CITY มีความเสี่ยงอย่างไร ทำไม PE 4.5 เท่า
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 117
- ผู้ติดตาม: 0
CITY มีความเสี่ยงอย่างไร ทำไม PE 4.5 เท่า
โพสต์ที่ 3
ขออนุญาติ อ้างถึงความคิดเห็นของคุณ Invisible hand ครับ :D :D
ตอบกลับโดย : invisible_hand
Posts : 83
Replies : 1644 « Reply #1 เมื่อ 19/04/2006 , 00:26:06 »
สำหรับ city เป็นหุ้นเข้าใหม่ มีผลการดำเนินงานย้อนหลังให้ดูน้อยมาก ดังนั้นไม่สามารถดูความสม่ำเสมอของการทำกำไรได้ นอกจากนี้อุตสาหกรรมที่ city ทำก็ยังดีที่ไม่ได้ไปผลิตเหล็กรีดร้อนรีดเย็นอะไรกับเค้าแต่ก็ยังใช้เหลํกเป็นวัตถุดิบค่อนข้างมากดังนั้นจึงน่าจะคาดเดาได้ว่าอัตราการทำกำไรน่าจะแปรผันตามราคาเหล็กไม่มากก็น้อยครับ ดังนั้นมองไปข้างหน้า การคาดเดากำไรของ city ก็จะทำได้ลำบากพอสมควร แต่หากดูกำไร 2 ไตรมาสแรกของเค้าคูณ 2 ก็จะเห็น p/e ค่อนข้างถูกพอสมควร แต่ผมคิดว่าหากเราไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับหุ้นที่ลงทุนได้ซัก 90% ของคำถามทั้งหมด ก็ยังไม่น่าซื้อหุ้นตัวนั้นๆ แม้ว่ามันจะถูกครับ เพราะ pap ที่ทำท่อเหล็กตอน 40 บาทก็เคยมี p/e ที่ค่อนข้างต่ำอยู่เหมือนกัน ดังนั้นอะไรที่มีคำว่า " เหล็ก " อาจจะเป็นชื่อที่ไม่ค่อยดีสำหรับหุ้น ipo เท่าไหร่ครับ
http://www.bbznet.com/scripts3/view.php ... r=numtopic
ตอบกลับโดย : invisible_hand
Posts : 83
Replies : 1644 « Reply #1 เมื่อ 19/04/2006 , 00:26:06 »
สำหรับ city เป็นหุ้นเข้าใหม่ มีผลการดำเนินงานย้อนหลังให้ดูน้อยมาก ดังนั้นไม่สามารถดูความสม่ำเสมอของการทำกำไรได้ นอกจากนี้อุตสาหกรรมที่ city ทำก็ยังดีที่ไม่ได้ไปผลิตเหล็กรีดร้อนรีดเย็นอะไรกับเค้าแต่ก็ยังใช้เหลํกเป็นวัตถุดิบค่อนข้างมากดังนั้นจึงน่าจะคาดเดาได้ว่าอัตราการทำกำไรน่าจะแปรผันตามราคาเหล็กไม่มากก็น้อยครับ ดังนั้นมองไปข้างหน้า การคาดเดากำไรของ city ก็จะทำได้ลำบากพอสมควร แต่หากดูกำไร 2 ไตรมาสแรกของเค้าคูณ 2 ก็จะเห็น p/e ค่อนข้างถูกพอสมควร แต่ผมคิดว่าหากเราไม่สามารถตอบคำถามเกี่ยวกับหุ้นที่ลงทุนได้ซัก 90% ของคำถามทั้งหมด ก็ยังไม่น่าซื้อหุ้นตัวนั้นๆ แม้ว่ามันจะถูกครับ เพราะ pap ที่ทำท่อเหล็กตอน 40 บาทก็เคยมี p/e ที่ค่อนข้างต่ำอยู่เหมือนกัน ดังนั้นอะไรที่มีคำว่า " เหล็ก " อาจจะเป็นชื่อที่ไม่ค่อยดีสำหรับหุ้น ipo เท่าไหร่ครับ
http://www.bbznet.com/scripts3/view.php ... r=numtopic
-
- ผู้ติดตาม: 0
CITY มีความเสี่ยงอย่างไร ทำไม PE 4.5 เท่า
โพสต์ที่ 5
..........เหล็กมันหนักอั๊วชักจะไม่ไหว
ทนแบกไป ก็ปวดหลัง ลำบากหลาย
จึงวางเหล็ก นอนโรงบาล สบายกาย
ไว้ปวดหาย เหล็กเบาจะเอาคืน
ทนแบกไป ก็ปวดหลัง ลำบากหลาย
จึงวางเหล็ก นอนโรงบาล สบายกาย
ไว้ปวดหาย เหล็กเบาจะเอาคืน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
