สุขสันต์วันตรุษจีนครับ
วอลสตรีทใช้วัวกระทิง(bull)เป็นเครื่องหมายของตลาดหุ้นที่ปรับพุ่งขึ้นและใช้หมี(bear)เป็นสัญลักษณ์เวลาหุ้นตก
ที่มาของการใช้กระทิง(bull)เวลาหุ้นขึ้น ก็เนื่องมาจากว่ากระทิงขวิดคู่ต่อสู้โดยการใช้เขางัดจากข้างล่างขึ้นสูง ส่วนหมี (bear)เวลาต่อสู้จะใช้เล็บในการตะปบจากสูงลงต่ำ หมีจึงกลายเป็นเครื่องหมายของหุ้นตก
แม้ปัญหาของโรคโควิด-19ในอเมริกายังหนักหน่วงอยู่ (ตาย กว่า 480,000 คน) และการเมืองร้อนถึงจุดเดือดที่วอชิงตันดี.ซี. (รัฐสภาพยายามหาทางปิดกั้นไม่ให้Trump กลับเข้ามาสู่การเมืองอีก) แต่โลกธุรกิจของอเมริกาก็ดูเหมือนจะเดินหน้า เงินสะพัดมาก ถึงแม้ว่าการกระจายความมั่งคั่งจะไม่เป็นธรรม คนรวยก็รวยขึ้นคนจนก็จนลง ประชากรหลายสิบล้านคนตกงานและตกขบวน แต่รถไฟอเมริกันออกจากสถานีแล้วและกำลังเพิ่มความเร็ว
ขณะที่รัฐสภาอเมริกันยังไม่สามารถอนุมัติเงินกระตุ้นเศรษฐกิจฉุกเฉิน 1.9 ล้านล้านเหรียญ ที่ประธานาธิบดีBidenสัญญาไว้ตอนหาเสียง แต่ทำเนียบขาวรอไม่ได้ เนื่องจากประชาชนเดือดร้อนมาก จึงต้องใช้ยุทธวิธีของการปรับแต่งงบประมาณโดยไม่ต้องรอการอนุมัติจากสภา และหลังจากนี้อีกไม่เกิน 100 วัน ก็จะมีการผลักดันงบประมาณใหญ่อีกประมาณ 2.5 ล้านล้านเหรียญ เพื่อสร้างงานและปฏิรูประบบสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นโครงการที่ถือว่าเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ถึงแม้จะต้องยอมเป็นหนี้มหาศาลในปัจจุบัน www.usdebtclock.org
เงินต่างๆเหล่านี้จะเข้ามาในระบบ สมทบกับเงินที่ปล่อยสู่ระบบเพื่อชุบชีวิตเศรษฐกิจอเมริกันมาตั้งแต่ 10 เดือนที่แล้ว ทำให้มีเงินดอลล่าร์อยู่ในระบบเป็นจำนวนมาก ตลาดหุ้นอเมริกันรับประโยชน์โดยตรง และผลพลอยได้กระจายไปถึงตลาดหุ้นอื่นทั่วโลก จึงทำให้มูลค่าหุ้นยังคงตัวและเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ (ต้องระมัดระวังเลือกหุ้นให้ถูกต้องครับ เพราะการที่หุ้นขึ้นเรื่อยๆ อาจไม่ได้หมายความว่ามูลค่าของบริษัทนั้นเพิ่มขึ้นจริง แต่อาจจะเกิดจากความนิยมหรือการซื้อหุ้นตามข่าวลือ)
หลายคนคงตั้งข้อสงสัยว่าหากกระแสเงินทะลักเข้าสู่ในระบบจำนวนมากถึงขนาดนี้ จะไม่เกิดปัญหาเงินเฟ้อหรือการลดความน่าเชื่อถือในเงินตราสกุลต่างๆหรือ
โดยทฤษฎีแล้วก็ควรจะเป็นอย่างนั้น แต่เนื่องจากความโกลาหล ความบอบช้ำของอุตสาหกรรมต่างๆทั่วโลกซึ่งมีเหตุจากของสถานการณ์โรคระบาด ทำให้ปริมาณเงินเหล่านี้เป็นเหมือนน้ำเกลือชั่วคราว
นักวิชาการและผู้นำเศรษฐกิจบางกลุ่มพยายามท้วงติงให้ควบคุมปริมาณการเงิน แต่เสียงเหล่านั้นแพ้ต่อความจำเป็นรีบด่วน ธนาคารกลางของหลายประเทศทนความกดดันของประชาชนไม่ได้จึงต้องยอมปล่อยเงินออกมาอัดฉีด ขณะนี้จึงยากที่จะประเมินผลว่ามีข้อดีหรือข้อเสียมากกว่ากัน
