ความอดทน เป็นสมบัติของ VI
-
- Verified User
- โพสต์: 421
- ผู้ติดตาม: 0
ความอดทน เป็นสมบัติของ VI
โพสต์ที่ 2
มันเหมือนกับคำพูดที่ว่า ความแตกต่างระหว่างราคา กับ มูลค่าที่แท้จริงหนะแหละครับผม
ผมว่าราคามันเป็นสิ่งที่คนอื่นภายนอกที่เค้าจะให้ไว้ในแต่ละช่วงตอนนั้น (ในกรณีของหุ้นมักเป็นไปตาม Demand & Supply , ตามข่าว , ตามกระแส , และบางกรณี ตามเจ้าของที่ทำหน้าที่ปั่นราคา )
แต่มูลค่าที่แท้จริงจะเป็นตัวแสดงถึงความเป็นหุ้น (และตัวเราตัวเอง อิๆ ) ของเราที่แท้จริงในที่สุด
จึงขึ้นอยู่กับว่า คุณมั่นใจในคุณค่า(มูลค่า)ที่แท้จริงของตัวหุ้น (และตัวเอง) แค่ไหน เหอะๆ
ออกแนวปรัชญานิดๆ
ในกรณีของผม ผมจะมองทั้งสองมุม เหอะๆ ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในขณะนั้น
หรือบางกรณีก็เอาทั้งสองอันมาคิดรวมกันเหมือนกะการหาการขจัดลัพธ์ของเวคเตอร์ยังไงยังงั้นเลยแหะ
ผมว่าราคามันเป็นสิ่งที่คนอื่นภายนอกที่เค้าจะให้ไว้ในแต่ละช่วงตอนนั้น (ในกรณีของหุ้นมักเป็นไปตาม Demand & Supply , ตามข่าว , ตามกระแส , และบางกรณี ตามเจ้าของที่ทำหน้าที่ปั่นราคา )
แต่มูลค่าที่แท้จริงจะเป็นตัวแสดงถึงความเป็นหุ้น (และตัวเราตัวเอง อิๆ ) ของเราที่แท้จริงในที่สุด
จึงขึ้นอยู่กับว่า คุณมั่นใจในคุณค่า(มูลค่า)ที่แท้จริงของตัวหุ้น (และตัวเอง) แค่ไหน เหอะๆ
ออกแนวปรัชญานิดๆ
ในกรณีของผม ผมจะมองทั้งสองมุม เหอะๆ ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในขณะนั้น
หรือบางกรณีก็เอาทั้งสองอันมาคิดรวมกันเหมือนกะการหาการขจัดลัพธ์ของเวคเตอร์ยังไงยังงั้นเลยแหะ
รู้สึกดีๆ
- nano
- Verified User
- โพสต์: 447
- ผู้ติดตาม: 0
ความอดทน เป็นสมบัติของ VI
โพสต์ที่ 9
มาช่วยยุบหนอพองหนอด้วยคน อึดเข้าไว้ อึดเข้าไว้ ถ้าเราคิดว่าหุ้นที่ซื้อเป็นหุ้นVI แต่อยู่นอกกลุ่มสายตา VI ไม่ได้มองกัน ราคามันนิ่งหรือไปแบบหนอนคลานกระดึ๊บกระดึ๊บ หากผลประกอบการออกมาดีจริงเมือ่ไร เดี๋ยวราคามันก็ไปเองแหละ :twisted: :twisted:
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ความอดทน เป็นสมบัติของ VI
โพสต์ที่ 15
ตั้งชื่อกระทู้อย่างกับ "ความเกรงใจเป็นสมบัติของผู้ดี"
มาเข้าเรื่อง... มีหุ้นหลายตัวที่ธุรกิจหยุดการเติบโตไปแล้ว เปรียบเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง แม้จะมั่นคงก็จริง แต่จะหวังให้ราคาวิ่งปูดป้าดด้วยก็คงไม่ได้ หุ้นพวกนี้มีหลายตัวถูกขนานนามว่าเป็นหุ้น vi ซึ่งเข้าไปล่ะก็ รออย่างเดียวครับ
ขึ้นอยู่กับว่าเป็นตัวไหน เพราะฉะนั้นบอกมาซะดีๆ :lol:
มาเข้าเรื่อง... มีหุ้นหลายตัวที่ธุรกิจหยุดการเติบโตไปแล้ว เปรียบเหมือนไม้ใกล้ฝั่ง แม้จะมั่นคงก็จริง แต่จะหวังให้ราคาวิ่งปูดป้าดด้วยก็คงไม่ได้ หุ้นพวกนี้มีหลายตัวถูกขนานนามว่าเป็นหุ้น vi ซึ่งเข้าไปล่ะก็ รออย่างเดียวครับ
ขึ้นอยู่กับว่าเป็นตัวไหน เพราะฉะนั้นบอกมาซะดีๆ :lol:
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- 2 dogs
- Verified User
- โพสต์: 726
- ผู้ติดตาม: 0
ความอดทน เป็นสมบัติของ VI
โพสต์ที่ 17
ผมเดาเอาเองนะครับว่าเป็น "ตัวนั้น"
ราคาต้นทุนกำลังลดลงต่อเนื่องครับ
ผลกระทบน้ำท่วมก็ดูกันอีกทีว่าหนักแค่ไหน
ถ้ากลัวว่าหนักมากก็ต้องขายครับ
ส่วนด้านเทคนิค b-band บีบตัวแคบลงเรื่อยๆ
คราวก่อนที่ขึ้นมาได้ b-band ก็แคบซะแทบจะชนกันแล้ว ค่อยพุ่งขึ้น
ถ้ารอไม่ไหวก็ขายออกก่อนได้ครับ ผมเห็นbid 4แสนกว่าตัว
ถ้าซื้อมามากกว่านั้นก็ค่อยๆรินไปเดี๋ยวก็หมดครับ :)
ราคาต้นทุนกำลังลดลงต่อเนื่องครับ
ผลกระทบน้ำท่วมก็ดูกันอีกทีว่าหนักแค่ไหน
ถ้ากลัวว่าหนักมากก็ต้องขายครับ
ส่วนด้านเทคนิค b-band บีบตัวแคบลงเรื่อยๆ
คราวก่อนที่ขึ้นมาได้ b-band ก็แคบซะแทบจะชนกันแล้ว ค่อยพุ่งขึ้น
ถ้ารอไม่ไหวก็ขายออกก่อนได้ครับ ผมเห็นbid 4แสนกว่าตัว
ถ้าซื้อมามากกว่านั้นก็ค่อยๆรินไปเดี๋ยวก็หมดครับ :)
หุ้นเงียบๆในวันนี้จะโด่งดังในปีหน้า
-
- Verified User
- โพสต์: 743
- ผู้ติดตาม: 0
ความอดทน เป็นสมบัติของ VI
โพสต์ที่ 18
คุณ 2dogs รอตัวเดียวกันครับ
ถือเยอะเหมือนกันรึเปล่า กี่เปอเซ็นอะครับ (ดูความมั่นใจ)
แต่ท่านเซียนมาปลอบใจอย่างนี้ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นครับ
แต่ตามที่คิด เรื่องน้ำท่วมนี่ ถึงมีผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตามไม่น่ากระทบ Q3 รึเปล่าครับ เพราะเป็นช่วงต้น Q4
และถึงกระทบ Q4 แต่ถ้ามันไม่นานมาก อีกสองเดือนที่เหลือน่าจะถมส่วนนั้นได้มั้ยครับ
ไม่ทราบว่าคิดเหมือนกันมั้ย
ถามจากผู้รู้แล้ว ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา น้ำท่วมครั้งนี้ น้อยกว่าครั้งก่อนครับ
น้ำเจ้าพระยาต่ำกว่า แน่นอน (ครั้งก่อนเมื่อปี 3 กว่าเนี่ยครับ จำไม่ได้)
ถือเยอะเหมือนกันรึเปล่า กี่เปอเซ็นอะครับ (ดูความมั่นใจ)
แต่ท่านเซียนมาปลอบใจอย่างนี้ก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นครับ
แต่ตามที่คิด เรื่องน้ำท่วมนี่ ถึงมีผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตามไม่น่ากระทบ Q3 รึเปล่าครับ เพราะเป็นช่วงต้น Q4
และถึงกระทบ Q4 แต่ถ้ามันไม่นานมาก อีกสองเดือนที่เหลือน่าจะถมส่วนนั้นได้มั้ยครับ
ไม่ทราบว่าคิดเหมือนกันมั้ย
ถามจากผู้รู้แล้ว ช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา น้ำท่วมครั้งนี้ น้อยกว่าครั้งก่อนครับ
น้ำเจ้าพระยาต่ำกว่า แน่นอน (ครั้งก่อนเมื่อปี 3 กว่าเนี่ยครับ จำไม่ได้)
- 2 dogs
- Verified User
- โพสต์: 726
- ผู้ติดตาม: 0
ความอดทน เป็นสมบัติของ VI
โพสต์ที่ 20
ถือ 99% พอร์ตครับ
ไม่ใช่ว่ามั่นใจมากนะ แต่เห็นว่าเรื่องชั่วคราวแบบน้ำท่วมนี้
ไม่น่าจะเป็นเหตุผลที่จะทำให้หันเหจากfactที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าได้ว่า
ราคาวัตถุดิบต่ำลง marginกำไรกลับมาแล้ว ปันผลอีก13%(จากราคาซื้อ)
ผู้บริหารอมหุ้นเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ผู้ถือหุ้นโดยเฉลี่ยจำนวนลดไป150คน
จากปีที่แล้ว
ถ้าลองคิด worst case สมมติว่า ถ้ามีหนี้สูญเพิ่ม 200ล้านบาททันที
( ผมเชื่อว่าเขาไม่ได้ปล่อยเครดิตรวดเดียวเยอะขนาดนี้นะครับ
ไม่น่าจะเกิน 100ล้านด้วยซ้ำที่กระทบจริงๆ)
หนี้ที่เพิ่มจะทำให้กำไรลดไปได้แค่ไหน ส่งผลถาวรหรือเปล่า
พวกเรื่องน่าหงุดหงิดที่หุ้นนิ่งสนิท ไม่ขยับตามตลาดเลย
ผมเชื่อว่าใครๆก็เป็นครับ มากน้อยแล้วแต่คน
ตอนนั้นถือ PDI ทั้งพอร์ต หุ้นขึ้น100จุด PDI ไม่ขึ้นแม้แต่นิดเดียว
จนขายขาดทุนหมื่นนึงทนเบื่อไม่ไหว ถ้ายังถือก็ 100% ไปนานแล้ว
SPALi-W3 ก็เคยทนแรงกดดันไม่ไหว ถ้าถือก็100%เหมือนกัน
ผมเลยว่าหุ้นจะเงียบขนาดไหน ถ้าวิเคราะห์แล้วมั่นใจก็ถือไปเหอะครับ
ไปไล่หุ้นนิยมที่ราคาขึ้นมากๆแล้ว มีหุ้นดีๆไม่กี่ตัวจริงๆที่ยังทนขึ้นต่อ
หลายๆตัว ลงแทบทั้งนั้น ไปหาหุ้นเงียบๆที่ไม่มีใครพูดถึง ยังworkกว่าเลย
ถ้ายังร้อนรน ลองคิดอย่างนี้ก็ได้ครับว่า ถ้าเรากำไรเพิ่ม
มันทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรือเปล่า สำหรับผมมีผล แต่น้อยจริงๆครับ
จะได้เพิ่ม1ล้านพรุ่งนี้ หรือปีหน้าชีวิตก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมาย
ไม่ได้มีอะไรน่ายินดีขึ้นทั้งนั้น พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน
ก็ใช่ว่าจะมายินดีอะไรกับเรามากมาย เราก็ยังคงเป็นเรา
บ้านก็ใช่ว่าอยากได้แบบไหน มันจะ pop-up ขึ้นมาทันทีพอเรารวย
กว่าจะสร้างเสร็จ ปวดกบาลไม่ถูกใจ ปัญหาตามแก้ก็มีอีก
ของกินอร่อยๆทั่วโลก ก็คงไม่ต้องรวยมากเป็น10ๆล้านถึงจะได้กิน
หน้าตาก็ใช่ว่าจะหล่อขึ้น ถ้ารวยขึ้น
สรุปแล้วก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นกับชีวิตทั้งนั้น แถมคนอิจฉายิ่งมากขึ้น
คิดแบบเบื่อๆน่ะครับ แล้วเราก็จะเลิก activeวิ่งเข้าวิ่งออกหุ้นบ่อยๆไปเองครับ
เพราะมันก็ไม่ได้ช่วยให้เรามีความสุขหรือชีวิตที่ดีขึ้นแต่อยางใด
ไม่ใช่ว่ามั่นใจมากนะ แต่เห็นว่าเรื่องชั่วคราวแบบน้ำท่วมนี้
ไม่น่าจะเป็นเหตุผลที่จะทำให้หันเหจากfactที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าได้ว่า
ราคาวัตถุดิบต่ำลง marginกำไรกลับมาแล้ว ปันผลอีก13%(จากราคาซื้อ)
ผู้บริหารอมหุ้นเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ผู้ถือหุ้นโดยเฉลี่ยจำนวนลดไป150คน
จากปีที่แล้ว
ถ้าลองคิด worst case สมมติว่า ถ้ามีหนี้สูญเพิ่ม 200ล้านบาททันที
( ผมเชื่อว่าเขาไม่ได้ปล่อยเครดิตรวดเดียวเยอะขนาดนี้นะครับ
ไม่น่าจะเกิน 100ล้านด้วยซ้ำที่กระทบจริงๆ)
หนี้ที่เพิ่มจะทำให้กำไรลดไปได้แค่ไหน ส่งผลถาวรหรือเปล่า
พวกเรื่องน่าหงุดหงิดที่หุ้นนิ่งสนิท ไม่ขยับตามตลาดเลย
ผมเชื่อว่าใครๆก็เป็นครับ มากน้อยแล้วแต่คน
ตอนนั้นถือ PDI ทั้งพอร์ต หุ้นขึ้น100จุด PDI ไม่ขึ้นแม้แต่นิดเดียว
จนขายขาดทุนหมื่นนึงทนเบื่อไม่ไหว ถ้ายังถือก็ 100% ไปนานแล้ว
SPALi-W3 ก็เคยทนแรงกดดันไม่ไหว ถ้าถือก็100%เหมือนกัน
ผมเลยว่าหุ้นจะเงียบขนาดไหน ถ้าวิเคราะห์แล้วมั่นใจก็ถือไปเหอะครับ
ไปไล่หุ้นนิยมที่ราคาขึ้นมากๆแล้ว มีหุ้นดีๆไม่กี่ตัวจริงๆที่ยังทนขึ้นต่อ
หลายๆตัว ลงแทบทั้งนั้น ไปหาหุ้นเงียบๆที่ไม่มีใครพูดถึง ยังworkกว่าเลย
ถ้ายังร้อนรน ลองคิดอย่างนี้ก็ได้ครับว่า ถ้าเรากำไรเพิ่ม
มันทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรือเปล่า สำหรับผมมีผล แต่น้อยจริงๆครับ
จะได้เพิ่ม1ล้านพรุ่งนี้ หรือปีหน้าชีวิตก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากมาย
ไม่ได้มีอะไรน่ายินดีขึ้นทั้งนั้น พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน
ก็ใช่ว่าจะมายินดีอะไรกับเรามากมาย เราก็ยังคงเป็นเรา
บ้านก็ใช่ว่าอยากได้แบบไหน มันจะ pop-up ขึ้นมาทันทีพอเรารวย
กว่าจะสร้างเสร็จ ปวดกบาลไม่ถูกใจ ปัญหาตามแก้ก็มีอีก
ของกินอร่อยๆทั่วโลก ก็คงไม่ต้องรวยมากเป็น10ๆล้านถึงจะได้กิน
หน้าตาก็ใช่ว่าจะหล่อขึ้น ถ้ารวยขึ้น
สรุปแล้วก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นกับชีวิตทั้งนั้น แถมคนอิจฉายิ่งมากขึ้น
คิดแบบเบื่อๆน่ะครับ แล้วเราก็จะเลิก activeวิ่งเข้าวิ่งออกหุ้นบ่อยๆไปเองครับ
เพราะมันก็ไม่ได้ช่วยให้เรามีความสุขหรือชีวิตที่ดีขึ้นแต่อยางใด
หุ้นเงียบๆในวันนี้จะโด่งดังในปีหน้า
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
ความอดทน เป็นสมบัติของ VI
โพสต์ที่ 23
บางครั้ง ความอดทน กับความดันทุรัง ดูคล้ายๆกัน
แต่ผลที่ให้แตกต่างกันมาก
แต่ผลที่ให้แตกต่างกันมาก
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
-
- Verified User
- โพสต์: 743
- ผู้ติดตาม: 0
ความอดทน เป็นสมบัติของ VI
โพสต์ที่ 25
เท่าที่สังเกต
tluxe จะประกาศ งบ วันสุดท้ายเลย
ก็จะเป็นประมาณ กลางเดือนหน้า
แต่เท่าที่สังเกตเหมือนกันว่า หุ้นจะเริ่มขึ้น เหมือนมีคนเก็บก่อนประกาศผล ประมาณ 1/2 - 1 เดือนก่อนประกาศ
ช่วง สองอาทิตย์หน้านี่ต้องลุ้นหน่อย
ถ้า ดีขึ้นอีก ได้ เห็น new high อีก
tluxe จะประกาศ งบ วันสุดท้ายเลย
ก็จะเป็นประมาณ กลางเดือนหน้า
แต่เท่าที่สังเกตเหมือนกันว่า หุ้นจะเริ่มขึ้น เหมือนมีคนเก็บก่อนประกาศผล ประมาณ 1/2 - 1 เดือนก่อนประกาศ
ช่วง สองอาทิตย์หน้านี่ต้องลุ้นหน่อย
ถ้า ดีขึ้นอีก ได้ เห็น new high อีก
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ความอดทน เป็นสมบัติของ VI
โพสต์ที่ 26
เลยวันที่ 15 ไปทำไมคุณ 2 dogs ถึงคิดว่าน่าจะมีอะไรดีครับ
------------------------------
สำหรับผลกระทบจากน้ำท่วมผมเข้าใจว่าจะยังไม่ได้สะท้อนเข้าไปในงบกำไรขาดทุนสำหรับไตรมาสนี้
ผมคาดว่าตัวเลขกำไรน่าจะออกมาในเกณฑ์ดี จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมสัตว์น้ำจากการบริโภคปลามากขึ้น
ประกอบกับปกติ Q3 เป็น High Season
ส่วนต้นทุนปลาป่นที่ถูกลงและราคาน้ำมันที่ลดลง
น่าจะส่งผลดีอย่างชัดเจนต่อผลประกอบการ Q4
แต่ตัวที่ต้องระวังก็คือ "ลูกหนี้การค้า" มากกว่า
ซึ่งขึ้นกับนโยบายในการให้เครดิตลูกค้าว่ามีความรัดกุมแค่ไหน
ผลกระทบจากน้ำท่วมหากมีผลกระทบกับเกษตรกรมาก
ก็จะสะท้อนออกมาในลักษณะ บริษัทเก็บหนี้ไม่ได้ หรือหนี้เสีย ซึ่งต้องตั้งสำรองหนี้เสียในภายหลัง
มากกว่าที่จะปรากฎในยอดกำไรขาดทุนสำหรับ Q3
ถ้าไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต และไม่มั่นใจในนโยบายในการให้สินเชื่อของบริษัท
ก็อาจจะพิจารณาขายทำกำไรไปก่อน รอดูผลกระทบ ถ้าไม่มีอะไรร้ายแรงค่อยกลับมาใหม่ก็คงไม่สาย
แต่อย่าลืมว่า TLUXE ยังเป็นหุ้นที่ค่อนข้างถูกมากๆ
เมื่อเทียบกับการเติบโตในอนาคตประกอบกับเงินปันผลที่ค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ยังมี Trend ที่ดีขึ้น จาก Economy of scale และราคาวัตถุดิบที่ถูกลง
ถ้ามันจะวิ่งอย่างตัวอื่นเขาบ้าง ก็อย่ามาเสียใจเพราะขายหมูแล้วกัน 555 ... :lol:
------------------------------
สำหรับผลกระทบจากน้ำท่วมผมเข้าใจว่าจะยังไม่ได้สะท้อนเข้าไปในงบกำไรขาดทุนสำหรับไตรมาสนี้
ผมคาดว่าตัวเลขกำไรน่าจะออกมาในเกณฑ์ดี จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมสัตว์น้ำจากการบริโภคปลามากขึ้น
ประกอบกับปกติ Q3 เป็น High Season
ส่วนต้นทุนปลาป่นที่ถูกลงและราคาน้ำมันที่ลดลง
น่าจะส่งผลดีอย่างชัดเจนต่อผลประกอบการ Q4
แต่ตัวที่ต้องระวังก็คือ "ลูกหนี้การค้า" มากกว่า
ซึ่งขึ้นกับนโยบายในการให้เครดิตลูกค้าว่ามีความรัดกุมแค่ไหน
ผลกระทบจากน้ำท่วมหากมีผลกระทบกับเกษตรกรมาก
ก็จะสะท้อนออกมาในลักษณะ บริษัทเก็บหนี้ไม่ได้ หรือหนี้เสีย ซึ่งต้องตั้งสำรองหนี้เสียในภายหลัง
มากกว่าที่จะปรากฎในยอดกำไรขาดทุนสำหรับ Q3
ถ้าไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต และไม่มั่นใจในนโยบายในการให้สินเชื่อของบริษัท
ก็อาจจะพิจารณาขายทำกำไรไปก่อน รอดูผลกระทบ ถ้าไม่มีอะไรร้ายแรงค่อยกลับมาใหม่ก็คงไม่สาย
แต่อย่าลืมว่า TLUXE ยังเป็นหุ้นที่ค่อนข้างถูกมากๆ
เมื่อเทียบกับการเติบโตในอนาคตประกอบกับเงินปันผลที่ค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ยังมี Trend ที่ดีขึ้น จาก Economy of scale และราคาวัตถุดิบที่ถูกลง
ถ้ามันจะวิ่งอย่างตัวอื่นเขาบ้าง ก็อย่ามาเสียใจเพราะขายหมูแล้วกัน 555 ... :lol:
"Winners never quit, and quitters never win."
- 2 dogs
- Verified User
- โพสต์: 726
- ผู้ติดตาม: 0
ความอดทน เป็นสมบัติของ VI
โพสต์ที่ 27
คุณ nearly_vi ได้บอกไว้แล้วครับ มันมักจะวิ่งไปรับผลประกอบการณ์
ที่กำลังจะออกประมาณช่วงนี้ แต่ถ้ามันไม่วิ่งก็เป็นโอกาสดีที่จะอยู่นิ่งๆ
รอปันผลมาซื้อทบต้น ห่วงเรื่องเดียวก็ลูกหนี้การค้าเหมือนกันครับ
ถ้าคิดว่าไตรมาสนี้ยอดขาย 800ล้าน เป็นขายในประเทศ 550ล้าน
ช่วงที่น้ำท่วมถ้าคิดที่เขาปล่อยเครดิตไปคร่าวๆเป็น 35%ของ 550ล้าน
ก็ได้192.5 ล้าน ผมคาดว่าไม่เกินไปจากนี้ ตวามเสี่ยงจากเรื่องหนี้สูญ
ไม่น่าจะเกินจาก 200ล้านไปได้ ที่คิด35%เพราะปลาน่าจะโตเต็มที่
และถูกจับขายในตลาดส่วนใหญ่ไปเมื่อช่วงเดือนกันยาก่อนน้ำท่วมนี่เองครับ
ก่อนเข้าช่วงหน้าหนาวเดือนตุลาเป็นต้นไป
และเกษตรกรเองเชื่อว่า พอเห็นฝนตกหนักแบบนี้ ปลาตัวเล็กตัวน้อย
ก็รีบๆจับขายออกไป มากกว่าที่จะรอให้ท่วมจนไม่เหลืออะไรนะครับ
ความน่าจะเป็นคือ ผู้ที่เสียหายน่าจะมีเงินมาจ่ายประมาณ70-75%
ค่าอาหารปลา มากกว่าที่จะเกิดหนี้สูญทั้งก้อน โดยมีเงินมาจ่ายก่อนซัก40%
ตอนนี้ อีกที่เหลือ 35% ขอติดไว้ เลี้ยงปลารอบหน้าแล้วค่อยๆผ่อนคืน
ในปีหน้านะครับ
และที่ผมชอบหุ้นตัวนี้ก็คือเกษตรเป็นลูกค้าที่ค่อนข้างดีและไม่เหนียวหนี้
ไม่ตุกติกมาก เทียบแล้วสบายใจกว่าพวกทำธุรกิจกับโรงงานใหญ่
ที่มักมีเล่ห์เหลี่ยม ยึดเครดิต ตัดราคา แอบทำสินค้าตัวเดียวกันมาแย่งตลาด
อะไรอีกสารพัด ทำธุรกิจกับพวกมีความรู้มากมักจะเหนื่อยนะผมว่า
สู้ทำธุรกิจกับคนซื่อๆตรงๆดีกว่า นับวันก็ยิ่งน้อยลง คนมีความรู้มากขึ้น
ที่กำลังจะออกประมาณช่วงนี้ แต่ถ้ามันไม่วิ่งก็เป็นโอกาสดีที่จะอยู่นิ่งๆ
รอปันผลมาซื้อทบต้น ห่วงเรื่องเดียวก็ลูกหนี้การค้าเหมือนกันครับ
ถ้าคิดว่าไตรมาสนี้ยอดขาย 800ล้าน เป็นขายในประเทศ 550ล้าน
ช่วงที่น้ำท่วมถ้าคิดที่เขาปล่อยเครดิตไปคร่าวๆเป็น 35%ของ 550ล้าน
ก็ได้192.5 ล้าน ผมคาดว่าไม่เกินไปจากนี้ ตวามเสี่ยงจากเรื่องหนี้สูญ
ไม่น่าจะเกินจาก 200ล้านไปได้ ที่คิด35%เพราะปลาน่าจะโตเต็มที่
และถูกจับขายในตลาดส่วนใหญ่ไปเมื่อช่วงเดือนกันยาก่อนน้ำท่วมนี่เองครับ
ก่อนเข้าช่วงหน้าหนาวเดือนตุลาเป็นต้นไป
และเกษตรกรเองเชื่อว่า พอเห็นฝนตกหนักแบบนี้ ปลาตัวเล็กตัวน้อย
ก็รีบๆจับขายออกไป มากกว่าที่จะรอให้ท่วมจนไม่เหลืออะไรนะครับ
ความน่าจะเป็นคือ ผู้ที่เสียหายน่าจะมีเงินมาจ่ายประมาณ70-75%
ค่าอาหารปลา มากกว่าที่จะเกิดหนี้สูญทั้งก้อน โดยมีเงินมาจ่ายก่อนซัก40%
ตอนนี้ อีกที่เหลือ 35% ขอติดไว้ เลี้ยงปลารอบหน้าแล้วค่อยๆผ่อนคืน
ในปีหน้านะครับ
และที่ผมชอบหุ้นตัวนี้ก็คือเกษตรเป็นลูกค้าที่ค่อนข้างดีและไม่เหนียวหนี้
ไม่ตุกติกมาก เทียบแล้วสบายใจกว่าพวกทำธุรกิจกับโรงงานใหญ่
ที่มักมีเล่ห์เหลี่ยม ยึดเครดิต ตัดราคา แอบทำสินค้าตัวเดียวกันมาแย่งตลาด
อะไรอีกสารพัด ทำธุรกิจกับพวกมีความรู้มากมักจะเหนื่อยนะผมว่า
สู้ทำธุรกิจกับคนซื่อๆตรงๆดีกว่า นับวันก็ยิ่งน้อยลง คนมีความรู้มากขึ้น
หุ้นเงียบๆในวันนี้จะโด่งดังในปีหน้า
- 2 dogs
- Verified User
- โพสต์: 726
- ผู้ติดตาม: 0
ความอดทน เป็นสมบัติของ VI
โพสต์ที่ 28
ตัวเลขเป็นการคาดการณ์เอานะครับ และจริงๆน่าจะน้อยกว่า800ล้านด้วย
ถ้าTLUXEขายอาหารแล้ว รอเก็บเงินหลังลูกค้าขายปลาได้
ก็จะเข้ากรณีที่ผมว่ามา
แต่ถ้าขายอาหารได้เงินก่อนลูกค้าขายปลา
ความเสียหายที่กังวลอาจจะแทบไม่เกิดขึ้นเลยนะครับ
ยอดหนี้สูญอาจจะต่ำกว่า50ล้านด้วย ถ้าเป็นกรณีนี้
เดี๋ยวขอไปค้นข้อมูลการจับปลาก่อน แล้วจะไปโพสต์ในห้องนะครับ
ถ้าTLUXEขายอาหารแล้ว รอเก็บเงินหลังลูกค้าขายปลาได้
ก็จะเข้ากรณีที่ผมว่ามา
แต่ถ้าขายอาหารได้เงินก่อนลูกค้าขายปลา
ความเสียหายที่กังวลอาจจะแทบไม่เกิดขึ้นเลยนะครับ
ยอดหนี้สูญอาจจะต่ำกว่า50ล้านด้วย ถ้าเป็นกรณีนี้
เดี๋ยวขอไปค้นข้อมูลการจับปลาก่อน แล้วจะไปโพสต์ในห้องนะครับ
หุ้นเงียบๆในวันนี้จะโด่งดังในปีหน้า
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ความอดทน เป็นสมบัติของ VI
โพสต์ที่ 29
อีกอย่างหนึ่ง TLUXE ปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี
คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 28% (YTD) ไม่รวมปันผล
ในขณะที่ผลตอบแทนของตลาดยังติดลบเล็กๆ หรือเกือบ 0% (YTD)
ผมว่าจะไปบอกว่าหุ้นไม่ขึ้นก็คงไม่ถูกนะครับ
ถึงแม้ราคาจะทรงตัวที่ระดับนี้ถึงสิ้นปี
ก็ถือว่าได้ผลตอบแทนที่น่าประทับใจแล้ว
คิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 28% (YTD) ไม่รวมปันผล
ในขณะที่ผลตอบแทนของตลาดยังติดลบเล็กๆ หรือเกือบ 0% (YTD)
ผมว่าจะไปบอกว่าหุ้นไม่ขึ้นก็คงไม่ถูกนะครับ
ถึงแม้ราคาจะทรงตัวที่ระดับนี้ถึงสิ้นปี
ก็ถือว่าได้ผลตอบแทนที่น่าประทับใจแล้ว
"Winners never quit, and quitters never win."