CITY มีความเสี่ยงอย่างไร ทำไม PE 4.5 เท่า
โพสต์ที่ 7
วัตถุดิบเป็นประมาณ 60-65% ของราคาขาย
เป็นเหล็ก อลูมิเนียม สแตนเลส และจากที่ผู้บริหารเคยพูดครับ
เป็นเหล็ก อลูมิเนียม สแตนเลส และจากที่ผู้บริหารเคยพูดครับ
และล่าสุดน่าจะเดือนนี้ครับ**ราคาเหล็กที่ผันผวนส่งผลกระทบไหม
ไม่กระทบ เพราะใช้ระบบแบบ cost plus ทำให้เราไม่ต้องแบกรับต้นทุนและแปรผันตามภาวะซึ่งบริษัทไม่มีนโยบายขายเพื่อเก็งกำไรราคาเหล็ก
รู้ว่าไม่ใช่อาชีพ บริษัทไม่ไช่เป็นบริษัทที่ซื้อมาขายไป แต่ใช้เหล็กเป็นวัตถุดิบซึ่งจะขายโดยตรงให้กับทุกอุตสหกรรม 20 อุตสาหกรรม
ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มซึ่งจะช่วยให้เวลาเหล็กผันผวนก็จะไม่กระทบ โดยเวลาที่เหล็กขึ้นลงนั้นไม่ได้กระทบต่อผลประกอบการ
เพราะผลิตภัณฑ์ของเราแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น
ต้องดูว่าเป็นราคาคุยหรือเปล่าครับ ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 สิ้นสุดเดือนเมษายน จะออกไม่เกิน 15 วันจากนี้ คงไม่ซ้ำราย trt อีกนะครับ :lol:Update/บิ๊ก CITY ระบุไม่ปรับเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% แม้ราคาเหล็กพุ่ง เหตุปรับราคา
สินค้าได้ตามต้นทุน
บิ๊ก CITY ระบุไม่ปรับเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% แม้ราคาเหล็กพุ่ง เหตุปรับ
ราคาสินค้าได้ตามต้นทุน เผยหลังเดินเครื่องกำลังการผลิตเพิ่มอีก 9 พันตันได้ใน Q3/49
ดันยอดขายพุ่ง ส่วนปัญหาการเมืองยังไม่กระทบธุรกิจ
นายคมกริช พงศ์รัตนเดชาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซิตี้ สตีล จำกัด
(มหาชน) หรือ CITY เปิดเผยกับ eFinanceThai.com ว่า จากสถานการณ์ราคาเหล็กในตลาด
โลกที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นนั้น ไม่ได้ส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัท แม้ว่าจะใช้เหล็กเป็นต้นทุน
ในการผลิต เนื่องจากบริษัทสามารถปรับราคาสินค้าได้ตามราคาเหล็กที่ปรับเพิ่มขึ้น ดังนั้น
ทางบริษัทจึงยังมีความมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้ยังมีกาขยายตัวอยู่ในระดับ 10-15 % หรือมีรายได้
ประมาณ 550 ล้านบาทได้
'ราคาเหล็กขึ้นหรือลงไม่มีผล เพราะเราใช้ต้นทุนเท่าไหร่ ก็เอาต้นทุนตั้งล้วค่อยบวก
ค่าการดำเนินงานเข้าไป เราจึงยังคาดว่ารายได้ในปีนี้ยังเติบโตได้ 10-15% ซึ่งเป็นการใช้กำลัง
การผลิตที่เต็มกำลัง ที่อยู่ที่ 1.6 หมื่นตันต่อปี' นายคมกริช กล่าว
นายคมกริช กล่าวอีกว่า บริษัทได้มีแผนขยายกำลังการผลิตในบริษัทย่อยเพิ่มขึ้นอีก 9
พันตันต่อปี ซึ่งจะสามารถเดินเครื่องผลิตได้ในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.49 นั้นจะส่งผลให้ยอดขายใน
ช่วงไตรมาสแรกปี 2550 (งบการเงินสิ้นสุด 30 ก.ย.50) ปรับตัวดีขึ้น
โดยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นนั้น ยังมีตลาดที่รองรับอยู่อีกมาก อีกทั้งบริษัทเป็นผู้ผลิต
สินค้าตามคำสั่งซื้อ จึงทำให้จะสามารถรู้ปริมาณความต้องการสินค้าล่วงหน้าจากการที่บริษัทเป็น
ผู้ออกแบบสินค้าให้
ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นนั้น ยังไม่ได้ส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ
โดยรวม เพราะฉะนั้นจึงยังไม่ได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท แต่หากเศรษฐกิจโดยรวมได้รับ
ผลกระทบ ก็คงกระทบต่อบริษัทด้วย
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
CITY มีความเสี่ยงอย่างไร ทำไม PE 4.5 เท่า
โพสต์ที่ 8
ตัวนี้เพิ่งเข้าตลาด และกำไรก็เพิ่งจะกระโดด 1-2 ปีนี้ ผู้บริหารให้เหตุผลไว้หลายประการ อ่านได้จากหนังสือชี้ชวนครับ แต่ประเด็นนี้ก็ทำให้หลายๆคนไม่แน่ใจ รวมผมด้วย
ที่จริงหุ้นใหม่หลายตัวให้ผลขาดทุนเช่น pap trt etc...
แต่หุ้นเพิ่ง ipo อีกหลายตัวก็ให้กำไรนะครับ เช่น uec irp mcs etc..
ที่จริงหุ้นใหม่หลายตัวให้ผลขาดทุนเช่น pap trt etc...
แต่หุ้นเพิ่ง ipo อีกหลายตัวก็ให้กำไรนะครับ เช่น uec irp mcs etc..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
CITY มีความเสี่ยงอย่างไร ทำไม PE 4.5 เท่า
โพสต์ที่ 9
รู้สึกบริษัทนี้จะชอบรับพนักงานหญิงนะ ดูจากเวป
ผมว่านะ ไอ้เรื่องCost plus นี่
ใครๆก็คุยได้ทั้งนั้นแหละ โดยหลักการคำนวณต้นทุน มันก็ย่อมเป็นเช่นนั้น
ส่วนทำได้จริงไม่จริงขนาดไหนคงต้องตามดูกันต่อไป
สินค้าของcity ผมว่าก็คงไปเรื่อยๆนะครับ ก็ไม่เห็นว่าจะมีจุดเด่นอะไร
เป็นสินค้าที่ใช้ในโรงงาน การจัดเก็บ การขนย้าย อะไรแนวนี้ สินค้าส่วนมากผู้ซื้อสามารถทำได้เองด้วย ส่วนพวกชั้นวางของก็ไม่รู้จะขยายไปตามร้านสดวกซื้อ โลตัส บิ๊กซีรึเปล่า เพราะคู่แข่งก็มีเยอะเหมือนกัน
สินค้าของsiam ผมก็คงคาดหวังกับสินค้าบ้านสำเร็จรูปว่าจะไปได้ไกลขนาดไหน นอกนั้นก็พวกเฟอร์นิเจอร์ ถ้าจะว่าไปก็ยี่ห้อ ดีกว่าcity no name
งานที่รับทำเป็นพวกโครงการก็มีนะครับ
แม้ว่าจะเหล็กเหมือนกัน แต่ก็เปรียบเทียบกันยากอยู่ สินค้าก็คนละแนว
ผมก็วิเคราะห์ไม่ค่อยเก่งนะ เคาะเก่งอย่างเดียว แค่นี้แล้วกัน หวังว่าคงเป็นประโยชน์
ผมว่านะ ไอ้เรื่องCost plus นี่
ใครๆก็คุยได้ทั้งนั้นแหละ โดยหลักการคำนวณต้นทุน มันก็ย่อมเป็นเช่นนั้น
ส่วนทำได้จริงไม่จริงขนาดไหนคงต้องตามดูกันต่อไป
สินค้าของcity ผมว่าก็คงไปเรื่อยๆนะครับ ก็ไม่เห็นว่าจะมีจุดเด่นอะไร
เป็นสินค้าที่ใช้ในโรงงาน การจัดเก็บ การขนย้าย อะไรแนวนี้ สินค้าส่วนมากผู้ซื้อสามารถทำได้เองด้วย ส่วนพวกชั้นวางของก็ไม่รู้จะขยายไปตามร้านสดวกซื้อ โลตัส บิ๊กซีรึเปล่า เพราะคู่แข่งก็มีเยอะเหมือนกัน
สินค้าของsiam ผมก็คงคาดหวังกับสินค้าบ้านสำเร็จรูปว่าจะไปได้ไกลขนาดไหน นอกนั้นก็พวกเฟอร์นิเจอร์ ถ้าจะว่าไปก็ยี่ห้อ ดีกว่าcity no name
