✴นักลงทุนเต็มเวลา = ไม่ทำงาน?✴
..............................................................
.............
เมื่อสักประมาณ 1 ปีผ่านมาแล้ว ผมเคยเขียนบทความชิ้นหนึ่ง และตั้งชื่อว่า "นักลงทุนอาชีพ : คนช่างฝัน ที่ยังไปไม่ถึงฝัน" บางตัวอักษรในเนื้อหานั้นได้กล่าวถึงเรื่องของ "แรงกดดัน 3 ทาง" นั่นก็คือ "แรงกดดันจากตลาดการเงินการลงทุน, แรงกดดันทางสังคม และสุดท้ายคือ แรงกดดันจากตนเอง" แรงกดดันเหล่านี้อาจไม่มีวันที่เราจะสามารถสลัดมันให้หลุดพ้นออกไปจากชีวิตตลอดอายุขัยของมนุษย์เลยก็เป็นไปได้ ในบทความนี้เราจะลองกลับมาใคร่ครวญถึง “แรงกดดันทางสังคม” ที่ไม่เคยจางหายไปไหนเลยตลอดเส้นทางของการเป็นนักลงทุน
................................
"แรงกดดันทางสังคม" จากสภาพแวดล้อมที่คุณจำเป็นต้องข้องเกี่ยว ทั้งมิตรสหาย บุคคลรอบตัว พ่อแม่ ลูก สามี ภรรยา ครอบครัว หรือแม้กระทั่งใครก็ตามที่คุณรักพวกเขามากที่สุด อาจไม่เคยแม้แต่จะเข้าใจ หรือพยายามที่จะเข้าใจคุณเลยแม้แต่นิดเดียวว่าชีวิตในแต่ละวันที่ผ่านไปคุณกำลังทำอะไรอยู่ เป้าหมายในชีวิตของคุณคือสิ่งใด แล้วสิ่งที่คุณทำอยู่ในทุกวันนี้มันสามารถผลักดันให้คุณเดินทางไปสู่เป้าหมายและประสบความสำเร็จได้จริงหรือไม่?
................................
▶"นักลงทุนอาชีพ" อาจหาคำอธิบายแบบศัพท์เฉพาะได้อย่างยากเย็นพอๆ กับ "ศิลปินอาชีพ" หรืออีกหลายๆ อาชีพหน้าที่การงานที่มิได้ดำรงตนอยู่ภายใต้แนวคิดกระแสหลักทางสังคม
แล้วคุณจะทำอย่างไรล่ะ? จะโทษพวกเขาที่ไม่เคยเข้าใจคุณ หรือกล่าวโทษตนเองที่ไม่เคยสื่อสารหรือปฏิบัติตัวให้คนรอบข้างเข้าใจและเชื่อใจ
................................
นักลงทุนเต็มเวลา (Full Time Investor) ส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันคือ “อาชีพ” เมื่อถูกจัดอยู่ในหมวดดังกล่าวนี้ แสดงว่าเบื้องหลังของมันต้องมี “กระบวนการทำงาน” ที่คาดหวังต่อ “ผลลัพธ์” ซึ่งจะบังเกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต คนส่วนใหญ่ที่ประกอบอาชีพอื่น หรือทำงานประจำ ผมมีความเชื่อ (ซึ่งอาจจะผิดก็ได้) ว่า เหตุที่พวกเขายังคงมุ่งมั่น “ทำงาน” อยู่ในทุกวันนี้ ล้วนตั้งอยู่บนพื้นฐานของแรงผลักดัน 3 ประการ นั่นคือ “ความหลงใหล ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองหรือสังคม สุดท้ายก็คือรายได้เพื่อการดำรงชีวิต” แล้วคุณผู้อ่านกำลังทำงานเพื่อสิ่งใด?
................................
นักลงทุนในหุ้น อาจมีความคล้ายคลึงกับการเป็น “นักวิจัย” ที่ถลำลึกไปกับกองข้อมูลมากมายมหาศาล โดยเริ่มต้นจากการศึกษา เพื่อพัฒนาและขมวดปมความคิด แนวคิด หลักการ อันส่งผลต่อการกำหนดกรอบการเรียนรู้ และ “กระบวนการในการทำงาน” เบื้องหลังกระบวนการทำงานนั้นคือ กระบวนการค้นคว้าวิจัย เรียงลำดับไปตั้งแต่การศึกษาหาความรู้ การกำหนดเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ในการกระทำบางสิ่ง การตั้งสมมติฐาน การกำหนดกรอบแนวคิด ส่งต่อไปยังการสืบค้นและเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูล การแปลผลที่ได้รับจากข้อมูล สู่ปลายทาง คือการสรุปและนำเสนอผลลัพธ์ของมันซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ที่เราได้กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น
...
ความสมบูรณ์ในงานวิจัยขึ้นอยู่กับตัวแปรมากมาย ความสมบูรณ์มิได้หมายถึงการที่สุดท้ายแล้วเราสามารถบรรลุผลลัพธ์ตามที่ได้กำหนดไว้ตั้งแต่ต้น การค้นพบสิ่งใหม่ การล้มเหลว หรือการไม่พบสิ่งใดเลยล้วนเป็นส่วนหนึ่งของข้อสรุปเชิงวิชาการ มิได้หมายความว่าคุณไม่ประสบความสำเร็จในเส้นทางของ “นักวิจัย”
................................
เมื่อคุณหรือผมจำเป็นต้องตอบคำถามธรรมดาๆ ต่อผู้คนในสังคม ประมาณที่ว่า
...
Q : “เป็นอย่างไรบ้าง? ตอนนี้ทำอะไรอยู่? ทำงานอะไร?”
A : “เป็นนักลงทุนครับ”
Q : “อ่าวแล้วไม่ทำการทำงานหรือ? ทำไมอยู่ว่างๆ ไม่เห็นทำอะไรเลย ดูสบายจัง”
A : “……………………….”
...
ภายในจิตใจก็อยากจะกุมมือผู้ถามเบาๆด้วยความอ่อนโยน แล้วพูดว่า “พอจะมีเวลาว่างสัก 10 – 20 นาทีไหมครับ นั่งลงก่อน ทำใจให้สบายๆ และปล่อยวาง ผมมีบางสิ่งมากมายอยากจะเล่าให้ฟัง” แต่สุดท้ายเมื่อเกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง ผมก็เลือกที่จะยิ้มแห้งๆ และปล่อยวางเสียเอง ตอบคำถามแบบติดตลก จากนั้นจึงปล่อยผ่านไป วิธีเช่นนี้มันสบายใจกับชีวิตมากกว่า ผมอยากมีเวลาพินิจ พิเคราะห์ กับชีวิตส่วนตัวของตนเอง มากกว่าเรื่องอื่นรอบกายที่ไม่ได้ก่อเกิดประโยชน์นักนั่นแหล่ะ คงเป็นเช่นนั้น
................................
“กับสิ่งที่เดียดฉันท์ แม้นเพียงวินาทีเดียวก็สร้างความอึดอัดใจ แต่กับสิ่งที่หลงใหลนั้นยาวนานตราบชั่วชีวิตก็คงมิเคยมากพอ”
................................
คุณผู้อ่านคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “การตั้งคำถามที่ดี สำคัญกว่าการได้รับคำตอบ” เหตุเพราะคำถามที่ดีนั้นปูทางไปสู่คำตอบอันมีคุณค่า ส่วนคำถามที่ปราศจากแก่นสารก็อาจนำพาไปสู่ความว่างเปล่าได้เช่นกัน
................................
วิถีชีวิตนักลงทุน (หุ้น) เต็มเวลา ในแต่ละวันพวกเขาจำเป็นต้องกระทำสิ่งใดบ้าง?
...
คำตอบที่ได้รับก็คงแตกต่างกันออกไปตามวิถีทางอันหลากหลายของปัจเจกบุคคล แตกต่างกันออกไปตามวิธีการเรียนรู้ แนวทาง ความเชื่อ และประสบการณ์ แตกต่างกันออกไปตามแต่ข้อจำกัดมากมายของแต่ละบุคคล ว่าแต่ว่า คำตอบของคำถามเหล่านั้นจะก่อเกิดประโยชน์ต่อคู่สนทนามากน้อยเพียงใด?
................................
อ่านหนังสือ บทความ รายงาน งานวิชาการ งานวิจัย ศึกษาประเด็นที่เกี่ยวข้องจากสื่อต่างๆ รอบด้าน
...
อบรม เข้าร่วมสัมมนา หลักสูตรการเรียนรู้ต่างๆ
...
อ่านรายงานประจำปี รับชม Opportunity day เข้าร่วมการประชุมผู้ถือหุ้น แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์กับผู้อื่น
...
ลงพื้นที่สำรวจกิจการ สังเกตการณ์ สัมผัสผลิตภัณฑ์และบริการ การพูดคุยกับผู้ปฏิบัติหน้าที่หรือผู้ใช้งานโดยตรง
...
การวิเคราะห์ทางบัญชี ตัวเลข งบการเงิน การคาดการณ์อนาคตและการประเมินมูลค่า
...
การจดบันทึก วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับ ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น สิ่งใดมีประโยชน์ สิ่งใดควรปล่อยผ่านไป
...
จากข้อมูลที่สืบค้นมาทั้งหมด เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง ผลสรุปเป็นอย่างไร มีกระบวนการได้มาซึ่งข้อสรุปนั้นอย่างไร ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจต่างๆ
...
การสรุปผล ตัดสินใจ การซื้อขายหุ้น พัฒนาองค์ความรู้ และรอคอย
...
ฟัง พูด อ่าน เขียน คิด และสังเกตการณ์ กระบวนการดังที่กล่าวมาทั้งหมดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและเบื่อหน่าย
................................
กล่าวโดยสรุปแล้ว นักลงทุนเต็มเวลา ก็คงเป็น “งานสบายๆ” หากคุณหลงใหลกับกระบวนการเหล่านี้ แต่คงเป็นงานที่ “ยาก น่าเบื่อ และไร้ประโยชน์” สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีเป้าหมายในชีวิตเฉกเช่นเดียวกันกับคุณ ต่างคนก็ต่างความคิด คงไม่สามารถมองหาความถูกต้องได้เสียทีเดียว
................................
“วันๆ ไม่เห็นทำอะไรเลย สบายจัง”
“หนึ่งวันมันไม่เพียงพอเลย สำหรับกระบวนการทำงานเหล่านี้”
...
สองประโยคดังกล่าว ช่างแตกต่างกันเสียเหลือเกิน
................................
เสี่ยยักษ์ (วิชัย วชิรพงศ์) เคยพูดไว้ว่า “สำหรับนักลงทุนเต็มเวลา คุณต้องพยายามให้มากกว่าคนอื่น ถ้านึกไม่ออก ลองเปรียบเทียบกับคนทำงานประจำก็ได้ พนักงานประจำทำงานเฉลี่ยวันละ 8 ชั่วโมง คุณต้องใช้เวลาหมกมุ่นอยู่กับกระบวนการลงทุนให้มากกว่านั้น และต้องหมกมุ่นอย่างมีประสิทธิภาพด้วยจึงจะประสบความสำเร็จ”
................................
คุณเชาว์ (เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ) เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ ‘Money Chat’ ว่า “คนรอบข้างชอบบอกว่าผมไม่ยอมทำการทำงาน ทั้งๆที่ตั้งแต่มีการลงทุนเข้ามาในชีวิต ผมรู้สึกว่าต้องทำงานหนักมากกว่าเดิมเสียอีก”
...
แล้วเราทำงานไปเพื่ออะไร?
................................
ผมทำงานเพื่อตอบสนองต่อความหลงใหล การพัฒนาตนเอง และเพื่อเงินนั่นแหล่ะ เราคงไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ สิ่งที่นอกเหนือเกินเลยไปมากกว่าความต้องการขั้นพื้นฐานเหล่านี้ก็คงเป็น “การทำเพื่อผู้อื่นและได้รับการยอมรับจากสังคม” จะมากหรือน้อยก็สุดแล้วแต่ความมุ่งมั่นและโอกาสเอื้ออำนวย นักลงทุนในตำนานผู้หนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า “ลงทุนในสิ่งที่คุณเข้าใจมันอย่างถ่องแท้” อาจจำเป็นต้องเริ่มต้นจากการเข้าใจตนเอง เข้าใจบริบทแวดล้อม เข้าใจความแตกต่างหลากหลาย ซึ่งส่งผลต่อไปยังการทำความเข้าใจผู้อื่นอย่างปราศจากอคติใดๆ
................................................................
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ
✴นักลงทุนเต็มเวลา = ไม่ทำงาน?✴
- Introverted investor
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 68
- ผู้ติดตาม: 1
✴นักลงทุนเต็มเวลา = ไม่ทำงาน?✴
โพสต์ที่ 1
Try to be : Full Time Investor, Reader, Writer, Learner & Cultural observer.
......................................
I have a passion for keeping things simple.
......................................
https://www.facebook.com/Introverted.investor
......................................
I have a passion for keeping things simple.
......................................
https://www.facebook.com/Introverted.investor