“ การซื้อของดีราคาถูก” เชื่อว่านักลงทุนแนว VI คงคุ้นเคยกับประโยคแบบนี้เป็นอย่างดี และหลายๆตำราก็สอนกันแบบนี้ทั้งนั้น จนนักลงทุนบางคนไม่กล้าที่จะซื้อหุ้น PE สูงเพราะคิดว่ามันแพง
แต่ผมอยากจะแชร์จากประสบการณ์ส่วนตัวว่านี้คือกับดักอย่างนึง
ผมจะขอแยกประเด็นออกมาทีละส่วนแล้วกันนะครับ อย่างแรกคือ ของดี
- หากท่านไหนศึกษาการลงทุนมาสัก 1-2 ปี ผมว่าน่าจะพอรู้และเข้าใจว่าบริษัทไหนดีไม่ดี ฉะนั้นผมขอไม่พูดเรื่องนี้มากสักเท่าไหร่ แต่อย่าหลงกลเข้าใจว่าบริษัทดีคือการลงทุนที่ดีก็แล้วกัน เพราะบริษัทดีทำให้ขาดทุนได้เหมือนกัน
ประเด็นที่สอง ราคาถูก
- ราคาที่เหมาะสมของบริษัทมักจะเป็นเรื่องที่นักลงทุนปวดหัวที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนเป็นจำนวนมากที่ไม่รู้ และนำมาซึ่งการขาดทุนในที่สุด
- บางคนซื้อหุ้น PE ต่ำ เพราะคิดว่ามันถูก บางคนซื้อหุ้น PE สูง เพราะในอดีต PE มันเคยสูงแบบนี้ตลอด
- บางคนหลีกเลี่ยงหุ้น PE สูงทุกชนิดเพราะคิดว่ามันแพง แต่ราคามันก็ยังขึ้นไปได้เรื่อยๆ ในขณะที่เรา (คนไม่ซื้อหุ้น PE สูง) ก็นั่งแช่งอยู่ทุกวันว่าสักวันหนึ่งเดี๋ยวฟองสบู่ก็ระเบิด
- สรุปแบบไหน คือ หุ้นราคาถูก สำหรับผมแล้ว ผมถนัดที่จะดูราคาปัจจุบันเทียบกับมูลค่าของบริษัทในอนาคต เรียกง่ายๆว่าหุ้นเติบโตนั่นแหละ แต่หุ้นเติบโตมีทั้งหุ้นที่ให้ผลตอบแทนดีในระยะยาว ,ระยะสั้น ,ไม่ได้ไม่เสีย คือ ได้กำไรแล้วราคาตกลงมา และสุดท้ายขาดทุน
หน้าที่ของนักลงทุนแนวหุ้นเติบโต คือ เราต้องหาบริษัทที่จะเติบและทำกำไรในระยะยาว หรือไม่ก็ในระยะ 3-5 ปี ซึ่งแน่นอนว่าปัจจุบัน PE สูงลิ่ว ผมขอสรุปจากประสบการณ์ส่วนตัวไว้ดังนี้
- ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ามูลค่าของบริษัทไม่ได้อยู่กับที่ มันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดในแต่ละเดือน แต่ละปี ทั้งดีขึ้นและแย่ลง
- PE ในอดีตมีไว้เปรียบเทียบกับกิจการในปัจจุบัน แต่ไม่ได้หมายความว่า PE ของบริษัทจะเท่ากับในอดีต เช่น ถ้าพื้นฐานบริษัทไม่ได้เปลี่ยนแต่ PE ลดลง นั้นเป็นโอกาสซื้อ ซึ่งนานๆจะมีครั้ง เช่น มีข่าวร้ายกับบริษัทมากๆ แต่มีผลกระทบต่อบริษัทแค่ชั่วคราว หรือไม่ก็ในช่วงวิกฤต
- การประเมินมูลค่าหุ้นมีหลายวิธีมาก ปีเตอร์ ลินซ์ แบ่งหุ้นออกเป็นหมวดๆ และแต่ละหมวดปีเตอร์ ลินซ์ ไม่ได้ใช้วิธีเดียวกัน ลองไปศึกษาดูได้
- หุ้น PE สูงไม่ได้เป็นหุ้นแพงเสมอไป
- หุ้น PE สูง คุณต้องแยกมันออกมาว่ามันอยู่ช่วงไหนของการเติบโต ถ้า PE สูง แต่อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต บางทีหุ้นแพงในวันนี้อาจจะเป็นหุ้นถูกในวันข้างหน้า
- หุ้น PE สูงบางตัว ผ่านการเติบโตมาสักระยะแล้ว ผมจะหลีกเลี่ยง เพราะโอกาสที่จะได้กำไรมากๆมีน้อย ในขณะที่โอกาสขาดทุนมีมากกว่าจากหลายปัจจัย
- หุ้น PE สูง บางตัวแม้อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโต แต่อยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ผมจะหลีกเลี่ยงเพราะตลาดแบบนี้หาผู้ชนะขาดยากมาก แม้จะเติบโตแต่จะเป็นการเติบโตแค่ชั่วคราว และเราไม่มีรู้ว่าเมื่อไหร่ยอดขายจะลดลงเพราะคู่แข่งใช้สงครามราคา เช่น เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง และอื่นๆ
- ถ้าคุณซื้อหุ้น PE สูง ที่อยู่ในช่วงเริ่มต้น คุณต้องวิเคราะห์บริษัทอย่างละเอียด และหาความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อบริษัท แล้วประเมินว่าความเสี่ยงนี้มีโกาสเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีน้อยแสดงว่าโอกาสที่ผลประกอบการจะเติบโตอย่างต่อเนื่องก็มีสูงเช่นกัน