งานที่รับทำเป็นพวกโครงการก็มีนะครับ
แม้ว่าจะเหล็กเหมือนกัน แต่ก็เปรียบเทียบกันยากอยู่ สินค้าก็คนละแนว
ผมก็วิเคราะห์ไม่ค่อยเก่งนะ เคาะเก่งอย่างเดียว แค่นี้แล้วกัน หวังว่าคงเป็นประโยชน์
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
-
- Verified User
- โพสต์: 19
- ผู้ติดตาม: 0
CITY มีความเสี่ยงอย่างไร ทำไม PE 4.5 เท่า
โพสต์ที่ 10
ผมอยากจะมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ city นะครับหวังว่าคงจะพอมีประโยชน์ครับ
ในปัจจุบันโรงงานทั้งสองโรงงานของ city ดำเนินงานที่เกิน 100% ของกำลังการผลิต (100% หมายถืงทำงาน 8 ชมต่อวัน 6วันในหนึ่งอาทิตย์) เพราะมีการจ่าย ot อยู่บ้าง ดังนั้นในปัจจุบัน ทาง city จะเป็นผู้เลือกที่จะเข้าไปจับลูกค้ารายใด ซึ่งประมาณ 50% จะเป็นลูกค้าทางอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งสินค้าที่ทำให้จะเป็นพวก rack ต่างๆที่ใช้ในการส่ง part ของชิ้นส่วนรถยนต์จาก 1-teir , 2-teir supplier ไปยังผู้ผลิตรถยนต์เช่น toyota ซึ่งการออกแบบ rack เหล่านี้จะต้องมีการออกแบบให้มีการยึดจับที่เหมาะสมกับชิ้นงานแต่ละแบบเพื่อไม่ให้มีการขูดขีดจากการขนส่งหรือเคลื่อนย้าย ซึ่ง rack เหล่านี้จะต้องมีการออกแบบใหม่ทุกๆครั้งที่มีการออก model รถใหม่หรือมี minor change ของรุ่นรถ ดังนั้นสินค้าประเภทนี้ของ city ถือว่าใช้แล้วหมดไปตามกาลเวลาของรุ่นรถ และอาจมีการสั่งเพิ่มเติมเมื่อเกิดการเสียหายจากการใช้งาน rack อีกประเภทหนึ่งที่มีการใช้มากคือ rack ที่ส่งให้ทางมิชชาลิน เพื่อใช้บรรจุยางรถเพื่อส่งออก ซึ่งส่วนใหญ่ส่งออกไปแล้วก็จะไม่มีการส่ง rack คืนเพราะคงไม่คุ้มค่าขนส่ง ซึ่งยอดการสั่งซื้อของทางมิชชาลินใน ไตรมาส 1 ก็ประมาณ 40% ของที่สั่งซื้อในปีก่อนแล้ว ดังนั้นสินค้าทางด้านยานยนต์ของcity ในความเห็นของผมค่อนข้างมั่นคงไปกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ
ส่วนสินค้าเกี่ยวกับ logistic ของcity ผมก็คิดว่าน่าจะยังไปได้ดีอีกอย่างน้อย 2ปี เนื่องจากเมือสนามบินใหม่เปิด ประเทศไทยน่าจะพัฒนาไปเป็น logistic hub ของภูมิภาคนี้ได้ (แม้แต่ ticon ยังจะลงทุนสร้าง logistic park เลย) ซึ่งสินค้าของ city เป็นผู้นำทั้งทางด้านคูณภาพ และประสิทธิภาพในการผลิต
city จะไม่มี inventory ของสินค้าสำเร็จรูปครับ แต่ inventory จะเป็นวัตถุดิบคือเหล็กเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะเขาจะขายของเป็น project เมื่อมีการตกลงกันแล้วก็จะมีการสั่งซื้อวัตถุดิบมา 100% เพื่อไม่ให้มีความเสี่ยงจากการผันผวนทางด้านวัตถุดิบ นั่นเป็นเหตุผลของคำว่า cost plus ครับ เพราะเมื่อมีการตกลงราคาขายกันได้ก็คือการตกลงกันได้ว่าต้นทุนเท่าไรบวกกำไรเข้าไปเท่าไร
ส่วนการบริหารเศษเหล็กของ city ทำได้ดีมากแทนที่จะขายเป็นเศษเหล็กกิโลละ 5บาท เขาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ซึ่งมีมูลค่าเพิ่ม 5-10 เท่า ในตอนแรกก็ไม่ค่อยอยากเชื่อหรอกครับแต่เมื่อได้ฟังคำอธิบายแล้วก็ไม่ค่อยสงสัยเท่าไร
ผมเห็นข้อดีของ city หลายอย่างคงไม่สามารถบรรยายหมดได้ในคราวเดียวถ้ามีอะไรก็ลองยกประเด็นกันมานะครับ ส่วนของสงสัยก็ยังมีอยู่พอสมควรเช่น ทีมบริหารเป็นอย่างไรกันบาง การนิยมใช้เครื่องไม่เครื่องมือที่มีคุณภาพสูงแต่มีราคาที่แพงกว่าอาจเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าความคิดนี้ถูนำไปใช้กับสิ่อื่นๆในบริษัทบางอย่างอาจเป็นเรื่องไม่สมควร เช่น รถของบริษัทเป็นต้น
ในปัจจุบันโรงงานทั้งสองโรงงานของ city ดำเนินงานที่เกิน 100% ของกำลังการผลิต (100% หมายถืงทำงาน 8 ชมต่อวัน 6วันในหนึ่งอาทิตย์) เพราะมีการจ่าย ot อยู่บ้าง ดังนั้นในปัจจุบัน ทาง city จะเป็นผู้เลือกที่จะเข้าไปจับลูกค้ารายใด ซึ่งประมาณ 50% จะเป็นลูกค้าทางอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งสินค้าที่ทำให้จะเป็นพวก rack ต่างๆที่ใช้ในการส่ง part ของชิ้นส่วนรถยนต์จาก 1-teir , 2-teir supplier ไปยังผู้ผลิตรถยนต์เช่น toyota ซึ่งการออกแบบ rack เหล่านี้จะต้องมีการออกแบบให้มีการยึดจับที่เหมาะสมกับชิ้นงานแต่ละแบบเพื่อไม่ให้มีการขูดขีดจากการขนส่งหรือเคลื่อนย้าย ซึ่ง rack เหล่านี้จะต้องมีการออกแบบใหม่ทุกๆครั้งที่มีการออก model รถใหม่หรือมี minor change ของรุ่นรถ ดังนั้นสินค้าประเภทนี้ของ city ถือว่าใช้แล้วหมดไปตามกาลเวลาของรุ่นรถ และอาจมีการสั่งเพิ่มเติมเมื่อเกิดการเสียหายจากการใช้งาน rack อีกประเภทหนึ่งที่มีการใช้มากคือ rack ที่ส่งให้ทางมิชชาลิน เพื่อใช้บรรจุยางรถเพื่อส่งออก ซึ่งส่วนใหญ่ส่งออกไปแล้วก็จะไม่มีการส่ง rack คืนเพราะคงไม่คุ้มค่าขนส่ง ซึ่งยอดการสั่งซื้อของทางมิชชาลินใน ไตรมาส 1 ก็ประมาณ 40% ของที่สั่งซื้อในปีก่อนแล้ว ดังนั้นสินค้าทางด้านยานยนต์ของcity ในความเห็นของผมค่อนข้างมั่นคงไปกับอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศ
ส่วนสินค้าเกี่ยวกับ logistic ของcity ผมก็คิดว่าน่าจะยังไปได้ดีอีกอย่างน้อย 2ปี เนื่องจากเมือสนามบินใหม่เปิด ประเทศไทยน่าจะพัฒนาไปเป็น logistic hub ของภูมิภาคนี้ได้ (แม้แต่ ticon ยังจะลงทุนสร้าง logistic park เลย) ซึ่งสินค้าของ city เป็นผู้นำทั้งทางด้านคูณภาพ และประสิทธิภาพในการผลิต
city จะไม่มี inventory ของสินค้าสำเร็จรูปครับ แต่ inventory จะเป็นวัตถุดิบคือเหล็กเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะเขาจะขายของเป็น project เมื่อมีการตกลงกันแล้วก็จะมีการสั่งซื้อวัตถุดิบมา 100% เพื่อไม่ให้มีความเสี่ยงจากการผันผวนทางด้านวัตถุดิบ นั่นเป็นเหตุผลของคำว่า cost plus ครับ เพราะเมื่อมีการตกลงราคาขายกันได้ก็คือการตกลงกันได้ว่าต้นทุนเท่าไรบวกกำไรเข้าไปเท่าไร
ส่วนการบริหารเศษเหล็กของ city ทำได้ดีมากแทนที่จะขายเป็นเศษเหล็กกิโลละ 5บาท เขาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ซึ่งมีมูลค่าเพิ่ม 5-10 เท่า ในตอนแรกก็ไม่ค่อยอยากเชื่อหรอกครับแต่เมื่อได้ฟังคำอธิบายแล้วก็ไม่ค่อยสงสัยเท่าไร
ผมเห็นข้อดีของ city หลายอย่างคงไม่สามารถบรรยายหมดได้ในคราวเดียวถ้ามีอะไรก็ลองยกประเด็นกันมานะครับ ส่วนของสงสัยก็ยังมีอยู่พอสมควรเช่น ทีมบริหารเป็นอย่างไรกันบาง การนิยมใช้เครื่องไม่เครื่องมือที่มีคุณภาพสูงแต่มีราคาที่แพงกว่าอาจเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ถ้าความคิดนี้ถูนำไปใช้กับสิ่อื่นๆในบริษัทบางอย่างอาจเป็นเรื่องไม่สมควร เช่น รถของบริษัทเป็นต้น
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
CITY มีความเสี่ยงอย่างไร ทำไม PE 4.5 เท่า
โพสต์ที่ 11
" การบริหารเศษเหล็กของ city ทำได้ดีมากแทนที่จะขายเป็นเศษเหล็กกิโลละ 5บาท เขาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ซึ่งมีมูลค่าเพิ่ม 5-10 เท่า ในตอนแรกก็ไม่ค่อยอยากเชื่อหรอกครับแต่เมื่อได้ฟังคำอธิบายแล้วก็ไม่ค่อยสงสัยเท่าไร "
เขาอธิบายว่าเอาไปทําอะไรหรือครับ ถึงได้มูลค่าเพิ่ม 5-10 เท่า .............
เขาอธิบายว่าเอาไปทําอะไรหรือครับ ถึงได้มูลค่าเพิ่ม 5-10 เท่า .............
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
CITY มีความเสี่ยงอย่างไร ทำไม PE 4.5 เท่า
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณครับคุณ koi-bito
ไม่ใช่เพราะมาพูดข้อดีนะครับ แต่ขอบคุณที่นำข้อมูลเชิงลึกที่นักลงทุนทั่วไปยังไม่รับรู้ครับมาเล่าให้ฟังครับ ถ้าเป็นไปได้ขอถามคำถามเดียวครับ
คือมาร์จินที่สูงๆมากตอนนี้ จะดึงดูดคู่แข่งให้เข้ามาและมาร์จินอาจจะลดลงไหมครับ บริษัทมีอะไรที่เป็นจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้าไม่ซื้อจากคู่แข่งครับ
ไม่ใช่เพราะมาพูดข้อดีนะครับ แต่ขอบคุณที่นำข้อมูลเชิงลึกที่นักลงทุนทั่วไปยังไม่รับรู้ครับมาเล่าให้ฟังครับ ถ้าเป็นไปได้ขอถามคำถามเดียวครับ
คือมาร์จินที่สูงๆมากตอนนี้ จะดึงดูดคู่แข่งให้เข้ามาและมาร์จินอาจจะลดลงไหมครับ บริษัทมีอะไรที่เป็นจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้าไม่ซื้อจากคู่แข่งครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 19
- ผู้ติดตาม: 0
CITY มีความเสี่ยงอย่างไร ทำไม PE 4.5 เท่า
โพสต์ที่ 13
เศษเหล็กเอาไปทำด้านข้างของกะบะสำหรับโรงงานที่ต้องการลดcost โดยไม่ care รูปแบบที่เหมือนกันของขอบกะบะเอาแค่กันของหล่นได้ก็พอ ยกตัวอย่างลูกค้าก็คือ ไทยซัมมิท อีกตัวอย่างจะเป็นการขายให้พวกบริษัทก่อสร้างเช่น itd ไปประกอบเป็นโครงสร้างการผูกเหล็ก
ส่วน margin ที่สูงนั้นเกิดมาดังนี้ครับ
เมื่อหลายปีก่อนทาง city เห็นว่าอุตสาหกรรมยานยนต์น่าสนใจจึงพยายามไปติดต่ออยู่นานจนทางผู้ผลิตมาตรวจดูโรงงานเห็นว่าได้มาตราฐาน city เลยได้โอกาสเสนอราคา โดยเสนอราคาต่ำกว่าคนอื่นที่ขายให้อยู่แล้วถึง 30% เมื่อเป็นที่ยอมรับ และเมื่อมีmodel change ก็ได้มีการปรับราคาขึ้นมาแต่ก็ยังถูกกว่าผู้อื่นอยู่ดีครับ ดังนั้นการที่ margin ดีผมคิดว่ามาจากสาเหตุดังนี้ครับ
scale ใหญ่กว่าผู้อื่น มีฐานะการเงินดีสามารถจ่ายสด 15 วันได้เลยได้ส่วนลดเพิ่ม ประมาณ 3-5%
มีการจัดการด้านการสูญเสียที่ดี เพราะเป็นเจ้าแรกที่ใช้ computer ในการออกแบบการวางชิ้นงาน และมีการจัดการกับเศษเหล็กที่ดีเพราะมีลูกค้าหลากหลาย และมีทีมการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถ (ที่น่าเป็นห่วงคือได้ยินมาจาก ceo แต่ยังไม่มีโอกาสพบทีมงานครับ)
ลูกค้าที่city เลือกมักจะเลือกลูกค้าที่ care ด้านคุณภาพ คุณภาพการบริการและการตรงต่อเวลามากกว่าด้านราคาครับ
เมือพิจารณาคู่แข่งของ city จะเห็นว่าเดิมที่มีผู้นำเขา 2 ราย แต่ปัจจุบันก็เหลือแค่รายเดียว ส่วนคู่แข่งในประเทศเบอร์รองจาก city คือ โลหะประทีปนั้นเกิดก่อน city เป็น 10ปี ครับแต่ก็ถูก city แซง ผมคิดว่าเป็นเพราะนโยบายการบริหาร และการหาลูกค้าแตกต่างกันครับ เหมือนกับ it city เทียบกับ data it ครับ
ดังนั้น player อื่นอาจเกิดขึ้นได้แต่ scale และความเชี่ยวชาญอาจตามกันได้ยากแล้วครับ
หลังจาก city เป็นบริษัทมหาชนการยอมรับจาก suppliers ต่างชาติก็ดีขึ้นเดิ่มทีเคยต้องเปิด lc แต่ปัจจุบัน ใช้ tt หลังจากรับของ 15 วัน
ps ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากการพูดคุยกับ ceo นะครับ เวลาคงจะเป็นข้อพิสูจน์ว่า ceo ผู้นี้จะเชื่อถือได้แค่ไหนครับ แต่โดยความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าเป็นคนที่ใช้ได้และน่าคบที่เดียวครับ
ส่วน margin ที่สูงนั้นเกิดมาดังนี้ครับ
เมื่อหลายปีก่อนทาง city เห็นว่าอุตสาหกรรมยานยนต์น่าสนใจจึงพยายามไปติดต่ออยู่นานจนทางผู้ผลิตมาตรวจดูโรงงานเห็นว่าได้มาตราฐาน city เลยได้โอกาสเสนอราคา โดยเสนอราคาต่ำกว่าคนอื่นที่ขายให้อยู่แล้วถึง 30% เมื่อเป็นที่ยอมรับ และเมื่อมีmodel change ก็ได้มีการปรับราคาขึ้นมาแต่ก็ยังถูกกว่าผู้อื่นอยู่ดีครับ ดังนั้นการที่ margin ดีผมคิดว่ามาจากสาเหตุดังนี้ครับ
scale ใหญ่กว่าผู้อื่น มีฐานะการเงินดีสามารถจ่ายสด 15 วันได้เลยได้ส่วนลดเพิ่ม ประมาณ 3-5%
มีการจัดการด้านการสูญเสียที่ดี เพราะเป็นเจ้าแรกที่ใช้ computer ในการออกแบบการวางชิ้นงาน และมีการจัดการกับเศษเหล็กที่ดีเพราะมีลูกค้าหลากหลาย และมีทีมการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถ (ที่น่าเป็นห่วงคือได้ยินมาจาก ceo แต่ยังไม่มีโอกาสพบทีมงานครับ)
