ไขความลับสมองเงินล้าน (ตอนที่ 2)

[anakinnet]

แนะนำหนังสือ ไขความลับสมองเงินล้านครับ
ขออนุญาติเขียนตอนที่ 2 ก่อนนะครับ พอดีอ่านมาถึงตรงนี้พอดี

เคยเห็นคนจนแล้วรวยไหม? เคยเห็นคนรวยแล้วจนไหม? เคยเห็นคนจนถูกหวยแล้วก็กลับไปจนไหม? เคยเห็นคนรวยทำธุรกิจผิดพลาดหมดเนื้อหมดตัวแต่ก็สามารถพลิกกลับมารวยได้ไหม? อะไรทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ น่าสงสัยไหม?

ผมจะรวบรวม 17 แง่คิด ที่ทำให้คนเรามีฐานะแตกต่างกัน ความคิดเหล่านี้ฝังรากลึกในตัวคุณมาตั้งแต่เด็ก ถ้าไม่ยอมเปลี่ยนตัวเอง เตรียมตัวรับผลลัพท์จากแง่คิดเหล่านั้นได้เลย ไม่ได้ขู่นะครับ (17 ข้อนี้เขียนจากหนังสือ ไขความลับสมองเงินล้าน นะครับ)

1. คนรวยเชื่อว่า "ฉันควบคุมชะตาชีวิตของตัวเอง" คนจนเชื่อว่า "ฉันถูกลิขิตให้เป็นอย่างนี้"

2. คนรวยเล่นเกมการเงินเพื่อที่จะเอาชนะ คนจนเล่นเกมการเงินเพื่อไม่ให้แพ้

3. คนรวยทุ่มเทเพื่อความรวย คนจนแค่อยากรวย

4. คนรวยคิดการใหญ่ คนจนคิดการเล็ก

5. คนรวยมุ่งความสนใจไปที่โอกาส คนจนมุ่งความสนใจไปที่อุปสรรค

6. คนรวยชื่นชมผู้ร่ำรวยและประสบความสำเร็จคนอื่นๆ คนจนชิงชังผู้ร่ำรวยและประสบความสำเร็จ

7. คนรวยคบหาสมาคมกับคนที่มองโลกในแง่ดีและประสบความสำเร็จ คนจนขลุกอยู่กับคนที่มองโลกในแง่ร้ายหรือไม่ประสบความสำเร็จ

8. คนรวยเต็มใจโปรโมทตัวเองและคุณค่าของตนเอง คนจนมองการขายและโปรโมชั่นในแง่ลบ

9. คนรวยมองปัญหาเป็นเรื่องเล็ก คนจนมองปัญหาเป็นเรื่องใหญ่

10. คนรวยเป็นผู้รับที่ยอดเยี่ยม คนจนเป็นผู้รับที่ยอดแย่

11. คนรวยเลือกที่จะได้รับเงินตามผลงาน คนจนเลือกที่จะได้รับเงินตามระยะเวลาที่ทำงาน

12. คนรวยเลือก "ทั้งสองทาง" คนจนเลือก "ทางใดทางหนึ่ง"

13. คนรวยสนใจมูลค่าทรัพย์สิน คนจนสนใจแต่รายได้จากการทำงาน

14. คนรวยเก่งเรื่องการบริหารเงิน คนจนเก่งเรื่องการบริหารเงินแบบผิดๆ

15. คนรวยให้เงินทำงานหนักเพื่อตัวเอง คนจนทำงานหนักเพื่อให้ได้เงิน

16. คนรวยมุ่งไปข้างหน้าแม้จะหวาดกลัว คนจนปล่อยให้ความกลัวหยุดยั้งตนเอง

17. คนรวยเรียนรู้และเติบโตอยู่ตลอดเวลา คนจนคิดว่าตัวเองรู้ดีอยู่แล้ว

ผมเข้าใจนะครับ ว่าบางคนอาจจะ "รับไม่ได้" กับข้อความเหล่านี้ ใจเย็นๆนะครับ เด๋วจะเล่าตอนที่ 1 ให้ฟัง แล้วคุณจะ "กระจ่าง" อดทนนะครับ

แถมให้ อันนี้คิดเอง

18. คนรวยมีความอดทนในสิ่งที่ถูก คนจนอดทนในสิ่งที่ไม่ควรอดทน     อิอิ

[Accidental Hero]

เคยอ่านแล้ว ได้ทบทวนอีกครั้งรู้สึกดี
แต่ผมว่า ความคิดของคนเรามันไม่ได้แบ่งเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน ตามข้อความข้างต้น
แต่เป็นส่วนผสมระหว่าง 2 ขั้วที่ว่า ความแตกต่างกันอยู่ที่ว่ามีส่วนผสมทางไหนมาก

[ดร.โหน่ง]

^O-O^
         
    :lol:..........คนเราสวย สวยที่ใจใช่ใบหน้า
   |UU\/         คนเรางาม งามจรรยาใช่ตาหวาน
  /  \|            คนเราแก่ แก่ความรู้ใช่อยู่นาน
    / |            คนเรารวย รวยสินทานใช่บ้านโต

[naris]

[quote="ดร.โหน่ง"]^O-O^

[anakinnet]

เคยอ่านแล้ว ได้ทบทวนอีกครั้งรู้สึกดี
แต่ผมว่า ความคิดของคนเรามันไม่ได้แบ่งเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน ตามข้อความข้างต้น
แต่เป็นส่วนผสมระหว่าง 2 ขั้วที่ว่า ความแตกต่างกันอยู่ที่ว่ามีส่วนผสมทางไหนมาก

เห็นด้วยกับคุณ Accidental Hero นะครับ ว่ามันไม่ได้แบ่งชัดเจนเป็น 2 ขั้วแต่การที่เราได้รู้ว่า คนด้านขวาคิดยังไง คนด้านซ้ายคิดยังไง มันก็ทำให้เรารู้ว่าเราอยู่ตรงไหนครับ

[miracle]

แนะนำสองเล่มที่เขียนโดย ดร.นโปเลี่ยน ฮิลล์
เขียนช่วงปี 1940-1950
เล่มแรกคือ The law of Success
เล่มที่สองคือ Think and Grow Rich

สองเล่มนี้ดร.นโปเลี่ยน ฮิลล์ได้ทำการสัมภาษณ์คนที่ประสบความสำเร็จในช่วงดังกล่าวเช่น ฟอร์ด ,เอดิสัน เป็นต้น นำมาเขียนหนังสือ
ซึ่งเป็นหลักการที่นำมาใช้แล้วสำเร็จอย่างแน่นอน
ตอนนี้กำลังอ่านควบสองเล่มเลย
ลองไปอ่านดูครับ สำหรับคนอยากจะรวย แค่สองเล่มนี้พื้นฐานน่าจะOKที่สุดแล้ว
เล่มอื่นแทบจะโยนทิ้งได้เลย

[wj]

1.คนรวยมักนำมาซึ่งการทำลาย ทำให้คนรุ่นหลังต้องอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่เลวร้าย
2.คนรวยมักไม่เคยพอ
3...

[sunrise]

1.คนรวยมักนำมาซึ่งการทำลาย ทำให้คนรุ่นหลังต้องอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่เลวร้าย
2.คนรวยมักไม่เคยพอ
3...

อันนี้ผมว่าเป็นลักษณะส่วนตัวของบางคนมากกว่า  :lol:
ยังกลับบ้านไม่ได้เลย

ดูอย่างคุณวิกรม หรืออีกหลายๆ ที่ไม่เปิดเผยตัว เค้าก็พอไปเรียบร้อยแล้วครับ

แต่คนรวยมัไม่เคยพอ ข้อนี้ถ้ายังไม่เป็นพระชั้นโสดาบันขึ้นไป
ผมว่าไม่ว่าคนรวย คนจน ไม่เคยพอ
people is insanable in weatlh ครับ

[starynight]

หากมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อความรวย จะไม่สามารถร่ำรวยได้ครับ เพราะมันเป็นพิมพ์เขียวอันหนึ่งในสมอง
ความรวยกับความดีเป็นคนละอย่าง
ความรวยกับความรักเป็นคนละอย่าง
คนรวยเป็นคนดีได้ครับ
คนรวยมีความรักได้ครับ
ขอให้ทุกคนรวยนะครับ

[Penguins]

จากหนังสือแปล หน้า 219 จากข้อความ ความรู้คืออำนาจ

พี่ๆ ท่านใดมีต้นฉบับภาษาอังกฤษบ้างครับ
คือผมอยากทราบว่าต้นฉบับภาษาอังกฤษเขาเขียนไว้ว่าอย่างไรอะครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