- หุ้น PE สูง ที่ผมสนใจจะอยู่ในอุตสาหกรรมที่แข่งขันไม่สูงมาก และสามารถกำหนดทิศทางตัวเองได้ รวมทั้งต้นทุนไม่ควรผันผวน
- หุ้น PE สูงที่ผมสนใจ กำไรต้องสามารถเติบโตได้เป็นเท่าตัวในระยะไม่เกิน 3 ปี
- ผู้บริหารเก่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการถือหุ้น PE สูง ในแง่ของผลการดำเนินงานบริษัท
จริงๆมีหลายข้อมาก แต่วันนี้คิดได้แค่นี้ หรือเพื่อนๆท่านไหนมีอะไรเพิ่มเติมก็ช่วยเสริมด้วยครับ
สรุปจากประสบการณ์ของผม คือ หุ้น PE สูงแต่คุณภาพบริษัทดีมาก จะให้ผลตอบแทนที่ดีและไม่ได้น่ากลัวเสมอไป แต่แน่นอนว่าผลตอบแทนจะแพ้หุ้น PE ต่ำ ที่คุณภาพบริษัทดีมาก ซึ่งหาค่อนข้างยากในตลาดหุ้นไทย
ทั้งนี้ทั้งนั้นแนวทางการลงทุนของแต่ละท่านอาจจะแตกต่างกันไป แต่ในที่นี้อยากจะแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวจากคนที่ซื้อหุ้น PE สูง แต่มีผลตอบแทนที่ไม่ได้แย่เลย ซึ่งสไตล์การลงทุนแบบนี้ผมนำมาจาก Philip Fisher และนำมาปรับใช้อีกที ซึ่งให้ผลตอบแทนดีใช้ได้เลยทีเดียว
กับดักหุ้น PE สูง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1399
- ผู้ติดตาม: 1
Re: กับดักหุ้น PE สูง
โพสต์ที่ 2
ผมขอเพิ่มอีก 1 ข้อ
หุ้น pe สูงจะต้องขยายกิจการด้วยเงินลงทุนที่ต่ำ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจการต่อรอง suppliers , ลักษณะของสินค้าเช่น software ,การถือครองสิทธิบัตร เป็นต้น อย่างไรก็ตามหุ้นเหล่านี้หลายตัวเริ่มต้นด้วยความเสี่ยงและพึ่งพาทีมบริหาร(มักจะเป็นทีม r&d ไปด้วย)เป็นอย่างมาก จนบริษัทมีขนาดระดับหนึ่งการพึ่งพาก็น้อยลง
การเติบโตเร็วจะเกิดขึ้นการกิจการที่ลงทุนสูงและใช้เวลาคืนทุนนานไม่ได้เช่น โรงไฟฟ้า เพราะถึงจุดหนึ่งจะต้องหาแหล่งเงินทุน หากเพดานการกู้เงินเต็มการเพิ่มทุนจะเป็นตัวเลือกต่อไป
หุ้น pe สูงจะต้องขยายกิจการด้วยเงินลงทุนที่ต่ำ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจการต่อรอง suppliers , ลักษณะของสินค้าเช่น software ,การถือครองสิทธิบัตร เป็นต้น อย่างไรก็ตามหุ้นเหล่านี้หลายตัวเริ่มต้นด้วยความเสี่ยงและพึ่งพาทีมบริหาร(มักจะเป็นทีม r&d ไปด้วย)เป็นอย่างมาก จนบริษัทมีขนาดระดับหนึ่งการพึ่งพาก็น้อยลง
การเติบโตเร็วจะเกิดขึ้นการกิจการที่ลงทุนสูงและใช้เวลาคืนทุนนานไม่ได้เช่น โรงไฟฟ้า เพราะถึงจุดหนึ่งจะต้องหาแหล่งเงินทุน หากเพดานการกู้เงินเต็มการเพิ่มทุนจะเป็นตัวเลือกต่อไป
มาคุยกันได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/value.investing.freedom
-
- Verified User
- โพสต์: 64
- ผู้ติดตาม: 0
Re: กับดักหุ้น PE สูง
โพสต์ที่ 3
ได้มุมมองใหม่จริงๆครับ PE เปรียบเหมือน กบกับเจ้าชาย
เจ้าชายราคาเจ้าชาย ในระยะยาวๆ ย่อมสร้างผลงานมากกว่า
กบในราคากบ กลับกันถ้าได้เจ้าชายในราคากบ ย่อมทวีคูณผลตอบแทน
หลักคิดนี้ใช้แก้ bias ขายหมู แล้วยึดติดกับต้นทุนทำให้สูญเสียโอกาสในอนาคต
ไม่กล้าซื้อหมูคืนในราคาที่แพง ซึ่งก็คือตลาดรู้แล้วว่าหมูที่ขายไปเป็นเจ้าชาย
การจะหวังซื้อคืนใน PE กบจึงขัดแย้งกับความจริง
เจ้าชายราคาเจ้าชาย ในระยะยาวๆ ย่อมสร้างผลงานมากกว่า
กบในราคากบ กลับกันถ้าได้เจ้าชายในราคากบ ย่อมทวีคูณผลตอบแทน
หลักคิดนี้ใช้แก้ bias ขายหมู แล้วยึดติดกับต้นทุนทำให้สูญเสียโอกาสในอนาคต
ไม่กล้าซื้อหมูคืนในราคาที่แพง ซึ่งก็คือตลาดรู้แล้วว่าหมูที่ขายไปเป็นเจ้าชาย
การจะหวังซื้อคืนใน PE กบจึงขัดแย้งกับความจริง
เงินจะเป็นของเรา ก็ต่อเมื่อใช้มัน
Good company + Good stock = Good investment
Good company + Good stock = Good investment