ลูกค้าที่city เลือกมักจะเลือกลูกค้าที่ care ด้านคุณภาพ คุณภาพการบริการและการตรงต่อเวลามากกว่าด้านราคาครับ
เมือพิจารณาคู่แข่งของ city จะเห็นว่าเดิมที่มีผู้นำเขา 2 ราย แต่ปัจจุบันก็เหลือแค่รายเดียว ส่วนคู่แข่งในประเทศเบอร์รองจาก city คือ โลหะประทีปนั้นเกิดก่อน city เป็น 10ปี ครับแต่ก็ถูก city แซง ผมคิดว่าเป็นเพราะนโยบายการบริหาร และการหาลูกค้าแตกต่างกันครับ เหมือนกับ it city เทียบกับ data it ครับ
ดังนั้น player อื่นอาจเกิดขึ้นได้แต่ scale และความเชี่ยวชาญอาจตามกันได้ยากแล้วครับ
หลังจาก city เป็นบริษัทมหาชนการยอมรับจาก suppliers ต่างชาติก็ดีขึ้นเดิ่มทีเคยต้องเปิด lc แต่ปัจจุบัน ใช้ tt หลังจากรับของ 15 วัน
ps ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากการพูดคุยกับ ceo นะครับ เวลาคงจะเป็นข้อพิสูจน์ว่า ceo ผู้นี้จะเชื่อถือได้แค่ไหนครับ แต่โดยความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าเป็นคนที่ใช้ได้และน่าคบที่เดียวครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
CITY มีความเสี่ยงอย่างไร ทำไม PE 4.5 เท่า
โพสต์ที่ 15
วันนี้ผลประกอบการออกแล้ว ไม่มีอะไร surprise ครับหลักทรัพย์ CITY
หัวข้อข่าว สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่3(F45-3)
วันที่/เวลา 14 มิ.ย. 2549 17:32:43
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่3(F45-3)
บริษัท ซิตี้ สตีล จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
ปี 2549 2548 2549 2548
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 28,494 29,110 106,903 101,115
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.10 0.21 0.55 0.72
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต
ยอดขายลดลง 10% แต่มาร์จินสุทธิก็ยังเหมือนเดิมประมาณ 28%
มีเงินสดรวมเงิน ipo 300 ล้าน มีหนี้ทั้งบริษัท 36 ล้าน
ตัวนี้ต้องระวังเรื่องมาร์จินที่สูงมากเกินไปครับ รวมถึงความผันผวนของยอดขาย
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
CITY มีความเสี่ยงอย่างไร ทำไม PE 4.5 เท่า
โพสต์ที่ 21
วันนี้ผลประกอบการออกแล้ว
เข้าใจว่าไตรมาสสุดท้าย กำไรลดลงประมาณ 50%
แต่ที่แปลกใจคือประกาศปันผลแค่ 16 สตางค์
จากกำไร 42 สตางค์หรือ 38%
ทั้งที่บริษัทมีเงินถึง 300 ล้านหรือ 1 บ/หุ้น
มีหนี้ทั้งหมดแค่ 27 ล้าน
จะอ้างว่าใช้ขยายกิจการก็คงไม่เท่าไหร่
มิน่าราคาหุ้นลงน่าดู นักลงทุนคงผิดหวังเรื่องปันผลครับ
เข้าใจว่าไตรมาสสุดท้าย กำไรลดลงประมาณ 50%
แต่ที่แปลกใจคือประกาศปันผลแค่ 16 สตางค์
จากกำไร 42 สตางค์หรือ 38%
ทั้งที่บริษัทมีเงินถึง 300 ล้านหรือ 1 บ/หุ้น
มีหนี้ทั้งหมดแค่ 27 ล้าน
จะอ้างว่าใช้ขยายกิจการก็คงไม่เท่าไหร่
มิน่าราคาหุ้นลงน่าดู นักลงทุนคงผิดหวังเรื่องปันผลครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว