1.8 แสนบาร์เรล/วันในปีที่แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการจัดหาแหล่งเงินกู้เพิ่มเติมเพื่อใช้รีไฟแนนซ์หนี้ที่จะครบกำหนดราว 1 หมื่นล้านบาทในปีนี้ด้วย หลังจากในวันนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอยุมัติแผนจัดหาเงินกู้ 5 ปี ( ปี 61-65) ในวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่บริษัทวางแผนจะใช้รองรับการชำระคืนหนี้ที่ครบกำหนด
ส่วนแนวโน้มกำไรปกติของบริษัทในไตรมาส 1/61 คาดว่าจะดีกว่าระดับ 2 พันล้านบาทในไตรมาส 4/60 หลังกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) ซึ่งไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันจะสูงกว่าระดับ 14.30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาสก่อน จากมาร์จิ้นโรงกลั่นที่ดีต่อเนื่องตามความต้องการใช้น้ำมันที่สูงขึ้น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 14
AGM TU 5 Apr 18 14.00
ผู้บริหาร คุณช้าง มาupdateสถานการณ์ของบริษัทในวาระที่สอง
สภาวะไม่เอื้ออำนวย แต่ยอดขายของบริษัทสูง 136,500 ลบ
คิดเป็นค่าเงินสหรัฐสูงเป็น 4.3 พันล้านเหรียญ
เพิ่มขึ้น 3.9%ของรูปเงินสหรัฐ มีการปรับราคาสินค้าเพื่อสะท้อนราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นอย่างมาก
กำไร 6,000 ลบ เพิ่ม 14.6% แม้ว่าวัตถุดิบราคาสูงขึ้น
มีการจัดการอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีที่ดี รวมถึงวัตถุดิบ
กระแสเงินสดเป็นบวก มีกำไรก่อนหัก (EBITDA)แข็งแกร่งหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย 6,400 ล้านบาท
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบได้แก่
1.ราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น 31%ส่งผลต่อกำไรในแบรนด์ยุโรป เช่นฝรั่งเศส เป็นต้น
จากการที่มีปลาทูน่าเป็นวัสดุหลักในการทำอาหาร ทำให้กำไรลดลงเหลือ 15% จาก 17%
2. ราคาปลาแซลมอนเพิ่มขึ้น
3. กุ้ง ผลผลิตในไทยทรงตัว ประมาณสามแสนตัน ซึ่งถือว่าไม่มาก สาเหตุเพราะฝนตกชุก
ราคากุ้งขาวเพิ่มขึ้น 3%เป็น 113บาทต่อกก
อย่างไรก็ตามก็พยายามเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
4. การลงทุนในเรดลอบเตอร์ซึ่งเป็นการลงทุนในบริษัทที่พัฒนาเรดลอบเตอร์
รายได้ 760ลบในรูปเงินปันผลและดอกเบี้ยจากหุ้นกู้ที่ถือ
5. เงินรายได้ที่เป็นรายได้สกุลต่างประเทศ
ค่าเงินบาทแข็งค่าเทียบกับ$ ด้วยการจัดการอัตราแลกเปลี่ยนที่ดี
ทำให้มีกำไรจากการป้องกันอัตราแลกเปลี่ยน
6. ควบคุมค่าใช้จ่ายและการบริหาร
ทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายเหลือ 9.8% จากเป้า 10% มีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่เป็นครั้งเดียว
7. ระดับหนี้ยังอยู่ในระดับสูง D/E = 1.37 เท่าจากสินค้าคงคลังปรับเพิ่มขึ้นในปลายปี
แต่ยังต่ำกว่าอัตราที่เจ้าหนี้มีการกำหนดการกู้ยืมไว้ไม่เกิน 2.0 เท่า
วาระที่สองไม่มีการลงมติ
คำถามจากผู้ถือหุ้น
1.ราคาปลาทูน่าเคยขึ้น 2,000$ มีแนวทางในการบริหารต้นทุนอย่างไร
ที่ทำให้บริษัทรักษากำไรได้ในรูปของ IRR, NP
2. ราคากุ้งราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ3
อยากทราบปัญหาเรื่องอีเอ็มเอส ผ่านไปได้ มีความมั่นใจว่าปริมาณที่ผลิตเพียงพอกับการบริโภคในประเทศหรือไม่
3 การลงทุนในเรดลอบเตอร์กำไร 7xxลบ คุ้มค่าการลงทุนหรือไม่
4 Antitrust lawในสหรัฐ ขอความคืบหน้าว่าแก้ไขอย่างไร
ตอบ
1. ราคาเฉลี่ยของปลาทูน่าประมาณ 1560$ในปี 59 เคยขึ้นไปที่ 2300$ ในปีที่แล้ว
เป็นการปรับราคาของปลาทูน่าขาเดียวที่ค่อนข้างยาว
ทำให้เราปรับราคาขายไม่ทัน ปกติราคาจะผันผวนในระยะสั้น ทำให้เราปรับราคาได้ทัน
ปีที่แล้วประสบความลำบากในการดำเนินธุรกิจ แต่เราก็ยังมีกำไร
นี่คือสภาพการดำเนินธุรกิจของอาหารทะเล
2. ธุรกิจกุ้ง ไทยเคยเป็นผู้ผลิตกู้งอันดับหนึ่งเมื่อก่อน ตอนนี้เป็นอันดับที่ 4-5 ของโลก
จากการที่มีวัตถุดิบน้อยลง เราต้องเน้นผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่มแทน
3. สำหรับธุรกิจเรดลอบเตอร์ เราลงทุนเชิงกลยุทธ์ Food service จะเห็นว่าลงทุนค่อนข้างรัดกุมแค่ 25%
อีก 25%เป็นหุ้นกู้แปลงสภาพได้ดอกเบี้ย 8% เราสามารถศึกษาจนมั่นใจและค่อยลงทุน
เพิ่มในอนาคต แต่ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่ลงทุนเพิ่ม
4.Antitrust law ในส่วนของบริษัทไม่ได้ผลกระทบ
แต่มีการฟ้องร้องจากผู้ประกอบการทั่วไปใช้เวลาอีก 1-3 ปีข้างหน้าจึงคลี่คลาย
ค่าใช้จ่ายหลักที่เสียคือค่าทนาย 5ล้านเหรียญที่เสียต่อปีอยู่แล้ว เราให้ร่วมมือกับทางการ
เรายังดำเนินการในbrand chicken of the sea ต่อไป
คำถาม อัตราแลกเปลี่ยนส่งผลกระทบอย่างไร
ตอบ จริงๆ อัตราแลกเปลี่ยนที่มีผลกระทบไม่มาก
แต่มาจากเหตุการณ์Brexit ทำให้ค่าเงินปอนด์ และ เงินยูโรอ่อนค่า
ทำให้บริษัทของเราในยุโรปที่นำเข้าสินค้าเป็นเงินสหรัฐโดนกระทบ
คุณช้างupdateเพิ่มเติมเรื่องแรงงานว่า
ทางยุโรปมีการส่งคนมาตรวจแรงงานในไทย สถานการณ์น่าจะคลี่คลาย
บริษัทของเราดำเนินงานกับแรงงานอย่างถูกต้อง คณะรัฐมนตรีไทย
มั่นใจและยังมาประชุมที่บริษัทเรา
คำถาม สถานการณ์แรงงานเป็นอย่างไร แรงงานขาดแคลนจะแก้อย่างไร
ตอบ ไทยสนับสนุนThailand 4.0 อุตสาหกรรมจะใช้เครื่องจักรมากขึ้น
กลุ่มบริษัทของเราพยายามจะลดการใช้แรงงานมากขึ้น โดยใช้เครื่องจักรมาทดแทน
วาระที่3
อนุมัติงบการเงินประจำปี ผ่านมติในที่ประชุม
วาระที่4 อนุมัติปันผลรวม 0.66 บาท จ่ายไปแล้ว 0.32 บาท เหลือจ่ายคราวนี้ 0.34 บาท
เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่แล้ว คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล 52.31% ของกำไรสุทธิ
คำถาม อัตราหนี้สินต่อทุน 1.38 เท่ายังไม่น่ากังวลใจ ท่านพยายามรักษาไม่ให้สูงกว่าปัจจุบัน
แต่ที่กังวลใจในเรื่องความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
ยกตัวอย่างบริษัทอื่นในตลาดหลักทรัพย์ที่หารายได้เพิ่มขึ้นเช่น CP ALL
มีการขายอาหารสำเร็จรูป เราน่าจะมีทำและขายเข้าไปในร้านค้า
เพราะราคาหุ้นไม่ไปไหนมาหลายปีทั้งที่SET INDEXไปnew highแล้ว
ตอบ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำสำหรับD/E
เราพยายามเน้นการบริหารเงินสดและสามารถจ่ายเงินปันผลได้ดี
เราพยายามผลักดันสำหรับสินค้ามูลค่าเพิ่มเข้าตลาด
เรื่องปัญหาการใช้แรงงานจากยุโรป และ อัตราแลกเปลี่ยนของยูโรและปอนด์ที่อ่อนค่าลง
มีส่วนทำให้ราคาหุ้นไม่ไปไหน แต่เราพยายามสื่อสารให้กับนักลงทุน
ส่วนผลการเนินการของเรดลอบเตอร์ เราได้ติดตามอยู่เช่น ปรับปรุงครัว เมนู และ ภาพลักษณ์
เราเข้าร่วมเป็นกรรมการ เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน
อัปเดทเพิ่มในเรื่องโครงการแนวร่วมของภาคเอกชนในการต่อต้านทุจริต ครั้ง 4/60 ได้มีการมติรับTUเข้าไปแล้ว
ใบรับรองมีอายุสามปีนับจากการรับรอง
มีคำถามเรื่องการไปเยี่ยมชมกิจการ มีการจำกัดอายุไม่เกิน 65 ปี สุดท้ายก็มีการอนุญาติให้ผู้ถือหุ้นที่อายุเกินไปได้
ปิดการประชุม 15.10 น
ผู้บริหาร คุณช้าง มาupdateสถานการณ์ของบริษัทในวาระที่สอง
สภาวะไม่เอื้ออำนวย แต่ยอดขายของบริษัทสูง 136,500 ลบ
คิดเป็นค่าเงินสหรัฐสูงเป็น 4.3 พันล้านเหรียญ
เพิ่มขึ้น 3.9%ของรูปเงินสหรัฐ มีการปรับราคาสินค้าเพื่อสะท้อนราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นอย่างมาก
กำไร 6,000 ลบ เพิ่ม 14.6% แม้ว่าวัตถุดิบราคาสูงขึ้น
มีการจัดการอัตราแลกเปลี่ยนและภาษีที่ดี รวมถึงวัตถุดิบ
กระแสเงินสดเป็นบวก มีกำไรก่อนหัก (EBITDA)แข็งแกร่งหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย 6,400 ล้านบาท
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบได้แก่
1.ราคาวัตถุดิบเพิ่มขึ้น 31%ส่งผลต่อกำไรในแบรนด์ยุโรป เช่นฝรั่งเศส เป็นต้น
จากการที่มีปลาทูน่าเป็นวัสดุหลักในการทำอาหาร ทำให้กำไรลดลงเหลือ 15% จาก 17%
2. ราคาปลาแซลมอนเพิ่มขึ้น
3. กุ้ง ผลผลิตในไทยทรงตัว ประมาณสามแสนตัน ซึ่งถือว่าไม่มาก สาเหตุเพราะฝนตกชุก
ราคากุ้งขาวเพิ่มขึ้น 3%เป็น 113บาทต่อกก
อย่างไรก็ตามก็พยายามเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
4. การลงทุนในเรดลอบเตอร์ซึ่งเป็นการลงทุนในบริษัทที่พัฒนาเรดลอบเตอร์
รายได้ 760ลบในรูปเงินปันผลและดอกเบี้ยจากหุ้นกู้ที่ถือ
5. เงินรายได้ที่เป็นรายได้สกุลต่างประเทศ
ค่าเงินบาทแข็งค่าเทียบกับ$ ด้วยการจัดการอัตราแลกเปลี่ยนที่ดี
ทำให้มีกำไรจากการป้องกันอัตราแลกเปลี่ยน
6. ควบคุมค่าใช้จ่ายและการบริหาร
ทำให้สัดส่วนค่าใช้จ่ายเหลือ 9.8% จากเป้า 10% มีค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่เป็นครั้งเดียว
7. ระดับหนี้ยังอยู่ในระดับสูง D/E = 1.37 เท่าจากสินค้าคงคลังปรับเพิ่มขึ้นในปลายปี
แต่ยังต่ำกว่าอัตราที่เจ้าหนี้มีการกำหนดการกู้ยืมไว้ไม่เกิน 2.0 เท่า
วาระที่สองไม่มีการลงมติ
คำถามจากผู้ถือหุ้น
1.ราคาปลาทูน่าเคยขึ้น 2,000$ มีแนวทางในการบริหารต้นทุนอย่างไร
ที่ทำให้บริษัทรักษากำไรได้ในรูปของ IRR, NP
2. ราคากุ้งราคาเพิ่มขึ้นร้อยละ3
อยากทราบปัญหาเรื่องอีเอ็มเอส ผ่านไปได้ มีความมั่นใจว่าปริมาณที่ผลิตเพียงพอกับการบริโภคในประเทศหรือไม่
3 การลงทุนในเรดลอบเตอร์กำไร 7xxลบ คุ้มค่าการลงทุนหรือไม่
4 Antitrust lawในสหรัฐ ขอความคืบหน้าว่าแก้ไขอย่างไร
ตอบ
1. ราคาเฉลี่ยของปลาทูน่าประมาณ 1560$ในปี 59 เคยขึ้นไปที่ 2300$ ในปีที่แล้ว
เป็นการปรับราคาของปลาทูน่าขาเดียวที่ค่อนข้างยาว
ทำให้เราปรับราคาขายไม่ทัน ปกติราคาจะผันผวนในระยะสั้น ทำให้เราปรับราคาได้ทัน
ปีที่แล้วประสบความลำบากในการดำเนินธุรกิจ แต่เราก็ยังมีกำไร
นี่คือสภาพการดำเนินธุรกิจของอาหารทะเล
2. ธุรกิจกุ้ง ไทยเคยเป็นผู้ผลิตกู้งอันดับหนึ่งเมื่อก่อน ตอนนี้เป็นอันดับที่ 4-5 ของโลก
จากการที่มีวัตถุดิบน้อยลง เราต้องเน้นผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่มแทน
3. สำหรับธุรกิจเรดลอบเตอร์ เราลงทุนเชิงกลยุทธ์ Food service จะเห็นว่าลงทุนค่อนข้างรัดกุมแค่ 25%
อีก 25%เป็นหุ้นกู้แปลงสภาพได้ดอกเบี้ย 8% เราสามารถศึกษาจนมั่นใจและค่อยลงทุน
เพิ่มในอนาคต แต่ถ้าไม่มั่นใจก็ไม่ลงทุนเพิ่ม
4.Antitrust law ในส่วนของบริษัทไม่ได้ผลกระทบ
แต่มีการฟ้องร้องจากผู้ประกอบการทั่วไปใช้เวลาอีก 1-3 ปีข้างหน้าจึงคลี่คลาย
ค่าใช้จ่ายหลักที่เสียคือค่าทนาย 5ล้านเหรียญที่เสียต่อปีอยู่แล้ว เราให้ร่วมมือกับทางการ
เรายังดำเนินการในbrand chicken of the sea ต่อไป
คำถาม อัตราแลกเปลี่ยนส่งผลกระทบอย่างไร
ตอบ จริงๆ อัตราแลกเปลี่ยนที่มีผลกระทบไม่มาก
แต่มาจากเหตุการณ์Brexit ทำให้ค่าเงินปอนด์ และ เงินยูโรอ่อนค่า
ทำให้บริษัทของเราในยุโรปที่นำเข้าสินค้าเป็นเงินสหรัฐโดนกระทบ
คุณช้างupdateเพิ่มเติมเรื่องแรงงานว่า
ทางยุโรปมีการส่งคนมาตรวจแรงงานในไทย สถานการณ์น่าจะคลี่คลาย
บริษัทของเราดำเนินงานกับแรงงานอย่างถูกต้อง คณะรัฐมนตรีไทย
มั่นใจและยังมาประชุมที่บริษัทเรา
คำถาม สถานการณ์แรงงานเป็นอย่างไร แรงงานขาดแคลนจะแก้อย่างไร
ตอบ ไทยสนับสนุนThailand 4.0 อุตสาหกรรมจะใช้เครื่องจักรมากขึ้น
กลุ่มบริษัทของเราพยายามจะลดการใช้แรงงานมากขึ้น โดยใช้เครื่องจักรมาทดแทน
วาระที่3
อนุมัติงบการเงินประจำปี ผ่านมติในที่ประชุม
วาระที่4 อนุมัติปันผลรวม 0.66 บาท จ่ายไปแล้ว 0.32 บาท เหลือจ่ายคราวนี้ 0.34 บาท
เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่แล้ว คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผล 52.31% ของกำไรสุทธิ
คำถาม อัตราหนี้สินต่อทุน 1.38 เท่ายังไม่น่ากังวลใจ ท่านพยายามรักษาไม่ให้สูงกว่าปัจจุบัน
แต่ที่กังวลใจในเรื่องความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
ยกตัวอย่างบริษัทอื่นในตลาดหลักทรัพย์ที่หารายได้เพิ่มขึ้นเช่น CP ALL
มีการขายอาหารสำเร็จรูป เราน่าจะมีทำและขายเข้าไปในร้านค้า
เพราะราคาหุ้นไม่ไปไหนมาหลายปีทั้งที่SET INDEXไปnew highแล้ว
ตอบ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำสำหรับD/E
เราพยายามเน้นการบริหารเงินสดและสามารถจ่ายเงินปันผลได้ดี
เราพยายามผลักดันสำหรับสินค้ามูลค่าเพิ่มเข้าตลาด
เรื่องปัญหาการใช้แรงงานจากยุโรป และ อัตราแลกเปลี่ยนของยูโรและปอนด์ที่อ่อนค่าลง
มีส่วนทำให้ราคาหุ้นไม่ไปไหน แต่เราพยายามสื่อสารให้กับนักลงทุน
ส่วนผลการเนินการของเรดลอบเตอร์ เราได้ติดตามอยู่เช่น ปรับปรุงครัว เมนู และ ภาพลักษณ์
เราเข้าร่วมเป็นกรรมการ เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน
อัปเดทเพิ่มในเรื่องโครงการแนวร่วมของภาคเอกชนในการต่อต้านทุจริต ครั้ง 4/60 ได้มีการมติรับTUเข้าไปแล้ว
ใบรับรองมีอายุสามปีนับจากการรับรอง
มีคำถามเรื่องการไปเยี่ยมชมกิจการ มีการจำกัดอายุไม่เกิน 65 ปี สุดท้ายก็มีการอนุญาติให้ผู้ถือหุ้นที่อายุเกินไปได้
ปิดการประชุม 15.10 น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 818
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 15
HMPRO AGM 09.04.2018
+ คุณมานิต ปธ.บริหาร เป็น ปธ.ในที่ประชุม
+ ผู้ร่วมประชุม 1775ราย จำนวนหุ้น 80.7%
+ ผู้สอบบัญชี อีวาย
+ รับรองรายงานการประชุมปี 2560
ผลการดำเนินงาน
+ homepro 25กทม+56ตจว เพิ่ม 1 สาขา
+ Homepro s เพิ่ม 3 สาขา
+ Megahome เพิ่ม 1 สาขา
+ มาเลเซีย 6สาขา เพิ่ม 4 สาขา
+ ยอดขายเพิ่ม 5.2%
+ คชจ.เพิ่ม 4.6% เป็นคชจ.ขาย +5.4% admin+0.1%
+ กำไรเพิ่ม 18.5%
+ margin สูงขึ้น 1%
อนุมัติงบปี 60
+ สินทรัพย์ลด 1.5% หนี้-5.7% ส่วนผถห+6.5%
+ ยอดขาย+5.2% รายได้+7.3% กำ+18.5%
+ eps 0.38 +19.8%
+ sssg ติดลบนิดหน่อย ยอดขายที่เพิ่มเกิดจากสาขาใหม่ โดยจะเปิดเฉพาะที่มั่นใจเท่านั้น
+ ในมาเลเซีย 6สาขา จะเปิดเพิ่ม มีโอกาศขยายได้ ยังเล็ก รายได้เป็น 1%กว่าของบริษัท
+ ในไทยยังไม่อิ่มตัว ธุรกิจทำกับบ้านเก่าเป็นหลัก
ปันผล
+ สำรองครบ 10%แล้ว
+ ปันผล 0.18บ. ระหว่างปีปันผลไปแล้ว 0.13บ. ภาษี20%
กรรมการ + ค่าตอบแทน บำเหน็จ + ผู้สอบ
+ กรรมการครบวาระ 4 ท่าน รับกลับเข้ามาใหม่
+ ค่าตอบแทน เท่าเดิม ไม่เกิน 12ล.
+ ประธาน 80k/เดือน กรรมการ 40k/เดือน
+ ค่าประชุม ปธ. 30k/ครั้ง กรรมการ 20k/ครั้ง
+ บำเหน็จ 35ล. ปี 59จ่าย 32ล.
+ ผู้สอบ EY ค่าตอบแทน 3.7ล ปี59 3.4ล เพราะปีที่แล้วไม่ได้ขึ้น
+ เพิ่มวัตถุประสงค์บริษัท 1 ข้อ เรื่องการบริหารคลังสินค้า
+ แก้ไขข้อบังคับการประชุม ตามคำสั่งคสช. ให้ผถห. 10%เสนอเรียกประชุมผถห.ได้(ไม่ต้องมี 25คน)
Q&A
+ ขอให้ใส่ภาพรวมอุตสาหกรรมในรายงานประจำปี
+ ทิศทางการเติบโต ประเทศที่พัฒนาแล้ว 6-7% ของgdp ไทยยัง 3% โอกาศโต2เท่า
+ ประเทศพัฒนาแล้ว ประชากร 1ล.คน มีพื้นที่ขาย 2หมื่น ไทย 7พัน โอกาศโต3เท่า
+ ขยายในกทม. +หัวเมือง ขายชนชั้นกลางที่มีรายได้สม่ำเสมอเป็นหลัก
+ อีกส่วนคือ ปรับปรุงบ้าน เช่น รับทำห้องน้ำผู้สูงอายุแบบพื้นไม่ลื่น ประมาณ 2หมื่นบาท
+ ปิดสาขาถนนตก ทั้งที่มีชุมชนอยู่ / จริงๆยัายจากฟิวเจอร์มาร์ท เพราะห้างไม่มีที่ให้ เลยสร้างเองไกล้ๆกัน รายได้เพิ่มเท่าตัว
+ ในปีหน้า ยังคงรับรองรายงานการประชุมปีนี้อยู่ ถึงแม้กฏหมายไม่ได้บังคับแล้ว
+ การเติบโต ขยายในประเทศ จากข้อมูลลูกค้า 3.5ล.ราย เช่น เมื่อซื้อของอย่างนึง จะซื้ออะไรต่อ จะแนะนำแบบตัวต่อตัว
+ จากวันแรกเป็น diy มาเป็น จ้างช่างติดตั้ง จนตอนนี้ hmpro รับ service มากขึ้น ทั้ง ติดตั้ง ล้าง ปรับปรุงพื้นที่
+ มองว่ายิ่ง e-commerce เยอะ ยิ่งดี มองเป็นโอกาศ เพราะ
+ การเติบโตจาก aec ไปที่มาเลเพราะรายได้และไกล้ไทย รถจากศูนย์กระจายสินค้าวิ่งตรง
+ มาเล มองว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ แต่มองว่าดีเพราะมีการซื้อซ้ำ สาขายอดขายเลี้ยงตัวเองได้ แต่ยังขาดทุนที่คชจ.ส่วนกลาง ปีนี้ไม่ขยายสาขามาก เอาเวลามาพัฒนาคน พัฒนาส่วนกลาง
+ ค่าใช้จ่ายพื้นที่ใน เวียงจัน ย่างกุ้ง แพงกว่ากทม. แต่รายได้คนยังมีจำกัด จึงยังไม่มั่นใจ รอให้กฏเกณชัดเจนขึ้นด้วย
+ คู่แข่ง ทางตรงรูปแบบธุรกิจเหมือนกันมีหลายเจ้า แต่เรื่อง size ยังใหญ่กว่า และทำ service มากกว่า
+ ต่างชาติเจ้าใหญ่ ถ้ามาคงมาไทยก่อน
+ homepro s ใช้พื้นที่ดีกว่า 1พันตรม ที่ใหญ่ 6พัน ซื้อสินค้าผ่านจอได้
+ เป้าปีนี้ ขยาย homepro s เยอะหน่อย ส่วน homepro ธรรมดาต้องเลือก, mega home มุ่งพัฒนาบริหารภายใน เน้น margin
+ คุณมานิต ปธ.บริหาร เป็น ปธ.ในที่ประชุม
+ ผู้ร่วมประชุม 1775ราย จำนวนหุ้น 80.7%
+ ผู้สอบบัญชี อีวาย
+ รับรองรายงานการประชุมปี 2560
ผลการดำเนินงาน
+ homepro 25กทม+56ตจว เพิ่ม 1 สาขา
+ Homepro s เพิ่ม 3 สาขา
+ Megahome เพิ่ม 1 สาขา
+ มาเลเซีย 6สาขา เพิ่ม 4 สาขา
+ ยอดขายเพิ่ม 5.2%
+ คชจ.เพิ่ม 4.6% เป็นคชจ.ขาย +5.4% admin+0.1%
+ กำไรเพิ่ม 18.5%
+ margin สูงขึ้น 1%
อนุมัติงบปี 60
+ สินทรัพย์ลด 1.5% หนี้-5.7% ส่วนผถห+6.5%
+ ยอดขาย+5.2% รายได้+7.3% กำ+18.5%
+ eps 0.38 +19.8%
+ sssg ติดลบนิดหน่อย ยอดขายที่เพิ่มเกิดจากสาขาใหม่ โดยจะเปิดเฉพาะที่มั่นใจเท่านั้น
+ ในมาเลเซีย 6สาขา จะเปิดเพิ่ม มีโอกาศขยายได้ ยังเล็ก รายได้เป็น 1%กว่าของบริษัท
+ ในไทยยังไม่อิ่มตัว ธุรกิจทำกับบ้านเก่าเป็นหลัก
ปันผล
+ สำรองครบ 10%แล้ว
+ ปันผล 0.18บ. ระหว่างปีปันผลไปแล้ว 0.13บ. ภาษี20%
กรรมการ + ค่าตอบแทน บำเหน็จ + ผู้สอบ
+ กรรมการครบวาระ 4 ท่าน รับกลับเข้ามาใหม่
+ ค่าตอบแทน เท่าเดิม ไม่เกิน 12ล.
