กองทุน LTF ไหน ลงทุนแนว VI บ้างครับ
- กระทิงแดง
- Verified User
- โพสต์: 952
- ผู้ติดตาม: 0
กองทุน LTF ไหน ลงทุนแนว VI บ้างครับ
โพสต์ที่ 1
พอดีต้องแนะนำแฟน ว่าจะซื้อกองทุนไหนถึงจะดี
รบกวนผู้รู้ในเวปนี้ช่วยแนะนำด้วยครับ
รบกวนผู้รู้ในเวปนี้ช่วยแนะนำด้วยครับ
"The enemy is a very good teacher" Dalai Lama
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
กองทุน LTF ไหน ลงทุนแนว VI บ้างครับ
โพสต์ที่ 2
8) วันopp day SNC เจอ yoyoๆเล่าให้ฟังว่า
เมื่อต้นเดือนได้ไปบรรยายที่ตลท.กับดร.
และวิทยากรอีกคนชื่อ ณสุ กระมัง ทำกองทุนนี่แหละ
เห็นโยบอกว่าแกมาแนววีไอเหมือนกันแต่ไม่รู้เป็นltfหรือเปล่า
ทศ ลองพีเอ็มไปถามโยดูสิ
เมื่อต้นเดือนได้ไปบรรยายที่ตลท.กับดร.
และวิทยากรอีกคนชื่อ ณสุ กระมัง ทำกองทุนนี่แหละ
เห็นโยบอกว่าแกมาแนววีไอเหมือนกันแต่ไม่รู้เป็นltfหรือเปล่า
ทศ ลองพีเอ็มไปถามโยดูสิ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- กระทิงแดง
- Verified User
- โพสต์: 952
- ผู้ติดตาม: 0
กองทุน LTF ไหน ลงทุนแนว VI บ้างครับ
โพสต์ที่ 4
ขอบคุณครับ พี่ป้อม กับคุณ VI Jr. ที่ให้ความรู้
จัดการบอกแฟนไปเรียบร้อยแล้วครับ
จัดการบอกแฟนไปเรียบร้อยแล้วครับ
"The enemy is a very good teacher" Dalai Lama
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
กองทุน LTF ไหน ลงทุนแนว VI บ้างครับ
โพสต์ที่ 5
8) ความจริงทั้งท่านกระทิงแดง(ทศ)และVI jr.(ตึก)
ก็มาตีแบดกับผมทั้งคู่
วันจันทร์นี้ก็มาเจอกันซะเลยดีไหมครับ
ที่คอร์ตแบด17.00
เลิกแล้วเด๋วผมพาไปเลี้ยงลาบเป็ดร้านอร่อยประจำห้วยขวาง
แบบว่าเราไปซ้อมก่อนวันที่2ธค.
วันจริงจะได้มีภูมิต้านทานหน่อย...
ก็มาตีแบดกับผมทั้งคู่
วันจันทร์นี้ก็มาเจอกันซะเลยดีไหมครับ
ที่คอร์ตแบด17.00
เลิกแล้วเด๋วผมพาไปเลี้ยงลาบเป็ดร้านอร่อยประจำห้วยขวาง
แบบว่าเราไปซ้อมก่อนวันที่2ธค.
วันจริงจะได้มีภูมิต้านทานหน่อย...
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- กระทิงแดง
- Verified User
- โพสต์: 952
- ผู้ติดตาม: 0
กองทุน LTF ไหน ลงทุนแนว VI บ้างครับ
โพสต์ที่ 6
พี่ครับ ผมพร้อมตีวันพุธครับ
ออกนอกบ้านบ่อยเกินไป เดี๋ยวถูกเคอฟิวส์ วีซ่าจะแย่เอานะครับ....
ไม่รู้คุณ VI Jr.จะว่างมาตีด้วยกันหรือเปล่า
ออกนอกบ้านบ่อยเกินไป เดี๋ยวถูกเคอฟิวส์ วีซ่าจะแย่เอานะครับ....
ไม่รู้คุณ VI Jr.จะว่างมาตีด้วยกันหรือเปล่า
"The enemy is a very good teacher" Dalai Lama
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
"Confidence doesn't come from being right all the time; it comes
from surviving the many occasions of being wrong." B.N. Steenbarger
"Luck is where preparation meets opportunity"
-
- ผู้ติดตาม: 0
กองทุน LTF ไหน ลงทุนแนว VI บ้างครับ
โพสต์ที่ 8
จะทำให้ Fund Manager โชว์ความสามารถได้หรือไม่การสร้าง portfolio model นี้อาจถือได้ว่าเป็นการกำหนดความชัดเจนอีกประการในนโยบายการรักษาวินัยการลงทุนของเอเจเอฟ หลังจากทีมผู้บริหารใหม่มีความชัดเจนแล้วว่า พวกเขาไม่มีนโยบายให้ผู้บริหารจัดการกองทุนตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นโดยใช้วิจารณญาณของตนเอง
- krittapon_r
- Verified User
- โพสต์: 156
- ผู้ติดตาม: 0
กองทุน LTF ไหน ลงทุนแนว VI บ้างครับ
โพสต์ที่ 11
KIMMY
แต่ที่อเบอร์ดีนก็ยังให้หลักการเดิมของเค้าในการบริหารพอร์ต ไม่ว่า Bottom-up หรือ จะไม่ซื้อหุ้นจนกว่าจะ company visit
โดยส่วนตัวนิสัยผมวางใจ ระบบมากว่าตัวบุคคล หรือท่านอื่นจะว่าอย่างไร
แม้คุณณสุ จันทร์สม ย้ายมา AYS ซึ่งไม่รู้ว่าเรื่อง portfolio model จะมีผลกับผลงานของคุณณสุ จันทร์สม แค่ไหนสรุปคือถ้าจะซื้อของอเบอร์ดิน ตอนนี้ก็ต้องไปซื้อของ AYF แล้วใช่ใหมครับ?(ของคุณณสุ จันทร์สม)
กำลังมองๆว่าจะซื้อ LTF ของใครดี
แต่ที่อเบอร์ดีนก็ยังให้หลักการเดิมของเค้าในการบริหารพอร์ต ไม่ว่า Bottom-up หรือ จะไม่ซื้อหุ้นจนกว่าจะ company visit
โดยส่วนตัวนิสัยผมวางใจ ระบบมากว่าตัวบุคคล หรือท่านอื่นจะว่าอย่างไร
-
- Verified User
- โพสต์: 23
- ผู้ติดตาม: 0
กองทุน LTF ไหน ลงทุนแนว VI บ้างครับ
โพสต์ที่ 12
กองทุนหุ้นทั้งแบบปกติ RMF & LTF ที่บริหารและลงทุนในสไตล์ VI ในปัจจุบันนี้ที่พบได้เด่นชัด และดีเสมอต้นเสมอปลาย ไม่วอกแวกในการลงทุน รวมถึงมีวินัยในการลงทุนที่เข้มงวด....ร่ายมาขนาดนี้ ตอบได้รึยัง..... คำตอบคือ อเบอร์ดีน
มีข้อสังเกตุที่อเบอร์ดีน มีความแตกต่างจากที่ บลจ.อื่น ๆ ดังนี้
1. ไม่เน้นผู้จัดการกองทุนแบบข้ามาคนเดียว เขาบริหารในนามของ "ทีมผู้จัดการกองทุนรวมตราสารทุน" บริษัทใดที่ไม่ได้ผ่านการเยี่ยมเยียนและเค้นข้อมูลอย่างเข้มงวดจากอเบอร์ดีน จะไม่มีวันได้ซื้อขายเข้ามาในพอร์ตของอเบอร์ดีนเป็นอันขาด
2. หุ้นที่ลงทุนอยู่เป็นหุ้นที่ใหญ่กลางเล็ก คละเคล้ากันไป ส่วนมากเป็นหุ้นที่สภาพคล่องต่ำ บางตัวสภาพคล่องแทบไม่มีเลย และเป็นหุ้นที่นักลงทุนทั่วไปไม่นิยม แต่ VI ชอบลงทุน แต่ก็ไม่มีโอกาสเข้าลงทุน (ก็สภาพคล่องแทบไม่มีไงครับ) เช่น หุ้นภัทรประกันภัย ซึ่งแพงและสภาพคล่องเบาบางมาก
3. ลงทุนในหุ้นตัวใดแล้วก็จะอยู่ยาวนานมาก บางตัวนี่ถือยาวนานมาตั้งแต่ตั้งกองทุนเมื่อเกือบ 10 ปีก่อนก็มี
4. หุ้นในพอร์ตของกองทุน ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวมากเหมือนที่อื่น ๆ ดังนั้นจึงเสียค่าโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้นให้กองทุน ต่ำกว่าที่อื่นเยอะมาก ทั้ง ๆ ที่ไซส์กองทุนของอเบอร์ดีนใหญ่กว่ากันตั้งเยอะ ทุกกองรวมกันเกือบ 8 พันล้านบาท บางปี กองใหญ่ ๆ ของอเบอร์ดีนกองเดียวมูลค่า 4 พันกว่าล้านบาท แต่เสียค่าโบรกเกอร์เพียงแค่ 3 แสนกว่า ในขณะที่ บลจ.อื่น ๆ กองเล็ก ๆ ไม่กี่ร้อยล้าน แต่เทรดกัน ค่าโบรกเกอร์เหยียบล้านบาท นักลงทุนบางคนไม่ได้ใส่ใจในจุดนี้ แล้วก็มาบ่นมาเล่นกองทุนได้กำไรน้อย เล่นหุ้นเองดีกว่า ก็คิดดูสิว่าค่าโบรกเกอร์ขนาดนี้ มันจะไปเหลือกำไรให้เรากี่มากน้อยกัน
5. ไม่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มใดมากเป็นพิเศษ ในขณะที่มีการลงทุนในหุ้นบางกลุ่มที่ตลาดกองทุนไม่นิยมกัน แต่ที่นี่โอเค ขอให้พื้นฐานดีมีปันผล มองแล้วเห็นอนาคตข้างหน้า เป็นฟาดเรียบ
6. ที่นี่ไม่ลงทุนในหุ้น ปตท. ตัวแม่ (PTT) อย่างเด็ดขาด เพราะเขาวิเคราะห์แล้วว่า ปตท.ตัวแม่ มีแหล่งกำเนิดกำไรที่ไม่ชัดเจนและไม่มั่นคง เพราะกำไรเกือบทั้งหมดมาจากบริษัทในเครือทั้งสิ้น ในขณะที่บริษัทลูกทำกำไรได้ดีกว่าและมั่นคงกว่า แต่ในขณะที่ บลจ.อื่น ๆ ต้องมีหุ้น ปตท.ติดพอร์ตไว้เสมอ
7. หุ้นที่นักลงทุนไม่ชอบ หรืออาจหมดรอบวิ่งของมันแล้ว คุณอาจมาเจอที่นี่ได้ในสัดส่วนติดอันดับต้น ๆ ของพอร์ต ชนิดค้านสายตานักลงทุนว่า ถือเยอะขนาดนี้หวังอะไร เช่น ฮานา ไมโครอิเล็คทรอนิคส์ (ถือมายาวนานมากกว่า 6 ปีแล้ว และถือมากที่สุดตัวหนึ่งของพอร์ต) เพราะเขาวิเคราะห์ว่าเป็นหุ้นที่ปันผลดีสม่ำเสมอ และมีการเติบโตที่มั่นคง นอกเหนือไปจากเหตุผลที่กล่าวมา ก็คือเจ้าของฮานาและอเบอร์ดีน รู้จักกันเป็นอย่างดี ทำให้ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากกว่าที่อื่น ๆ (จะว่าใช้อินไซด์ได้มั้ยเนี่ย) นอกจากตัวฮานาแล้วก็ยังมีหุ้นสยามแม็คโคร บิ๊กซี ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า เสริมสุข ที่ถือมากและถือมายาวนานแล้วเช่นกัน
8. แม้ว่าผู้จัดการกองทุนมือดีของที่นี่อย่างคุณณสุ จะถูกทาง AYF ซื้อตัวไป แต่ที่นี่ก็ยังมีผลการดำเนินงานที่ดีเด่นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะเดียวกันก็มีการปั้นคนใหม่ ๆ ขึ้นมาสืบทอดวิธีการลงทุนสไตล์อเบอร์ดีน (จริง ๆ คงไม่ต้องสืบทอดก็ได้ เพราะเขาวางเป็นกฎเหล็กของกลุ่มอเบอร์ดีนทั้งโลกอยู่แล้ว)
9. ถ้าใครที่คิดจะลงทุนกับกองทุนหุ้นในสไตล์ VI เน้นหุ้นกลางถึงเล็ก สภาพคล่องต่ำ หวังผลตอบแทนสูง และต้องการลงทุนระยะยาว (2 ปีขึ้นไป) ก็ไม่ผิดหวังถ้าเลือกที่อเบอร์ดีน แต่ถ้าจะมาเล่นสั้น ๆ ไม่กี่เดือนหรือแค่ไม่ถึงปี หรือเป็นพวกกระต่ายตื่นตูมตามภาวะตลาดที่ขึ้นลง ก็ต้องบอกว่าคิดผิดที่จะลงทุนกับอเบอร์ดีน เพราะค่าธรรมเนียมซื้อขายสูง บางกองคิดขาเข้า 1% บางกองคิดขาออก 1% บางกองคิด 2 ขาเลยคือ เข้า 0.50% ออก 0.25% ส่วนกองที่ฟรีทั้ง 2 ขาก็มี RMF
-----------------------------------------------------
สำหรับที่ บลจ.อื่น ๆ ที่ลงทุนในแนว VI แต่เน้นหุ้นตัวใหญ่เนื้อ ๆ แค่ 10 ตัว ไม่เกิน 15 ตัว (ปกติจะอยู่ที่ 8-10 ตัวในแต่ละกอง) ไม่เอาพวกหุ้นตัวเล็กตัวน้อยมาเข้าพอร์ตให้รกบ้าน และถือลงทุนยาว โดยเน้นพื้นฐานหุ้นดีมีราคาที่เหมาะสม (ในตอนที่ซื้อเข้าพอร์ต) และต้องมีโอกาสเติบโตที่สูง รวมทั้งมีสภาพคล่องสูงด้วย ก็ต้องยกให้ บลจ.บัวหลวง
สังเกตุได้จากผู้บริหารชุดใหม่ที่นำโดยคุณวรวรรณ ธาราภูมิ เข้ามาเมื่อสัก 4 ปีที่แล้ว ทำให้ บัวหลวง ตื่นจากหลับยาวเกือบสิบปี และเข้ามาเปลี่ยนนโยบายการลงทุน โดยยึดแนวทางการลงทุนที่เรียบง่ายและอนุรักษ์นิยมสูง(สไตล์ไทย ๆ ) ทำให้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานกองทุนหุ้นหลาย ๆ กองของบัวหลวง โดนตา โดนใจ และเข้าวินที่หนึ่งหลายปี โดยอัพเกรดตัวเอง ขึ้นมาเทียบชั้นกับอเบอร์ดีนและอยุธยาได้อย่างสมศักดิ์ศรี ทิ้งห่าง บลจ.ยักษ์ใหญ่อย่างกสิกรไทยและไทยพาณิชย์ อย่างไม่เห็นฝุ่น
------------------------------------------------------
ส่วนที่อื่น ๆ ที่มาในแนว VI ตอนนี้ก็มีอีกแห่ง คือ บลจ.อยุธยา แต่ต้องรอดูเวลาอีกสักระยะ เพราะเขาได้นำแนวทางของ 2 บลจ.ข้างต้นมาประยุกต์ใช้แบบผสมผสาน ทำให้ผลงานยังไม่สม่ำเสมอเท่าที่ควรเหมือน 2 บลจ.ข้างต้น เลยต้องให้เวลาเขาอีกสักหน่อย แต่ผลงานในปีนี้ที่เปลี่ยนผู้บริหารใหม่หมด ตั้งแต่มีนาคม 2549 จนถึง ณ ปัจจุบัน (ธันวาคม 2549) ก็จัดเทียบชั้นท๊อปทรีของวงการได้เลยคือ อเบอร์ดีน บัวหลวง อยุธยา สลับกันไปมาตามแต่ภาวะการณ์ของตลาดครับ
มีข้อสังเกตุที่อเบอร์ดีน มีความแตกต่างจากที่ บลจ.อื่น ๆ ดังนี้
1. ไม่เน้นผู้จัดการกองทุนแบบข้ามาคนเดียว เขาบริหารในนามของ "ทีมผู้จัดการกองทุนรวมตราสารทุน" บริษัทใดที่ไม่ได้ผ่านการเยี่ยมเยียนและเค้นข้อมูลอย่างเข้มงวดจากอเบอร์ดีน จะไม่มีวันได้ซื้อขายเข้ามาในพอร์ตของอเบอร์ดีนเป็นอันขาด
2. หุ้นที่ลงทุนอยู่เป็นหุ้นที่ใหญ่กลางเล็ก คละเคล้ากันไป ส่วนมากเป็นหุ้นที่สภาพคล่องต่ำ บางตัวสภาพคล่องแทบไม่มีเลย และเป็นหุ้นที่นักลงทุนทั่วไปไม่นิยม แต่ VI ชอบลงทุน แต่ก็ไม่มีโอกาสเข้าลงทุน (ก็สภาพคล่องแทบไม่มีไงครับ) เช่น หุ้นภัทรประกันภัย ซึ่งแพงและสภาพคล่องเบาบางมาก
3. ลงทุนในหุ้นตัวใดแล้วก็จะอยู่ยาวนานมาก บางตัวนี่ถือยาวนานมาตั้งแต่ตั้งกองทุนเมื่อเกือบ 10 ปีก่อนก็มี
4. หุ้นในพอร์ตของกองทุน ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวมากเหมือนที่อื่น ๆ ดังนั้นจึงเสียค่าโบรกเกอร์ซื้อขายหุ้นให้กองทุน ต่ำกว่าที่อื่นเยอะมาก ทั้ง ๆ ที่ไซส์กองทุนของอเบอร์ดีนใหญ่กว่ากันตั้งเยอะ ทุกกองรวมกันเกือบ 8 พันล้านบาท บางปี กองใหญ่ ๆ ของอเบอร์ดีนกองเดียวมูลค่า 4 พันกว่าล้านบาท แต่เสียค่าโบรกเกอร์เพียงแค่ 3 แสนกว่า ในขณะที่ บลจ.อื่น ๆ กองเล็ก ๆ ไม่กี่ร้อยล้าน แต่เทรดกัน ค่าโบรกเกอร์เหยียบล้านบาท นักลงทุนบางคนไม่ได้ใส่ใจในจุดนี้ แล้วก็มาบ่นมาเล่นกองทุนได้กำไรน้อย เล่นหุ้นเองดีกว่า ก็คิดดูสิว่าค่าโบรกเกอร์ขนาดนี้ มันจะไปเหลือกำไรให้เรากี่มากน้อยกัน
5. ไม่เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มใดมากเป็นพิเศษ ในขณะที่มีการลงทุนในหุ้นบางกลุ่มที่ตลาดกองทุนไม่นิยมกัน แต่ที่นี่โอเค ขอให้พื้นฐานดีมีปันผล มองแล้วเห็นอนาคตข้างหน้า เป็นฟาดเรียบ
6. ที่นี่ไม่ลงทุนในหุ้น ปตท. ตัวแม่ (PTT) อย่างเด็ดขาด เพราะเขาวิเคราะห์แล้วว่า ปตท.ตัวแม่ มีแหล่งกำเนิดกำไรที่ไม่ชัดเจนและไม่มั่นคง เพราะกำไรเกือบทั้งหมดมาจากบริษัทในเครือทั้งสิ้น ในขณะที่บริษัทลูกทำกำไรได้ดีกว่าและมั่นคงกว่า แต่ในขณะที่ บลจ.อื่น ๆ ต้องมีหุ้น ปตท.ติดพอร์ตไว้เสมอ
7. หุ้นที่นักลงทุนไม่ชอบ หรืออาจหมดรอบวิ่งของมันแล้ว คุณอาจมาเจอที่นี่ได้ในสัดส่วนติดอันดับต้น ๆ ของพอร์ต ชนิดค้านสายตานักลงทุนว่า ถือเยอะขนาดนี้หวังอะไร เช่น ฮานา ไมโครอิเล็คทรอนิคส์ (ถือมายาวนานมากกว่า 6 ปีแล้ว และถือมากที่สุดตัวหนึ่งของพอร์ต) เพราะเขาวิเคราะห์ว่าเป็นหุ้นที่ปันผลดีสม่ำเสมอ และมีการเติบโตที่มั่นคง นอกเหนือไปจากเหตุผลที่กล่าวมา ก็คือเจ้าของฮานาและอเบอร์ดีน รู้จักกันเป็นอย่างดี ทำให้ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากกว่าที่อื่น ๆ (จะว่าใช้อินไซด์ได้มั้ยเนี่ย) นอกจากตัวฮานาแล้วก็ยังมีหุ้นสยามแม็คโคร บิ๊กซี ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า เสริมสุข ที่ถือมากและถือมายาวนานแล้วเช่นกัน
8. แม้ว่าผู้จัดการกองทุนมือดีของที่นี่อย่างคุณณสุ จะถูกทาง AYF ซื้อตัวไป แต่ที่นี่ก็ยังมีผลการดำเนินงานที่ดีเด่นเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะเดียวกันก็มีการปั้นคนใหม่ ๆ ขึ้นมาสืบทอดวิธีการลงทุนสไตล์อเบอร์ดีน (จริง ๆ คงไม่ต้องสืบทอดก็ได้ เพราะเขาวางเป็นกฎเหล็กของกลุ่มอเบอร์ดีนทั้งโลกอยู่แล้ว)
9. ถ้าใครที่คิดจะลงทุนกับกองทุนหุ้นในสไตล์ VI เน้นหุ้นกลางถึงเล็ก สภาพคล่องต่ำ หวังผลตอบแทนสูง และต้องการลงทุนระยะยาว (2 ปีขึ้นไป) ก็ไม่ผิดหวังถ้าเลือกที่อเบอร์ดีน แต่ถ้าจะมาเล่นสั้น ๆ ไม่กี่เดือนหรือแค่ไม่ถึงปี หรือเป็นพวกกระต่ายตื่นตูมตามภาวะตลาดที่ขึ้นลง ก็ต้องบอกว่าคิดผิดที่จะลงทุนกับอเบอร์ดีน เพราะค่าธรรมเนียมซื้อขายสูง บางกองคิดขาเข้า 1% บางกองคิดขาออก 1% บางกองคิด 2 ขาเลยคือ เข้า 0.50% ออก 0.25% ส่วนกองที่ฟรีทั้ง 2 ขาก็มี RMF
-----------------------------------------------------
สำหรับที่ บลจ.อื่น ๆ ที่ลงทุนในแนว VI แต่เน้นหุ้นตัวใหญ่เนื้อ ๆ แค่ 10 ตัว ไม่เกิน 15 ตัว (ปกติจะอยู่ที่ 8-10 ตัวในแต่ละกอง) ไม่เอาพวกหุ้นตัวเล็กตัวน้อยมาเข้าพอร์ตให้รกบ้าน และถือลงทุนยาว โดยเน้นพื้นฐานหุ้นดีมีราคาที่เหมาะสม (ในตอนที่ซื้อเข้าพอร์ต) และต้องมีโอกาสเติบโตที่สูง รวมทั้งมีสภาพคล่องสูงด้วย ก็ต้องยกให้ บลจ.บัวหลวง
สังเกตุได้จากผู้บริหารชุดใหม่ที่นำโดยคุณวรวรรณ ธาราภูมิ เข้ามาเมื่อสัก 4 ปีที่แล้ว ทำให้ บัวหลวง ตื่นจากหลับยาวเกือบสิบปี และเข้ามาเปลี่ยนนโยบายการลงทุน โดยยึดแนวทางการลงทุนที่เรียบง่ายและอนุรักษ์นิยมสูง(สไตล์ไทย ๆ ) ทำให้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานกองทุนหุ้นหลาย ๆ กองของบัวหลวง โดนตา โดนใจ และเข้าวินที่หนึ่งหลายปี โดยอัพเกรดตัวเอง ขึ้นมาเทียบชั้นกับอเบอร์ดีนและอยุธยาได้อย่างสมศักดิ์ศรี ทิ้งห่าง บลจ.ยักษ์ใหญ่อย่างกสิกรไทยและไทยพาณิชย์ อย่างไม่เห็นฝุ่น
------------------------------------------------------
ส่วนที่อื่น ๆ ที่มาในแนว VI ตอนนี้ก็มีอีกแห่ง คือ บลจ.อยุธยา แต่ต้องรอดูเวลาอีกสักระยะ เพราะเขาได้นำแนวทางของ 2 บลจ.ข้างต้นมาประยุกต์ใช้แบบผสมผสาน ทำให้ผลงานยังไม่สม่ำเสมอเท่าที่ควรเหมือน 2 บลจ.ข้างต้น เลยต้องให้เวลาเขาอีกสักหน่อย แต่ผลงานในปีนี้ที่เปลี่ยนผู้บริหารใหม่หมด ตั้งแต่มีนาคม 2549 จนถึง ณ ปัจจุบัน (ธันวาคม 2549) ก็จัดเทียบชั้นท๊อปทรีของวงการได้เลยคือ อเบอร์ดีน บัวหลวง อยุธยา สลับกันไปมาตามแต่ภาวะการณ์ของตลาดครับ
" อะไรก็ตามที่เคยมีคนทำได้
แสดงว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ "
แสดงว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ "
- nanakorn
- Verified User
- โพสต์: 636
- ผู้ติดตาม: 0
กองทุน LTF ไหน ลงทุนแนว VI บ้างครับ
โพสต์ที่ 13
กองทุนรวมที่มีขนาดใหญ่ อาจจะลงทุนในแนว VI จริงๆได้ยากพอสมควรครับ เนื่องจากขนาดของกองทุนทำให้กองทุนเลือกซื้อได้เฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ ที่หุ้นมีสภาพคล่องที่ดี โดยปกติหุ้นที่มีสภาพคล่องที่ดี ก็หมายถึงมีคนสนใจมากแล้ว ราคาก็คงจะไม่มีส่วนลดเท่าไร
ผมขอเพียงแค่กองทุนเลือกหุ้นตามคุณภาพบริษัท ที่มีราคาไม่แพง แล้วถือยาว ก็น่าจะถือว่าเป็นการลงทุนแนว VI ในระดับที่กองทุนสามารถทำได้แล้วครับ
กองทุนรวมที่ผมมีอยู่ไม่รายงาน Turnover Rate เลย จริงๆแล้วควรจะเป็นหนึ่งใน Indicators สำคัญ ที่ต้องรายงานให้ผู้ลงทุนทราบ บางกองทุนบอกว่าลงทุนแบบระยะยาว แต่ลองไปดูค่านายหน้าซื้อขายแล้ว (เป็น Expense เลยมีอยู่ในรายงานการเงิน) พบว่ามหาศาลเมื่อเทียบกับขนาดกองทุน แต่เรา็ก็ไม่สามารถแยกได้ว่า เป็นการซื้อหรือการขายเป็นส่วนใหญ่ ใครมีโอกาสเสนอเรื่องนี้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง น่าจะช่วยกันผลักดันให้ทุกกองทุนต้องมีการรายงาน Turnover Rate ด้วยครับ
ผมขอเพียงแค่กองทุนเลือกหุ้นตามคุณภาพบริษัท ที่มีราคาไม่แพง แล้วถือยาว ก็น่าจะถือว่าเป็นการลงทุนแนว VI ในระดับที่กองทุนสามารถทำได้แล้วครับ
กองทุนรวมที่ผมมีอยู่ไม่รายงาน Turnover Rate เลย จริงๆแล้วควรจะเป็นหนึ่งใน Indicators สำคัญ ที่ต้องรายงานให้ผู้ลงทุนทราบ บางกองทุนบอกว่าลงทุนแบบระยะยาว แต่ลองไปดูค่านายหน้าซื้อขายแล้ว (เป็น Expense เลยมีอยู่ในรายงานการเงิน) พบว่ามหาศาลเมื่อเทียบกับขนาดกองทุน แต่เรา็ก็ไม่สามารถแยกได้ว่า เป็นการซื้อหรือการขายเป็นส่วนใหญ่ ใครมีโอกาสเสนอเรื่องนี้กับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง น่าจะช่วยกันผลักดันให้ทุกกองทุนต้องมีการรายงาน Turnover Rate ด้วยครับ
Everything I do, I do it for you.