โค้ด: เลือกทั้งหมด
1. วัน เดือน ปี ที่เกิดรายการ : ภายในปี 2549 และภายหลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับ
หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์อนุญาตให้ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เสนอขายหุ้น
กับประชาชน
2 คู่กรณีที่เกี่ยวข้อง:
ผู้ซื้อ : ประชาชนทั่วไป
ผู้ขาย : บริษัท ยูไนเต็ด คอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ("UCOM")
3 ลักษณะโดยทั่วไปของรายการ
บริษัทขายหุ้นสามัญที่ถืออยู่ในบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ("DTAC") ในจำนวนไม่
เกิน 28,000,000 หุ้น คิดเป็นประมาณร้อยละ 6.11 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ DTAC ในปัจจุบัน
หากใช้ราคาหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ของ DTAC เฉลี่ย 5 วันทำการก่อนวันที่คณะ
กรรมการมีมติในเสนอขายหุ้น DTAC ในครั้งนี้ มาใช้ในการคำนวณแล้ว จะมีมูลค่าประมาณ 4,199 ล้านบาท
โดยจะทำการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปพร้อมกับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก
(IPO) ของ DTAC ที่คาดว่าจะดำเนินการภายในปี 2549
4 รายละเอียดของสินทรัพย์ที่จะจำหน่าย
4.1 ชื่อหลักทรัพย์ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ("DTAC")
4.2 ลักษณะการดำเนินธุรกิจ ดำเนินธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบความถี่ย่าน 800
เมกะเฮิรตซ์ และย่าน 1800 เมกะเฮิรตซ์
4.3 ทุนจดทะเบียน 5,114,161,260 บาท ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2549
โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท
4.4 ทุนชำระแล้ว 4,580,161,260 บาท ณ วันที่ 17 สิงหาคม 2549
4.5 จำนวนหุ้นที่ขาย ไม่เกิน 28,000,000 หุ้น คิดเป็นประมาณร้อยละ 6.11 ของหุ้นที่ออก
จำหน่ายแล้ว
4.6 ราคาต่อหุ้นที่ขายราคาที่จะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (ราคา IPO)
4.7 สัดส่วนของหุ้นที่ถือก่อนการขาย ประมาณร้อยละ 43.13 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วในปัจจุบันของ
DTAC
4.8 สัดส่วนของหุ้นที่ถือหลังการขาย ประมาณร้อยละ 37.02 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วก่อนการ
เสนอภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรกของ DTAC หรือประมาณร้อยละ 35.74
ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้
4.9 สรุปฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของ DTAC (สำหรับงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31
ธันวาคม 2547 และ 2548 ที่ผ่านตรวจสอบแล้ว และงบการเงินสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน
2549 ที่ผ่านการสอบทานแล้ว)
หน่วย ล้านบาท 2547 2548 6 เดือน 2549
สินทรัพย์รวม 83,771 87,049 92,074
หนี้สินรวม 50,021 50,530 53,122
ส่วนของผู้ถือหุ้น 33,751 39,519 38,952
รายได้รวม 38,943 43,198 23,854
ต้นทุนรวม 23,284 26,544 14,614
กำไรขั้นต้น 15,658 16,653 9,240
ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 6,820 7,043 4,072
กำไรสุทธิ 4,480 4,611 2,433
มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น (บาท) 71.14 76.98 82.11
กำไรสุทธิต่อหุ้น(บาท) 9.44 9.72 5.13
4.10 ปัจจุบัน DTAC เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์
5.มูลค่าของสินทรัพย์ที่ซื้อมาหรือจำหน่ายไป:
มูลค่าของสินทรัพย์สุทธิที่จะจำหน่ายในครั้งนี้ตามวิธีส่วนได้เสีย (Equity Method) เท่ากับ 2,143 ล้านบาท
ทั้งนี้มูลค่าของสินทรัพย์ที่จำหน่ายไปดังกล่าวเป็นมูลค่าตามงบการเงินที่ผ่านการสอบทานโดยผู้สอบบัญชีของบริษัท
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2549 ทั้งนี้ในการคำนวณหามูลค่าของสินทรัพย์สุทธิที่จะจำหน่ายในครั้งนี้โดยใช้ราคาหุ้นที่
ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ของ DTAC เฉลี่ย 5 วันทำการก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติใน
เสนอขายหุ้น DTAC ในครั้งนี้ จะมีมูลค่าประมาณ 4,199 ล้านบาท
6.จำนวนกำไรสุทธิหลังภาษีและหลังรายการพิเศษที่เป็นส่วนของสินทรัพย์ที่เข้าซื้อหรือจำหน่ายไปสำหรับ 2 ปี
การเงินก่อนเกิดรายการตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
กำไรสุทธิ (ล้านบาท) 2547 2548 6 เดือน ปี 2549
DTAC 26.44 27.21 14.36
7.มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน โดยอธิบายด้วยว่าจะชำระอย่างไร รวมทั้งเงื่อนไขของข้อตกลงต่างๆ เกี่ยวกับ
การจ่ายเงินหรือการชำระเป็นงวดๆ
มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนเท่ากับจำนวนหุ้นที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไป (ไม่เกิน 28,000,000 หุ้น) คูณด้วย
ราคาต่อหุ้นที่เสนอขายซึ่งจะทำการกำหนดในอนาคต อย่างไรก็ดี หากใช้ราคาหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
สิงคโปร์ของ DTAC เฉลี่ย 5 วันทำการก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติในเสนอขายหุ้น DTAC ในครั้งนี้ ซึ่งมีราคา
ประมาณ 149.96 บาทต่อหุ้น ดังนั้น จะมีมูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนประมาณ 4,199 ล้านบาท โดยบริษัทจะ
ได้รับการชำระเงินภายในประมาณ 3 วันทำการภายหลังจากวันที่ปิดการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้บริษัทจะมีกำไรจากการขายเงินลงทุนในครั้งนี้ประมาณ 3,919 ล้านบาท โดยบริษัทมีผลขาดทุนสะสม
