ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
-
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 1
หรือว่าผมคิดไปเอง อาจจะเป็นเรื่องของ Walmart จริงๆก็ได้
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 2
ไม่รู้ครับ ผมมองว่าแพ้ทั้งคู่ครับjaychou เขียน:หรือว่าผมคิดไปเอง อาจจะเป็นเรื่องของ Walmart จริงๆก็ได้
แพ้กันคนละด้าน ถ้าเทียบยอดขาย ไทยรัฐคงไม่กระเทือน เพราะไทยรัฐแข็งแกร่งมากครับ
กำไรเขาน่าจะมาจากการโฆษณา มากกว่างานขายที่ไม่เคยเหลือ(หรือถึงเหลือก็ห้ามคืน) แต่คงแพ้ในรูปแพ้ภัยอำนาจตนเองมากกว่า
ทางse-edคงจะแพ้ในเรื่องยอดขายตามสัดส่วนการขายที่หายไป เพราะคนอ่านหนังสือพิมพ์เขายึดติดระดับหนึ่งทีเดียว เขาคงไม่มาเดินห้างเพื่อซื้อหนังสือพิมพ์
ถ้าse-edไม่มีก็ไปซื้อหน้าปากซอยก็ได้ แต่เมื่อเทียบกับse-edที่เน้นหนังสือมีสันมากกว่า
กลุ่มลูกค้าตัวจริง ก็คงไม่บ่นมากเท่ากับไม่มีหนังสือที่เขาต้องการ เช่นผมคงบ่นถ้าหาหนังสือของพี่WEBไม่เจอมากกว่าหาไทยรัฐไม่เห็นครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 4
ด๊อกเตอร์น่าจะหมายถึงสุดท้ายก็ ..จ๊วบๆ :lol:
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
- 2 dogs
- Verified User
- โพสต์: 726
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 5
เป็นการ isolation ตัวเองออกจากมาเฟีย
กำไรลดลงชั่วคราวบ้าง เดี๋ยวก็หาจุดอื่นมาทดแทนได้
แต่โดนมาเฟียกดหัว มันกดตลอดไม่ได้ผุด
เป็นผลดีในระยะยาวว่าหมด supplier ที่อำนาจต่อรองสูงไปอีก1 :)
กำไรลดลงชั่วคราวบ้าง เดี๋ยวก็หาจุดอื่นมาทดแทนได้
แต่โดนมาเฟียกดหัว มันกดตลอดไม่ได้ผุด
เป็นผลดีในระยะยาวว่าหมด supplier ที่อำนาจต่อรองสูงไปอีก1 :)
หุ้นเงียบๆในวันนี้จะโด่งดังในปีหน้า
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 8
หนังสือพิมพ์ปกติเขาน่าจะซื้อกันตามแผงหนังสือนะครับผมว่า
ยกเว้นพวกหนังสือพิมพ์ธุรกิจทั้งหลายแหละครับที่จะซื้อที่ SE-ED เห็นกำไร
SE-ED ไตรมาสที่ผ่านมากะว่ากลับบ้านจะมาดู เผื่อว่าจะได้ของดีๆ
ราคาโอเคติดไม้ติดมือ ใครลากไปเนี่ย เซ็งอีกแล้ว
ว่าแต่ตอนนี้พวกหนังสือมีสัน วาง SE-ED ตามปกติแล้วใช่ไหมครับ
ยกเว้นพวกหนังสือพิมพ์ธุรกิจทั้งหลายแหละครับที่จะซื้อที่ SE-ED เห็นกำไร
SE-ED ไตรมาสที่ผ่านมากะว่ากลับบ้านจะมาดู เผื่อว่าจะได้ของดีๆ
ราคาโอเคติดไม้ติดมือ ใครลากไปเนี่ย เซ็งอีกแล้ว
ว่าแต่ตอนนี้พวกหนังสือมีสัน วาง SE-ED ตามปกติแล้วใช่ไหมครับ
_________
-
- Verified User
- โพสต์: 260
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 9
นสพ.ทำไปได้ สงสัย tick ละ 0.001 บาทอะครับ :lol:Eto Demerzel เขียน: ลดเยอะจริงๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 190
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 10
นึกถึงเรื่องนี้ครับ
ใครพอจำได้บ้าง
ว่าตอนนั้น รู้สึกอย่างไรบ้าง
แล้วตอนจบเป็นอย่างไร
http://www.adassothai.com/html/posttoda ... _01_01.htm
ใครพอจำได้บ้าง
ว่าตอนนั้น รู้สึกอย่างไรบ้าง
แล้วตอนจบเป็นอย่างไร
http://www.adassothai.com/html/posttoda ... _01_01.htm
- ISUZU
- Verified User
- โพสต์: 179
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 12
หัวข่าววันพรุ่งนี้...ฐานเศรษฐกิจ ทั้งนี้หลังข่าวหนังสือพิมพ์และบริษัทรวมห่อประกาศบอยคอตต์บมจ.ซีเอ็ด คลี่คลาย (เดาล้วนๆ) :D ปรากฎว่าราคาหุ้น SE-ED ปรับเพิ่มอย่างฮวบฮาบ จากเดิมที่ราคาเฉลี่ยอยู่ระดับราคา 7.30 บาทต่อหุ้น มาอยู่ที่ระดับราคาเฉลี่ย 7.80 บาทต่อหุ้นฐานเศรษฐกิจ เขียน: ทั้งนี้หลังข่าวหนังสือพิมพ์และบริษัทรวมห่อประกาศบอยคอตต์บมจ.ซีเอ็ดปรากฎว่าราคาหุ้น SE-ED ปรับลดลงอย่างฮวบฮาบ จากเดิมที่ราคาเฉลี่ยอยู่เหนือระดับราคา 7.40 บาทต่อหุ้นลงมาอยู่ที่ใต้ระดับราคาเฉลี่ย 7.30 บาทต่อหุ้น
55555 อยากจะบ้าตาย... (ว่าแต่ใครในนี้มาแอบดันหรือเปล่า... สารภาพมาซะ) :'O
-
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 13
ผมใปหัด Decode ในกระทู้ซ้ายๆขวาๆ มากเข้า ชักจะเริ่มออกอาการดร.นิเวศน์ เขียน:
อำนาจในการตัดสินใจว่าระบบการจำหน่ายสินค้าควรจะเป็นอย่างไรในเมืองไทยนั้น ยังอยู่กับคนอีกหลาย ๆ ฝ่ายซึ่งรวมถึง รัฐบาล นักกิจกรรมการเมือง และอำนาจ "ใต้ดิน" " เหนือดิน" อีกมากมาย แต่ในระยะยาวแล้ว ผมคิดว่าผู้จำหน่ายจะเป็นผู้ชนะและจะเติบโตต่อไป