+ ประธาน 80k/เดือน กรรมการ 40k/เดือน
+ ค่าประชุม ปธ. 30k/ครั้ง กรรมการ 20k/ครั้ง
+ บำเหน็จ 35ล. ปี 59จ่าย 32ล.
+ ผู้สอบ EY ค่าตอบแทน 3.7ล ปี59 3.4ล เพราะปีที่แล้วไม่ได้ขึ้น
+ เพิ่มวัตถุประสงค์บริษัท 1 ข้อ เรื่องการบริหารคลังสินค้า
+ แก้ไขข้อบังคับการประชุม ตามคำสั่งคสช. ให้ผถห. 10%เสนอเรียกประชุมผถห.ได้(ไม่ต้องมี 25คน)
Q&A
+ ขอให้ใส่ภาพรวมอุตสาหกรรมในรายงานประจำปี
+ ทิศทางการเติบโต ประเทศที่พัฒนาแล้ว 6-7% ของgdp ไทยยัง 3% โอกาศโต2เท่า
+ ประเทศพัฒนาแล้ว ประชากร 1ล.คน มีพื้นที่ขาย 2หมื่น ไทย 7พัน โอกาศโต3เท่า
+ ขยายในกทม. +หัวเมือง ขายชนชั้นกลางที่มีรายได้สม่ำเสมอเป็นหลัก
+ อีกส่วนคือ ปรับปรุงบ้าน เช่น รับทำห้องน้ำผู้สูงอายุแบบพื้นไม่ลื่น ประมาณ 2หมื่นบาท
+ ปิดสาขาถนนตก ทั้งที่มีชุมชนอยู่ / จริงๆยัายจากฟิวเจอร์มาร์ท เพราะห้างไม่มีที่ให้ เลยสร้างเองไกล้ๆกัน รายได้เพิ่มเท่าตัว
+ ในปีหน้า ยังคงรับรองรายงานการประชุมปีนี้อยู่ ถึงแม้กฏหมายไม่ได้บังคับแล้ว
+ การเติบโต ขยายในประเทศ จากข้อมูลลูกค้า 3.5ล.ราย เช่น เมื่อซื้อของอย่างนึง จะซื้ออะไรต่อ จะแนะนำแบบตัวต่อตัว
+ จากวันแรกเป็น diy มาเป็น จ้างช่างติดตั้ง จนตอนนี้ hmpro รับ service มากขึ้น ทั้ง ติดตั้ง ล้าง ปรับปรุงพื้นที่
+ มองว่ายิ่ง e-commerce เยอะ ยิ่งดี มองเป็นโอกาศ เพราะ
+ การเติบโตจาก aec ไปที่มาเลเพราะรายได้และไกล้ไทย รถจากศูนย์กระจายสินค้าวิ่งตรง
+ มาเล มองว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ แต่มองว่าดีเพราะมีการซื้อซ้ำ สาขายอดขายเลี้ยงตัวเองได้ แต่ยังขาดทุนที่คชจ.ส่วนกลาง ปีนี้ไม่ขยายสาขามาก เอาเวลามาพัฒนาคน พัฒนาส่วนกลาง
+ ค่าใช้จ่ายพื้นที่ใน เวียงจัน ย่างกุ้ง แพงกว่ากทม. แต่รายได้คนยังมีจำกัด จึงยังไม่มั่นใจ รอให้กฏเกณชัดเจนขึ้นด้วย
+ คู่แข่ง ทางตรงรูปแบบธุรกิจเหมือนกันมีหลายเจ้า แต่เรื่อง size ยังใหญ่กว่า และทำ service มากกว่า
+ ต่างชาติเจ้าใหญ่ ถ้ามาคงมาไทยก่อน
+ homepro s ใช้พื้นที่ดีกว่า 1พันตรม ที่ใหญ่ 6พัน ซื้อสินค้าผ่านจอได้
+ เป้าปีนี้ ขยาย homepro s เยอะหน่อย ส่วน homepro ธรรมดาต้องเลือก, mega home มุ่งพัฒนาบริหารภายใน เน้น margin
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 16
AGM HMPRO 9APR 10.00
ขอแชร์ด้วยครับ
เริ่มการประชุม
HMPROประกอบไปด้วย
Market village
Home pro Malaysia
Mega home
DC Service Center
สาขาHome pro กทม/ต่างจังหวัด
1 Homepro 25/56
2,Homepros 2/1
3.Mega home/10
4.Homepro Malaysia 6 Stores
Revenue increase 5.2% เพราะศก ครึ่งปีแรกไม่ดี
มาฟื้นในครึ่งปีหลัง
รายได้อื่นๆ
พื้นที่ให้เช่า
การติดตั้ง และสนับสนุนจากร้านค้า
รายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น 3.1%
SG&A increase 4.6%
Net profit increase 18.5%
ปีที่ผ่านมา กำไรที่เพิ่มขึ้นขับเคลื่อนจาก margin 1% และ ควบคุมรายจ่าย
Total asset decrease to 50,949 MB
Liabilities decrease to 32,314 MB
Equity increase to 18,634 MB
Revenue increase 5.2%
Netprofit 4,886 MB
EPS 0.37 B per share
คำถาม กำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากส่วนไหน
ไทย กับมาเลย์ ตรงไหนดีกว่า เพื่อได้รู้ว่าจะสะท้อนในอนาคตของบริษัทอย่างไร
ตอบ SSS ติดลบนิดหน่อย ยอดขายที่เพิ่มมาจากสาขาใหม่
ปีที่ผ่านมาเปิดสาขาน้อย จากช่องว่างที่น้อย
มาเลย์เปิดไปหกสาขา มีแผนขยายต่อเพราะตลาดพึ่งเริ่มต้น
มีโอกาสจะขยายตัวได้อีก รวมถึงไทยด้วย
เรามีธุรกิจเกี่ยวกับบ้านใหม่เป็นเกณฑ์แต่ต่อมาหลักๆเป็นซ่อมแซมบ้าน
คำถาม ขอให้ช่วยแจ้งล่วงหน้าว่าหนังสือรายงานประจำปี
ไม่แจกหน้างานถ้าไม่ส่งเอกสารขอมา เพื่อจะได้เตรียมตัวล่วงหน้า
เพราะตอนนี้ต้องโหลดเอกสาร228หน้าผ่านมือถือ
ตอบ รับเรื่องไว้พิจารณา
คำถาม เรื่องคำถามให้ไปถามในวาระอื่นๆ ไม่เห็นด้วย
ไม่อยากให้รีบร้อน
มาเลเซีย ตอนนี้เริ่มกำไรหรือยัง
ตอบ ไม่ได้ยกเลิก แต่คำถามที่ลึกขึ้นให้ไปถามวาระอื่นๆ
ส่วนมาเลเซีย จะพูดในวาระที่11 สัดส่วนรายได้น้อยมาก 1%
วาระที่4 การจ่ายเงินปันผล
งวดนี้ 0.18 บาท รวมทั้งปี 0.31 บาทต่อปี
XD 19 APR 18
คำถาม มีเรื่องเสนอแนะ
1 สาระสำคัญ ภาวะอุตสาหกรรม ปัจจัยบวก ลบไม่อยู่ใน
หนังสือรายงานประจำปี
2 SG&A ขอรายละเอียดเพิ่มเติม เพิ่อจะได้เข้าใจมากขึ้น
3 รายได้โต5.2% และ มีศักยภาพในการโต
อยากทราบรายละเอียดว่าโตอย่างไร ช่องทางการเติบโตไปทางไหน
ในช่วง5ปี มาเลเซียเป็นอย่างไร
4 วาระบำเหน็จกรรมการ บอกว่าสาเหตุหนึ่งมาจากmarket cap
โตกว่า SET มันเกี่ยวกับการจ่ายบำเหน็จกรรมการอย่างไร
ตอบ งบดูรายงานประจำปี เห็นชัดจากGPไปหาอ่าน 151-163
รายไตรมาสบริษัทเปิดโอกาสให้มีการพบนักลงทุนหุ้นรายย่อย
ไม่ใช่นักวิเคราะห์อย่างเดียว
ส่วนอีกคำถามข้อ4เป็นหลักการเมื่อบริษัทมีกำไรจึงมีบำเหน็จ
บริษัทเติบโตจากกำไรเพิ่มขึ้น market capโตกว่าSET
ช่องทางการเติบโตของบริษัทยังเติบโต
ภาพใหญ่ ประเทศตะวันตก ถึงเขาบอกว่าอิ่มตัวเเล้ว
Home improvement สัดส่วน6-7% ไทยแค่3%
ประชากรของเขา หนึ่งล้าน ประมาณ สองหมื่น
ของไทย แค่เจ็ดพัน มีโอกาสเติบโตอีกสามเท่า
เราไม่ได้ขายเกษตรกรแต่ถ้าเขารายได้ตกก็กระทบเรา
ปัจจุบันเราขายคนชั้นกลางรายได้สม่ำเสมอเช่นคนกินเงินเดือน
เจ้าของธุรกิจจากส่งออกดีขึ้น ซึ่งอยู่ในเมืองใหญ่
เขามีกำลังซื้อก็เลยสามารถจ่ายเงินให้เรา
เรามีวิธีการสนับสนุนการขายคนสูงอายุ เช่น ห้องน้ำสำหรับคนสูงอายุ
ออกแบบให้งบไม่เกินสองหมื่นบาท ตลาดยังมีอยู่ตามชนชั้นกลางที่
ขยายมากขึ้น จะเห็นภาพชัดเจนจากประชุมประจำไตรมาส
คำถาม การเปิดปิดสาขา สาขาทางถนนตก ซึ่งปิดไป มีคนเยอะ
คนไม่มีกำลังซื้อหรือไม่ ต้นทุนในการปิดและเปิดใหม่เป็นอย่างไร
ตอบ สาขานี้เราย้ายจากfuture mart
ตอนต่อสัญญาใหม่ เราขอพื้นที่ให้เพิ่มขึ้น แต่ทำไม่ได้
เลยย้ายไปอีก1 กม สร้างเอง
คำถาม เอกสาร วาระการประชุมไม่มีแจกล่วงหน้า
ไม่มีหนังสือรายงานประจำปี สำหรับการเปิดในมือถือไม่สดวก
ข้อสอง
วาระรายงานการประชุมปีที่แล้ว ธนาคารบางแห่ง เสนอยกเลิก
การลงคะแนนแล้ว
ส่วนประเด็นใหม่ การแก้ไขข้อบริคณฑ์สนธิ
จำนวนหุ้นที่ขอเปิดประชุมเปลี่ยนเป็นร้อยละสิบ
ตอบ ข้อแรก เรากลับไปพิจารณา เพราะบางปี พิมพ์มาเยอะก็เหลือ
ส่วนเงินค่าตอบแทนเยอะขึ้น ทำให้ค่าตรวจสอบเพิ่มขึ้น
จริงๆเเล้วเพิ่มขึ้นเพราะเผื่อไม่ว่าง และที่ขึ้นเพราะไม่ได้ขึ้นมาสองปี
ข้อที่สอง การรับรองวาระที่หนึ่ง
เราดูแล้วไม่เสียหาย ก็ยังคงให้รับรองรายงานการประชุม
คำถาม อยากให้เล่าเรื่องมาเลเซีย และ ขยายเรื่องตลาดต่างประเทศ
หรือจะอยู่แค่มาเลเซียที่เดียว
Growth potentialอยู่ตรงไหน
ตอบ การเติบโตจาก2ส่วน
หนึ่ง ขับเคลื่อนจากภายในประเทศ จะขยายลงไปในช่องที่เรามีโอกาส
ช่องที่ลูกค้ามีกำลังซื้อ เราดูจากลูกค้า3.5ล้านรายที่ทำรายได้ 90%
ปัจจุบันข้อมูลที่เก็บอยู่ สมมติว่าประวัติลูกค้าเมื่อซื้อเซรามิคไป
ต่อไปจะซื้อสุขภัณฑ์ต่อ
เราสามารถแนะนำลูกค้าต่อได้ จากลูกค้าที่เดิม BIY
แต่หาคนรับงานมาทำยากขึ้น เรามีคนที่ทำมีรายละเอียดของงานที่ทำ
1 ซ่อมบำรุง ทำความสะอาด
2 ติดตั้ง
3ปรับปรุงให้ใหม่ เช่น ห้องครัว ห้องนำ้
ยิ่งE commerceบูม เรายิ่งได้ประโยชน์ เรามองเป็นโอกาส
2.เติบโตจากประเทศในaec
เราไปมาเลเซียก่อน รถไปส่งของกัวลาลำเปอร์ ต่อไปส่งไปถึงฮานอย
เวียงจันทน์ในอนาคตได้
เราลงทุนในมาเลย์ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ตอนนี้ยังบิ้วคนที่นั่น
ให้เก่งเหมือนที่ไทยยังยาก เราพยายามปั้มสาขาแต่ยังขาดทุน
ยอดขายแต่ละสาขายังมีกำไร แต่ภาพรวมยังขาดทุนจากค่าใช้จ่ายส่วนกลาง
ปีนี้ไม่ขยายต่อ แต่พยายามปรับปรุง
ในเวียงจันทน์ ร่างกุ้ง ฮานอย ค่าพื้นที่สูงกว่าในไทย
เวียดนามเริ่มชัดขึ้น แต่ค่าเช่าสูงกว่าไทยสองเท่า เราไม่มั่นใจว่ายอดขาย
จะโตกว่าในไทยสองเท่า ยังศึกษาดู
ขอแชร์ด้วยครับ
เริ่มการประชุม
HMPROประกอบไปด้วย
Market village
Home pro Malaysia
Mega home
DC Service Center
สาขาHome pro กทม/ต่างจังหวัด
1 Homepro 25/56
2,Homepros 2/1
3.Mega home/10
4.Homepro Malaysia 6 Stores
Revenue increase 5.2% เพราะศก ครึ่งปีแรกไม่ดี
มาฟื้นในครึ่งปีหลัง
รายได้อื่นๆ
พื้นที่ให้เช่า
การติดตั้ง และสนับสนุนจากร้านค้า
รายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น 3.1%
SG&A increase 4.6%
Net profit increase 18.5%
ปีที่ผ่านมา กำไรที่เพิ่มขึ้นขับเคลื่อนจาก margin 1% และ ควบคุมรายจ่าย
Total asset decrease to 50,949 MB
Liabilities decrease to 32,314 MB
Equity increase to 18,634 MB
Revenue increase 5.2%
Netprofit 4,886 MB
EPS 0.37 B per share
คำถาม กำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากส่วนไหน
ไทย กับมาเลย์ ตรงไหนดีกว่า เพื่อได้รู้ว่าจะสะท้อนในอนาคตของบริษัทอย่างไร
ตอบ SSS ติดลบนิดหน่อย ยอดขายที่เพิ่มมาจากสาขาใหม่
ปีที่ผ่านมาเปิดสาขาน้อย จากช่องว่างที่น้อย
มาเลย์เปิดไปหกสาขา มีแผนขยายต่อเพราะตลาดพึ่งเริ่มต้น
มีโอกาสจะขยายตัวได้อีก รวมถึงไทยด้วย
เรามีธุรกิจเกี่ยวกับบ้านใหม่เป็นเกณฑ์แต่ต่อมาหลักๆเป็นซ่อมแซมบ้าน
คำถาม ขอให้ช่วยแจ้งล่วงหน้าว่าหนังสือรายงานประจำปี
ไม่แจกหน้างานถ้าไม่ส่งเอกสารขอมา เพื่อจะได้เตรียมตัวล่วงหน้า
เพราะตอนนี้ต้องโหลดเอกสาร228หน้าผ่านมือถือ
ตอบ รับเรื่องไว้พิจารณา
คำถาม เรื่องคำถามให้ไปถามในวาระอื่นๆ ไม่เห็นด้วย
ไม่อยากให้รีบร้อน
มาเลเซีย ตอนนี้เริ่มกำไรหรือยัง
ตอบ ไม่ได้ยกเลิก แต่คำถามที่ลึกขึ้นให้ไปถามวาระอื่นๆ
ส่วนมาเลเซีย จะพูดในวาระที่11 สัดส่วนรายได้น้อยมาก 1%
วาระที่4 การจ่ายเงินปันผล
งวดนี้ 0.18 บาท รวมทั้งปี 0.31 บาทต่อปี
XD 19 APR 18
คำถาม มีเรื่องเสนอแนะ
1 สาระสำคัญ ภาวะอุตสาหกรรม ปัจจัยบวก ลบไม่อยู่ใน
หนังสือรายงานประจำปี
2 SG&A ขอรายละเอียดเพิ่มเติม เพิ่อจะได้เข้าใจมากขึ้น
3 รายได้โต5.2% และ มีศักยภาพในการโต
อยากทราบรายละเอียดว่าโตอย่างไร ช่องทางการเติบโตไปทางไหน
ในช่วง5ปี มาเลเซียเป็นอย่างไร
4 วาระบำเหน็จกรรมการ บอกว่าสาเหตุหนึ่งมาจากmarket cap
โตกว่า SET มันเกี่ยวกับการจ่ายบำเหน็จกรรมการอย่างไร
ตอบ งบดูรายงานประจำปี เห็นชัดจากGPไปหาอ่าน 151-163
รายไตรมาสบริษัทเปิดโอกาสให้มีการพบนักลงทุนหุ้นรายย่อย
ไม่ใช่นักวิเคราะห์อย่างเดียว
ส่วนอีกคำถามข้อ4เป็นหลักการเมื่อบริษัทมีกำไรจึงมีบำเหน็จ
บริษัทเติบโตจากกำไรเพิ่มขึ้น market capโตกว่าSET
ช่องทางการเติบโตของบริษัทยังเติบโต
ภาพใหญ่ ประเทศตะวันตก ถึงเขาบอกว่าอิ่มตัวเเล้ว
Home improvement สัดส่วน6-7% ไทยแค่3%
ประชากรของเขา หนึ่งล้าน ประมาณ สองหมื่น
ของไทย แค่เจ็ดพัน มีโอกาสเติบโตอีกสามเท่า
เราไม่ได้ขายเกษตรกรแต่ถ้าเขารายได้ตกก็กระทบเรา
ปัจจุบันเราขายคนชั้นกลางรายได้สม่ำเสมอเช่นคนกินเงินเดือน
เจ้าของธุรกิจจากส่งออกดีขึ้น ซึ่งอยู่ในเมืองใหญ่
เขามีกำลังซื้อก็เลยสามารถจ่ายเงินให้เรา
เรามีวิธีการสนับสนุนการขายคนสูงอายุ เช่น ห้องน้ำสำหรับคนสูงอายุ
ออกแบบให้งบไม่เกินสองหมื่นบาท ตลาดยังมีอยู่ตามชนชั้นกลางที่
ขยายมากขึ้น จะเห็นภาพชัดเจนจากประชุมประจำไตรมาส
คำถาม การเปิดปิดสาขา สาขาทางถนนตก ซึ่งปิดไป มีคนเยอะ
คนไม่มีกำลังซื้อหรือไม่ ต้นทุนในการปิดและเปิดใหม่เป็นอย่างไร
ตอบ สาขานี้เราย้ายจากfuture mart
ตอนต่อสัญญาใหม่ เราขอพื้นที่ให้เพิ่มขึ้น แต่ทำไม่ได้
เลยย้ายไปอีก1 กม สร้างเอง
คำถาม เอกสาร วาระการประชุมไม่มีแจกล่วงหน้า
ไม่มีหนังสือรายงานประจำปี สำหรับการเปิดในมือถือไม่สดวก
ข้อสอง
วาระรายงานการประชุมปีที่แล้ว ธนาคารบางแห่ง เสนอยกเลิก
การลงคะแนนแล้ว
ส่วนประเด็นใหม่ การแก้ไขข้อบริคณฑ์สนธิ
จำนวนหุ้นที่ขอเปิดประชุมเปลี่ยนเป็นร้อยละสิบ
ตอบ ข้อแรก เรากลับไปพิจารณา เพราะบางปี พิมพ์มาเยอะก็เหลือ
ส่วนเงินค่าตอบแทนเยอะขึ้น ทำให้ค่าตรวจสอบเพิ่มขึ้น
จริงๆเเล้วเพิ่มขึ้นเพราะเผื่อไม่ว่าง และที่ขึ้นเพราะไม่ได้ขึ้นมาสองปี
ข้อที่สอง การรับรองวาระที่หนึ่ง
เราดูแล้วไม่เสียหาย ก็ยังคงให้รับรองรายงานการประชุม
คำถาม อยากให้เล่าเรื่องมาเลเซีย และ ขยายเรื่องตลาดต่างประเทศ
หรือจะอยู่แค่มาเลเซียที่เดียว
Growth potentialอยู่ตรงไหน
ตอบ การเติบโตจาก2ส่วน
หนึ่ง ขับเคลื่อนจากภายในประเทศ จะขยายลงไปในช่องที่เรามีโอกาส
ช่องที่ลูกค้ามีกำลังซื้อ เราดูจากลูกค้า3.5ล้านรายที่ทำรายได้ 90%
ปัจจุบันข้อมูลที่เก็บอยู่ สมมติว่าประวัติลูกค้าเมื่อซื้อเซรามิคไป
ต่อไปจะซื้อสุขภัณฑ์ต่อ
เราสามารถแนะนำลูกค้าต่อได้ จากลูกค้าที่เดิม BIY
แต่หาคนรับงานมาทำยากขึ้น เรามีคนที่ทำมีรายละเอียดของงานที่ทำ
1 ซ่อมบำรุง ทำความสะอาด
2 ติดตั้ง
3ปรับปรุงให้ใหม่ เช่น ห้องครัว ห้องนำ้
ยิ่งE commerceบูม เรายิ่งได้ประโยชน์ เรามองเป็นโอกาส
2.เติบโตจากประเทศในaec
เราไปมาเลเซียก่อน รถไปส่งของกัวลาลำเปอร์ ต่อไปส่งไปถึงฮานอย
เวียงจันทน์ในอนาคตได้
เราลงทุนในมาเลย์ แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ตอนนี้ยังบิ้วคนที่นั่น
ให้เก่งเหมือนที่ไทยยังยาก เราพยายามปั้มสาขาแต่ยังขาดทุน
ยอดขายแต่ละสาขายังมีกำไร แต่ภาพรวมยังขาดทุนจากค่าใช้จ่ายส่วนกลาง
ปีนี้ไม่ขยายต่อ แต่พยายามปรับปรุง
ในเวียงจันทน์ ร่างกุ้ง ฮานอย ค่าพื้นที่สูงกว่าในไทย
เวียดนามเริ่มชัดขึ้น แต่ค่าเช่าสูงกว่าไทยสองเท่า เราไม่มั่นใจว่ายอดขาย
จะโตกว่าในไทยสองเท่า ยังศึกษาดู
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 17
AGM SVOA 10 APR 18 14.00
โครงสร้างผู้ถือหุ้น
1. Keppel Telecommunication and Transportation 31.94% เป็นบริษัทในเครือเทมาเส็ก
2. Mr Min internate 18.21% ตอนนี้ไม่ได้เป็นกรรมการ แต่ส่งทายาทมาเป็นกรรมการแทน
3. ผู้ถือหุ้นทั่วไป 49.85%
กลุ่มบริษัทในเครือของเอสวีโอเอ
1.SVOA ธุรกิจจัดจำหน่าย , ธุรกิจโครงการไอที , IT Distribution , IT Project
2.Asys ธุรกิจบริการหลังการขาย ( After Sales Service)
3.DataOne ธุรกิจให้คำปรึกษาและวางระบบคอม
4.Lease IT ธุรกิจสินเชื่อ
5.IT city ธุรกิจไอทีซุปเปอร์สโตร์
6.TOUCH Printing Republic ธุรกิจด้านการพิมพ์แบบครบวงจร
สัดส่วนรายได้ในปี2017
1.ช่องทางการจัดจำหน่าย เพิ่มขึ้นจาก 3,188 เป็น 3,541 ล้านบาท
2.ที่ปรึกษาและวางระบบคอมพิวเตอร์ เพิ่มขึ้นจาก 1,747 เป็น 2,095 ล้านบาท
3.โครงการไอที เพิ่มขึ้นจาก 1,488 เป็น 2,934 ล้านบาท
4.ส่วนแบ่งกำไรจากIT city จาก 5 เป็น 20 ล้านบาท
5.ศูนย์ซ่อมคอม ( ASYS ) จาก 103 ลดเหลือ 96 ล้านบาท
6.ส่วนแบ่งจากLease IT เพิ่มจาก 40 เป็น 54 ล้านบาท
7.รายได้อื่น เพิ่มจาก 172 เป็น 228 ล้านบาท
รายได้รวมเพิ่มจาก 6,743 เป็น 8,968 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33%
กำไรเบ็ดเสร็จรวม เพิ่มจาก 72 เป็น 195 ล้านบาท
กระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ
มาจากลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้น และ โครงการสปถ ในช่วงปลายปีทำให้มีการทำproject finance
แต่ไม่น่าเป็นห่วงเพราะใช้เวลาไม่เกิน6-9เดือน โครงการเสร็จก็ได้เงินจากภาครัฐ
กระแสเงินสดจากการจัดหาเงินเพิ่มขึ้นจากเงินกู้ระยะสั้น
ส่วนนึงเป็นการลงทุน Cloud ซึ่งจะออกดอกผลจากปีนี้
เงินปันผลจ่ายเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว0.014เป็น 0.046 บาทต่อหุ้น
แต่คิดเป็นสัดส่วนลดลงจากเดิม 60%เป็น 40% เพราะต้องการ
ลดภาระหนี้ธนาคารลงและมีความจำเป็นนำเงินไปลงทุนหารายได้เพิ่มขึ้น
รวมถึงงานภาครัฐที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว
Updateในแต่ละส่วนธุรกิจ
ในส่วนของ ค้าส่งคอม จะเน้นในส่วน Game หรือ E-support จะหา accessory เช่น mouse , อุปกรณ์ต่อพ่วงมาขาย
ส่วนของ โครงการภาครัฐ หลังจากอั้นมาหลายปี ปีที่แล้วได้มาหลายโครงการ และ ปีนี้ยังโตต่อเนื่อง
ส่วน DataOne คุณอดิศร กล่าวว่าBankกำลังหนี้ Digital banking สิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงคือ Core banking system
ทำให้dataoneมีโอกาสในการขายมากขึ้น รวมถึง บางธนาคารลดคน ก็จะเป็นautomateมากขึ้น
Core switching เป็นรอยต่อก้าวไปสู่เทคโนโลยีใหม่ Block chain
คำถามหลายๆข้อ จะตอบโดยคุณแจ๊คที่เป็นผู้ถือหุ้น ส่วนกรรมการยังตอบไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่
จบการประชุม 15.15 น
โครงสร้างผู้ถือหุ้น
1. Keppel Telecommunication and Transportation 31.94% เป็นบริษัทในเครือเทมาเส็ก
2. Mr Min internate 18.21% ตอนนี้ไม่ได้เป็นกรรมการ แต่ส่งทายาทมาเป็นกรรมการแทน
3. ผู้ถือหุ้นทั่วไป 49.85%
กลุ่มบริษัทในเครือของเอสวีโอเอ
1.SVOA ธุรกิจจัดจำหน่าย , ธุรกิจโครงการไอที , IT Distribution , IT Project
2.Asys ธุรกิจบริการหลังการขาย ( After Sales Service)
3.DataOne ธุรกิจให้คำปรึกษาและวางระบบคอม
4.Lease IT ธุรกิจสินเชื่อ
5.IT city ธุรกิจไอทีซุปเปอร์สโตร์
6.TOUCH Printing Republic ธุรกิจด้านการพิมพ์แบบครบวงจร
สัดส่วนรายได้ในปี2017
1.ช่องทางการจัดจำหน่าย เพิ่มขึ้นจาก 3,188 เป็น 3,541 ล้านบาท
2.ที่ปรึกษาและวางระบบคอมพิวเตอร์ เพิ่มขึ้นจาก 1,747 เป็น 2,095 ล้านบาท
3.โครงการไอที เพิ่มขึ้นจาก 1,488 เป็น 2,934 ล้านบาท
4.ส่วนแบ่งกำไรจากIT city จาก 5 เป็น 20 ล้านบาท
5.ศูนย์ซ่อมคอม ( ASYS ) จาก 103 ลดเหลือ 96 ล้านบาท
6.ส่วนแบ่งจากLease IT เพิ่มจาก 40 เป็น 54 ล้านบาท
7.รายได้อื่น เพิ่มจาก 172 เป็น 228 ล้านบาท
รายได้รวมเพิ่มจาก 6,743 เป็น 8,968 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33%
กำไรเบ็ดเสร็จรวม เพิ่มจาก 72 เป็น 195 ล้านบาท
กระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ
มาจากลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้น และ โครงการสปถ ในช่วงปลายปีทำให้มีการทำproject finance
แต่ไม่น่าเป็นห่วงเพราะใช้เวลาไม่เกิน6-9เดือน โครงการเสร็จก็ได้เงินจากภาครัฐ
กระแสเงินสดจากการจัดหาเงินเพิ่มขึ้นจากเงินกู้ระยะสั้น
ส่วนนึงเป็นการลงทุน Cloud ซึ่งจะออกดอกผลจากปีนี้
เงินปันผลจ่ายเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว0.014เป็น 0.046 บาทต่อหุ้น
แต่คิดเป็นสัดส่วนลดลงจากเดิม 60%เป็น 40% เพราะต้องการ
ลดภาระหนี้ธนาคารลงและมีความจำเป็นนำเงินไปลงทุนหารายได้เพิ่มขึ้น
รวมถึงงานภาครัฐที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว
Updateในแต่ละส่วนธุรกิจ
ในส่วนของ ค้าส่งคอม จะเน้นในส่วน Game หรือ E-support จะหา accessory เช่น mouse , อุปกรณ์ต่อพ่วงมาขาย
ส่วนของ โครงการภาครัฐ หลังจากอั้นมาหลายปี ปีที่แล้วได้มาหลายโครงการ และ ปีนี้ยังโตต่อเนื่อง
ส่วน DataOne คุณอดิศร กล่าวว่าBankกำลังหนี้ Digital banking สิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงคือ Core banking system
ทำให้dataoneมีโอกาสในการขายมากขึ้น รวมถึง บางธนาคารลดคน ก็จะเป็นautomateมากขึ้น
Core switching เป็นรอยต่อก้าวไปสู่เทคโนโลยีใหม่ Block chain
คำถามหลายๆข้อ จะตอบโดยคุณแจ๊คที่เป็นผู้ถือหุ้น ส่วนกรรมการยังตอบไม่ค่อยคล่องเท่าไหร่
จบการประชุม 15.15 น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 18
AGM AIT 10 APR 18
Cr: Restart
สรุปสาระการประชุม แบบคราวๆ เท่าที่พอจะจดจำได้ครับ
1.มีลูกค้ารายใหม่ที่ขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 7 บริษัท อาทิ
- Fujitsu ต่อท้ายอะไรจำไม่ได้
- PTT Digital Solution
- Panasonic Motor (Thailand)
- จดแล้วแต่อ่านที่จดไม่ออก
- Symphony Communicate
- อีก 2 บริษัท จดไม่ทันครับ
2.บริษัท Genesis เริ่มรับรู้รายได้ 1 ม.ค. 61
3.บริษัท Submarine Cable แบ่งเป็น 2 ทาง
3.1ทางใต้น้ำ มีปัญหาต้องเดินสายผ่านฝูงปลาพะยูน 1 ฝูงจำนวน 7 ตัว ซึ่งมีแหล่งอาหารของพยูน ทำให้ต้องวางแผนเดินจากพม่าผ่านทางอินโดนีเซีย ไปสิงคโปร์
คาดว่าจะรู้ผลสำรวจ ในสิ้นปี 61 หรือไม่ Q1-Q2 ปี 62
3.2เรียกว่า TARO เดินสายบนดิน เริ่มให้บริการ มีรายได้บ้างแล้ว
ทำให้มี 2 route คือ
จาก พม่า -> กทม.
