MGC

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 47266
ผู้ติดตาม: 0

MGC

โพสต์ที่ 1

โพสต์

"มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ" จะนำหุ้นเข้า SET ขาย IPO ไม่เกิน 336 ล้านหุ้น


บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น(เอเซีย) จำกัด(มหาชน) หรือ MGC จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 366 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน30.0% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท โดยมีบล.ฟินันซ่า จำกัดเปนที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ ได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้น IPO ดังกล่าว แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 280 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย MGC Investment Holdings Limited จำนวนไม่เกิน 56 ล้านหุ้น สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทมีแผนจะนำไปชำระคืนหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย, ลงทุนในบริษัท Alpha X และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย

ทั้งนี้บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป ฯ ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น หรือโฮลดิ้ง คอมปานี ที่ประกอบธุรกิจอย่างครบวงจรในอุตสาหกรรมยานยนต์ ภายใต้ระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่ม MGC ซึ่งประกอบด้วย 1.)กลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ ภายใต้ยี่ห้อชั้นนำที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น BMW Mini Honda และ Rolls-Royce สำหรับรถยนต์ BMW Motorrad และ Harley-Davidson สำหรับรถจักรยานยนต์ Azimut สำหรับเรือยอร์ช และ Chris Craft สำหรับเรือแม่น้ำ

2.) กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ 3.) กลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และคนขับ และ 4.) กลุ่มธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) บริการบริหารจัดการ (Shared Service) บริการทางการเงินสำหรับยานยนต์ นายหน้าประกันภัย และบริการทำความสะอาดและเคลือบสีรถยนต์

โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ จะมีบริษัท ธรรม โฮลดิ้งส์ จำกัดถือหุ้น 68% ภายหลัง IPO สัดส่วนจะลดเหลือ 51% รองลงมาได้แก่ MGC Investment Holdings Limited ถือหุ้น 13.3% ภายหลัง IPO สัดส่วจะลดเหลือ 5.0%
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 47266
ผู้ติดตาม: 0

Re: MGC

โพสต์ที่ 2

โพสต์

MGC : บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน)

ประเภทธุรกิจ
ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจอย่างครบวงจรในอุตสาหกรรมยานยนต์ ประกอบด้วย 1) กลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ 2) กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ 3) กลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และคนขับ และ 4) กลุ่มธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) บริการบริหารจัดการ (Shared Service) บริการทางการเงินสำหรับยานยนต์ นายหน้าประกันภัย และบริการทำความสะอาดและเคลือบสีรถยนต์

ตลาดรอง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

กลุ่มอุตสาหกรรม / หมวดธุรกิจ สินค้าอุตสาหกรรม / ยานยนต์

สถานะ Filing

จำนวนหุ้นที่ IPO
จำนวนไม่เกิน 336,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO แบ่งเป็น
1) หุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 280,000,000 หุ้น และ
2) หุ้นสามัญเดิม เสนอขายโดย MGC Investment Holdings Limited จำนวนไม่เกิน 56,000,000 หุ้น

ระยะเวลาเสนอขายหุ้น
n/a
ราคา IPO
n/a
ราคา PAR
0.50 บาท
วันที่เริ่มซื้อขาย n/a

ที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด

ข้อมูล Filing
www.mgc-asia.com
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 47266
ผู้ติดตาม: 0

Re: MGC

โพสต์ที่ 3

โพสต์

https://market.sec.or.th/public/ipos/IP ... 84&lang=th


หนังสือชี้ชวนตราสารทุน
รายละเอียดตราสาร
ผู้ออกหลักทรัพย์ : บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน)
ผู้เสนอขายหลักทรัพย์ : กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม / บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน)
วันที่ยื่น Filing version แรก : 11/07/2565
วันที่แก้ไข Filing ครั้งล่าสุด (วันที่นับ 1 Filing) : -
วันที่ Filing มีผลบังคับใช้ : -
วันที่เริ่มต้นการเสนอขาย : -
วันที่สิ้นสุดการเสนอขาย : -
ประเภทหลักทรัพย์ : หุ้นสามัญ
ประเภทการเสนอขาย : การเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อประชาชน
ที่ปรึกษาทางการเงิน/ผู้ควบคุม : บริษัท หลักทรัพย์ฟินันซ่า จำกัด / นางสาว ทิพวรรณ ดอกไม้หอม
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 47266
ผู้ติดตาม: 0

Re: MGC

โพสต์ที่ 4

โพสต์

มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 336 ล้านหุ้น-เข้า SET ใช้หนี้-ลงทุน Alpha X

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 12, 2022 11:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) (MGC) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายนหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนรวมไม่เกิน 336,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) โดยมี บล.ฟินันซ่า เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

สำหรับหุ้น IPO ที่จะเสนอขายในครั้งนี้ ประกอบด้วย (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 280,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25.0% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ และ (2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย MGC Investment Holdings Limited จำนวนไม่เกิน 56,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 5.0% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้

วัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้รับจากการระดมทุนเพื่อ 1.ชำระคืนหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินของบริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อย 2.ลงทุนในบริษัท Alpha X และ 3. เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อย

MGC ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจอย่างครบวงจรในอุตสาหกรรมยานยนต์ ภายใต้ระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ของกลุ่ม MGC (MGC-ASIA Ecosystem) ประกอบด้วย 1.) กลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ ภายใต้ยี่ห้อชั้นนำที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น BMW Mini Honda และ Rolls-Royce สำหรับรถยนต์ BMW Motorrad และ Harley-Davidson สำหรับรถจักรยานยนต์ Azimut สำหรับเรือยอร์ช และ Chris Craft สำหรับเรือแม่น้ำ 2.) กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ 3.) กลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และคนขับ และ 4.) กลุ่มธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) บริการบริหารจัดการ (Shared Service) บริการทางการเงินสำหรับยานยนต์ นายหน้าประกันภัย และบริการทำความสะอาดและเคลือบสีรถยนต์

ผลประกอบการปี 63-64 รายได้รวมเติบโตจาก 20,275.3 ล้านบาท เพิ่มเป็น 21,350.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.3% โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการของกลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์เป็นหลัก จาก 15,804.6 ล้านบาทในปี 63 เป็น 17,081.0 ล้านบาทในปี 64 หรือเพิ่มขึ้น 8.1% ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของจำนวนยานยนต์ที่จำหน่ายได้จาก 8,552 ยานยนต์ในปี 63 เป็น 8,982 ยานยนต์ในปี 64 หรือเพิ่มขึ้น 5%

ณ วันที่ 6 มิ.ย.65 บริษัทมีทุนจดทะเบียนจำนวน 560,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,120,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และมีทุนชำระแล้วจำนวน 420,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 840,000,000 หุ้น โครงสร้างการถือหุ้น ณ วันที่ 6 มิ.ย.65 มี บริษัท ธรรม โฮลดิ้งส์ จำกัด ถือหุ้น 571,200,000 หุ้น คิดเป็น 68% ภายหลังเสนอขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 51% ส่วน MGC Investment Holdings Limited ถือหุ้น 112,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 13.3% จะลดจำนวนลงเหลือ 56,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 5%

