Twin deficit ในเชิง Macroeconomic มีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ?
-
- Verified User
- โพสต์: 1746
- ผู้ติดตาม: 0
Twin deficit ในเชิง Macroeconomic มีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ?
โพสต์ที่ 1
ผมอ่าน ๆ ดูใน Macro Economic แล้วก็ยังงง ๆ ว่ามันมีข้อดียังไง ข้อเสียก็พอเข้าใจในเรื่องการขาดดุล แต่ข้อดีนี่ เป็นในแง่ temporary deficit ในช่วงเริ่มการลงทุนหรือเปล่าครับ ?? จบวิศวะมาอ่านเศรษฐศาสตร์แล้วปวดหัว
ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนครับ
ขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนครับ
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
Twin deficit ในเชิง Macroeconomic มีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ?
โพสต์ที่ 2
คุ้นๆ ตอนเรียนก็มีเรื่องนี้เหมือนกัน ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกันคับ แต่ลองมาอ่านที่เค้าอธิบายอีกทีก็พอจะเข้าใจได้อย่างงี้ครับ
ขอขยายความเล็กน้อย Twin Deficit คือการขาดดุลทั้งสองบัญชีคือดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศ และดุลงบประมาณประจำปีของรัฐบาล ซึ่งตามทฤษฎีมันจะเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน (เหมือนในสหรัฐปี 1980-1990) จริงๆ แล้วความสัมพันธ์มันมีครับ แต่มันค่อนข้างคณิตศาสตร์ไปนิดนึง แต่ก็เข้าใจได้ไม่ยากนัก ต้องดูจากสูตรนี้ครับ
GDP = Consumption + Investment + Government Spending + Export - Import
ย้าย ข้างไปมาเล็กน้อย
GDP Consumption Investment = Government Spending + Export Import
ยังโออยู่เนาะ เติมเรื่องของภาษีเข้าไปอีกนิดหน่อยและจัดกลุ่มอีกนิด
(GDP Consumption Tax (ภาษีจ่ายให้รัฐ)) Investment = (Government Spending Tax) + (Export Import)
ถ้ามองว่า GDP (รายได้) หักสิ่งที่เราใช้จ่ายหักกับส่วนที่จ่ายเงินภาษี ที่เหลือก็คือ Saving ของภาคเอกชนและผู้บริโภคนั่นเอง ส่วน Government Spending Tax คือดุลงบประมาณ (Government Budget) และ Export Import คือ ดุลบัญชีเดินสะพัดนั่นเอง สรุปจากการจัดกลุ่มใหม่ได้ว่า
Private Saving Investment = Government Budget + Current Account หรือ
= Government Budget Current Account Deficit
เอ้า Twin Deficit มาแล้ว จะเห็นได้ว่า ถ้ารัฐบาลทำนโยบายงบประมาณขาดดุล (Government budget < 0) แปลว่ารัฐจะหาเงินมาได้จากสองทางเลือก คือทางเลือกแรก
Private Saving (ลง) Investment (เพิ่ม) = Gov. Budget (ติดลบ) Current Account Deficit
ทางเลือกแรกคือทางเลือกฝั่งทางซ้ายมือของเครื่องหมายคือการขอตังค์จากภาคเอกชนหรือผู้บริโภคเพื่อเพิ่มการลงทุน (Investment) เช่นการขายทรัพย์สินที่ประเทศมี (เช่น privatize รัฐวิสากิจ หรือขายสัมปทาน เป็นต้น) ให้กับคนในประเทศ หรือลด private saving รัฐบาลออกพันธบัตรหรือตราสารหนี้ที่จะเอาเงินเก็บของภาคเอกชนและผู้บริโภคที่อยู่ในประเทศเอามาลงทุนกับของรัฐบาลถ้าเป็นยังงี้ก้อจะไม่กระทบกับ account deficit และจะไม่เกิดอาการ twin deficit
ทางเลือกที่สอง
Private Saving Investment = Gov. Budget (ติดลบ) Current Account Deficit (เพิ่ม)
ในกรณีนี้จะเกิดก็ต่อเมื่อเงินออมในประเทศที่หักจากการลงทุนของภาคเอกชนและผู้บริโภคแล้ว (ข้างขวาของสมการ) ไม่พอกับงบประมาณขาดดุลของภาครัฐ ก็หมายความว่าการขาดดุลของรัฐบาลจะต้องอาศัยการเพิ่มขึ้นของการขาดดุลการค้าเพื่อจะ Finance การขาดดุลงบประมาณโดยที่จะต้องหวังพึ่งจากบัญชีเดินสะพัดที่ต้องขาดดุลเพิ่มขึ้น