วิกฤตทำให้การตัดสินใจออกมาในแนวที่ว่า “ทำไปก่อน แก้ทีหลัง”
ความกลัวว่าเงินตราสกุลต่างๆของโลกจะลดมูลค่าลงเนื่องจากมีปริมาณมากและขาดการควบคุม โดยธนาคารกลางแต่ละแห่งเอาตัวรอดไปก่อน จึงทำให้มีการตื่นตัวในการหาซื้อโลหะที่มีคุณภาพสูงเช่นทองคำและเงิน วิกฤติหลายครั้งที่ผ่านมา ทองคำและเงินเป็นสิ่งทดแทนสร้างความอุ่นใจ แต่ที่แปลกคือครั้งนี้ราคาของโลหะคุณภาพสูงไม่ขยับขึ้นเลย www.goldsilver.com
Bitcoin กลับได้รับความสนใจจากนักลงทุนบางกลุ่มให้เป็นสิ่งทดแทนความระส่ำระสายของเงินตราสกุลต่างๆ แต่ก็ยังมีความลังเลว่าจะน่าเชื่อถือได้เพียงใด มูลค่าของบิทคอยน์ขึ้นลงขึ้นลงหลายครั้งในระยะหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเสมือนสัญญาณของความไม่แน่ใจใน Digital currency แต่อย่างไรก็ตามมูลค่าของบิทคอยน์ที่ขึ้นมาครั้งนี้เป็นสิ่งที่น่าสังเกตมากครับ เหมือนว่าวที่เริ่มติดกระแสลม ระยะแรกอาจจะลำบากหน่อย แต่พอติดลมแล้วก็ดูเหมือนจะขึ้นสูงได้ง่าย www.coindesk.com
เมื่ออุปทานมีจำกัด (บิทคอยน์มีปริมาณสูงสุดไม่เกิน 21,000,000เหรียญ) หากหลายฝ่ายให้ความเชื่อถือจริงและสามารถรักษาคุณค่าในการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าได้จริงและนวัตกรรมปรับปรุงต่อไปเรื่อยๆ จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นและเชื่อใจ ก็เป็นไปได้ว่าสิ่งนี้อาจจะเป็นการทดแทนเงินตราในปัจจุบันได้(บ้าง) หากอุปสงค์เพิ่มขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้น
ส่วนผมเองก็ยังลังเลอยู่ เคยซื้อบิทคอยน์ช่วงที่ราคาประมาณ $8,000 ต่อเหรียญแล้วก็ขายไป ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เคยซื้ออีกราคาประมาน $21,000ต่อเหรียญแล้วก็ขายไปอีก ปัจจุบันราคาอยู่ที่ประมาณ $47,000 ต่อเหรียญ (และมีซุปเปอร์สตาร์อย่างElon Musk ส่งสัญญาณให้แฟนคลับ Teslaก็ซื้อบิทคอยน์ $1,500ล้าน จึงทำให้เกิดความคึกคักขึ้นมาทันที) ผมคงจะต้องทำใจอีกหลายรอบว่าควรจะซื้ออีกหรือไม่ ส่วนท่านผู้อ่านใช้วิจารณญาณของท่านเองนะครับ (กูรูหลายคนในวงการลงทุนบอกว่า ถ้าอยากจะซื้อบิทคอยน์จริง ก็ขอให้เป็นเพียงแค่ 1% ของพอร์ตฟอลิโอของเรา)
เงินที่สะพัดในอเมริกาในปัจจุบันและที่จะตามมาอีกนั้น จะไม่วนเวียนแค่เพียงขอบเขตของอเมริกา แต่จะส่งผลกระทบถึงประเทศคู่ค้าของอเมริกาด้วย เริ่มจากจีน เพราะจีนได้เปรียบในการค้าขายกับอเมริกามาตลอด ($283,000ล้านในปีค.ศ. 2020) สินค้าที่ส่งออกจากจีนเข้าอเมริกาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการบริโภคในอเมริกามาก เมื่อเศรษฐกิจของจีนเติบโตขึ้น ประเทศคู่ค้ากับจีนเช่นอาเซียนก็จะขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว ผลของเงินสะพัดจากตลาดวัวกระทิง Wall Street bull ก็จะขวิดขึ้นมาถึงบ้านเราเช่นกันครับ