ประมาณ 3,600 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2549 ดังนั้นบริษัทคาดว่าจะมีภาระภาษีที่ต้องชำระประมาณ
96 ล้านบาท
ค.เกณฑ์ที่ใช้การกำหนดมูลค่าสิ่งตอบแทน
หากใช้ราคาหุ้นที่ซื้อขายของ DTAC เฉลี่ย 5 วันทำการก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติในเสนอขายหุ้น DTACเป็น
เกณฑ์ที่ใช้การกำหนดมูลค่าสิ่งตอบแทน จะมีราคาประมาณ 149.96 บาทต่อหุ้น อย่างไรก็ดี ราคาเสนอขายหุ้น
สามัญที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จะได้จากการทำ Bookbuilding ซึ่งเป็นวิธีการสำรวจ
ปริมาณความต้องการซื้อหุ้นของนักลงทุนสถาบันภายในประเทศในแต่ละระดับราคาเสนอขาย โดยการตั้งช่วง
ราคา (Price Range) ในระดับต่างๆ กัน แล้วเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันแจ้งราคาและจำนวนหุ้นที่
ประสงค์จะซื้อมายังผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ทั้งนี้ในการตั้งช่วงราคา (Price
Range) ดังกล่าวจะอ้างอิงกับราคาหุ้นของ DTAC ซึ่งทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศสิงคโปร์ใน
ช่วงเวลาที่จะทำการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO)
เมื่อบริษัทได้คำนวณขนาดรายการที่กำหนดตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้วมีขนาดรายการสูง
สุด เท่ากับร้อยละ 27.06 ซึ่งจัดเป็นรายการประเภทที่ 2 โดยบริษัทต้องจัดทำรายงานและเปิดเผยรายการต่อ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทันที โดยมีสารสนเทศอย่างน้อยตามบัญชี 1 ตามประกาศของตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทย และบริษัทจะต้องจัดส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นภายใน 21 วัน นับแต่วันที่เปิดเผยรายการต่อ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีสารสนเทศตามประกาศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย
9 ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทจดทะเบียนจากผลของรายการนั้น
บริษัทคาดว่าจะได้รับเงินจากการขายหุ้นสามัญของ DTAC ในครั้งนี้ประมาณ 4,199 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัท
สามารถนำเงินที่ได้ไปทำการชำระคืนเงินกู้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท นอกจากนี้ ยังเป็นการใช้
ประโยชน์จากผลขาดทุนสะสมทางภาษีเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 3,600 ล้านบาท และยังทำให้ภาระดอกเบี้ย
จ่ายของบริษัทลดลง
10. ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการตกลงเข้าทำรายการ
เห็นชอบในการดำเนินการ ซึ่งบริษัทจะได้รับประโยชน์ตามรายละเอียดที่ระบุในข้อ 9
11. ความเห็นของคณะกรรมการตรวจสอบและ/หรือกรรมการของบริษัทที่แตกต่างจากความเห็น
ของคณะกรรมการบริษัทตามข้อ 10.
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ตลาดหลักทรัพย์ชี้แจงข้อกำหนด : การดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนของ UCOM
ตามที่คณะกรรมการบริษัท ยูไนเต็ด คอมมูนิเกชั่น อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) (UCOM)
ได้มีมติเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)
(TAC) ที่ UCOM ถืออยู่เพื่อให้ TAC เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ว่า
"รับทราบการที่บริษัทต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ เกี่ยวกับการนำหุ้น
ของ TAC เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว จะต้องเพิกถอนหุ้นของบริษัท
จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์....." นั้น
(รายละเอียดปรากฏตามข่าวในระบบ SETSMART ของวันที่ 10 ตุลาคม 2549)
ตลาดหลักทรัพย์ขอเรียนว่า
1. เมื่อพิจารณาตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ จะถือว่าปัจจุบัน UCOM มีรายได้หลัก
จากการถือหุ้นใน TAC จึงเข้าข่ายเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้น (Holding Company)
2. ตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับ Holding Company นั้น UCOM จะต้องถือหุ้น
ในบริษัทที่มีการประกอบธุรกิจหลักเป็นของตนเอง (บริษัทแกน) ซึ่งมีการลงทุนในโครงการ
สาธารณูปโภคพื้นฐานไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ของทุนชำระแล้ว
3. บริษัทแกนต้องไม่มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน
ปัจจุบัน UCOM ถือหุ้นใน TAC น้อยกว่าร้อยละ 51 ของทุนชำระแล้ว UCOM จึงมี
หน้าที่ต้องแก้ไขคุณสมบัติดังกล่าวเพื่อการดำรงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียน เช่น ถือหุ้น
ใน TAC ไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 หรือหาธุรกิจใหม่ที่มีนัยสำคัญเพื่อดำเนินการประกอบธุรกิจ
เป็นของตนเอง หรือหาบริษัทแกนที่มีการประกอบธุรกิจเป็นของตนเองนอกเหนือจาก TAC เป็นต้น
ส่วนการเพิกถอน UCOM ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อนำ TAC
เข้าจดทะเบียนเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถพิจารณาดำเนินการได้นอกเหนือจากทางเลือกดังกล่าว
ทั้งนี้ตามขั้นตอนการเพิกถอนหุ้นสามัญจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนโดยสมัครใจนั้น
UCOM จะต้องแจ้งมติคณะกรรมการบริษัทมายังตลาดหลักทรัพย์ จัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติ
เพิกถอนหุ้น และจัดให้มีการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์
และตลาดหลักทรัพย์กำหนดต่อไป