- house
- Verified User
- โพสต์: 683
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 14
แอบดันอะไรล่ะครับ ว่าจะเก็บเพิ่มซักหน่อยแล้วราคาแล้วสะดุ้งเลยISUZU เขียน: (ว่าแต่ใครในนี้มาแอบดันหรือเปล่า... สารภาพมาซะ) :'O
ยังดีกว่าน้อง bol รายนั้นสองอาทิตย์หลังนี่ร้อนมาก มือจะพองแล้วเนี่ย
ทำให้เต็มที่ เพื่อจะไม่เสียใจภายหลัง
-
- Verified User
- โพสต์: 86
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 16
พอดีเห็นคุณ june1500 และคุณ Eto Demerzel คุยกันเรื่อง SE-ED พอดีผมเคยเล่าข้อมูลเรื่องเหล่านี้มาบ้างในกระทู้ SE-ED ใน "ร้อยคนร้อยหุ้น" จึงขออนุญาตเข้ามาเสริม
เส้นทางเดินของสินค้าพวกนิตยสาร น่าจะเป็นอย่างนี้นะ (ถ้าไม่ถูกก็เชิญท่านผู้รู้มาเพิ่มเติมกันหน่อยนะ)
ผู้ผลิตนิตยสาร ---> รวมห่อ (หรือผู้รับจัดจำหน่าย) ซึ่งนิตยสารเล่มนึงจะมีแค่รวมห่อเดียว แต่รวมห่อนึงรับจัดจำหน่ายหลายชื่อ ---> เอเย่นต์ในกรุงเทพ และต่างจังหวัด ที่รับสินค้ามาจากหลายรวมห่อ แล้วมากระจายลงร้านค้าในพื้นที่ของตน ---> ร้านหนังสือ หรือแผงลอย ที่มักจะรับสินค้าทั้งหมดจากเอเย่นต์รายเดียว เพื่อความสะดวกในการรับ และคืนสินค้า
ในความหมายนี้ กานดา คือเอเย่นต์ในเขตกรุงเทพ ที่ต้องแข่งขันกับเอเย่นต์รายอื่นในการได้ร้านค้ามาอยู่ในความรับผิดชอบขอบตน
กานดาไม่ใช่บริษัทที่ SE-ED ตั้งขึ้นมานะครับ เป็นเอเย่นต์อาชีพรายหนึ่ง เดี๋ยวจะเข้าใจผิดไปใหญ่ คนละองค์กรกันครับ
ลองมาอ่านความเห็นของกระทู้หนึ่งในเวบบอร์ดผู้จัดการครับ คงได้เค้าว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ความคิดเห็นที่ : 14 โดยคุณ : เอเย่นต์หัวใหม่
♣ เกมนี้ หัวเขียว พยายามสกัดดาวรุ่ง โดยหาเหตุต่างๆนาๆ มารังแกซีเอ็ด โดยบีบเอเย่นต์ต่างจังหวัดอย่างพวกเรา ให้ต้องงดส่งหนังสือพิมพ์และนิตยสารแก่ร้านซีเอ็ด โดยอ้างว่าซีเอ็ดไปบีบส่วนลดบ้าง ไปข้ามเขตเอเย่นต์บ้าง และตั้งเงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ให้ซีเอ็ดต้องทำตาม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ซีเอ็ดจะทำตาม แล้วมาบอกคนอื่นว่าเอเย่นต์ไม่อยากค้าขายกับซีเอ็ด
อันที่จริง พวกเราชาวเอเย่นต์ต่างจังหวัดต้องการค้าขายกับซีเอ็ด เพราะที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไรกันเลย แต่เราถูกบังคับให้ต้องมาบีบซีเอ็ด ซึ่งเป็นคู่ค้าที่ดี จ่ายเงินตรงตามกำหนด
พวกเราบางคน ไม่เห็นด้วย ไม่ยอมทำตาม อย่างลุงทวี ที่ร้านประณอม ชลบุรี ก็โดนแล้วเสียงอมพระราม หัวเขียวปากบอกว่าใครอยากค้าขายกับซีเอ็ดก็ทำไป ไม่ว่ากัน เป็นเรื่องของแต่ละคน แต่พอลุงทวียังส่งซีเอ็ดอยู่ ก็แกล้งกันแบบที่น่าเกลียดเอามากๆ จนทุกคนในวงการสงสารลุงทวี และป้าประณอม ที่ถูกรังแกแบบนั้น มีอย่างที่ไหน ลดยอดหนังสือพิมพ์ของตนจากหกพันกว่าฉบับต่อวัน เหลือเพียง 20 ฉบับ แถมเอารถบรรทุกขนหนังสือพิมพ์ของตนไปจอดหน้าร้านประณอม และเปิดท้ายขายหนังสือพิมพ์หัวเขียว แล้วยังเปิดเอเย่นต์ใหม่ จากนั้นดึงซับเอเย่นต์ไม่ให้ไปรับจากร้านประณอม
เรียกว่าแกลังกันทุกรูปแบบ จนทุกคนสงสาร
แต่ลุงทวี และป้าประณอม กลับบอกพวกเราว่า ลุงเลือกทางเดินของลุงเอง ลุงมีความสุขที่ได้ทำอย่างที่ควรทำ ลุงปลดแอกจากหัวเขียวแล้ว ลุงมีความสุข พวกเธอซิ ยังติดแอกกันอยู่
พวกเราชาวเอเย่นต์ไม่มีใครกล้าหือยักษ์หัวเขียว เพราะเขาขู่กันรายวัน แต่งเรื่องยกเมฆหลอกพวกเราไปเรื่อยๆ เพื่อให้พวกเรากลัว ซึ่งก็ได้ผล เพราะพวกเรากลัวกันจริงๆ
พวกเราบางคนอยากจะแหกคอก หัวเขียวรู้เรื่อง ก็เรียกพวกเราไปกล่อม ทั้งปลอบทั้งขู่ตั้งแต่เย็นยันเช้า ไม่ยอมให้พวกเรากลับ จนพวกเราไม่กล้ากันหมด
พวกเราไม่มีทางออก จึงขอมาระบายที่นี่หน่อยนะ
คงพอได้เค้าบ้างแล้วนะครับ
ผมคิดว่าสงครามที่เกิดขึ้นตอนนี้ ก็มาจากความกลัวของพวกรายใหญ่ว่าดาวรุ่งจะใหญ่เกินไปจนหากปล่อยไปอาจจะสั่งกันไม่ได้ เพราะบังเอิญธุรกิจนี้ยังมีเรื่องการห้ามข้ามเขตกันอยู่ ยังมีเรื่องอิทธิพลกันอยู่ เพียงแต่ดาวรุ่งที่ว่านี้ คือ กานดา หรือ SE-ED เท่านั้นเองที่กำลังถูกสกัด เพราะพออ่านข่าวหนังสือพิมพ์หลายฉบับมาปะติดปะต่อเรื่องกัน น้ำหนักกลายเป็นว่าไปอยู่ที่การสกัดกานดา ไม่ใช่การสกัด SE-ED !!
