อวสานของเหรียญคริปโต?/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1827
- ผู้ติดตาม: 1
อวสานของเหรียญคริปโต?/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 1
“กระแส” ของเหรียญคริปโตที่อ้างว่าจะกลายเป็นเงินดิจิทัลใน “โลกแห่งอนาคต” ซึ่งรวมถึง “เมตาเวอร์ส” ที่เป็น “โลกเสมือน” ที่คนอาจจะเข้าไปใช้ชีวิตอีกครึ่งหนึ่งนอกเหนือจากการใช้ชีวิตใน “โลกจริง” ที่เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว และพัดแรงขนาดที่ทำให้โลกการเงินและการลงทุนปั่นป่วนอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน คนจำนวนเป็นล้านล้านคนโดยเฉพาะที่เป็น “คนรุ่นใหม่” แทบทั้งโลกต่างก็เข้ามาลงทุนและเกี่ยวข้องในนวัตกรรมใหม่นี้ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนที่กำลัง “ปฏิวัติโลก” ในแทบทุกด้าน ซึ่งรวมถึงงานศิลปะที่เรียกว่าเหรียญ “NFT” เพื่อขายให้กับคนที่สนใจงานศิลป์ หรือการผลิต “ที่ดินเสมือน” ขึ้นมาเพื่อขายให้กับ “นักเล่นที่” ที่อาจจะอยากซื้อไว้เก็งกำไรหรือลงทุน “ทำธุรกิจ” ที่ต้องการ “หน้าร้านเสมือน” ไว้ขายของ
กระแสของเหรียญคริปโตนั้นดูเหมือนว่าจะมาตามการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ที่ทำให้คนทั้งโลกต้องถูก “กักอยู่ในบ้าน” และต้องทำงานและใช้ชีวิตผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก ซึ่งก็ทำให้มีเวลาเหลือที่จะลงทุนเงินที่อาจจะได้รับจากรัฐบาลหรือเงินเก็บที่แทบจะไม่มีดอกเบี้ย และคนก็อาจจะเริ่มเห็นว่าเหรียญคริปโตนั้นปรับตัวขึ้นเร็วมากเนื่องจากมันมีจำนวนจำกัด และเมื่อราคาขึ้นไปก็ส่งผลให้คนใหม่เข้าไปลงทุนและดันราคาขึ้นไปอีก ถึงจุดหนึ่งเหรียญที่เป็นที่นิยมเช่นบิทคอยน์ก็ถูก “Corner” ราคาขึ้นจากประมาณ 9,000-10,000 ดอลลาร์ กลายเป็น 3-40,000 เหรียญ ในเวลาเพียง 2-3 เดือน และหลังจากนั้นที่ อีลอน มัสก์ เข้ามาร่วม “เล่น” ราคาก็ขึ้นไปถึง 60,000 เหรียญ ในเวลาเพียง 5-6 เดือน
หลังจากนั้น “สตอรี่” หรือเรื่องราวที่มา Support หรือสนับสนุนราคาบิทคอยน์หรือเหรียญคริปโตก็ตามมา รวมถึงการประกาศการสร้าง “เมตาเวอร์ส” ของมาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น เหรียญ NFT เกิดขึ้น แพล็ทฟอร์มการซื้อขายทรัพย์สินดิจิทัลเกิดขึ้นทั่วไปในหลาย ๆ ประเทศ ทุกอย่างกลายเป็นทรัพย์สินและธุรกิจที่มีค่ามหาศาล สตาร์ทอัพจำนวนมากกลายเป็น “ยูนิคอร์น” คือมีมูลค่าตลาดของกิจการเกิน 1,000 ล้านเหรียญหรือประมาณ กว่า 30,000 ล้านบาท “ฮีโร่” ที่มักจะอายุน้อยและมีความมั่งคั่งเป็นหมื่นหรือบางคนเป็นแสนล้านบาทเกิดขึ้น พวกเขาเป็น “ไอดอล” ที่ไม่มีวันตกแน่นอน อนาคตยังไปอีกยาวไกล
เวลาผ่านไป 2 ปี พร้อม ๆ กับโควิด-19 ที่เริ่มจางหายไป และตามมาด้วยสงครามรัสเซีย-ยูเครน สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เม็ดเงินทั่วโลกกำลังจะลดลงซึ่งนั่นทำให้การเก็งกำไรที่ “บ้าคลั่ง” ลดลงมาก ราคาของสินทรัพย์ที่เคยสูงลิ่วเพราะการเก็งกำไรตกลงมาอย่างหนัก หุ้นโดยเฉพาะในกลุ่มดิจิทัลตกลงมาแรงกว่า 30% กลายเป็นวิกฤติตลาดหุ้น และแน่นอนว่าเหรียญคริปโตก็หนีไม่พ้น การตกลงมาของเหรียญเหล่านั้นสูงยิ่งกว่าหุ้นมาก เหตุผลหรือ “สตอรี่” ก็คือ ทรัพย์สินดิจิทัลเหล่านั้น “ไม่มีพื้นฐาน” รองรับ มันมีค่าเพราะมีคนต้องการซื้อมัน ถ้าไม่มีคนต้องการ ค่าของมันคือ “ศูนย์” เพราะมันไม่มีการจ่ายปันผล
บิทคอยน์ที่เป็น “เสาหลัก” ของเหรียญคริปโตตกลงไปจากจุดสูงสุดกว่า 60,000 เหรียญ เมื่อ 8 เดือนก่อน เหลือเพียงประมาณ 19,200 เหรียญ หรือตกลงไป 70% เหรียญอีเธอร์เรียมที่จะเป็นเหรียญที่นำมาใช้ได้มากมายและเป็นฐานของเหรียญอื่นตกลงมาจาก 4,650 เหลือ 1,045 ดอลลาร์ หรือตกลงมา 78% ในเวลาเดียวกัน เหรียญเทอร่าและลูน่าซึ่งถูกออกแบบให้มีราคาเท่า ๆ กับเงินดอลลาร์ตลอดเวลาที่เรียกว่า Stable Coin นั้น ราคาตกลงมาแทบจะเป็นศูนย์เหรียญ เหรียญ “สุนัข” ด็อกคอยน์ที่อีลอนมัสก์เชียร์ตกลงมาประมาณ 90% เหลือ 0.064 เหรียญ และนี่ก็คือเหรียญที่ไม่ได้ใช้ทำอะไรนอกจากเก็บสะสมไว้เล่น ๆ และเอาไว้เก็งกำไร
นอกจากราคาที่ตกลงมาอย่างหนักแล้ว ความ “ล่มสลาย” ของกิจการและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินดิจิทัลก็เริ่มผุดขึ้นมากมาย เข้าทำนอง “น้ำลดตอผุด” หรือที่บัฟเฟตต์หรือเซียนหุ้นคนอื่นพูดว่า It’s only when the tide goes out that you learn who’s been swimming naked ความหมายคือ “เฉพาะเมื่อกระแสน้ำลดลงหมดเท่านั้นที่เราจะรู้ว่าใครแก้ผ้าว่ายน้ำ”
เริ่มตั้งแต่แพลทฟอร์มซื้อขายเหรียญคริปโตของแคนาดาชื่อ Quadriga ที่ “โกงลูกค้า” โดยการรับและจ่ายเงินการซื้อขายเหรียญเข้าบริษัทโดยไม่ได้ซื้อขายให้จริงแต่ทำตัวเป็นแบบแชร์ลูกโซ่ สุดท้ายก็ล้มและเจ้าของซึ่งเป็นคนหนุ่มที่เป็น “ไอดอล” ของคนหนุ่มสาว ไปเสียชีวิตที่อินเดีย “อย่างมีเงื่อนงำ” และรหัสการเข้าไปในระบบของแพลทฟอร์มซึ่งมีเขาคนเดียวที่รู้หายไป ดังนั้น เงินของลูกค้าทุกคนก็กลายเป็นศูนย์ และนี่ก็เป็นหนังสารคดีที่ผมเพิ่งดูใน NETFLIX และเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่บิทคอยน์จะบูมด้วยซ้ำ
ยังมีเรื่องราวการโกงและการล่มสลายอีกมากมายที่เพิ่งเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ที่เขียนไม่หมดแต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ เรื่องราวหรือสตอรี่ที่พูดกันว่าเหรียญคริปโตต่าง ๆ จะเปลี่ยนโลก คนจะหันมาซื้องานศิลปะแบบ NFT หรือเรื่องราวอื่น ๆ อีกมากที่ผมคิดว่ามีความ “เวอร์” เกินความเป็นจริง
เพราะประสบการณ์ที่พบในโลกของดิจิทัลนั้น อะไรก็ตามถ้ามันเป็นเรื่องจริง การเกิดขึ้นจะรวดเร็วมาก ตัวอย่างเช่น พวกสื่อสังคมที่กระจายตัวเร็วมากหลังจากที่เกิดนวัตกรรมขึ้นมา แต่ในกรณีของเหรียญคริปโตนั้น ที่จริงนวัตกรรมก็เกิดขึ้นนานเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว แต่การใช้จริง ๆ ทุกวันนี้ผมก็ยังแทบไม่เห็น คุณบอกได้ไหมว่ามีร้านไหนในประเทศไทยรับเหรียญคริปโต?
ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่า กระแสและการปรับตัวขึ้นของคริปโตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น อาจจะเป็นเรื่องของการเก็งกำไรที่สุดโต่งในสังคม และเวลานี้กำลังเป็นช่วง “อวสาน” ที่ราคาอาจจะตกลงต่อหรือไม่กลับมาอีกนานพร้อม ๆ กับความสนใจในเรื่องเหล่านี้ที่จะจางหายไป แน่นอนว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนก็ยังอยู่และมีประโยชน์ แต่คนจะใช้ในการแก้ปัญหาบางอย่างที่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องเงินหรือเรื่องของศิลปะที่ของเดิมก็ดีพออยู่แล้ว เป็นต้น
กระแสของเหรียญคริปโตนั้นดูเหมือนว่าจะมาตามการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ที่ทำให้คนทั้งโลกต้องถูก “กักอยู่ในบ้าน” และต้องทำงานและใช้ชีวิตผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก ซึ่งก็ทำให้มีเวลาเหลือที่จะลงทุนเงินที่อาจจะได้รับจากรัฐบาลหรือเงินเก็บที่แทบจะไม่มีดอกเบี้ย และคนก็อาจจะเริ่มเห็นว่าเหรียญคริปโตนั้นปรับตัวขึ้นเร็วมากเนื่องจากมันมีจำนวนจำกัด และเมื่อราคาขึ้นไปก็ส่งผลให้คนใหม่เข้าไปลงทุนและดันราคาขึ้นไปอีก ถึงจุดหนึ่งเหรียญที่เป็นที่นิยมเช่นบิทคอยน์ก็ถูก “Corner” ราคาขึ้นจากประมาณ 9,000-10,000 ดอลลาร์ กลายเป็น 3-40,000 เหรียญ ในเวลาเพียง 2-3 เดือน และหลังจากนั้นที่ อีลอน มัสก์ เข้ามาร่วม “เล่น” ราคาก็ขึ้นไปถึง 60,000 เหรียญ ในเวลาเพียง 5-6 เดือน
หลังจากนั้น “สตอรี่” หรือเรื่องราวที่มา Support หรือสนับสนุนราคาบิทคอยน์หรือเหรียญคริปโตก็ตามมา รวมถึงการประกาศการสร้าง “เมตาเวอร์ส” ของมาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น เหรียญ NFT เกิดขึ้น แพล็ทฟอร์มการซื้อขายทรัพย์สินดิจิทัลเกิดขึ้นทั่วไปในหลาย ๆ ประเทศ ทุกอย่างกลายเป็นทรัพย์สินและธุรกิจที่มีค่ามหาศาล สตาร์ทอัพจำนวนมากกลายเป็น “ยูนิคอร์น” คือมีมูลค่าตลาดของกิจการเกิน 1,000 ล้านเหรียญหรือประมาณ กว่า 30,000 ล้านบาท “ฮีโร่” ที่มักจะอายุน้อยและมีความมั่งคั่งเป็นหมื่นหรือบางคนเป็นแสนล้านบาทเกิดขึ้น พวกเขาเป็น “ไอดอล” ที่ไม่มีวันตกแน่นอน อนาคตยังไปอีกยาวไกล
เวลาผ่านไป 2 ปี พร้อม ๆ กับโควิด-19 ที่เริ่มจางหายไป และตามมาด้วยสงครามรัสเซีย-ยูเครน สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง เม็ดเงินทั่วโลกกำลังจะลดลงซึ่งนั่นทำให้การเก็งกำไรที่ “บ้าคลั่ง” ลดลงมาก ราคาของสินทรัพย์ที่เคยสูงลิ่วเพราะการเก็งกำไรตกลงมาอย่างหนัก หุ้นโดยเฉพาะในกลุ่มดิจิทัลตกลงมาแรงกว่า 30% กลายเป็นวิกฤติตลาดหุ้น และแน่นอนว่าเหรียญคริปโตก็หนีไม่พ้น การตกลงมาของเหรียญเหล่านั้นสูงยิ่งกว่าหุ้นมาก เหตุผลหรือ “สตอรี่” ก็คือ ทรัพย์สินดิจิทัลเหล่านั้น “ไม่มีพื้นฐาน” รองรับ มันมีค่าเพราะมีคนต้องการซื้อมัน ถ้าไม่มีคนต้องการ ค่าของมันคือ “ศูนย์” เพราะมันไม่มีการจ่ายปันผล
บิทคอยน์ที่เป็น “เสาหลัก” ของเหรียญคริปโตตกลงไปจากจุดสูงสุดกว่า 60,000 เหรียญ เมื่อ 8 เดือนก่อน เหลือเพียงประมาณ 19,200 เหรียญ หรือตกลงไป 70% เหรียญอีเธอร์เรียมที่จะเป็นเหรียญที่นำมาใช้ได้มากมายและเป็นฐานของเหรียญอื่นตกลงมาจาก 4,650 เหลือ 1,045 ดอลลาร์ หรือตกลงมา 78% ในเวลาเดียวกัน เหรียญเทอร่าและลูน่าซึ่งถูกออกแบบให้มีราคาเท่า ๆ กับเงินดอลลาร์ตลอดเวลาที่เรียกว่า Stable Coin นั้น ราคาตกลงมาแทบจะเป็นศูนย์เหรียญ เหรียญ “สุนัข” ด็อกคอยน์ที่อีลอนมัสก์เชียร์ตกลงมาประมาณ 90% เหลือ 0.064 เหรียญ และนี่ก็คือเหรียญที่ไม่ได้ใช้ทำอะไรนอกจากเก็บสะสมไว้เล่น ๆ และเอาไว้เก็งกำไร
นอกจากราคาที่ตกลงมาอย่างหนักแล้ว ความ “ล่มสลาย” ของกิจการและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินดิจิทัลก็เริ่มผุดขึ้นมากมาย เข้าทำนอง “น้ำลดตอผุด” หรือที่บัฟเฟตต์หรือเซียนหุ้นคนอื่นพูดว่า It’s only when the tide goes out that you learn who’s been swimming naked ความหมายคือ “เฉพาะเมื่อกระแสน้ำลดลงหมดเท่านั้นที่เราจะรู้ว่าใครแก้ผ้าว่ายน้ำ”
เริ่มตั้งแต่แพลทฟอร์มซื้อขายเหรียญคริปโตของแคนาดาชื่อ Quadriga ที่ “โกงลูกค้า” โดยการรับและจ่ายเงินการซื้อขายเหรียญเข้าบริษัทโดยไม่ได้ซื้อขายให้จริงแต่ทำตัวเป็นแบบแชร์ลูกโซ่ สุดท้ายก็ล้มและเจ้าของซึ่งเป็นคนหนุ่มที่เป็น “ไอดอล” ของคนหนุ่มสาว ไปเสียชีวิตที่อินเดีย “อย่างมีเงื่อนงำ” และรหัสการเข้าไปในระบบของแพลทฟอร์มซึ่งมีเขาคนเดียวที่รู้หายไป ดังนั้น เงินของลูกค้าทุกคนก็กลายเป็นศูนย์ และนี่ก็เป็นหนังสารคดีที่ผมเพิ่งดูใน NETFLIX และเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่บิทคอยน์จะบูมด้วยซ้ำ
ยังมีเรื่องราวการโกงและการล่มสลายอีกมากมายที่เพิ่งเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ที่เขียนไม่หมดแต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ เรื่องราวหรือสตอรี่ที่พูดกันว่าเหรียญคริปโตต่าง ๆ จะเปลี่ยนโลก คนจะหันมาซื้องานศิลปะแบบ NFT หรือเรื่องราวอื่น ๆ อีกมากที่ผมคิดว่ามีความ “เวอร์” เกินความเป็นจริง
เพราะประสบการณ์ที่พบในโลกของดิจิทัลนั้น อะไรก็ตามถ้ามันเป็นเรื่องจริง การเกิดขึ้นจะรวดเร็วมาก ตัวอย่างเช่น พวกสื่อสังคมที่กระจายตัวเร็วมากหลังจากที่เกิดนวัตกรรมขึ้นมา แต่ในกรณีของเหรียญคริปโตนั้น ที่จริงนวัตกรรมก็เกิดขึ้นนานเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว แต่การใช้จริง ๆ ทุกวันนี้ผมก็ยังแทบไม่เห็น คุณบอกได้ไหมว่ามีร้านไหนในประเทศไทยรับเหรียญคริปโต?
ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ว่า กระแสและการปรับตัวขึ้นของคริปโตในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานั้น อาจจะเป็นเรื่องของการเก็งกำไรที่สุดโต่งในสังคม และเวลานี้กำลังเป็นช่วง “อวสาน” ที่ราคาอาจจะตกลงต่อหรือไม่กลับมาอีกนานพร้อม ๆ กับความสนใจในเรื่องเหล่านี้ที่จะจางหายไป แน่นอนว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนก็ยังอยู่และมีประโยชน์ แต่คนจะใช้ในการแก้ปัญหาบางอย่างที่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องเงินหรือเรื่องของศิลปะที่ของเดิมก็ดีพออยู่แล้ว เป็นต้น
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: อวสานของเหรียญคริปโต?/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 2
ไม่น่าอวสานครับ
ในอดีต ปู่งอเรนต์ไม่ลงทุนหุ้นเทค อย่างไรก็ไม่ลงทุน
ขนาดเป็นเพื่อนกับบิลเกตต์ก็ตาม
ที่ไม่ลงทุนเพราะไม่เข้าใจ
พอเข้าใจเท่านั้นก็มี Apple และ หุ้น เทคอีกหลายตัวใน port
ดัฃนั้นการลงทุนมันอยู่ที่เราเข้าใจหรือไม่
ไม่เพียงแค่นั้น ตอนที่ btc บูม แต่ละรอบ นั้นคือการเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ โดยที่ ธนาคารกลางปั้มเงินออกมา
เมื่อเงินปั้มออกมา ก็ต้องการผลตอบแทน ดังนั้น มันก็ไหลไปทั่ว เมื่อขึ้นดอกเบี้ย ก็เงินไหลออก มองแล้วนี้ คือเหตุและผลที่เกิดขึ้น
ในอดีต ปู่งอเรนต์ไม่ลงทุนหุ้นเทค อย่างไรก็ไม่ลงทุน
ขนาดเป็นเพื่อนกับบิลเกตต์ก็ตาม
ที่ไม่ลงทุนเพราะไม่เข้าใจ
พอเข้าใจเท่านั้นก็มี Apple และ หุ้น เทคอีกหลายตัวใน port
ดัฃนั้นการลงทุนมันอยู่ที่เราเข้าใจหรือไม่
ไม่เพียงแค่นั้น ตอนที่ btc บูม แต่ละรอบ นั้นคือการเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ โดยที่ ธนาคารกลางปั้มเงินออกมา
เมื่อเงินปั้มออกมา ก็ต้องการผลตอบแทน ดังนั้น มันก็ไหลไปทั่ว เมื่อขึ้นดอกเบี้ย ก็เงินไหลออก มองแล้วนี้ คือเหตุและผลที่เกิดขึ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: อวสานของเหรียญคริปโต?/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 3
ถ้าหากลงทุนในสิ่งที่ไม่มีค่า เป็นของที่มูลค่า ถึงแม้นว่า น้อยแค่ไหนก็ตาม
ผลตอบแทนมันคือ อนันต์
แล้วถ้าหาก ต้องการเพิ่มมูลค่า 1 เป็น 2 อันนี้ง่ายกว่า 10 เป็น 20 หรือการเปลี่ยนหลัก ถ้าหากการจำนวนหลักมากการเปลี่ยนหลักก็จะยากตาม และ กำไรก็ลดลงไปเรื่อยๆ (ที่บอกว่า port เล็กโตเร็วกว่า port ใหญ่นั้นเอง) นั้นคือต้องเข้าใจ คณิตศาสตร์ นั้นเอง
ลองคิดดู ลดลง 60,000 ไป 30,000 คือลดลง 50% มันก็เท่ากับ จาก 1000 ไป500 เหมือนกัน แต่ผล ของการลดลง จาก 60,000 เป็น30,000 กับ 1,000 เป็น 500 คนละเรื่องในเชิงมูลค่าที่หายไป
หรือถ้าหากเพิ่ม จาก 30,000 เป็น 60,000 กับ เพิ่มจาก500 เป็น 1,000 ขึ้น 100% เท่ากับ แต่ ทว่า มูลค่า หรือความมั่งคั่งที่เพิ่มไม่เท่ากัน
ถ้าตอบโจทย์ พวกนี้ได้ นั้นคือ ความลับของการลงทุน
อีกอย่าง 1->4 กับ 1->2->1->2 แบบไหน มัน มีมูลค่าเท่ากันหรือไม่
ผลตอบแทนมันคือ อนันต์
แล้วถ้าหาก ต้องการเพิ่มมูลค่า 1 เป็น 2 อันนี้ง่ายกว่า 10 เป็น 20 หรือการเปลี่ยนหลัก ถ้าหากการจำนวนหลักมากการเปลี่ยนหลักก็จะยากตาม และ กำไรก็ลดลงไปเรื่อยๆ (ที่บอกว่า port เล็กโตเร็วกว่า port ใหญ่นั้นเอง) นั้นคือต้องเข้าใจ คณิตศาสตร์ นั้นเอง
ลองคิดดู ลดลง 60,000 ไป 30,000 คือลดลง 50% มันก็เท่ากับ จาก 1000 ไป500 เหมือนกัน แต่ผล ของการลดลง จาก 60,000 เป็น30,000 กับ 1,000 เป็น 500 คนละเรื่องในเชิงมูลค่าที่หายไป
หรือถ้าหากเพิ่ม จาก 30,000 เป็น 60,000 กับ เพิ่มจาก500 เป็น 1,000 ขึ้น 100% เท่ากับ แต่ ทว่า มูลค่า หรือความมั่งคั่งที่เพิ่มไม่เท่ากัน
ถ้าตอบโจทย์ พวกนี้ได้ นั้นคือ ความลับของการลงทุน
อีกอย่าง 1->4 กับ 1->2->1->2 แบบไหน มัน มีมูลค่าเท่ากันหรือไม่
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: อวสานของเหรียญคริปโต?/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 4
ลืมไป คลิปโต มันทำให้วงการโอนเงินระหว่างประเทศ หรือระหว่างบุคคลเปลี่ยนไป
คือการโอนระหว่างประเทศ ค่าธรรมเนี่ยมแพงมาก และใช้เวลาหลายวัน แถมมีความเสี่ยงจากการ แซงชั่น แถมไปด้วย
ถ้าเป็นพวกคลิปโต โอน (ถ้าไม่ผิด chain ) ไม่กี่นาทีได้ ตรวจสอบผ่านตัวโค้ดได้ว่าจากไหนไปไหน (แต่ต้องมีทักษะ) แล้วก็บอกด้วยว่า ค่าธรรมเนี่ยมเท่าไร รู้เลย ซึ่งไม่เท่ากัน ในทุกคั้งที่โอน ถ้าเร็วจ่ายแพง ถ้าช้าหน่อยค่าธรรมเนี่ยมถูกหน่อย
มองมันมาแก้ไขโจทย์ หรือสนามทดสอบมากกว่า
ทำให้วงการเงินเปลี่ยนแปลงไป
เดี๋ยวรอดู main stream ว่า คล้องตาม โครงสร้างคลิปโตแค่ไหน ก็ปีนี้ อีก 5-6 เดือนก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง
และปี 2566 กลางปี ยัน 2572 เลย จะชัดเจน แล้วจะถามว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ปล จากสิ่งที่คนไม่มอง เช่น ฟ้าทะลายโจร ก่อน covic19 ขายกันราคาถูกมากระปุกไม่ถึง 100 บาท ปลูกก็ไม่มีใครจะปลูก พอรักษา covic หายเท่านั้น กลายเป็นสิ่งที่มีค่าเลยทันที ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน
หรือ กัญชา อันนี้ ก็ใช่ แต่ต้องระวังหน่อย ว่า ถ้าหาก มีปัญหามาก และบ่อนทำลายความมั่นคงเหมือน ฝิ่น ละก็งานนี้ ไม่สวยแน่นอน
คือการโอนระหว่างประเทศ ค่าธรรมเนี่ยมแพงมาก และใช้เวลาหลายวัน แถมมีความเสี่ยงจากการ แซงชั่น แถมไปด้วย
ถ้าเป็นพวกคลิปโต โอน (ถ้าไม่ผิด chain ) ไม่กี่นาทีได้ ตรวจสอบผ่านตัวโค้ดได้ว่าจากไหนไปไหน (แต่ต้องมีทักษะ) แล้วก็บอกด้วยว่า ค่าธรรมเนี่ยมเท่าไร รู้เลย ซึ่งไม่เท่ากัน ในทุกคั้งที่โอน ถ้าเร็วจ่ายแพง ถ้าช้าหน่อยค่าธรรมเนี่ยมถูกหน่อย
มองมันมาแก้ไขโจทย์ หรือสนามทดสอบมากกว่า
ทำให้วงการเงินเปลี่ยนแปลงไป