อนึ่ง บริษัท ธรรม โฮลดิ้งส์ ประกอบธุรกิจถือหุ้นในบริษัทอื่น โดยมีครอบครัวธรรมชวนวิริยะ ถือหุ้นรวมกัน 100% ส่วน MGC Investment Holdings Limited จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายฮ่องกง เพื่อประกอบธุรกิจถือหุ้นในบริษัทอื่น โดยมีครอบครัวธรรมชวนวิริยะ ถือหุ้นทางอ้อมผ่าน Parkland Wealth Limited (จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของ British Virgin Islands) ในสัดส่วน 100%

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามกฎหมายและตามที่บริษัทฯ กำหนดไว้
mezzo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2301
ผู้ติดตาม: 0

Re: MGC

โพสต์ที่ 5

โพสต์

pakapong_u
Verified User
โพสต์: 47266
ผู้ติดตาม: 0

Re: MGC

โพสต์ที่ 6

โพสต์

มิลเลนเนียม กรุ๊ป ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 336 ล้านหุ้น ลุยคืนหนี้-ลงทุน Alpha X
วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 - 12:38 น.

มิลเลนเนียม กรุ๊ป ยักษ์ค้าปลีกรถยนต์ ยื่นไฟลิ่งขายหุ้นไอพีโอ 336 ล้านหุ้น ระดมทุนคืนหนี้-ลงทุน Alpha X

วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลไฟลิ่งบริษัทที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย จากข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่า บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC กลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจครบวงจรในอุตสาหกรรมยานยนต์

ประกอบด้วย 1.กลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ ภายใต้ยี่ห้อชั้นนำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น BMW, Mini, Honda และ Rolls-Royce สำหรับรถยนต์ BMW Motorrad และ Harley-Davidson สำหรับรถจักรยานยนต์ Azimut สำหรับเรือยอชต์ และ Chris Craft สำหรับเรือแม่น้ำ

2.กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขายและให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ 3.กลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และคนขับ และ 4.กลุ่มธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) บริการบริหารจัดการ (Shared Service) บริการทางการเงินสำหรับยานยนต์ นายหน้าประกันภัย และบริการทำความสะอาดและเคลือบสีรถยนต์

ขายหุ้นไอพีโอ 336 ล้านหุ้น

โดย MGC มีแผนเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนรวมไม่เกิน 336 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ ซึ่งประกอบด้วย

1.หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัท จำนวนไม่เกิน 280 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25% และ

2.หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย MGC Investment Holdings Limited จำนวนไม่เกิน 56 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 5% อย่างไรก็ดี จำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขาย สุดท้ายจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของบริษัท และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย โดยมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET หมวดธุรกิจยานยนต์

ส่วนแผนวัตถุประสงค์ในการใช้นำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้คือ 1.ชำระคืนหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย 2.ลงทุนในบริษัท อัลฟ่า เอกซ์ จำกัด (Alpha X) และ 3.เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย

จ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40%

โดยบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามกฎหมายและตามที่บริษัทกำหนดไว้ โดยการจ่ายเงินปันผลและอัตราการจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจเปลี่ยนแปลงไปจากที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน

ทั้งนี้ MGC ก่อตั้งกลุ่มบริษัทในปี 2542 โดยครอบครัวธรรมชวนวิริยะ เริ่มต้นการดำเนินธุรกิจด้วยธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ BMW และ Mini และได้มีการขยายกิจการมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้สร้างรากฐานทางธุรกิจที่แข็งแกร่งตลอดช่วงระยะเวลาการประกอบธุรกิจกว่า 20 ปี ผ่านการขยายฐานผลิตภัณฑ์และฐานลูกค้าให้มีความหลากหลาย รวมไปถึงการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งกับผู้ผลิตยานยนต์และผู้ให้บริการด้านยานยนต์ชั้นนำระดับโลก

ปัจจุบัน MGC ถือเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์อันดับ 1 ของประเทศไทยสำหรับรถยนต์ยี่ห้อ BMW และ Mini โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 38.1% และประมาณ 60.3% ของจำนวนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คนใหม่ป้ายแดงยี่ห้อ BMW และ Mini ที่จดทะเบียนในประเทศไทยในปี 2564 ตามลำดับ

และถือเป็นผู้ให้บริการหลังการขายและบริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระที่มีขนาดใหญ่ มีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ให้บริการที่สำคัญทั่วประเทศ และมีคุณภาพในการให้บริการที่ได้มาตรฐาน ตรงตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งสามารถแสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถสร้างธุรกิจที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทเชื่อว่าจะสามารถขับเคลื่อนการเติบโตของกลุ่มบริษัทได้อย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นอกจากนี้ยังเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำระดับโลกในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่น ๆ ซึ่งได้แก่ Sixt SE (ธุรกิจเช่ารถยนต์ระยะสั้น) Bosch (ธุรกิจซ่อมบำรุงรถยนต์) และ Howden (ธุรกิจนายหน้าประกันภัย) ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความน่าเชื่อถือ และศักยภาพในการขยายธุรกิจร่วมกับผู้เล่นรายสำคัญระดับโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่มเติมในอนาคต

ปี’63-64 รายได้ 2 หมื่นล้าน

ปัจจุบัน MGC มีผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวมในปี’63-64 เติบโตจาก 20,275.3 ล้านบาท เป็น 21,350.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นในอัตรา 5.3% โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการ ของกลุ่มธุรกิจจำหน่ายยานยนต์เป็นหลัก จาก 15,804.6 ล้านบาท ในปี 2563 เป็น 17,081.0 ล้านบาท ในปี 2564 หรือเพิ่มขึ้น 8.1%

ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของจำนวนยานยนต์ที่จำหน่ายได้จาก 8,552 ยานยนต์ ในปี 2563 เป็น 8,982 ยานยนต์ ในปี 2564 หรือเพิ่มขึ้นในอัตรา 5%

ทั้งนี้ ปริมาณการขายยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นของ MGC และการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศในภาพรวมยังช่วยให้กลุ่มบริษัทได้รับประโยชน์ทางธุรกิจจากการให้บริการหลังการขายและบริการซ่อมบำรุงยานยนต์ซึ่งมีอัตรากำไรค่อนข้างสูง

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562, 2563, 2564 และวันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 12,095.7 ล้านบาท 11,233.8 ล้านบาท 10,326.3 ล้านบาท และ 10,325.8 ล้านบาท ตามลำดับ ลดลง 861.9 ล้านบาท หรือ 7.1% ณ สิ้นปี 2563 ลดลง 907.5 ล้านบาท หรือ 8.1% ณ สิ้นปี 2564 และลดลง 0.5 ล้านบาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565

ส่วนกำไรสุทธิงวดปี’63-64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 188.8 ล้านบาท และ 295.5 ล้านบาท ตามลำดับ โดยกำไรสุทธิปี’64 เพิ่มขึ้น 56.5% จากปี 2563 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรขั้นต้น การลดลงของต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหาร

โดยมีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นคำนวณจากกำไร (ขาดทุน) สุทธิ หารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้นรวมเฉลี่ย โดยสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562, 2563, 2564 และสำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทมีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น 6.6%, 45.2%, 41.6% และ 26.8% ตามลำดับ

มีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (DE) 36.4 เท่า 21.0 เท่า 10.4 เท่า และ 10.2 เท่า ตามลำดับ อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 24.7 เท่า 13.5 เท่า 7.6 เท่า และ 8.0 เท่า ตามลำดับ และอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยไม่รวมเจ้าหนี้สินเชื่อสำหรับสินค้าเพื่อการจัดแสดงต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 21.2 เท่า 11.8 เท่า 6.7 เท่า และ 6.6 เท่า ตามลำดับ
เมื่อเดือน ก.ย. 64 มิลเลนเนียม กรุ๊ป ได้ร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ ขยายธุรกิจสู่ไฟแนนเชียล ร่วมทุนจัดตั้ง บริษัท อัลฟ่า เอกซ์ จำกัด (Alpha X) มีสัดส่วนการถือหุ้นจากธนาคารไทยพาณิชย์ 50% และเอ็มจีซี-เอเชีย 50% ของหุ้นทั้งหมด โดยมีทุนจดทะเบียนจัดตั้งขั้นต้นจำนวน 1 ล้านบาท และมีแผนจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 300 ล้านบาท ภายใน 1 ปี นับจากวันที่จัดตั้งบริษัท
pakapong_u
Verified User
โพสต์: 47266
ผู้ติดตาม: 0

Re: MGC

โพสต์ที่ 7

โพสต์

phpBB [video]


เจาะความสำเร็จ "มิลเลนเนียม" กรุ๊ปหนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าปลีกยานยนต์และไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้ครบวงจรในไทย

รายการ AEC Insider เชิญชวนทุกท่านรับฟังมุมมองผู้บริหาร เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมค้าปลีกรถยนต์ในประเทศไทย ว่ามีความเปลี่ยนแปลงไป และทิศทางอย่างไรในอนาคต
=================
🔴 เชิญรับฟังสัมภาษณ์สด หัวข้อ เจาะความสำเร็จ "มิลเลนเนียมกรุ๊ป" หนึ่งในผู้นำค้าปลีกยานยนต์ และไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้ครบวงจรในประเทศไทย

โดย ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย)
RnD-VI
Verified User
โพสต์: 5620
ผู้ติดตาม: 1

Re: MGC

โพสต์ที่ 8

โพสต์

phpBB [video]
วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
RnD-VI
Verified User
โพสต์: 5620
ผู้ติดตาม: 1

Re: MGC

โพสต์ที่ 9

โพสต์

รถยนต์
“มิลเลนเนียม กรุ๊ป” จากดีลเลอร์ “บีเอ็มดับเบิลยู” สู่บริษัทมหาชน
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 - 11:40 น.


กว่า 2 ทศวรรษที่ผู้บริหาร มิลเลนเนียม กรุ๊ป ภายใต้การนำของ ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ซีอีโอใหญ่ ปลุกปั้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กรจนเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป

มิลเลนเนียม กรุ๊ป เริ่มต้นจาก ดีลเลอร์บีเอ็มดับเบิลยู เมื่อปี 2543 ถือเป็นผู้บุกเบิกแนวทางใหม่ในการดำเนินธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ ด้วยความหลงไหล ฝักใฝ่ในการเรียนรู้ กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และพัฒนาในทุกมิติอย่างไม่หยุดยั้ง ผสานความร่วมมือของพันธมิตรธุรกิจ ที่ได้มอบความไว้วางใจ และเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับเขา นำไปสู่ความสำเร็จในฐานะผู้แทนจำหน่ายที่เจ้าของแบรนด์ให้การยอมรับ ร่วมทั้งความเชื่อมั่นจากลูกค้าที่ได้รับความพึงพอใจ ทั้งจากตัวผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขายในระดับสูง


ถึงวันนี้มิลเลนเนียม กรุ๊ป มีผลิตภัณฑ์และบริการอย่างครอบคลุม ทั้งการจำหน่ายรถยนต์ บิ๊กไบก์ เรือยอชต์ เรือแม่น้ำ และรถยนต์มือสอง ธุรกิจให้เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารสายการบินชั้นนำ บริการหลังการขายและซ่อมบำรุง บริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ รวมถึงมีธุรกิจเสริมสร้างรายได้ระยะยาวและบริการอื่น ๆ

วันนี้ถึงเวลาที่มิลเลนเนียม กรุ๊ป พร้อมจะเข้าไปโลดแล่น เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนในองค์กรในรูปแบบมหาชน



ดร.สัณหวุฒิ ยอมรับว่า มิลเลนเนียม กรุ๊ป MGC-ASIA กำลังเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อระดมทุนนำมาเสริมความแข็งแกร่ง และศักยภาพผู้นำธุรกิจที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แห่งการเดินทางของประชาชน และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก จำนวนไม่เกิน 336,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท

“หลังการเสนอขายหุ้นสามัญ ซึ่งคาดว่าจะอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เรามีแผนนำเงินไปลงทุนในบริษัท อัลฟ่า เอกซ์ จำกัด บริษัทลูก SCBX และบริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงโอกาสใหม่ทางธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่กลุ่มบริษัทได้ในระยะยาว นอกเหนือจากการนำไปชำระเงินกู้จากสถาบันการเงิน และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการสร้างการเติบโตในการดำเนินธุรกิจ” ดร.สัณหวุฒิกล่าว


ปัจจุบันกลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจในรูปแบบ holding company โดยแบ่งธุรกิจหลักออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1) กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (mobility retail business) ซึ่งกลุ่มบริษัทเป็นผู้นำเข้า และ/หรือผู้จำหน่ายรถยนต์ บิ๊กไบก์ เรือยอชต์ และเรือแม่น้ำ ในลักษณะธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ รวมถึงให้บริการจัดหาลูกค้า สำหรับธุรกิจให้เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว โดยแบรนด์ยานยนต์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งกลุ่มบริษัทเป็นผู้นำเข้าและ/หรือผู้จำหน่าย ได้แก่ รถยนต์ Rolls-Royce, BMW, MINI, Honda และบิ๊กไบก์ BMW Motorrad, Harley-Davidson รวมถึงเรือยอชต์สัญชาติอิตาเลียน Azimut เรือแม่น้ำสัญชาติอเมริกัน Chris-Craft และบริการจำหน่ายรถยนต์มือสอง

รวมถึงบริการจัดหาลูกค้า สำหรับธุรกิจให้เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว VistaJet เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง นอกจากนี้กลุ่มบริษัทยังเป็นผู้จำหน่ายยานยนต์ BMW, MINI และ BMW Motorrad อันดับ 1 ของประเทศไทย



2) กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขาย และให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ โดยมีศูนย์บริการครอบคลุมช่วยสนับสนุนธุรกิจหลักและสร้างรายได้ รวมถึงผลกำไรแก่กลุ่มบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค โดยกลุ่มบริษัทถือเป็นผู้นำธุรกิจการให้บริการหลังการขาย จำหน่ายอะไหล่ยานยนต์ อุปกรณ์ตกแต่ง และสินค้าไลฟ์สไตล์ พร้อมบุคลากรที่ผ่านการอบรมด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงเครื่องมืออันทันสมัยเพื่อรองรับการให้บริการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปัจจุบันและอนาคต และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพรวมถึงสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น

3) กลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และพนักงานขับ โดยธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์ระยะยาว เน้นการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีระยะเวลาการเช่า 2-5 ปี พร้อมให้บริการครบวงจรตลอดระยะเวลาของสัญญาเช่า บริการเช่ารถยนต์ระยะสั้นภายใต้แบรนด์ระดับโลก “Sixt Rent a Car” ที่มีศูนย์บริการมากกว่า 4,500 สาขา ในกว่า 105 ประเทศทั่วโลก



นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทได้ขยายบริการที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจอย่างครบวงจร ผ่านสินค้า และบริการที่เกี่ยวเนื่องแก่ลูกค้าและองค์กร โดยมีกลุ่มธุรกิจให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร นายหน้าประกันภัย บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมถึงบริการทำความสะอาดและเคลือบสีรถยนต์ ซึ่งดำเนินงานผ่านบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม

“เราวางเป้าหมายการขยายศักยภาพทางธุรกิจให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมวางแผนต่อยอดและขยายธุรกิจมารีนในภูมิภาค

เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายใหม่ ผ่านทุกแพลตฟอร์มทางธุรกิจ การขยายสู่บริการทางด้านการเงิน การเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และสินเชื่อรีไฟแนนซ์สำหรับยานยนต์หรูทุกประเภท ผ่านบริษัท อัลฟ่า เอกซ์ จำกัด (Alpha X) ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัท เอสซีบี เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) และบริการนายหน้าประกันภัย ผ่านบริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด และอื่น ๆ”
วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
RnD-VI
Verified User
โพสต์: 5620
ผู้ติดตาม: 1

Re: MGC

โพสต์ที่ 10

โพสต์

“มิลเลนเนียม กรุ๊ป” เปิดแผนระดมทุนขายหุ้น IPO เสริมแกร่งพอร์ตรถหรู
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 - 13:25 น.


“มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA” เดินหน้าระดมทุนขายหุ้น IPO เสริมความแข็งแกร่งทุกพอร์ตธุรกิจ ชูศักยภาพผู้นำธุรกิจที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แห่งการเดินทาง และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจให้ครอบคลุมทุกมิติ เตรียมประกาศขาย 336 ล้านหุ้น ขยายลงทุนอัลฟ่า เอกซ์ และ มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA กำลังเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อระดมทุนนำมาเสริมความแข็งแกร่ง และศักยภาพผู้นำธุรกิจที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แห่งการเดินทางของประชาชน และสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจให้ครอบคลุมทุกมิติ โดยเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป (IPO) เป็นครั้งแรกจำนวนไม่เกิน 336,000,000 หุ้น คิดเป็นไม่เกิน 30% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท


“หลังการเสนอขายหุ้นสามัญ ซึ่งคาดว่าไม่กี่เดือนข้างหน้า เรามีแผนนำเงินไปลงทุนในบริษัท อัลฟ่า เอกซ์ จำกัด บริษัทลูก SCBX และบริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงโอกาสใหม่ทางธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่กลุ่มบริษัทได้ในระยะยาว นอกเหนือจากการนำไปชำระเงินกู้จากสถาบันการเงิน และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนในการสร้างการเติบโตในการดำเนินธุรกิจ”





ดร.สัณหวุฒิกล่าวอีกว่า มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯดำเนินธุรกิจมากว่า 2 ทศวรรษ สร้างความแข็งแกร่งด้วยการพัฒนาระบบนิเวศทางธุรกิจ ภายใต้ชื่อ MGC-ASIA Ecosystem ผ่านการขยายผลิตภัณฑ์ บริการและฐานลูกค้า

ปัจจุบัน มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ มีผลิตภัณฑ์และบริการอย่างครอบคลุม ทั้งการจำหน่ายรถยนต์ บิ๊กไบก์ เรือยอชต์ เรือแม่น้ำ และรถยนต์มือสอง พร้อมการรับประกัน บริการจัดหาลูกค้าสำหรับธุรกิจให้เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารสายการบินชั้นนำ บริการหลังการขายและซ่อมบำรุง บริการเช่ารถยนต์ทั้งระยะสั้นและระยะยาวพร้อมพนักงานขับ รวมถึงมีธุรกิจเสริมสร้างรายได้ระยะยาวและบริการอื่น ๆ ได้แก่ บริการทางการเงินสำหรับยานยนต์และมารีน นายหน้าประกันภัย และบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และศูนย์ปฏิบัติการข้อมูล เป็นต้น


นอกจากนี้ การร่วมมือกับพันธมิตร ซึ่งเป็นผู้ผลิตและให้บริการด้านยานยนต์ระดับโลกมาอย่างต่อเนื่องช่วยเสริมสร้างให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและครบวงจรแก่ลูกค้ารวมถึงสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น

“ทีมผู้บริหารและพนักงาน ได้มุ่งสร้างความเป็นเลิศในการดำเนินงาน จากความเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ ในการสร้างประสบการณ์ที่เต็มเปี่ยม ในการเดินทางอย่างครบวงจร ตลอดจนมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้วยการสร้างค่านิยมในองค์กร ให้มีส่วนร่วมและตระหนักถึงชุมชน รวมถึงพื้นฐานเพื่อการเติบโตสู่ผลกำไรอย่างยั่งยืน

ปัจจุบันกลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจในรูปแบบ Holding Company โดยแบ่งธุรกิจหลักออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่


1) กลุ่มธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ (Mobility Retail Business) ซึ่งกลุ่มบริษัทเป็นผู้นำเข้า และ/หรือผู้จำหน่าย รถยนต์ บิ๊กไบก์ เรือยอชต์ และเรือแม่น้ำ ในลักษณะธุรกิจค้าปลีกยานยนต์ รวมถึงให้บริการจัดหาลูกค้า สำหรับธุรกิจให้เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว โดยแบรนด์ยานยนต์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งกลุ่มบริษัท

เป็นผู้นำเข้าและ/หรือผู้จำหน่าย ได้แก่ รถยนต์ Rolls-Royce, BMW, MINI, Honda และบิ๊กไบก์ BMW Motorrad, Harley-Davidson รวมถึงเรือยอชต์สัญชาติอิตาเลียน Azimut เรือแม่น้ำสัญชาติอเมริกัน Chris-Craft และบริการจำหน่ายรถยนต์มือสอง

รวมถึงบริการจัดหาลูกค้า สำหรับธุรกิจให้เช่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว VistaJet เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังเป็นผู้จำหน่ายยานยนต์ BMW, MINI และ BMW Motorrad อันดับ 1 ของประเทศไทย