จาก พม่า -> สิงคโปร์
4.คุณศิริพงศ์ บอกว่ามีเป้าหมาย จะให้บริษัทเป็น แบบ SMART COMPANY
5.เป้าหมายปี 2018 ตั้งไว้ 6,000 ลบ.
โดยสิ้นไตรมาส 1 มี BACKLOG แล้ว 3,432 ลบ. รอคำสั่งซื้อ 190 ลบ. รอประมูลช่วงนี้อีก 152 ลบ.
6.บริษัท หันมาสนใจลงทุน ที่เน้นพวก START UP ที่เงินลงทุนไม่สูง แต่อาจจะต้องใช้เวลานาน
7.บริษัทฯ มี Recurring Income จากค่าเช่า 3 % และจากพวกบริการ บำรุงรักษา จำไม่ได้ว่า กี่% แต่เป้าที่บริษัทฯ อยากได้คือ 30 % แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไร
8.เรื่อง Cable ใต้น้ำ - บริษัท CAMPANA จะใช้เงิน 80 ล้านเหรียญ
โดยรอบแรกจะใช้เงินลงทุน 20 ล้านเหรียญ และรอบที่ 2 สิ้น เม.ย.
ผมฟังแล้วไม่เข้าใจ รู้แต่ว่า เงินลงทุนของ บริษัท CAMPANA ตอนแรกจะยืมจาก AIT ตอนหลัง จะขอกู้2ธนาคาร คือจาก BBL กับธนาคารของจีน จำนวน 125 ล้านเหรียญ
ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลใน 2 เดือนนี้
9.LAN LINE บนพื้นดินของ TARO ได้เดินเสร็จแล้ว (เมื่อสิ้น ธ.ค.60) คาดว่าจะรับรู้รายได้ปีละ 10 ล้านเหรียญ
10.เรื่องลูกหนี้ที่ยังค้างชำะ ส่วนใหญ่มาจาก โครงการ อินเตอร์เนตประชารัฐ , ของจุฬาลงกรณ์ 100 กว่าล้าน (เป็นหนี้ระยะยาว)
บริษัท พยายาม ขยายธุรกิจไปเอกชน ซึ่งได้เพิ่มมากขึ้น แต่จำนวนเงินไม่ได้มาก เหมือนภาครัฐ
คุณศิริพงษ์ แจ้งว่า เน็ตประชารัฐ รับรู้รายได้ไปแล้ว ซึ่งมีการความล่าช้า เพราะ ได้รับอุปกรณ์ที่สั่งซื้อล่าช้า บริษัทได้แจ้งกับหน่วยงานที่ส่งมอบแล้ว
ซึ่ง ค่าปรับบริษัท สามารถ เคลมกับ บริษัทที่ส่งมอบอุปกรณ์ล่าช้าได้
11.เรื่องทะเบียนราษฎร์ กัมพูชา เดิมงานเป็นของรัฐบาลกัมพูชา ต่อมากลายเป็นการกู้เงินจาก ADB ซึ่งจะต้องทำตามเงื่อนไข ของ ADB ใหม่
โดย เฟสแรก จะใช้ระยะเวลา 10 กว่าเดือน ไม่เกิน 18 เดือน
12.เรื่องการวางระบบ รัฐสภา บริษัท มีความสนใจ แต่ต้องรอดูเงื่อนไขการประมูล TOR ซึ่งบริษัท มีศักยภาพเพียงพอในการดำเนินงาน
เท่าที่ทราบมีเพียงแค่นี้ครับ
Cr: Restart
สรุปสาระการประชุม แบบคราวๆ เท่าที่พอจะจดจำได้ครับ
1.มีลูกค้ารายใหม่ที่ขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น 7 บริษัท อาทิ
- Fujitsu ต่อท้ายอะไรจำไม่ได้
- PTT Digital Solution
- Panasonic Motor (Thailand)
- จดแล้วแต่อ่านที่จดไม่ออก
- Symphony Communicate
- อีก 2 บริษัท จดไม่ทันครับ
2.บริษัท Genesis เริ่มรับรู้รายได้ 1 ม.ค. 61
3.บริษัท Submarine Cable แบ่งเป็น 2 ทาง
3.1ทางใต้น้ำ มีปัญหาต้องเดินสายผ่านฝูงปลาพะยูน 1 ฝูงจำนวน 7 ตัว ซึ่งมีแหล่งอาหารของพยูน ทำให้ต้องวางแผนเดินจากพม่าผ่านทางอินโดนีเซีย ไปสิงคโปร์
คาดว่าจะรู้ผลสำรวจ ในสิ้นปี 61 หรือไม่ Q1-Q2 ปี 62
3.2เรียกว่า TARO เดินสายบนดิน เริ่มให้บริการ มีรายได้บ้างแล้ว
ทำให้มี 2 route คือ
จาก พม่า -> กทม.
จาก พม่า -> สิงคโปร์
4.คุณศิริพงศ์ บอกว่ามีเป้าหมาย จะให้บริษัทเป็น แบบ SMART COMPANY
5.เป้าหมายปี 2018 ตั้งไว้ 6,000 ลบ.
โดยสิ้นไตรมาส 1 มี BACKLOG แล้ว 3,432 ลบ. รอคำสั่งซื้อ 190 ลบ. รอประมูลช่วงนี้อีก 152 ลบ.
6.บริษัท หันมาสนใจลงทุน ที่เน้นพวก START UP ที่เงินลงทุนไม่สูง แต่อาจจะต้องใช้เวลานาน
7.บริษัทฯ มี Recurring Income จากค่าเช่า 3 % และจากพวกบริการ บำรุงรักษา จำไม่ได้ว่า กี่% แต่เป้าที่บริษัทฯ อยากได้คือ 30 % แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไร
8.เรื่อง Cable ใต้น้ำ - บริษัท CAMPANA จะใช้เงิน 80 ล้านเหรียญ
โดยรอบแรกจะใช้เงินลงทุน 20 ล้านเหรียญ และรอบที่ 2 สิ้น เม.ย.
ผมฟังแล้วไม่เข้าใจ รู้แต่ว่า เงินลงทุนของ บริษัท CAMPANA ตอนแรกจะยืมจาก AIT ตอนหลัง จะขอกู้2ธนาคาร คือจาก BBL กับธนาคารของจีน จำนวน 125 ล้านเหรียญ
ซึ่งคาดว่าจะรู้ผลใน 2 เดือนนี้
9.LAN LINE บนพื้นดินของ TARO ได้เดินเสร็จแล้ว (เมื่อสิ้น ธ.ค.60) คาดว่าจะรับรู้รายได้ปีละ 10 ล้านเหรียญ
10.เรื่องลูกหนี้ที่ยังค้างชำะ ส่วนใหญ่มาจาก โครงการ อินเตอร์เนตประชารัฐ , ของจุฬาลงกรณ์ 100 กว่าล้าน (เป็นหนี้ระยะยาว)
บริษัท พยายาม ขยายธุรกิจไปเอกชน ซึ่งได้เพิ่มมากขึ้น แต่จำนวนเงินไม่ได้มาก เหมือนภาครัฐ
คุณศิริพงษ์ แจ้งว่า เน็ตประชารัฐ รับรู้รายได้ไปแล้ว ซึ่งมีการความล่าช้า เพราะ ได้รับอุปกรณ์ที่สั่งซื้อล่าช้า บริษัทได้แจ้งกับหน่วยงานที่ส่งมอบแล้ว
ซึ่ง ค่าปรับบริษัท สามารถ เคลมกับ บริษัทที่ส่งมอบอุปกรณ์ล่าช้าได้
11.เรื่องทะเบียนราษฎร์ กัมพูชา เดิมงานเป็นของรัฐบาลกัมพูชา ต่อมากลายเป็นการกู้เงินจาก ADB ซึ่งจะต้องทำตามเงื่อนไข ของ ADB ใหม่
โดย เฟสแรก จะใช้ระยะเวลา 10 กว่าเดือน ไม่เกิน 18 เดือน
12.เรื่องการวางระบบ รัฐสภา บริษัท มีความสนใจ แต่ต้องรอดูเงื่อนไขการประมูล TOR ซึ่งบริษัท มีศักยภาพเพียงพอในการดำเนินงาน
เท่าที่ทราบมีเพียงแค่นี้ครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 19
AGM COL 2 APR 18 14.00
รายละเอียดตามfileด้านล่าง ซึ่งทางCOL บันทึกไว้ครับ
http://col.listedcompany.com/misc/Share ... tes-th.pdf
รายละเอียดตามfileด้านล่าง ซึ่งทางCOL บันทึกไว้ครับ
http://col.listedcompany.com/misc/Share ... tes-th.pdf
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 818
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 21
MEGA AGM 11.04.2018
+ ผถห.มาด้วยตัวเอง 62 คน รับมอบฉันทะ 395 คน รวม 457 ราย จำนวนหุ้น 84%
วาระ 1 - แจ้งที่ประชุมเพื่อทราบ
ประธาน
+ ปี 60 รายได้เพิ่ม 9% กำไรเพิ่ม 40%
+ เน้นขยายตลาดที่พม่า
+ สร้างคลังสินค้าที่บางปูเพิ่ม
+ cg 4 ดาว จะพยายามเป็น 5ดาวให้ได้
+ csr ช่วยเหลือโรงเรียนมีชัยพัฒนา สอนนร.ให้คิดนอกกรอบ ให้ช่วยสอนนร.ที่เด็กกว่า การเกษตรแผนใหม่ ช่วยหมอตรวจสุขภาพผู้สูงอายุ
CEO & Chief Coach
+ ปีที่แล้ว มีสินค้าใหม่ 10 ตัว
+ ปันผลทั้งปี 0.70บ.
+ วางแผนไว้ตั้งแต่ 2014 ว่ากำไรจะเป็น 2 เท่าใน 5ปี ตอนนี้ถึงแล้ว แต่ยอดขายยังไม่ถึง 2เท่า
+ มอง เวียดนาม พม่า กัมพูชา มาเลไปซื้อบ.ไว้น่าจะเป็นที่ 2แล้ว
+ 2018 ยอดขายจะโต 8-10% เพิ่มสินค้า 10ตัว
+ มีคลังสินค้าที่พม่า
+ มีโรงงานบางปู เพิ่มคลังสินค้า
+ จะลงทุน 2 ปีนี้ ประมาณ 700ล
+ จะขยายอินโด ใน 2-3ปีข้างหน้า มีขึ้นทะเบียนยาไว้แล้ว
+ แอฟริกา มองยอดเพิ่ม 2เท่า ใน4-5ปี
+ ลงธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ มองว่าโตใน 4-5ปี
สรุปผลการดำเนินงาน
+ รายได้ เพิ่ม 9% เป็น9.6พันล้าน
+ กำไรขั้นต้นเพิ่ม 17.2%
+ ค่าใช้จ่ายขายและบริหารเพิ่ม 10.9%
+ กำไรสุทธิเพิ่ม40% เป็น1.1พันล้าน
+ เงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน 927ล เงินสดจ่ายจากกิจการลงทุน 3.7ล
+ ปันผลงวดนี้ 0.40บ คิดเป็น 54.4% ของกำไร
วาระ 2
+ รับรองการประชุมปี 60
วาระ 3
+ แจ้งผลการดำเนินงาน (ceo พูดรวมไปในวาระ 1 แล้ว)
วาระ 4
+ อนุมัติงบปี 60
+ ผถห.ถามว่าทำไมกำไรดีขึ้น ตอบว่า 1.มาจากยอดขายแบรนตัวเองดีขึ้น 2.กำลังการผลิตใช้ได้เต็มที่ดีกว่าปีที่แล้ว
+ รายงานประจำปี หน้า 68-69 อยากให้เพิ่ม โครงสร้างบริษัทที่เป็นบ.ย่อย เพราะมีแต่บ.ร่วม
+ กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเยอะ เพราะ mega we care ขายเพิ่มเป็น 52% มีกำไรขั้นต้น 62-65% ค่าใช้จ่ายจะประมาณ 31-32%
+ ยอดขาย อาหารเสริม 67% ยา33%
+ การขายสินค้าแต่ละช่วงอายุมีสัดส่วนอย่างไร ตอบ บ.ขายสินค้าที่แก้ปัญหาแต่ละจุด มีขายยา ที่ใช้ในโรงพยาบาล และร้านยา มีเบาหวานก็กินวิตามินบี บางสินค้าเจาะจงเด็กก็มี เช่น วิตามินซีเด็กที่ใช้เคี้ยว
+ หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นมาก ตอบ เป็นปกติจะไม่เกิน 0.1%ของยอดขาย
+ Max Care มียอดขายลดลงจะแก้ไขยังไง ตอบ เรารับกระจายสินค้า มีลูกค้าหลายบริษัท ต้องพยายามหาลูกค้าใหม่เข้ามา บางปีมีลูกค้าโยกย้ายบ้างทำให้ไม่แน่นอน
+ ยอดขายไทย4พันล.usd พม่า 7ร้อยล.usd มองว่ายังโตได้อีกมาก
วาระ 5
+ อนุมัติปันผล
+ ระหว่างกาล 0.30บ งวดนี้ 0.40บ รวมเป็น 0.70บ 605.67ล
วาระ 6
+ อนุมัติกรรมการ 3 ท่าน กลับเข้ามาใหม่
วาระ 7
+ อนุมัติกำหนดค่าตอบแทนกรรมการ
+ เข้าตลาดมา 5ปีไม่เคยปรับ ปีนี้จึงขอปรับ
+ รวม 8ล้าน/ปี ปรับเพิ่มประมาณ 5% ยกเว้นคุณอลัน ที่เพิ่ม 3แสน คิดเป็น 25% จาก 1.2ลเป็น 1.5ล เนื่องจากภาระที่เพิ่มขึ้น
+ ประธาน มีชัย 2.1ล บริจาคเงินค่าตอบแทนให้โรงเรียนมีชัยพัฒนา บริษัทส่งโดยตรงไปโรงเรียน บ.ลดหย่อนภาษีได้
วาระ 8
+ แต่งตั้งผู้สอบบัญชี
+ KPMG
+ ค่าสอบรวมค่าบริการอื่น 9.01ล -> 9.39ล ทั้งบริษัทและบริษัทย่อยที่ตั้งในประเทศไทย
วาระ 9
+ Q&A
+ ที่ผบห.ออก oppday แล้วบอกว่า ใน 3ปีจะเป็น 1.6-1.7พันล้าน ดูเหมือนจะโตน้อยลง ตอบ ตามเป้ายอดขาย 8-10%เหมาะสม กำไรก็ประมาณนี้ เพราะลงทุนเพิ่ม ถ้าทำได้ดีกว่านี้ก็จะทำไม่หยุด
+ กำไรปีนี้ 40% น่าจะยากไช่หรือไม่ ตอบ คงล้อตามรายได้ แต่จะมียาใหม่ๆเพิ่ม
+ q1 ตามเป้าไหม ตอบ ตามแผน
+ แผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ตามแผนใน 2020 ตอบ ทำตามเดิม พัฒนาทีมงาน แบรนด์ ต้องใช้เวลา ในไทย 33ปีแล้ว ในต่างประเทศก็ทำแบบเดียวกัน ในพม่าระบบพร้อมแล้วยังขายน้อยอยู่
+ สัดส่วน อาหารเสริม / ยา ยังคง 70 / 30
+ คู่แข่ง ตอบ มีในทุกประเทศ แต่ไม่ได้เจ้าเดียว ถ้าอาหารเสริมก็ blackmores ยาก็อีกเจ้านึง ในประเทศอื่นก็จะมีอีกเจ้านึง เพราะคู่แข่งแต่ละบริษัททำสินค้าเฉพาะอย่าง แต่เมกาทำหลายอย่าง
+ นโยบายลูกหนี้ ตามแต่ละประเทศ ในแต่ละโรงพยาบาลก็มี credit term ไม่เหมือนกัน
+ ลูกหนี้การค้าที่มากขึ้น ใน 6-12เดือน เป็นใคร ตอบ ไม่ได้มีเจ้าไหนเป็นนัยยะสำคัญ ค่าเฉลี่ย credit term 2-6เดือน แต่บางโรงพยาบาลมีเกิน 1ปี ในไนจีเรียอาจจะจ่ายช้าบ้าง
+ capacity ใช้แล้ว 60-70% แต่ สินค้า350แบบ เลยต้องมี capacity เผื่อใว้ ใช้ 100%ไม่ได้
+ ในอัฟริกา มีพนักงานกี่คน ตอบ มีพนักงานเอง ไม่ได้จ้าง แต่ขอไม่เปิดเผย
+ online มีแผนยังไง ตอบ เราขายไม่ได้ มีแค่แนะนำกับลูกค้า เป็นแนวตอบคำถาม เพิ่มความรู้มากกว่า
+ พม่าเข้าใจว่าเป็นที่ 1 แล้ว จะขยายยังไง ตอบ คนไทยใช้ 100เหรียญ/คน พม่า10-15 เวียดนาม 30-35เหรียญแล้ว พม่ายังโตได้
+ ในตปท.มีประเทศไหนไม่เป็นไปตามเป้าบ้าง ตอบ โอกาศในไทยไม่โตแล้วใช้เยอะขึ้นแต่ราคาลดลง พม่ามองว่าเป็นอนาคตลงทุนไปก่อน ตอนนี้ลงทุน 32 ประเทศ จะใช้เวลา 5-6 ปีวิเคราะห์ (ขึ้นทะเบียน 3ปี ผลิตสินค้า 3ปี) ต้องคิดระยะยาว ตอนนี้พนักงาน 5พันคน ให้วิธีกลับมาวิเคราะทุกๆ 3เดือน
+ การสร้างแบรนด์ ในประเทศกำลังพัฒนามีปัญหาไหม ตอบ ไม่มี เช่น ที่พม่า ยอดขายอันดับหนึ่ง ในร้านยา 83% มีสินค้าของเมกา
คุยกับหัวหน้าพนักงานขาย ก่อนเริ่มงาน
+ pc 1 คน ยอดประมาณ 2-7แสน/เดือน เฉลี่ย 4แสน
+ แยกแผนกกันระหว่าง ตามร้าน boot watsons มี 70คน แผนกยาโรงพยาบาล 50คน
+ ตามร้าน ลูกค้าจะเลือกจากโปรโมชั่นเป็นหลัก
+ ปีนี้ Blackmores เล่นโปรหนักมาก แต่อีกเดี๋ยวเมกาจะมีโปรบ้าง
+ ยอดขาย 3 เดือนแรก ยังทรงๆ(เฉพาะส่วนที่คนนี้ดูแล)
+ ปีนี้มีสินค้า regenez ขายดี ช่วยบำรุงเส้นผม
+ ผถห.มาด้วยตัวเอง 62 คน รับมอบฉันทะ 395 คน รวม 457 ราย จำนวนหุ้น 84%
วาระ 1 - แจ้งที่ประชุมเพื่อทราบ
ประธาน
+ ปี 60 รายได้เพิ่ม 9% กำไรเพิ่ม 40%
+ เน้นขยายตลาดที่พม่า
+ สร้างคลังสินค้าที่บางปูเพิ่ม
+ cg 4 ดาว จะพยายามเป็น 5ดาวให้ได้
+ csr ช่วยเหลือโรงเรียนมีชัยพัฒนา สอนนร.ให้คิดนอกกรอบ ให้ช่วยสอนนร.ที่เด็กกว่า การเกษตรแผนใหม่ ช่วยหมอตรวจสุขภาพผู้สูงอายุ
CEO & Chief Coach
+ ปีที่แล้ว มีสินค้าใหม่ 10 ตัว
+ ปันผลทั้งปี 0.70บ.
+ วางแผนไว้ตั้งแต่ 2014 ว่ากำไรจะเป็น 2 เท่าใน 5ปี ตอนนี้ถึงแล้ว แต่ยอดขายยังไม่ถึง 2เท่า
+ มอง เวียดนาม พม่า กัมพูชา มาเลไปซื้อบ.ไว้น่าจะเป็นที่ 2แล้ว
+ 2018 ยอดขายจะโต 8-10% เพิ่มสินค้า 10ตัว
+ มีคลังสินค้าที่พม่า
+ มีโรงงานบางปู เพิ่มคลังสินค้า
+ จะลงทุน 2 ปีนี้ ประมาณ 700ล
+ จะขยายอินโด ใน 2-3ปีข้างหน้า มีขึ้นทะเบียนยาไว้แล้ว
+ แอฟริกา มองยอดเพิ่ม 2เท่า ใน4-5ปี
+ ลงธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ มองว่าโตใน 4-5ปี
สรุปผลการดำเนินงาน
+ รายได้ เพิ่ม 9% เป็น9.6พันล้าน
+ กำไรขั้นต้นเพิ่ม 17.2%
+ ค่าใช้จ่ายขายและบริหารเพิ่ม 10.9%
+ กำไรสุทธิเพิ่ม40% เป็น1.1พันล้าน
+ เงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน 927ล เงินสดจ่ายจากกิจการลงทุน 3.7ล
+ ปันผลงวดนี้ 0.40บ คิดเป็น 54.4% ของกำไร
วาระ 2
+ รับรองการประชุมปี 60
วาระ 3
+ แจ้งผลการดำเนินงาน (ceo พูดรวมไปในวาระ 1 แล้ว)
วาระ 4
+ อนุมัติงบปี 60
+ ผถห.ถามว่าทำไมกำไรดีขึ้น ตอบว่า 1.มาจากยอดขายแบรนตัวเองดีขึ้น 2.กำลังการผลิตใช้ได้เต็มที่ดีกว่าปีที่แล้ว
+ รายงานประจำปี หน้า 68-69 อยากให้เพิ่ม โครงสร้างบริษัทที่เป็นบ.ย่อย เพราะมีแต่บ.ร่วม
+ กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเยอะ เพราะ mega we care ขายเพิ่มเป็น 52% มีกำไรขั้นต้น 62-65% ค่าใช้จ่ายจะประมาณ 31-32%
+ ยอดขาย อาหารเสริม 67% ยา33%
+ การขายสินค้าแต่ละช่วงอายุมีสัดส่วนอย่างไร ตอบ บ.ขายสินค้าที่แก้ปัญหาแต่ละจุด มีขายยา ที่ใช้ในโรงพยาบาล และร้านยา มีเบาหวานก็กินวิตามินบี บางสินค้าเจาะจงเด็กก็มี เช่น วิตามินซีเด็กที่ใช้เคี้ยว
+ หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นมาก ตอบ เป็นปกติจะไม่เกิน 0.1%ของยอดขาย
+ Max Care มียอดขายลดลงจะแก้ไขยังไง ตอบ เรารับกระจายสินค้า มีลูกค้าหลายบริษัท ต้องพยายามหาลูกค้าใหม่เข้ามา บางปีมีลูกค้าโยกย้ายบ้างทำให้ไม่แน่นอน
+ ยอดขายไทย4พันล.usd พม่า 7ร้อยล.usd มองว่ายังโตได้อีกมาก
วาระ 5
+ อนุมัติปันผล
+ ระหว่างกาล 0.30บ งวดนี้ 0.40บ รวมเป็น 0.70บ 605.67ล
วาระ 6
+ อนุมัติกรรมการ 3 ท่าน กลับเข้ามาใหม่
วาระ 7
+ อนุมัติกำหนดค่าตอบแทนกรรมการ
+ เข้าตลาดมา 5ปีไม่เคยปรับ ปีนี้จึงขอปรับ
+ รวม 8ล้าน/ปี ปรับเพิ่มประมาณ 5% ยกเว้นคุณอลัน ที่เพิ่ม 3แสน คิดเป็น 25% จาก 1.2ลเป็น 1.5ล เนื่องจากภาระที่เพิ่มขึ้น
+ ประธาน มีชัย 2.1ล บริจาคเงินค่าตอบแทนให้โรงเรียนมีชัยพัฒนา บริษัทส่งโดยตรงไปโรงเรียน บ.ลดหย่อนภาษีได้
วาระ 8
+ แต่งตั้งผู้สอบบัญชี
+ KPMG
+ ค่าสอบรวมค่าบริการอื่น 9.01ล -> 9.39ล ทั้งบริษัทและบริษัทย่อยที่ตั้งในประเทศไทย
วาระ 9
+ Q&A
+ ที่ผบห.ออก oppday แล้วบอกว่า ใน 3ปีจะเป็น 1.6-1.7พันล้าน ดูเหมือนจะโตน้อยลง ตอบ ตามเป้ายอดขาย 8-10%เหมาะสม กำไรก็ประมาณนี้ เพราะลงทุนเพิ่ม ถ้าทำได้ดีกว่านี้ก็จะทำไม่หยุด
+ กำไรปีนี้ 40% น่าจะยากไช่หรือไม่ ตอบ คงล้อตามรายได้ แต่จะมียาใหม่ๆเพิ่ม
+ q1 ตามเป้าไหม ตอบ ตามแผน
+ แผนการเพิ่มยอดขายให้ได้ตามแผนใน 2020 ตอบ ทำตามเดิม พัฒนาทีมงาน แบรนด์ ต้องใช้เวลา ในไทย 33ปีแล้ว ในต่างประเทศก็ทำแบบเดียวกัน ในพม่าระบบพร้อมแล้วยังขายน้อยอยู่
+ สัดส่วน อาหารเสริม / ยา ยังคง 70 / 30
+ คู่แข่ง ตอบ มีในทุกประเทศ แต่ไม่ได้เจ้าเดียว ถ้าอาหารเสริมก็ blackmores ยาก็อีกเจ้านึง ในประเทศอื่นก็จะมีอีกเจ้านึง เพราะคู่แข่งแต่ละบริษัททำสินค้าเฉพาะอย่าง แต่เมกาทำหลายอย่าง
+ นโยบายลูกหนี้ ตามแต่ละประเทศ ในแต่ละโรงพยาบาลก็มี credit term ไม่เหมือนกัน
+ ลูกหนี้การค้าที่มากขึ้น ใน 6-12เดือน เป็นใคร ตอบ ไม่ได้มีเจ้าไหนเป็นนัยยะสำคัญ ค่าเฉลี่ย credit term 2-6เดือน แต่บางโรงพยาบาลมีเกิน 1ปี ในไนจีเรียอาจจะจ่ายช้าบ้าง
+ capacity ใช้แล้ว 60-70% แต่ สินค้า350แบบ เลยต้องมี capacity เผื่อใว้ ใช้ 100%ไม่ได้
+ ในอัฟริกา มีพนักงานกี่คน ตอบ มีพนักงานเอง ไม่ได้จ้าง แต่ขอไม่เปิดเผย
+ online มีแผนยังไง ตอบ เราขายไม่ได้ มีแค่แนะนำกับลูกค้า เป็นแนวตอบคำถาม เพิ่มความรู้มากกว่า
+ พม่าเข้าใจว่าเป็นที่ 1 แล้ว จะขยายยังไง ตอบ คนไทยใช้ 100เหรียญ/คน พม่า10-15 เวียดนาม 30-35เหรียญแล้ว พม่ายังโตได้
+ ในตปท.มีประเทศไหนไม่เป็นไปตามเป้าบ้าง ตอบ โอกาศในไทยไม่โตแล้วใช้เยอะขึ้นแต่ราคาลดลง พม่ามองว่าเป็นอนาคตลงทุนไปก่อน ตอนนี้ลงทุน 32 ประเทศ จะใช้เวลา 5-6 ปีวิเคราะห์ (ขึ้นทะเบียน 3ปี ผลิตสินค้า 3ปี) ต้องคิดระยะยาว ตอนนี้พนักงาน 5พันคน ให้วิธีกลับมาวิเคราะทุกๆ 3เดือน
+ การสร้างแบรนด์ ในประเทศกำลังพัฒนามีปัญหาไหม ตอบ ไม่มี เช่น ที่พม่า ยอดขายอันดับหนึ่ง ในร้านยา 83% มีสินค้าของเมกา
คุยกับหัวหน้าพนักงานขาย ก่อนเริ่มงาน
+ pc 1 คน ยอดประมาณ 2-7แสน/เดือน เฉลี่ย 4แสน
+ แยกแผนกกันระหว่าง ตามร้าน boot watsons มี 70คน แผนกยาโรงพยาบาล 50คน
+ ตามร้าน ลูกค้าจะเลือกจากโปรโมชั่นเป็นหลัก
+ ปีนี้ Blackmores เล่นโปรหนักมาก แต่อีกเดี๋ยวเมกาจะมีโปรบ้าง
+ ยอดขาย 3 เดือนแรก ยังทรงๆ(เฉพาะส่วนที่คนนี้ดูแล)
+ ปีนี้มีสินค้า regenez ขายดี ช่วยบำรุงเส้นผม
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 22
AGM ASN 11 Apr 18 เวลา 10.00 น
คุณธวัชชัย เลิศรุ่งเรือง ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเป็นประธานในที่ประชุมกล่าวเปิดประชุม
วาระที่สอง
คุณธวัชชัย ชีวานนท์ซึ่งเป็น CEO ชี้แจงเรื่องการเปลี่ยนแปลงทำธุรกิจ
ในเรื่องการทำPeer to peer lending จับคู่คนให้ยืมกับคนยืมเงิน
เรื่องนายหน้าประกันภัย ผลประกอบการน่าผิดหวังสำหรับทั้งผู้บริหารและผู้ถือหุ้น
เบี้ยรับประกันวินาศภัย รายได้มาจาก2ทาง คือจากการขายเอง และ ร่วมกับพันธมิตร
ตั้งแต่ปลายปี59 ผ่านโครงการเฉพาะเจาะจงที่ร่วมกับพันธมิตรรายได้ส่วนนี้ลดลง
และยกเลิกการเป็นพันธมิตรไปช่วงกลางปี60 ทำให้ยอดขายส่วนนี้ลดลง
แต่สัดส่วนในการต่ออายุประกันวินาศภัย เป้าไม่ต่ำกว่า76% เราได้72%ในปีที่แล้ว
ส่วนเบี้ยประกันชีวิต เราร่วมกับpartnerรายใหม่ แต่ช่วงแรกยอดรายได้ลดลง14%
เบี้ยแยกเป็นสองส่วน คือนายหน้า และ ค่าบริการ
เบี้ยประกันวินาศภัยลดลง 130 เหลือ 104 ลบ
แต่มีสองตัว 5.51ลบ (4%)เป็นรายได้ค่าบริการอื่นๆมาจากสองส่วน
1. รายได้ดอกเบี้ยรับจากplatformปล่อยกู้
2. ที่เหลือลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อค้า คือลงทุนในกองทุนรวม
รายได้จากดำเนินงานรวมรายได้อื่น ลดลงจาก 164 เหลือ 139 ลบ
กำไรสุทธิ ลดลงเหลือ 8.74%
ค่าใช้การบริหารเพิ่มขึ้น 34 to 45 ลบ
GP ลดลง จาก 66% to 52%
สินทรัพย์รวมลดลง6.2% จากไปลงทุนdaingern.com
Equity ลดลงจากการจ่ายเงินปันผล
ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
1. การปรับปรุงรายการรายได้ค่าบริการอื่นเป็นค่าใช้จ่ายการบริหารซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารครั้งเดียว
2. การเพิ่มจำนวนพนักงาน platformสินเชื่อส่วนบุคคล
3.ค่าสอบบัญชี และ ค่าที่ปรึกษากฏหมาย
4.การพัฒนาระบบ อุปกรณ์ และพื้นที่
อับเดท
1. ยอดขายออนไลน์
เราทำการตลาดอย่างระมัดระวัง ยังไม่มากเมื่อเทียบกับยอดขายรวม
ปกติคนชอบทำธุรกรรมผ่านพนักงาน การเปลี่ยนแปลงไปทำธุรกรรมแบบออนไลน์
ในที่สุดจะเกิดธุรกรรมออนไลน์เยอะมาก ซึ่งจะค่อยๆเกิดขึ้นในอนาคต เรายังโฟกัสoohoo
เราไม่ได้ใช้งบการตลาดสูง รอโอกาสอยู่ แต่มีการพัฒนาplatformยังต่อเนื่องเพื่อให้สมบูรณ์
เมื่อตลาดพร้อมเมื่อไหร่ ตอนนั้นเราก็พร้อมโตกับตลาด
2. ASN Prompt
การตลาดผ่านนายหน้าอิสระที่ได้รับใบอนุญาตจากคปภ มากขึ้น
เราเห็นช่องว่าง ถ้ามีพัฒนาplatformที่นายหน้าสามารถเปรียบเทียบ
ค่าใช้จ่ายของแต่ละแบบ ซึ่งเหมาะกับเขาในทำผ่านออนไลน์
ปีนี้เราจะทำตลาดส่วนนี้ไปสู่นายหน้าอิสระ เป็นช่องทางในการ
เพิ่มรายได้อีกช่องทาง โดยมีส่วนการตลาดไปติดต่อนายหน้า
หรือ อู่ต่ออายุ (อู่ตรอ) สำหรับรถเกินเจ็ดปี ซึ่งมีการตรวจเช็ครถที่อู่ก่อนต่อพรบ
สามารถซื้อพรบ หรือ ประกันภาคสมัครใจ เชื่อว่าผลตอบแทนจูงใจ
ใช้คนsupport หลังบ้านชุดเดียวกับ telesales ไม่ได้ใช้คนใหม่
3. ธุรกิจได้เงิน( daingern+ )ได้ลูกค้ามา 340สัญญา เป็นโครงการที่ใช้ทรัพยากร
ค่อนข้างเยอะ หลายคนเห็นว่ามีความเสี่ยง เราจะระมัดระวังในการขอสินเชื่อ
และดูสภาพแวดล้อมก่อนขยายต่อไปอีก
การทำตลาดเป็นเรื่องถนัดในการทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ เรายังไม่มีสาขา
เรามีเป้าหมาย ในการจับคู่สินเชื่อเพิ่มเติมอีก
รายละเอียดดูได้จาก website : www.daingern.com
จะมีรายละเอียดรถรุ่นไหน นักลงทุนจะได้มุมมองของคนกู้ รถกี่ปี
คำถาม ผู้ถามมาสายเลยขอภาพรวมของบริษัท และเหตุผลที่ขาดทุน
ตอบ เรามีบริษัทแม่ที่list on MAI เราทำนายหน้าประกันภัย
เรามีบริษัทลูก 2 บริษัท คือ
1.ASN Life บริษัทลูกทำนายหน้าประกันชีวิต
2.อีกบริษัท daingern.com ทำFin-tech ธุรกรรมทางการเงิน
ติดตามหนี้ ได้รายได้เพิ่มเติม
รายได้2.3ลบ คิดเป็นสัญญา 340สัญญา เนื่องจากเป็นธุรกิจใหม่ยังติดลบอยู่
สัดส่วน75%เป็นประกันวินาศภัย
วินาศภัยลดลง24% จากการยกเลิกวินาศภัยที่เป็นpartner
เราพยายามทำจากฐานข้อมูลของเรา เราพยายามปรับเปลี่ยนทีม
คุณธวัชชัย เลิศรุ่งเรือง เสริมว่า เรามีความผิดพลาดเนื่องจากว่า
ในอดีต เราขายวินาศภัยเราไม่ต้องการpartnerเลบ
แต่เมื่อ7-10ปีที่แล้ว เราอยากหลีกเลี่ยงพรบ คุ้มครองส่วนบุคคลเลยมีpartnerเกิดขึ้น
รายได้ที่มีคู่ค้า ทำให้กำไรของเราต่ำลง เพราะต้องแบ่งส่วนกำไรให้กับpartnerด้วย
พอร์ตเราใหญ่ขึ้น แต่marginสู้แบบขายเองไม่ได้
ถึงจุดที่มีปัญหากับคู่ค้า เราเลิกดีกว่า เราไม่ลำบากใจที่เสียไป
บริษัทเสียseat 50ที่ไป ต้องใช้เวลา และข้อเสียเรื่องนี้คือลูกค้าสำหรับปีต่ออายุหายไป
แต่ข้อดี เราพยายามคนมาเติม และ marginจะดีขึ้น
ในระยะยาวกำไรจะดีกว่าเดิม
ลูกคัาหลักๆจากการโทรไปขาย จากฐานข้อมูลของเราเอง
เราเป็นโบรกเกอร์ หรือ นายหน้าประกันภัย
เราจะใช้เวลาสักระยะนึงmarginจะดีขึ้น
เรามีตัวเลขการขายต่อseat
Oohoo.comสามารถซื้อตรงเกี่ยวกับประกันรถยนต์และการเดินทาง
ข้อสอง ประกันชีวิตที่เราทำโครงการนึงไว้ แล้วยกเลิกอาจกระทบบ้างปีนี้
ไม่น่าจะกระทบในปีนี้ เป้าปีนี้นายหน้าประกันโต15%จากปี60
คำถาม ASN prompt capexเท่าไหร่
ตอบ เป็นโครงการที่ใช้infra ของ ASN ไม่ได้แยกออกมา
ธุรกิจdaingern ดอกเบี้ยค่อนข้างถูกไม่ค่อยได้โฆษณา
เราโตกว่านี้ก็อาจไม่ได้ประโยชน์ เราพึ่งทำ เรากังวลว่า NPLจะเป็นเท่าไหร่
เราปล่อยไป 100 ลบ แต่ไม่ค่อยมีNPL เราพยายามคุมไม่ให้เกิน1%
Break evenภายในสิ้นปี ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน
เราต้องการโตอาจหาผู้ร่วมลงทุนข้างนอกได้
ASP Promptมียอดขายทุกวัน พึ่งเปิดมาสองเดือน
คำถาม daingern.com รายได้เท่าไหร่
ตอบ เราคิดดอกเบี้ยทั้งหมด15%แต่เจ้าอื่นจะมี15%plus
NPL เวลาคิดตามธนาคารแห่งประเทศไทย หนี้เกิน90วันถือเป็นNPL
เรามีวิธีติดตามหนี้ไม่เกิน60วันใช้พนักงานของเรา
แต่ถ้าเกิน60วัน จะใช้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ติดตาม
ธุรกิจdaingernคล้ายจำนำทะเบียนรถยนต์
แต่ผู้กู้จะคิดว่ากู้ได้เงินสด ไม่ได้คำนึงถึงจำนำทะเบียน
การจับคู่สินเชื่อยังรวมถึง personal loan , Factoring ได้ด้วย
แต่เป้า1% NPLสำหรับจำนำทะเบียนรถ แต่ถ้าเป็นแบบอื่นอาจสูงกว่าได้
Peer to peer lending ผู้ปล่อยกู้ได้8-9% ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยไม่เกิน 15%
ส่วนหลักทรัพย์รถยนต์มีสภาพคล่องสูง แต่ค่าเสื่อมเยอะ เลยปล่อยได้max70%
หนังสือรายงานประจำปีในหน้า43ผิด ตัวเลขที่ถูกต้องคือกำไรในส่วนงบการเงินบริษัทย่อย
แต่ไปโชว์ตัวเลขกำไรในงบการเงินรวม และตัวเลขเงินปันผลก็ผิด จะแก้ไขและแจ้งตลทภายหลัง
แต่หนังสือเชิญประชุมตัวเลขถูกต้อง
คุณธวัชชัย เลิศรุ่งเรือง ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเป็นประธานในที่ประชุมกล่าวเปิดประชุม
วาระที่สอง
คุณธวัชชัย ชีวานนท์ซึ่งเป็น CEO ชี้แจงเรื่องการเปลี่ยนแปลงทำธุรกิจ
ในเรื่องการทำPeer to peer lending จับคู่คนให้ยืมกับคนยืมเงิน
เรื่องนายหน้าประกันภัย ผลประกอบการน่าผิดหวังสำหรับทั้งผู้บริหารและผู้ถือหุ้น
เบี้ยรับประกันวินาศภัย รายได้มาจาก2ทาง คือจากการขายเอง และ ร่วมกับพันธมิตร
ตั้งแต่ปลายปี59 ผ่านโครงการเฉพาะเจาะจงที่ร่วมกับพันธมิตรรายได้ส่วนนี้ลดลง
และยกเลิกการเป็นพันธมิตรไปช่วงกลางปี60 ทำให้ยอดขายส่วนนี้ลดลง
แต่สัดส่วนในการต่ออายุประกันวินาศภัย เป้าไม่ต่ำกว่า76% เราได้72%ในปีที่แล้ว
ส่วนเบี้ยประกันชีวิต เราร่วมกับpartnerรายใหม่ แต่ช่วงแรกยอดรายได้ลดลง14%
เบี้ยแยกเป็นสองส่วน คือนายหน้า และ ค่าบริการ
เบี้ยประกันวินาศภัยลดลง 130 เหลือ 104 ลบ
แต่มีสองตัว 5.51ลบ (4%)เป็นรายได้ค่าบริการอื่นๆมาจากสองส่วน
1. รายได้ดอกเบี้ยรับจากplatformปล่อยกู้
2. ที่เหลือลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อค้า คือลงทุนในกองทุนรวม
รายได้จากดำเนินงานรวมรายได้อื่น ลดลงจาก 164 เหลือ 139 ลบ
กำไรสุทธิ ลดลงเหลือ 8.74%
ค่าใช้การบริหารเพิ่มขึ้น 34 to 45 ลบ
GP ลดลง จาก 66% to 52%
สินทรัพย์รวมลดลง6.2% จากไปลงทุนdaingern.com
Equity ลดลงจากการจ่ายเงินปันผล
ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
1. การปรับปรุงรายการรายได้ค่าบริการอื่นเป็นค่าใช้จ่ายการบริหารซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารครั้งเดียว
2. การเพิ่มจำนวนพนักงาน platformสินเชื่อส่วนบุคคล
3.ค่าสอบบัญชี และ ค่าที่ปรึกษากฏหมาย
4.การพัฒนาระบบ อุปกรณ์ และพื้นที่
อับเดท
1. ยอดขายออนไลน์
เราทำการตลาดอย่างระมัดระวัง ยังไม่มากเมื่อเทียบกับยอดขายรวม
ปกติคนชอบทำธุรกรรมผ่านพนักงาน การเปลี่ยนแปลงไปทำธุรกรรมแบบออนไลน์
ในที่สุดจะเกิดธุรกรรมออนไลน์เยอะมาก ซึ่งจะค่อยๆเกิดขึ้นในอนาคต เรายังโฟกัสoohoo
เราไม่ได้ใช้งบการตลาดสูง รอโอกาสอยู่ แต่มีการพัฒนาplatformยังต่อเนื่องเพื่อให้สมบูรณ์
เมื่อตลาดพร้อมเมื่อไหร่ ตอนนั้นเราก็พร้อมโตกับตลาด
2. ASN Prompt
การตลาดผ่านนายหน้าอิสระที่ได้รับใบอนุญาตจากคปภ มากขึ้น
เราเห็นช่องว่าง ถ้ามีพัฒนาplatformที่นายหน้าสามารถเปรียบเทียบ
ค่าใช้จ่ายของแต่ละแบบ ซึ่งเหมาะกับเขาในทำผ่านออนไลน์
ปีนี้เราจะทำตลาดส่วนนี้ไปสู่นายหน้าอิสระ เป็นช่องทางในการ
เพิ่มรายได้อีกช่องทาง โดยมีส่วนการตลาดไปติดต่อนายหน้า
หรือ อู่ต่ออายุ (อู่ตรอ) สำหรับรถเกินเจ็ดปี ซึ่งมีการตรวจเช็ครถที่อู่ก่อนต่อพรบ
สามารถซื้อพรบ หรือ ประกันภาคสมัครใจ เชื่อว่าผลตอบแทนจูงใจ
ใช้คนsupport หลังบ้านชุดเดียวกับ telesales ไม่ได้ใช้คนใหม่
3. ธุรกิจได้เงิน( daingern+ )ได้ลูกค้ามา 340สัญญา เป็นโครงการที่ใช้ทรัพยากร
ค่อนข้างเยอะ หลายคนเห็นว่ามีความเสี่ยง เราจะระมัดระวังในการขอสินเชื่อ
และดูสภาพแวดล้อมก่อนขยายต่อไปอีก
การทำตลาดเป็นเรื่องถนัดในการทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ เรายังไม่มีสาขา
เรามีเป้าหมาย ในการจับคู่สินเชื่อเพิ่มเติมอีก
รายละเอียดดูได้จาก website : www.daingern.com
จะมีรายละเอียดรถรุ่นไหน นักลงทุนจะได้มุมมองของคนกู้ รถกี่ปี
คำถาม ผู้ถามมาสายเลยขอภาพรวมของบริษัท และเหตุผลที่ขาดทุน
ตอบ เรามีบริษัทแม่ที่list on MAI เราทำนายหน้าประกันภัย
เรามีบริษัทลูก 2 บริษัท คือ
1.ASN Life บริษัทลูกทำนายหน้าประกันชีวิต
2.อีกบริษัท daingern.com ทำFin-tech ธุรกรรมทางการเงิน
ติดตามหนี้ ได้รายได้เพิ่มเติม
รายได้2.3ลบ คิดเป็นสัญญา 340สัญญา เนื่องจากเป็นธุรกิจใหม่ยังติดลบอยู่
สัดส่วน75%เป็นประกันวินาศภัย
วินาศภัยลดลง24% จากการยกเลิกวินาศภัยที่เป็นpartner
เราพยายามทำจากฐานข้อมูลของเรา เราพยายามปรับเปลี่ยนทีม
คุณธวัชชัย เลิศรุ่งเรือง เสริมว่า เรามีความผิดพลาดเนื่องจากว่า
ในอดีต เราขายวินาศภัยเราไม่ต้องการpartnerเลบ
แต่เมื่อ7-10ปีที่แล้ว เราอยากหลีกเลี่ยงพรบ คุ้มครองส่วนบุคคลเลยมีpartnerเกิดขึ้น
รายได้ที่มีคู่ค้า ทำให้กำไรของเราต่ำลง เพราะต้องแบ่งส่วนกำไรให้กับpartnerด้วย
พอร์ตเราใหญ่ขึ้น แต่marginสู้แบบขายเองไม่ได้
ถึงจุดที่มีปัญหากับคู่ค้า เราเลิกดีกว่า เราไม่ลำบากใจที่เสียไป
บริษัทเสียseat 50ที่ไป ต้องใช้เวลา และข้อเสียเรื่องนี้คือลูกค้าสำหรับปีต่ออายุหายไป
แต่ข้อดี เราพยายามคนมาเติม และ marginจะดีขึ้น