การเริ่มปีใหม่ทุกครั้งเป็นโอกาสให้เราตั้งสติ การลงทุนที่ดีที่สุดนั้นเริ่มต้นจากสุขภาพกายและจิต Health is the real wealth สุขภาพคือความร่ำรวยที่แท้จริง ดูแลเรื่องการบริโภคอุปโภคให้สมดุลย์และพอเหมาะพอควร เน้นที่คุณภาพและเลี่ยงปริมาณครับ
การลงทุนที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือความสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง ในครอบครัวและในชุมชน เมื่อสุขภาพกายใจของเราโดยส่วนบุคคลนั้นดีแล้ว เราต้องแบ่งปันให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัวและในชุมชน เพราะความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์เป็นสิ่งจำเป็น การลงทุนที่ใช้ต้นทุนน้อยที่สุดแต่ให้มูลค่าตอบแทนมากที่สุดก็คือการให้เวลา และมีสมาธิในการสื่อสารสนทนาระหว่างกันตัวต่อตัว เลือกโอกาสในการวางโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ และให้คุณภาพกับการพูดจาสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบไร้นวัตกรรมครับ
การทะนุถนอมสิ่งแวดล้อม และการควบคุมมลภาวะต่างๆเป็นสิ่งที่เราควรที่จะใช้ทรัพยากรการเงินที่มีอยู่ ส่งสัญญาณให้ชัดเจน เลือกบริโภคสินค้าและอุดหนุนธุรกิจของบริษัทต่างๆที่มีนโยบายและการปฏิบัติชัดเจนต่อการปกป้องสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบต่อจริยธรรมและศีลธรรม หากจะเลือกซื้อหุ้นก็ควรเน้นที่คุณภาพของบริษัท ซึ่งมีความรับผิดชอบต่อระบบนิเวศและคุณธรรมในสังคม ผลตอบแทนทางการเงินจะตามมา หากเราสนับสนุนในสิ่งที่ถูกต้องครับ
กระทิงอเมริกันต้อนรับปีฉลูครั้งนี้ เป็นผลลัพธ์จากการใช้สิทธิเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย แม้ว่าจะยุ่งเหยิงวุ่นวายแต่อเมริกาก็เป็นตัวอย่างให้เราเห็นชัดเจนว่าผู้ที่มีอำนาจที่สุดก็คือประชาชน ปีนี้ทั้งปีชาวอเมริกันยังต้องฝันฝ่าอุปสรรคอีกหลายรอบ การฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 แล้วประมาณ 40ล้านคนและรัฐบาลอเมริกันสั่งวัคซีนเพิ่มขึ้นอีก 600ล้านหลอด เพื่อให้มีภูมิต้านทานทั่วประเทศประมาณกลางปีนี้ให้ได้ ก็จะเป็นโอกาสให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจโดยพื้นฐานที่มั่นคงมากขึ้น
ไทยและประเทศในภูมิภาคเตรียมรับผลพลอยได้จากการพัฒนาเศรษฐกิจของอเมริกาในปีนี้ น้ำขึ้นให้รีบตัก แต่เมื่อได้น้ำมาแล้วก็ขอให้ใช้น้ำนั้นเพื่อประโยชน์ที่เหมาะสม โชคดีทุกท่านและขอให้เฮงทุกด้านโดยเฉพาะสุขภาพครับ
กระทิงอเมริกา พาต้อนรับปีฉลู/กฤษฎา บุญเรือง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1827
- ผู้ติดตาม: 1