น้องใหม่

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ทางเทคนิคขอชวน มือเก่าๆทางเทคนิคคุยเรื่องตลาดหุ้นยามเดินทางลงใต้ โดยไม่รู้ว่าคราวนี้พี่แก่จะเมารถเลยออกไปถึง KLหรือเปล่า

เมื่อเช้าฟังน้าสมบัติแกพูดถึง เส้นสองร้อยวันหรืออะไรทำนองเนี้ย แถวๆ630จุด แล้วอาจมีเด้ง เพราะเส้นที่ว่านี้ทำหน้าที่รองรับความเครียดของนักเล่นหุ้นไทยมาได้ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา

ขอถามว่า ไอ้เจ้าเส้นที่ว่านี้มันคืออะไร และมันมีความหมายอะไรในการลงทุน และเชื่อมันได้เปล่า(คือว่ามันมีตรรกอันใดสนับสนุน)ครับ

หวังว่าพี่ๆคงปราณีน้องใหม่คนนี้นะครับ  :la:
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
greenstock
Verified User
โพสต์: 260
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมมือกลางเก่ากลางใหม่แต่ไม่ทราบว่าท่านมนฟังผิดหรือเปล่า เพราะมันหลุดลงมาทุกเส้นตั้งนานแล้วครับ  :shock:
เส้น 200 วันตอนนี้อยู่ที่ 720 ครับ
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 3

โพสต์

Moving Average

This is probably the most widely used and most popular indicator of all. It can assist in determining the direction of a trend and it can be used as an overbought / oversold indicator. When used in conjunction with other indicators, including other moving averages, it can generate buy and sell signals, thus providing a complete trading system if used intelligently.

Ultimately it has a smoothing affect and it can be used to remove noise from the market, by reducing a basic open/high/low/close bar chart even further to a simple line chart.

Moving Average(n) = [Price(n) + Price(n-1) + Price(n-2) + ... + Price(n-m)] / m

where

n is the current period
Price is the closing price
m is a parameter selected by the user
m is the number of samples used to construct the indicator
when calculating the next value, drop the oldest value and add the most recent

เอามาฝากพี่มน คนหล่อครับ...
พูดง่ายๆ ก็คือแต่ละจุดของ Moving Average 200 วัน
ก็คือค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 200 วันนั่นเอง

ถ้ามันหลุดลงมา เซียนเทคนิคเขาว่าเรื่องใหญ่ครับ ...

อ่าน version เต็มๆ
http://www.asx.com.au/research/charting ... verage.htm
"Winners never quit, and quitters never win."
chansaiw
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 710
ผู้ติดตาม: 1

น้องใหม่

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ไม่รู้ว่า 200วันระดับ week รึเปล่า แต่ระดับdayนั้นหลุดไปนานแล้วครับ

ma ก็คือค่าเฉลี่ยหนะครับ เฉลี่ยนี่ก็มีเฉลี่ยแบบ simple แล้วก็ exponencial แล้วก็อีกเพียบ

มีตรรกะอะไรมั้ย ผมว่ามันก็แค่บอกว่า เฉลี่ยในรอบ 200วันที่ผ่านมา set มันเฉลี่ยที่เท่าไหร่

ตรรกะคงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ นอกจากทำให้คนเชื่อว่าตรงนี้น่าจะดี น่าจะน่ารับแรงซื้อคงจะมากแถวนั้น

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นกับผู้นำว่าต้องการอะไร ถ้าอยากขายอะไรก็เอาไม่อยู่
"Failure is the only way to start again intelligently"
pk8
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 481
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 5

โพสต์

น่าจะหมายถึงเส้นค่าเฉลี่ยระดับสัปดาห์ครับ

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2003 คือจุดที่ดัชนีทะลุผ่านไอ้เส้นที่ว่าเนี่ยขึ้นมา ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่ดัชนีลงมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยนี่ และยังเป็นจุดรับทาง Fibonaci ที่สำคัญด้วยครับ

การลงมาทดสอบครั้งแรก ผมว่าน่าจะรับอยู่ แต่ความสำคัญมันอยู่ที่การมี rebound ต่างหาก คือหากว่าเด้งแล้วไม่ผ่าน 699 แล้วไหลลงมาอีก คราวนี้น่าหลุดครับและน่าจะลงไม่อีกพอสมควร

ที่จริง SET ตั้งแต่ขึ้นมาจนปัจจุบันการปรับฐานยังไม่สมบรูณ์เท่าไหร่ครับในทางเทคนิค เพราะฉะนั้นช่วงการลงจึงยังกว้างอยู่
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 6

โพสต์

200วัน ระยะweek 681
          month     504


ผมว่า630 น่าจะเส้นsupport แนวรับมากกว่า
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
ภาพประจำตัวสมาชิก
สามัญชน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 5162
ผู้ติดตาม: 1

น้องใหม่

โพสต์ที่ 7

โพสต์

โอ.....ท่านสมภารเจ้าอาวาส  เรื่องทางโลกนั้นไม่แน่ไม่นอนดอก  มีถูกมีผิด  เจ้าสำนักบัฟเฟตต์เองก็ไม่นิยมย่างนั้น  เพราะหลักธรรมก็ได้พิสูจน์ตัวเองชัดๆมานานแสนนานแล้ว

เดี๋ยวเกิดท่านสมภารไปเกี่ยวข้องมากๆ แล้วเกิดติดใจในรูปรสกลิ่นเสียง เดี๋ยวจะอาบัติเข้านา.......

อันว่ารูปรสกลิ่นเสียงนี้ร้ายนัก  ถ้าได้ลองแม้แต่นิดเดียวจะติดใจได้ง่ายๆ  ไม่อย่างนั้นจะมีคนติดงอมแงมเยอะแยะไปทั่วโลกจนเจ้าสำนักปู่เกรแฮมยกให้เป็น mr.market รึ

และด้วยรูปรสกลิ่นเสียงนี่แหละ  mr.market จะสืบทอดเผ่าพันธุ์และขยายเผ่าพันธุ์ไปได้อีกนานแสนนานเลยหละ  ร้ายขนาดนั้นเลยทีเดียว

แต่ถ้าท่านสมภารจะไปดูเรื่องทางโลกพอเป็นกระสาย  พอแค่ได้ความรู้ก็ดีเหมือนกัน

แต่อย่าลืมกลับวัดเสียหละ  เณรน้อยรออยู่เยอะแยะ   อมิตตาพุทธ.........
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
greenstock
Verified User
โพสต์: 260
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 8

โพสต์

nanchan เขียน:200วัน ระยะweek 681
          month     504


ผมว่า630 น่าจะเส้นsupport แนวรับมากกว่า
ต้องให้กราฟแสดงระยะเวลาอย่างน้อย 4 ปีครับ ถ้าแสดงสั้น ๆ เส้นค่าเฉลี่ยจะไม่คงที่
MarginofSafety
Verified User
โพสต์: 5786
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ถ้าเชื่อว่าตลาดมี Trend หรือแนวโน้ม
อาจจะดูเทคนิคเอาไว้บ้าง
Moving Average ก็เป็นวิธีการอย่างหนึ่งในการ Forecast โดยใช้ Trend

แต่ถ้าไม่เชื่อว่าตลาดมี Trend
หรือเชื่อในทฤษฎี Random Walk
หรือเกสรดอกไม้ในอากาศมีการปลิว อย่างไม่มีระเบียบไม่สามารถคาดเดา
หุ้นก็เป็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน
การเอาราคาหุ้นย้อนหลังมา Plot ก็ไร้ประโยชน์เสียเวลาเปล่า

ขึ้นอยู่กับสมมติฐานที่เชื่อ และ ระยะเวลาการลงทุนด้วยครับ...
"Winners never quit, and quitters never win."
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 10

โพสต์

เจโชจอมทุบ (ซึ่งหลังจากทำงานลุล่วงก็ไม่ค่อยโผล่มาให้เห็นแล้ว)
เคยให้นิยามเจ้าเส้นนี้ว่าคือ "เส้นหมี-กระทิง" หรือเส้นหมี่กระทิ
หรืออะไรประมาณนี้

ถ้าจำไม่ผิด
MisterK
Verified User
โพสต์: 857
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เส้น 200 week แบบ exponential มั้งครับ

กราฟส่วนใหญ่หน้าที่มันก็แค่สรุปตัวเลขยุ่ง ๆ ออกมาเป็นกราฟให้ดูง่าย ๆ    คล้าย ๆ กับกราฟแสดงยอดขายรายไตรมาสรายปี   pie chart , bar chart ฯลฯ ที่บริษัทต่าง ๆ เอามาใช้ช่วยวิเคราะห์ยอดขาย  ต้นทุน ฯลฯ นั่นแหละครับ   ถ้า factor ต่าง ๆ เหมือนเดิมโอกาสถูกก็สูง   ถ้าเปลี่ยนก็มีโอกาสผิดสูง    แต่ก็ดีกว่าไปนั่งเพ่งตัวเลขข้อมูลดิบให้ตาลายมั้ง
jaychou
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ง่า.........เฮียคลายเครียดครับ ผู้นิยามเส้นกระทิงหมี (กระหมิง)

หุหุๆ
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 13

โพสต์

กระหมิง อืมม์

หลังจากถามน้องกุ๊ก เธอบอกว่า น่าจะเป็นคุณธงผานะ
ที่ให้นิยามคำนี้ไว้

http://www.mecgi.com/greenbull/view.php ... =2&id=4078

แต่เฮียคค.น่าจะเป็นคนแรกที่เอามาใช้กับเส้นที่ว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mon money
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 3134
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 14

โพสต์

[quote="สามัญชน"]โอ.....ท่านสมภารเจ้าอาวาส
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
Supra
Verified User
โพสต์: 479
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 15

โพสต์

:lol:  :lol:

        200 วันอันตราย.........555  :wink:
*****
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ถ้าพูดถึงเหตุผลของเส้น 200 วัน หรือ 200 สัปดาห์

ตามทฤษฎี เส้นที่ว่านี่คือราคาเฉลี่ยของคนที่ซื้อ/ขายหุ้น
ในช่วง 200 วันที่ผ่านมา (ก็ประมาณเกือบ -- หลังบวกวันหยุด)

ถ้าราคาปิดลงไปต่ำกว่า 200 วัน เป็นเวลาหลายวัน
แสดงว่า มีคนขาดทุนกันเยอะแล้ว

มีความเป็นไปได้ที่คนส่วนใหญ่  (หรือมือใหญ่ถือหุ้นเยอะ)
จะมองแล้วว่า ไม่รอดแน่ๆ จึงได้ขายออกมา

แต่ผมคิดอีกแบบครับ

ในอเมริกา ดินแดนแห่งเสรีภาพ (ของอเมริกันชน)
มีนักลงทุนในกองทุนจำนวนหนึ่ง
ใช้เส้นที่ว่านี้ เป็นแนวตัดสินใจซื้อขายหน่วยลงทุน

โดยจะซื้อถ้า S&P 500 Index ในสัปดาห์นั้น
ปิดเหนือเส้น 200 วัน

และจะขาย เมื่อราคา S&P 500 Index ในสัปดาห์นั้น
ปิดต่ำกว่าเส้น 200 วัน

เมื่อดูสถิติย้อนหลัง การลงทุนง่ายๆ แบบนี้
(คิดค่าคอมฯ ไปกลับจากการซื้อขายแล้ว)
ให้ผลตอบแทนดีกว่า buy & hold ราวๆ 1-2% ต่อปี
เฉลี่ย 20 ย้อนหลัง

บางที เมื่อผู้ถือหน่วยลงทุนขาย กองทุนก็ต้องขายตาม
เพราะต้องเตรียม cash สำหรับจ่ายผู้ถือหน่วย

เป็นวิบากกรรมเดียวกับผู้จัดการกองทุนบ้านเรา
ที่ต้องขายเมื่อ SET เด้งเกิน 10%
เพียงเพราะผู้ถือหน่วยลงทุนจำนวนมากจะขาย
เมื่อ index +10%
koi-bito
Verified User
โพสต์: 19
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 17

โพสต์

เส้นค่าเฉลี่ย200 (หน่วยอาจจะเป็น ชม วัน อาทิตย์ และอื่นๆ ก็ได้) ก็คือราคาเฉลี่ยของคนที่ซื้อหุ้นนั้นๆมา 200 วัน(สมมุติว่าเรากำลังสนใจหน่วยที่เป็นวันก็แล้วกัน)
หลายครั้งผมก็สงสัยว่าทำไมละเส้นที่ว่านี้จะเป็นแนวรับเมื่อหุ้นลง และเป็นแนวต้านเมื่อหุ้นขึ้น ก็พยายามให้เหตุผลกับตัวเองมากมาย เอาเป็นคร่าวๆดังนี้นะ
คนเราเวลาซื้อหุ้นแล้วหุ้นขึ้น กำไรก็ไม่ค่อยขายกัน พอหุ้นเริ่มลง เมื่อลงใหม่ๆ ก็หวังว่ามันจะเด้งกลับสูงขึ้นไปที่เดิมที่มีกำไรสูงๆ แต่มันก็ไม่กลับเสียที่ เอาแต่ลงมาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ก็จะยังไม่ยอมขาย จนมาถึงวันหนึ่งคงรู้สึกหมดหวังแล้วจึงขาย  ซึ่งจุดนั้นพอดีมาตรงกับเส้นค่าเฉลี่ยพอดี อาจเป็น 200, 100, 90 ก็ได้ สงสัยจะไม่รู้เรื่องแน่ๆเลย เอาเป็นว่าไปลองคิดดูดีๆ แล้วกัน

ลองคิดอีกอย่าก็ได้ ซื้อหุ้นมานานแล้วโดยมีต้นทุนเท่าๆกับค่าเฉลี่ยของฝูงชนที่ซื้อเฉลี่ยมา 200 วัน รูสึกได้กำไรจากหุ้นตัวนี้มาก็นาน หุ้นลงก็หวังว่าจะกลับไปสูงได้เท่าเดิมแต่พอลงมาใกล้ๆตนทุนแล้วจึงขาย

เอาเป็นว่าคุณ mon ควรไปคิดเองแล้วกันนะอธิบายคงไม่ค่อยรู้เรื่อง
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 18

โพสต์

ที่อัฒจรรย์เชียร์บอลแห่งหนึ่ง (เพื่อให้อินกับบอลโลก ;))

ถ้าคนดูคนหนึ่ง มองขึ้นไปบนท้องฟ้า

คนทั้งสนามก็เฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร

แต่ถ้าคนดู 200 คน แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

คนข้างๆ 200 คนนั้น จะเงยหน้าขึ้นไปมองด้วย
ว่าเขาดูอะไรกันเหรอ

มองไปมองมา คนทั้งสนามก็จะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

ถ้าทุกคนรอบตัวคุณมองขึ้นไปบนท้องฟ้าหมด

คุณจะมองหรือเปล่า
nanchan
Verified User
โพสต์: 2938
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ผมว่าเทคนิคเคิลช่วยได้

ผมว่าคนที่มีความรู้พื้นฐานหุ้นที่ดีอยู่แล้ว
ถ้านำเทคนิคมาช่วย จะ success กว่า

และก็ต้องยอมรับว่าวันนี้แม้จะมองเทคนิคเป็นบ้าง
แต่อารมณ์ยังbias อยู่

ถ้าใช้เทคนิคมาช่วยในการเล่นหุ้นตั้งแต่แรก
ผมว่าปานนี้ผมคงรวยไปถึงไหนแล้ว
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
JL
Verified User
โพสต์: 188
ผู้ติดตาม: 0

น้องใหม่

โพสต์ที่ 20

โพสต์

CK เขียน:ที่อัฒจรรย์เชียร์บอลแห่งหนึ่ง (เพื่อให้อินกับบอลโลก ;))

ถ้าคนดูคนหนึ่ง มองขึ้นไปบนท้องฟ้า

คนทั้งสนามก็เฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร

แต่ถ้าคนดู 200 คน แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

คนข้างๆ 200 คนนั้น จะเงยหน้าขึ้นไปมองด้วย
ว่าเขาดูอะไรกันเหรอ

มองไปมองมา คนทั้งสนามก็จะมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

ถ้าทุกคนรอบตัวคุณมองขึ้นไปบนท้องฟ้าหมด

คุณจะมองหรือเปล่า
ไม่มอง ดูถ่ายทอดทางทีวี
โพสต์โพสต์