เดี๋ยวรอดู main stream ว่า คล้องตาม โครงสร้างคลิปโตแค่ไหน ก็ปีนี้ อีก 5-6 เดือนก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง
และปี 2566 กลางปี ยัน 2572 เลย จะชัดเจน แล้วจะถามว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ปล จากสิ่งที่คนไม่มอง เช่น ฟ้าทะลายโจร ก่อน covic19 ขายกันราคาถูกมากระปุกไม่ถึง 100 บาท ปลูกก็ไม่มีใครจะปลูก พอรักษา covic หายเท่านั้น กลายเป็นสิ่งที่มีค่าเลยทันที ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน
หรือ กัญชา อันนี้ ก็ใช่ แต่ต้องระวังหน่อย ว่า ถ้าหาก มีปัญหามาก และบ่อนทำลายความมั่นคงเหมือน ฝิ่น ละก็งานนี้ ไม่สวยแน่นอน
-
- Verified User
- โพสต์: 15
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อวสานของเหรียญคริปโต?/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 5
ผมคิดว่าที่ท่าน ดร.นิเวศน์ ท่านสื่อก็ไม่ได้บอกว่าคลิปโตไม่มีประโยชน์นะครับ จริงๆมันมีประโยชน์ต่อระบบการเงินในอนาคตอยู่มากทีเดียว แต่ที่ท่านจะสื่อคือต้องการจะเตือนนักลงทุนตรงที่คลิปโตมันมีความเสี่ยงอยู่มากมายเนื่องจากมันมีการเก็งกำไรอยู่สูงมากๆ อีกทั้งการกำกับดูแลหรือการปกป้องนักลงทุนจากการถูกโกงยังคงจำกัดมากเช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นมันอยู่กับแต่ละบุคคลเลยครับว่ายอมรับความเสี่ยงต่อการตัดสินใจลงทุนของตนเองในสิ่งต่างๆได้มั้ย บทความของอาจารย์ถือเป็นคุณประโยชน์ยิ่ง ซึ่งช่วยเตือนสติในการลงทุนของนักลงทุนมือใหม่อย่างผมมากครับ
- IndyVI
- Verified User
- โพสต์: 14944
- ผู้ติดตาม: 2
Re: อวสานของเหรียญคริปโต?/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 6
FM 96.5 | รู้ใช้เข้าใจเงิน | อวสานเหรียญคริปโต? | 4 ก.ค.65
คุยกับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
https://youtu.be/CAKE_ACc5cI?t=1550
คุยกับ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
https://youtu.be/CAKE_ACc5cI?t=1550
Investment success doesn’t come from “buying good things,” but rather from “buying things well.
# Howard Mark #
# Howard Mark #
- IndyVI
- Verified User
- โพสต์: 14944
- ผู้ติดตาม: 2
Re: อวสานของเหรียญคริปโต?/ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 7
อวสานเหรียญคริปโต บทเรียนเก็งกำไร “บ้าคลั่ง” | Right Now Ep.71
ถามอีก กับดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร บิดานักลงทุนหุ้นคุณค่าของไทย
โดย อิก บรรพต ธนาเพิ่มสุข, AFPT ที่ปรึกษาการเงิน
https://youtu.be/9eTSMD7-8PE
ถามอีก กับดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร บิดานักลงทุนหุ้นคุณค่าของไทย
โดย อิก บรรพต ธนาเพิ่มสุข, AFPT ที่ปรึกษาการเงิน
https://youtu.be/9eTSMD7-8PE
Investment success doesn’t come from “buying good things,” but rather from “buying things well.
# Howard Mark #
# Howard Mark #