ในระยะยาวกำไรจะดีกว่าเดิม
ลูกคัาหลักๆจากการโทรไปขาย จากฐานข้อมูลของเราเอง
เราเป็นโบรกเกอร์ หรือ นายหน้าประกันภัย
เราจะใช้เวลาสักระยะนึงmarginจะดีขึ้น
เรามีตัวเลขการขายต่อseat
Oohoo.comสามารถซื้อตรงเกี่ยวกับประกันรถยนต์และการเดินทาง
ข้อสอง ประกันชีวิตที่เราทำโครงการนึงไว้ แล้วยกเลิกอาจกระทบบ้างปีนี้
ไม่น่าจะกระทบในปีนี้ เป้าปีนี้นายหน้าประกันโต15%จากปี60
คำถาม ASN prompt capexเท่าไหร่
ตอบ เป็นโครงการที่ใช้infra ของ ASN ไม่ได้แยกออกมา
ธุรกิจdaingern ดอกเบี้ยค่อนข้างถูกไม่ค่อยได้โฆษณา
เราโตกว่านี้ก็อาจไม่ได้ประโยชน์ เราพึ่งทำ เรากังวลว่า NPLจะเป็นเท่าไหร่
เราปล่อยไป 100 ลบ แต่ไม่ค่อยมีNPL เราพยายามคุมไม่ให้เกิน1%
Break evenภายในสิ้นปี ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน
เราต้องการโตอาจหาผู้ร่วมลงทุนข้างนอกได้
ASP Promptมียอดขายทุกวัน พึ่งเปิดมาสองเดือน
คำถาม daingern.com รายได้เท่าไหร่
ตอบ เราคิดดอกเบี้ยทั้งหมด15%แต่เจ้าอื่นจะมี15%plus
NPL เวลาคิดตามธนาคารแห่งประเทศไทย หนี้เกิน90วันถือเป็นNPL
เรามีวิธีติดตามหนี้ไม่เกิน60วันใช้พนักงานของเรา
แต่ถ้าเกิน60วัน จะใช้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ติดตาม
ธุรกิจdaingernคล้ายจำนำทะเบียนรถยนต์
แต่ผู้กู้จะคิดว่ากู้ได้เงินสด ไม่ได้คำนึงถึงจำนำทะเบียน
การจับคู่สินเชื่อยังรวมถึง personal loan , Factoring ได้ด้วย
แต่เป้า1% NPLสำหรับจำนำทะเบียนรถ แต่ถ้าเป็นแบบอื่นอาจสูงกว่าได้
Peer to peer lending ผู้ปล่อยกู้ได้8-9% ผู้กู้จ่ายดอกเบี้ยไม่เกิน 15%
ส่วนหลักทรัพย์รถยนต์มีสภาพคล่องสูง แต่ค่าเสื่อมเยอะ เลยปล่อยได้max70%
หนังสือรายงานประจำปีในหน้า43ผิด ตัวเลขที่ถูกต้องคือกำไรในส่วนงบการเงินบริษัทย่อย
แต่ไปโชว์ตัวเลขกำไรในงบการเงินรวม และตัวเลขเงินปันผลก็ผิด จะแก้ไขและแจ้งตลทภายหลัง
แต่หนังสือเชิญประชุมตัวเลขถูกต้อง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 843
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 23
AGM THANI 3/4/61
ภาพรวมตลาดปี 2560 บริษัทมีการเติบโตทุกภาคส่วน สินทรัพย์โต 18% กำไรเติบโต 27%
สินค้าหลัก –รถบรรทุกใหม่และรถบรรทุกเก่า
ปัจจัยที่ทำให้บริษัทเติบโต
1.จากรัฐบาลที่มีการลงทุน ปี 60 เป็นปีแรกที่รัฐลงทุนไปในทุกภาคส่วน รถบรรทุกโตมาก รถขุด,รถตัก ทำให้ตลาดคึกคัก
2.การฟื้นตัวของของโรงสี ทำให้มีการกลับมาซื้อรถ
3.การท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว 30 ล้านคนที่เข้ามา ทำให้รถตู้ทึบที่ขนส่งสินค้าเพื่อบริโภค การขนส่งระหว่างเพื่อนบ้าน > พม่า ราคาน้ำมันในระดับต่ำ
E-Commerce โลจิสติกส์เติบโต สินค้าที่ส่งใช้รถบรรทุก ใหญ่ ,กลาง ,เล็ก ตลาดโลจิสติกส์ 90% เป็นทางบก ต้องพึ่งรถบรรทุก
การทำกำไร เราขยายสินเชื่อได้ , NPL ลด , ต้นทุนทางการเงินลดลง ถึงแม้จะมีข่าวดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้น แต่ดอกเบี้ยยังไม่ไปไหน
ปี 2562 จะมีมาตรฐาน IFRS9 ทำให้บริษัทต้องมีการตั้ง Provision เพิ่ม บริษัทได้เตรียมตัวแล้ว
- บริษัทจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญ 4 : 1 จ่ายเป็นเงินสด 0.03 บาท
XD 9 มีนาคม 2561 จ่าย วันที่ 27 เมษายน 2561
ปีปัจจุบันตั้งสินเชื่อ เดือนละ 2000ล้านบาท ปี 24000 ล้านบาท โต 15%
THANI มีความคล่องตัวในการที่จะไปสู้กับคู่แข่งได้ การขยายสินเชื่อที่มีอยู่ และสินเชื่อเกรด A แม้ส่วนต่างดอกเบี้ยลดลง แต่เราก็ได้สินเชื่อที่ดีขึ้น
Q1 ปี 2561 ยังไม่มีสัญญาณติดลบ
ความเสี่ยงของเราอยู่ที่การเมือง เมื่อมีการเปลี่ยนขั้นอำนาจ นโยบายเปลี่ยนไหม เราก็ยังเฝ้าดูสถานการณ์ตลอด
ภาพรวมตลาดปี 2560 บริษัทมีการเติบโตทุกภาคส่วน สินทรัพย์โต 18% กำไรเติบโต 27%
สินค้าหลัก –รถบรรทุกใหม่และรถบรรทุกเก่า
ปัจจัยที่ทำให้บริษัทเติบโต
1.จากรัฐบาลที่มีการลงทุน ปี 60 เป็นปีแรกที่รัฐลงทุนไปในทุกภาคส่วน รถบรรทุกโตมาก รถขุด,รถตัก ทำให้ตลาดคึกคัก
2.การฟื้นตัวของของโรงสี ทำให้มีการกลับมาซื้อรถ
3.การท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว 30 ล้านคนที่เข้ามา ทำให้รถตู้ทึบที่ขนส่งสินค้าเพื่อบริโภค การขนส่งระหว่างเพื่อนบ้าน > พม่า ราคาน้ำมันในระดับต่ำ
E-Commerce โลจิสติกส์เติบโต สินค้าที่ส่งใช้รถบรรทุก ใหญ่ ,กลาง ,เล็ก ตลาดโลจิสติกส์ 90% เป็นทางบก ต้องพึ่งรถบรรทุก
การทำกำไร เราขยายสินเชื่อได้ , NPL ลด , ต้นทุนทางการเงินลดลง ถึงแม้จะมีข่าวดอกเบี้ยจะเป็นขาขึ้น แต่ดอกเบี้ยยังไม่ไปไหน
ปี 2562 จะมีมาตรฐาน IFRS9 ทำให้บริษัทต้องมีการตั้ง Provision เพิ่ม บริษัทได้เตรียมตัวแล้ว
- บริษัทจ่ายปันผลเป็นหุ้นสามัญ 4 : 1 จ่ายเป็นเงินสด 0.03 บาท
XD 9 มีนาคม 2561 จ่าย วันที่ 27 เมษายน 2561
ปีปัจจุบันตั้งสินเชื่อ เดือนละ 2000ล้านบาท ปี 24000 ล้านบาท โต 15%
THANI มีความคล่องตัวในการที่จะไปสู้กับคู่แข่งได้ การขยายสินเชื่อที่มีอยู่ และสินเชื่อเกรด A แม้ส่วนต่างดอกเบี้ยลดลง แต่เราก็ได้สินเชื่อที่ดีขึ้น
Q1 ปี 2561 ยังไม่มีสัญญาณติดลบ
ความเสี่ยงของเราอยู่ที่การเมือง เมื่อมีการเปลี่ยนขั้นอำนาจ นโยบายเปลี่ยนไหม เราก็ยังเฝ้าดูสถานการณ์ตลอด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 24
AGM PTT
cr สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -12 เม.ย. 61 16:56 น.
ที่ประชุมผู้ถือหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ไฟเขียว แตกพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท คาดเริ่มซื้อขายพาร์ใหม่ในต้นเดือน พ.ค.นี้ ส่วนการขายทรัพย์สินในธุรกิจปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซีย ดำเนินการแล้ว 4 โครงการ ส่วนที่เหลือ 1 โครงการคาดแล้วเสร็จใน 1-2 ปี
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ว่า ที่ประชุมอนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) จากเดิมหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท โดยการแตกพาร์จะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงหุ้นบริษัทได้มากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าการซื้อขายพาร์ใหม่จะเริ่มได้ในต้นเดือน พ.ค. นี้
การเปลี่ยนแปลงพาร์จะไม่ทำให้ทุนจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง และไม่มีมีผลกระทบต่อมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น PTT และไม่ส่งผลกระทบ Dilution Effect ต่อผู้ถือหุ้น
ส่วนความคืบหน้ากรณีการบริหารจัดการธุรกิจปาล์มน้ำมันในประเทศอินโดนีเซียที่ PTT เข้าไปลงทุนก่อนหน้านี้ว่า ปัจจุบันบริษัทได้ขายธุรกิจปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซียแล้วรวม 4 โครงการ จากที่เคยลงทุนทั้งหมด 5 โครงการ ส่วนที่เหลืออีก 1 โครงการ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในช่วง 1-2 ปี
โดยการขายธุรกิจปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซีย เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ส่วนความคืบหน้าต่างๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งได้มีการยื่นฟ้องแพ่งต่อผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกับโครงการ
cr สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -12 เม.ย. 61 16:56 น.
ที่ประชุมผู้ถือหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ไฟเขียว แตกพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท คาดเริ่มซื้อขายพาร์ใหม่ในต้นเดือน พ.ค.นี้ ส่วนการขายทรัพย์สินในธุรกิจปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซีย ดำเนินการแล้ว 4 โครงการ ส่วนที่เหลือ 1 โครงการคาดแล้วเสร็จใน 1-2 ปี
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เปิดเผยในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ว่า ที่ประชุมอนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) จากเดิมหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท โดยการแตกพาร์จะช่วยเพิ่มสภาพคล่อง ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงหุ้นบริษัทได้มากขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าการซื้อขายพาร์ใหม่จะเริ่มได้ในต้นเดือน พ.ค. นี้
การเปลี่ยนแปลงพาร์จะไม่ทำให้ทุนจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง และไม่มีมีผลกระทบต่อมูลค่าที่แท้จริงของหุ้น PTT และไม่ส่งผลกระทบ Dilution Effect ต่อผู้ถือหุ้น
ส่วนความคืบหน้ากรณีการบริหารจัดการธุรกิจปาล์มน้ำมันในประเทศอินโดนีเซียที่ PTT เข้าไปลงทุนก่อนหน้านี้ว่า ปัจจุบันบริษัทได้ขายธุรกิจปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซียแล้วรวม 4 โครงการ จากที่เคยลงทุนทั้งหมด 5 โครงการ ส่วนที่เหลืออีก 1 โครงการ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในช่วง 1-2 ปี
โดยการขายธุรกิจปาล์มน้ำมันในอินโดนีเซีย เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ส่วนความคืบหน้าต่างๆ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งได้มีการยื่นฟ้องแพ่งต่อผู้ที่เคยเกี่ยวข้องกับโครงการ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 25
AGM BIG 11 APR 18 14.00
คุณชาญ เธียรกาญจนวงศ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร / รักษาการกรรมการผู้จัดการ
กล่าวเปิดการประชุม และให้คุณธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ มาอัปเดทผลประกอบการปีที่แล้ว
บริษัทยังคงสามารถรักษาผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจแม้ว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไวจาก
สภาพเศรษฐกิจและการชะลอตัวของการจับจ่ายของผู้บริโภคในช่วงเหตุการณ์สำคัญของชาวไทย
ในปี2560มีอัตราการเติบโตของรายได้รวมอยู่ที่ร้อยละ8 โดยมีรายได้รวม 6,043.10 ลบ กำไรสุทธิ ลดลง
จาก 827 ลบ เหลือ 774.43 ลบ กำไรสุทธิลดลง6%
กำไรต่อหุ้น 0.22 บาท อนุมัติจ่ายเงินปันผลที่ 0.13 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราปันผลต่อกำไรสุทธิที่ 58.98%
อัตรากำไรสุทธิลดลงจาก 14.81% มาที่ 12.82%
ยอดขายของQ1 2017 เติบโตต่อเนื่องจาก Q4 2016 แต่ช่วงเมษายน 2016หลังสงกรานต์ ค้าปลีกค่อนข้าง
ซบเซาอย่างฉับพลันจนถึง Q3 2017
การใช้เงินค่อนข้างหายไปเลย ปกติกล้องอิงกับการท่องเที่ยวเป็นหลัก ปีไหนมีการส่งเสริมการท่องเที่ยว กล้องก็ดีตาม
ปีที่แล้ว กำลังซื้อผู้บริโภคระดับกลางลงไปล่าง ซึ่งจะซื้อกล้องราคาในช่วง 10,000ปลาย-20,000 หายไป
ท่องเที่ยวซึม ไม่มีการกระตุ้น moodจับจ่ายกล้องน้อยลง
แต่เซตเมนต์ในระดับกลางบนยังดี ที่ไม่achieve คือline up กลางล่างเงียบ
ปีที่แล้วกล้องใหม่ออกมาในระดับกลางบน ทำให้ตลาดกลางบนยังโต แต่ไม่สามารถทดแทนกลางล่างได้
moodท่องเที่ยวมาตั้งแต่Q4 2017 ต่อเนื่องถึงปีนี้ มีสินค้าใหม่ระดับกลางซึ่งเป็นฐานใหญ่ของเราเข้ามา
ปีนี้มีการเพิ่มสินค้าline upมากขึ้น เพราะการถ่ายภาพมีความหลากหลายมาก
เลยต้องหาsolutionมาตอบสนองลูกค้ามากขึ้น
ช่องทางจัดจำหน่าย เพิ่มจาก 252 สาขามาเป็น 272 สาขา การเติบโตมาจากการเพิ่ม SSS growth ให้สูงขึ้น
ซึ่งมาจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์มากขึ้น Robinsonเปิดสาขาใหม่เราก็เปิดตาม ส่วนสาขาเล็กๆอาจมีการปิด
ทำให้สาขา +/- ใกล้เคียงเดิม แต่ยอดขายต่อสาขาขยับขึ้น
ตอนนี้รายได้มาจากกล้องถ่ายภาพเป็นหลัก คิดเป็น 91% ของยอดขาย
อันดับสอง คือ อุปกรณ์สื่อสาร 8% ของยอดขาย
อันดับสาม คือ ภาพพิมพ์ 1% ของยอดขาย แต่GPค่อนข้างสูง มีผลต่อกำไรของบริษัทในอนาคต
ส่วนของมือถือโต 7-8% เราเริ่มแตกไปในsolutionอื่นมากขึ้น
กล้องระดับราคาประมาณ20,000บาทเริ่มเข้ามาตั้งแต่ กพ-มีค ค่อนข้างเยอะจนถึงสิ้นปี จะดึงกำลังซื้อได้
ปีนี้จะมีอัตราการเติบโตของยอดขาย บวกกับ moodท่องเที่ยวช่วยด้วย
คำถาม Big mobile ปีที่แล้วจะเปิด 50 สาขา แต่ได้ 42 สาขาเพราะอะไร
และ moodจับจ่ายปีนี้ดีขึ้น มีอะไรที่เห็นชัดๆ
ตอบ
Target 50 สาขา สิ้นปีที่แล้วทำได้ 44 สาขา เพราะการปิดบางlocationและปรับปรุงบางสาขา บางสาขายังเปิดเพราะ
มีการเลื่อนเปิดของห้างสรรพสินค้าด้วย
กล้องQ2 17 ที่ขายได้น้อย เพราะคนเดินห้างน้อยลงตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์ การท่องเที่ยวปีที่แล้วแผ่วมาก
แต่พอQ4 2017 ยอดขายตามeventดีขึ้น การท่องเที่ยวน่าจะกลับมา ปีนี้การออกไปเที่ยวต่างจังหวัด/ต่างประเทศมากขึ้น กำลังซื้อฟื้นจากปลายปีที่แล้ว แต่เราไม่คาดหวังจะโตมาก และ Line up ปีนี้จะทำให้ธุรกิจกล้องของเราแข็งแรงขึ้น
การนำBNK48มาเป็นpresentor , การทำ bunting exclusive product ลูกค้าซื้อสินค้าจากเราเยอะ
ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น สรุป ท่องเที่ยวกับproductทำให้โตในปีนี้
ยอดขายBig mobile SSS ยังโตอยู่ มาจากการเปิดสาขาใหม่ด้วย แต่มีสาขาเล็ก/ trafficไม่ดี ก็ปิดไป
ถ้าเฉลี่ยSSSสาขาเดิมยังโตอยู่ ปีที่แล้ว 30% เพราะbaseเราค่อนข้างเล็ก
Q1 18 เทียบกับ Q1 17 ที่ฐานสูง สินค้าใหม่เข้ามากลางQ1 ดังนั้นยังไม่เห็นชัดในQ แต่ถ้าดูรายเดือนจะเห็นชัดกว่า
คำถาม สินค้าคงเหลือ Q1 มีสินค้าใหม่มา แล้วสินค้าเก่าที่ค้างอยู่ มีปัญหาค่าเสื่อมหรือล้าสมัยหรือไม่
ตอบ Stockสินค้ามีสองส่วน ในช่วงQ2 2017 ที่ขายไม่ดี แต่เราต้องForcastล่วงหน้าก่อนมาขาย3-6เดือน
ทำให้stockบวม ปัจจุบันสินค้าที่ล้าสมัยได้clearไปแล้วตอนสิ้นปี สินค้าตัวล่างเหลือน้อยมาก ส่วนใหญ่ที่เหลือเป็นสินค้า
ระดับกลางบน ปีที่แล้วก็ไม่ได้ตั้งสำรองเพิ่มเท่าไหร่ มูลค่าสูงมาจากกล้องกลางบน
D/E ratioต่ำลงในปีที่แล้ว
คุณชาญ เธียรกาญจนวงศ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร / รักษาการกรรมการผู้จัดการ
กล่าวเปิดการประชุม และให้คุณธนสิทธิ์ เธียรกาญจนวงศ์ มาอัปเดทผลประกอบการปีที่แล้ว
บริษัทยังคงสามารถรักษาผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจแม้ว่าต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไวจาก
สภาพเศรษฐกิจและการชะลอตัวของการจับจ่ายของผู้บริโภคในช่วงเหตุการณ์สำคัญของชาวไทย
ในปี2560มีอัตราการเติบโตของรายได้รวมอยู่ที่ร้อยละ8 โดยมีรายได้รวม 6,043.10 ลบ กำไรสุทธิ ลดลง
จาก 827 ลบ เหลือ 774.43 ลบ กำไรสุทธิลดลง6%
กำไรต่อหุ้น 0.22 บาท อนุมัติจ่ายเงินปันผลที่ 0.13 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราปันผลต่อกำไรสุทธิที่ 58.98%
อัตรากำไรสุทธิลดลงจาก 14.81% มาที่ 12.82%
ยอดขายของQ1 2017 เติบโตต่อเนื่องจาก Q4 2016 แต่ช่วงเมษายน 2016หลังสงกรานต์ ค้าปลีกค่อนข้าง
ซบเซาอย่างฉับพลันจนถึง Q3 2017
การใช้เงินค่อนข้างหายไปเลย ปกติกล้องอิงกับการท่องเที่ยวเป็นหลัก ปีไหนมีการส่งเสริมการท่องเที่ยว กล้องก็ดีตาม
ปีที่แล้ว กำลังซื้อผู้บริโภคระดับกลางลงไปล่าง ซึ่งจะซื้อกล้องราคาในช่วง 10,000ปลาย-20,000 หายไป
ท่องเที่ยวซึม ไม่มีการกระตุ้น moodจับจ่ายกล้องน้อยลง
แต่เซตเมนต์ในระดับกลางบนยังดี ที่ไม่achieve คือline up กลางล่างเงียบ
ปีที่แล้วกล้องใหม่ออกมาในระดับกลางบน ทำให้ตลาดกลางบนยังโต แต่ไม่สามารถทดแทนกลางล่างได้
moodท่องเที่ยวมาตั้งแต่Q4 2017 ต่อเนื่องถึงปีนี้ มีสินค้าใหม่ระดับกลางซึ่งเป็นฐานใหญ่ของเราเข้ามา
ปีนี้มีการเพิ่มสินค้าline upมากขึ้น เพราะการถ่ายภาพมีความหลากหลายมาก
เลยต้องหาsolutionมาตอบสนองลูกค้ามากขึ้น
ช่องทางจัดจำหน่าย เพิ่มจาก 252 สาขามาเป็น 272 สาขา การเติบโตมาจากการเพิ่ม SSS growth ให้สูงขึ้น
ซึ่งมาจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์มากขึ้น Robinsonเปิดสาขาใหม่เราก็เปิดตาม ส่วนสาขาเล็กๆอาจมีการปิด
ทำให้สาขา +/- ใกล้เคียงเดิม แต่ยอดขายต่อสาขาขยับขึ้น
ตอนนี้รายได้มาจากกล้องถ่ายภาพเป็นหลัก คิดเป็น 91% ของยอดขาย
อันดับสอง คือ อุปกรณ์สื่อสาร 8% ของยอดขาย
อันดับสาม คือ ภาพพิมพ์ 1% ของยอดขาย แต่GPค่อนข้างสูง มีผลต่อกำไรของบริษัทในอนาคต
ส่วนของมือถือโต 7-8% เราเริ่มแตกไปในsolutionอื่นมากขึ้น
กล้องระดับราคาประมาณ20,000บาทเริ่มเข้ามาตั้งแต่ กพ-มีค ค่อนข้างเยอะจนถึงสิ้นปี จะดึงกำลังซื้อได้
ปีนี้จะมีอัตราการเติบโตของยอดขาย บวกกับ moodท่องเที่ยวช่วยด้วย
คำถาม Big mobile ปีที่แล้วจะเปิด 50 สาขา แต่ได้ 42 สาขาเพราะอะไร