มันก็เลยเป็นที่มาของ twin deficit แปลว่าการขาดดุลงบประมาณจะนำมาซึ่งการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในที่สุด
แล้วมันดีหรือไม่ดีล่ะ อืม ผมว่ามันก็จะดีนะถ้าการลงทุนของรัฐนั้นมีส่วนทำให้ GDP ของประเทศมีมูลค่าสูงขึ้นหรือไม่ เช่นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาการผลิต (ไม่ใช่เพื่อหาเสียง เช่น สะพานควายข้าม หรือตัดถนนเพื่อเพิ่มราคาที่ดิน) หรือลงทุนทำให้การส่งออกทำได้ดียิ่งขึ้น (ไม่ใช่ไปซื้อเครื่องบิน jet) ถ้าไม่ สิ่งที่เกิดตามมาก็คือมันจะทำให้งบประมาณขาดดุลกับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล วนกันไปมาเป็นระยะเวลาหลายๆ ปีเลยละครับ ถ้าไม่ทำยังงั้นก็จะเกิดภาวะที่ GDP จะถดถอยอย่างรุนแรง เรียกว่า ตอนนี้เรากำลังจะเสพยาเสพติดแล้วครับ เลิกได้ยาก แปลว่าเราจะยิ่งพึ่งพาเงินออมของต่างชาติมากขึ้นๆ เรื่อยๆ ครับ
เอ่อ.แล้วเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงละคร้าบบบบ
อันนี้ไม่มีคำตอบ :oops:
อ้างอิงจาก:
http://www.mises.org/fullstory.aspx?control=1598
http://internationalecon.com/v1.0/Finan ... 5c090.html
ขอขยายความเล็กน้อย Twin Deficit คือการขาดดุลทั้งสองบัญชีคือดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศ และดุลงบประมาณประจำปีของรัฐบาล ซึ่งตามทฤษฎีมันจะเกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน (เหมือนในสหรัฐปี 1980-1990) จริงๆ แล้วความสัมพันธ์มันมีครับ แต่มันค่อนข้างคณิตศาสตร์ไปนิดนึง แต่ก็เข้าใจได้ไม่ยากนัก ต้องดูจากสูตรนี้ครับ
GDP = Consumption + Investment + Government Spending + Export - Import
ย้าย ข้างไปมาเล็กน้อย
GDP Consumption Investment = Government Spending + Export Import
ยังโออยู่เนาะ เติมเรื่องของภาษีเข้าไปอีกนิดหน่อยและจัดกลุ่มอีกนิด
(GDP Consumption Tax (ภาษีจ่ายให้รัฐ)) Investment = (Government Spending Tax) + (Export Import)
ถ้ามองว่า GDP (รายได้) หักสิ่งที่เราใช้จ่ายหักกับส่วนที่จ่ายเงินภาษี ที่เหลือก็คือ Saving ของภาคเอกชนและผู้บริโภคนั่นเอง ส่วน Government Spending Tax คือดุลงบประมาณ (Government Budget) และ Export Import คือ ดุลบัญชีเดินสะพัดนั่นเอง สรุปจากการจัดกลุ่มใหม่ได้ว่า
Private Saving Investment = Government Budget + Current Account หรือ
= Government Budget Current Account Deficit
เอ้า Twin Deficit มาแล้ว จะเห็นได้ว่า ถ้ารัฐบาลทำนโยบายงบประมาณขาดดุล (Government budget < 0) แปลว่ารัฐจะหาเงินมาได้จากสองทางเลือก คือทางเลือกแรก
Private Saving (ลง) Investment (เพิ่ม) = Gov. Budget (ติดลบ) Current Account Deficit
ทางเลือกแรกคือทางเลือกฝั่งทางซ้ายมือของเครื่องหมายคือการขอตังค์จากภาคเอกชนหรือผู้บริโภคเพื่อเพิ่มการลงทุน (Investment) เช่นการขายทรัพย์สินที่ประเทศมี (เช่น privatize รัฐวิสากิจ หรือขายสัมปทาน เป็นต้น) ให้กับคนในประเทศ หรือลด private saving รัฐบาลออกพันธบัตรหรือตราสารหนี้ที่จะเอาเงินเก็บของภาคเอกชนและผู้บริโภคที่อยู่ในประเทศเอามาลงทุนกับของรัฐบาลถ้าเป็นยังงี้ก้อจะไม่กระทบกับ account deficit และจะไม่เกิดอาการ twin deficit
ทางเลือกที่สอง
Private Saving Investment = Gov. Budget (ติดลบ) Current Account Deficit (เพิ่ม)
ในกรณีนี้จะเกิดก็ต่อเมื่อเงินออมในประเทศที่หักจากการลงทุนของภาคเอกชนและผู้บริโภคแล้ว (ข้างขวาของสมการ) ไม่พอกับงบประมาณขาดดุลของภาครัฐ ก็หมายความว่าการขาดดุลของรัฐบาลจะต้องอาศัยการเพิ่มขึ้นของการขาดดุลการค้าเพื่อจะ Finance การขาดดุลงบประมาณโดยที่จะต้องหวังพึ่งจากบัญชีเดินสะพัดที่ต้องขาดดุลเพิ่มขึ้น
มันก็เลยเป็นที่มาของ twin deficit แปลว่าการขาดดุลงบประมาณจะนำมาซึ่งการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในที่สุด
แล้วมันดีหรือไม่ดีล่ะ อืม ผมว่ามันก็จะดีนะถ้าการลงทุนของรัฐนั้นมีส่วนทำให้ GDP ของประเทศมีมูลค่าสูงขึ้นหรือไม่ เช่นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาการผลิต (ไม่ใช่เพื่อหาเสียง เช่น สะพานควายข้าม หรือตัดถนนเพื่อเพิ่มราคาที่ดิน) หรือลงทุนทำให้การส่งออกทำได้ดียิ่งขึ้น (ไม่ใช่ไปซื้อเครื่องบิน jet) ถ้าไม่ สิ่งที่เกิดตามมาก็คือมันจะทำให้งบประมาณขาดดุลกับดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล วนกันไปมาเป็นระยะเวลาหลายๆ ปีเลยละครับ ถ้าไม่ทำยังงั้นก็จะเกิดภาวะที่ GDP จะถดถอยอย่างรุนแรง เรียกว่า ตอนนี้เรากำลังจะเสพยาเสพติดแล้วครับ เลิกได้ยาก แปลว่าเราจะยิ่งพึ่งพาเงินออมของต่างชาติมากขึ้นๆ เรื่อยๆ ครับ
เอ่อ.แล้วเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงละคร้าบบบบ
อันนี้ไม่มีคำตอบ :oops:
อ้างอิงจาก:
http://www.mises.org/fullstory.aspx?control=1598
http://internationalecon.com/v1.0/Finan ... 5c090.html
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
Twin deficit ในเชิง Macroeconomic มีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ?
โพสต์ที่ 3
แก้ไขนิดนึงครับ
สมการต้องเป็น
Sp (Private Saving) - I (Investment) = Gov. Budget Deficit - Current Account Deficit
หรือ
Gov.Budget Deficit = (Sp - I) + Current Account Deficit
ทางเลือกแรก: Finance จากภายใน
(Sp - I) (เพิ่ม) + Current Account Deficit = Gov.Budget Deficit (เพิ่ม)
ก้อคือต้องเอา saving ของภาคเอกชนและผู้บริโภคนะแหละมาให้เงินรัฐ
ทางเลือกที่สอง : Finance จากภายนอก
(Sp-I) + Current Account Deficit (เพิ่ม) = Gov.Budget Deficit (เพิ่ม) อันนี้เป็น twin deficit
ขออภัยครับกลับข้างสมการไปมาเลยมั่วไปหน่อย :oops:
เอ...เดี๋ยวนี้แก้ posting ของตัวเองไม่ได้แล้วเหรอ :?:
สมการต้องเป็น
Sp (Private Saving) - I (Investment) = Gov. Budget Deficit - Current Account Deficit
หรือ
Gov.Budget Deficit = (Sp - I) + Current Account Deficit
ทางเลือกแรก: Finance จากภายใน
(Sp - I) (เพิ่ม) + Current Account Deficit = Gov.Budget Deficit (เพิ่ม)
ก้อคือต้องเอา saving ของภาคเอกชนและผู้บริโภคนะแหละมาให้เงินรัฐ
ทางเลือกที่สอง : Finance จากภายนอก
(Sp-I) + Current Account Deficit (เพิ่ม) = Gov.Budget Deficit (เพิ่ม) อันนี้เป็น twin deficit
ขออภัยครับกลับข้างสมการไปมาเลยมั่วไปหน่อย :oops:
เอ...เดี๋ยวนี้แก้ posting ของตัวเองไม่ได้แล้วเหรอ :?:
ขอนไม้อันนิ่งสงบ
- Willpower
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
Twin deficit ในเชิง Macroeconomic มีข้อดีข้อเสียอย่างไรครับ?
โพสต์ที่ 5
อธิบายได้ตามที่คุณ ayethebing ว่านั่นแหละครับ
ขอเสริมนิดว่า มันก็คือขาดดุลคู่ ขาดดุลทั้งเดินสะพัดและการคลังนั่นครับ
รัฐบาลมีเงินไม่พอก็กู้เงินออมในประเทศ แต่ไม่พอก็กู้นอก ถ้ากู้จำนวนมากทำให้ BOP ติดลบ นั่นเอง
ขอเสริมนิดว่า มันก็คือขาดดุลคู่ ขาดดุลทั้งเดินสะพัดและการคลังนั่นครับ
รัฐบาลมีเงินไม่พอก็กู้เงินออมในประเทศ แต่ไม่พอก็กู้นอก ถ้ากู้จำนวนมากทำให้ BOP ติดลบ นั่นเอง