เพียงแต่จะสกัดกานดาให้อยู่หมัด ต้องสกัด SE-ED ไม่ให้ไปยุ่งกับกานดา เพื่อโดดเดี่ยวกานดาให้ได้
นี่วิเคราะห์ตามเนื้อผ้านะครับ สลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนหน่อย
เส้นทางเดินของสินค้าพวกนิตยสาร น่าจะเป็นอย่างนี้นะ (ถ้าไม่ถูกก็เชิญท่านผู้รู้มาเพิ่มเติมกันหน่อยนะ)
ผู้ผลิตนิตยสาร ---> รวมห่อ (หรือผู้รับจัดจำหน่าย) ซึ่งนิตยสารเล่มนึงจะมีแค่รวมห่อเดียว แต่รวมห่อนึงรับจัดจำหน่ายหลายชื่อ ---> เอเย่นต์ในกรุงเทพ และต่างจังหวัด ที่รับสินค้ามาจากหลายรวมห่อ แล้วมากระจายลงร้านค้าในพื้นที่ของตน ---> ร้านหนังสือ หรือแผงลอย ที่มักจะรับสินค้าทั้งหมดจากเอเย่นต์รายเดียว เพื่อความสะดวกในการรับ และคืนสินค้า
ในความหมายนี้ กานดา คือเอเย่นต์ในเขตกรุงเทพ ที่ต้องแข่งขันกับเอเย่นต์รายอื่นในการได้ร้านค้ามาอยู่ในความรับผิดชอบขอบตน
กานดาไม่ใช่บริษัทที่ SE-ED ตั้งขึ้นมานะครับ เป็นเอเย่นต์อาชีพรายหนึ่ง เดี๋ยวจะเข้าใจผิดไปใหญ่ คนละองค์กรกันครับ
ลองมาอ่านความเห็นของกระทู้หนึ่งในเวบบอร์ดผู้จัดการครับ คงได้เค้าว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ความคิดเห็นที่ : 14 โดยคุณ : เอเย่นต์หัวใหม่
♣ เกมนี้ หัวเขียว พยายามสกัดดาวรุ่ง โดยหาเหตุต่างๆนาๆ มารังแกซีเอ็ด โดยบีบเอเย่นต์ต่างจังหวัดอย่างพวกเรา ให้ต้องงดส่งหนังสือพิมพ์และนิตยสารแก่ร้านซีเอ็ด โดยอ้างว่าซีเอ็ดไปบีบส่วนลดบ้าง ไปข้ามเขตเอเย่นต์บ้าง และตั้งเงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ให้ซีเอ็ดต้องทำตาม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ซีเอ็ดจะทำตาม แล้วมาบอกคนอื่นว่าเอเย่นต์ไม่อยากค้าขายกับซีเอ็ด
อันที่จริง พวกเราชาวเอเย่นต์ต่างจังหวัดต้องการค้าขายกับซีเอ็ด เพราะที่ผ่านมาไม่มีปัญหาอะไรกันเลย แต่เราถูกบังคับให้ต้องมาบีบซีเอ็ด ซึ่งเป็นคู่ค้าที่ดี จ่ายเงินตรงตามกำหนด
พวกเราบางคน ไม่เห็นด้วย ไม่ยอมทำตาม อย่างลุงทวี ที่ร้านประณอม ชลบุรี ก็โดนแล้วเสียงอมพระราม หัวเขียวปากบอกว่าใครอยากค้าขายกับซีเอ็ดก็ทำไป ไม่ว่ากัน เป็นเรื่องของแต่ละคน แต่พอลุงทวียังส่งซีเอ็ดอยู่ ก็แกล้งกันแบบที่น่าเกลียดเอามากๆ จนทุกคนในวงการสงสารลุงทวี และป้าประณอม ที่ถูกรังแกแบบนั้น มีอย่างที่ไหน ลดยอดหนังสือพิมพ์ของตนจากหกพันกว่าฉบับต่อวัน เหลือเพียง 20 ฉบับ แถมเอารถบรรทุกขนหนังสือพิมพ์ของตนไปจอดหน้าร้านประณอม และเปิดท้ายขายหนังสือพิมพ์หัวเขียว แล้วยังเปิดเอเย่นต์ใหม่ จากนั้นดึงซับเอเย่นต์ไม่ให้ไปรับจากร้านประณอม
เรียกว่าแกลังกันทุกรูปแบบ จนทุกคนสงสาร
แต่ลุงทวี และป้าประณอม กลับบอกพวกเราว่า ลุงเลือกทางเดินของลุงเอง ลุงมีความสุขที่ได้ทำอย่างที่ควรทำ ลุงปลดแอกจากหัวเขียวแล้ว ลุงมีความสุข พวกเธอซิ ยังติดแอกกันอยู่
พวกเราชาวเอเย่นต์ไม่มีใครกล้าหือยักษ์หัวเขียว เพราะเขาขู่กันรายวัน แต่งเรื่องยกเมฆหลอกพวกเราไปเรื่อยๆ เพื่อให้พวกเรากลัว ซึ่งก็ได้ผล เพราะพวกเรากลัวกันจริงๆ
พวกเราบางคนอยากจะแหกคอก หัวเขียวรู้เรื่อง ก็เรียกพวกเราไปกล่อม ทั้งปลอบทั้งขู่ตั้งแต่เย็นยันเช้า ไม่ยอมให้พวกเรากลับ จนพวกเราไม่กล้ากันหมด
พวกเราไม่มีทางออก จึงขอมาระบายที่นี่หน่อยนะ
คงพอได้เค้าบ้างแล้วนะครับ
ผมคิดว่าสงครามที่เกิดขึ้นตอนนี้ ก็มาจากความกลัวของพวกรายใหญ่ว่าดาวรุ่งจะใหญ่เกินไปจนหากปล่อยไปอาจจะสั่งกันไม่ได้ เพราะบังเอิญธุรกิจนี้ยังมีเรื่องการห้ามข้ามเขตกันอยู่ ยังมีเรื่องอิทธิพลกันอยู่ เพียงแต่ดาวรุ่งที่ว่านี้ คือ กานดา หรือ SE-ED เท่านั้นเองที่กำลังถูกสกัด เพราะพออ่านข่าวหนังสือพิมพ์หลายฉบับมาปะติดปะต่อเรื่องกัน น้ำหนักกลายเป็นว่าไปอยู่ที่การสกัดกานดา ไม่ใช่การสกัด SE-ED !!
เพียงแต่จะสกัดกานดาให้อยู่หมัด ต้องสกัด SE-ED ไม่ให้ไปยุ่งกับกานดา เพื่อโดดเดี่ยวกานดาให้ได้
นี่วิเคราะห์ตามเนื้อผ้านะครับ สลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนหน่อย
- stp
- Verified User
- โพสต์: 252
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 18
SE-ED ไม้ได้โตมาจากไทยรัฐ
ผมก็เห็นเขาขายหนังสือมาตั้งนานแล้ว แรกสุดก็พวกหนังสือวิชาการทางสายช่าง
จนมาเปิดร้านเต็มไปหมด ผมไม่คิดว่าจะกระทบอะไรมากหรอกครับ
ที่จริงผู้ซื้อกับผู้ผลิต ในความคิดผมน้ำหนักน่าจะลงที่ SE-ED มากกว่าด้วยซ้ำ
นานๆไป ต้องดูว่าใครจะยกธงก่อนครับ
ผมก็เห็นเขาขายหนังสือมาตั้งนานแล้ว แรกสุดก็พวกหนังสือวิชาการทางสายช่าง
จนมาเปิดร้านเต็มไปหมด ผมไม่คิดว่าจะกระทบอะไรมากหรอกครับ
ที่จริงผู้ซื้อกับผู้ผลิต ในความคิดผมน้ำหนักน่าจะลงที่ SE-ED มากกว่าด้วยซ้ำ
นานๆไป ต้องดูว่าใครจะยกธงก่อนครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 767
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 20
เมื่อวานไปซื้อ หนังสือที่ Se-ed เห็นหนังสือพิมพ์ ที่มีขาย
มติชน เดลินิวส์ คมชัดลึก ไม่มีพวก ไทยรัฐ
จะว่าไป สำหรับผม se-ed คงไม่สะเทือนมากนะครับ เพราะผมเห็น คนซื้อส่วนใหญ่ ก็ซือ หนังสือ อื่น ที่ไม่ใช่หนังสือพิมพ์ซะส่วนใหญ่
ศึกนี้ คงต้องดูกันยาวๆ
ปล ผมไม่ค่อย ชอบไทยรัฐซะเท่าไหร่ด้วยสิ นิสัยมาเฟียมาแต่ไหนแต่ไร
คนขับรถ ส่งหนังสือพิมพ์นี่ ของบอกว่า มารยาท การขับรถ ทรามมาก
มติชน เดลินิวส์ คมชัดลึก ไม่มีพวก ไทยรัฐ
จะว่าไป สำหรับผม se-ed คงไม่สะเทือนมากนะครับ เพราะผมเห็น คนซื้อส่วนใหญ่ ก็ซือ หนังสือ อื่น ที่ไม่ใช่หนังสือพิมพ์ซะส่วนใหญ่
ศึกนี้ คงต้องดูกันยาวๆ
ปล ผมไม่ค่อย ชอบไทยรัฐซะเท่าไหร่ด้วยสิ นิสัยมาเฟียมาแต่ไหนแต่ไร
คนขับรถ ส่งหนังสือพิมพ์นี่ ของบอกว่า มารยาท การขับรถ ทรามมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 341
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 22
จากข่าวที่ออกมาบอกว่าซีเอ็ดสูญรายได้วันละ 500,000 บาท
งั้นก็สูญเดือนละ 15 ล้านบาท
ปีละ 180 ล้านบาท
ถือว่าเยอะมั้ยเนี่ย :?
งั้นก็สูญเดือนละ 15 ล้านบาท
ปีละ 180 ล้านบาท
ถือว่าเยอะมั้ยเนี่ย :?
-
- Verified User
- โพสต์: 86
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 24
มีข่าวลงหนังสือพิมพ์ (ถ้าจำไม่ผิด เข้าใจว่าจะเป็นมติชน หรือประชาชาคิธุรกิจ) ว่า SE-ED เสียหายจากยอดขายหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร ในต่างจังหวัด วันละประมาณ 500,000 บาท ตั้งแต่ 16 ต.ค. เป็นต้นไป ก็เท่ากับเสียหายไปประมาณ 38 ล้านบาทในปีนี้
หากเทียบกับเป้าหมายยอดขายของ SE-ED ในปีนี้ที่ 3,600-3,800 ล้านบาท ก็เท่ากับว่าลดลงไปประมาณไม่เกิน 1% ของยอดขายปีนี้
แต่ถ้าคิดว่ากำไรขั้นต้นสุทธิ (ตามข่าว) ของส่วนนี้เป็น 15% และมีภาษีนิติบุคคลอีก 25% ก็เท่ากับว่ากำไรสุทธิหลังภาษีลดลง 4.3 ล้านบาท
แต่ตามข่าวในหนังสือพิมพ์บอกว่า SE-ED ไม่ได้ยอมให้ยอดขาย และกำไรสุทธิลดลงตามนี้ทั้งหมด เพราะ SE-ED ได้จัดสินค้าที่มีสภาพการทำกำไรดีกว่ามาขายเพิ่มเติมแทนที่บนชั้นที่วางหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร (พอดีผมอยู่กรุงเทพ เลยไม่รู้ว่า SE-ED เอาอะไรมาขายชดเชยยอดขายแทนที่ในสาขาต่างจังหวัด ใครที่อยู่ต่างจังหวัดช่วย post มาบอกด้วยก็แล้วกัน)
ทีนี้กับคำถามว่า ทำไม SE-ED จึงแต่งตั้งกานดา เป็นผู้จัดส่งหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร แต่ผู้เดียว ?? ผมเข้าใจว่า หนังสือพิมพ์คงลงข่าวผิด ที่จริงน่าจะเป็นว่า กานดาเป็นรายใหญ่รายหนึ่งในเขตกรุงเทพ แต่คงไม่ใช่รายเดียว เพราะอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง บอกว่า เรื่องราวที่บานปลายมานี้ เกิดจากวันที่ 20 ก.ย. (หลังวันรัฐประหาร) หนังสือพิมพ์ไทยรัฐออกช้ากว่าฉบับอื่นหลายชั่วโมง กานดาซึ่งเป็นคนส่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐให้กับร้านซีเอ็ดจำนวนหนึ่ง (ถ้าจำไม่ผิด น่าจะราว 5-10 สาขา จำไม่ได้แน่ขัด) ไม่ยอมคอย ทำให้ไทยรัฐไม่พอใจ และสั่งงดส่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐให้ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ทั้งประเทศกว่า 200 สาขา
ตามข่าวบอกว่า ผู้บริหารของ SE-ED พยายามขอเข้าพบเพื่อชี้แจง แต่ทางผู้รับผิดชอบของไทยรัฐไม่ยอมให้เข้าพบ เพราะต้องการลงโทษ SE-ED ให้ดูเป็นเยี่ยงอย่าง
ทีนี้ถ้าเดาต่อ ว่าทำไมเหตุการณ์บานปลาย ก็เดาว่า เพราะงดส่งก็แล้ว คงเห็นว่า SE-ED ยังไม่เดือดร้อน แถมหนังสือพิมพ์อื่นคงขายดีขึ้นอย่างชัดเจน จึงสั่งเอเย่นต์งดส่งหนังสือพิมพ์อื่น และนิตยสารทั้งหมด ตามที่ผมได้ copy กระทู้จากเวบไซต์ผู้จัดการมาก่อนหน้านี้
มาช่วยเล่า + เดา เสริมได้เท่านี้ครับ
หากเทียบกับเป้าหมายยอดขายของ SE-ED ในปีนี้ที่ 3,600-3,800 ล้านบาท ก็เท่ากับว่าลดลงไปประมาณไม่เกิน 1% ของยอดขายปีนี้
แต่ถ้าคิดว่ากำไรขั้นต้นสุทธิ (ตามข่าว) ของส่วนนี้เป็น 15% และมีภาษีนิติบุคคลอีก 25% ก็เท่ากับว่ากำไรสุทธิหลังภาษีลดลง 4.3 ล้านบาท
แต่ตามข่าวในหนังสือพิมพ์บอกว่า SE-ED ไม่ได้ยอมให้ยอดขาย และกำไรสุทธิลดลงตามนี้ทั้งหมด เพราะ SE-ED ได้จัดสินค้าที่มีสภาพการทำกำไรดีกว่ามาขายเพิ่มเติมแทนที่บนชั้นที่วางหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร (พอดีผมอยู่กรุงเทพ เลยไม่รู้ว่า SE-ED เอาอะไรมาขายชดเชยยอดขายแทนที่ในสาขาต่างจังหวัด ใครที่อยู่ต่างจังหวัดช่วย post มาบอกด้วยก็แล้วกัน)
ทีนี้กับคำถามว่า ทำไม SE-ED จึงแต่งตั้งกานดา เป็นผู้จัดส่งหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร แต่ผู้เดียว ?? ผมเข้าใจว่า หนังสือพิมพ์คงลงข่าวผิด ที่จริงน่าจะเป็นว่า กานดาเป็นรายใหญ่รายหนึ่งในเขตกรุงเทพ แต่คงไม่ใช่รายเดียว เพราะอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง บอกว่า เรื่องราวที่บานปลายมานี้ เกิดจากวันที่ 20 ก.ย. (หลังวันรัฐประหาร) หนังสือพิมพ์ไทยรัฐออกช้ากว่าฉบับอื่นหลายชั่วโมง กานดาซึ่งเป็นคนส่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐให้กับร้านซีเอ็ดจำนวนหนึ่ง (ถ้าจำไม่ผิด น่าจะราว 5-10 สาขา จำไม่ได้แน่ขัด) ไม่ยอมคอย ทำให้ไทยรัฐไม่พอใจ และสั่งงดส่งหนังสือพิมพ์ไทยรัฐให้ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ทั้งประเทศกว่า 200 สาขา
ตามข่าวบอกว่า ผู้บริหารของ SE-ED พยายามขอเข้าพบเพื่อชี้แจง แต่ทางผู้รับผิดชอบของไทยรัฐไม่ยอมให้เข้าพบ เพราะต้องการลงโทษ SE-ED ให้ดูเป็นเยี่ยงอย่าง
ทีนี้ถ้าเดาต่อ ว่าทำไมเหตุการณ์บานปลาย ก็เดาว่า เพราะงดส่งก็แล้ว คงเห็นว่า SE-ED ยังไม่เดือดร้อน แถมหนังสือพิมพ์อื่นคงขายดีขึ้นอย่างชัดเจน จึงสั่งเอเย่นต์งดส่งหนังสือพิมพ์อื่น และนิตยสารทั้งหมด ตามที่ผมได้ copy กระทู้จากเวบไซต์ผู้จัดการมาก่อนหน้านี้
มาช่วยเล่า + เดา เสริมได้เท่านี้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 86
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 25
ซีเอ็ดจัดระบบสายส่ง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤศจิกายน 2549 11:08 น.
ซีเอ็ดงัดลูกอ้อนเหล่าสำนักพิมพ์ หวังให้ส่งหนังสือถึงศูนย์กระจายสินค้าของซีเอ็ดบุ๊ค เซ็นเตอร์โดยตรง หลังถูกหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่คว่ำบาตรขอร้องให้เอเย่นต์ทั่วประเทศงดส่งหนังสือพิมพ์และนิตยสารให้ร้านซีเอ็ดในต่างจังหวัดทุกสาขา ล่าสุด 1 พ.ย.นี้ เหตุการณ์ได้ลามเข้าสู่กรุงเทพฯ เผยรายได้หายไปกว่าวันละ 5 แสนบาทหลังถูกกีดกันในการจำหน่ายสินค้าตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.เป็นต้นมา แต่ยังเชื่อมั่นรายได้รวมยังเป็นไปตามเป้าที่ 3,800 ล้านบาท
วานนี้ (1 พ.ย.) บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เชิญสำนักพิมพ์ต่างๆกว่า 100 สำนักพิมพ์ เข้าร่วมฟังถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ที่ทางซีเอ็ด ประสบปัญหาในการจัดหาหนังสือพิมพ์และนิตยสารเข้ามาจำหน่ายในร้านไม่ได้
นายทนง โชติสรยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเริ่มขึ้นจากหลังวันปฏิวัติ คือวันที่ 20 ก.ย. นั้น มีหนังสือพิมพ์หัวใหญ่ฉบับหนึ่งที่ออกหนังสือพิมพ์ช้า ทำให้เอเย่นต์บางรายต้องมีการส่งหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นๆออกไปยังร้านหนังสือต่างๆก่อน เพราะไม่มั่นใจว่าหนังสือพิมพ์หัวดังกล่าวจะออกทันหรือไม่ ผลปรากฏว่าในวันนั้นร้านหนังสือซีเอ็ดที่ไม่มีหนังสือพิมพ์หัวดังกล่าวจำหน่ายมีเพียง 9 สาขา จากจำนวน 210 สาขาทั่วประเทศ และนั่นคงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่หัวดังกล่าวเกิดความไม่พอใจ จึงได้มีการขอร้องให้ทางเอเย่นต์ในต่างจังหวัดทั้งหมด หยุดการส่งหนังสือพิมพ์และนิตยสารให้กับร้านซีเอ็ดทุกสาขาในต่างจังหวัด
โดยในวันที่ 26 ก.ย. 2549 บริษัทฯได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากทางเอเย่นต์ที่จัดส่งสินค้าว่า หลังจากวันที่ 1 ต.ค.นี้ จะไม่มีหนังสือพิมพ์ชั้นนำจำหน่ายทั่วประเทศ ทำให้ทางบริษัทฯได้มีการประสานงาน ขอเข้าพบผู้บริหารของหนังสือพิมพ์ดังกล่าว เพื่อชี้แจงความขัดแย้งที่เกิดขึ้น แต่ได้รับการปฎิเสธในการขอเข้าพบ
ในเวลาต่อมา ระหว่างวันที่ 13-14 ตุ.ค. ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวออกมาว่า หนังสือพิมพ์หัวดังกล่าว ต้องการจัดระเบียบร้านหนังสือที่อยู่ในกลุ่มโมเดิร์นเทรดเพื่อจัดระเบียบให้ง่ายขึ้น โดยได้มีการขอร้องให้เอเย่นต์งดการส่งนิตยสารและหนังสือพิมพ์ให้กับร้านซีเอ็ดทั้งหมดในต่างจังหวัด ซึ่งในขณะนี้กำลังลามเข้าสู่กรุงเทพมหานครแล้ว
นายทนง กล่าวต่อว่า ทางบริษัทฯได้พยายามที่จะประสานงานไปทางเอเย่นต์เช่นเดียวกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ถึงแม้จะมีบางรายที่ยังมีความต้องการที่จะส่งหนังสือพิมพ์และนิตยสารให้กับซีเอ็ด แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะได้รับการขอร้องจากหนังสือพิมพ์หัวใหญ่ดังกล่าวนั้นเอง แต่ทั้งนี้ทางเอเย่นต์เสนอแนวทางแก้ไขให้ด้วยว่า ให้ทางบริษัทฯปรึกษากับทางสำนักพิมพ์โดยตรงว่ามีความประสงค์ที่จะส่งสินค้าให้กับซีเอ็ดหรือไม่ ถ้ามีความต้องการอยู่ ทางเอเย่นต์ก็จะจัดส่งให้ แต่ถ้าไม่สามารถจัดส่งให้ได้จริงๆ ทางสำนักพิมพ์จะต้องเห็นผู้จัดส่งสินค้าให้กับซีเอ็ดโดยตรง
ไม่อยากเชื่อว่า ในสังคมการค้าเสรีแบบนี้ จะมีใครบางคน ที่สามารถกำหนดได้ว่า จะให้เอเย่นต์ทั่วประเทศ ส่งสินค้าให้ใครหรือไม่ให้ใครก็ได้ และสามารถบอกให้ร้านหนังสือจะขายอะไร หรือไม่ให้ขายอะไรก็ได้ ในวันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น จะเป็นลบหรือเป็นบวกก็ตาม เพียงแค่สำนักพิมพ์ต่างๆร่วมกันทำให้ส่วนรวมเจริญก้าวหน้า วงการสิ่งพิมพ์ก็จะแข็งแรง ยั่งยืน ต่อไป
ดังนั้นการเชิญให้มารับฟังสถานการณ์ในวันนี้ ก็เพื่อต้องการทราบถึงความต้องการของแต่ละสำนักพิมพ์ในครั้งนี้ว่า มีความประสงค์ที่จะส่งนิตยสารให้กับร้านซีเอ็ดอยู่หรือไม่ ถ้าต้องการก็ให้กรอกแบบสอบถามและส่งมาที่บริษัทฯ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ทางด้านบริษัทฯเองนั้น มีแผนที่จะปรับศูนย์กระจายหนังสือ ซีเอ็ด บุ๊ค เซ็นเตอร์ที่มีอยู่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการระบบการกระจายสินค้าให้ดีขึ้น โดยทางสำนักพิมพ์ต่างๆเพียงส่งสินค้าตรงมายังศูนย์กระจายหนังสือเท่านั้น และทางศูนย์ จะเป็นผู้ทำการกระจายไปทั่วประเทศเองทั้งหมด ซึ่งช่วงแรกๆของการดำเนินงานอาจเกิดอุปสรรคบ้าง แต่มั่นใจว่าจะดำเนินการได้สมบูรณ์ในระยะเวลาไม่นาน
สำหรับสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น ส่งผลกระทบให้บริษัทฯขาดรายได้ไปกว่าวันละ 5 แสนบาท ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่เกิดจากการไม่มีการจำหน่ายหนังสือพิมพ์และนิตยสาร แต่ทางบริษัทฯได้ดำเนินการแก้ไขในเบื้องต้นไปแล้ว ด้วยการนำเอาพ๊อกเก็ตบุ๊ก มาวางจำหน่ายแทนที่ ซึ่งนิตยสารที่หายไปจากแผงนั้น ประมาณการณ์ไว้ที่ 600 กว่าหัว ส่วนหนังสือพิมพ์นั้น ยังคงมีสำนักพิมพ์หัวใหญ่ที่ยังคงให้ทางบริษัทฯจำหน่ายให้อยู่ เช่น เครือมติชน เดลินิวส์ คมชัดลึก แต่สำหรับสยามสปอร์ต มีกระแสข่าวออกมาว่าจะเริ่มมีการงดส่งบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ยังเชื่อมั่นว่า บริษัทฯจะยังคงมีรายได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้คือ 3,600-3,800 ล้านบาท
อ่านข่าวข้างบนแล้ว คงได้ข้อมูลชัดเจนขึ้น
เหตุที่หนังสือพิมพ์รายใหญ่สั่งให้งดส่งอะไรก็ได้นั้น น่าจะเป็นเพราะมีกลไกควบคุมเอเย่นต์ได้ครับ เหมือนอย่างที่ตัดกระทู้มาเล่าในหัวข้อก่อนๆ ว่า เอเย่นต์รายใดไม่มีไทยรัฐขายนั้นคงเดือดร้อน ทีนี้เอเย่นต์เป็นตัวเชื่อมระหว่างรวมห่อ และแผงลอย ถ้าควบคุมเอเย่นต์ได้ทั้งประเทศ ก็ควบคุมรวมห่อได้ด้วยเช่นกัน เพราะสามารถสั่งเอเย่นต์ไม่ให้รับสินค้าจากรวมห่อไปขายทั่วประเทศได้
และนี่เอง ที่ทำให้หนังสือพิมพ์ฉบับอื่นต้องส่งตรงให้ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ (ตามข่าว)โดยไม่ผ่านระบบเอเย่นต์ เพราะระบบพิการไปแล้วสำหรับหนังสือพิมพ์ฉบับอื่น
และนี่เองที่ทำให้คุณสนธิ แห่งผู้จัดการโวยวายออกทาง ASTV ให้บอยคอตหนังสือพิมพ์รายใหญ่นั้น เพราะทำให้หนังสือพิมพ์ผู้จัดการไม่มีขายที่ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ไปด้วย
ซับซ้อนซ่อนเงื่อนหน่อยนะครับ
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤศจิกายน 2549 11:08 น.
ซีเอ็ดงัดลูกอ้อนเหล่าสำนักพิมพ์ หวังให้ส่งหนังสือถึงศูนย์กระจายสินค้าของซีเอ็ดบุ๊ค เซ็นเตอร์โดยตรง หลังถูกหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่คว่ำบาตรขอร้องให้เอเย่นต์ทั่วประเทศงดส่งหนังสือพิมพ์และนิตยสารให้ร้านซีเอ็ดในต่างจังหวัดทุกสาขา ล่าสุด 1 พ.ย.นี้ เหตุการณ์ได้ลามเข้าสู่กรุงเทพฯ เผยรายได้หายไปกว่าวันละ 5 แสนบาทหลังถูกกีดกันในการจำหน่ายสินค้าตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.เป็นต้นมา แต่ยังเชื่อมั่นรายได้รวมยังเป็นไปตามเป้าที่ 3,800 ล้านบาท
วานนี้ (1 พ.ย.) บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เชิญสำนักพิมพ์ต่างๆกว่า 100 สำนักพิมพ์ เข้าร่วมฟังถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ที่ทางซีเอ็ด ประสบปัญหาในการจัดหาหนังสือพิมพ์และนิตยสารเข้ามาจำหน่ายในร้านไม่ได้
นายทนง โชติสรยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเริ่มขึ้นจากหลังวันปฏิวัติ คือวันที่ 20 ก.ย. นั้น มีหนังสือพิมพ์หัวใหญ่ฉบับหนึ่งที่ออกหนังสือพิมพ์ช้า ทำให้เอเย่นต์บางรายต้องมีการส่งหนังสือพิมพ์ฉบับอื่นๆออกไปยังร้านหนังสือต่างๆก่อน เพราะไม่มั่นใจว่าหนังสือพิมพ์หัวดังกล่าวจะออกทันหรือไม่ ผลปรากฏว่าในวันนั้นร้านหนังสือซีเอ็ดที่ไม่มีหนังสือพิมพ์หัวดังกล่าวจำหน่ายมีเพียง 9 สาขา จากจำนวน 210 สาขาทั่วประเทศ และนั่นคงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้หนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่หัวดังกล่าวเกิดความไม่พอใจ จึงได้มีการขอร้องให้ทางเอเย่นต์ในต่างจังหวัดทั้งหมด หยุดการส่งหนังสือพิมพ์และนิตยสารให้กับร้านซีเอ็ดทุกสาขาในต่างจังหวัด
โดยในวันที่ 26 ก.ย. 2549 บริษัทฯได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากทางเอเย่นต์ที่จัดส่งสินค้าว่า หลังจากวันที่ 1 ต.ค.นี้ จะไม่มีหนังสือพิมพ์ชั้นนำจำหน่ายทั่วประเทศ ทำให้ทางบริษัทฯได้มีการประสานงาน ขอเข้าพบผู้บริหารของหนังสือพิมพ์ดังกล่าว เพื่อชี้แจงความขัดแย้งที่เกิดขึ้น แต่ได้รับการปฎิเสธในการขอเข้าพบ
ในเวลาต่อมา ระหว่างวันที่ 13-14 ตุ.ค. ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวออกมาว่า หนังสือพิมพ์หัวดังกล่าว ต้องการจัดระเบียบร้านหนังสือที่อยู่ในกลุ่มโมเดิร์นเทรดเพื่อจัดระเบียบให้ง่ายขึ้น โดยได้มีการขอร้องให้เอเย่นต์งดการส่งนิตยสารและหนังสือพิมพ์ให้กับร้านซีเอ็ดทั้งหมดในต่างจังหวัด ซึ่งในขณะนี้กำลังลามเข้าสู่กรุงเทพมหานครแล้ว
นายทนง กล่าวต่อว่า ทางบริษัทฯได้พยายามที่จะประสานงานไปทางเอเย่นต์เช่นเดียวกัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ถึงแม้จะมีบางรายที่ยังมีความต้องการที่จะส่งหนังสือพิมพ์และนิตยสารให้กับซีเอ็ด แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะได้รับการขอร้องจากหนังสือพิมพ์หัวใหญ่ดังกล่าวนั้นเอง แต่ทั้งนี้ทางเอเย่นต์เสนอแนวทางแก้ไขให้ด้วยว่า ให้ทางบริษัทฯปรึกษากับทางสำนักพิมพ์โดยตรงว่ามีความประสงค์ที่จะส่งสินค้าให้กับซีเอ็ดหรือไม่ ถ้ามีความต้องการอยู่ ทางเอเย่นต์ก็จะจัดส่งให้ แต่ถ้าไม่สามารถจัดส่งให้ได้จริงๆ ทางสำนักพิมพ์จะต้องเห็นผู้จัดส่งสินค้าให้กับซีเอ็ดโดยตรง
ไม่อยากเชื่อว่า ในสังคมการค้าเสรีแบบนี้ จะมีใครบางคน ที่สามารถกำหนดได้ว่า จะให้เอเย่นต์ทั่วประเทศ ส่งสินค้าให้ใครหรือไม่ให้ใครก็ได้ และสามารถบอกให้ร้านหนังสือจะขายอะไร หรือไม่ให้ขายอะไรก็ได้ ในวันนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น จะเป็นลบหรือเป็นบวกก็ตาม เพียงแค่สำนักพิมพ์ต่างๆร่วมกันทำให้ส่วนรวมเจริญก้าวหน้า วงการสิ่งพิมพ์ก็จะแข็งแรง ยั่งยืน ต่อไป
ดังนั้นการเชิญให้มารับฟังสถานการณ์ในวันนี้ ก็เพื่อต้องการทราบถึงความต้องการของแต่ละสำนักพิมพ์ในครั้งนี้ว่า มีความประสงค์ที่จะส่งนิตยสารให้กับร้านซีเอ็ดอยู่หรือไม่ ถ้าต้องการก็ให้กรอกแบบสอบถามและส่งมาที่บริษัทฯ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ทางด้านบริษัทฯเองนั้น มีแผนที่จะปรับศูนย์กระจายหนังสือ ซีเอ็ด บุ๊ค เซ็นเตอร์ที่มีอยู่ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการระบบการกระจายสินค้าให้ดีขึ้น โดยทางสำนักพิมพ์ต่างๆเพียงส่งสินค้าตรงมายังศูนย์กระจายหนังสือเท่านั้น และทางศูนย์ จะเป็นผู้ทำการกระจายไปทั่วประเทศเองทั้งหมด ซึ่งช่วงแรกๆของการดำเนินงานอาจเกิดอุปสรรคบ้าง แต่มั่นใจว่าจะดำเนินการได้สมบูรณ์ในระยะเวลาไม่นาน
สำหรับสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้น ส่งผลกระทบให้บริษัทฯขาดรายได้ไปกว่าวันละ 5 แสนบาท ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่เกิดจากการไม่มีการจำหน่ายหนังสือพิมพ์และนิตยสาร แต่ทางบริษัทฯได้ดำเนินการแก้ไขในเบื้องต้นไปแล้ว ด้วยการนำเอาพ๊อกเก็ตบุ๊ก มาวางจำหน่ายแทนที่ ซึ่งนิตยสารที่หายไปจากแผงนั้น ประมาณการณ์ไว้ที่ 600 กว่าหัว ส่วนหนังสือพิมพ์นั้น ยังคงมีสำนักพิมพ์หัวใหญ่ที่ยังคงให้ทางบริษัทฯจำหน่ายให้อยู่ เช่น เครือมติชน เดลินิวส์ คมชัดลึก แต่สำหรับสยามสปอร์ต มีกระแสข่าวออกมาว่าจะเริ่มมีการงดส่งบ้างแล้ว
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น ยังเชื่อมั่นว่า บริษัทฯจะยังคงมีรายได้เป็นไปตามเป้าที่วางไว้คือ 3,600-3,800 ล้านบาท
อ่านข่าวข้างบนแล้ว คงได้ข้อมูลชัดเจนขึ้น
เหตุที่หนังสือพิมพ์รายใหญ่สั่งให้งดส่งอะไรก็ได้นั้น น่าจะเป็นเพราะมีกลไกควบคุมเอเย่นต์ได้ครับ เหมือนอย่างที่ตัดกระทู้มาเล่าในหัวข้อก่อนๆ ว่า เอเย่นต์รายใดไม่มีไทยรัฐขายนั้นคงเดือดร้อน ทีนี้เอเย่นต์เป็นตัวเชื่อมระหว่างรวมห่อ และแผงลอย ถ้าควบคุมเอเย่นต์ได้ทั้งประเทศ ก็ควบคุมรวมห่อได้ด้วยเช่นกัน เพราะสามารถสั่งเอเย่นต์ไม่ให้รับสินค้าจากรวมห่อไปขายทั่วประเทศได้
และนี่เอง ที่ทำให้หนังสือพิมพ์ฉบับอื่นต้องส่งตรงให้ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ (ตามข่าว)โดยไม่ผ่านระบบเอเย่นต์ เพราะระบบพิการไปแล้วสำหรับหนังสือพิมพ์ฉบับอื่น
และนี่เองที่ทำให้คุณสนธิ แห่งผู้จัดการโวยวายออกทาง ASTV ให้บอยคอตหนังสือพิมพ์รายใหญ่นั้น เพราะทำให้หนังสือพิมพ์ผู้จัดการไม่มีขายที่ร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ไปด้วย
ซับซ้อนซ่อนเงื่อนหน่อยนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 86
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 28
ไทยรัฐเล่นแบบนี้เลยเหรอ มีไทยรัฐบนแผงห้ามมีคมชัดลึก!!!
เมื่อเช้าไปซื้อ นสพ.ที่ร้านประจำอยู่ฝั่งธน เจ้าของร้านต้องเดินไปหลังร้านหยิบมาขายให้ อย่างกับมาซื้อของหนีภาษี เลยถามว่าทำไมต้องเอาไปซ่อนหลังร้าน
เจ้าของร้านบอกว่าเซลที่มาส่ง นสพ.ไทยรัฐ บอกว่าถ้าจะเอาไทยรัฐไปขายก็ห้ามเอาคมชัดลึกมาขาย ถ้าจะขายคมชัดลึกบนแผงก็จะไม่ส่งไทยรัฐให้
ฟังแล้ว งงๆ ว่า 2 นสพ.นี่มันเกิดเรื่องอะไรกันขึ้นเหรอ ทำไมไม่ห้ามยี่ห้ออื่นด้วย ทำไมไทยรัฐต้องเจาะจง คมชัดลึก
แต่วันนี้นั่งรถผ่านร้านหนังสือตามข้างทางบางแผงก็ยังมี 2 ยี่ห้อนี้วางขายคู่กันอยู่ หรือว่ามันจะเลือกปฎิบัติบ้างร้าน - -"
ที่แน่ๆเจ้าของร้านที่ซื้อประจำบอกว่าพรึ่งนี้ถ้าจะซื้อ คมชัดลึก ให้ไปซื้อร้านอื่นที่ร้านเขาไม่อยากมีปัญหาเลยจะงดเอา คมชัดลึกมาขายซะงั้น
มีใครเจอแบบนี้บ้างไหม หรือเจ้าของร้านแถวบ้านผมมันมั่วนิ่มเลิกขายเนี่ย งงจริงๆ อยากรู้เรื่องจริงๆมันเป็นยังไงกัน
จากคุณ : DEDETE - [ 13 พ.ย. 49 12:32:05 ]
ข้างบนนี้ไปคัดลอกมาจากเวบบอร์ดของ pantip.com ถ้าใครสนใจไปอ่านรายละเอียดต่อที่ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/ ... 72665.html
เมื่อเช้าไปซื้อ นสพ.ที่ร้านประจำอยู่ฝั่งธน เจ้าของร้านต้องเดินไปหลังร้านหยิบมาขายให้ อย่างกับมาซื้อของหนีภาษี เลยถามว่าทำไมต้องเอาไปซ่อนหลังร้าน
เจ้าของร้านบอกว่าเซลที่มาส่ง นสพ.ไทยรัฐ บอกว่าถ้าจะเอาไทยรัฐไปขายก็ห้ามเอาคมชัดลึกมาขาย ถ้าจะขายคมชัดลึกบนแผงก็จะไม่ส่งไทยรัฐให้
ฟังแล้ว งงๆ ว่า 2 นสพ.นี่มันเกิดเรื่องอะไรกันขึ้นเหรอ ทำไมไม่ห้ามยี่ห้ออื่นด้วย ทำไมไทยรัฐต้องเจาะจง คมชัดลึก
แต่วันนี้นั่งรถผ่านร้านหนังสือตามข้างทางบางแผงก็ยังมี 2 ยี่ห้อนี้วางขายคู่กันอยู่ หรือว่ามันจะเลือกปฎิบัติบ้างร้าน - -"
ที่แน่ๆเจ้าของร้านที่ซื้อประจำบอกว่าพรึ่งนี้ถ้าจะซื้อ คมชัดลึก ให้ไปซื้อร้านอื่นที่ร้านเขาไม่อยากมีปัญหาเลยจะงดเอา คมชัดลึกมาขายซะงั้น
มีใครเจอแบบนี้บ้างไหม หรือเจ้าของร้านแถวบ้านผมมันมั่วนิ่มเลิกขายเนี่ย งงจริงๆ อยากรู้เรื่องจริงๆมันเป็นยังไงกัน
จากคุณ : DEDETE - [ 13 พ.ย. 49 12:32:05 ]
ข้างบนนี้ไปคัดลอกมาจากเวบบอร์ดของ pantip.com ถ้าใครสนใจไปอ่านรายละเอียดต่อที่ http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/ ... 72665.html
- house
- Verified User
- โพสต์: 683
- ผู้ติดตาม: 0
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 29
อันนี้ลอกมาจากความเห็นของเพื่อนผมที่เป็นสายส่งที่โพสต์ไว้ในบอร์ดรุ่นครับ
เรื่องจริงว่ะ บ้านตรูเลย เต็มๆ จะตายไม่ตายก็คราวนี้แหละ
มันไปบอกให้สยามสปอร์ตเลิกส่งด้วย
ไม่พอ ล่าสุดยังโทรไปบอกหนังสือ Gossip ให้เลิกส่งด้วยเหมือนกัน ถ้าไม่ยอมมันจะบอกให้ต่างจังหวัดไม่ขายหนังสือGossip มันมาเฟียสุดๆ
เ ลิกอ่านมันไปเหอะ ข่าวมันก็นั่งเทียนเขียนเอาทั้งนั้น แถมมันยังใช้อำนาจบังคับหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น สยามธุรกิจ ดอกเบี้ยธุรกิจ ให้ลงข่าวเข้าข้างมันด้วย
นี่ใช้อำนาจผูกขาดเหนือตลาดเต็มๆเลยนะเนี่ยเอ่อ บ้านเราได้ข่าวมาซักพักนึงแล้วล่ะ (แต่เราเพิ่งรู้)
ไทยรัฐตอนนี้ลามไปถึงคมชัดลึกแล้วนะ บังคับให้รับแค่ครึ่งเดียว ไม่งั้นมันก็ไม่ส่งให้เลย
แต่ไม่ทำตามมันก็ไม่ไหวอ่ะ ไทยรัฐขายได้เยอะจริงๆนะ 5-6 เท่าของข่าวสด+คมชัดลึกรวมกันอ่ะ
แล้วถ้าสังเกตกันดีๆ จะเห็นว่าอสท.ก็ไปรวมกันอยู่ที่โลตัสหมดอ่ะ
โดยเฉพาะโลตัสเล็กๆ มีแต่อสท.วางเต็มไปหมด
แต่บ้านเราอดขาย อดอ่านด้วย T-T
เพียงแค่เข้าใจผิดกันเรื่องนิดๆหน่อยๆ เอง
ส่วนบ้านใครอยู่สมุทรปราการเลิกอ่านได้เลย ไม่มีไทยรัฐให้อ่านแน่นอน
ทำให้เต็มที่ เพื่อจะไม่เสียใจภายหลัง
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
ดูเหมือน ดร.นิเวศน์จะมอง SE-ED ชนะ ไทยรัฐ
โพสต์ที่ 30
ถ้าปัจจัยอื่นๆคล้ายๆกัน ตัวนี้เป็นจุดชี้วัดความเป็นเบอร์1ครับwoody เขียน:อืม ไม่ทราบมีท่านไหนคิดว่าพวกนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ที่หายไปเหล่านี้มีหน้าที่เป็นแม่เหล็กดูดลูกค้าให้เข้าร้านมากกว่าที่จะเอาไว้ทำกำไรบ้างครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร