ช่วงนี้สำหรับชาว vi อะไรเป็นปัจจัยที่น่ากังวลที่สุดครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 689
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วงนี้สำหรับชาว vi อะไรเป็นปัจจัยที่น่ากังวลที่สุดครับ
โพสต์ที่ 1
อยากทราบความเห็นว่า...อะไรเป็นปัจจัยที่น่ากังวลที่สุดครับช่วงนี้...ในมุมมองของ vi
1. เงินเฟ้อ
2. น้ำมันแพง
3. อัตราดอกเบี้ย
4. ปัจจัยต่างประเทศ เช่น ขายหุ้นทั่วโลก การเกิดสงคราม
5. ปัจจัยในประเทศ เช่น การเมือง เศรษฐกิจในประเทศ
6. ไม่น่ากังวลใจอะไรเลย
หรืออื่นๆ
:shock: :shock:
1. เงินเฟ้อ
2. น้ำมันแพง
3. อัตราดอกเบี้ย
4. ปัจจัยต่างประเทศ เช่น ขายหุ้นทั่วโลก การเกิดสงคราม
5. ปัจจัยในประเทศ เช่น การเมือง เศรษฐกิจในประเทศ
6. ไม่น่ากังวลใจอะไรเลย
หรืออื่นๆ
:shock: :shock:
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วงนี้สำหรับชาว vi อะไรเป็นปัจจัยที่น่ากังวลที่สุดครับ
โพสต์ที่ 6
ผมเดาว่าปีนี้น้ำมันจะขึ้นอีกเป็นปีสุดท้ายและจะไม่สูงไปกว่านี้อีกแล้ว
ดังนั้นเงินเฟ้อจะสูงแค่ปีนี้ปีเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นฐานของปีนี้ที่สูงจะทำให้เงินเฟ้อต่ำในปีต่อไป ที่จริงแล้วถ้าน้ำมันไม่แพงเงินเฟ้อไทยจะต้องต่ำเพราะบ้านเราตกอยู่ในภาวะ excess capacity
ดอกเบี้ยก็จะตามน้ำมัน
สำหรับผม น้ำมัน ดอกเบี้ย และเงินเฟ้อ จึงไม่น่าห่วงเมื่อพ้นปีนี้ไป
ดังนั้นที่ห่วงอยู่ตอนนี้มีเรื่องเดียว คือ ราคาหุ้นโดยรวมยังคงสูงกว่ามูลค่าทีแท้จริงเมื่อพิจารณาจาก Growth ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
ดังนั้นเงินเฟ้อจะสูงแค่ปีนี้ปีเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นฐานของปีนี้ที่สูงจะทำให้เงินเฟ้อต่ำในปีต่อไป ที่จริงแล้วถ้าน้ำมันไม่แพงเงินเฟ้อไทยจะต้องต่ำเพราะบ้านเราตกอยู่ในภาวะ excess capacity
ดอกเบี้ยก็จะตามน้ำมัน
สำหรับผม น้ำมัน ดอกเบี้ย และเงินเฟ้อ จึงไม่น่าห่วงเมื่อพ้นปีนี้ไป
ดังนั้นที่ห่วงอยู่ตอนนี้มีเรื่องเดียว คือ ราคาหุ้นโดยรวมยังคงสูงกว่ามูลค่าทีแท้จริงเมื่อพิจารณาจาก Growth ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 689
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วงนี้สำหรับชาว vi อะไรเป็นปัจจัยที่น่ากังวลที่สุดครับ
โพสต์ที่ 7
รบกวนพี่สุมาอี้ช่วยขยายความหน่อยได้มั้ยครับว่า sector ไหน...ดังนั้นที่ห่วงอยู่ตอนนี้มีเรื่องเดียว คือ ราคาหุ้นโดยรวมยังคงสูงกว่ามูลค่าทีแท้จริงเมื่อพิจารณาจาก Growth ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
หรือว่าจะหมายความว่าโดยภาพรวมเศรษฐกิจบ้านเราใน3ปีข้างหน้าการขยายตัวจะไม่มีการขยายตัวเลยหรือขยายตัวแต่ค่อนข้างต่ำรึป่าวครับพี่สุมาอี้
เพราะจริงๆแล้วถ้ามองด้านgrowthแล้วผมไม่ได้มองอย่างนั้น ผมแค่มองว่า หลายๆ sector เช่น ภาคการท่องเที่ยว, insurance, health, หรืออย่าง property ที่ถูกกดมาหลายปี พวกนี้ยังมีroomให้ขยายตัวได้อีกมาก ถึงแม้ growth ใน sector อื่นๆอาจจะไม่สูงนักก็ตาม...ดังนั้น vi ที่มองอนาคตดีๆและมองได้ถูกต้อง และสามารถเลือกหุ้นได้ถูกต้อง ก็ไม่ควรจะกังวลมากนัก กับตลาดในช่วงนี้
แต่ถ้าเป็นแบบที่เป็นแบบที่พี่สุมาอี้บอกจิง(ว่าโดยรวมgrowthไม่มี)...ผมว่าน่ากังวลอย่างมาก... ขอบคุนครับ...
:shock: :shock:
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วงนี้สำหรับชาว vi อะไรเป็นปัจจัยที่น่ากังวลที่สุดครับ
โพสต์ที่ 9
ผมเชื่อในทฤษฎีที่ว่าอัตราการเติบโตของ GDP เฉลี่ยในระยะยาวนั้นขึ้นอยู่กับอัตราเร็วในการเคลื่อนตัวของ Long-run supply curve ไปทางขวา อัตราเร็วนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงถ้าผลิตภาพของประเทศไม่ได้เปลี่ยนแปลง
สำหรับเศรษฐกิจที่อิ่มตัวแล้วจะอยู่ประมาณ 3% ส่วนเศรษฐกิจเกิดใหม่จะอยู่ประมาณ 5% อย่าถามว่าทำไมต้อง 3 ทำไมต้อง 5 เพราะผมไม่รู้ เป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่เศรษฐกิจที่อยู่ในกับดักสภาพคล่องน่าจะโตได้น้อยกว่านั้นสัก 2-3% เช่น ญี่ปุ่นโตเหลือแค่ 0% ส่วนไทยนั้นก็ควรโตเหลือสัก 3% จนกว่าจะหลุดออกจากกับดักสภาพคล่องไปได้
3 ปีที่ผ่านมาเป็นการโตที่สูงผิดปกติอันเนื่องมาจากการกระตุ้น demand curve แต่เนื่องจาก long-run supply curve ยังเหมือนเดิม ดังนั้นในอีก 3 ปีข้างหน้าก็จะต้องเติบโตต่ำๆ เพื่อให้ค่าเฉลี่ยในระยะยาวออกมาที่ 3%
ความเชื่อของผมเป็นแบบนั้น และผมเชื่อว่าผมเป็นคนส่วนน้อยที่เชื่อแบบนั้น ดังนั้นผมจึงคาดเดาว่าตลาดหุ้นตอนนี้น่าจะยังไม่มีการปรับลดความคาดหวังเรื่องการเติบโตที่สูงออกไปจากราคา
ฟังหูไว้หูก็ละกันครับอย่าเชื่อมาก การทำนาย GDP ล่วงหน้าเป็นเรื่องต้องห้าม เพราะโอกาสถูกน้อยมาก เอาเป็นว่า the most likely case ของผมเป็นแบบนี้ก็ละกัน โดยส่วนตัวผมขอรอดูการตอบสนองของตลาดต่อผลประกอบการไตรมาสสองก่อน ช่วงนี้ขอเว้นวรรคการลงทุนโดยสิ้นเชิงครับ
สำหรับเศรษฐกิจที่อิ่มตัวแล้วจะอยู่ประมาณ 3% ส่วนเศรษฐกิจเกิดใหม่จะอยู่ประมาณ 5% อย่าถามว่าทำไมต้อง 3 ทำไมต้อง 5 เพราะผมไม่รู้ เป็นเรื่องของธรรมชาติ แต่เศรษฐกิจที่อยู่ในกับดักสภาพคล่องน่าจะโตได้น้อยกว่านั้นสัก 2-3% เช่น ญี่ปุ่นโตเหลือแค่ 0% ส่วนไทยนั้นก็ควรโตเหลือสัก 3% จนกว่าจะหลุดออกจากกับดักสภาพคล่องไปได้
3 ปีที่ผ่านมาเป็นการโตที่สูงผิดปกติอันเนื่องมาจากการกระตุ้น demand curve แต่เนื่องจาก long-run supply curve ยังเหมือนเดิม ดังนั้นในอีก 3 ปีข้างหน้าก็จะต้องเติบโตต่ำๆ เพื่อให้ค่าเฉลี่ยในระยะยาวออกมาที่ 3%
ความเชื่อของผมเป็นแบบนั้น และผมเชื่อว่าผมเป็นคนส่วนน้อยที่เชื่อแบบนั้น ดังนั้นผมจึงคาดเดาว่าตลาดหุ้นตอนนี้น่าจะยังไม่มีการปรับลดความคาดหวังเรื่องการเติบโตที่สูงออกไปจากราคา
ฟังหูไว้หูก็ละกันครับอย่าเชื่อมาก การทำนาย GDP ล่วงหน้าเป็นเรื่องต้องห้าม เพราะโอกาสถูกน้อยมาก เอาเป็นว่า the most likely case ของผมเป็นแบบนี้ก็ละกัน โดยส่วนตัวผมขอรอดูการตอบสนองของตลาดต่อผลประกอบการไตรมาสสองก่อน ช่วงนี้ขอเว้นวรรคการลงทุนโดยสิ้นเชิงครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- Linzhi
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1522
- ผู้ติดตาม: 1
ช่วงนี้สำหรับชาว vi อะไรเป็นปัจจัยที่น่ากังวลที่สุดครับ
โพสต์ที่ 11
กังวลราคาที่ยังคงแพงเกินไปครับ เหมือนคุณสุมาอี้
แต่ประเทศไทยยังโชคดีที่ความคาดหวังยังน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย ทำให้พอกัดฟันซื้อได้ แต่ยังไงหลัง ๆ ก็ซื้อแต่หุ้นที่ราคาไม่ค่อยมี discount เท่าไหร่เลยครับ :oops:
แต่ประเทศไทยยังโชคดีที่ความคาดหวังยังน้อยกว่าประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย ทำให้พอกัดฟันซื้อได้ แต่ยังไงหลัง ๆ ก็ซื้อแต่หุ้นที่ราคาไม่ค่อยมี discount เท่าไหร่เลยครับ :oops:
-
- Verified User
- โพสต์: 337
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วงนี้สำหรับชาว vi อะไรเป็นปัจจัยที่น่ากังวลที่สุดครับ
โพสต์ที่ 14
ผมเดาว่าเกินหนึ่งปีครับสุมาอี้ เขียน:ผมเดาว่าปีนี้น้ำมันจะขึ้นอีกเป็นปีสุดท้ายและจะไม่สูงไปกว่านี้อีกแล้ว
ดังนั้นเงินเฟ้อจะสูงแค่ปีนี้ปีเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นฐานของปีนี้ที่สูงจะทำให้เงินเฟ้อต่ำในปีต่อไป ที่จริงแล้วถ้าน้ำมันไม่แพงเงินเฟ้อไทยจะต้องต่ำเพราะบ้านเราตกอยู่ในภาวะ excess capacity
ดอกเบี้ยก็จะตามน้ำมัน
สำหรับผม น้ำมัน ดอกเบี้ย และเงินเฟ้อ จึงไม่น่าห่วงเมื่อพ้นปีนี้ไป
ดังนั้นที่ห่วงอยู่ตอนนี้มีเรื่องเดียว คือ ราคาหุ้นโดยรวมยังคงสูงกว่ามูลค่าทีแท้จริงเมื่อพิจารณาจาก Growth ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
แต่ไม่คิดจะเล่นกับมันครับ
กลัว............
ได้แต่ลองหัดวิเคราะห์ไปก่อน
-
- Verified User
- โพสต์: 689
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วงนี้สำหรับชาว vi อะไรเป็นปัจจัยที่น่ากังวลที่สุดครับ
โพสต์ที่ 16
จริงๆแล้วผมอยากจะโพสต์แบบให้ความหมายว่า ชาวVI เค้ากลัวปัจจัยพวกนี้ด้วยหรือจนไม่กล้าซื้อหรือไม่กล้าถือหุ้นกันแม้ในสภาวะที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน...จึงได้ยกปัญหาเหล่านี้ออกมาให้ชาว vi ช่วยกันวิเคราะห์กัน...แม้ว่าหุ้นที่เราถืออยู่ยังมีคุณค่าและถูกกว่าgrowthในอนาคตก็ตาม
...
แต่ที่พี่สุมาอี้โพสต์แสดงความเห็นออกมาก็ถือว่ามีเหตุผล ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่กล่าวอ้างจิง ก็สรุปว่าตลาดเมืองไทย ณ ตอนนี้ก็ถือว่าไม่เหมาะสำหรับการลงทุนใดๆเรยเมื่อเทียบกับ4-5ปีที่ผ่านมา...
ขอบคุณครับสำหรับความคิดเห็น
:D :D
...
แต่ที่พี่สุมาอี้โพสต์แสดงความเห็นออกมาก็ถือว่ามีเหตุผล ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่กล่าวอ้างจิง ก็สรุปว่าตลาดเมืองไทย ณ ตอนนี้ก็ถือว่าไม่เหมาะสำหรับการลงทุนใดๆเรยเมื่อเทียบกับ4-5ปีที่ผ่านมา...
ขอบคุณครับสำหรับความคิดเห็น
:D :D
-
- Verified User
- โพสต์: 689
- ผู้ติดตาม: 0
ช่วงนี้สำหรับชาว vi อะไรเป็นปัจจัยที่น่ากังวลที่สุดครับ
โพสต์ที่ 20
ใช่ครับ...แต่ผมว่าเล่นหุ้นสไตล์vi...ถ้าเราศึกษาข้อมูลมาไม่ดี...มองอนาคตไม่ถูก...ต่อให้ใจนิ่งแค่ไหนสุดท้ายก็ไม่รอด...และใจนี่แหละมันจะกลับกลายเป็นความดื้อรั้นมากกว่า... :shock: :shock: