จัดพอร์ตลงทุนรับปีฉลู/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1827
ผู้ติดตาม: 1

จัดพอร์ตลงทุนรับปีฉลู/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

อีกไม่กี่วันปี 2563 อันแปลกประหลาดก็จะผ่านพ้นไปแล้ว ท่านผู้อ่านที่จัดไม่ได้จัดการเรื่องเงินๆทองๆ ที่ครบกำหนด ณ สิ้นปี ขอให้รีบดำเนินการ มีเวลาอีกเพียง 3 วันค่ะ

มีแฟนคอลัมน์อยากขอแนวทางการจัดพอร์ตการลงทุนในปีหน้า ปกติดิฉันจะเขียนตอนต้นปี คือรอให้ตัวเลขผลตอบแทนและค่าความเสี่ยงของปีที่จะผ่านไปออกมาเสียก่อน แต่ในปีนี้ ขอเขียนล่วงหน้าก่อนนะคะ เพราะมีแฟนคอลัมน์ใจร้อน อยากได้แนวทางก่อน กลัวจัดพอร์ตไม่ทัน

ในช่วง 11 เดือนแรกของปี สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด ในบรรดากลุ่มสินทรัพย์ใหญ่ๆ คือ ทองคำ ซึ่งให้ผลตอบแทน 16.08% ตามมาด้วยหุ้นญี่ปุ่น ให้ผลตอบแทน 11.74% และดัชนี MSCI World ให้ผลตอบแทน 11.19% หุ้นของตลาดเกิดใหม่ วัดโดย ดัชนี MSCI Emerging market ให้ผลตอบแทน 10.2% ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.86% พันธบัตรรัฐบาลไทย ให้ผลตอบแทน 1.66% หุ้นไทย วัดโดยดัชนี SET Index ให้ผลขาดทุน 10.86% อสังหาริมทรัพย์โลก ให้ผลขาดทุน 11.74% สินค้าโภคภัณฑ์ ให้ผลขาดทุน 13.85% และที่มาอันดับสุดท้ายคือ น้ำมัน ให้ผลขาดทุนถึง 25.75% (หากดูเพิ่ม จะพบว่า ดัชนีแนสแดคให้ผลตอบแทนในช่วง 11 เดือนแรกสูงที่สุด คือ 36.38%)

สำหรับค่าความผันผวนหรือค่าความเสี่ยงนั้น น้ำมันมาอันดับหนึ่งเลยค่ะ มีค่าความผันผวนถึง 299.58% ในช่วง 11 เดือนแรกของปี ที่ผันผวนรองลงไปคือดัชนีดาวโจนส์ ที่มีค่าความผันผวน 32.01% กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์โลก มีค่าความผันผวน 31.26% หุ้นโลก มีค่าความผันผวน 25.37% ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีค่าความผันผวน 24.7% สินค้าโภคภัณฑ์ มีค่าความผันผวน 23.94% ตลาดญี่ปุ่นวัดโดยดัชนีนิเคอิ มีค่าความผันผวน 21.95% ดัชนีหุ้นในตลาดเกิดใหม่ มีค่าความผันผวน 20.63% ทองคำมีค่าความผันผวน 17.09% และดัชนีพันธบัตรรัฐบาลไทยมีค่าความผันผวน 3.49%

นี่เป็นอีกปีหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่า High expected return มาควบคู่กับ High risk ค่ะ เพราะแม้ว่าสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง (ความเสี่ยงสูง)บางอย่าง จะได้ผลตอบแทนสูง แต่สินทรัพย์บางอย่าง เช่น น้ำมัน ก็ให้ผลขาดทุนสูงด้วย การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง จึงไม่ได้หมายความว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงเสมอไปแบบที่หลายๆท่านเข้าใจนะคะ

สำหรับในปี 2564 ซึ่งเศรษฐกิจโลกจะเติบโตได้ดีจากฐานที่ต่ำในปีนี้ และจากการอัดฉีดสภาพคล่อง รวมถึงการแจกเงินและใช้เงินพยุงเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลก อย่างไรก็ดี เนื่องจากเศรษฐกิจยังเปราะบางมาก แม้จะเริ่มมีวัคซีนใช้ในบางประเทศแล้ว แต่ภัยคุกคามจากไวรัสโควิด -19 ก็ยังไม่หมด การฟื้นตัวของหลายๆอุตสาหกรรมก็ยังเป็นไปอย่างช้าๆ จึงคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะคงอยู่ในระดับต่ำไปอีก 5 ปี และอัตราดอกเบี้ยนโยบายของประเทศต่างๆก็จะยังคงอยู่ในระดับไปด้วย

ราคาน้ำมันในปีหน้าน่าจะทรงตัวในระดับต่ำ 40-60 เหรียญต่อบาร์เรลในปีหน้า สำหรับทองคำ น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในช่วง 1,800 – 2,000 เหรียญ ต่อออนซ์ ส่วนตัวดิฉันมองว่าทองคำจะขึ้นผ่าน 2,000 เหรียญค่อนข้างยาก เพราะในทางเทคนิคระยะสั้น หรือระยะยาว ก็ยังตื้อๆอยู่แถว 2,000 เหรียญค่ะ แต่นักวิเคราะห์บางค่ายมองว่าราคาทะลุ 2,000 เหรียญขึ้นไปได้อีก 10% ค่ะ

เนื่องจากผู้นำประเทศแนวหน้าของโลกคือ สหรัฐอเมริกา มีการเปลี่ยนแปลง นโยบายของประธานาธิบดีไบเดนจึงมีความสำคัญ ดังนั้น พลังงานสะอาด อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ และการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ จึงเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่น่าจะมีการเติบโตสูง

ตลาดหุ้นที่น่าสนใจคือ จีนและเอเชียค่ะ ตลาดเกิดใหม่น่าสนใจ แต่ไม่น่าสนใจทุกตลาด เนื่องจากละตินอเมริกันยังสะบักสะบอมกับโควิด แถมราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ก็ยังอยู่ในระดับต่ำ การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดยังสูง กดดันค่าของเงินให้อ่อน และดูแนวโน้มแล้วเศรษฐกิจคงฟื้นตัวช้ากว่าตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย

สำหรับหุ้นไทยเรา ก็ยังไปได้เรื่อยๆค่ะ แต่จะไม่มีการเติบโตหวือหวา เพราะเรามีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีน้อย หุ้นไทยก็เหมือนประชากรไทยค่ะ การที่โครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัย การเติบโตทางเศรษฐกิจก็จะค่อยๆโต ไม่หวือหวา

อย่างไรก็ดี ตอนนี้เครดิตประเทศไทยดีมากเรื่องของสุขภาพ การแพทย์ อาหาร การเสริมความงาม การบริการ ฯลฯ เพราะฉะนั้น แม้ฐานประชากรเราจะสูงวัย แต่เราก็สามารถให้บริการแก่ชาวต่างชาติที่ไว้วางใจอยากมารักษาตัว มาพักผ่อน มาเสริมความงาม มากินอาหารสุขภาพ มาเข้าโปรแกรมปรับสมดุลร่างกาย มาผ่าตัด มาพักฟื้น หรือมาพักผ่อนหย่อนใจ ฯลฯ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ค่ะ ต้องรอให้โควิดซาก่อนนะคะ

โมเดลการจัดพอร์ตที่ดิฉันแนะนำในปี 2564 สำหรับพอร์ตต่างๆเป็นดังนี้

พอร์ตอนุรักษนิยม : คาดหวังผลตอบแทน 3.5% ค่าความผันผวน 8.1%
พอร์ตรับความเสี่ยงปานกลาง : คาดหวังผลตอบแทน 4.28% ค่าความผันผวน 9.67%
พอร์ตเสี่ยงได้เพิ่ม : คาดหวังผลตอบแทน 5.3% ค่าความผันผวน 11.03%
พอร์ตเสี่ยงได้สูง : คาดหวังผลตอบแทน 6.2% ค่าความผันผวน 12.2%
พอร์ตเสี่ยงได้สูงมาก : คาดหวังผลตอบแทน 7.05% ค่าความผันผวน 13.05%
ขอให้ผู้อ่านทุกท่านและครอบครัว มีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรง ประสบความสำเร็จในการลงทุน และสมปรารถนาในทุกสิ่งตลอดปี 2564 และตลอดไปค่ะ
Omaha132
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 223
ผู้ติดตาม: 0

Re: จัดพอร์ตลงทุนรับปีฉลู/วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

พอร์ตของผมเสี่ยงกว่า เสี่ยงสูงมากอีกนะครับ :D :D
แต่อย่างไรก็ขอบคุณที่แนะนำมากครับ
โพสต์โพสต์