ข้อมูล BAFS

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
art1234
Verified User
โพสต์: 32
ผู้ติดตาม: 0

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 1

โพสต์

BAFS เป็นหุ้น defensive ที่น่าสนใจในช่วงตลาดผันผวนไม่แพ้หุ้นในกลุ่มค้าปลีก โรงบาล หรือ หุ้นแฟรนไซด์ตัวอื่น เลยหาข้อมูลมาฝากกันครับ

BAFS ผลประกอบการไตรมาสแรกเติบโตอย่างต่อเนื่อง
BAFS ผลประกอบการไตรมาสแรกออกมายังแสดงอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยรายได้เติบโตจาก 267 ล้านบาทในปีที่แล้วเป็น 295 ล้านบาท ในปีนี้จากการเพิ่มขึ้นของการใช้น้ำมันขงสายการบินต้นทุนต่ำที่ปัจจุบันเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นส่งผลให้มีการเพิ่มเที่ยวบินมากขึ้น   ถึงแม้ในปีนี้จะแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้นและหนี้ของบริษัทปัจจุบันมีค่อนข้างมากแต่อยากไรก็ตามบริษัทได้ทำสัญญาค้ำประกันอัตราแลกเปลี่ยนเอาไว้แล้วทำให้ค่าใช้จ่ายจากดอกเบี้ยไม่ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก
ปัจจุบัน BAFS มีอัตราหนี้สินต่อทุนอยู่ที่  1.66 เท่า ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงทีเดียว (ปัจจุบันมียอดหนี้สินรวมกว่า 4000 ล้านบาท)
หากในอนาคตอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นมาจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการอย่างแน่นอน โดยปัจจุบัน BAFS จ่ายดอกเบี้ยไตรมาสละ  10 ล้านบาท หรือปีกว่า 40 ล้านบาทแต่ถ้าอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาอาจจะทำให้บริษัทต้องจ่ายดอกเบี้ยกว่าปีละ 70 ล้านบาททีเดียวซึ่งอาจจะส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัทได้    

รอข่าวดีอาจมีจ่ายปันผลระหว่างกาล
ถึงแม้ผลประกอบการของบริษัทจะยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็ตามแต่จากภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นคาดว่าบริษัทอาจจะประกาศจ่ายปันผลดลงเล็กน้อยโดยเราคาดว่าในครึ่งปีแรกบริษัทจะมีกำไรจากการดำเนินการปกติเท่ากับ 210 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดอิสระในครึ่งปีแรกเท่ากับ 180 ล้านบาท และคาดว่าบริษัทจะจ่ายปันผลในอัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่จ่ายที่ 0.25 บาทต่อหุ้นปัญหาสุวรรณภูมิยังไม่ชัดเจนแต่ยังมีความหวังอยู่

               BAFS เป็นบริษัทหนึ่งที่จะได้รับผลดีจากการเปิดใช้งานของสนามบินสุวรรณภูมิเนื่องจากปัจจุบันสนามบินดอนเมืองปัจจุบันมีการใช้งานจนไม่สามารถรับรองการเดินทางได้แล้วและสายการบินต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการลงจอดที่สนามบินดอนเมืองจากความแออัดจนไม่วสามารถลงจอดได้จึงต้องบินวนเพื่อหาที่ลงจอด การเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิจะทำให้มีการพักลงจอดของสายการบินเพิ่มขึ้น ซึ่งหากเปรียบเทียบกับอัตราค่าธรรมเนียมเติมน้ำมันของสุวรรณภูมิที่ BAFS กำหนดไว้นั้นต่ำกว่าสนามบินคู่แข่งอย่าง สิงค์โป และ ฮ่องกงมาก และเป็นแรงดึงดุให้สายการบินมาลงจอดเติมน้ำมันที่ปรเทศไทยมากขึ้น  เราคาดการว่าหลังจากเปิดใช้สนามบินจะส่งผลให้ผลประกอบการของ BAFS เติบโตอย่างโดดเด่นทีเดียว
art1234
Verified User
โพสต์: 32
ผู้ติดตาม: 0

bafs มีมติปรับค่าบริการเติมน้ำมันจาก 2.5เซ็นต์ เป็น 2.7เซ็นต

โพสต์ที่ 2

โพสต์

จากภาระอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นประกอบกับราคานำมันที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ BAFS ปรับค่าบริการเติมน้ำมันเพิ่มจาก 2.5 เซ็นต์ต่อแกลลอน (1แกลลอน =3.74 ลิตร) เป็น 2.7เซ็นต์ต่อแกลลอน (อาจจะถือโอกาสปรับขึ้นตามการปรับค่าลงจอดของ AOT เลยก็ได้ ) หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ซึ่งจะปรับในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ผมมองว่าจะไม่ส่งผลดีอะไรมากมายนัก ส่วนที่สนามบินสุวรรณภูมิจะมีการเก็บค่าบริการ 5 เซ็นต์ต่อแกลลอน
BHT
Verified User
โพสต์: 1822
ผู้ติดตาม: 0

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ถ้าในหมวดร้อยคนร้อยหุ้นมีหุ้นนี้แล้ว เอาไปโพสต์ใส่ไว้ด้วยสิครับ

ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Rocker
Verified User
โพสต์: 4886
ผู้ติดตาม: 0

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 4

โพสต์

สนามบิน เปิดนะ bafsจะกลายเป็นgrowthไปช่วง 1
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เปิดสนามปิดใหม่
Growth แน่ๆครับ .....
รายได้ Growth
แต่ไม่รู้ว่าจะ Growth หนีต้นทุนได้รึเปล่า อย่าลืมมองจุดนี้นะครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
โอ@
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4246
ผู้ติดตาม: 0

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ถ้ารายได้ที่ดอนเมืองไม่เหมือนเดิม ผมว่าดับอ่ะ
_________
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 7

โพสต์

yoyo เขียน:เปิดสนามปิดใหม่
แก้เป็น
"เปิดสนามบินใหม่"  :oops:
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
nowkung
Verified User
โพสต์: 208
ผู้ติดตาม: 0

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ผมคิดว่า bafs ยังไงๆก็กำไรโตครับ เพราะ
สุวรรณภูมิจะมาแทนดอนเมือง
ส่วน low cost airline ก็จะลงดอนเมืองแทน
ซึ่ง low cost airline พึ่งเกิดขึ้นไม่นานเองมีโอกาสที่จะโตได้อีกมาก

ถ้าราคา bafs ตก จะน่าสนใจมากๆ (ขอให้ตกสัก 6-7 บาท)
ตลาดหุ้นให้โอกาสกับคนโง่ๆเสมอ
ภาพประจำตัวสมาชิก
worapong
Verified User
โพสต์: 929
ผู้ติดตาม: 0

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผมคิดเอาเองนะครับว่า ที่น่าจะเพิ่มขึ้นคงเป็น ebitda แต่ net profit นั้นเดายากครับ
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
uI7J3w
Verified User
โพสต์: 150
ผู้ติดตาม: 0

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 10

โพสต์

BAFs น่าสนใจครับ แต่....





ดบ จ่ายมันก้อนใหญ่นะครับ
ถ้า สุวรรณภูมิเปิดไม่ทันนี่จบเห่เลย

เพราะเจ้าหนี้คงไม่ยอมให้ผ่อนผันกันอีก
ดังนั้น รอให้มันแน่จริงๆแล้วค่อยว่ากันดีกว่าครับ



ยังไง BAFS ก้ยังมีความเสี่ยงนะครับ ควรระวังไว้หน่อยก็ดีครับ
wisut
Verified User
โพสต์: 470
ผู้ติดตาม: 0

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 11

โพสต์

มีคู่แข่งด้วยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
โอ@
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4246
ผู้ติดตาม: 0

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 12

โพสต์

nowkung เขียน:ผมคิดว่า bafs ยังไงๆก็กำไรโตครับ เพราะ
สุวรรณภูมิจะมาแทนดอนเมือง
ส่วน low cost airline ก็จะลงดอนเมืองแทน
ซึ่ง low cost airline พึ่งเกิดขึ้นไม่นานเองมีโอกาสที่จะโตได้อีกมาก

ถ้าราคา bafs ตก จะน่าสนใจมากๆ (ขอให้ตกสัก 6-7 บาท)
แต่รู้ได้ยังไงละครับว่า low cost airline จะมาลงดอนเมือง
ถ้าเกิดไม่ลงขึ้นมาละครับ
_________
ภาพประจำตัวสมาชิก
Linzhi
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1522
ผู้ติดตาม: 1

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 13

โพสต์

wisut เขียน:มีคู่แข่งด้วยครับ
ผมว่าอันนี้คือประเด็นจุดเปลี่ยนสำคัญครับ อย่าลืมจุดนี้นะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
worapong
Verified User
โพสต์: 929
ผู้ติดตาม: 0

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ธุรกิจเติมน้ำมันมีสามส่วนครับ คือ
1.เจ้าของถังน้ำมัน
2.เจ้าของท่อ hydrant
3.บริการเติมน้ำมันใส่เครื่องบิน
คู่แข่งจะมีแค่ส่วนเดียวคือส่วนที่สามกระมังครับ
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
art1234
Verified User
โพสต์: 32
ผู้ติดตาม: 0

เห็นด้วยครับ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

สำหรับข้อกังวลขณะนี้คงมีอยู่ 2 เรื่องคือ
1. ที่สุวรรณภูมิจะมีคู่แข่งเข้ามา 1 ราย
2. สนามบินดอนเมืองจะยังเปิดบริการอย่หรือเปล่า

       เรื่องแรกการที่มีคู่แข่งรายใหม่เนื่องจากเป็นกฎของสนามบินสุวรรณภูมิที่ต้องการให้มีการแข่งขันการเติมน้ำมันเพื่อให้ลดการผูกขาดการเติมน้ำมัน เลยมีคู่แข่งรายหนึ่งเข้ามาแข่งขันซึ่งคู่แข่งรายนี้ก็มีผู้ถือหุ้นเป็นสัญชาติอเมริกัน คือบริษัท ASIG ซึ่งชนะการประมูลมาได้( สัญญา 30 ปี ) ดังนั้นอำนาจการผูกขาดของ BAFS ก็จะลดลงและจะพเป็นผลเสียมากหากคู่แข่งเปิดศึกโดยใช้ PRICE WAR แต่จุดแข็งของ BAFS อยู่ที่การถือหุ้นในบริษัท ทาโก้ ซึ่งได้สัมปทานจากสนามบินให้เป็นผู้วางท่อเพียงรายเดียว ซึ่งมติรัฐมนตรีอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายอื่นเข้ามาเชื่อมต่อกับท่อของ ทาโก้ได้แต่ก็คงต้องมีการตกลงว่าจะมีการคิดค่าธรรมเนียมกันเท่าไรอีกครั้งหนึ่งแต่ผมมองว่า BAFS จะยังได้เปรียบอยู่เพราะเป็นเจ้าของ(แต่เล่นกับภาครัฐนี่อะไรก็ผลิกได้เสมอนะครับ)
        เรื่องที่ 2 ได้มีการสรุปออกมาแล้วว่าสนามบินดอนเมืองจะให้ใช้เฉพาะส่วนราชการกับกองทัพห้ามเอกชนใช้ดังนั้น BAFS จึงต้องย้ายคลังเก็บน้ำมันไปยังสุวรรณภูมิซึ่งทำให้อาจเกิด EXCESS CAPACITY ของคลังเก็บในสุวรรณภูมิได้ ซึ่งผมมองว่าไน่มีปัญหาหากการเติบโตของสนามบินเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้เพียง 2-3 ปี การใช้ CAPACITY ก็น่าจะเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ได้ ส่วนการรับรู้ขาดทุนจากอุปกรณ์ที่ดอนเมืองขาดว่าไม่เกิน 100 ล้านบาทครับ
Oatarm
Verified User
โพสต์: 1266
ผู้ติดตาม: 0

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ข้อกังวลข้อที่ 2 ผมกลับเห็นว่าเป็นผลดีกับ BAFS
   การเปิดใช้สนามบินพาณิชย์เพียงแห่งเดียว  อัตราทำกำไรขั้นต้นดีขึ้น  ต้นทุน บุคคลากร ไม่ต้องเพิ่มมาก  การเก็บค่าบริการอัตราที่สูงกว่าที่สุวรรณภูมิ  ผู้บริหารกล่าวตอนประชุมผู้ถือหุ้นว่า มีแผนจะทำการย้ายคลังจากดอนเมืองไปใช้สุวรรณภูมิ
   ส่วนข้อ 1 ผมทำไม ไม่รู้สึกกังวลนะ  หรือว่า มันด้านชา
wisut
Verified User
โพสต์: 470
ผู้ติดตาม: 0

ข้อมูล BAFS

โพสต์ที่ 17

โพสต์

BIG  BOSS  แอบเข้าเก็บหุ้นแล้วจ้า
โพสต์โพสต์