“วัยหนุ่มสาววิ่งหาเงิน พอแก่มาใช้เงินวิ่งหาสุขภาพ” สิ่งเหล่านี้แทบทุกคนรู้ แต่ในเชิงปฏิบัติเรายังต้องปรับปรุง
ผมได้รับอีเมลจากสองครอบครัว ครอบครัวแรกอยู่ในเมืองหลวง จะต้องพาบุพการีไปฉายแสงเกินกว่า 30 ครั้ง ใช้เงินเป็นจำนวนหลักล้านบาท อีกครอบครัวหนึ่ง เป็นคนรายได้น้อย ต้องว่าจ้างรถวิ่งรับส่งพาญาติผู้ใหญ่ไปล้างไตที่โรงพยาบาลในตัวจังหวัด ใช้เงินมากกว่า เงินเดือนของลูกสองคนรวมกัน
หลายครอบครัววางแผนการเงินและมีวินัยในทางปฏิบัติอย่างรอบคอบ แต่หลีกเลี่ยงปัญหาการเงินไม่ได้ เมื่อสมาชิกในครอบครัวเจ็บป่วยขึ้นโดยโรคหรืออุบัติเหตุ
จะเตรียมตัวอย่างไรก็แล้ว แต่แทบจะสู้วิกฤติการเงินไม่ไหว “ผู้โชคดี” ก็มีเงินภาษีอากรหรือเงินประกันพอทุเลาบ้าง แต่บางครอบครัวก็สิ้นเนื้อประดาตัว เป็นหนี้สินล้นพ้นตัว เพราะต้องทุ่มทุกอย่างเพื่อคนที่เรารัก
ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาสุขภาพนี้ เป็นสิ่งที่แก้กันไม่ตก แม้แต่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจใหญ่ขนาดอเมริกาก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องนำมาถกเถียงกันทุกรอบเลือกตั้ง ข่าวล่าสุดคือ เรื่องของโรคไต ซึ่งกลายเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ ใช้เงินถึง 110,000 ล้านเหรียญต่อปี (เทียบเท่ากับ 25% ของรายได้ประชาชาติของไทย)
ผมใช้คำว่า”อุตสาหกรรม” เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน การรักษาพยาบาล ธุรกิจยา เครื่องมือการแพทย์ ฯลฯ นับวันก็ยิ่งเป็นเรื่องของผลประโยชน์ คำกล่าวหาที่ว่ามีการเลี้ยงไข้ “มีโรคมากธุรกิจก็บูม” กลายเป็นคำครหาที่แผ่วงกว้างนับขึ้นทุกวัน
การลงทุนเรื่องการรักษาสุขภาพเป็นสิ่งที่เราทุกคนรู้ว่าควรจะทำอย่างไร แต่มักจะรอจนถึงป่วยไข้ก่อน ถึงเริ่มทำอย่างจริงจัง เหมือนรถยนต์ที่วิ่งใช้งานตลอด แต่ไม่เคยมีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง หรือตรวจดูสภาพเป็นประจำ ไม่เสีย ไม่พัง ก็ไม่ดู รถยนต์ซื้อใหม่ได้ แต่ร่างกายเรามีชุดเดียว เพราะฉะนั้น พาหนะคันนี้เสื่อมเมื่อไหร่ เศรษฐกิจในครอบครัวพังเมื่อนั้น