2) กลุ่มธุรกิจให้บริการหลังการขาย และให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ โดยมีศูนย์บริการครอบคลุมช่วยสนับสนุนธุรกิจหลักและสร้างรายได้ รวมถึงผลกำไรแก่กลุ่มบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค โดยกลุ่มบริษัทถือเป็นผู้นำธุรกิจการให้บริการหลังการขาย จำหน่ายอะไหล่ยานยนต์ อุปกรณ์ตกแต่ง และสินค้าไลฟ์สไตล์ พร้อมบุคลากรที่ผ่านการอบรมด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงเครื่องมืออันทันสมัยเพื่อรองรับการให้บริการรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปัจจุบันและอนาคต และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มศักยภาพรวมถึงสร้างความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น

3) กลุ่มธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์และพนักงานขับ โดยธุรกิจให้บริการเช่ารถยนต์ระยะยาว เน้นการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าบริษัทขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ มีระยะเวลาการเช่า 2-5 ปี พร้อมให้บริการครบวงจรตลอดระยะเวลาของสัญญาเช่า บริการเช่ารถยนต์ระยะสั้นภายใต้แบรนด์ระดับโลก “Sixt Rent a Car” ที่มีศูนย์บริการมากกว่า 4,500 สาขา ในกว่า 105 ประเทศทั่วโลก โดยมีเครือข่ายกับบริษัทชั้นนำของโลกเป็นพันธมิตร ทางบริษัทได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐ ในการบริหารจัดการรถยนต์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้นำระดับประเทศ ในการประชุม ASEAN SUMMIT เมื่อปี 2562 รวมถึงงานประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก ปี 2565 (APEC 2022) ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ


นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทได้ขยายบริการที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจอย่างครบวงจร ผ่านสินค้า และบริการที่เกี่ยวเนื่องแก่ลูกค้าและองค์กร โดยมีกลุ่มธุรกิจให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร นายหน้าประกันภัย บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) และดิจิทัลแพลตฟอร์ม รวมถึงบริการทำความสะอาดและเคลือบสีรถยนต์ ซึ่งดำเนินงานผ่านบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วม

“เราวางเป้าหมายการขยายศักยภาพทางธุรกิจ ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และบริการที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมวางแผนต่อยอดและขยายธุรกิจมารีนในภูมิภาค เพื่อตอบสนองความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายใหม่ ผ่านทุกแพลตฟอร์มทางธุรกิจ การขยายสู่บริการทางด้านการเงิน การเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และสินเชื่อรีไฟแนนซ์สำหรับยานยนต์หรูทุกประเภท ผ่านบริษัท อัลฟ่า เอกซ์ จำกัด (Alpha X) ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ บริษัท เอสซีบี เอ็กซ์ จำกัด (มหาชน) และบริการนายหน้าประกันภัย ผ่านบริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด และอื่น ๆ
วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
RnD-VI
Verified User
โพสต์: 5620
ผู้ติดตาม: 1

Re: MGC

โพสต์ที่ 11

โพสต์

มิลเลนเนียม กรุ๊ป เท 120 ล้าน ผุดโชว์รูม “ฮาลีย์-เดวิสสัน” ย่านฝั่งธนฯ
วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 - 16:13 น.

ฮาลีย์-เดวิสสัน
ยูเอส มอเตอร์ไบค์ บุกเมืองหลวงปักหมุดทำเล พระราม5-ราชพฤกษ์ เทงบฯ 120 ล้านบาท ขึ้นโชว์รูม “ฮาลีย์–เดวิสสัน” มั่นใจช่วยดันยอดขายปีนี้โตพรวด

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 นายปอนด์ จงเสรี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ยูเอส มอเตอร์ไบค์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ภายใต้กลุ่มธุรกิจ มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนมูลค่า 150 ล้านบาท เพื่อสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการรถจักรยานยนต์ ฮาลีย์–เดวิสสัน (Harley-Davidson®) สาขาธนบุรี ซึ่งถือเป็นโชว์รูมรถจักรยานยนต์ฮาลีย์-เดวิสสัน แห่งที่ 3 ของกลุ่มมิลเลนเนียม


ฮาลีย์-เดวิสสัน
ซาจีฟ รัชเกคาราน, ปอนด์ จงเสรี
จากปัจจุบันที่มีสาขาอยู่ที่จ.อุบลราชธานี และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยโชว์รูมแห่งใหม่สาขาธนบุรี (วงเวียนพระราม5-ราชพฤกษ์) ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 1,500 ตารางเมตรโดยสามารถจอดโชว์รถจักรยานยนต์ได้มากถึง 30 คันภายใต้คอนเซ็ปต์การออกแบบให้เป็นป้อมปราการของฉันที่มาความเป็นอิสระผสานกับความเป็นเมืองหลวงเก่าของกรุงธนบุรี ซึ่งมีบุคลิกของนักบุกเบิกผู้รักการผจญภัย เช่นเดียวกับแบรนด์ของรถจักรยานยนต์ฮาลีย์–เดวิสสัน

ฮาลีย์-เดวิสสันและยังมีพื้นที่ในส่วนของสนามทดสอบเพื่อให้ลูกค้าได้ทดสอบรถจักรยานยนต์ ทดสอบการขับขี่เพื่อใช้ฝึกและพัฒนาทักษะ รวมทั้งไว้รองรับการจัดกิจกรรมสำหรับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าการเข้ามาบุกตลาดในพื้นที่กรุงเทพฯ จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยทำให้ยอดการจำหน่ายของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เพราะจากสัดส่วนการจำหน่ายของ ฮาลีย์–เดวิสสัน พบว่าลูกค้าเกือบ 70% อยู่ในกรุงเทพฯ ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 30% จะเป็นลูกค้าในส่วนของต่างจังหวัด

สำหรับกลยุทธ์ที่บริษัทจะเน้นย้ำในการทำตลาดปีนี้มีอยู่ 3 ส่วน ได้แก่ 1.การบริการลูกค้าด้วยความพึงพอใจสูงสุด 2.การจัดกิจกรรมหลังการขาย เบื้องต้นบริษัทจะจัดกิจกรรมใหญ่ไตรมาสละ 1 ครั้ง และกิจกรรมย่อยรายสัปดาห์ เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามามีส่วนร่วม 3.ใช้ความได้เปรียบในเครือ MGC เพื่อมอบข้อเสนอและเงื่อนไขที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า


นายปอนยังกล่าวเพิ่มเติมถึงเป้าหมายยอดการจำหน่ายสำหรับปีนี้ แม้ว่าบริษัทจะไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่จากการขยายสาขาเข้ามาเจาะตลาดในเมืองหลวง น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดการจำหน่ายของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนได้อย่างแน่นอน

ฮาลีย์-เดวิสสันส่วนลูกค้าที่ยังรอส่งมอบรถจักรยานยนต์กว่า 100 คันนั้น คาดว่าน่าจะเริ่มทยอยส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องหลังจากปัญหาการขาดแคนเซมิคอนดักเตอร์ที่มาใช้ในการผลิตเริ่มผ่อนคลาย

ด้านนายซาจีฟ รัชเกคาราน กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและอินเดีย กล่าวว่าปีนี้มีความพิเศษ เนื่องจากเป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 120 ปี ของฮาลีย์-เดวิสสัน ที่มอบความสุขและความอิสระมาสู่ผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ เราเชื่อมั่นว่าลูกค้ารวมถึงผู้ที่ชื่นชอบฮาลีย์-เดวิสสัน จะรู้สึกประทับใจกับผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สินค้าไลฟ์สไตล์ที่มีเอกลักษณ์ และความพร้อมในการให้บริการด้านต่าง ๆ เมื่อได้มาเยือนโชว์รูมแห่งนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ฮาลีย์-เดวิสสัน สาขาธนบุรี ก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนในอนาคตได้”
วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
contrarian
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1485
ผู้ติดตาม: 0

Re: MGC

โพสต์ที่ 12

โพสต์

DonaldduckVI
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 517
ผู้ติดตาม: 1

Re: MGC

โพสต์ที่ 13

โพสต์

Sixt สาขาน้องใหม่ สนามบินน่านนคร
phpBB [video]

CREDIT REFERNCE: MGC-ASIA YouTube
RnD-VI
Verified User
โพสต์: 5620
ผู้ติดตาม: 1

Re: MGC

โพสต์ที่ 14

โพสต์

วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
doang
Verified User
โพสต์: 1154
ผู้ติดตาม: 1

Re: MGC

โพสต์ที่ 15

โพสต์

MMS ผุด Tesla Approved Body Shop แห่งแรกในไทย
วันที่ 8 เมษายน 2566 ประชาชาติธุรกิจ

MGC-ASIA ปลื้มค่ายรถ EV ยักษ์ใหญ่ TESLA แต่งตั้ง MMS บริษัทในเครือดูแลงาน ซ่อมสีและตัวถัง ภายใต้ ชื่อTesla Approved Body Shop เริ่ม มิ.ย.นี้

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียมกรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าบริษัทได้รับความไว้วางใจจากค่ายรถ EV อย่าง TESLA ให้คือ บริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) MMS ในเครือ MGC-ASIA เข้ามารับหน้าที่ดูแลและให้บริการหลังการขายในส่วนของงาน ซ่อมสีและตัวถังรถ EV TESLA ในประเทศไทย ภายใต้ชื่อTesla Approved Body Shop

โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการสาขาแรกที่ MMS สาขาสุขาภิบาล 3 (พาซิโอ้) ได้ราวช่วงปลายเดือนพฤษภาคม หรือต้นเดือนมิถุนายนนี้อย่างแน่นอน

ผู้สื่อข่าว รายงานเพิ่มเติมว่ารถยนต์ Tesla ได้เริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเมื่อล่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยใช้นโยบายการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว ไม่มีการบริการหลังการขายแต่อย่างใด และมีรายงานว่าถึงปัจจุบัน Tesla มียอดจองไปถึง 7,000 คัน

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ Tesla และ MMS จะให้บริการหลังการขายในส่วนของตัวถังและสี กรณีเกิดอุบัติเหตุ นั้นถือเป็นการเพิ่มช่องทางที่แข็งแกร่งในการดูแลงานบริการหลังการขายให้กับลูกค้า เนื่องจาก MMS มี ศูนย์บริการกระจายครอบคลุมมากกว่า 30 สาขาในปัจจุบันและยังมีแผนที่จะเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในอนาคตให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นด้วย

ส่วนการลงทุนสำหรับศูนย์ TESLA at Prove Bodyshop นั้นเบื้องต้นคาดว่าจะ การลงทุนสำหรับการจัดซื้อเครื่องมือพิเศษซึ่งคาดว่าจะต้องใช้งบประมาณไม่น้อยกว่าเจ็ดถึง 10 ล้านบาท

MMS มีแผนที่จะ ลงทุนเพื่อขยายสาขาเพิ่มเติมให้ได้อีกอย่างน้อย 5 แห่งในอนาคตเพื่อรองรับกับจำนวนประชากรรถ EV Tesla ที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยให้ได้มากที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Bird.Songwut
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 159
ผู้ติดตาม: 0

Re: MGC

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ให้ข้อสังเกตไว้ครับ ยอดจอง BMW ในงานมอเตอร์โชว์ที่เพิ่งจบไป
ในปีที่กระแสยานยนต์ EV ร้อนแรงมาก ค่ายยุโรปอย่าง BMW ที่มีรถยนต์ไฟฟ้าหลายรุ่น ยอดขายดีขึ้นหน่อยนึง
ต่างกับค่ายคู่แข่งคือ BENZ ที่มีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกน้อย ยอดวูบไปเยอะเลย
เป็นข้อสังเกตได้ว่าลูกค้า Tesla ถ้าจะปันใจมาจากรถยุโรป น่าจะปันใจมาจากเบนซ์ ส่วนสาวก BMW ยังซื้อยานยนต์ไฟฟ้าจาก BMW ต่อไปครับ
.
.
ยอดมอเตอร์โชว์ปี'65
.
.
.
ยอดมอเตอร์โชว์ปี'66
"มีกระแสน้ำสายหนึ่งในกิจกรรมของคน ซึ่งเมื่อมันไหลบ่าท่วมท้นจะนำไปสู่ความมั่งคั่งมหาศาล"
Investor hub : ห้องลับนักลงทุน https://www.youtube.com/@Investor_hub
RnD-VI
Verified User
โพสต์: 5620
ผู้ติดตาม: 1

Re: MGC

โพสต์ที่ 17

โพสต์

phpBB [video]
วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
RnD-VI
Verified User
โพสต์: 5620
ผู้ติดตาม: 1

Re: MGC

โพสต์ที่ 18

โพสต์

MGC-ASIA เปิดราคา IPO 7.95 บาทต่อหุ้น ลั่นระฆังเทรดปลายเดือนเม.ย.นี้
แชร์






ฐานเศรษฐกิจ
21 เมษายน 2566
MGC-ASIA เปิดราคา IPO 7.95 บาทต่อหุ้น ลั่นระฆังเทรดปลายเดือนเม.ย.นี้

MGC-ASIA เปิดราคาขาย IPO 7.95 บาทต่อหุ้น พร้อมเข้าซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์ ปลายเดือนเมษายนนี้ รองรับแผนขยายการลงทุนใน อัลฟา เอกซ์ และศูนย์ซ่อม MMS
หลังจาก บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหลักทรัพย์ฯ จากสำนักงาน ก.ล.ต. ปัจจุบันแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) มีผลใช้บังคับแล้ว โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 280 ล้านหุ้น (ไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ) ล่าสุด MGC-ASIA กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่ 7.95 บาทต่อหุ้น โดยเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 18 - 20 เมษายน 2566 และคาดว่าจะนำหุ้น MGC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ ภายในเดือนเมษายนนี้

MGC-ASIA กำหนดราคา IPO 7.95 บาทต่อหุ้น
MGC-ASIA กำหนดราคา IPO 7.95 บาทต่อหุ้น

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นับเป็นก้าวสำคัญของมิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA ที่จะเพิ่มศักยภาพการขยายธุรกิจ ทั้งเพิ่มความแข็งแกร่งให้ระบบนิเวศทางธุรกิจภายใต้ชื่อ MGC-ASIA Ecosystem ตลอดจนการเตรียมความพร้อมสู่การดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายและให้บริการ หลังการขายยานยนต์ไฟฟ้า EV พร้อมยกระดับการให้บริการโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ (Digitalization)



การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเสนอขาย IPO MGC-ASIA ครั้งนี้ เพื่อรองรับแผนงานขยายการลงทุนในบริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ลงทุนในบริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ขยายศูนย์ให้บริการหลังการขายและซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ รวมถึงปรับโครงสร้างเงินทุนผ่านการชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงาน รองรับการเติบโตในอนาคต



ทั้งนี้ MGC-ASIA มีรายได้ในปี 2563 2564 และ 2565 รวม 20,275.3 ล้านบาท 21,350.3 ล้านบาท และ 23,076.2 ล้านบาทตามลำดับ หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6.7% ต่อปี และมีกำไรสุทธิ 188.8 ล้านบาท 295.5 ล้านบาท และ 595.6 ล้านบาท ตามลำดับ
วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
RnD-VI
Verified User
โพสต์: 5620
ผู้ติดตาม: 1

Re: MGC

โพสต์ที่ 19

โพสต์

MGC-ASIA ลั่น ต้องเป็นผู้นำทุกธุรกิจใน Ecosystem
แชร์






ฐานเศรษฐกิจ
24 เมษายน 2566
MGC-ASIA ลั่น ต้องเป็นผู้นำทุกธุรกิจใน Ecosystem

“มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA” ลั่น ต้องขึ้นเป็นผู้นำทุกธุรกิจใน Ecosystem เหตุสร้างเครือข่ายการเดินทางครบ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมเดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ภายในเดือนเม.ย.นี้
ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 280 ล้านหุ้นที่ราคาหุ้นละ 7.95 บาท หลังนักลงทุนตอบรับการจองซื้อหุ้นคึกคักมากกว่าจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้ ตุนเงินกว่า 2,226 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ภายในเดือนเมษายนนี้ของบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ “มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA” ภายใต้ตัวย่อ MGC

ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด(มหาชน)เปิดเผย“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ธุรกิจเราเป็นอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องการเดินทางและสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์ สถานะ และระดับของความสุขของลูกค้า อยู่ที่ว่า มีเงินขนาดไหน ก็ซื้อความสุขตามเงินที่มี เราเลยเรียกตัวเองว่า ไลฟ์สไตล์ โมบิลิตี้ โดยที่เรามีโปรแกรมทางการเงิน มีแขนขาเรื่องประกันภัยต่างๆที่ช่วยเสริมศักยภาพของสินค้าและบริการของเราทุกเซ็กเม้นต์

MGC-ASIA ลั่น ต้องเป็นผู้นำทุกธุรกิจใน Ecosystem

ทั้งนี้ระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทมีสินค้าและบริการที่หลากหลาย กลุ่มแรกคือ ธุรกิจจำหน่ายแบรนด์ระดับโลกทั้งรถ เรือ ไม่ว่าจะเป็น Rolls-Royce, BMW, MINI, Honda บิ๊กไบค์ BMW Motorrad, Harley-Davidson หรือเรือยอชท์ Azimut เรือแม่น้ำ Chris-Craft รวมไปถึงเครื่องบิน เราไม่ได้ลงทุนเรื่องเครื่องบิน แต่เป็นตัวแทนให้บริการให้เช่าเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว VistaJet และเป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋วของของสายการบินชั้นนำเช่น สายการบินไทย

ส่วนที่สองคือ ธุรกิจที่เกี่ยวกับบริการหลังการขาย เพราะขายสินค้าต้องมีบริการ เรามีบริการหลังการขายทั้งหมด ซื้อรถยี่ห้อไหน ก็ต้องเข้าศูนย์ยี่ห้อนั้น ถ้ายี่ห้อที่บริษัทไม่ได้เป็นตัวแทนขาย จะมีธุรกิจให้บริการซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ MMS Bosch Car Service ไว้บริการได้ทุกแบรนด์ ซึ่งเราเป็นพันธมิตรกับกับบริษัท Borsh ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านยานยนต์


ส่วนที่สามคือ ธุรกิจบริการเช่ารถยนต์ซึ่งจะทั้งระยะสั้น ที่อยู่ตามสนามบิน และระยะยาวเป็นบริษัทและองค์กรต่างๆ รวมถึงจัดหาพนักงานขับรถด้วย เราเรียกกลุ่มนี้ว่า Operating Lease เพราะจะมีทั้งการปล่อยไฟแนนซ์และบริการด้วย ส่วนที่ 4 จะเป็นธุรกิจที่เราร่วมทุนแล้วได้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาที่บริษัทแม่ อย่างที่ร่วมทุนกับบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน)ตั้ง บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ ลีสซิ่งระยนต์และเรือระดับลักชัวรีหรือร่วมทุนกับฮาวเด้น กรุ๊ป ทำธุรกิจประกันภัย

“ถ้ามองแนวราบ จะเห็นภาพว่า กลุ่มธุรกิจเรามีอะไรบ้าง แต่ถ้าหมุนแกนเป็นแนวตั้ง เราจะเรียกตัวเองว่า Lifestyle Mobility Ecosystem จะครอบคลุมทุกทุกเซ็กเม้นต์ที่ลูกค้าต้องการ แล้วถ้าเราหมุนอีกแกน ไม่ต้องถึง 360 องศา เอาแค่ 180 ก็พอ ทุกวันนี้บริการรถเช่าเรามีแพลตฟอร์มบุ้คกิ้งออนไลน์ แต่เรายังไม่ได้เอาสินค้าที่เรามีทั้งหมดมาขึ้นแพลตฟอร์ม ซึ่งจะเป็นเทคในอนาคตที่เราจะทำ ขึ้นกับว่า เราจะหมุนแกนไหนหรือเล่นแกนไหนมากกว่า เพราะทุกๆแกนมีระยะเวลาที่เหมาะสม” ดร.สัณหวุฒิกล่าว

ต่อข้อซักถามที่ว่า บริษัทเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2543 ผ่านมา 22 ปีแล้วทำไมจึงตัดสินใจที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ดร.สัณหวุฒิกล่าวว่า เคยคิดเรื่องการเข้าตลาดมาแล้ว เพราะเชื่อว่า การเข้าตลาดจะทำให้บริษัทมั่นคงยั่งยืน เราเริ่มธุรกิจมา 22 ปีแล้ว ตอนนั้นเราทำตามความฝัน ทำในสิ่งที่ชอบ แต่พอมองย้อนกลับไปก็เห็นว่า ทำมาเยอะมาก เลยจัดกระบวนทัพใหม่และเห็นว่า วันนี้เราไม่สามารถที่จะอยู่ตรงกลางได้ เราจะต้องขึ้นไปเป็นผู้นำในทุกธุรกิจที่เราเข้าไปทำ เพราะฉะนั้นเราต้องขึ้นบันไดเลื่อนหรือขึ้นลิฟท์อย่างเดียวเท่านั้น เราไม่สามารถเดินขึ้นบันไดได้อีกต่อไป

“ผมคิดว่า ถ้าเราต้องการความยั่งยืนและความมั่นคงกับธุรกิจ โดยที่ลูกน้องของเราก็จะเติบโตไปด้วยผมเชื่อว่า ผมจะต้องเอาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ อันแรกก่อนคือ อัลฟ่าเอ็กซ์ที่ต้องการลงทุน การที่เราร่วมธุรกิจกับธนาคารที่มีฐานทุนที่ใหญ่มาก ถ้าเราไม่เข้าตลาด หลักทรัพย์ การเพิ่มในส่วนของทุนก็คงตามกันไม่ทัน ซึ่งเงินที่ได้จากการขาย IPO ครั้งนี้จะนำรองรับแผนงานขยายการลงทุนของอัลฟาเอกซ์ด้วย” ดร.สัณหวุฒิ กล่าว

สำหรับกุญแจแห่งความสำเร็จในการทำธุรกิจหรือ Key success factors ดร.สัณหวุฒิกล่าวว่า สำหรับผมมี 3 เรื่อง

อันแรกคือ ปรัชญาในการทำงาน ให้เป็นบรรทัดฐานไม่ใช่ว่าต้องให้บริษัทขนาดนี้ ขนาดนั้น เพราะไม่มีทางที่จะพลิกฟ้าพลิิกแผ่นดินภายในระยะสั้น กลางได้ เพราะในทุกๆ ส่วนที่เราทำ มันมีเจ้าตลาดอยู่แล้ว
ส่วนที่สอง ผมคิดว่า เรามีความระมัดระวังในการบริหารธุรกิจ เราไม่ไปทำอะไรที่มันเสี่ยงหรือเกินตัว มันทำให้เราขยายธุรกิจได้แบบนี้ตลอดทาง
สุดท้ายคิดว่า มีบุคลากรและพันธมิตรที่ดีที่เป็นกำลังสำคัญที่ทำให้บริษัทเติบโตขึ้น
ส่วนผสมต่างๆเหล่านี้ ทำให้บริษัทเติบโตมั่นคงขึ้นแข็งแรงและผ่านมาได้ แม้ว่าจะเจอกับวิกฤติหนักๆ มาหลายครั้ง ทั้งน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพ อุตสาหกรรมรถยนต์แทบเจ๊งกันหมด หนักอันที่สองคือ วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ หรือการปฏิวัติ หรือล่าสุดคือ การขาดแคลนชิ้นส่วนซิมิคแอนดัคเตอร์ (ชิป) ซึ่งกระทบต่อกระบวนการผลิตรถยนต์


อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เราเจอเหตุการณ์ในทุกๆครั้ง เราจะเห็นโอกาสเสมอ เรามองว่า ทุกวิกฤตมีโอกาส แล้วเราอยู่ในจังหวะที่จับโอกาสนั้นเข้ามาได้ ซึ่งธุรกิจใหม่ๆ หลายอันของเราเกิดขึ้นตอนวิกฤต อย่างช่วงวิกฤตโควิด-19 ทุกคนระมัดระวัง แต่ช่วงโควิด 3 ปี ผมเพิ่มเอ้าท์เลทไปไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง เพราะมองว่า ถ้าไม่สร้างช่วงโควิด ราคาจะต้องแพงกว่านี้ 30% โควิดทำให้เราควบคุมงบประมาณได้ และเมื่อโควิดจบลง เราก็พร้อมที่จะเดินหน้า ในขณะที่ทุกคนเพิ่งเริ่มจะขยับลงทุน



หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,881 วันที่ 23 - 26 เมษายน พ.ศ. 2566
วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
DonaldduckVI
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 517
ผู้ติดตาม: 1

Re: MGC

โพสต์ที่ 20

โพสต์

MGC รู้ทันก่อนลงทุนหุ้น IPO : บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน)
phpBB [video]

CREDIT REFERENCE: Money Chat Thailand YouTube
RnD-VI
Verified User
โพสต์: 5620
ผู้ติดตาม: 1

Re: MGC

โพสต์ที่ 21

โพสต์

สรุปผลการดำเนินงานของ บจ. ประจำปี (F45) (ตรวจสอบแล้ว)
หลักทรัพย์ MGC
แหล่งข่าว MGC
รายละเอียดแบบเต็ม

แบบสรุปผลการดำเนินงาน (F45)
บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน)

(หน่วย : พันบาท)
งบการเงิน
12 เดือน
ตรวจสอบ
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม
ปี 2565 2564
กำไร (ขาดทุน) 603,497 297,743
ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นข
องบริษัทใหญ่ *
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.76 0.48
ต่อหุ้น (บาท)


ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไข

หมายเหตุ

*สำหรับงบการเงินรวม

โปรดดูงบการเงินฉบับเต็มประกอบ ก่อนการตัดสินใจลงทุน

"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงิน
ฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว"

ลงลายมือชื่อ ___________________________
( เจิดนภางค์ ธรรมชวนวิริยะ )
ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชีกลุ่มบริษัทฯ
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
ภาพประจำตัวสมาชิก
IndyVI
Verified User
โพสต์: 14944
ผู้ติดตาม: 2

Re: MGC

โพสต์ที่ 22

โพสต์

สรุปผลการดำเนินงานของ บจ. ไตรมาสที่ 1 (F45) (สอบทานแล้ว)
หลักทรัพย์ MGC
แหล่งข่าว MGC
รายละเอียดแบบเต็ม

แบบสรุปผลการดำเนินงาน (F45)
บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน)

(หน่วย : พันบาท)
งบการเงิน
ไตรมาสที่ 1
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
ปี 2566 2565
กำไร (ขาดทุน) 81,672 64,328
ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ *
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.097 0.101
ต่อหุ้น (บาท)


ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไข

หมายเหตุ

*สำหรับงบการเงินรวม

โปรดดูงบการเงินฉบับเต็มประกอบ ก่อนการตัดสินใจลงทุน

"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงิน
ฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์เรียบร้อยแล้ว"

ลงลายมือชื่อ ___________________________
( นางสาวเจิดนภางค์ ธรรมชวนวิริยะ )
ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชีกลุ่มบริษัทฯ
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
Investment success doesn’t come from “buying good things,” but rather from “buying things well.
# Howard Mark #
doang
Verified User
โพสต์: 1154
ผู้ติดตาม: 1

Re: MGC

โพสต์ที่ 23

โพสต์

MMS ผุดสาขาใหม่ เจาะตลาดจับกลุ่มลูกค้า ฝั่งธนฯ-พระราม5

https://www.prachachat.net/motoring/news-1318191
โพสต์โพสต์