และ moodจับจ่ายปีนี้ดีขึ้น มีอะไรที่เห็นชัดๆ
ตอบ
Target 50 สาขา สิ้นปีที่แล้วทำได้ 44 สาขา เพราะการปิดบางlocationและปรับปรุงบางสาขา บางสาขายังเปิดเพราะ
มีการเลื่อนเปิดของห้างสรรพสินค้าด้วย
กล้องQ2 17 ที่ขายได้น้อย เพราะคนเดินห้างน้อยลงตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์ การท่องเที่ยวปีที่แล้วแผ่วมาก
แต่พอQ4 2017 ยอดขายตามeventดีขึ้น การท่องเที่ยวน่าจะกลับมา ปีนี้การออกไปเที่ยวต่างจังหวัด/ต่างประเทศมากขึ้น กำลังซื้อฟื้นจากปลายปีที่แล้ว แต่เราไม่คาดหวังจะโตมาก และ Line up ปีนี้จะทำให้ธุรกิจกล้องของเราแข็งแรงขึ้น
การนำBNK48มาเป็นpresentor , การทำ bunting exclusive product ลูกค้าซื้อสินค้าจากเราเยอะ
ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น สรุป ท่องเที่ยวกับproductทำให้โตในปีนี้
ยอดขายBig mobile SSS ยังโตอยู่ มาจากการเปิดสาขาใหม่ด้วย แต่มีสาขาเล็ก/ trafficไม่ดี ก็ปิดไป
ถ้าเฉลี่ยSSSสาขาเดิมยังโตอยู่ ปีที่แล้ว 30% เพราะbaseเราค่อนข้างเล็ก
Q1 18 เทียบกับ Q1 17 ที่ฐานสูง สินค้าใหม่เข้ามากลางQ1 ดังนั้นยังไม่เห็นชัดในQ แต่ถ้าดูรายเดือนจะเห็นชัดกว่า
คำถาม สินค้าคงเหลือ Q1 มีสินค้าใหม่มา แล้วสินค้าเก่าที่ค้างอยู่ มีปัญหาค่าเสื่อมหรือล้าสมัยหรือไม่
ตอบ Stockสินค้ามีสองส่วน ในช่วงQ2 2017 ที่ขายไม่ดี แต่เราต้องForcastล่วงหน้าก่อนมาขาย3-6เดือน
ทำให้stockบวม ปัจจุบันสินค้าที่ล้าสมัยได้clearไปแล้วตอนสิ้นปี สินค้าตัวล่างเหลือน้อยมาก ส่วนใหญ่ที่เหลือเป็นสินค้า
ระดับกลางบน ปีที่แล้วก็ไม่ได้ตั้งสำรองเพิ่มเท่าไหร่ มูลค่าสูงมาจากกล้องกลางบน
D/E ratioต่ำลงในปีที่แล้ว
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 843
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 26
AGM TNP 11 เม.ย. 2561
บริษัท TNP เป็นบริษัทร้านค้าปลีกของคนท้องถิ่นบริษัทเดียว ที่เข้าสู่ตลาดทุนมากว่า 3ปีแล้ว เราได้แสดงให้เห็นว่าถ้ามีความมุ่งมั่น ตั้งใจ
เราก็ยังสามารถยืดหยัดอยู่ได้ ก็อยากให้การประชุมเป็นไปแบบเป็นกันเอง
ในปี 2560 บริษัทมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้น 4 สาขา ใน สาขาเชียงแสน , สาขาท่าวังทอง , สาขาเวียงชัย และ สาขาเชียงคำ
ปัจจุบัน TNP มีสาขา 19 สาขา ในจังหวัดเชียงรายและจังหวัดพะเยา เป็นไปตามแผนที่บริษัทวางไว้
บริษัทมีรายได้ 1607 ล้านบาท โต 10.4% การขายตามสาขา 85.8% , การขายส่ง 13.6% และรายได้อื่นๆเล็กน้อย
รายได้จากการขายและบริการ 1598 ล้านบาท
กำไรขั้นต้น 213 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 28.5 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 26 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายบุคลากรเนื่องจากมีสาขาที่เพิ่มขึ้น และค่าใช่จ่าย ค่าเสื่อมราคาจากศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่
กำไรสุทธิ 61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6 ล้านบาท = อัตรากำไรสุทธิ 3.8%
Q-ผลการดำเนินงาน จากภาวะเศรษฐกิจปีที่แล้วไม่ค่อยโต แต่เราก็ยังโตขึ้นได้ อยากเรียนถามว่าเราโตได้เพราะอะไร
A-ปีก่อนเพิ่ม 4 สาขา ผลตอบรับค่อนข้างดี เป็นไปตามที่เราคาดไว้ , SSSGที่โตนั้นจากปีก่อนที่ฐานต่ำ และมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้ามา 3 สาขา ทำให้ยอด 3 สาขานั้นโต บริษัทขอไป 10 กว่าสาขา แต่ได้มา 3 สาขา ค้าส่งลดลง เพราะเราขายปลีกเพิ่มขึ้น
Q-คู่แข่งที่เข้ามา
A-ยังแข่งขันได้ การทำการตลาดยังไม่เป็นอุปสรรค
Q-ศูนย์กระจายสินค้า
A-ยังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงระบบ
Q-เงินลงทุนชั่วคราวลดลงมากจากอะไร
A-เงินลงทุนชั่วคราวเป็นเงินที่ได้จากเงิน IPO เอาไปพักไว้ในเงินลงทุนชั่วคราว เงินนั้นเอาไปสร้างคลังสินค้าศูนย์กระจายสินค้า
บริษัทมีกำไรสุทธิ 60,223,138.91 บาท
จัดสรรเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย 3,011,516.95 บาท
XM 9 มี.ค. 2561 จ่ายเงินปันผล 0.015 บาท วันที่ 10 พ.ค. 2561
ในระหว่างกาลได้จ่ายไปเมื่อ 29 ส.ค. 2560 จ่าย 0.015 บาท คิดเป็นจ่าย 41.95%ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ
Q- แนวโน้มการเติบโตของบริษัทจะโตไปอย่างไร
A-บริษัทเพิ่งย้ายคลัง ก็เหมือนเริ่มนับ 1 ใหม่ ในปี 2561 ก็จะขยายสาขาแบบเดิมก่อน เพราะว่าเราต้องปรับระบบของเราให้ดีก่อน
ถ้าเรายังไม่พร้อมความเสียหายก็จะเยอะถ้าระบบหลังบ้านดี แล้วเราค่อยเดินหน้า ในปี 2561 ตามแผนเราจะขยาย 5 สาขา
ในจังหวัดเชียงรายและจังหวัดพะเยาไปก่อน การที่เราจะไปจังหวัดอื่นจะต้องมีการวางแผนอีก step นึง
ถ้าเรามอง ใน 3ปีข้างหน้า จังหวัดเชียงราย จะเห็นการเติบโตค่อนข้างมาก เพราะมันจะเป็นแหล่งของการลงทุนอีกมาก
ต้องรอให้ผ่านการเลือกตั้งไปก่อน ตอนนี้อะไรมันยังไม่ชัดเจนเราจะขยายสาขาในเชียงรายและพะเยาไปก่อน เพราะถ้าเราไปเร็วๆ
ความเสี่ยงมันจะสูง ก่อนที่เราจะไปเราจะทำแบรนด์ของเราให้แข็งแรง
มีเอาอาหารแช่แข็งมาลอง test ดู
บริษัท TNP เป็นบริษัทร้านค้าปลีกของคนท้องถิ่นบริษัทเดียว ที่เข้าสู่ตลาดทุนมากว่า 3ปีแล้ว เราได้แสดงให้เห็นว่าถ้ามีความมุ่งมั่น ตั้งใจ
เราก็ยังสามารถยืดหยัดอยู่ได้ ก็อยากให้การประชุมเป็นไปแบบเป็นกันเอง
ในปี 2560 บริษัทมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้น 4 สาขา ใน สาขาเชียงแสน , สาขาท่าวังทอง , สาขาเวียงชัย และ สาขาเชียงคำ
ปัจจุบัน TNP มีสาขา 19 สาขา ในจังหวัดเชียงรายและจังหวัดพะเยา เป็นไปตามแผนที่บริษัทวางไว้
บริษัทมีรายได้ 1607 ล้านบาท โต 10.4% การขายตามสาขา 85.8% , การขายส่ง 13.6% และรายได้อื่นๆเล็กน้อย
รายได้จากการขายและบริการ 1598 ล้านบาท
กำไรขั้นต้น 213 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 28.5 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 150 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 26 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายบุคลากรเนื่องจากมีสาขาที่เพิ่มขึ้น และค่าใช่จ่าย ค่าเสื่อมราคาจากศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่
กำไรสุทธิ 61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6 ล้านบาท = อัตรากำไรสุทธิ 3.8%
Q-ผลการดำเนินงาน จากภาวะเศรษฐกิจปีที่แล้วไม่ค่อยโต แต่เราก็ยังโตขึ้นได้ อยากเรียนถามว่าเราโตได้เพราะอะไร
A-ปีก่อนเพิ่ม 4 สาขา ผลตอบรับค่อนข้างดี เป็นไปตามที่เราคาดไว้ , SSSGที่โตนั้นจากปีก่อนที่ฐานต่ำ และมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้ามา 3 สาขา ทำให้ยอด 3 สาขานั้นโต บริษัทขอไป 10 กว่าสาขา แต่ได้มา 3 สาขา ค้าส่งลดลง เพราะเราขายปลีกเพิ่มขึ้น
Q-คู่แข่งที่เข้ามา
A-ยังแข่งขันได้ การทำการตลาดยังไม่เป็นอุปสรรค
Q-ศูนย์กระจายสินค้า
A-ยังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงระบบ
Q-เงินลงทุนชั่วคราวลดลงมากจากอะไร
A-เงินลงทุนชั่วคราวเป็นเงินที่ได้จากเงิน IPO เอาไปพักไว้ในเงินลงทุนชั่วคราว เงินนั้นเอาไปสร้างคลังสินค้าศูนย์กระจายสินค้า
บริษัทมีกำไรสุทธิ 60,223,138.91 บาท
จัดสรรเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย 3,011,516.95 บาท
XM 9 มี.ค. 2561 จ่ายเงินปันผล 0.015 บาท วันที่ 10 พ.ค. 2561
ในระหว่างกาลได้จ่ายไปเมื่อ 29 ส.ค. 2560 จ่าย 0.015 บาท คิดเป็นจ่าย 41.95%ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ
Q- แนวโน้มการเติบโตของบริษัทจะโตไปอย่างไร
A-บริษัทเพิ่งย้ายคลัง ก็เหมือนเริ่มนับ 1 ใหม่ ในปี 2561 ก็จะขยายสาขาแบบเดิมก่อน เพราะว่าเราต้องปรับระบบของเราให้ดีก่อน
ถ้าเรายังไม่พร้อมความเสียหายก็จะเยอะถ้าระบบหลังบ้านดี แล้วเราค่อยเดินหน้า ในปี 2561 ตามแผนเราจะขยาย 5 สาขา
ในจังหวัดเชียงรายและจังหวัดพะเยาไปก่อน การที่เราจะไปจังหวัดอื่นจะต้องมีการวางแผนอีก step นึง
ถ้าเรามอง ใน 3ปีข้างหน้า จังหวัดเชียงราย จะเห็นการเติบโตค่อนข้างมาก เพราะมันจะเป็นแหล่งของการลงทุนอีกมาก
ต้องรอให้ผ่านการเลือกตั้งไปก่อน ตอนนี้อะไรมันยังไม่ชัดเจนเราจะขยายสาขาในเชียงรายและพะเยาไปก่อน เพราะถ้าเราไปเร็วๆ
ความเสี่ยงมันจะสูง ก่อนที่เราจะไปเราจะทำแบรนด์ของเราให้แข็งแรง
มีเอาอาหารแช่แข็งมาลอง test ดู
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 27
AGM QH 18 APR 18 10.35
วาระที่2
คุณชัชชาติกล่าวว่า
ปีที่แล้วลดค่าใช้จ่าย โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วย
ปัจจัยบวก
เศรษฐกิจเติบโต GDP4% โดยโตจากส่งออก และ ท่องเที่ยว
รายละเอียดดูจากสไลด์
ส่วนปัจจัยลบ
มีผู้แข่งขันเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะส่วนที่มีbarrier to entry น้อย
ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์
• บ้านเดี่ยวโต 2.1%
• บ้านแฝด 55.4%
• ทาวน์เฮ้าส์ 12%
• คอนโด 24.3%
จำนวนหน่วยที่ขายแยกตามประเภท
หน่วยที่ขาย
• บ้านเดี่ยวโต 2.6%
• บ้านแฝด 46.8%
• ทาวน์เฮ้าส์ 13.5%
• คอนโด 1.3%
หน่วยที่เหลือขาย
• บ้านเดี่ยวโตลดลง 6.5%
• บ้านแฝดโตลดลง 9.7%
• ทาวน์เฮ้าส์เหลือเพิ่มขึ้น14.5%
• คอนโดเหลือเพิ่มขึ้น 24.3%
ภาพรวมที่เหลือขาย ภาคคอนโดเหลือเยอะขึ้น แสดงว่าover supply
คอนโด ต้องสร้างทั้งแท่ง
ส่วนบ้านเดี่ยว ทยอยสร้างได้ทยอยรับรุ้รายได้
บ้านเดี่ยว และ ทาวน์เฮ้าส์ ที่มีอยู่และจะสร้างใหม่ จะอยู่รอบนอกเพราะราคาที่ดินถูกกว่า
คอนโดเหลือขายแถวรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีส้ม
เราเชี่ยวชาญแนวราบ
ผลประกอบการ
ยอดขายทั้งปีลดลง แต่กำไรเพิ่มขึ้นจากการลดค่าใช้จ่ายและreduce d/e จาก 1.11 เหลือ 0.95 เท่า
ปี61 โตตามศก
ส่วนEEC ยังไม่ส่งผล
ผลกระทบจากค่าแรงคิดเป็น 1%ของcost
คุณอภิญญาลงรายละเอียดเรื่องผลประกอบการ
รายได้
บ้านและคอนโด รายได้ 15,892 ลบ
ค่าเช่าและบริการ อาคารสำนักงาน 375 ลบ
ค่าเช่าและบริการ โรงแรม 859 ลบ
กำไรจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือใน LHFG 712ลบ
ส่วนค่าใช้จ่าย ลดลงอย่างต่อเนื่องจากปี 58-60
ปี59 -8.8%,ปี60 -18%
ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน เพิ่มขึ้น 3%
กำไรสุทธิ 3,462 ลบ
มีคอนโดสร้างเสร็จ
เปิดโครงการแนวราบปีที่แล้ว 6 โครงการ
และปิดโครงการเยอะขึ้น
มีการซื้อที่ดิน 12 แปลง มูลค่า 3,600 ลบ
หนี้ลดลง 2,000 ลบ เหลือ 23,500 ลบ
Net D/E เหลือ 0.8 หลังหักเงินสดออก
คำถาม ผมเริ่มถามคำถามแรกว่า
อยากทราบแผนในการทำกำไรในปีนี้
ปีที่แล้วลดค๋าใช้จ่ายเยอะรวมถึง
ได้รัยผลตอบแทนจากเงินลงทุน
ปีนี้มีแผนสร้างการเติบโตจากส่วนไหน
ตอบ
แผนมีสามส่วน
1.เปิดโครงการเยอะขึ้น15 โครงการ ต้องเลือกทำเลที่ดี เน้นแนวราบ เอาหลายโครงการมาอยู่ด้วยกัน
เพื่อลดcostส่วนกลาง
เน้นsecmentที่ต้องการเช่นบ้านแฝด
2. มีroomในการปรับ GP 29-30%เพิ่มขึ้นอีก ให้สูงตามอุตสาหกรรม
3.ปลายปีเปิดโรงแรมที่พัทยาจากเดิมเป็นcondo อาจเข้ากองอสังหาแต่ไม่ใช่ในปีนี้
คำถาม กำไรที่เพิ่มขึ้นจากการปรับสัดส่วนในLH Bankอย่างเดียวใช่ไหม
ตอบ เราได้กำไรจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนในLH bank แต่เราก็ได้ตั้งสำรองโครงการเก่าๆในมูลค่า
ใกล้เคียงกัน ดังนั้นกำไรที่เพิ่มจากการดำเนินงาน
คำถาม นับจากวันนี้ไป ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มอิ่มตัวจะขยายไปตลาดบน
มองระยะยาวมีแผนปรับเปลี่ยนโครงสร้างอย่างไรให้ได้รายได้ถาวร
สาเหตุด้อยค่า ของรายละเอียดด้วย แนวโน้มยอดขายปีนี้สูงขึ้นใหม่
ตอบ อสังหายังไม่flatเพราะไทยยังเป็นubernizationมีdemandขึ้นมา เราทำอย่างไรที่จะช่วงชิง
Demandที่เข้ามา การแข่งขันรุนแรงขึ้น คุณภาพเราต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น
เราแตกต่างจากอสังหาขึ้น เรามีvariety มีทั้งโรงแรม ออฟฟิตด้วย เรากำลังหาเพิ่มเติมในอนาคต
กำลังพิจารณาlocationที่จะซื้อเพิ่ม ซึ่งเรามีความเชี่ยวชาญตรงนี้อยู่
ส่วนตั้งสำรอง400กว่าล้านจากโครงการต่างจังหวัด ในเรื่องdemand กำลังซื้อไม่ดี ต้องสำรองให้ใกล้
กับความเป็นจริง และ ยังมีสำรองจากคดีที่ยื่นศาลไป
ส่วนการเติบโตTop lineเราก็จะโต10% ส่วน Net profit จะขึ้นกับว่าเราลดcostได้แค่ไหน
วาระที่3
สินทรัพย์เพิ่มขึ้น 45 ลบ เป็น 53,059 ลบ
สินทรัพย์หมุนเวียนลดลง 2,700 ลบ เป็น 29,649 ลบ
หนี้สิน ลดลง6% อยู่ที่ 28,257 ลบ
หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยลดลง7%
รายได้ลดลง 6.3%
กำไรสำหรับปี 3,462 ลบ เพิ่มขึ้น 12%
คำถาม การตั้งสำรองตั้งอยู่ที่ไหน การตั้งสำรองคดีความต้องตั้งเต็มไหม
ตอบ อยู่ที่ Admin cost
ตั้งเต็มตามมูลค่าที่ศาลตัดสิน สุดท้ายถ้ามีเพิ่มลด ก็จะปรับอีกที
เราแพ้คดีในเรื่องน้ำท่วมปี54 เช่น สร้างผิดสเปคทำให้น้ำท่วม
ศาลชั้นต้นก็ให้Favorกับคนฟ้อง แต่ทางคดีก็ต้องสู้กันไป
คำถาม ตอนนี้มีคดีติดที่ศาลกี่คดี
ตอบ คดีลดลงเรื่อยๆครับ อะไรที่ควรจ่ายก็จ่ายเพื่อลดจำนวนคดีลง
คำถาม วงเงินที่เสียหายฟ้องร้องเป็นเท่าไหร่
ตอบ หน้า 186 ต้องรวมเองตามคดีแต่ละปี
วาระที่4 เกี่ยวเนื่องกับปีที่แล้ว ได้เปลี่ยนนโยบายการปันผลไม่มีlimit 50%
ปีที่แล้วตกลงปันผล 0.20 บาทต่อหุ้น แบ่งเป็นระหว่างกาล 0.07 บาท และงวดนี้ 0.13 บาท
Credit ภาษีที่อัตรา 20% จ่ายวันที่ 15 พค 18 , XD 27 เมย 18
คิดเป็น 62% ผู้ถือหุ้นอนุมัติให้จ่ายปันผลได้
อัตราการปันผลเพิ่มจากปีที่แล้วที่ 52%
คำถาม กำไรสะสมที่เก็บไว้อยู่ที่อัตราเท่าไหร่ หลังจากจ่ายปันผลแล้วเหลืออยู่อีกเท่าไหร่
ตอบ อยู่ที่ 20% และเหลือกำไรสะสมอยู่ที่ 10,000 ลบ เป็นส่วนที่ยังไม่จัดสรร
วาระที่2
คุณชัชชาติกล่าวว่า
ปีที่แล้วลดค่าใช้จ่าย โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วย
ปัจจัยบวก
เศรษฐกิจเติบโต GDP4% โดยโตจากส่งออก และ ท่องเที่ยว
รายละเอียดดูจากสไลด์
ส่วนปัจจัยลบ
มีผู้แข่งขันเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะส่วนที่มีbarrier to entry น้อย
ภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์
• บ้านเดี่ยวโต 2.1%
• บ้านแฝด 55.4%
• ทาวน์เฮ้าส์ 12%
• คอนโด 24.3%
จำนวนหน่วยที่ขายแยกตามประเภท
หน่วยที่ขาย
• บ้านเดี่ยวโต 2.6%
• บ้านแฝด 46.8%
• ทาวน์เฮ้าส์ 13.5%
• คอนโด 1.3%
หน่วยที่เหลือขาย
• บ้านเดี่ยวโตลดลง 6.5%
• บ้านแฝดโตลดลง 9.7%
• ทาวน์เฮ้าส์เหลือเพิ่มขึ้น14.5%
• คอนโดเหลือเพิ่มขึ้น 24.3%
ภาพรวมที่เหลือขาย ภาคคอนโดเหลือเยอะขึ้น แสดงว่าover supply
คอนโด ต้องสร้างทั้งแท่ง
ส่วนบ้านเดี่ยว ทยอยสร้างได้ทยอยรับรุ้รายได้
บ้านเดี่ยว และ ทาวน์เฮ้าส์ ที่มีอยู่และจะสร้างใหม่ จะอยู่รอบนอกเพราะราคาที่ดินถูกกว่า
คอนโดเหลือขายแถวรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสีส้ม
เราเชี่ยวชาญแนวราบ
ผลประกอบการ
ยอดขายทั้งปีลดลง แต่กำไรเพิ่มขึ้นจากการลดค่าใช้จ่ายและreduce d/e จาก 1.11 เหลือ 0.95 เท่า
ปี61 โตตามศก
ส่วนEEC ยังไม่ส่งผล
ผลกระทบจากค่าแรงคิดเป็น 1%ของcost
คุณอภิญญาลงรายละเอียดเรื่องผลประกอบการ
รายได้
บ้านและคอนโด รายได้ 15,892 ลบ
ค่าเช่าและบริการ อาคารสำนักงาน 375 ลบ
ค่าเช่าและบริการ โรงแรม 859 ลบ
กำไรจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนการถือใน LHFG 712ลบ
ส่วนค่าใช้จ่าย ลดลงอย่างต่อเนื่องจากปี 58-60
ปี59 -8.8%,ปี60 -18%
ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน เพิ่มขึ้น 3%
กำไรสุทธิ 3,462 ลบ
มีคอนโดสร้างเสร็จ
เปิดโครงการแนวราบปีที่แล้ว 6 โครงการ
และปิดโครงการเยอะขึ้น
มีการซื้อที่ดิน 12 แปลง มูลค่า 3,600 ลบ
หนี้ลดลง 2,000 ลบ เหลือ 23,500 ลบ
Net D/E เหลือ 0.8 หลังหักเงินสดออก
คำถาม ผมเริ่มถามคำถามแรกว่า
อยากทราบแผนในการทำกำไรในปีนี้
ปีที่แล้วลดค๋าใช้จ่ายเยอะรวมถึง
ได้รัยผลตอบแทนจากเงินลงทุน
ปีนี้มีแผนสร้างการเติบโตจากส่วนไหน
ตอบ
แผนมีสามส่วน
1.เปิดโครงการเยอะขึ้น15 โครงการ ต้องเลือกทำเลที่ดี เน้นแนวราบ เอาหลายโครงการมาอยู่ด้วยกัน
เพื่อลดcostส่วนกลาง
เน้นsecmentที่ต้องการเช่นบ้านแฝด
2. มีroomในการปรับ GP 29-30%เพิ่มขึ้นอีก ให้สูงตามอุตสาหกรรม
3.ปลายปีเปิดโรงแรมที่พัทยาจากเดิมเป็นcondo อาจเข้ากองอสังหาแต่ไม่ใช่ในปีนี้
คำถาม กำไรที่เพิ่มขึ้นจากการปรับสัดส่วนในLH Bankอย่างเดียวใช่ไหม
ตอบ เราได้กำไรจากการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนในLH bank แต่เราก็ได้ตั้งสำรองโครงการเก่าๆในมูลค่า
ใกล้เคียงกัน ดังนั้นกำไรที่เพิ่มจากการดำเนินงาน
คำถาม นับจากวันนี้ไป ตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มอิ่มตัวจะขยายไปตลาดบน
มองระยะยาวมีแผนปรับเปลี่ยนโครงสร้างอย่างไรให้ได้รายได้ถาวร
สาเหตุด้อยค่า ของรายละเอียดด้วย แนวโน้มยอดขายปีนี้สูงขึ้นใหม่
ตอบ อสังหายังไม่flatเพราะไทยยังเป็นubernizationมีdemandขึ้นมา เราทำอย่างไรที่จะช่วงชิง
Demandที่เข้ามา การแข่งขันรุนแรงขึ้น คุณภาพเราต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น
เราแตกต่างจากอสังหาขึ้น เรามีvariety มีทั้งโรงแรม ออฟฟิตด้วย เรากำลังหาเพิ่มเติมในอนาคต
กำลังพิจารณาlocationที่จะซื้อเพิ่ม ซึ่งเรามีความเชี่ยวชาญตรงนี้อยู่
ส่วนตั้งสำรอง400กว่าล้านจากโครงการต่างจังหวัด ในเรื่องdemand กำลังซื้อไม่ดี ต้องสำรองให้ใกล้
กับความเป็นจริง และ ยังมีสำรองจากคดีที่ยื่นศาลไป
ส่วนการเติบโตTop lineเราก็จะโต10% ส่วน Net profit จะขึ้นกับว่าเราลดcostได้แค่ไหน
วาระที่3
สินทรัพย์เพิ่มขึ้น 45 ลบ เป็น 53,059 ลบ
สินทรัพย์หมุนเวียนลดลง 2,700 ลบ เป็น 29,649 ลบ
หนี้สิน ลดลง6% อยู่ที่ 28,257 ลบ
หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยลดลง7%
รายได้ลดลง 6.3%
กำไรสำหรับปี 3,462 ลบ เพิ่มขึ้น 12%
คำถาม การตั้งสำรองตั้งอยู่ที่ไหน การตั้งสำรองคดีความต้องตั้งเต็มไหม
ตอบ อยู่ที่ Admin cost
ตั้งเต็มตามมูลค่าที่ศาลตัดสิน สุดท้ายถ้ามีเพิ่มลด ก็จะปรับอีกที
เราแพ้คดีในเรื่องน้ำท่วมปี54 เช่น สร้างผิดสเปคทำให้น้ำท่วม
ศาลชั้นต้นก็ให้Favorกับคนฟ้อง แต่ทางคดีก็ต้องสู้กันไป
คำถาม ตอนนี้มีคดีติดที่ศาลกี่คดี
ตอบ คดีลดลงเรื่อยๆครับ อะไรที่ควรจ่ายก็จ่ายเพื่อลดจำนวนคดีลง
คำถาม วงเงินที่เสียหายฟ้องร้องเป็นเท่าไหร่
ตอบ หน้า 186 ต้องรวมเองตามคดีแต่ละปี
วาระที่4 เกี่ยวเนื่องกับปีที่แล้ว ได้เปลี่ยนนโยบายการปันผลไม่มีlimit 50%
ปีที่แล้วตกลงปันผล 0.20 บาทต่อหุ้น แบ่งเป็นระหว่างกาล 0.07 บาท และงวดนี้ 0.13 บาท
Credit ภาษีที่อัตรา 20% จ่ายวันที่ 15 พค 18 , XD 27 เมย 18
คิดเป็น 62% ผู้ถือหุ้นอนุมัติให้จ่ายปันผลได้
อัตราการปันผลเพิ่มจากปีที่แล้วที่ 52%
คำถาม กำไรสะสมที่เก็บไว้อยู่ที่อัตราเท่าไหร่ หลังจากจ่ายปันผลแล้วเหลืออยู่อีกเท่าไหร่
ตอบ อยู่ที่ 20% และเหลือกำไรสะสมอยู่ที่ 10,000 ลบ เป็นส่วนที่ยังไม่จัดสรร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 28
AGM SE-ED 19 April 2018 14.00
รายได้ของบริษัทประกอบไปด้วย
1.Se-ed book center & online ยอดขายลดลง 13%
2.ธุรกิจจัดจำหน่ายลดลง 9%
3.โรงเรียนเพลินพัฒนา เพิ่มขึ้น6.7%
4.สายงานวารสาร คิดตี้แคมป์ ลดลง 36.1%
5.รายได้อื่นๆเพิ่มขึ้น 15%
หนังสือที่ซีเอ็ดผลิตเอง ลดลง14.1% ส่วนนึงมาจากยอดขายของสาขาที่ลดลง
งบการเงินของซีเอ็ด เป็นปีแรกที่ขาดทุน 28.68 ลบ ในงบเดี่ยว
แต่ถ้าเป็นงบรวม จะมีกำไรจากบริษัทที่ไปลงทุนเช่น เพลินพัฒน์ ทำให้ขาดทุนลดลงเหลือ 25.7 ลบ
เราได้พยายามลดค่าใช้จ่ายลง มีการปิดสาขาที่ผลงานไม่ดีเพิ่ม ส่วนค่าไฟลดลงได้มาจากการเปลี่ยนหลอดไฟ
ที่ประหยัดไฟ แต่มีการตั้งสำรองสินค้าเสื่อมสภาพเพิ่มขึ้นเนื่องจากน้ำท่วมหลายภูมิภาค
ทิศทางของซีเอ็ดในปีนี้
เราให้ที่ปรึกษาที่จ้างมาและกรรมการแนะนำทิศทางเพื่อปรับปรุงผลการดำเนินงานออกมาเป็นข้อดังนี้
1. ทำให้Bussiness unitแต่ละอันทำให้อยู่รอดได้
เช่น สถานการศึกษา เน้นบางอย่างที่ชำนาญ
สายงานแมกกาซีน จะเปลี่ยนแปลงทิศทาง เช่นจัดกิจกรรมเยาวชน
ไตรมาสหน้าจะบอกรายละเอียดได้
ปิดสาขาไม่ทำกำไร สาขาไหนไม่performก็ปิดไป ปีนี้คาดว่าจะปิด29สาขา
ปีที่แล้วปิดไป24สาขา
ปรับปรุงหลายสาขาให้กำไรมากขึ้น
สำหรับการปรับใหญ่มี14สาขาจะเสร็จภายในสิ้นปีนี้
ปรับระดับกลาง117สาขา เสร็จภายในกลางปี
ที่เหลือจะปรับเล็ก จะเสร็จภายในปีนี้
2. ปรับโครงสร้าง ให้พนักงานรุ่นใหม่เข้า มีหน่วยงานออกแบบdata scientist
3.ทำแบรนด์ให้เข้มแข็งในฐานะomni channel
4. concept storeไม่ตายตัวทั้ง14สาขา เปลี่ยนได้ตลอดเวลา
ใช้คำว่า ซีเอ๊ด ไม่ใช่se-ed book center
ถ้าได้ผลเมื่อไหร่จะนำไปใช้กับสาขาที่เหลือ
5 ปรับปรุงการวางผัง การตกแต่ง ให้หาหนังสือง่ายขึ้น
เราทดลองปลายปีก่อน ผลจะเกิดในปลายปีนี้ ยอดการทำกำไรดีขึ้นจะเห็นกำไรในช่วงไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา
6.ใช้ฐานข้อมูล และ ระบบ optimize ในการจัดสรรสินค้า การจัดวางให้สอดคล้องกับผู้ซื้อ เราทดลองกลางเดือนเมย ผลดูน่าพอใจ
7 เพิ่มproductivityในการดำเนินงาน offline,supply chainทั้งหมดให้เราแข็งแรงในระยะยาว ปีนี้เข้มข้นกว่าปีที่แล้ว
8 พัฒนากลไกในการยกระดับมาตราฐานร้าน
ให้ทุกสาขาทำตามระบบ โดยควบคุมที่ระบบ
9.พัฒนาcustomer engagement รวม CRM ทั้งลูกค้าเราและยังไม่เป็นลูกค้าของเราทั้งon line , off line
Customer engagement ช่วยทำให้ขยายความต้องการของลูกค้าในอนาคต
กรรมการตรวจสอบ ได้ตรวจสอบตามกรอบ และได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายมีประชุม5ครั้งโดยไม่มีฝ่ายบริหารเข้าร่วม
1 สอบทานงบการเงินทุกไตรมาส มีความเห็นสอดคล้องกับผู้ตรวจสอบบัญชี
2 กำกับและควบคุมภายในได้ดี มีการตรวจสอบทุกไตรมาส
3 การจัดการความเสี่ยงของบริษัทและบริษัทย่อยอยู่ในระดับที่ยอมรับได้
4 ทบทวนนโยบายการกำกับนโยบายตลอดเวลา
5 สอบทานรายการที่เกี่ยวโยงกัน มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้องตามตลาดหลักทรัพย์
6 คัดเลือกผู้ตรวจสอบบัญชี และ กำหนดค่าตอบแทนที่เหมาะสม
คำถาม เท่าที่ฟังยังอยู่ในธุรกิจหนังสือ ปีนี้จะมีทำอะไรใหม่ไหม
ผมเห็นร้านหนังสือที่สิงคโปร์ ฮ่องกงหายไปเยอะ หนังสือขายน้อยลง
ตัวสินค้าก็ถอยลง เพราะคนอ่านหนังสือน้อย ดูแล้วโตยาก
มีธุรกิจใหม่ทำบ้างไหม สินค้าไม่ทำกำไรก็หยุดไป
ปีนี้มีการคาดการณ์ขาดทุนเท่าไหร่ ผู้ถือหุ้นบางคนก็พูดว่าถ้าขาดทุนก็ขายไป
ผมถือตั้งแต่เเรก ไม่เคยขาย มีอะไรทำใหม่ๆเกี่ยวกับinternetลดค่าใช้จ่ายเยอะ
กรรมการช่วยดูราคาหุ้นด้วย
ตอบ
ยอมรับการทำoptimizeเจอปัญหานี้เหมือนกัน ขอบคุณคุณหมอมากครับ
เราก็ปรับปรุงไปส่วนหนึ่ง เพราะเราใช้คอมช่วยจะเห็นปัญหาดีขึ้น
คำถาม ถือหุ้นมานาน ถือเพราะชอบปันผล
ตัวเองเคยเขียนหนังสือโยคะและฝากขายที่ซีเอ๊ดก่อนหน้านี้
การจัดส่งหนังสือถ้าแค่เล่มเดียวอาจไม่สดวก ไปซื้อที่สาขาก็ไม่มี
ที่ว่ากำลังซื้อที่ดีขึ้น ทำให้คนซื้อหนังสือมากขึ้น คงไม่ใช่เพราะพฤติกรรม
คนซื้อเปลี่ยนแปลงไป เพราะอาจกดจากมือถือก็ฟังเป็นเสียงได้แล้ว ไม่ต้องอ่าน
ตอบ ขอบคุณสำหรับข้อมูล
คำถาม การจัดse-ed book fair at central ramaII , warehouse salesที่WHของบริษัท
ผลเป็นอย่างไรบ้าง หนังสือที่ขายมีการสำรองครบหมดหรือไม่
ตอบ หนังสือเหล่านี้สำรองเต็มแล้ว ที่warehouseไม่เสียค่าเช่า ยังดีอยู่
ส่วนที่central ยังต้องเรียนรู้ว่าทำอย่างไรให้คนรู้ว่ามีงานbook fair
เพราะคนที่มาเที่ยวห้างยังไม่รู้ว่ามีจัดงานที่ชั้นสี่เลย
คุณทนงเสริมว่าตอนนี้ได้ส่งทีมงานที่ศึกษาบริษัทในบางประเทศที่ยอดขายไม่ลดลง
แต่เปลี่ยนแปลงสัดส่วนของoffline & onlineเท่านั้น เพื่อไปปรับปรุงผลการดำเนินงานของบริษัท
รร เพลินพัฒนา ก็พยายามศึกษาเพื่อขยายต่อไป
คำถาม ยอดขายในงานสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
ตอบ ยอดขายในงานสัปดาห์หนังสือ รอบนี้จัดงานสิบวัน จากครั้งก่อนที่สิบเอ็ดวัน
ทำให้ยอดขายลดลงเมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว แต่เทียบต่อวันเท่ากันยอดขายเพิ่มขึ้น4%
ปิดประชุม 16.10
รายได้ของบริษัทประกอบไปด้วย
1.Se-ed book center & online ยอดขายลดลง 13%
2.ธุรกิจจัดจำหน่ายลดลง 9%
3.โรงเรียนเพลินพัฒนา เพิ่มขึ้น6.7%
4.สายงานวารสาร คิดตี้แคมป์ ลดลง 36.1%
5.รายได้อื่นๆเพิ่มขึ้น 15%
หนังสือที่ซีเอ็ดผลิตเอง ลดลง14.1% ส่วนนึงมาจากยอดขายของสาขาที่ลดลง
งบการเงินของซีเอ็ด เป็นปีแรกที่ขาดทุน 28.68 ลบ ในงบเดี่ยว
แต่ถ้าเป็นงบรวม จะมีกำไรจากบริษัทที่ไปลงทุนเช่น เพลินพัฒน์ ทำให้ขาดทุนลดลงเหลือ 25.7 ลบ
เราได้พยายามลดค่าใช้จ่ายลง มีการปิดสาขาที่ผลงานไม่ดีเพิ่ม ส่วนค่าไฟลดลงได้มาจากการเปลี่ยนหลอดไฟ
ที่ประหยัดไฟ แต่มีการตั้งสำรองสินค้าเสื่อมสภาพเพิ่มขึ้นเนื่องจากน้ำท่วมหลายภูมิภาค
ทิศทางของซีเอ็ดในปีนี้
เราให้ที่ปรึกษาที่จ้างมาและกรรมการแนะนำทิศทางเพื่อปรับปรุงผลการดำเนินงานออกมาเป็นข้อดังนี้
1. ทำให้Bussiness unitแต่ละอันทำให้อยู่รอดได้
เช่น สถานการศึกษา เน้นบางอย่างที่ชำนาญ
สายงานแมกกาซีน จะเปลี่ยนแปลงทิศทาง เช่นจัดกิจกรรมเยาวชน
ไตรมาสหน้าจะบอกรายละเอียดได้
ปิดสาขาไม่ทำกำไร สาขาไหนไม่performก็ปิดไป ปีนี้คาดว่าจะปิด29สาขา
ปีที่แล้วปิดไป24สาขา
ปรับปรุงหลายสาขาให้กำไรมากขึ้น
สำหรับการปรับใหญ่มี14สาขาจะเสร็จภายในสิ้นปีนี้
ปรับระดับกลาง117สาขา เสร็จภายในกลางปี
ที่เหลือจะปรับเล็ก จะเสร็จภายในปีนี้
2. ปรับโครงสร้าง ให้พนักงานรุ่นใหม่เข้า มีหน่วยงานออกแบบdata scientist
3.ทำแบรนด์ให้เข้มแข็งในฐานะomni channel
4. concept storeไม่ตายตัวทั้ง14สาขา เปลี่ยนได้ตลอดเวลา
ใช้คำว่า ซีเอ๊ด ไม่ใช่se-ed book center
ถ้าได้ผลเมื่อไหร่จะนำไปใช้กับสาขาที่เหลือ
5 ปรับปรุงการวางผัง การตกแต่ง ให้หาหนังสือง่ายขึ้น
เราทดลองปลายปีก่อน ผลจะเกิดในปลายปีนี้ ยอดการทำกำไรดีขึ้นจะเห็นกำไรในช่วงไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา
6.ใช้ฐานข้อมูล และ ระบบ optimize ในการจัดสรรสินค้า การจัดวางให้สอดคล้องกับผู้ซื้อ เราทดลองกลางเดือนเมย ผลดูน่าพอใจ
7 เพิ่มproductivityในการดำเนินงาน offline,supply chainทั้งหมดให้เราแข็งแรงในระยะยาว ปีนี้เข้มข้นกว่าปีที่แล้ว
8 พัฒนากลไกในการยกระดับมาตราฐานร้าน
ให้ทุกสาขาทำตามระบบ โดยควบคุมที่ระบบ
9.พัฒนาcustomer engagement รวม CRM ทั้งลูกค้าเราและยังไม่เป็นลูกค้าของเราทั้งon line , off line
Customer engagement ช่วยทำให้ขยายความต้องการของลูกค้าในอนาคต
กรรมการตรวจสอบ ได้ตรวจสอบตามกรอบ และได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายมีประชุม5ครั้งโดยไม่มีฝ่ายบริหารเข้าร่วม
1 สอบทานงบการเงินทุกไตรมาส มีความเห็นสอดคล้องกับผู้ตรวจสอบบัญชี
2 กำกับและควบคุมภายในได้ดี มีการตรวจสอบทุกไตรมาส
3 การจัดการความเสี่ยงของบริษัทและบริษัทย่อยอยู่ในระดับที่ยอมรับได้
4 ทบทวนนโยบายการกำกับนโยบายตลอดเวลา
5 สอบทานรายการที่เกี่ยวโยงกัน มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้องตามตลาดหลักทรัพย์
6 คัดเลือกผู้ตรวจสอบบัญชี และ กำหนดค่าตอบแทนที่เหมาะสม
คำถาม เท่าที่ฟังยังอยู่ในธุรกิจหนังสือ ปีนี้จะมีทำอะไรใหม่ไหม
ผมเห็นร้านหนังสือที่สิงคโปร์ ฮ่องกงหายไปเยอะ หนังสือขายน้อยลง
ตัวสินค้าก็ถอยลง เพราะคนอ่านหนังสือน้อย ดูแล้วโตยาก
มีธุรกิจใหม่ทำบ้างไหม สินค้าไม่ทำกำไรก็หยุดไป
ปีนี้มีการคาดการณ์ขาดทุนเท่าไหร่ ผู้ถือหุ้นบางคนก็พูดว่าถ้าขาดทุนก็ขายไป
ผมถือตั้งแต่เเรก ไม่เคยขาย มีอะไรทำใหม่ๆเกี่ยวกับinternetลดค่าใช้จ่ายเยอะ
กรรมการช่วยดูราคาหุ้นด้วย
ตอบ
ยอมรับการทำoptimizeเจอปัญหานี้เหมือนกัน ขอบคุณคุณหมอมากครับ
เราก็ปรับปรุงไปส่วนหนึ่ง เพราะเราใช้คอมช่วยจะเห็นปัญหาดีขึ้น
คำถาม ถือหุ้นมานาน ถือเพราะชอบปันผล
ตัวเองเคยเขียนหนังสือโยคะและฝากขายที่ซีเอ๊ดก่อนหน้านี้
การจัดส่งหนังสือถ้าแค่เล่มเดียวอาจไม่สดวก ไปซื้อที่สาขาก็ไม่มี
ที่ว่ากำลังซื้อที่ดีขึ้น ทำให้คนซื้อหนังสือมากขึ้น คงไม่ใช่เพราะพฤติกรรม
คนซื้อเปลี่ยนแปลงไป เพราะอาจกดจากมือถือก็ฟังเป็นเสียงได้แล้ว ไม่ต้องอ่าน
ตอบ ขอบคุณสำหรับข้อมูล
คำถาม การจัดse-ed book fair at central ramaII , warehouse salesที่WHของบริษัท
ผลเป็นอย่างไรบ้าง หนังสือที่ขายมีการสำรองครบหมดหรือไม่
ตอบ หนังสือเหล่านี้สำรองเต็มแล้ว ที่warehouseไม่เสียค่าเช่า ยังดีอยู่
ส่วนที่central ยังต้องเรียนรู้ว่าทำอย่างไรให้คนรู้ว่ามีงานbook fair
เพราะคนที่มาเที่ยวห้างยังไม่รู้ว่ามีจัดงานที่ชั้นสี่เลย
คุณทนงเสริมว่าตอนนี้ได้ส่งทีมงานที่ศึกษาบริษัทในบางประเทศที่ยอดขายไม่ลดลง
แต่เปลี่ยนแปลงสัดส่วนของoffline & onlineเท่านั้น เพื่อไปปรับปรุงผลการดำเนินงานของบริษัท
รร เพลินพัฒนา ก็พยายามศึกษาเพื่อขยายต่อไป
คำถาม ยอดขายในงานสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมาเป็นอย่างไร
ตอบ ยอดขายในงานสัปดาห์หนังสือ รอบนี้จัดงานสิบวัน จากครั้งก่อนที่สิบเอ็ดวัน
ทำให้ยอดขายลดลงเมื่อเทียบกับครั้งที่แล้ว แต่เทียบต่อวันเท่ากันยอดขายเพิ่มขึ้น4%
ปิดประชุม 16.10
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2576
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 29
AGM SQ 18 April 2018 13.30
วาระที่หนึ่ง เรื่องแจ้งให้ทราบ
คุณสมบูรณ์ ประธานกรรมการ มีเรื่องแจ้งให้ทราบตามระเบียบ
วาระที่สอง รับรองรายงานการประชุมปี2560
วาระที่สาม
พิจารณารับทราบผลการดำเนินงาน ปี 2560
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คุณ ศาศวัต
ปริมาณการผลิต เพิ่มขึ้น 4.3% เป็น 49.9 ล้านลบเมตร
แม่เมาะเจ็ด ผลการผลิตลดลง เพราะอยู่ในช่วงปลายของสัญญา ปกติช่วงปลายจะน้อย
แม่เมาะแปดเพิ่มขึ้น เป็นช่วงเริ่มต้นของสัญญาเป็นปีที่สอง ปีหน้าเป็นปีfull production คาดยอด 4 เท่าของปีที่แล้ว
โครงการหงสาก็เพิ่มขึ้น ผลงานดีกว่าปี59
รายได้เพิ่มขึ้น 9% เพราะแม่มาะแปดเพิ่ม แต่แม่เมาะเจ็ดลด
รายได้แบ่งออกเป็น
1.แม่เมาะแปด 44%
2. แม่เมาะเจ็ด 29%
3. โครงการหงสา 27%
ปีนี้แม่เมาะแปดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น
กำไรเพิ่มขึ้น 11% ,GP เพิ่มขึ้นจาก 1169 ลบ เป็น 1183 ลบ
กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 360 ลบ
Back log เท่ากับ 35,448 ลบ
เหมืองดีบุกจะเริ่มในQ3 18
คำถาม พม่ามีการประท้วงต่างชาติไม่ให้ทำผิวหน้าดิน กระทบต่อบริษัทหรือไม่
ตอบ ของเราเหมืองดีบุกทำมาร้อยปี สร้างรายได้ให้เขา ชาวบ้านได้ประโยชน์ตอนนี้ไม่มีการประท้วง
คำถาม จากเหตุการณ์ดินสไลด์ที่แม่เมาะแปด เราต้องชดใช้หรือไม่
ตอบ เราไม่ต้องชดใช้ ดินสไลด์จากที่อื่นมาโดนผิวดินของเรา เรากำลังขอบรรเทาผลกระทบ
จากการไฟฟ้า ดังนั้นรายได้ที่จะโตของแม่เมาะเฟสแปดจะไม่โตถึงสี่เท่าอย่างที่บอกช่วงแรก
เราต้องขนดินสองล้านคิวออกไปจากที่ดินสไลด์ และเรามีการทำประกันไว้
วาระที่สี่
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักรโรงงานแม่เมาะแปด
และ ค่าแรงเพิ่มขึ้น ทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ส่วนนึง ราคาต่อหน่วยของโครงการแปดปรับลดลงเล็กน้อยจากปี59 ตามสัญญา
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 322 เป็น 360 ล้านบาท
คำถาม
1.ถามว่า Backlog อยู่ในวัตถุดิบ หรือ งบการเงิน ครับ
2.ที่ดิน อาคาร อุปกรณ์เพิ่มขึ้น 4,xxxกว่าล้านบาท ที่เราลงทุนก่อให้เกิดรายได้อย่างไร
3.ภาษีค้างจ่ายไม่มีการตั้งยอด แสดงว่าเราไม่ต้องชำระในเดือนพค ใช่ไหม
ตอบ
1.backlog ไม่อยู่ในงบดุล และ ไม่ใช่สินค้าคงเหลือด้วย
2.ผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์หลักๆมาจากเครื่องจักรโครงการแปด
เราคาดการณ์IRR = 10-12% เป็นผลตอบแทนที่คาดหมายจากที่ลงไป 7,000 ลบ
เกิดการสไลด์ของหน้าดินขึ้น ทำให้โครงการหยุดไปสองเดือน
3.เราชำระภาษีนิติบุคคลเรียบร้อยไม่มีการชำระเพิ่มเติม
คำถาม หนี้สินต่อทุนสูง อยากทราบเพดานไม่เกินเท่าไหร่
ตอบ ตามเงื่อนไขการกู้ยืม D/E or interest bearing debt < 2:1 ซึ่งปีที่แล้วอยู่ในเกณฑ์
แต่ถ้ามีโครงการใหม่ ก็ต้องระดมทุนจากการก่อหนี้ แต่ก็หวังว่าโครงการแปดและหงสาก่อให้เกิดกำไร
เพื่อทำใหสัดส่วนไม่เกินสองเท่า ดูcash flow ,working capของโครงการใหม่อีกที
วาระที่หนึ่ง เรื่องแจ้งให้ทราบ
คุณสมบูรณ์ ประธานกรรมการ มีเรื่องแจ้งให้ทราบตามระเบียบ
วาระที่สอง รับรองรายงานการประชุมปี2560
วาระที่สาม
พิจารณารับทราบผลการดำเนินงาน ปี 2560
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คุณ ศาศวัต
ปริมาณการผลิต เพิ่มขึ้น 4.3% เป็น 49.9 ล้านลบเมตร
แม่เมาะเจ็ด ผลการผลิตลดลง เพราะอยู่ในช่วงปลายของสัญญา ปกติช่วงปลายจะน้อย
แม่เมาะแปดเพิ่มขึ้น เป็นช่วงเริ่มต้นของสัญญาเป็นปีที่สอง ปีหน้าเป็นปีfull production คาดยอด 4 เท่าของปีที่แล้ว
โครงการหงสาก็เพิ่มขึ้น ผลงานดีกว่าปี59
รายได้เพิ่มขึ้น 9% เพราะแม่มาะแปดเพิ่ม แต่แม่เมาะเจ็ดลด
รายได้แบ่งออกเป็น
1.แม่เมาะแปด 44%
2. แม่เมาะเจ็ด 29%
3. โครงการหงสา 27%
ปีนี้แม่เมาะแปดกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น
กำไรเพิ่มขึ้น 11% ,GP เพิ่มขึ้นจาก 1169 ลบ เป็น 1183 ลบ
กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 360 ลบ
Back log เท่ากับ 35,448 ลบ
เหมืองดีบุกจะเริ่มในQ3 18
คำถาม พม่ามีการประท้วงต่างชาติไม่ให้ทำผิวหน้าดิน กระทบต่อบริษัทหรือไม่
ตอบ ของเราเหมืองดีบุกทำมาร้อยปี สร้างรายได้ให้เขา ชาวบ้านได้ประโยชน์ตอนนี้ไม่มีการประท้วง
คำถาม จากเหตุการณ์ดินสไลด์ที่แม่เมาะแปด เราต้องชดใช้หรือไม่
ตอบ เราไม่ต้องชดใช้ ดินสไลด์จากที่อื่นมาโดนผิวดินของเรา เรากำลังขอบรรเทาผลกระทบ
จากการไฟฟ้า ดังนั้นรายได้ที่จะโตของแม่เมาะเฟสแปดจะไม่โตถึงสี่เท่าอย่างที่บอกช่วงแรก
เราต้องขนดินสองล้านคิวออกไปจากที่ดินสไลด์ และเรามีการทำประกันไว้
วาระที่สี่
ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าเสื่อมราคาของเครื่องจักรโรงงานแม่เมาะแปด
และ ค่าแรงเพิ่มขึ้น ทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ส่วนนึง ราคาต่อหน่วยของโครงการแปดปรับลดลงเล็กน้อยจากปี59 ตามสัญญา
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 322 เป็น 360 ล้านบาท
คำถาม
1.ถามว่า Backlog อยู่ในวัตถุดิบ หรือ งบการเงิน ครับ
2.ที่ดิน อาคาร อุปกรณ์เพิ่มขึ้น 4,xxxกว่าล้านบาท ที่เราลงทุนก่อให้เกิดรายได้อย่างไร
3.ภาษีค้างจ่ายไม่มีการตั้งยอด แสดงว่าเราไม่ต้องชำระในเดือนพค ใช่ไหม
ตอบ
1.backlog ไม่อยู่ในงบดุล และ ไม่ใช่สินค้าคงเหลือด้วย
2.ผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์หลักๆมาจากเครื่องจักรโครงการแปด
เราคาดการณ์IRR = 10-12% เป็นผลตอบแทนที่คาดหมายจากที่ลงไป 7,000 ลบ
เกิดการสไลด์ของหน้าดินขึ้น ทำให้โครงการหยุดไปสองเดือน
3.เราชำระภาษีนิติบุคคลเรียบร้อยไม่มีการชำระเพิ่มเติม
คำถาม หนี้สินต่อทุนสูง อยากทราบเพดานไม่เกินเท่าไหร่
ตอบ ตามเงื่อนไขการกู้ยืม D/E or interest bearing debt < 2:1 ซึ่งปีที่แล้วอยู่ในเกณฑ์
แต่ถ้ามีโครงการใหม่ ก็ต้องระดมทุนจากการก่อหนี้ แต่ก็หวังว่าโครงการแปดและหงสาก่อให้เกิดกำไร
เพื่อทำใหสัดส่วนไม่เกินสองเท่า ดูcash flow ,working capของโครงการใหม่อีกที
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 818
- ผู้ติดตาม: 1
Re: AGM 2561
โพสต์ที่ 30
MTLS AGM 20.04.2018
วาระ 1
+ กรรมการทั้งหมด 7 ท่าน
+ มาด้วยตนเอง 51 ราย รับมอบฉันทะ 1316 ราย รวม1776ล้านหุ้น คิดเป็น 83.4%
+ รับรองรายงานการประชุม 60
วาระ 2
+ ผลการดำเนินงาน 60
+ ยอดปล่อย เพิ่ม 53%
+ ยอดหนี้คงค้างเพิ่ม 51.32%
+ สาขาเพิ่ม 760สาขา เป็น 2424 สาขา
+ คุณภาพลูกหนี้ npl 1.24%
+ สำรอง 265%
+ รายได้เพิ่ม 71%
+ ดอกเบี้ยรับ 23.9% ดอกเบี้ยจ่าย 3% ส่วนต่าง 20.85%
+ กำไรสุทธิ 33.47%
+ คำถาม
+ การลงทะเบียนหน้างานช้า ตอบ จะปรับปรุง
+ npl 1.04 เป็น 1.24 จะปรับให้เท่าเดิมได้ไหม ตอบ เพราะทำสินเชื่อโฉนดที่ดินเพิ่ม มี learning curve ถูกลูกค้าหลอกบ้าง แต่เราต้องปรับตัว เช่น ที่ดินเป็นบ่อ ไปดูจริงขายไม่ได้ แต่ปรับปรุงแล้ว ต้องไปดูที่จริง 2วันได้เงิน
+ พรบ.ดอกเบี้ย พรบเช่าซื้อใหม่ ตอบ ใช้มา 2ปีแล้ว วงเล็บ 1 ดอกเบี้ยไม่เกิน 15% วงเล็บ 3 ไกล้จบแล้วเพราะจะมีพรบ.ฉบับใหม่เข้ามาคุม มี3หมวด 1.คณะกรรมการมีไครบ้าง 2.วิธีกำกับดูแล 3.ดอกเบี้ย ให้เป็นไปตามความเห็นของคณะกรรมการ ดูจากผู้แทนมาจากแบงค์ชาติ คงต้องล้อตามข้อกำหนดแบงค์ชาติ เรายิ้มเลยเพราะถ้าคน charge สูงจะเสียประโยชน์ เพราะตอนนี้เราคิด 23% เราเชื่อว่าพรบ.ฉบับนี้ต้องการแยกแยะคนที่ถูกกฎหมายออกจากผิดกฎหมาย เราทำธุรกิจง่ายเลยเพราะมีข้อกำหนดชัดเจน
+ ส่วนพรบเช่าซื้อ เราไม่ได้ทำเช่าซื้อจึงไม่มีผลกระทบ
+ ifrf9 ใช้ปีหน้า เราใช้อีวายเป็นผู้ตรวจบัญชี และจ้าง kpmg มารันโปรแกรมให้ สำรองพอแล้ว
+ เรื่องถูกฟ้อง และมีหนังสือพิมพ์ฉบับนึงโจมตีเรื่อยๆ ตอบ ไม่ต้องกังวล พอมีพรบ.ใหม่จะดีขึ้น เรื่องสื่อที่ลงว่าผบห.กินดอกเบี้ยสูง ก็ไม่ได้แจ้งความอะไร ถือว่าล้อเล่นกัน ไม่ได้คิดมาก
+ เรื่อง พรบ. จะดีกับบริษัทไหม ตอบ พรบ.นี้น่าจะจบในปีนี้ ส่วนต่างตอนนี้ รับ 23% จ่าย3% ถ้าเพดานใหม่ 30% คงไม่ได้ไปเพิ่มอะไรกับลูกค้า เอาvolume ดีกว่า และต้องดูคู่แข่งด้วย
+ รู้ได้อย่างไรว่า พรบ. จะเสร็จในปีนี้ ตอบ ลองดูในเวป สสค ไวเพราะร่างเสร็จหมดแล้ว
+ รายงานความยั่งยืน เสนอให้เน้นกลุ่มคนที่เกิน 30วัน ที่ 8% เราตั้งเป้าให้เหลือน้อยลง โดยจัดกิจกรรมให้ความรู้
+ การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ตามคำพิพากษาศาลฏีกาเก่าๆ ผถห.เอาเอกสารมาให้ผบห. คุณดาวนภาตอบว่า ต้องอิงพรบ.ปี 60 เพราะศาลจะตัดสินตามพรบ.ที่ใช้อยู่ในขณะนั้น (ผถห.อยากจะอ่านคำพิพากษา แต่ที่ประชุมไม่ได้ให้อ่าน)
+ ผถห.ท่านนึงให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า คำพิพากษาศาลไม่ไช่กฏหมาย เป็นเพียงแนวทางการพิจารณา และต้องดูกฏหมายเป็นฉบับไปว่า คำพิพากษานั้นอิงกับกฏหมายฉบับใด
+ การขยายสาขา สามารถหาพนักงานได้ไหม ตอบ ผจก.ต้อง 10ปี นั่นคือระดับจังหวัด แต่ ระดับอำเภอ 3ปี ระดับตำบล 1-2ปี ทำให้ยังมีบุคลากรอีกเยอะ
วาระ 3
+ อนุมัติงบการเงิน 60
วาระ 4
+ ปันผล 0.18บ 381.6ล คิดเป็น 15.3%ของกำไร
+ ปี 59 จ่าย 0.10บ 212ล คิดเป็น 14.6%ของกำไร
+ คำถาม
+ มีแนวคิดปันผลเป็นหุ้นหรือไม่ ตอบ ในคณะกรรมการมีการคุยกันแต่สรุปว่ายังปันผลเป็นเงินสด
วาระ 5
+ แต่งตั้งกรรมการ 2 ท่านกลับเข้ามาใหม่
+ คำถาม
+ มีกำหนดของตลท ให้ดำรงตำแหน่งไม่เกิน 6ปี ตอบ เราพิจารณาจากความรู้ความสามารถ และรายแรกยังมีอายุ 5ปี 7เดือน
วาระ 6
+ อนุมัติค่าตอบแทนกรรมการ
+ วงเงินรวมไม่เกิน 8ล เท่ากับปีก่อน
+ ค่าเบี้ยประชุมคณะกรรมการบริษัท ประธาน 60k/ครั้ง กรรมการ 40k/ครั้ง
+ ค่าเบี้ยประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการชุดย่อยอีก 3ชุด (1.สรรหา และค่าตอบแทน 2.บรรษัทภิบาล 3.บริหารความเสี่ยง) ประธาน 30k/ครั้ง กรรมการ 25k/ครั้ง
+ โบนัส ประธาน 700k กรรมการ 500k
วาระ 7
+ แต่งตั้งผู้สอบบัญชี อีวาย
+ ค่าสอบบัญชี 4.18ล จากปีก่อน 3.53ล
+ คำถาม
+ ให้ชี้แจงเหตุผลที่ค่าสอบเพิ่มขึ้น ตอบ จากสาขาที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจหลากหลายเพิ่มนอกจากมอเตอไซ อีกส่วนนึงคือ ifrs9
+ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปลี่ยนผู้สอบบัญชี เพื่อให้เป็นอิสระ ไม่ยาวนานเกินไป ตอบ ตัวผู้สอบจะไม่เกิน 5ปี แต่ในส่วนบริษัทผู้สอบไม่มีข้อกำหนดว่าต้องเปลี่ยน
+ ถามผู้สอบว่าตรวจอะไรบ้าง บริษัทมีข้อสงสัยอะไรหรือไม่ ตอบ ได้ตรวจงบการเงิน และสรุปในรายงานการประชุมแล้ว คณะกรรมการตรวจสอบให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าไม่มีการ "ซูเอี๊ย" แน่นอน
+ ผู้สอบได้ดูในแง่กฏหมายหรือไม่ ในเรื่องการดำเนินงานเช่นเรื่องพรบ.ดอกเบี้ย กรรมการตรวจสอบตอบว่า ได้ตอบไปแล้วว่าเป็นไปตามมาตรฐานบัญชี
+ เรื่องค่าเผื่อหนี้สงสัยสูญ เพียงพอหรือไม่ คุณชูชาติตอบว่า อิงกับหนี้เสีย
วาระ 8
+ อนุมัติวงเงิน หุ้นกู้ 15,000ล อายุไม่เกิน 5ปี
+ คำถาม
+ de จะเป็นเท่าไร ตอบ ตอนนี้ยอด 36000ล ตั้งเป้า 40% คือ 15000ล รวมส่วนทุนที่จะเข้ามา deจะไม่เกิน 3.3เท่า แค่ cap คือ 4เท่า
+ คุณชูชาติเพิ่มเติมว่า ขออณุญาติปันผล 15% เพื่อเอาเงินมากู้ได้ 4เท่า
วาระ 9
+ เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด(มหาชน)
+ เปลี่ยนเป็น MTC
+ เนื่องจาก เริ่มแรกเราทำเช่าซื้อ ชื่อดีเอสลิซซิ่ง และเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองไทยลิซซิ่งเพราะดีเอสเป็นภาษาอังกฤษชาวบ้านไม่คุ้น แล้วเลิกทำลิซซิ่งเพราะหนี้เสียเยอะ แต่ยังใช้ชื่อเดิมอยู่เพราะติดตลาดแล้ว
+ ป้ายหน้าร้าน และบิลบอร์ด ต้องเปลี่ยนไหม ตอบ เอาป้ายแคปปิตอลไปปิดไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะภาษาอังกฤษเท่ากัน ภาษาไทยจะตัวเล็กลงหน่อย ส่วนป้ายยื่นเป็นเมืองไทยสินเชื่อด่วน ไม่กระทบ
+ เปลี่ยนเมื่อไร ตอบ 25เมษา
+ ตัองชี้แจงลูกค้าไหม ตอบ เรามีประสพการณ์การเปลี่ยนชื่อมาแล้วครั้งนึง ลูกค้ายังมาออฟฟิสที่เดิม ชุดเหมือนเดิม น่าจะกระทบน้อย ทุกวันนี้ที่พิศนุโลกยังเรียกผมว่าดีเอสอยู่เลย
วาระ 10
+ เพิ่มเติมข้อบังคับบริษัท เรื่อง ชื่อและตราประทับบริษัท
วาระ 11
+ Q&A
+ จากที่คู่แข่งลดดอกเบี้ย และเราลดด้วยมีผลอะไร ตอบ สาขาเรามากกว่าเยอะ คู่แข่งระดับร้อยสาขา น่าจะกระทบลูกค้าไม่มาก และลดถึงแค่กลางปี แล้วสินเชื่อแบบนี้เป็นรีโวล ถ้าปิดก่อนแล้วไม่ลดอาจจะแพงกว่าเรา กำไรก็คงกระทบบ้างในพื้นที่ที่คาบเกี่ยวกัน แต่รายได้มีการขยายตัวทำให้กระทบน้อย
+ อยากให้ปีหน้าวาระสาม ให้ผู้สอบบัญชีอธิบายในส่วนงบบ้าง ตอบ รับไว้
+ ผถหท่านนึงบอกว่าถือมา 4ปีแล้ว และได้เข้าไปสอบถามทางสาขาเรื่อยๆ แต่อยากให้ผบหให้ความมั่นใจ เรื่องข่าวเมื่อเดือนที่แล้ว ตอบ เมื่อมีพรบ.ใหม่จะมีพี่เลี้ยง มีกรอบ มีอะไรฟ้องพี่เลี้ยง มีคนมาดูแล ซึ่งสะท้อนในราคาหุ้นที่เริ่มขึ้นมาแล้ว
+ บริษัทมองการโตมากสุดอย่างไร ตอบ จะพูดแค่ 3ปีเพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว จากนี้จะโต 40% 40% 30% คือสินเชื่อคงค้างโต โดยคงสัดส่วนผลิตภัณ 5อย่างเอาไว้
วาระ 1
+ กรรมการทั้งหมด 7 ท่าน
+ มาด้วยตนเอง 51 ราย รับมอบฉันทะ 1316 ราย รวม1776ล้านหุ้น คิดเป็น 83.4%
+ รับรองรายงานการประชุม 60
วาระ 2
+ ผลการดำเนินงาน 60
+ ยอดปล่อย เพิ่ม 53%
+ ยอดหนี้คงค้างเพิ่ม 51.32%
+ สาขาเพิ่ม 760สาขา เป็น 2424 สาขา
+ คุณภาพลูกหนี้ npl 1.24%
+ สำรอง 265%
+ รายได้เพิ่ม 71%
+ ดอกเบี้ยรับ 23.9% ดอกเบี้ยจ่าย 3% ส่วนต่าง 20.85%
+ กำไรสุทธิ 33.47%
+ คำถาม
+ การลงทะเบียนหน้างานช้า ตอบ จะปรับปรุง
+ npl 1.04 เป็น 1.24 จะปรับให้เท่าเดิมได้ไหม ตอบ เพราะทำสินเชื่อโฉนดที่ดินเพิ่ม มี learning curve ถูกลูกค้าหลอกบ้าง แต่เราต้องปรับตัว เช่น ที่ดินเป็นบ่อ ไปดูจริงขายไม่ได้ แต่ปรับปรุงแล้ว ต้องไปดูที่จริง 2วันได้เงิน
+ พรบ.ดอกเบี้ย พรบเช่าซื้อใหม่ ตอบ ใช้มา 2ปีแล้ว วงเล็บ 1 ดอกเบี้ยไม่เกิน 15% วงเล็บ 3 ไกล้จบแล้วเพราะจะมีพรบ.ฉบับใหม่เข้ามาคุม มี3หมวด 1.คณะกรรมการมีไครบ้าง 2.วิธีกำกับดูแล 3.ดอกเบี้ย ให้เป็นไปตามความเห็นของคณะกรรมการ ดูจากผู้แทนมาจากแบงค์ชาติ คงต้องล้อตามข้อกำหนดแบงค์ชาติ เรายิ้มเลยเพราะถ้าคน charge สูงจะเสียประโยชน์ เพราะตอนนี้เราคิด 23% เราเชื่อว่าพรบ.ฉบับนี้ต้องการแยกแยะคนที่ถูกกฎหมายออกจากผิดกฎหมาย เราทำธุรกิจง่ายเลยเพราะมีข้อกำหนดชัดเจน
+ ส่วนพรบเช่าซื้อ เราไม่ได้ทำเช่าซื้อจึงไม่มีผลกระทบ
+ ifrf9 ใช้ปีหน้า เราใช้อีวายเป็นผู้ตรวจบัญชี และจ้าง kpmg มารันโปรแกรมให้ สำรองพอแล้ว
+ เรื่องถูกฟ้อง และมีหนังสือพิมพ์ฉบับนึงโจมตีเรื่อยๆ ตอบ ไม่ต้องกังวล พอมีพรบ.ใหม่จะดีขึ้น เรื่องสื่อที่ลงว่าผบห.กินดอกเบี้ยสูง ก็ไม่ได้แจ้งความอะไร ถือว่าล้อเล่นกัน ไม่ได้คิดมาก
+ เรื่อง พรบ. จะดีกับบริษัทไหม ตอบ พรบ.นี้น่าจะจบในปีนี้ ส่วนต่างตอนนี้ รับ 23% จ่าย3% ถ้าเพดานใหม่ 30% คงไม่ได้ไปเพิ่มอะไรกับลูกค้า เอาvolume ดีกว่า และต้องดูคู่แข่งด้วย
+ รู้ได้อย่างไรว่า พรบ. จะเสร็จในปีนี้ ตอบ ลองดูในเวป สสค ไวเพราะร่างเสร็จหมดแล้ว
+ รายงานความยั่งยืน เสนอให้เน้นกลุ่มคนที่เกิน 30วัน ที่ 8% เราตั้งเป้าให้เหลือน้อยลง โดยจัดกิจกรรมให้ความรู้
+ การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา ตามคำพิพากษาศาลฏีกาเก่าๆ ผถห.เอาเอกสารมาให้ผบห. คุณดาวนภาตอบว่า ต้องอิงพรบ.ปี 60 เพราะศาลจะตัดสินตามพรบ.ที่ใช้อยู่ในขณะนั้น (ผถห.อยากจะอ่านคำพิพากษา แต่ที่ประชุมไม่ได้ให้อ่าน)
+ ผถห.ท่านนึงให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า คำพิพากษาศาลไม่ไช่กฏหมาย เป็นเพียงแนวทางการพิจารณา และต้องดูกฏหมายเป็นฉบับไปว่า คำพิพากษานั้นอิงกับกฏหมายฉบับใด
+ การขยายสาขา สามารถหาพนักงานได้ไหม ตอบ ผจก.ต้อง 10ปี นั่นคือระดับจังหวัด แต่ ระดับอำเภอ 3ปี ระดับตำบล 1-2ปี ทำให้ยังมีบุคลากรอีกเยอะ
วาระ 3
+ อนุมัติงบการเงิน 60
วาระ 4
+ ปันผล 0.18บ 381.6ล คิดเป็น 15.3%ของกำไร
+ ปี 59 จ่าย 0.10บ 212ล คิดเป็น 14.6%ของกำไร
+ คำถาม
+ มีแนวคิดปันผลเป็นหุ้นหรือไม่ ตอบ ในคณะกรรมการมีการคุยกันแต่สรุปว่ายังปันผลเป็นเงินสด
วาระ 5
+ แต่งตั้งกรรมการ 2 ท่านกลับเข้ามาใหม่
+ คำถาม
+ มีกำหนดของตลท ให้ดำรงตำแหน่งไม่เกิน 6ปี ตอบ เราพิจารณาจากความรู้ความสามารถ และรายแรกยังมีอายุ 5ปี 7เดือน
วาระ 6
+ อนุมัติค่าตอบแทนกรรมการ
+ วงเงินรวมไม่เกิน 8ล เท่ากับปีก่อน
+ ค่าเบี้ยประชุมคณะกรรมการบริษัท ประธาน 60k/ครั้ง กรรมการ 40k/ครั้ง
+ ค่าเบี้ยประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการชุดย่อยอีก 3ชุด (1.สรรหา และค่าตอบแทน 2.บรรษัทภิบาล 3.บริหารความเสี่ยง) ประธาน 30k/ครั้ง กรรมการ 25k/ครั้ง
+ โบนัส ประธาน 700k กรรมการ 500k
วาระ 7
+ แต่งตั้งผู้สอบบัญชี อีวาย
+ ค่าสอบบัญชี 4.18ล จากปีก่อน 3.53ล
+ คำถาม
+ ให้ชี้แจงเหตุผลที่ค่าสอบเพิ่มขึ้น ตอบ จากสาขาที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจหลากหลายเพิ่มนอกจากมอเตอไซ อีกส่วนนึงคือ ifrs9
+ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเปลี่ยนผู้สอบบัญชี เพื่อให้เป็นอิสระ ไม่ยาวนานเกินไป ตอบ ตัวผู้สอบจะไม่เกิน 5ปี แต่ในส่วนบริษัทผู้สอบไม่มีข้อกำหนดว่าต้องเปลี่ยน
+ ถามผู้สอบว่าตรวจอะไรบ้าง บริษัทมีข้อสงสัยอะไรหรือไม่ ตอบ ได้ตรวจงบการเงิน และสรุปในรายงานการประชุมแล้ว คณะกรรมการตรวจสอบให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าไม่มีการ "ซูเอี๊ย" แน่นอน
+ ผู้สอบได้ดูในแง่กฏหมายหรือไม่ ในเรื่องการดำเนินงานเช่นเรื่องพรบ.ดอกเบี้ย กรรมการตรวจสอบตอบว่า ได้ตอบไปแล้วว่าเป็นไปตามมาตรฐานบัญชี
+ เรื่องค่าเผื่อหนี้สงสัยสูญ เพียงพอหรือไม่ คุณชูชาติตอบว่า อิงกับหนี้เสีย
วาระ 8
+ อนุมัติวงเงิน หุ้นกู้ 15,000ล อายุไม่เกิน 5ปี
+ คำถาม
+ de จะเป็นเท่าไร ตอบ ตอนนี้ยอด 36000ล ตั้งเป้า 40% คือ 15000ล รวมส่วนทุนที่จะเข้ามา deจะไม่เกิน 3.3เท่า แค่ cap คือ 4เท่า
+ คุณชูชาติเพิ่มเติมว่า ขออณุญาติปันผล 15% เพื่อเอาเงินมากู้ได้ 4เท่า
วาระ 9
+ เปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด(มหาชน)
+ เปลี่ยนเป็น MTC
+ เนื่องจาก เริ่มแรกเราทำเช่าซื้อ ชื่อดีเอสลิซซิ่ง และเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองไทยลิซซิ่งเพราะดีเอสเป็นภาษาอังกฤษชาวบ้านไม่คุ้น แล้วเลิกทำลิซซิ่งเพราะหนี้เสียเยอะ แต่ยังใช้ชื่อเดิมอยู่เพราะติดตลาดแล้ว
+ ป้ายหน้าร้าน และบิลบอร์ด ต้องเปลี่ยนไหม ตอบ เอาป้ายแคปปิตอลไปปิดไม่ต้องเปลี่ยนใหม่ เพราะภาษาอังกฤษเท่ากัน ภาษาไทยจะตัวเล็กลงหน่อย ส่วนป้ายยื่นเป็นเมืองไทยสินเชื่อด่วน ไม่กระทบ
+ เปลี่ยนเมื่อไร ตอบ 25เมษา
+ ตัองชี้แจงลูกค้าไหม ตอบ เรามีประสพการณ์การเปลี่ยนชื่อมาแล้วครั้งนึง ลูกค้ายังมาออฟฟิสที่เดิม ชุดเหมือนเดิม น่าจะกระทบน้อย ทุกวันนี้ที่พิศนุโลกยังเรียกผมว่าดีเอสอยู่เลย
วาระ 10
+ เพิ่มเติมข้อบังคับบริษัท เรื่อง ชื่อและตราประทับบริษัท
วาระ 11
+ Q&A
+ จากที่คู่แข่งลดดอกเบี้ย และเราลดด้วยมีผลอะไร ตอบ สาขาเรามากกว่าเยอะ คู่แข่งระดับร้อยสาขา น่าจะกระทบลูกค้าไม่มาก และลดถึงแค่กลางปี แล้วสินเชื่อแบบนี้เป็นรีโวล ถ้าปิดก่อนแล้วไม่ลดอาจจะแพงกว่าเรา กำไรก็คงกระทบบ้างในพื้นที่ที่คาบเกี่ยวกัน แต่รายได้มีการขยายตัวทำให้กระทบน้อย
+ อยากให้ปีหน้าวาระสาม ให้ผู้สอบบัญชีอธิบายในส่วนงบบ้าง ตอบ รับไว้
+ ผถหท่านนึงบอกว่าถือมา 4ปีแล้ว และได้เข้าไปสอบถามทางสาขาเรื่อยๆ แต่อยากให้ผบหให้ความมั่นใจ เรื่องข่าวเมื่อเดือนที่แล้ว ตอบ เมื่อมีพรบ.ใหม่จะมีพี่เลี้ยง มีกรอบ มีอะไรฟ้องพี่เลี้ยง มีคนมาดูแล ซึ่งสะท้อนในราคาหุ้นที่เริ่มขึ้นมาแล้ว
+ บริษัทมองการโตมากสุดอย่างไร ตอบ จะพูดแค่ 3ปีเพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว จากนี้จะโต 40% 40% 30% คือสินเชื่อคงค้างโต โดยคงสัดส่วนผลิตภัณ 5อย่างเอาไว้