เมื่อประมาณสามปีที่แล้ว ผมเริ่มหันมาทานผักและผลไม้เป็นหลัก แต่ยังไม่ได้เลิกการทานเนื้อทั้งหมด เพียงแต่ละลดเลิกไปมาก มีการปลูกผักสวนครัว โดยเริ่มจากการที่มีกระถางเล็กๆอยู่ริมระเบียงบ้านใกล้ครัว เพื่อให้หยิบใช้ง่าย เป็นการเริ่มต้นที่ดีปรึกษาเพื่อนๆในการหาซื้อผักและผลไม้ที่ผลิตมาจากกลุ่มเกษตรกรที่เชื่อถือได้ เป็นการสร้างกำลังใจให้กับผู้ผลิต เป็นการเริ่มวงจรที่ถูกต้อง เรามาช่วยกันส่งสัญญาณเรื่องนี้ให้ชัดเจนครับ เกษตรกรที่มีความรับผิดชอบ กำลังรอสัญญาณจากเราอยู่
นอกจากผักและผลไม้ทำให้มีความรู้สึกว่าตัวเบาและสุขภาพกายดีขึ้น ความร่าเริงทางสุขภาพใจก็เกิดเห็นชัดขึ้นมาทันที อาจเป็นไปได้ว่า เราลดการเบียดเบียนชีวิตของสัตว์อื่นให้มาเป็นอาหารของเรา เป็นการลดกรรม ซึ่งอาจส่งผลปัจจุบันทันด่วนในชีวิตนี้
การลดน้ำตาลเกลือและไขมัน เป็นสิ่งที่เราพูดกันเสมอ ผมขอสนับสนุนให้กำลังใจทุกท่านรีบปฏิบัติและพยายามอีกนะครับ ตับและไตจะขอบคุณเรามาก ที่เขาไม่ต้องทำงานหนัก
การซื้ออาหารที่บรรจุหีบห่อโดยมีมาตรฐาน ขอให้ท่านใช้เวลาสักเล็กน้อย ในการดูวัสดุที่ใช้และแหล่งที่ผลิต ให้มีความน่าเชื่อถือที่สุด ถึงแม้จะต้องใช้จ่ายเงินมากขึ้นเล็กน้อย แต่หากท่านรู้จักขวนขวาย ต้นทุนของการซื้อก็อาจจะไม่มาก ทานของพวกนี้ให้น้อยลงก็ดีครับ และหันมาบริโภคสิ่งที่เป็นธรรมชาติ และเป็นของสดที่อยู่ใกล้ตัวใกล้ชุมชนเราดีกว่า
บ้านเรากำลังตื่นตัวเรื่องอาหารชีวภาพ มีหลายองค์กรบุกเบิกเรื่องนี้อยู่ เช่น สินค้าร้านบุญนิยมของกลุ่มอโศก และผลิตภัณฑ์คุณภาพจากหลายชุมชน ให้กำลังใจพวกเขาเหล่านี้เถิดครับ บริษัทใหญ่ๆก็จะเปลี่ยนพฤติกรรมมาร่วมกระแสความดีเอง
มีหลายท่านที่อยู่ในวงการเงิน ได้เริ่มปรับตัวหันมาดูแลเรื่องสุขภาพและตัดเวลาการทำงานและการแข่งขันทางอาชีพ การสร้างฐานะการเงินและเศรษฐกิจในครอบครัวให้มั่นคงเป็นสิ่งดี แต่ต้องทำให้พอเหมาะควร หากเกิดความเครียดขึ้นมาพร้อมกันด้วย ก็จะเป็นการพายเรือเป็นวงกลม ความเครียด คือ ต้นเหตุที่สำคัญอันหนึ่งของโรคต่างๆ เราสูญเสียบุคคลที่มีคุณภาพของบ้านเมืองเรา ซึ่งหากวิเคราะห์เชิงลึกก็เกิดเหตุเบื้องต้นมาจากความเครียดครับ
ท่านผู้อ่านมีความสนใจและมีวินัยในการลงทุนเรื่องการเงินพอสมควรอยู่แล้ว วันนี้หันมาดูแลเรื่องสุขภาพของตนเองและบุคคลที่รัก ผลตอบแทนจะคุ้มค่าที่สุด
อย่าลืมว่า พอร์ตโฟลิโออันดับหนึ่งก็คือตัวเรา บำรุงกาย ใจ และสังคม สามอย่างนี้ถนอมไว้ให้ดีที่สุดนะครับ
รักษาสุขภาพถูกกว่ารักษาโรค/กฤษฏา บุญเรือง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1827
- ผู้ติดตาม: 1